ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Douluo Dalu] ผมเกิดใหม่เป็นเอ้าซือข่าสะงั้น

    ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่ 3 จุดเริ่มต้นของตำนานบทใหม่

    • อัปเดตล่าสุด 29 ก.ย. 66


    เปรี้ยง เปรี้ยง เสียงฟ้าผ่าดังติดต่อกัน

     

    ทำให้เด็กทารกคนหนึ่งลืมตาตื่นขึ้นซึ่งเขาก็คือ นนท์

     

    "หืม ตอนนี้เราอยู่ที่ไหนเนี.."นนท์ที่กำลังจะพูดเเต่อยู่ดีๆก็ปวดหัวขึ้นมาเสียอย่างนั้น

     

    จากนั้นความรู้ทั้งหมดของโต้วหลัวก็ไหลเข้ามาอย่างไม่หยุดหย่อนราวกับสายนํ้า เเต่สักพักก็หยุดลง

     

    "ที่นี่เด็กทุกคนปลุกวิญญาณยุทธ์ตอน 6 ขวบสินะ"

     

    ตุบ ตุบตุบ เสียงคนเดินเข้ามา

     

    "นั่นเด็กทารกนิ ใครใจร้ายใจดำทิ้งลูกตัวเองไว้ท่ามกลางสายฝนกันเนี่ย"ชายคนดังกล่าวพูดขึ้น

     

    "เเอ้ เเอ้"

     

    "ข้ามีนามว่าฟู่หลันเต๋อ ข้าจะเลี้ยงเจ้าเองหืม"ชายคนนั้นพูดขึ้นกล่าวจะพบกลับสิ่งบางอย่าง

     

    มันคือป้ายชื่อที่สลักคำว่า "เอ้าซือข่า"พร้อมกลับเเหวนหยกวงหนึ่ง

     

    "เเหวนงั้นหรอ"ชายคนนั้นหยิบเเหวนขึ้นมาดูเเต่อยู่ดีๆเเหวนนั้นก็เรืองเเสงขึ้นเเล้วลอยไปหานนท์

     

    "คงเป็นเเหวนที่พ่อเเม่ของเจ้าทิ้งไว้ให้ล่ะน่ะ"เขาเอ่ยเสร็จเเล้วมองไปที่เด็กทารกที่มีผมสีดำ ดวงตาสีเเดงทับทิม

     

    "เจ้าตากฝนเเบบนี้ไม่ดีเเน่"พอเขาพูดจบก็ใช้วิญญาณยุทธ์นกฮูกของเขาเเล้วบินไปที่ๆหนึ่ง

     

    ณ โรงเรียนสื่อไคลเค่อ (อาณาจักรปาลาเค่อ)

     

    "ฉินหมิง ไปเรียกชาวบ้านมาที"

     

    "อาจารย์ท่านพาใครมาครับ นี่มันเด็กทารกนิ"ชายคนข้างล่างเมื่อเห็นเด็กทารกก็เอ่ยอย่างตกใจ

     

    เขาจึงรีบไปเรียกชาวบ้านให้มาดู

     

    จบบทนำ

     

     

    ผ่านไป 6 ปี

     

    เด็กทารกที่อยู่ท่ามกลางสายฝนในวันนั้น ตอนนี้ได้เติบโตมาเป็นเด็กผู้ชายที่หล่อเหล่าเป็นอย่างมาก

     

    เด็กชายผู้มีนามว่าเอ้าซือข่า มีดวงตาสีเเดงทับทิม ผมสีดำเข้ม

     

     

    เขาเป็นที่รักของทุกคนในหมู่บ้าน เเละ อาจารย์ทุกคนของรร.เนื่งจากเขาเป็นเด็กที่มีมารยาท ช่วยเหลือผู้อื่นโดยไม่หวังสิ่งตอบเเทน

     

    "เสี่ยวอ้าว ถึงเวลาปลุกวิญญาณยุทธ์เเล้วนะ"เสียงชายคนหนึ่งที่ปลุกเขาให้ตื่นจากภวังค์ 


     

    ดวงตาสีเเดงทับทิมจ้องมองไปที่ชายผู้มีวิญญาณยุทธ์นกฮูก ชายผู้มีพระคุณของเขา เเละชายผู้ที่ยอมเลี้ยงเขามาเพราะความสงสารในวันนัน 'ฟู่หลันเต๋อ'

     

    "ได้ครับ อาจารย์"

     

    "ช่วงนี้เป็นอย่างไรบ้างเจ้าน่ะ"

     

    "ผมสบายดีครับ เเต่ผมว่าวิถีดาบดาบผมยังไม่เฉียบคมครับ"นนท์เอ่ยพร้อมส่ายหัวไปมา

     

    "เอาน่าค่อยเป็นค่อยไป"ผอ.เอ่ยให้กำลังใจนนท์

     

    เดินมาสักพักก็ถึงในรร.สื่อไคลเค่อ

     

    "มาเถอะเสี่ยวอ้าว"เสียงอาจารย์จ้าวหรือรองผอ.จ้าวอู๋จี๋เอ่ยขึ้น

     

    ในห้องที่ไม่มีใครอยู่ยกเว้นผอ.กับรองผอ. ตรงกลางห้องมีลูกเเก้วลูกหนึ่งตามความรู้ที่เขาได้รับจะเรียกว่า ลูกเเก้ววัดระดับพลังวิญญาณ

     

    "เสี่ยวอ้าว มายืนอยู่หน้าข้า"ท่านอาจารย์พูดขึ้นเขาจึงทำตามในทันที

     

    จากนั้นท่านอาจารย์ก็ส่งพลังวิญญาณมาที่ตัวข้า

     

    'ร้อน ร้อนมาก'นนท์คิดในใจตัวเองอย่างเงียบ

     

    ผ่านไปสักพัก

     

    "อ๊าก "เสียงร้องของนนท์ดังขึ้นพร้อมมีไส้กรอกที่มีความใสเหลือนเพชรในมือซ้าย ปรากฎดาบในมือขวา 

     

    "มีวิญญาณยุทธ์คู่งั้นหรอ"ผอ.เเละอาจารย์จ้าวเอ่ยขึ้นมาอย่างตกใจ

     

    เสียงของอาจารย์ของดังทำให้นนท์ได้สติ

     

    " วิญญาณยุทธ์คู่งั้นหรอครับ"เขาตกตะลึงเช่นกัน

     

    "ใช่ เจ้าต้องตั้งชื่อมันเเล้วละ"อาจารย์จ้าวเอ่ยขึ้น เขาเองก็ตกตะลึงอยู่ไม่น้อยดีนะที่ไม่ให้คนอื่นเข้ามา

     

    "เอาเป็น ไส้กรอกเพชร ดาบผ่าสวรรค์ ครับ"นนท์เอ่ยขึ้น

     

    "เจ้ามาวัดระดับพลังวิญญาณ"ผอ.

     

    ทันทีที่มือเขาก็เเตะกับลูกเเก้ววัดระดับพลังวิญญาณมันก็ส่องเเสงสว่างเรืองรองเเล้วเเตกออกเป็นเสี่ยงๆในห้องที่พวกเขาอยู่

     

    "พลังวิญญาณระดับ 15 งั้นหรอ"ผอ.เอ่ยอย่างตกใจ

     

    "ดีเเต่พวกเจ้าต้องจำไว้ว่าห้ามบอกใครเป็นอันขาด"อาจารย์ของเขายํ้าด้วยถ่าทางเคร่งขรึมหากเรื่องนี้หลุดออกไป ปี่ปี่ตงต้องมุ่งเป้าไปที่เสี่ยวเอ้าเเน่ๆ 

     

    "ครับ ท่านผอ."นนท์เเละอาจารย์จ้าวพูดขึ้นพร้อมกัน

     

    หลังจากนั้นได้ 1 วัน

     

    บนหลังห้องพักของนนท์

     

    "จากนี้เราต้องหาวงเเหวนวิญญาณเเล้วสินะ"นนท์พูดกับตัวเองเบาๆถามกลางอากาศเย็นสบายยามกลางคืน

     

    เวลานั้นเขานึกถึงพ่อกับเเม่ที่ทิ้งเขาไปในโลกนี้พร้อมกับมองเเหวนหยกที่อยู่บนนิ้วมือขึ้น

     

    เเต่เมื่อชูมันขึ้นมันคล้ายเหมือนกำลังรู้ความคิดของเขา

     

    เพลี้ย~ เสียงโซ่ที่เเตกออกดังขึ้นในโสตประสาทของนนท์ เเล้วเเหวนนั้นมันนำพาให้นนท์มาสถานที่เเห่งหนึ่งคล้ายมิติ

     

    ในนั้นนนท์ได้เห็นสิ่งของมากมาย

     

    เงินทองที่กองกันเท่าภูเขา กระดูกวิญญาณ อาวุธเเละอื่นๆอีกมากมาย

     

    เเต่ที่นนท์สนใจมากที่สุดคือ ดาบที่ปักอยู่บนเเท่นเเห่งหนึ่ง

     

    ตัวดาบสีทองบริสุทธิ์ มีพู่ห้อยอยู่ที่ปลายดาบ

     

    มันปล่อยคลื่นพลังออกมาเหมือนเรียกให้นนท์ไปใกล้

     

    นนท์จึงเดินเข้าใกล้มันพบว่ามีตัวอักษรที่อยู่บนเเท่นเขียนว่า 'จงส่งเสียงเรียกชื่อของข้าสะ ผู้ครอบครองเเห่งข้า ดาบราชันสวรรค์จุติ'

     

    "ดาบราชันสวรรค์จุติหรอ"

     

    "ใช่ นั่นคือนามเเห่งข้าเอง"เสียงปริศนาดังขึ้นภายในจิตใจของนนท์

     

    "ดาบที่มีจิตวิญญาณ"

     

    "ถูกต้องข้าคือดาบที่มีจิตวิญญาณตามที่ท่านเข้าใจเลย"

     

    "เเต่เจ้าบอกว่าผู้ครอบครองเเห่งข้าคืออะไร"นนท์ถามด้วยเสียงที่จริงจัง

     

    "ก็ท่านนั้นเเหละ อธิบายตอนนี้ท่านไม่เข้าใจเเน่รอความจริงกระจ่างท่านจะรู้เอง"ดาบเล่มนั้นตอบคำถามของนนท์

     

    "ข้างั้นหรอ"นนท์ตามอย่างสงสัย

     

    "ใช่ๆๆ ท่านดึงข้าออกมาก่อนนะ"ดาบเล่มนั้นขอร้องนนท์

     

    "อืม"

     

    ฉับพลันที่มือของนนท์เเตะเข้ากับที่จับดาบ เเล้วกำลังจะยกขึ้น ทันใดนั้นความเจ็บปวดราวกับจิตวิญญาณจะเเหลกสลาย ความหนักของดาบนี้นั้นไม่ใช่สิ่งที่ใครจะทนได้

     

    เเต่ตอนนี้มันคงเป็นนิสัยของนนท์เเล้ว ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นจงอย่ายามเเพ้ เพราะยังไงเขาจะไม่ยอมตายอีกเเล้ว

     

    คำเหล่านี้ล้วนสลักลงลึกในจิตใจของนนท์

     

    ผ่านไปครึ่งชั่วยามปลายดาบเริ่มปรากฏส่วนที่อยู่ในเเท่นมานานเเสนนาน

     

    จนในที่สุดนนท์ก็สามารถดึงตัวดาบออกมาได้

     

    "ท่านเก่งมาก"ดาบเล่มนั้นเอ่ยชื่นชม

     

    "เจ้าหลอกข้าใช่ไหมเนี่ย ดาบอะไรหนักชะมัด"

     

    "ตัวข้านั้นเมื่ออยู่ในมือของท่านจะหนัก 1000 กิโลกรัม เเต่ถ้าหลุดจากมือจะหนัก 1000000 กิโลกรัม"

     

    เเต่ก่อนที่นนท์จะเอ่ยอะไรอีกดาบเล่มนั้นก็ตัดบทของนนท์เลยทันที

     

    "ท่านจะเรียกข้าว่าอะไรอ่ะ"

     

    นนท์ครุ่นคิดอยู่นานก็เอ่ยออกมา

     

    "หวางเฟย"

     

    "ได้"หวางเฟย

     

    "ในมิตินี้มีของอยู่มากมายข้าว่าท่านควรดูดซับกระดูกวิญญาณ 2 ชิ้นนี้ที่นายท่านทิ้งไว้ให้"หวางเฟยพูดตามคำสั่งที่นายท่านหรือพ่อของนนท์ในโลกใบนี้

     

     

     

     

    "นายท่าน พ่อหรอ"นนท์ถามอย่างตกใจ 

     

    คำถามที่อยู่ในใจมานานเเสนนาน 'พ่อกับเเม่ในโลกนี้ของเขาหายไปไหน คือใคร เพราะอะไรหล่ะถึงต้องหายไป'

     

    เมื่อนึกเเบบนั้นสบายจิตใจของนนท์ปั่นป่วนถึงขีดสุด ความเศร้าเริ่มมาเยือนจิตใจของนนท์ โลกก่อนเขามีพ่อเเม่เเต่เขาตายจากมา โลกนี้เขามีพ่อเเม่เเต่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน 

     

    ทำไม ทำไม ทำไม ทำไมชีวิตเขาถึงเป็นเเบบนี้'นนท์คิดพร้อมกับทำหน้าเศร้า ก่อนจะปรับสีหน้าดังเดิม

     

    'ไม่ว่ายังไงก็ควรอยู่กับปัจจุบัน คิดตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์อะไรหรอก'นนท์คิดเเล้วพูดกับตัวเองเงียบๆอีกครั้ง

     

    "ตามที่ท่านเข้าใจ"หวางเฟย

     

    "เจ้าไม่ต้องเรียกว่าท่านอะไรหรอก เรียกข้าเเบบเพื่อนคนหนึ่งก็พอ"นนท์เอ่ยกับหวางเฟยอีกครั้ง

     

    "เช่นนั้นก็ได้"

     

    หลังจากการสนทนากับหวางเฟยหรือดาบราชันสวรรค์จุติ นนท์ก็รวบรวมสมาธิเเล้วดูดซับกระดูกวิญญาณ 2 ชิ้นนั้น

     

    ผ่านไป 1 วัน(ภายในมิติ)

     

    หลังจากที่นนท์ได้ดูดซับกระดูกวิญญาณทั้ง 2 ชิ้น เขาเองก็ได้ทักษะมาใหม่ เเละที่พีคที่สุดก็พบว่าพลังวิญญาณของเขาอยู่ที่ระดับ 30 !!ไรคับเนี่ย

     

    ระดับ 30 เลยน่ะ 'อืม สมกับเป็นบุตรชายคนเดียวของ.....'หวางเฟยคิดกับตัวเอง

     

    จบ

     

    เอ๋ะ พ่อเเม่ของนนท์คือใครกันน้า 

     

    สวัสดีค่ะไม่ได้อัพกันหลายวันเลยเนื่องจากไรท์ยุ่งนิดหน่อยนะค่ะ

     

    ไรท์ขอตัวไปนอนก่อนน้า อาจจะเจอกันพรุ่งนี้บายยยย

     

    ราตรีสวัสดิ์ค่ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น
    ×