คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่ 3 จุดเริ่มต้นของตำนานบทใหม่
เปรี้ยง เปรี้ยง เสียงฟ้าผ่าดังติดต่อกัน
ทำให้เด็กทารกคนหนึ่งลืมตาตื่นขึ้นซึ่งเขาก็คือ นนท์
"หืม ตอนนี้เราอยู่ที่ไหนเนี.."นนท์ที่กำลังจะพูดเเต่อยู่ดีๆก็ปวดหัวขึ้นมาเสียอย่างนั้น
จากนั้นความรู้ทั้งหมดของโต้วหลัวก็ไหลเข้ามาอย่างไม่หยุดหย่อนราวกับสายนํ้า เเต่สักพักก็หยุดลง
"ที่นี่เด็กทุกคนปลุกวิญญาณยุทธ์ตอน 6 ขวบสินะ"
ตุบ ตุบตุบ เสียงคนเดินเข้ามา
"นั่นเด็กทารกนิ ใครใจร้ายใจดำทิ้งลูกตัวเองไว้ท่ามกลางสายฝนกันเนี่ย"ชายคนดังกล่าวพูดขึ้น
"เเอ้ เเอ้"
"ข้ามีนามว่าฟู่หลันเต๋อ ข้าจะเลี้ยงเจ้าเองหืม"ชายคนนั้นพูดขึ้นกล่าวจะพบกลับสิ่งบางอย่าง
มันคือป้ายชื่อที่สลักคำว่า "เอ้าซือข่า"พร้อมกลับเเหวนหยกวงหนึ่ง
"เเหวนงั้นหรอ"ชายคนนั้นหยิบเเหวนขึ้นมาดูเเต่อยู่ดีๆเเหวนนั้นก็เรืองเเสงขึ้นเเล้วลอยไปหานนท์
"คงเป็นเเหวนที่พ่อเเม่ของเจ้าทิ้งไว้ให้ล่ะน่ะ"เขาเอ่ยเสร็จเเล้วมองไปที่เด็กทารกที่มีผมสีดำ ดวงตาสีเเดงทับทิม
"เจ้าตากฝนเเบบนี้ไม่ดีเเน่"พอเขาพูดจบก็ใช้วิญญาณยุทธ์นกฮูกของเขาเเล้วบินไปที่ๆหนึ่ง
ณ โรงเรียนสื่อไคลเค่อ (อาณาจักรปาลาเค่อ)
"ฉินหมิง ไปเรียกชาวบ้านมาที"
"อาจารย์ท่านพาใครมาครับ นี่มันเด็กทารกนิ"ชายคนข้างล่างเมื่อเห็นเด็กทารกก็เอ่ยอย่างตกใจ
เขาจึงรีบไปเรียกชาวบ้านให้มาดู
จบบทนำ
ผ่านไป 6 ปี
เด็กทารกที่อยู่ท่ามกลางสายฝนในวันนั้น ตอนนี้ได้เติบโตมาเป็นเด็กผู้ชายที่หล่อเหล่าเป็นอย่างมาก
เด็กชายผู้มีนามว่าเอ้าซือข่า มีดวงตาสีเเดงทับทิม ผมสีดำเข้ม
เขาเป็นที่รักของทุกคนในหมู่บ้าน เเละ อาจารย์ทุกคนของรร.เนื่งจากเขาเป็นเด็กที่มีมารยาท ช่วยเหลือผู้อื่นโดยไม่หวังสิ่งตอบเเทน
"เสี่ยวอ้าว ถึงเวลาปลุกวิญญาณยุทธ์เเล้วนะ"เสียงชายคนหนึ่งที่ปลุกเขาให้ตื่นจากภวังค์
ดวงตาสีเเดงทับทิมจ้องมองไปที่ชายผู้มีวิญญาณยุทธ์นกฮูก ชายผู้มีพระคุณของเขา เเละชายผู้ที่ยอมเลี้ยงเขามาเพราะความสงสารในวันนัน 'ฟู่หลันเต๋อ'
"ได้ครับ อาจารย์"
"ช่วงนี้เป็นอย่างไรบ้างเจ้าน่ะ"
"ผมสบายดีครับ เเต่ผมว่าวิถีดาบดาบผมยังไม่เฉียบคมครับ"นนท์เอ่ยพร้อมส่ายหัวไปมา
"เอาน่าค่อยเป็นค่อยไป"ผอ.เอ่ยให้กำลังใจนนท์
เดินมาสักพักก็ถึงในรร.สื่อไคลเค่อ
"มาเถอะเสี่ยวอ้าว"เสียงอาจารย์จ้าวหรือรองผอ.จ้าวอู๋จี๋เอ่ยขึ้น
ในห้องที่ไม่มีใครอยู่ยกเว้นผอ.กับรองผอ. ตรงกลางห้องมีลูกเเก้วลูกหนึ่งตามความรู้ที่เขาได้รับจะเรียกว่า ลูกเเก้ววัดระดับพลังวิญญาณ
"เสี่ยวอ้าว มายืนอยู่หน้าข้า"ท่านอาจารย์พูดขึ้นเขาจึงทำตามในทันที
จากนั้นท่านอาจารย์ก็ส่งพลังวิญญาณมาที่ตัวข้า
'ร้อน ร้อนมาก'นนท์คิดในใจตัวเองอย่างเงียบ
ผ่านไปสักพัก
"อ๊าก "เสียงร้องของนนท์ดังขึ้นพร้อมมีไส้กรอกที่มีความใสเหลือนเพชรในมือซ้าย ปรากฎดาบในมือขวา
"มีวิญญาณยุทธ์คู่งั้นหรอ"ผอ.เเละอาจารย์จ้าวเอ่ยขึ้นมาอย่างตกใจ
เสียงของอาจารย์ของดังทำให้นนท์ได้สติ
" วิญญาณยุทธ์คู่งั้นหรอครับ"เขาตกตะลึงเช่นกัน
"ใช่ เจ้าต้องตั้งชื่อมันเเล้วละ"อาจารย์จ้าวเอ่ยขึ้น เขาเองก็ตกตะลึงอยู่ไม่น้อยดีนะที่ไม่ให้คนอื่นเข้ามา
"เอาเป็น ไส้กรอกเพชร ดาบผ่าสวรรค์ ครับ"นนท์เอ่ยขึ้น
"เจ้ามาวัดระดับพลังวิญญาณ"ผอ.
ทันทีที่มือเขาก็เเตะกับลูกเเก้ววัดระดับพลังวิญญาณมันก็ส่องเเสงสว่างเรืองรองเเล้วเเตกออกเป็นเสี่ยงๆในห้องที่พวกเขาอยู่
"พลังวิญญาณระดับ 15 งั้นหรอ"ผอ.เอ่ยอย่างตกใจ
"ดีเเต่พวกเจ้าต้องจำไว้ว่าห้ามบอกใครเป็นอันขาด"อาจารย์ของเขายํ้าด้วยถ่าทางเคร่งขรึมหากเรื่องนี้หลุดออกไป ปี่ปี่ตงต้องมุ่งเป้าไปที่เสี่ยวเอ้าเเน่ๆ
"ครับ ท่านผอ."นนท์เเละอาจารย์จ้าวพูดขึ้นพร้อมกัน
หลังจากนั้นได้ 1 วัน
บนหลังห้องพักของนนท์
"จากนี้เราต้องหาวงเเหวนวิญญาณเเล้วสินะ"นนท์พูดกับตัวเองเบาๆถามกลางอากาศเย็นสบายยามกลางคืน
เวลานั้นเขานึกถึงพ่อกับเเม่ที่ทิ้งเขาไปในโลกนี้พร้อมกับมองเเหวนหยกที่อยู่บนนิ้วมือขึ้น
เเต่เมื่อชูมันขึ้นมันคล้ายเหมือนกำลังรู้ความคิดของเขา
เพลี้ย~ เสียงโซ่ที่เเตกออกดังขึ้นในโสตประสาทของนนท์ เเล้วเเหวนนั้นมันนำพาให้นนท์มาสถานที่เเห่งหนึ่งคล้ายมิติ
ในนั้นนนท์ได้เห็นสิ่งของมากมาย
เงินทองที่กองกันเท่าภูเขา กระดูกวิญญาณ อาวุธเเละอื่นๆอีกมากมาย
เเต่ที่นนท์สนใจมากที่สุดคือ ดาบที่ปักอยู่บนเเท่นเเห่งหนึ่ง
ตัวดาบสีทองบริสุทธิ์ มีพู่ห้อยอยู่ที่ปลายดาบ
มันปล่อยคลื่นพลังออกมาเหมือนเรียกให้นนท์ไปใกล้
นนท์จึงเดินเข้าใกล้มันพบว่ามีตัวอักษรที่อยู่บนเเท่นเขียนว่า 'จงส่งเสียงเรียกชื่อของข้าสะ ผู้ครอบครองเเห่งข้า ดาบราชันสวรรค์จุติ'
"ดาบราชันสวรรค์จุติหรอ"
"ใช่ นั่นคือนามเเห่งข้าเอง"เสียงปริศนาดังขึ้นภายในจิตใจของนนท์
"ดาบที่มีจิตวิญญาณ"
"ถูกต้องข้าคือดาบที่มีจิตวิญญาณตามที่ท่านเข้าใจเลย"
"เเต่เจ้าบอกว่าผู้ครอบครองเเห่งข้าคืออะไร"นนท์ถามด้วยเสียงที่จริงจัง
"ก็ท่านนั้นเเหละ อธิบายตอนนี้ท่านไม่เข้าใจเเน่รอความจริงกระจ่างท่านจะรู้เอง"ดาบเล่มนั้นตอบคำถามของนนท์
"ข้างั้นหรอ"นนท์ตามอย่างสงสัย
"ใช่ๆๆ ท่านดึงข้าออกมาก่อนนะ"ดาบเล่มนั้นขอร้องนนท์
"อืม"
ฉับพลันที่มือของนนท์เเตะเข้ากับที่จับดาบ เเล้วกำลังจะยกขึ้น ทันใดนั้นความเจ็บปวดราวกับจิตวิญญาณจะเเหลกสลาย ความหนักของดาบนี้นั้นไม่ใช่สิ่งที่ใครจะทนได้
เเต่ตอนนี้มันคงเป็นนิสัยของนนท์เเล้ว ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นจงอย่ายามเเพ้ เพราะยังไงเขาจะไม่ยอมตายอีกเเล้ว
คำเหล่านี้ล้วนสลักลงลึกในจิตใจของนนท์
ผ่านไปครึ่งชั่วยามปลายดาบเริ่มปรากฏส่วนที่อยู่ในเเท่นมานานเเสนนาน
จนในที่สุดนนท์ก็สามารถดึงตัวดาบออกมาได้
"ท่านเก่งมาก"ดาบเล่มนั้นเอ่ยชื่นชม
"เจ้าหลอกข้าใช่ไหมเนี่ย ดาบอะไรหนักชะมัด"
"ตัวข้านั้นเมื่ออยู่ในมือของท่านจะหนัก 1000 กิโลกรัม เเต่ถ้าหลุดจากมือจะหนัก 1000000 กิโลกรัม"
เเต่ก่อนที่นนท์จะเอ่ยอะไรอีกดาบเล่มนั้นก็ตัดบทของนนท์เลยทันที
"ท่านจะเรียกข้าว่าอะไรอ่ะ"
นนท์ครุ่นคิดอยู่นานก็เอ่ยออกมา
"หวางเฟย"
"ได้"หวางเฟย
"ในมิตินี้มีของอยู่มากมายข้าว่าท่านควรดูดซับกระดูกวิญญาณ 2 ชิ้นนี้ที่นายท่านทิ้งไว้ให้"หวางเฟยพูดตามคำสั่งที่นายท่านหรือพ่อของนนท์ในโลกใบนี้
"นายท่าน พ่อหรอ"นนท์ถามอย่างตกใจ
คำถามที่อยู่ในใจมานานเเสนนาน 'พ่อกับเเม่ในโลกนี้ของเขาหายไปไหน คือใคร เพราะอะไรหล่ะถึงต้องหายไป'
เมื่อนึกเเบบนั้นสบายจิตใจของนนท์ปั่นป่วนถึงขีดสุด ความเศร้าเริ่มมาเยือนจิตใจของนนท์ โลกก่อนเขามีพ่อเเม่เเต่เขาตายจากมา โลกนี้เขามีพ่อเเม่เเต่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน
ทำไม ทำไม ทำไม ทำไมชีวิตเขาถึงเป็นเเบบนี้'นนท์คิดพร้อมกับทำหน้าเศร้า ก่อนจะปรับสีหน้าดังเดิม
'ไม่ว่ายังไงก็ควรอยู่กับปัจจุบัน คิดตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์อะไรหรอก'นนท์คิดเเล้วพูดกับตัวเองเงียบๆอีกครั้ง
"ตามที่ท่านเข้าใจ"หวางเฟย
"เจ้าไม่ต้องเรียกว่าท่านอะไรหรอก เรียกข้าเเบบเพื่อนคนหนึ่งก็พอ"นนท์เอ่ยกับหวางเฟยอีกครั้ง
"เช่นนั้นก็ได้"
หลังจากการสนทนากับหวางเฟยหรือดาบราชันสวรรค์จุติ นนท์ก็รวบรวมสมาธิเเล้วดูดซับกระดูกวิญญาณ 2 ชิ้นนั้น
ผ่านไป 1 วัน(ภายในมิติ)
หลังจากที่นนท์ได้ดูดซับกระดูกวิญญาณทั้ง 2 ชิ้น เขาเองก็ได้ทักษะมาใหม่ เเละที่พีคที่สุดก็พบว่าพลังวิญญาณของเขาอยู่ที่ระดับ 30 !!ไรคับเนี่ย
ระดับ 30 เลยน่ะ 'อืม สมกับเป็นบุตรชายคนเดียวของ.....'หวางเฟยคิดกับตัวเอง
จบ
เอ๋ะ พ่อเเม่ของนนท์คือใครกันน้า
สวัสดีค่ะไม่ได้อัพกันหลายวันเลยเนื่องจากไรท์ยุ่งนิดหน่อยนะค่ะ
ไรท์ขอตัวไปนอนก่อนน้า อาจจะเจอกันพรุ่งนี้บายยยย
ราตรีสวัสดิ์ค่ะ
ความคิดเห็น