ตอนที่ 30 : หลี่เฟิง
หลี่เฟิง
ฉันหยิบธนูจากถุงผ้าอย่างรวดเร็วพลางยกคันธนูพร้อมกับง้างแขนเล็งลูกธนูจนสุดแขนและจ่อยิงไปที่ดวงตาของมัน
พรึ่บ
ฟิ้ววว!
เสียงของมันร้องคำรามอย่างทุกข์ทรมาน ปลาขนาดยักษ์ร้องเสียงโฮกดังสนั่นและดีดดิ้นทุรนทุราย ต้นไม้และลมพัดปลิวไปตามแรงของมัน
มันเป็นตัวอะไรกันแน่!! โผล่มาได้ไงเนี่ย!!
ควันดำกระจายรอบตัวของมันจนฉันแทบมองไม่เห็นทาง ฉัดยกมือปัดควันดำไปมาพลางหันตัววิ่งกลับไปพยุงซือจุยที่ทรุดนอนลงไปกับซอกไม้ของบ้าน ฉันมองเขาที่ยังมีสติพลางเลื่อนสายตามองลาดไหล่ของเขาที่ได้รับบาดเจ็บ มือของเขากุมแขนอีกข้างที่ดูเหมือนหัก
"รีบออกไปจากที่นี่กันเถิดซือจุย!!"
ฉันพยุงเขาพลางหันตัวออกเดินจากซากบ้านไปในทิศทางที่ไกลจากปลายักษ์ให้มากที่สุด
"ค..คลึกก.."
ปลายักษ์แหวกว่ายมาดักตรงหน้าฉัน เหงือกของมันแยกเป็นชั้นๆ ฉันมองด้วยความรู้สึกสะอิดสะเอียน และรีบแบกซือจุยบนหลังพลางออกตัววิ่งอย่างรวดเร็ว
"โฮกกกกกก!!"
ฉันเหลือบไปมองมันที่บัดนี้แหวกว่ายราวกับในน้ำมาหาอย่างรวดเร็ว มือของฉันยกกระบี่ฮวาพร้อมกับยืนบนดาบเหาะตัวขึ้นสู่ฟ้า
"ซือจุย!ได้ยินข้ารึไม่!"
ฉันยึดจับแขนข้างที่เขาไม่บาดเจ็บพาดบนไหล่ฉันแน่นให้มากยิ่งขึ้นพลางประคองตัวเขาระมัดระวังไม่ให้ตก ฉันรู้สึกกังวลไปหมด สมุนไพร ยารักษาก็อยู่ในถุงสัมภาระที่ฉันทิ้งไว้ที่ป่านั่น
ฉันกลั้นน้ำตามองใบหน้าซีดเซียวของซือจุย เปลือกตาของเขาพยายามที่จะลืมขึ้น เขาเรียก 'ศิษย์พี่' เรื่อยๆด้วยเสียงที่แผ่วเบา
ฉันมองไปรอบๆทั่วบริเวณของด้านบน อสูรปลายักษ์หายไปแล้ว..
ฉันเหาะกระบี่ไกลออกมาจากป่าได้สำเร็จพลางเหาะตัวดิ่งลงสู่พื้นในเขตของหมู่บ้าน ฉันไม่รู้ว่าเหาะกระบี่มาไกลมากแค่ไหน ภาพของผู้คนที่จับจ่ายซื้อของกัน ทำให้ฉันรู้สึกโล่งใจ อย่างน้อยต้องมีคนที่ช่วยเหลือฉันและซือจุย
"ข้าเป็นศิษย์สำนักตระกูลหลาน ท่านพอจะช่วย—"
ฉันมองชาวบ้านหญิงที่มองฉันอย่างระแวงพลางออกตัววิ่งหนีไป ฉันถึงกลับกลืนน้ำลาย ใจสั่นด้วยความกลัว หมู่บ้านนี้มันอะไร ชาวบ้านทุกคนเดินผ่านฉันไปและทำเป็นไม่สนใจฉัน ฉันถามถึงร้านยาและหมอ ทุกคนต่างหลบฉัน ฉันหลับตาลงข่มอารมณ์โกรธ มองไปที่ซือจุยที่ใบหน้าซีดเซียว เขาแน่นิ่งไปแล้ว!
"ฟางฮัว!"
ฉันเงยมองเสียงหนึ่งที่เรียกฉัน..
"ท่าน..คุณชายเจิน"
ฉันรู้สึกตกใจที่บังเอิญเจอเขาในที่แบบนี้ ฉันมองจีวรพระที่เขาสวมใส่และทรงผมที่ถูกโกน ภาพนิมิตของฟางฮัวในตอนนั้นต่างจากที่ฉันเห็นในสภาพปัจจุบัน
"มาที่สำนักก่อนเถิด..ต้องรีบรักษาเขา"
เขาช่วยแบกร่างของซือจุยแทนฉัน
พวกเรามาถึงกันที่วัด ฉันเดินตามเขามองซือจุยที่ไม่ได้สติด้วยความเป็นห่วง มีศิษย์หญิงชายและพระหลายรูปรีบเดินเข้ามาช่วยเหลือ
เมื่อฉันเดินตามพวกเขามาจนถึงห้องรักษา กลิ่นสมุนไพร ผงยาอบอวลไปทั่วห้อง ศิษย์เด็กชายยกมือห้ามฉันพลางโค้งตัวลง ฉันเขย่งเท้ามองร่างของซือจุยที่ถูกวางไว้บนเตียงและประตูก็ถูกปิดลง
ฉันนั่งรอซือจุยอยู่หน้าห้องจนตะวันลับขอบฟ้า มีศิษย์ในวัดนำน้ำและขนมมาให้ฉัน ฉันขอบคุณพวกเขาแต่ก็ไม่ได้แตะของที่พวกเขาให้มาเลยสักนิด ฉันนั่งสมาธิเพ่งจิตให้รู้สึกสงบ
"ฟางฮัว"
เสียงทุ้มของพี่ชายหลี่อี้เรียกฉัน ฉันลืมตาค่อยๆยันตัวลุกตัวขึ้นอย่างช้าๆพลางยกมือไหว้พร้อมกับโค้งตัวลง
"อาการของสหายเจ้าดีขึ้นแล้ว..เจ้าวางใจและพักผ่อนเสียเถิด"
ฉันพยักหน้า ต้องฝืนข่มอารมณ์อ่อนไหวที่อยากจะร้องไห้ไม่รู้ต่อกี่ครั้งระหว่างที่รอ
"ข้ามีนามว่าหลี่เฟิง..เจ้าและข้าเคยพบกันแค่ครั้งเดียว ในการประลองที่กูซู"
เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เนิบนาบและใจเย็น
"ข้าทราบดี..ในครานั้นข้าไม่เห็นท่านที่งานศพของหลี่อี้นะเจ้าคะ"
ใช่..ฉันไม่เห็นเขา สีหน้าของหลี่เฟิงเปลี่ยนไปทันทีเมื่อฉันพูดถึงงานศพ เขาจงใจไม่มางานศพของน้องสาวตัวเอง
"ฟางฮัว ข้ารู้สึกเสียใจ ข้ามีศักดิ์เป็นถึงพี่ชายของนางแต่ข้ากลับไม่เข้าใจความรู้สึกของนางเลย"
หลี่เฟิงหลุบสายตาต่ำก้มมองลงบนพื้น
"ข้าบวชก็เพราะนาง!ข้ารู้สึกผิดเสียจริง!!"
หลี่เฟิงตะคอกออกมาเสียงดังต่างจากเสียงที่เนิบนาบเมื่อสักครู่นี้ เขาทรุดลงไปกับพื้นพลางร้องไห้ ฉันที่ได้แต่เงียบมองเขา ตัดสินใจพูดในสิ่งที่ฉันคิด
"ท่านควรไปหานางที่หลุมศพ..รับผิดชอบในสิ่งที่ท่านควรทำ"
ฉันเหาะกระบี่ทะยานสู่ท้องนภา ลมกลางคืนพัดพาความเย็นทำให้ฉันรู้สึกสดชื่น ฉันแหงนมองดวงดาวที่กระจายอยู่รอบบนท้องฟ้า เหาะกระบี่ไปโดยไร้จุดมุ่งหมาย
ฉันนึกถึงจินหลิง กวงเหยา พวกเขาจะเป็นอย่างไรบ้าง..เว่ยอิง วั่งจี จิ่งอี๋และจื่อเจินก็ด้วย
ฉันเหาะกระบี่ทะลุหมอกก้อนเมฆ เสียงของน้ำตกจากหน้าผาส่งเสียงซ่า ฉันร่อนลงสู่พื้นก้อนหินแหงนมองน้ำตกขนาดใหญ่ เสียงของน้ำตกดังรอบตัวจนฉันไม่ได้ยินเสียงอื่น
ฉันเก็บกระบี่ อาภรณ์สีขาวสกปรกและเนื้อตัวมอมแมมไปหมด ฉันย่อตัวลงนั่งยื่นมือกวักน้ำจากน้ำตกล้างเนื้อล้างตัวให้สะอาด พลางเหม่อมองใบหน้าสวยที่สะท้อนจากน้ำ
ฉันตัดสินใจหยิบกระบี่ออกมาจากฝักอีกครั้งพลางหลับตาลง
พึ่บ..
ฉึก!
กองเส้นผมสีดำสลวยร่วงลงบนพื้น ฉันมองใบหน้าของฟางฮัวที่บัดนี้ทรงผมของเธอแปรเปลี่ยนเป็นทรงผมสั้น
ฉันยิ้ม แบบนี้ก็ดูดีไปอีกแบบ..
TALK
เนื้อเรื่องหลายๆอย่างของหลี่อี้และฟางฮัวเริ่มคลี่คลายแล้วนะคะ ซือจุยก็ยังเน้นรุก--- เหมือนเดิมค่ะ แมวน้อยในคราบเสือ /อะแฮ่ม ตอนต่อไปไรท์บอกเลยนะคะ เป็นตอนจบของฟิคเรื่องนี้แล้วค่ะ ขอบคุณที่ติดตามกันนะคะ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ม่ายยยยยย จะจบแล้วหรอคะไรท์แงงงงงง ㅠㅠ