ตอนที่ 24 : เทียนจื่อเซี่ยว [100%]
เทียนจื่อเซี่ยว
สายลมยามกลางคืนพัดพาความหนาวเย็นทำให้ฉันต้องยกมือกอดตัวเอง
"หนาวแฮะ" ฉันบ่นพึมพำพลางเงยหน้ามองเทือกเขาที่บัดนี้มืดมิดจนมองไม่เห็นโทนสีที่เขียวชะอุ่ม เสียงซ่าของน้ำตกผ่านแว่วหูมาเหมือนกับสายลม
ฉันยกมือจับริมฝีปาก
สัมผัสที่อบอุ่นยังคงรับรู้อยู่บนริมฝีปากของฉัน
ตุ้บ!
ฉันกระแทกศรีษะลงไปกับโต๊ะหิน จนบริเวณหน้าผากรู้สึกเจ็บพลางยกขาดีดดิ้นไปมา จะไม่ให้เขินได้ยังไง! ตั้งแต่โลกเดิม ฉันไม่มีแฟนเลยด้วยซ้ำ เป็นคนบ้างานไม่มีเวลานัดบอดหรือคบหากับใครเลย
จูบแรกของฉันโดนขโมยไปจากเด็กผู้ชายที่อ่อนกว่าถึงสิบปีเนี่ยนะ!!
"เจ้าทำอะไรน่ะฟางฮัว" เสียงทุ้มอันแสนคุ้นหูดังขึ้น ฉันเงยหน้าขึ้นจากโต๊ะมองร่างโปร่งที่เดินเข้ามาหาฉันด้วยใบหน้าที่ยกยิ้มเยาะ คงจะเป็นปฏิกริยาของฉันเมื่อครู่นี้
"คุณชายเว่ย มาหาข้าด้วยเหตุอันใดเจ้าคะ" ฉันมองเว่ยอิงที่ทิ้งตัวลงนั่งด้วยท่าทีสบายๆ มือเรียวบางยกเหล้าเทียนจื่อเซี่ยวกระดก
"ฮ่าา~ สดชื่นดีเสียจริง — ก็มิมีเหตุอันใดหรอก ข้าแค่ว่างเลยมาคุยเล่นกับเจ้าเสียหน่อย" ฉันมองเว่ยอิงที่ดูร่าเริงต่างกับฉันที่ภายในใจมีความรู้สึกผสมปนเปไปหมด
"ตระกูลเจินเป็นอย่างไรบ้างเล่า" เว่ยอิงวางไหเหล้าลงบนโต๊ะ
"ฮูหยินทำพิธีสับเปลี่ยนวิญญาณ นางคงทำใจไม่ได้ที่หลี่อี้จากไป ข้าสันนิษฐานว่าคนที่เสนอพิธีนี้ให้กับนางคือจินกวงเหยา" ฉันเล่ามองเว่ยอิงที่มีสีหน้าจริงจัง
"จินกวงเหยา? เหตุใดถึงคิดว่าเป็นเขา" ฉันอธิบายเพิ่มเติมเหตุผลว่า สาวใช้ตระกูลเจินเป็นคนบอกว่าทางตระกูลจินมาพบกับฮูหยินก่อนที่ฉัน ซือจุยและเวินหนิงจะไปหาเธอ
"ข้าคิดว่า ประมุขจินกำลังปั่นหัวข้า สงสัยในตัวข้าน่ะสิ" ฉันมองเว่ยอิงด้วยความกลุ้มใจ
"เจ้าคิดว่าเขาจะรู้ความลับเจ้าน่ะรึ" เว่ยอิงถาม ฉันกลับรู้สึกตัวเบาโหวงเมื่อสะดุดกับคำว่า 'ความลับ' เพราะความลับของฉันมันถูกเปิดเผยไปแล้วน่ะสิ! คนที่ไม่อยากจะให้รู้ความลับมากที่สุดกลับรู้!
ฉันเพียงแค่มองหน้าเขาพลางพยักหน้า
"คุณชายเว่ย..ถ้าทุกคนรู้ความลับของข้าจะเป็นยังไงรึเจ้าคะ" ฉันกลั้นใจถามมองเว่ยอิงที่นั่งเท้าคางมองฉัน
"มันอาจจะส่งผลที่ไม่ดีต่อเจ้าเลยล่ะ เพราะเจ้าเป็นหญิงจากโลกอื่นมิใช่ฟางฮัว แถมเจ้ายังคาดการณ์ชะตาอนาคตของพวกข้าได้ ข้าว่าเจ้าไปเปิดสำนักนะคงหารายได้เป็นกอบเป็นกำ!" เว่ยอิงหัวเราะร่า ฉันยกยิ้มขำ เว่ยอิงทำให้ฉันรู้สึกสบายใจขึ้นมาบ้าง
"ข้าเห็นด้วย!" ฉันยิ้ม
"ส่วนเรื่องของประมุขจิน..ข้าว่าเขาไม่รู้ความลับของเจ้าหรอก เขาอาจแค่สงสัยเจ้าว่าทำไมเจ้าถึงรอดจากหุบเขาน้ำตกที่สูงขนาดนั้นได้ ถ้ามิใช่เซียนอาวุโสหรือบำเพ็ญเพียรมามากก็มิอาจรอดหรอกหนา.." เว่ยอิงพูดพลางยกเทียนจื่อเซี่ยวขึ้นดื่ม เหตุผลของกวงเหยาจะมีแค่นั้นน่ะเหรอ ฉันกำมือบนตักแน่นด้วยความสับสน
"เจ้าค่ะ ข้าจะระวังให้มาก" ฉันไม่พูดอะไรมากพร้อมกับลุกขึ้นตัดสินใจขอตัวเว่ยอิงไปนอนแต่เขาก็ยกมือห้ามฉันไว้
"มีอะไรรึเจ้าคะ?" ฉันถามมองเว่ยอิงที่ขมวดคิ้ว
"ผู้ใดกันที่รู้ความลับของเจ้า"
"ซือจุย!? แถมจูบกับเจ้าด้วย!!" เว่ยอิงตะโกนจนฉันเหลอหลาลุกขึ้นยืนยกนิ้วชี้จรดริมฝีปากของตัวเองเป็นเชิงบอกให้เขาเงียบ
"นี่ถ้าหลานจ้านรู้คงให้พวกเจ้าคัดลายมือหลายพันใบเป็นแน่!..หรือไม่ก็..โบยพวกเจ้า!" เว่ยอิงยื่นมือมาบีบจมูกฉัน ฉันตกใจมองอีกฝ่ายที่ผละออกไปพลางหัวเราะ
"ท่านอย่าบอกกับใครนะเจ้าคะ!" ฉันหน้าแดงมองใบหน้าสวยหวานของอีกฝ่ายที่ยังคงยกยิ้ม
"ข้ามิกล่าวบอกกับผู้ใดแน่ ความรักหนุ่มสาวเป็นเรื่องธรรมดา..ซือจุย เด็กคนนั้นตัดสินใจจูบเจ้าทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าเจ้ามิใช่ฟางฮัว?" ฉันมองเว่ยอิงที่ทิ้งตัวลงนั่ง เขาทำสีหน้าครุ่นคิด
"เจ้าค่ะ ข้าก็สงสัยเช่นเดียวกันว่าเหตุใดเขาถึงทำแบบนี้กับข้า" ฉันหลุบตายกแขนเรียวขาวซีดของฟางฮัวมองอย่างเหม่อลอย
"ความเสียใจอย่างไรเล่า" เว่ยอิงเอ่ย ฉันผละสายตามองเว่ยอิงที่ดวงตากลมของเขาสะท้อนใบหน้าของฟางฮัว ที่บัดนี้ใบหน้าของฟางฮัวไม่สิ..ใบหน้าของฉันมีสีหน้าที่เศร้าหมอง ฉันเข้าใจคำพูดของเว่ยอิงดี จุมพิตของซือจุยอาจเป็นการสารภาพรักที่เขาอยากมอบให้กับฟางฮัวไม่ใช่ฉัน...
"ข้าจะทำอย่างไรดี.." ฉันมองเว่ยอิงที่มีสีหน้าเรียบนิ่ง เขาเอื้อมมือหยิบอะไรบางอย่างข้างในเสื้อคลุมพลางยื่นมาตรงหน้าฉัน
สิ่งที่เว่ยอิงยื่นให้คือเหล้าเทียนจื่อเซี่ยวอีกไห...
"ข้าดื่มมิได้หรอกเจ้าค่ะ! กฎ—"
"เจ้ามิใช่ฟางฮัวหนาแม่นาง..คืนนี้เจ้าจงเป็นในสิ่งที่เจ้าเป็นเถิด!" เว่ยอิงยิ้ม
ใช่..ฉันไม่ใช่ฟางฮัว..
ฉันรับเหล้าเทียนจื่อเซี่ยวจากมือของเว่ยอิงพลางเปิดจุกเหล้ายกขึ้นดื่มอย่างรวดเร็ว
"ฮ่าา! รสชาติจัดจ้านมาก!" ฉันยกมือเช็ดคราบเหล้าที่ไหลลงปลายคาง เว่ยอิงมองฉันด้วยความตกใจ เห็นแบบนี้เมื่อก่อนฉันไม่ได้บ้างานอย่างเดียวแต่บ้าดื่มด้วย!
"ข้ามิคิดว่าเจ้าจะดื่ม! ฮ่าๆ เอาเป็นว่าข้าจะเฝ้าเจ้าให้จะได้มิมีใครจับเจ้าได้ว่าเจ้าทำผิดกฎ" ฉันมองอีกฝ่ายที่ยกเหล้าขึ้นดื่ม
อยากจะระบายกับเขา อยากที่จะพูดในสิ่งที่ตัวเองในหลายๆเรื่องแต่ไม่ดีกว่า...
50%
ฉันได้ยินเสียงของนกที่ร้องคลอเบาๆจากด้านนอกพลางตะแคงหันข้างด้วยความรำคาญใจพลางดึงผ้าห่มมาคลุมตัวเพื่อจะนอนต่อแต่แสงอาทิตย์จากทิศที่ฉันหันไป กลับสะท้อนเข้าตาฉันเต็มๆ ฉันลุกขึ้นพลางยกมือยีผมด้วยความรู้สึกที่ยุ่งเหยิง
นี่กี่โมงแล้ว..เมื่อวานเกิดอะไรขึ้นกัน..
ฉันกระเด้งลุกจากเตียงทันทีเมื่อความทรงจำหลายๆฉากของเมื่อวานไหลเข้ามาในหัว ตายล่ะ..เวลานี้ฉันต้องเข้าเรียนแล้วนี่หว่า!
ฉันเปิดประตูออกจากห้องพักเสียงดังด้วยความรีบร้อนในมือถือกระบี่ฮวาไว้แน่นด้วยความประหม่า เมื่อวานเกิดอะไรขึ้นตอนฉันเมาถึงมานอนบนเตียงได้ เว่ยอิงแบกฉันเข้าไปนอนเหรอ..เวลาฉันเมานี่ก็ดูจะไม่ค่อยดีซะด้วย..ได้ทำอะไรที่มันขายหน้าเกินจะเยียวยารึเปล่าเนี่ย ฉันคิดจนหัวแทบจะระเบิดพลางสาวเท้ารีบเดินเข้าไปในชั้นเรียน
"เจ้ามาสาย!!คัดกฎสามร้อยครั้ง!" ฉี่เหรินผู้นำตระกูลคนก่อนกล่าวเสียงเฉียบขาดเมื่อเขาเห็นฉันเข้ามาภายในสำนักก็โวยฉันทันที ฉันกลืนน้ำลายดังอึก ศิษย์ตระกูลอื่นหันมามองฉันเป็นตาเดียว บางส่วนก็ยิ้มขำและซุบซิบ ส่วนพวกตระกูลหลานดูจะแปลกใจที่ 'หลาน ฟางฮัว' มาสาย ฉันยังคงทำตัวนิ่งเมินทุกคนรวมถึงสหายสี่เด็กหนุ่มที่มองฉัน..ยิ่งซือจุยมองมาที่ฉันก็ยิ่งรู้สึกกระอักกระอ่วนใจอย่างบอกไม่ถูก ฉันทิ้งตัวลงนั่งที่ประจำของตัวเอง
เมื่อถึงเวลาเลิกเรียน ฉันก็เก็บของลุกขึ้นเดินไปหาสหายหนุ่มทั้งสี่ที่กำลังเก็บของอยู่เช่นเดียวกัน ฉันรู้ว่าพวกเขาน่ะมองฉันอยู่และคงจะมีคำถามอยากจะถามฉัน
"พวกเจ้า! ข้าคงจะอยู่กินมื้อเย็นด้วยมิได้ ต้องไปคัดกฎทั้งคืนเป็นแน่" ฉันถอนหายใจเฮือกใหญ่พร้อมกับยิ้มกว้าง เรื่องซือจุย..เรื่องนั้นเอาเป็นว่าช่างมันก่อนแล้วกัน
"เอ่อ..ศิษย์พี่.." จิ่งอี๋เริ่มต้นบทสนทนากับฉัน เขามีสีหน้าที่ลำบากใจ ฉันชำเลืองมองศิษย์คนอื่นที่มองฉันแล้วยิ้มซุบซิบ
"เมื่อคืน..ข้าทำตัวบ้าๆไปใช่ไหม?" ฉันยิ้มแหย มองเด็กหนุ่มสี่คนที่พยักหน้าหงึกหงัก ขอบ้าแบบเบาๆอย่างหัวเราะเสียงดัง ทำตัวเป็นแมวเหมือนที่เพื่อนเคยเล่าให้ฉันฟังเหอะ!
"ศิษย์พี่..พวกข้า..เอ่อ.." ซือจุยอ้ำๆอึ้งๆไม่ต่างกับจิ่งอี๋ ฉันที่อยากรู้ใจจะขาดก็พูดโพล่งขึ้นมา
"มีอะไรกันล่ะ!พวกเจ้าอ้ำๆอึ้งๆอยู่ได้" ฉันมองซือจุยที่หน้าแดง ฉันขมวดคิ้วด้วยความฉงน
"เมื่อชั่วยามเหม่าท่านออกมาโวยวายเสียงดังเรื่อง..ที่ท่านจูบกับซือจุยขอรับ..คุณชายโม่พยายามห้ามท่านแล้ว แต่ท่านกลับจะใช้กระบี่สู้กับเขา เวลานี้..ท่านหานกวงจวินคงทำโทษคุณชายโม่เรื่องเหล้าที่เขาชวนให้ท่านดื่ม"
จื่อเจินพูดจบเขาก็สูดลมหายใจจนแก้มพองด้วยความประหม่า ส่วนฉันน่ะเหรอ..ทำกระบี่ฮวาร่วงลงพื้นด้วยความช็อค!
"ละ..แล้วทำไม! ท่านฉี่เหรินหรือ..เอ่อ..ประมุขหลาน ท่านหานกวงจวิน ไม่เห็นจะพูดเรื่องนี้กันสักคน!" ฉันมองพวกเขา กลับห่วงเรื่องที่ผู้ใหญ่จะว่าฉันหรือจะมีบททำโทษอะไรเพิ่มขึ้นมาอีก
"ความสัมพันธ์ฉันท์หนุ่มสาวในตระกูลเดียวด้วยแล้ว..มิใช่เรื่องผิดแปลกเสียหน่อยขอรับ" ซือจุยโพล่งขึ้นมาด้วยเสียงอ่อนจนฉันพลอยหน้าแดงตามไปกับเขาด้วย ไหนเว่ยอิงบอกว่าฉันอาจจะโดนวั่งจีทำโทษไง..เขาหลอกฉันอีกแล้ว! สมแล้วล่ะ เตียงหักไปแล้วมั้งนั่น~
"เอาล่ะๆ อยู่ในความสงบเถิด!" จินหลิงขึ้นเสียงนิดๆก่อนจะก้มเก็บกระบี่ฮวาให้ฉัน ฉันรับมาพร้อมกับขอบคุณพลางยกยิ้มเยาะในใจเมื่อจินหลิงเริ่มทำตัวตามแบบเจียงเฉิงเมื่อเขาร่ายยาวบ่นฉันรวมถึงซือจุยที่อุกอาจทำอะไรไม่ยั้งคิด
ฉันหยิบพู่กันจุ่มหมึกดำก่อนจะเขียนตัวอักษรจีนวิจิตรลงกระดาษ ฉันเท้าคางพลางอ้าปากหาวนิดๆ ดูไม่งามเลยฉัน..แต่ก็นะไม่มีใครอยู่แถมเรื่องที่ฉันไม่ใช่ฟางฮัว ซือจุยก็รู้มันเลยทำให้ฉันรู้สึกว่าการปลดปล่อยเป็นตัวของตัวเองมันก็ดี
"ศิษย์พี่ขอรับ.."
เสียงทุ้มหวานดังขึ้นทำให้ฉันเงยหน้าจากกระดาษด้วยความรู้สึกตกใจนิดๆ ในหัวของฉันคิดถึงแต่เขา..แล้วเขาก็มา
"มีเหตุอันใดรึซือจุย" ฉันจัดตัวเองให้นั่งเรียบร้อยสบตามองกับเขาที่ทิ้งตัวลงนั่งอย่างสำรวม
"ข้ามาช่วยท่านคัดกฎน่ะขอรับ..คืนนี้พวกเราต้องออกไปปราบภูติผี ศิษย์พี่จะได้ไม่มีงานที่ค้างน่ะขอรับ" ฉันมองซือจุยที่ส่งยิ้มอย่างอ่อนโยนให้ ฉันเม้มปากนิดๆพลางพยักหน้า
"แต่ถ้าท่านฉี่เหรินรู้อาจว่าเจ้าได้—" ฉันมองซือจุยที่ส่ายหน้า เขาหยิบกระดาษ หยิบพู่กันเริ่มลงมือเขียน
ฉันเงียบ มองเขาที่บรรจงเขียนอย่างตั้งใจ สายลมอ่อนโชยเข้ามาในห้อง แสงสีส้มยามเย็นอาบไล้ใบหน้าของซือจุย
เป็นภาพที่มองดูแล้ว..ฉันละสายตาไปไหนไม่ได้เลย
"ท่านหญิง.." ซือจุยเปลี่ยนสรรพนามเอ่ยเรียกฉันพลางวางพู่กันลง ฉันมองเขา เบิกตาโผลงด้วยความรู้สึกที่เบาโหวง
"ข้าขออภัยกับสิ่งที่เกิดขึ้น"
TALK
14/2/2020
ขอโทษทุกคนที่ไรท์หายไปนานมากเลยค่ะแง ที่จริงแต่งต่อเสร็จแล้วแต่ไม่มีเวลามาอัพลงเลยค่ะ ก็เลยมาอัพเนื่องในวันวาเลนไทน์ซักหน่อยขอบคุณที่รอคอยกันนะคะ T^T ช่วงนี้ใกล้สอบเข้ามหาวิทยาลัยแล้วจะมาอัพต่อก็น่าจะอีกสักพักค่ะ ไรท์รักผู้อ่านทุกคนเน้อ ไรท์ไม่ได้ตั้งใจทิ้งแต่ด้วยอะไรหลายๆอย่าง ช่วงเดือนที่แล้วนักแสดงก็มาไทยด้วยน่ารักมากๆเลยแง สุดท้ายนี้ก็ขอขอบคุณเช่นเดิมนะคะสำหรับคำติชม และชื่นชอบผลงานของไรท์ค่ะ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

สู้ๆนะคะไรท์!!>◇<
ปล.ไรท์สู้ๆ
สุ้ๆนะคะไรท์! //ชูสองนิ้ว
รออออออออ