คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #21 : บุรุษผู้มากรักหลายใจ (2)
บุรุษผู้สง่างามนั่งลงประจำที่ ทว่ารังสีกดดันอันเย็นเยียบที่เคยมีกลับจางหายไปจนสิ้น
มู่เลี่ยงหรงเผยรอยยิ้มอย่างหาได้ยาก ท่าทางอารมณ์ดีอยู่ไม่น้อย บรรดาขุนนางต่างพากันงวยงงกับท่าทีผิดปกติของฉินอ๋องผู้เคร่งขรึม บางคนถึงกับขอบคุณสวรรค์ บ้างก็อธิษฐานให้เขาเป็นแบบนี้ตลอดไป พวกตนจะได้หายอกสั่นขวัญแขวนเวลาที่ต้องเผชิญหน้ากับผู้แทนพระองค์ที่แสนจะเย็นชาและเข้มงวดผู้นี้
เยี่ยนเยว่ฉีพลันหัวใจเต้นระรัวใบหน้าร้อนผ่าวราวกับต้องพิษไข้เมื่อคิดถึงจุมพิตเร่าร้อนที่เขามอบให้เมื่อครู่
ทุกอากัปกิริยาของบุตรสาวแม่ทัพอยู่ในสายตาของถางซือเซียนทั้งหมด สาวน้อยหันหน้าไปทางมู่เลี่ยงหรงอีกครั้ง เมื่อมั่นใจว่าเขาไม่ได้มองมาทางนี้อีกแล้ว ก็ถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายเฮือกหนึ่ง
เห็นเยี่ยนเยว่ฉีมองตามฉินอ๋องไม่วางตา ถางซือเซียนจึงอธิบายว่าผู้ที่เพิ่งเข้ามาคือใคร “ท่านผู้นั้นคือฉินอ๋อง พระอนุชาของฮ่องเต้ คุณหนูเยี่ยนคงเคยได้ยินชื่อเสียงของท่านอ๋องมาบ้างกระมัง”
“อะ...อืม” เยี่ยนเยว่ฉีตื่นจากภวังค์
“เลี่ยงหรงเกอเกอ[1]เป็นคนมีเสน่ห์ สตรีทั้งเมืองหลวงต่างใฝ่ฝันถึงทั้งนั้น” สาวน้อยจิบชาชมการแสดง “โดยเฉพาะท่านหญิงกุ้ยอิน” ริมฝีปากอิ่มเหยียดออกเล็กน้อยคล้ายเย้ยหยัน
“เจ้าเรียกท่านอ๋องว่า...ท่านพี่อย่างนั้นหรือ” เยี่ยนเยว่ฉีไม่ได้สนใจว่าสตรีอีกคนที่ถางซือเซียนพูดถึงคือผู้ใด แต่สนใจสรรพนามที่นางเอ่ยเรียกมู่เลี่ยงหรงต่างหาก
'ทำไมสตรีนางนี้เรียกท่านอ๋องอย่างสนิทสนมเช่นนี้'
“อ่อ... คุณหนูเยี่ยนมิต้องแปลกใจ ข้าได้รับอนุญาตจากท่านอ๋องให้เรียกเขาเช่นนั้นได้ เพราะท่านอ๋อง พี่ใหญ่ และข้าเติบโตมาด้วยกัน ถึงแม้ว่าจะเป็นท่านอ๋องที่ค่อนข้างเข้มงวด แต่ก็แค่กับผู้อื่นเท่านั้น สำหรับข้าคงถือเป็นกรณียกเว้น เลี่ยงหรงเกอเกอดีต่อข้ามากกว่าผู้ใดทั้งสิ้น” ถางซือเซียนยิ้มอย่างมีความสุขเมื่อเอ่ยถึงมู่เลี่ยงหรง แววตาเปล่งประกายระยิบระยับ น้ำเสียงชื่นชม เยี่ยนเยว่ฉีเห็นดังนั้นก็ปวดใจ
“คุณหนูถาง เยว่ฉีรบกวนสอบถามเรื่องหนึ่งให้กระจ่างใจได้หรือไม่”
“ถ้าเป็นเรื่องที่ข้ารู้ ข้าย่อมยินดี”
“ฉินอ๋องผู้นี้...เป็นบุรุษที่ชื่นชอบหญิงงาม นิยมเติมเรือนหลังให้เต็มใช่หรือไม่” เยี่ยนเยว่ฉีอดถามมิได้ อยากจะรู้เหลือเกินว่าบุรุษที่นางเพ้อหาเมื่อครู่เป็นคนเช่นไรกันแน่
“เลี่ยงหรงเกอเกอมีชายารองอยู่เพียงสามนาง สำหรับข้านับว่าไม่มาก ด้วยฐานะฉินอ๋อง เขายังสามาถรับชายารองและอนุได้อีกมากมายนัก ปีนี้ก็อาจจะต้องตาคุณหนูสักคนสองคน ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องธรรมดาอย่างยิ่ง เพราะเชื้อพระวงศ์ที่มีอายุไล่เลี่ยกันต่างมีสตรีในเรือนหลังมากกว่านี้ไม่รู้เท่าไรต่อเท่าไร” ถางซือเซียนตอบราวกับว่านี่คือสิ่งที่สมควรจะเป็น
'เขามีชายารองอยู่แล้วสามนาง! ตั้งสามนางเชียวนะ แล้วยังต้องการสตรีอื่นเพิ่มอีกด้วย' เยี่ยนเยวฉีได้แต่ตะโกนก้องอยู่ในใจ รู้สึกผิดหวัง นางไม่คิดว่าบุรุษที่ตนเองเพิ่งรับปากแต่งงานด้วยจะเป็นคนเจ้าชู้มากรักเช่นนี้ได้
“นอกจากนี้ยังมีสตรีฝันหวานถึงตำแหน่งหวางเฟยอยู่อีกคน” ใบหน้าของถางซือเซียนบึ้งตึงขึ้นเล็กน้อย
“เป็นผู้ใด…ฉินอ๋องผูกใจรักใคร่กับนางหรือ” ถึงจะรู้สึกหนักอึ้งอยู่ในอก แต่ต่อให้ตายอยู่ตรงนี้ นางก็ต้องรู้ความจริงทั้งหมดให้ได้
“มิได้ เลี่ยงหรงเกอเกอไม่ชอบนาง เป็นท่านหญิงกุ้ยอินต่างหากที่ตามตื๊อไม่เลิก ปีที่แล้วท่านหญิงกุ้ยอินถึงกับเป็นลมตอนที่ฮ่องเต้ทรงพระราชทานพี่น้องสกุลลู่ให้เลี่ยงหรงเกอเกอ” สตรีร่างเล็กตอบพลางกลั้วหัวเราะ
“เจ้าดูสนิทสนมกับท่านอ๋องเป็นอย่างยิ่ง เช่นนั้นคงทราบกระมังว่าท่านอ๋องชอบพอผู้ใดอยู่”
พอได้ยินคำถาม ถางซือเซียนทำท่าทางครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง มือเรียวงามลูบปอยผมที่ร่วงหล่นลงมาไปทัดไว้ที่ใบหู เสียงหัวเราะสดใสบาดเข้าไปยังหัวใจของผู้ที่กำลังรอฟัง นางพยักหน้าน้อย ๆ แล้วคลี่ยิ้มเจิดจ้า สบนัยน์ตาสตรีที่นั่งหน้าซีดด้วยความอดกลั้น
“อืม...เท่าที่ข้ารู้ยังไม่มี แต่เลี่ยงหรงเกอเกอบอกว่า...ชอบข้าที่สุด”
“เขาบอกว่าชอบเจ้าหรือ” เยี่ยนเยว่ฉีตกใจ นัยน์ตาดอกท้อหวานล้ำเบิกกว้าง แทบไม่อยากเชื่อหูตนเองว่า บุรุษที่เพียรใช้อุบายขอตนเองแต่งงานเมื่อครู่จะเที่ยวฝากรักไปทั่วเช่นนี้ “เจ้ารับได้ที่เขาจะมีภรรยาหลายคนเช่นนั้นหรือ”
“ย่อมยอมรับได้ หากเลี่ยงหรงเกอเกอพึงใจผู้ใด ข้ามีแต่จะส่งเสริม แต่หากเขาไม่ชอบแล้วล่ะก็...” ถางซือเซียนพูดทิ้งท้ายราวกับกลั่นแกล้ง แล้วดื่มชาต่อไปด้วยท่าทีเฉื่อยเนือย “อ่อ ข้าลืมบอกคุณหนูเยี่ยนไปเสียสนิท ที่ผ่านมาหากข้าบอกว่าไม่ เลี่ยงหรงเกอเกอก็ไม่มีวันรับสตรีนางนั้นเข้าจวนเช่นกัน”
หลังได้ฟังประโยคสุดท้าย เยี่ยนเยว่ฉีรู้สึกว่ารอยยิ้มที่แขวนอยู่บนหน้าถางซือเซียนยามนี้ช่างน่าชังยิ่งนัก
เยี่ยนเยว่ฉีอยากลุกขึ้นเขย่าร่างสตรีตรงหน้า แล้วตบปากเล็ก ๆ นั้นเสียฉาดหนึ่งให้สาสมกับความเจ็บปวดที่ตนเองได้รับ อยากเอ่ยออกไปเหลือเกินว่านางต่างหากคือคนที่มู่เลี่ยงหรงเลือก แต่ยังคงปั้นหน้าสงบนิ่งเอาไว้ เหตุเพราะที่นี่คือวังหลวง
'อดทนไว้เยว่ฉีเอ๋ย หาไม่แล้วท่านพ่อจะขายหน้า' แม้จะคิดเช่นนี้ แต่ปากก็อดถามถางซือเซียนมิได้ “ดูคุณหนูถางจะมั่นใจเสียเหลือเกิน อย่าบอกนะว่าเจ้าเองก็หวังตำแหน่งฉินหวางเฟย”
“คุณหนูเยี่ยนเข้าใจผิดแล้ว สำหรับซือเซียน ตำแหน่งหวางเฟยไม่ได้สำคัญอะไรสักนิด แต่เป็นน้ำหนักของข้าในใจของเลี่ยงหรงเกอเกอต่างหากที่ทุกคนริษยา”
เยี่ยนเยว่ฉียิ้มก็ไม่ได้ร้องไห้ก็ไม่ออก ดูท่าทางความสัมพันธ์ของคนทั้งสองจะแน่นแฟ้นมากกว่าที่นางคิดเอาไว้มากมายนัก
แต่ถ้าถางซือเซียนคือคนที่นั่งในใจมู่เลี่ยงหรง แล้วนางเล่า...นางมีฐานะอะไรในใจของเขากัน
เยี่ยนเยว่ฉีปรายตามองบุรุษในชุดคลุมชินอ๋องสีดำหรูหรา เมื่อครู่ตนหลงคิดว่าเขาคือเนื้อคู่ตามลิขิตสวรรค์ที่พี่ชายคนรองบอก เผลอทึกทักเอาเองว่าอ๋องผู้นี้จะเป็นคนที่เคียงข้างกันไปจวบจนชั่วชีวิต
แต่ชายผู้นั้นไม่ได้มีใจเดียว ไม่มีทางรักนางอย่างลึกซึ้ง ทั้งหมดที่เกิดขึ้นคงเป็นเพราะพึงใจในความงามเพียงฉาบฉวย
มีคำกล่าวที่ว่า ภรรยาเอกควรค่าแก่การยกย่อง ส่วนผู้ที่ได้ความรักล้วนเป็นอนุโฉมงาม
ใช่สิ ฉินอ๋องแค่เล่นเล่ห์ให้นางใช้ร่างกายแลกกับโทษตาย ส่วนตำแหน่งฉินหวางเฟย ที่บอกว่ายอมยกให้คงเป็นเพราะเห็นแก่หน้าท่านพ่อก็เท่านั้น
‘ข้าช่างโง่งมเหลือเกิน’
เยี่ยนเยว่ฉีไม่มีแก่ใจจะสนทนาอะไรกับถางซือเซียนอีก ได้แต่ก้มหน้ามองขลุ่ยหยกในมือข้างซ้าย
นิ้วเรียวยาวลูบไปบนผิวของตี๋จื่อ[2]ที่ถูกบุรุษผู้นั้นผิวผ่าน เขาบรรเลงเพลงรักนกยวนยางให้นางฟัง ทั้งหมดเป็นเพียงการกระทำของชายเจ้าชู้ ไม่ได้มีความจริงใจอะไรทั้งสิ้น ทว่านางกลับหลงชื่นชมเขาจนเกือบมอบใจให้
ช่างน่าอดสูเหลือเกิน
ก่อนที่น้ำตาจะไหลออกมา นางกำนัลผู้หนึ่งก็เข้ามาขัดจังหวะห้วงคิดของเยี่ยนเยว่ฉี
“คุณหนูเยี่ยน ได้โปรดตามข้าน้อยไปรอแสดงที่ด้านหลังด้วยเจ้าค่ะ”
“ได้” นางตอบสั้น ๆ แล้วรีบลุกออกจากตรงนั้นในทันที ไม่แม้แต่จะร่ำลาถางซือเซียนสักคำ
เยี่ยนเยว่ฉียังคงเจ็บแปลบในอก ทั้งว้าวุ่นสับสนระคนปวดร้าว หยาดน้ำตาคลอเบ้าจนเกือบจะไหลออกมา เพียงแค่คิดว่ามู่เลี่ยงหรงบอกชอบสตรีอื่นก็รู้สึกราวกับตนสูญเสียสิ่งสำคัญไปแล้ว
“ที่แท้ก็เป็นบุรุษมากรักหลายใจ!” เยี่ยนเยว่ฉีเผลอพูดออกมาด้วยเสียงอันเบาหวิว
“คุณหนูว่ากระไรนะเจ้าคะ” นางกำนัลที่เดินนำหน้าอยู่หันกลับมามองหญิงสาวที่เดินตามอยู่ด้านหลัง
“ขะ...ข้าแค่นึกถึงเนื้อเพลงที่จะเล่น” สตรีผู้เจ็บปวดแก้ตัวอย่างเสียมิได้ นางตัดสินใจอดทนเก็บอารมณ์ซ่อนไว้ลึกสุดใจ บุตรสาวแม่ทัพใหญ่เชิดหน้าแล้วก้าวต่อไป ทั้งที่ในใจยังคงตะโกนกึกก้อง
'มู่เลี่ยงหรงคนเลว!'
[1] เกอเกอ แปลว่า พี่ชาย ใช้เรียกขานพี่แท้ ๆ หรือผู้ชายที่สนิทชิดเชื้อมาก ๆ ก็ได้
[2] ตี๋จื่อ คือ คำเรียกขลุ่ยจีน
ความคิดเห็น