ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว 王上 您上我 (รีอัพ)

    ลำดับตอนที่ #21 : บุรุษผู้มากรักหลายใจ (2)

    • อัปเดตล่าสุด 6 ก.พ. 65


    บุรุษผู้สง่างามนั่งลงประจำที่ ทว่ารังสีกดดันอันเย็นเยียบที่เคยมีกลับจางหายไปจนสิ้น 

    มู่เลี่ยงหรงเผยรอยยิ้มอย่างหาได้ยาก ท่าทางอารมณ์ดีอยู่ไม่น้อย บรรดาขุนนางต่างพากันงวยงงกับท่าทีผิดปกติของฉินอ๋องผู้เคร่งขรึม บางคนถึงกับขอบคุณสวรรค์ บ้างก็อธิษฐานให้เขาเป็นแบบนี้ตลอดไป พวกตนจะได้หายอกสั่นขวัญแขวนเวลาที่ต้องเผชิญหน้ากับผู้แทนพระองค์ที่แสนจะเย็นชาและเข้มงวดผู้นี้

    เยี่ยนเยว่ฉีพลันหัวใจเต้นระรัวใบหน้าร้อนผ่าวราวกับต้องพิษไข้เมื่อคิดถึงจุมพิตเร่าร้อนที่เขามอบให้เมื่อครู่

    ทุกอากัปกิริยาของบุตรสาวแม่ทัพอยู่ในสายตาของถางซือเซียนทั้งหมด สาวน้อยหันหน้าไปทางมู่เลี่ยงหรงอีกครั้ง เมื่อมั่นใจว่าเขาไม่ได้มองมาทางนี้อีกแล้ว ก็ถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายเฮือกหนึ่ง

    เห็นเยี่ยนเยว่ฉีมองตามฉินอ๋องไม่วางตา ถางซือเซียนจึงอธิบายว่าผู้ที่เพิ่งเข้ามาคือใคร “ท่านผู้นั้นคือฉินอ๋อง พระอนุชาของฮ่องเต้ คุณหนูเยี่ยนคงเคยได้ยินชื่อเสียงของท่านอ๋องมาบ้างกระมัง” 

    “อะ...อืม” เยี่ยนเยว่ฉีตื่นจากภวังค์

    เลี่ยงหรงเกอเกอ[1]เป็นคนมีเสน่ห์ สตรีทั้งเมืองหลวงต่างใฝ่ฝันถึงทั้งนั้น” สาวน้อยจิบชาชมการแสดง “โดยเฉพาะท่านหญิงกุ้ยอิน” ริมฝีปากอิ่มเหยียดออกเล็กน้อยคล้ายเย้ยหยัน

    “เจ้าเรียกท่านอ๋องว่า...ท่านพี่อย่างนั้นหรือ” เยี่ยนเยว่ฉีไม่ได้สนใจว่าสตรีอีกคนที่ถางซือเซียนพูดถึงคือผู้ใด แต่สนใจสรรพนามที่นางเอ่ยเรียกมู่เลี่ยงหรงต่างหาก

    'ทำไมสตรีนางนี้เรียกท่านอ๋องอย่างสนิทสนมเช่นนี้'

    “อ่อ... คุณหนูเยี่ยนมิต้องแปลกใจ ข้าได้รับอนุญาตจากท่านอ๋องให้เรียกเขาเช่นนั้นได้ เพราะท่านอ๋อง พี่ใหญ่ และข้าเติบโตมาด้วยกัน ถึงแม้ว่าจะเป็นท่านอ๋องที่ค่อนข้างเข้มงวด แต่ก็แค่กับผู้อื่นเท่านั้น สำหรับข้าคงถือเป็นกรณียกเว้น เลี่ยงหรงเกอเกอดีต่อข้ามากกว่าผู้ใดทั้งสิ้น” ถางซือเซียนยิ้มอย่างมีความสุขเมื่อเอ่ยถึงมู่เลี่ยงหรง แววตาเปล่งประกายระยิบระยับ น้ำเสียงชื่นชม เยี่ยนเยว่ฉีเห็นดังนั้นก็ปวดใจ

    “คุณหนูถาง เยว่ฉีรบกวนสอบถามเรื่องหนึ่งให้กระจ่างใจได้หรือไม่”

    “ถ้าเป็นเรื่องที่ข้ารู้ ข้าย่อมยินดี”

    “ฉินอ๋องผู้นี้...เป็นบุรุษที่ชื่นชอบหญิงงาม นิยมเติมเรือนหลังให้เต็มใช่หรือไม่” เยี่ยนเยว่ฉีอดถามมิได้ อยากจะรู้เหลือเกินว่าบุรุษที่นางเพ้อหาเมื่อครู่เป็นคนเช่นไรกันแน่ 

    “เลี่ยงหรงเกอเกอมีชายารองอยู่เพียงสามนาง สำหรับข้านับว่าไม่มาก ด้วยฐานะฉินอ๋อง เขายังสามาถรับชายารองและอนุได้อีกมากมายนัก ปีนี้ก็อาจจะต้องตาคุณหนูสักคนสองคน ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องธรรมดาอย่างยิ่ง เพราะเชื้อพระวงศ์ที่มีอายุไล่เลี่ยกันต่างมีสตรีในเรือนหลังมากกว่านี้ไม่รู้เท่าไรต่อเท่าไร” ถางซือเซียนตอบราวกับว่านี่คือสิ่งที่สมควรจะเป็น 

    'เขามีชายารองอยู่แล้วสามนาง! ตั้งสามนางเชียวนะ แล้วยังต้องการสตรีอื่นเพิ่มอีกด้วย' เยี่ยนเยวฉีได้แต่ตะโกนก้องอยู่ในใจ รู้สึกผิดหวัง นางไม่คิดว่าบุรุษที่ตนเองเพิ่งรับปากแต่งงานด้วยจะเป็นคนเจ้าชู้มากรักเช่นนี้ได้

    “นอกจากนี้ยังมีสตรีฝันหวานถึงตำแหน่งหวางเฟยอยู่อีกคน” ใบหน้าของถางซือเซียนบึ้งตึงขึ้นเล็กน้อย

    “เป็นผู้ใด…ฉินอ๋องผูกใจรักใคร่กับนางหรือ” ถึงจะรู้สึกหนักอึ้งอยู่ในอก แต่ต่อให้ตายอยู่ตรงนี้ นางก็ต้องรู้ความจริงทั้งหมดให้ได้ 

    “มิได้ เลี่ยงหรงเกอเกอไม่ชอบนาง เป็นท่านหญิงกุ้ยอินต่างหากที่ตามตื๊อไม่เลิก ปีที่แล้วท่านหญิงกุ้ยอินถึงกับเป็นลมตอนที่ฮ่องเต้ทรงพระราชทานพี่น้องสกุลลู่ให้เลี่ยงหรงเกอเกอ” สตรีร่างเล็กตอบพลางกลั้วหัวเราะ

    “เจ้าดูสนิทสนมกับท่านอ๋องเป็นอย่างยิ่ง เช่นนั้นคงทราบกระมังว่าท่านอ๋องชอบพอผู้ใดอยู่”

    พอได้ยินคำถาม ถางซือเซียนทำท่าทางครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง มือเรียวงามลูบปอยผมที่ร่วงหล่นลงมาไปทัดไว้ที่ใบหู เสียงหัวเราะสดใสบาดเข้าไปยังหัวใจของผู้ที่กำลังรอฟัง นางพยักหน้าน้อย ๆ แล้วคลี่ยิ้มเจิดจ้า สบนัยน์ตาสตรีที่นั่งหน้าซีดด้วยความอดกลั้น

    “อืม...เท่าที่ข้ารู้ยังไม่มี แต่เลี่ยงหรงเกอเกอบอกว่า...ชอบข้าที่สุด” 

    “เขาบอกว่าชอบเจ้าหรือ” เยี่ยนเยว่ฉีตกใจ นัยน์ตาดอกท้อหวานล้ำเบิกกว้าง แทบไม่อยากเชื่อหูตนเองว่า บุรุษที่เพียรใช้อุบายขอตนเองแต่งงานเมื่อครู่จะเที่ยวฝากรักไปทั่วเช่นนี้ “เจ้ารับได้ที่เขาจะมีภรรยาหลายคนเช่นนั้นหรือ”

    “ย่อมยอมรับได้ หากเลี่ยงหรงเกอเกอพึงใจผู้ใด ข้ามีแต่จะส่งเสริม แต่หากเขาไม่ชอบแล้วล่ะก็...” ถางซือเซียนพูดทิ้งท้ายราวกับกลั่นแกล้ง แล้วดื่มชาต่อไปด้วยท่าทีเฉื่อยเนือย “อ่อ ข้าลืมบอกคุณหนูเยี่ยนไปเสียสนิท ที่ผ่านมาหากข้าบอกว่าไม่ เลี่ยงหรงเกอเกอก็ไม่มีวันรับสตรีนางนั้นเข้าจวนเช่นกัน” 

    หลังได้ฟังประโยคสุดท้าย เยี่ยนเยว่ฉีรู้สึกว่ารอยยิ้มที่แขวนอยู่บนหน้าถางซือเซียนยามนี้ช่างน่าชังยิ่งนัก

    เยี่ยนเยว่ฉีอยากลุกขึ้นเขย่าร่างสตรีตรงหน้า แล้วตบปากเล็ก ๆ นั้นเสียฉาดหนึ่งให้สาสมกับความเจ็บปวดที่ตนเองได้รับ อยากเอ่ยออกไปเหลือเกินว่านางต่างหากคือคนที่มู่เลี่ยงหรงเลือก แต่ยังคงปั้นหน้าสงบนิ่งเอาไว้ เหตุเพราะที่นี่คือวังหลวง

    'อดทนไว้เยว่ฉีเอ๋ย หาไม่แล้วท่านพ่อจะขายหน้า' แม้จะคิดเช่นนี้ แต่ปากก็อดถามถางซือเซียนมิได้ “ดูคุณหนูถางจะมั่นใจเสียเหลือเกิน อย่าบอกนะว่าเจ้าเองก็หวังตำแหน่งฉินหวางเฟย”

    “คุณหนูเยี่ยนเข้าใจผิดแล้ว สำหรับซือเซียน ตำแหน่งหวางเฟยไม่ได้สำคัญอะไรสักนิด แต่เป็นน้ำหนักของข้าในใจของเลี่ยงหรงเกอเกอต่างหากที่ทุกคนริษยา”

    เยี่ยนเยว่ฉียิ้มก็ไม่ได้ร้องไห้ก็ไม่ออก ดูท่าทางความสัมพันธ์ของคนทั้งสองจะแน่นแฟ้นมากกว่าที่นางคิดเอาไว้มากมายนัก 

    แต่ถ้าถางซือเซียนคือคนที่นั่งในใจมู่เลี่ยงหรง แล้วนางเล่า...นางมีฐานะอะไรในใจของเขากัน

    เยี่ยนเยว่ฉีปรายตามองบุรุษในชุดคลุมชินอ๋องสีดำหรูหรา เมื่อครู่ตนหลงคิดว่าเขาคือเนื้อคู่ตามลิขิตสวรรค์ที่พี่ชายคนรองบอก เผลอทึกทักเอาเองว่าอ๋องผู้นี้จะเป็นคนที่เคียงข้างกันไปจวบจนชั่วชีวิต 

    แต่ชายผู้นั้นไม่ได้มีใจเดียว ไม่มีทางรักนางอย่างลึกซึ้ง ทั้งหมดที่เกิดขึ้นคงเป็นเพราะพึงใจในความงามเพียงฉาบฉวย 

    มีคำกล่าวที่ว่า ภรรยาเอกควรค่าแก่การยกย่อง ส่วนผู้ที่ได้ความรักล้วนเป็นอนุโฉมงาม

    ใช่สิ ฉินอ๋องแค่เล่นเล่ห์ให้นางใช้ร่างกายแลกกับโทษตาย ส่วนตำแหน่งฉินหวางเฟย ที่บอกว่ายอมยกให้คงเป็นเพราะเห็นแก่หน้าท่านพ่อก็เท่านั้น

    ‘ข้าช่างโง่งมเหลือเกิน’

    เยี่ยนเยว่ฉีไม่มีแก่ใจจะสนทนาอะไรกับถางซือเซียนอีก ได้แต่ก้มหน้ามองขลุ่ยหยกในมือข้างซ้าย 

    นิ้วเรียวยาวลูบไปบนผิวของตี๋จื่อ[2]ที่ถูกบุรุษผู้นั้นผิวผ่าน เขาบรรเลงเพลงรักนกยวนยางให้นางฟัง ทั้งหมดเป็นเพียงการกระทำของชายเจ้าชู้ ไม่ได้มีความจริงใจอะไรทั้งสิ้น ทว่านางกลับหลงชื่นชมเขาจนเกือบมอบใจให้ 

    ช่างน่าอดสูเหลือเกิน 

    ก่อนที่น้ำตาจะไหลออกมา นางกำนัลผู้หนึ่งก็เข้ามาขัดจังหวะห้วงคิดของเยี่ยนเยว่ฉี

    “คุณหนูเยี่ยน ได้โปรดตามข้าน้อยไปรอแสดงที่ด้านหลังด้วยเจ้าค่ะ”

    “ได้” นางตอบสั้น ๆ แล้วรีบลุกออกจากตรงนั้นในทันที ไม่แม้แต่จะร่ำลาถางซือเซียนสักคำ

    เยี่ยนเยว่ฉียังคงเจ็บแปลบในอก ทั้งว้าวุ่นสับสนระคนปวดร้าว หยาดน้ำตาคลอเบ้าจนเกือบจะไหลออกมา เพียงแค่คิดว่ามู่เลี่ยงหรงบอกชอบสตรีอื่นก็รู้สึกราวกับตนสูญเสียสิ่งสำคัญไปแล้ว 

    “ที่แท้ก็เป็นบุรุษมากรักหลายใจ!” เยี่ยนเยว่ฉีเผลอพูดออกมาด้วยเสียงอันเบาหวิว

    “คุณหนูว่ากระไรนะเจ้าคะ” นางกำนัลที่เดินนำหน้าอยู่หันกลับมามองหญิงสาวที่เดินตามอยู่ด้านหลัง

    “ขะ...ข้าแค่นึกถึงเนื้อเพลงที่จะเล่น” สตรีผู้เจ็บปวดแก้ตัวอย่างเสียมิได้ นางตัดสินใจอดทนเก็บอารมณ์ซ่อนไว้ลึกสุดใจ บุตรสาวแม่ทัพใหญ่เชิดหน้าแล้วก้าวต่อไป ทั้งที่ในใจยังคงตะโกนกึกก้อง

    'มู่เลี่ยงหรงคนเลว!' 


     


    [1] เกอเกอ แปลว่า พี่ชาย ใช้เรียกขานพี่แท้  ๆ หรือผู้ชายที่สนิทชิดเชื้อมาก ๆ ก็ได้

     

    [2] ตี๋จื่อ คือ คำเรียกขลุ่ยจีน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×