ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว 王上 您上我 (รีอัพ)

    ลำดับตอนที่ #2 : ท่านอ๋อง...ข้าจะหาพระชายาให้ท่านเอง (1)

    • อัปเดตล่าสุด 2 ก.พ. 65


    เมืองหลวงแคว้นหานทั้งเจริญรุ่งเรืองและมั่งคั่ง ทั้งอาคารบ้านเรือนหรือก็ใหญ่โตสวยงาม มีถนนศิลาดำทอดยาวทำให้การเดินทางในเมืองเป็นไปอย่างสะดวกสบาย 

    เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย เมืองหลวงจึงแบ่งออกเป็นหลายเขต ทั้งเขตการค้า เขตรื่นเริง เขตที่อยู่อาศัยของขุนนาง เขตพำนักของเหล่าราชนิกุล และสำคัญที่สุดคงหนีไม่พ้นวังหลวงอันใหญ่โตแห่งแคว้น

    ไม่ว่าจะมองไปที่ใด ก็เจอแต่ผู้คนแต่งกายด้วยอาภรณ์อันงดงาม นอกจากนี้ยังสามารถพบเห็นคนจากแคว้นอื่น ๆ ที่เข้ามาลงทุนทำการค้า หรือท่องเที่ยวเยี่ยมชมเมืองหลวงที่ได้ชื่อว่างดงามกว่าแคว้นใดในดินแดนใกล้เคียง 

    ที่นี่เป็นแหล่งรวมสิ่งต่าง ๆ ทั้งในและนอกแคว้น ทำให้บรรยากาศการซื้อขายสินค้าเป็นไปอย่างคึกคัก หากต้องการสิ่งใดเพียงไปหายังย่านการค้าก็จะเจออย่างแน่นอน ทั้งแพรพรรณ ขนสัตว์ เครื่องประดับ รวมไปถึงสมุนไพร ไม่เว้นแม้แต่สัตว์หายากจากต่างแคว้น แต่ถ้าต้องการสั่งทำเครื่องประดับก็เพียงแวะไปยังร้านค้าเก่าแก่ของช่างฝีมือแห่งเมืองหลวง

    เนื่องจากอยู่ภายใต้เงาขององค์ฮ่องเต้ทำให้บรรยากาศสุขสงบไร้เรื่องร้ายรบกวน หรือหากจะเกิดเรื่องก็มิพ้นสายตาของมือปราบแห่งเมืองหลวงไปได้       

     

    เขตที่อยู่อาศัยของราชนิกุล

    ในบรรดาที่พำนักของราชนิกุล จวนฉินอ๋อง มู่เลี่ยงหรง ผู้เป็นพระอนุชาร่วมสายพระโลหิตของฮ่องเต้ มู่เหวินหลง กินอาณาเขตกว้างขวางที่สุด       

    งานประดับตกแต่งและวัสดุในการสร้างล้วนเป็นของชั้นหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นสิงโตหินคู่ที่นั่งพิทักษ์ประตูบานใหญ่เคียงข้างองครักษ์หลวงในชุดเกราะน่าเกรงขาม เบื้องหลังบานประตูไม้มะเกลื่อสีดำขลับขนาดใหญ่เป็นทางเดินศิลาทอดยาวถึงประตูโค้งใต้มุขหน้าจวน สองข้างทางขนาบไปด้วยต้นสนขนาดใหญ่ให้บรรยากาศเคร่งครึม ทำให้เหล่าผู้มาเยือนรู้สึกถึงความสูงส่งของผู้เป็นเจ้าของจวน

    ภายในห้องโถงต้อนรับโอ่อ่างดงาม เครื่องประดับตกแต่งและภาพวาดประดับผนังล้วนเป็นสมบัติโบราณมีค่าควรเมือง ที่นั่งประธานตรงกลางโถงทำจากไม้สักฉลุลายพยัคฆ์จากช่างฝีมือของวังหลวง เพิ่มความนุ่มสบายด้วยเบาะผ้าแพรหรูหราสำหรับหน้าร้อน และปูด้วยขนจิ้งจอกเงินสำหรับฤดูหนาว บรรยากาศโดยรอบเคลือบแผงกลิ่นอายอันสูงศักดิ์ของราชนิกุลทุกกระเบียด

    ส่วนของเรือนพำนักประกอบด้วยเรือนหลัก เรือนเล็ก และเรือนสำหรับต้อนรับแขกรวมทั้งสิ้นสิบสองหมู่ ระหว่างทางเดินเชื่อมไปยังเรือนต่าง ๆ จะมีสวนไม้ดอกไม้ประดับเจริญตาอย่างยิ่ง นอกจากนี้ภายในจวนยังมีสระบัว สวนหิน รวมไปถึงหุบเขาจำลองขนาดใหญ่อีกด้วย 

    บัดนี้หิมะละลายสิ้น แม้ยังมีลมหนาวพัดผ่าน แต่ท่ามกลางแสงอาทิตย์อันอบอุ่นก็ช่วยให้อากาศเย็นสบายเหมาะแก่การพักผ่อน

    ภายในศาลาริมสระบัวขนาดใหญ่ปรากฏเงาร่างของสองบุรุษ หนึ่งคือถางซือเซิน อัครเสนาบดีฝ่ายซ้าย สหายของผู้เป็นเจ้าของจวนหลังงามนี้ เขามีใบหน้าคมคาย ปากบางคล้ายอมยิ้มเล็กน้อย นัยน์ตาลุ่มลึก สวมอาภรณ์สีฟ้าจากผ้าเนื้อดี เปล่งรัศมีของผู้มีภูมิอย่างเต็มเปี่ยม อีกหนึ่งคือฉินอ๋อง มู่เลี่ยงหรง ผมสีดำขลับราวปีกกาถูกครอบเก็บใต้กวานทองซึ่งเป็นเครื่องแสดงฐานะ บุรุษในอาภรณ์สีฟ้าแผ่รัศมีสูงศักดิ์ตามแบบฉบับราชนิกุลอันดับหนึ่ง

    “เจ้าคิดนานไปแล้วซือเซิน” มู่เลี่ยงหรงเปล่งวาจาเร่งรัดบุรุษที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกระดานหมาก มุมปากระตุกเป็นรอยยิ้มคล้ายเย้ยหยัน นัยน์ตาดุจเหยี่ยวฉายแววเย็นชาเหมือนยามปกติ 

    “ซือเซินแพ้แล้ว” อัครเสนาบดีกล่าวเสียงขรึม ทว่าหาได้มีแววใส่ใจกับความพ่ายแพ้อยู่ในน้ำเสียงสักนิด

    “ผิดแล้ว...หมากของเจ้ามิได้เลว แต่วันนี้สหายของข้าไม่มีสมาธิกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้ามากกว่า มีเรื่องใดทำให้กังวลใจอย่างนั้นหรือ” มู่เลี่ยงหรงถามพลางละสายตาขึ้นจากกระดานหมาก

    ผู้สูงศักดิ์ผินมองนางกำนัลที่ยืนรอรับใช้ เพียงเท่านั้นนางพลันกระวีกระวาดรินชาชั้นดีลงจอกแล้วยื่นให้ผู้เป็นนายอย่างรู้งาน

    จมูกโด่งสูดดมไอร้อนแฝงกลิ่นหอมล้ำเลิศก่อนจรดริมฝีปากหยักได้รูปจิบชาเบา ๆ ครั้นเห็นสหายยังคงนิ่งเฉยจึงเอ่ยถามอีกคราหนึ่ง

    “ซือเซิน เจ้ามีอะไรก็ว่ามาเถิด”

    “งานเลี้ยงชมดอกเหมยปีนี้ ฝ่าบาทอยากให้ท่านอ๋องไปด้วย”

    “แค่ชมดอกไม้ หากข้าไม่ไป งานก็คงยังจัดได้อยู่กระมัง อีกอย่าง พระเชษฐาทรงรับปากแล้วว่าจะไม่พระราชทานสาวงามคนไหนให้อีกหากข้ามิได้ร้องขอ” มู่เลี่ยงหรงขมวดคิ้วเมื่อคิดถึงงานชมดอกเหมยปีก่อน เขาจำต้องแต่งกับบุตรีฝาแฝดของเจ้ากรมอาญามาเป็นชายารองของตน ก่อนหน้านั้นก็ได้ชายารองคนแรกเป็นบุตรสาวเสนาบดีกรมพระคลัง 

    หลังจากได้ชายารองอย่างไม่เต็มใจสองปีติดต่อกัน มู่เลี่ยงหรง แทบไม่ร่วมงานประเภทรวมเหล่าสตรีอีกเลย หากหลีกเลี่ยงมิได้ บางทีก็หาเรื่องกลับออกจากงานก่อน บางครั้งก็เร้นกายหายออกจากที่นั่ง 

    ความจริงเขารู้สึกไม่เป็นสุขที่ต้องเสียมารยาทในงานพิธีต่าง ๆ ยิ่งนัก จนในที่สุดท่านอ๋องหนุ่มจึงตัดสินใจเข้าเฝ้าโอรสมังกร แล้วเอ่ยขอคำสัญญาเกี่ยวกับการเลือกพระชายาจากพระเชษฐา พระองค์ก็ทรงรับปากว่าจะไม่พระราชทานหญิงสาวให้หากพระอนุชาไม่ร้องขอ 

    แต่เหมือนฮ่องเต้มู่เหวินหลงจะชอบอกชอบใจยามเห็นใบหน้าของเขาเปลี่ยนสี หากบุคคลผู้นี้มิใช่ฮ่องเต้ ท่านอ๋องหนุ่มก็อยากจะเอามีดกรีดบนใบหน้าอันรื่นเริงของพระเชษฐาร่วมอุทรยิ่งนัก

    โปรดติดตามตอนต่อไป

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×