คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #18 : พบจิ้งจอกสีเงินแห่งแคว้น (3)
สิ้นคำสั่งผู้เป็นนาย องครักษ์หนุ่มชักอาวุธประจำกายแล้วพุ่งทะยานไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว เพลงดาบของซิ่นเฉิงนับเป็นสุดยอดวิชา ความสามารถอยู่ในระดับผู้เยี่ยมยุทธ์ ดังนั้นหากเป็นคนฝีมือธรรมดาย่อมไม่สามารถต่อกรกับชายชุดเทาผู้นี้ได้เลย
เยี่ยนจิ้นหลิงกลั้วหัวเราะเสียงดัง วิ่งหลบคมดาบอันว่องไวปานสายลมอย่างสนุกสนาน
คนหนึ่งหนีคนหนึ่งตาม
ทุก ๆ ครั้งที่ซิ่นเฉิงตวัดแขนฟาดฟัน เขาจะหลบได้ทันอย่างเฉียดฉิว เป็นภาพน่าหวาดเสียวยิ่งนัก
“อะ...ข้ากลัวนะ” จิ้งจอกหนุ่มวิ่งหนีไปรอบ ๆ แต่สีหน้าแววตาไม่มีความตระหนกเลยสักนิด แถมยังหัวเราะเยาะหยันองครักษ์เบาๆ อีกด้วย
เวลาผ่านไปราวครึ่งก้านธูป การเล่นไล่จับนี้ก็ยังไม่มีทีท่าจะจบลง มู่เลี่ยงหรงหงุดหงิดเป็นอย่างยิ่ง รู้สึกว่าตนกำลังถูกคนผู้นี้เยี่ยนจิ้นหลิงหยามเกียรติเข้าให้แล้ว
ฉินอ๋องรวบรวมลมปราณบนฝ่ามือแล้วซัดใบไม้กลุ่มหนึ่งใส่เยี่ยนจิ้นหลิงทันที โดยเน้นที่จุดตาย...
กุนซือหนุ่มหมุนตัวหลบ ‘อาวุธลับ’ อันหลอมรวมพลังคมกริบซึ่งพุ่งเข้ามาหมายเอาชีวิตตนเองไว้ได้ทัน แต่ผมสีเงินปอยหนึ่งถูกตัดขาดร่วงหล่นกระจัดกระจาย
เยี่ยนจิ้นหลิงหยุดหัวเราะแล้วเหลือบมองมู่เลี่ยงหรงด้วยสายตาเย็นยะเยือกแวบหนึ่ง แล้วถอนสายตาออกทันทีโดยไม่มีใครทันสังเกตเห็น
“ท่านอ๋อง...ฝีมือตัดผมของท่านช่างเฉียบขาด” เขากล่าวทั้ง ๆ ที่ยังวิ่งหลบซิ่นเฉิงไปด้วย
“คราวหน้าข้าจะไม่ตัดแค่ผมเจ้า!” มู่เลี่ยงหรงตวาด
“น่ากลัวจริง ๆ อย่างนั้นแล้ว กระหม่อมคงต้องเลิกเล่นกับองครักษ์จอมลามกของท่านเสียที”
เมื่อได้จังหวะ บุรุษผมเงินก็ใช้พัดตบเบา ๆ ที่หลังมือซิ่นเฉิงทีหนึ่ง ความเจ็บปวดแล่นแปลบแผ่ลามไปทั่วผิวเนื้อสีเข้ม องครักษ์หนุ่มรู้สึกถึงความปวดร้าวบนหลังมือ จึงไม่อาจถือดาบหนักสามสิบชั่งได้อีกต่อไป
เคร้ง!
ดาบของซิ่นเฉิงหล่นบนพื้นศิลา ทำให้การเล่นไล่จับเมื่อสักครู่หยุดลงในทันที
เยี่ยนจิ้นหลิงส่งนัยน์ตาและรอยยิ้มเย้ยหยันให้องครักษ์หนุ่มไปทีหนึ่ง ความจริงเขาอยากจะขยี้ปากร้ายนั้นมากกว่า แต่ก็กลัวชุดสีขาวราคาแพงระยับของตนเองเปื้อนเลือด แล้วจะเผลอลงมือหนักกว่านี้
ครั้นยังเห็นกลิ่นอายสังหารของฉินอ๋องพวยพุ่งไม่ยอมหยุด คนขี้แกล้งอย่างเยี่ยนจิ้นหลิงก็อดที่จะหยอกเย้าบุรุษขี้โมโหต่อไปไม่ได้
“โอ้...ท่านอ๋องเล่นแรงไปแล้ว จิ้นหลิงกลัวนะพ่ะย่ะค่ะ”
“หึ! เราเหมือนล้อเจ้าเล่นอย่างนั้นหรือ อย่าให้เราต้องลงมืออีก”
“ใจร้ายจัง...ใบไม้นั่นเล็งจุดตายเชียวนะ”
เยี่ยนจิ้นหลิงทำน้ำเสียงตัดพ้อ เขากัดปาก เอียงคอ นัยน์ตาสีน้ำตาลสั่นระริก ทำหน้าราวกับว่าตนเองกำลังได้รับความเจ็บปวดใจ
“หยุดทำหน้าเยี่ยงนั้นนะ!” ท่านอ๋องหนุ่มคิ้วกระตุก รู้สึกสะอิดสะเอียน “เป็นเจ้ารนหาที่ตายเอง”
“จุ๊ ๆ เป็นท่านอ๋องแท้ ๆ ที่เรียกกระหม่อมออกมา เหตุใดจึงโยนหม้อดำมาให้จิ้นหลิงเล่า”
“เปิ่นหวางจะถามเป็นครั้งสุดท้าย เจ้าลอบติดตามมาด้วยจุดประสงค์อันใดกันแน่ อ่อ คิดให้ดีก่อนตอบเล่า มิเช่นนั้นเปิ่นหวางจะไม่ละเว้นเจ้าอีก”
“อุ้ย! ผู้ใดคอยตามท่านอ๋องกัน จิ้นหลิงเป็นบุรุษแท้ ๆ มิได้เป็นพวกรักชอบหลงหยาง[1]เสียหน่อย” ชายหนุ่มทำหน้าตกใจ กะพริบตาปริบ ๆ ส่งให้ฉินอ๋อง
“ถ้าอยากตายนัก เราจะสงเคราะห์ให้” ชายสูงศักดิ์ตวาด รู้สึกขนลุกกับสายตาของบุรุษอีกคนเสียเหลือเกิน
“ท่านจะฆ่าว่าที่พี่ภรรยาได้ลงคออย่างนั้นหรือ” เยี่ยนจิ้นหลิงใช้ไม้ตาย จ้องนัยน์ตาสีนิลอันเต็มไปด้วยเพลิงโทสะนิ่ง ถือเป็นการหยั่งเชิงว่าที่น้องเขยไปพลาง ๆ
“เจ้ามันโรคจิต” เมื่อคิดว่าเจ้าจิ้งจอกหน้าตายเห็นอะไรบ้างมู่เลี่ยงหรงก็ยิ่งมีโทสะ
“จิ้นหลิงไม่เห็นอะไรเลยจริง ๆ แต่เสียง...ช่างชัดเจนเสียเหลือเกิน” ชายผมเงินหัวเราะเบา ๆ คลี่พัดมาบดบังริมฝีปากของตนเอาไว้ หรี่นัยน์ตาจิ้งจอกลง
“เยี่ยนจิ้นหลิง เจ้าตายเสียเถอะ!” มู่เลี่ยงหรงคำรามก้อง หมายจะสับบุรุษหน้าทะเล้นผู้นี้เป็นหมื่น ๆ ชิ้นแล้วเอาไปโยนให้สุนัขกินเสียให้รู้แล้วรู้รอด เขารู้สึกกระดากที่ถูกล่วงเกินความเป็นส่วนตัว
“ช้าก่อน ถ้าท่านอ๋องฆ่ากระหม่อม พระจันทร์ดวงน้อย[2]คงเกลียดท่านเข้าไส้ ข้าเป็นถึงพี่ชายสุดที่รักของนางเชียวนะ” เขายังมิวายหยอกล้อฉินอ๋อง ด้วยบทสนทนาอันแสนส่วนตัวของชายหญิงในถ้ำ
มู่เลี่ยงหรงหมดความอดทนจึงรวบรวมลมปราณอีกครั้ง ก่อนจะวางเท้าลงบนพื้นแล้วพุ่งทะยานไปหาผู้โอหัง หมายจะกระชากศีรษะที่มีใบหน้ายียวนกวนประสาทนั้นให้หลุดจากบ่าด้วยฝ่ามือเดียว
ขณะที่กรงเล็บกำลังจะแตะถูกกระหม่อมของบุรุษรูปงาม เยี่ยนจิ้นหลิงก็เคลื่อนกายถอยหลังหลบอย่างเฉียดฉิวเช่นเดิม
จังหวะนี้ทำให้มู่เลี่ยงหรงมั่นใจว่า ที่ผ่านมานั้นบุรุษผมสีเงินจงใจหลบในจังหวะสุดท้าย วรยุทธ์ของกุนซือหนุ่มอาจจะอยู่ในขั้นสูงพอ ๆ กับเขาเลยด้วยซ้ำ
'วิชาตัวเบาไม่ธรรมดาเลย'
[1] รักชอบหลงหยาง หมายถึงพวกชายรักชาย
[2] พระจันทร์ดวงน้อย ชื่อของนางเอกมีคำว่าดวงจันทร์ และท่านอ๋องเรียกนางว่าเสี่ยวเยว่
ความคิดเห็น