ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว 王上 您上我 (รีอัพ)

    ลำดับตอนที่ #12 : ตอนที่ยังไม่ได้ตั้งชื่อ

    • อัปเดตล่าสุด 4 ก.พ. 65


    กระโจมงานเลี้ยงชมดอกเหมย

    “ฮ่องเต้เสด็จแล้ว” หลิวกงกงเดินเข้ามาในกระโจมจัดเลี้ยง แล้วเปล่งเสียงอันดัง บรรดาแขกเหรื่อก็ยืนขึ้นเตรียมต้อนรับองค์ประธานในพิธี

    ฮ่องเต้มู่เหวินหลงเป็นบุรุษรูปโฉมงามสง่า กล่าวได้ว่ามีราศีของโอรสสวรรค์อยู่อย่างเต็มเปี่ยม 

    เมื่อมองพระพักตร์จะพบว่าทรงมีรูปลักษณ์คล้ายคลึงฉินอ๋องอยู่สามส่วน แต่ไม่ทรงเย็นชาเท่า แม้พระองค์มักจะแย้มพระสรวลอยู่บ่อยครั้ง พระพักตร์เปี่ยมด้วยพระเมตตา แต่ความน่าเกรงขามก็ไม่ได้ลดลง พระเนตรคมกริบคู่นั้นเหมือนจะมองทะลุถึงใจคน แผ่รังสีกดดันรอบพระวรกาย ทำให้บรรดาขุนนางทั้งหลายมิกล้าเสี่ยงแตะเกล็ดย้อนของมังกร[1]

    ฮ่องเต้มู่เหวินหลงฉลองพระองค์สีทองอร่าม ปักลวดลายมังกรเก้าตัวโลดแล่นอยู่เหนือระลอกน้ำรอบชายชุดคลุม ทุกฝีเข็มช่างหลวงออกแบบด้วยความพิถีพิถัน แลดูงดงามล้ำค่าสมเป็นฉลองพระองค์ของโอรสสวรรค์ 

    ฮ่องเต้เสด็จมาพร้อมกับฮองเฮา ไทเฮา และเหล่าพระสนมเอก พระองค์ค่อย ๆ พระดำเนินผ่านบรรดาเชื้อพระวงศ์ ขุนนาง และคนในครอบครัวที่ได้รับสิทธิ์ร่วมงานไปยังตำแหน่งประธานของกระโจมจัดเลี้ยง 

    เมื่อทรงประทับลงบนตำแหน่งประธานเรียบร้อยแล้ว บรรดาแขกเหรื่อก็กล่าวถวายพระพรโดยพร้อมเพรียง

    “ขอฮ่องเต้ทรงพระเจริญหมื่นปี หมื่น ๆ ปี”

    ฮ่องเต้ทรงอนุญาตให้ทุกคนลุกขึ้นได้ จากนั้นเปล่งสุรเสียงประกาศเริ่มงานเลี้ยงทันที 

    เสียงดนตรีเริ่มประโคมบรรเลงบทเพลงสำหรับการแสง นางระบำชุดแรกก็วิ่งออกมาร่ายรำอย่างงดงาม สร้างความสุขสำราญอย่างเต็มที่ นางกำนัลทยอยยกสุราชั้นดีกับอาหารเลิศรสที่หาทานได้ยากเข้ามาภายในงาน 

    เมื่อถึงเวลานี้ก็จะสามารถมองเห็นได้ว่าใครนั่งอยู่ตรงไหนบ้าง ที่นั่งของแขกถูกแบ่งออกเป็นสองฝั่งแยกชายหญิง มีลานแสดงกั้นอยู่ตรงกลาง บริเวณฝั่งของสตรีจะมีผ้าโปร่งบาง ๆ ลงมาบดบังสายตาจากฝั่งตรงข้าม แต่ก็ยังพอให้เหล่าบุรุษได้ยลโฉมของเหล่าสตรีทั้งหลาย ทั้งชายหญิงต่างหาผู้ที่ตนพึงใจโดยใช้สายตาส่งประสานเชื่อมสัมพันธ์ หากบิดามารดาเห็นด้วยก็ส่งแม่สื่อไปทาบทามสู่ขอตามประเพณี

    มู่เลี่ยงหรงจิบสุราอย่างใจเย็น มีขุนนางมาขอคารวะสุรามากมาย เขาพันจอกไม่เมาหน้าไม่เปลี่ยนสี แต่วันนี้ไม่อยากดื่มจนเสียเรื่อง สุดท้ายจึงแผ่รังสีเย็นเยียบไปรอบกาย ส่งผลให้บรรดาขุนนางหยุดเข้ามาที่โต๊ะทันที เมื่อไล่บุคคลน่ารำคาญเหล่านี้ไปได้แล้ว ชายหนุ่มก็นั่งนับเวลารอให้สตรีในห้วงคำนึงได้รับจดหมาย

    เยี่ยนเยว่ฉีสีหน้าไม่ดีนัก เพราะทำขลุ่ยพลิ้วพรายหายไปทั้งที่งานเลี้ยงเริ่มแล้ว การแสดงก็ดำเนินไปเรื่อย ๆ โชคดีที่นางอยู่ลำดับสุดท้ายของรายชื่อ หญิงสาวได้แต่นั่งรอซูจิ้งหาขลุ่ยหยกกลับมา นางชำเลืองมองไปทางเข้ากระโจมครั้งแล้วครั้งเล่า 

    หญิงสาวจิบน้ำชาลงไปอีกหลายอึก ความกระวนกระวายทำให้ความอยากอาหารหายไปสิ้น ขณะนั้นเองนางกำนัลผู้หนึ่งแอบยื่นจดหมายให้อย่างเงียบ ๆ แล้วหันหลังจากไปทันทีโดยไม่กล่าวอะไร เยี่ยนเยว่ฉีคลี่กระดาษเปิดอ่านทันที

     

    ขลุ่ยพลิ้วพรายงดงามล้ำค่าปรารถนาจะคืนสู่ผู้เป็นเจ้าของอีกครา

    จงมาพบข้าที่ภูเขาจำลองของอุทยานฝั่งตะวันออกเพียงผู้เดียว

     

    คนงามพลิกจดหมายไปมาแต่ก็ไม่พบสิ่งใดเขียนไว้อีก

    นางลังเลอยู่ครู่หนึ่งว่าจะออกไปตามนัดดีหรือไม่ ในใจก็รู้สึกหวาดระแวงอยู่ไม่น้อย แต่ที่นี่คือวังหลวงจึงคิดว่าไม่น่าจะมีคนร้ายได้ บางทีผู้ที่เก็บขลุ่ยของนางได้อาจจะมิใช่ผู้ที่ได้รับเชิญในงานเลี้ยง ด้วยเหตุนี้กระมังจึงต้องนัดให้ไปรับคืนในบริเวณอื่นแทน

    ในที่สุดหญิงสาวก็ตัดสินใจก้าวเดินออกไปจากงานเลี้ยง

    ด้วยความใจร้อนอยากได้ขลุ่ยหยกคืนโดยเร็ว พอก้าวขาออกจากงานเลี้ยงได้เท่านั้น นางก็รีบวิ่งจนอาภรณ์สีชมพูสะบัดพลิ้ว เป้าหมายคืออุทยานตะวันออก

    เยี่ยนเยว่ฉีใช้เวลาไม่ถึงครึ่งเค่อก็มาถึงภูเขาจำลองขนาดใหญ่ พาร่างงามเข้าไปภายในอย่างรีบร้อน นัยน์ตาหวานหยาดเยิ้มพยายามสอดส่ายหาเจ้าของจดหมาย เมื่อไม่พบผู้ใด ก็ตัดสินใจเดินลึกเข้าไปตามเส้นทางอันคดเคี้ยว 

    ภูเขาจำลองของวังหลวงช่างใหญ่โตกว่าที่คิด เยี่ยนเยว่ฉีเริ่มรู้สึกเหนื่อยล้า นางทั้งเดินทั้งวิ่งจนมาถึงน้ำตกจำลองอันสวยงาม

    ทันใดนั่นเอง หญิงสาวเหลือบเห็นเงาของคนผู้หนึ่งหายเข้าไปตรงทางเขาถ้ำใต้น้ำตก 

    คนงามลังเลที่จะตามเข้าไป แต่หากเป็นคนที่พบขลุ่ยหยกของนางเล่า

    เยี่ยนเยว่ฉีสูดหายใจลึกเพื่อเรียกความกล้า แล้วจึงเดินเข้าไปใต้น้ำตกอย่างช้าๆ มองซ้ายมองขวาอย่างระแวดระวัง 

    เมื่อเข้ามาถึงภายในถ้ำหลังน้ำตกก็ปรากฏภ าพของบุรุษในชุดคลุมชินอ๋องสีดำยืนหันหลังอยู่

    นั่นมันฉินอ๋องนี่

    เยี่ยนเยว่ฉีรู้สึกได้ถึงเสียงของหัวใจที่เต้นระรัว


     


    [1] ตามตำนานของจีนเชื่อว่ามังกรมีเกล็ดย้อนอยู่เกล็ดหนึ่ง หากไปสัมผัสเข้าจะทำให้มังกรคลุ้มคลั่ง มักใช้เปรียบกับการไม่กล้าล่วงเกินฮ่องเต้ให้ทรงกริ้ว เพราะอาจจะถูกลงพระอาญาอย่างหนัก

    ****************

    คุยกันท้ายตอน

    ขออภัยที่หายไปหลายวันนะคะ ไรท์เข้าถ้ำเพื่อรีไรท์ต้นฉบับท่านอ๋องเล่ม1 ให้ทันจำหน่ายก่อนปีใหม่ค่ะ ปกน้องเยว่ฉีสวยมากเลยน้า แต่ถ้าใครรออ่านรายตอนอยู่ ไรท์จะยังอัพต่อไปตามสัญญานะคะ 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×