ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว 王上 您上我 (รีอัพ)

    ลำดับตอนที่ #10 : พานพบสตรี...ผู้นำความยุ่งยากมาให้ (3)

    • อัปเดตล่าสุด 3 ก.พ. 65


    ครั้นคนงามจากไปไกลแล้ว มู่เลี่ยงหรงพบขลุ่ยหยกสลักงดงามเลาหนึ่งตกอยู่ตรงที่นางนั่งคุกเข่าเมื่อครู่ เขาก้มลงเก็บขึ้นมาแล้วพิจารณาขลุ่ยเลานี้อย่างละเอียด พบว่าเป็นขลุ่ยหยกสลักที่สร้างอย่างประณีตงดงาม 

    หยกสีเขียวน้ำงามเรียบลื่นเปล่งประกาย เขาจึงไม่ได้ที่จะลองเป่าดูสักครั้ง แต่ปรากฏว่าไม่มีเสียงใดเล็ดลอดออกมาเลย ท่านอ๋องหนุ่มจึงลงความเห็นว่าผู้ที่สร้างขลุ่ยเลานี้น่าจะไม่ใช่ช่างฝีมือธรรมดาเสียแล้ว

    “แปลกจริง ทำไมไม่มีเสียง ซิ่นเฉิงเจ้ารู้จักขลุ่ยแบบนี้หรือไม่” มู่เลี่ยงหรงเอ่ยถาม ทันใดนั้นองครักษ์ในชุดสีเทาที่เร้นกายอยู่ก็ปรากฏตัวขึ้น

    “เรียนท่านอ๋อง นี่ต้องเป็นขลุ่ยหยกพลิ้วพราย หนึ่งในงานสร้างของปรมาจารย์ไป่หลงจิวไม่ผิดแน่”

    “หากเป็นของปรมาจารย์ขลุ่ยโลกันต์ ย่อมต้องเป่าแบบธรรมดาไม่ได้สินะ”

    “ท่านอ๋องทรงปรีชา ผู้น้อยพอจะทราบมาว่าต้องใช้กำลังภายในควบคู่ไปด้วยพ่ะย่ะค่ะ” 

    มู่เลี่ยงหรงลองทำตามคำแนะนำของซิ่นเฉิงปรากฏว่ามีเสียงออกมาจริง ๆ แต่ไม่ไพเราะเอาเสียเลย หากจะเป่าให้ได้ดีคงต้องเรียนรู้เคล็ดลับและฝึกฝนอย่างตั้งใจเป็นเวลานานพอดู

    “เจ้ารู้ได้ยังไงว่านี่คือขลุ่ยหยกพลิ้วพราย แล้วทำไมมันถึงมาอยู่กับคุณหนูตระกูลเยี่ยนได้ หากขลุ่ยนี้ต้องใช้กำลังภายในเป่า เราเกรงว่ามันจะเป็นอาวุธ”

    “เรียนท่านอ๋อง เรื่องคุณหนูเยี่ยนเป็นศิษย์ของไป๋หลงจิวไม่ใช่ความลับแต่อย่างใด ขลุ่ยเลานี้เขาทำขึ้นให้นางโดยเฉพาะ และกระหม่อมไม่เคยได้ยินว่าบุตรสาวท่านแม่ทัพใหญ่ใช้วิชาขลุ่ยโลกันต์ได้”

    “ไม่เคยได้ยินก็ใช่ว่าจะใช้ไม่ได้ เจ้าประมาทเกินไปแล้ว”

    “กระหม่อมตรวจสอบความปลอดภัยภายในงาน โดยมิได้ละเลยแม้แต่น้อย การแสดงนี้ถูกแจ้งไว้อย่างเปิดเผย ตอนอยู่เมืองหานจีคุณหนูเยี่ยนก็แสดงเพลงขลุ่ยพลิ้วพรายแล้วหลายครั้ง อีกทั้งนางเรียนแค่วิชาดนตรีไม่ได้เรียนวิชาขลุ่ยโลกันต์ ถึงต้องใช้กำลังภายในแต่ก็เพียงเล็กน้อยเพื่อความไพเราะกังวาน” 

    “ซิ่นเฉิง นางอาจจะรอเวลาที่เหมาะสมเช่นวันนี้อยู่ก็ได้ หากเกิดอะไรขึ้นเจ้ารับผิดชอบไหวหรือ”

    “กระหม่อมมั่นใจว่าตรวจสอบละเอียดแล้ว ที่สำคัญวิชาขลุ่ยโลกันต์ต้องใช้ขลุ่ยโลกันต์บรรเลงเท่านั้น ในเมื่ออาวุธร้ายแรงได้ถูกผนึกไปแล้ว ไป่หลงจิ่วก็รับสอนเพียงวิชาดนตรีธรรมดามานานหลายปี ทางราชสำนักเองก็จับตาดูเขาไม่ห่าง”

    “เจ้าแน่ใจรึ แต่เราคงจะนิ่งเฉยอยู่ไม่ได้” ชายหนุ่มไม่อยากประมาท หากเกิดเรื่องร้ายในงานเลี้ยงคงไม่ดีแน่ “เจ้าไปยกพิณหวนคำนึงมาให้เราเดี๋ยวนี้”

    “พ่ะย่ะค่ะ” ซิ่นเฉิงทะยานหายไปทันที

    มู่เลี่ยงหรงตั้งใจแล้วว่าจะต้องตรวจสอบเยี่ยนเยว่ฉีอีกครั้ง ถึงในใจจะรู้สึกหวั่นไหวต่อนางบ้างแล้ว แต่สำหรับเขาความปลอดภัยของฮ่องเต้คือสิ่งที่ต้องคำนึงถึงเป็นอันดับแรก 

    ท่านอ๋องหนุ่มจ้องขลุ่ยหยกสีเขียวในมือพลางครุ่นคิด คุณหนูเยี่ยนคงเริ่มตามหาของสิ่งนี้แล้ว เขาจึงเหน็บขลุ่ยไว้ข้างเอวภายใต้เสื้อคลุมแล้วตรงกลับเข้าไปในงานเลี้ยงทันที 

    บุรุษผู้สูงศักดิ์เดินไปคิดแผนการไป ก่อนอื่นจะต้องหาทางคืนขลุ่ยหยกให้นางเสียก่อน อาจจะต้องใช้อุบายเพื่อเข้าใกล้สตรีผู้นั้น เพื่อตรวจสอบวรยุทธ์ และท้ายที่สุดเขาจะต้องแทรกแซงการแสดงของนางเสีย เมื่ออยู่ใกล้กันยามบรรเลงเพลง หากเกิดเหตุร้ายเขาย่อมแก้ไขสถานการณ์ได้ทันท่วงที 

    ข่าวลือที่ว่าเยี่ยนหยางเจวี๋ยจะถวายตัวบุตรสาวให้ฮ่องเต้คงมีมูลอยู่บ้าง ดีที่พระเชษฐาคิดจะส่งนางเข้าจวนฉินอ๋องแทน 

    เมื่อคิดถึงตรงนี้ในอกข้างซ้ายกลับรู้สึกแปลก ๆ 

    ‘วันนี้ข้าเป็นอะไรไปนะ’

    ตั้งแต่เกิดมามู่เลี่ยงหรงไม่เคยรู้สึกสนใจสตรีใดเป็นพิเศษ ไม่เคยหัวใจเต้นโครมครามถึงเพียงนี้ นี่เพิ่งได้พบนางเพียงครู่เดียวกลับรู้สึกอยากใกล้ชิดสนิทเสน่หา 

    แต่แล้วก็ต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่ เหตุใดเมื่อเขาพบหญิงสาวที่พอจะทำให้หัวใจหวั่นไหวได้บ้าง นางก็ดันมาเป็นศิษย์ของปรมาจารย์ขลุ่ยโลกันต์แห่งยุทธภพเสียอย่างนั้น

    ตอนนี้แม่ทัพใหญ่รักษานครคุมกำลังหนึ่งแสนรอบเมืองหลวง บุตรชายทั้งสองก็มีฝีมือไม่ธรรมดา หากเยี่ยนหยางเจวี๋ยผูกสัมพันธ์กับพวกกังฉินเห็นทีบัลลังก์คงสั่นสะเทือน 

    เช่นนี้เองสินะพระเชษฐาจึงต้องส่งถางซือเซินมาหาเขา

    ด้วยตำแหน่งไคกั๋วกง เยี่ยนหยางเจวี๋ยย่อมไม่ยินดีให้บุตรสาวเป็นเพียงพระสนม หรือพระชายารองของผู้ใด 

    ดังนั้นตำแหน่งฉินหวางเฟยจึงเหมาะสมที่สุด

    เมื่อกระจ่างแจ้งในพระประสงค์ของฮ่องเต้แล้ว มู่เลี่ยงหรงจึงคิดกลับไปบอกแผนการให้แก่อัครเสนาบดีจอมเจ้ากี้เจ้าการ 

    คิดแล้วให้รู้สึกหงุดหงิด พระเชษฐากับสหายของเขาทำไมต้องทำให้เรื่องยุ่งยาก เพียงเอ่ยปากบอกมาตามตรงแต่แรกก็สิ้นเรื่อง หรือบางทีอาจเป็นเพราะคำขอของตนเองกระมัง

    ‘เสด็จพี่ ข้าอยากยกตำแหน่งพระชายาเอกให้สตรีที่รักชอบ’

    คิดมาถึงตรงนี้ มู่เลี่ยงหรงก็ไม่ค่อยแน่ใจแล้วว่า การตัดสินใจยอมรับเรื่องการแต่งงานกับเยี่ยนเยว่ฉี เขาทำไปเพื่อความมั่นคงของราชบัลลังก์ หรือเป็นเพราะต้องการครอบครองโฉมงามกันแน่ 

    ยามนี้เรื่องเดียวที่ท่านอ๋องหนุ่มเป็นกังวล หากเยี่ยนเยว่ฉีเป็นผู้สืบทอดวิชาต้องห้าม เขาก็จำเป็นต้องกำจัดนางอย่างช่วยไม่ได้ หวังเพียงว่าไป่หลงจิวจะรักษาข้อตกลงกับราชสำนัก ไม่ได้ถ่ายทอดเคล็ดวิชาให้บุตรีท่านแม่ทัพใหญ่

    สตรีนางนี้ช่างสร้างความยุ่งยากเสียจริง ถ้าข้าพบว่าเจ้าสามารถใช้เพลงขลุ่ยโลกันต์ได้ล่ะก็ ข้าฉินอ๋องจะบั่นศีรษะของเจ้าด้วยตัวเอง แต่หากว่าเจ้าเป็นผู้บริสุทธิ์ เยี่ยนเยว่ฉีเอ๋ย...เจ้าก็จะกลายเป็นหวางเฟยของข้าตลอดไป

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×