ตอนที่ 1 : แรกพบ
ค่ำคืนที่การจราจรติดขัดฝนตกโปรยปรายกับชายหนุ่มคนหนึ่งที่กำลังนั่งรออยู่ที่ป้ายรถเมล์เพื่อรอรับโทรศัพท์จากใครบางคนแต่จนแล้วจนรอดจนเสื้อผ้าของชายคนนั้นเปียกปอนไปหมดก็ยังไม่มีใครโทรเข้ามาซักสาย
“ฮ..ฮัลโหล”
“คุณชานยอลรึเปล่าครับ”
น้ำเสียงสั่นๆกรอกลงไปในโทรศัพท์หลังจากนั่งรออีกฝ่ายโทรมาหาแต่เมื่อนั่งรอตั้งแต่หกโมงจนกระทั่งเวลาใกล้จะสองทุ่มเข้าไปทุกทีเขาจึงตัดสินใจโทรหาเพราะการโทรหาบุคคลนี้อาจทำให้ชีวิตของเขาและครอบครัวสุขสบายมากกว่าที่เป็นอยู่แม่ไม่ต้องถูกเจ้าหนี้คอยทวงหนี้ไม่ต้องถูกพ่อตบตีเวลาเมาและเขาจะได้หลุดพ้นจากการทำงานอย่างว่า งานอย่างว่าเรียกง่ายๆก็คือโสเภณี เขาทำงานขายเรือนร่างขายตัวขายศักดิ์ศรีของตัวเองเพียงเพราะคำๆเดียวคือคำว่าเงิน แต่ละคืนของเขาผ่านไปอย่างยากลำบากบ่อยครั้งที่พบเจอแต่ความรุนแรงดิบเถื่อนไม่มีความอ่อนโยนแฝงอยู่แม้แต่น้อย แต่มีอยู่คืนหนึ่งคืนที่ใครๆก็ต่างอิจฉาเขา “ปาร์คชานยอล” ชายหนุ่มรูปงามประธานบริษัทชื่อดังได้เดินเข้ามาในร้านเป็นครั้งแรก
“สวัสดีครับ”
“สวัสดีค่ะคุณชานยอล ทำไมวันนี้มาถึงร้านได้ล่ะคะ โทรมาให้ฉันจัดเด็กไปให้ที่คอนโดก็ได้นะคะไม่เห็นต้องลำบากเลย ”
“ได้ยินมาว่ามีเด็กมาใหม่ ผมขอคนนั้น”
“อ๋อ วันนี้เด็กคนนั้นรับแขกไปแล้วค่ะ คุณมาช้าไป จะเหลือก็แต่” เจ๊เจ้าของร้านปรายตามาทางเขาทำให้เขาที่กำลังชื่นชมความหล่อของชายหนุ่มร่างสูงต้องรีบหลุบตาลงต่ำ
“งั้นคนนี้ก็ได้ครับ”
ค่ำคืนนั้นผ่านไปอย่างง่ายดายไม่มีความดิบเถื่อนไม่มีความอ่อนโยนมีเพียงการนั่งพูดคุยกันบนเตียงเท่านั้นไม่มีเรื่องเซ็กซ์เข้ามาเกี่ยวข้องแม้แต่น้อย คืนนั้นเป็นคืนที่เขามีความสุขอีกคืนหนึ่งเพราะได้พูดคุยได้ระบายความในใจกับคนที่เขาเพิ่งจะรู้จักและอีกฝ่ายก็รับฟังเป็นอย่างดีและเขาก็รับฟังความรู้สึกต่างๆของอีกฝ่ายเป็นอย่างดีเช่นกัน
“เป็นไงบ้างๆ คุณชานยอลแซ่บน่าดูเลยใช่ไหม” หลังจากที่คุณชานยอลออกจากร้านไปเพื่อนร่วมงานของเขาก็ออกปากถามไม่หยุด
“ก็ดี” ผู้ชายคนนั้นให้ทิปเขาเยอะมาก เยอะขนาดที่ว่าไม่ต้องรับแขกสองสามเดือนก็ยังมีกินมีใช้
“ฉันอิจฉาแกมากเลยคยองซู”
“จะอิจฉาทำไม เดี๋ยวเขาก็เรียกแกไปนั่นแหละ” เจ๊เจ้าของร้านพูดขึ้น
“เรากลับก่อนนะ” เขาบอกลาเพื่อนพร้อมกับลาเจ๊เจ้าของร้านเพื่อกลับบ้าน
หลังจากคืนนั้นเขาก็ยังทำงานเป็นปกติแม้จะได้เงินทิปจากคุณชานยอลเป็นจำนวนมากเพียงพอที่จะให้เขาหยุดทำงานได้สองสามเดือนก็ตาม
“คยองซูลูก พรุ่งนี้หนูไม่ต้องมาทำงานแล้วนะ” เจ๊เจ้าของร้านเรียกเขาเข้าไปคุยในห้องทำงานส่วนตัว
“ท..ทำไมครับ”
“ก็คุณชานยอลเค้าจะเรียกหนูไปประจำที่คอนโดเค้าน่ะลูก”
“ประจำ”
“ใช่จ้ะ สนใจรึเปล่า” นักธุรกิจหนุ่มรูปหล่อโทรหาเธอเมื่อตอนบ่ายเพื่อคุยเรื่องซื้อตัวเจ้าเด็กโดคยองซู เธอจับใจความได้แค่ว่าไม่อยากให้คยองซูต้องทำงานแบบนี้อีกแลกกับเงินยี่สิบล้านกับการที่เธอยอมยกเลิกสัญญาจ้างคยองซูไม่ให้เป็นพนักงานที่ร้านอีกต่อไปและเธอจะได้รับเงินก็ต่อเมื่อคยองซูยอมไปอยู่กับเขา ทั้งๆที่คุณชานยอลไม่ต้องเอ่ยปากให้ถึงยี่สิบล้านเธอก็ตั้งใจจะเกลี้ยกล่อมเจ้าเด็กคยองซูให้ไปอยู่กับเขาอยู่แล้วเพราะเธอก็รักเด็กคนนี้เหมือนลูกคนนึง
“ผมขอเก็บไปคิดก่อนได้ไหมครับ”
“ได้สิจ้ะ แต่เจ๊ก็อยากให้หนูสุขสบายกว่าที่เป็นอยู่นะ หนูจะได้ไม่ต้องรับแขกมากหน้าหลายตาไง”
“ครับ”
“นี่นามบัตรคุณเค้า คุณชานยอลบอกโทรหาได้ทุกเมื่อ
“ขอบคุณครับ”
“แต่เห็นคุณเขาบอกเย็นนี้เขาจะโทรมาหาหนูเองนะ”
คำว่าโทรหาได้ทุกเมื่อของเจ๊ก้องอยู่ในหัวเขาตลอดเวลาที่เดินออกมาจากร้านจนท้ายที่สุดแล้วเขาก็มานั่งอยู่ที่ป้ายรถเมล์ละล้าละลังอยู่นานว่าจะกลับบ้านหรือรออีกฝ่ายติดต่อมาก่อนดี
“ฮ..ฮัลโหล” ใช่ เขาเป็นฝ่ายโทรไปก่อนเพราะอยากรู้ว่าทำไมคุณชานยอลคนที่เพรียบพร้อมขนาดนั้นถึงต้องการตัวเขาพร้อมกับหวังว่าเขาจะมีชีวิตสุขสบายกว่าที่เป็นอยู่อย่างน้อยให้เป็นคนคอยทำความสะอาดหรือเป็นคนรับใช้ก็ยังดี
“คุณชานยอลรึเปล่าครับ”
“ใช่ครับ คุณคยองซูใช่ไหมครับ ผมกำลังจะโทรหาอยู่พอดี”
“ครับ ผมโดคยองซูครับ”
“คุณกินข้าวรึยังครับ”
“ยังครับ” เขาลืมไปสนิทเลยว่าเขายังไม่ได้กินข้าวเที่ยงเสียด้วยซ้ำเพราะมัวแต่รีบเตรียมตัวมาทำงาน
“งั้นให้ผมไปรับคุณนะ”
“อ..เอ่อ”
“เราจะได้คุยกันเรื่องที่คุณจะมาทำงานกับผมด้วยไงครับ”
“ก็ได้ครับ ผมอยู่ตรง....” ยังไม่ทันที่เขาจะบอกว่าตนเองอยู่ตรงไหนอีกฝ่ายก็พูดขึ้นมาก่อน
“เดินข้ามถนนมาครับ รถผมคันสีแดงจอดอยู่”
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ
