ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    บุษบามาเฟีย

    ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 2...นายใหญ่แห่งเฟิ่งเทียน (60%)

    • อัปเดตล่าสุด 27 ต.ค. 59



    เสียงลมหายใจเข้าออกอย่างสม่ำเสมอของคนบนเตียงแสดงอาการหลับสนิท ลีเฝ้ามองใบหน้าของอีกฝ่ายอยู่เช่นนั้นโดยไม่สนใจว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ หัวใจของชายหนุ่มเหมือนถูกบีบรัดเบาๆ อยู่ที่กลางอก เมื่อนึกถึงสิ่งที่เคยรับปากกับใครบางคนไว้

    “ลี...นายเป็นคนเดียวที่ฉันไว้ใจ ฝากครอบครัวของฉันด้วย”

    มือทั้งสองข้างของลีกำหมัดแน่นก่อนจะค่อยๆ คลายลงเมื่ออีกฝ่ายขยับตัวและลืมตาขึ้นมา แววตากระจ่างใสของคนที่ต้องซ่อนตัวเองอยู่ในคราบของเด็กหนุ่มค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นเข้มขึ้นจนชาเฉยเมื่อสติของตนเองเริ่มประมวลผล

    “ถ้าเป็นไปได้ หลินอยากให้มันเป็นความฝัน ไม่มีเฟิ่งเทียน ไม่มีหลิวหลิน ไม่มีหลิวลู่เอิน”

    เสียงหวานแผ่วเบาที่ดังขึ้นมาจากคนบนเตียงทำให้ลีถอนหายใจด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ห้องนี้คงเป็นเพียงสถานที่เดียวที่ตัวตนของหลิวหลินจะสามารถเปิดเผยออกมาได้ ชายหนุ่มจึงปล่อยให้เธอได้เป็นตัวของตัวเองชั่วคราวก่อนจะสวมรอยเป็นหลิวลู่เอินเมื่ออยู่ต่อหน้าคนอื่น

    “แต่มันก็เป็นไปไม่ได้สินะคะ...ในเมื่อตอนนี้หลินอยู่ที่นี่ บนเตียงหลังนี้ ในห้องอันเป็นที่พำนักของนายใหญ่แห่งเฟิ่งเทียน”

    แววตาของหลิวหลินยังคงจับจ้องอยู่บนเพดาน บนนั้นภาพหงส์คู่สีทองที่วาดไว้ด้วยฝีมือของศิลปินชื่อดัง ยิ่งมองดูยิ่งคล้ายว่าหงส์สองตัวนั้นมีชีวิต มันทั้งสวยงามและน่าเกรงขาม ทว่าในความรู้สึกของเธอมันกลับมีบางอย่างหนักอึ้งอยู่ที่กลางอก

    “หลินยกมันให้ลีได้ไหมคะ?”

    คำถามของหลิวหลินทำให้ลีถึงกับสะดุ้ง

    “พูดจาเหลวไหล” เสียงของเขาเข้มขึ้นอย่างไม่รู้ตัว

    “ที่หลินต้องไปอยู่อเมริกาตั้งแต่เด็กๆ เป็นเพราะอย่างนี้ใช่ไหมคะ อะไรมากมายที่หลินต้องเรียนรู้ หลายสิ่งหลายอย่างที่หลินต้องทำ มาดามโรสเตรียมทุกอย่างไว้เพื่อให้หลินกลับมาสานต่องานของนายท่านคนก่อนอย่างนั้นสินะคะ”

    ลีนิ่งเงียบ เขาไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธ ไม่แม้กระทั่งออกความเห็นใดๆ กับความจริงที่เด็กคนนั้นพูดขึ้นมา เพราะเขารับรู้มาโดยตลอด ทั้งยังเป็นคนฝากฝังเพื่อนที่อเมริกาให้สอนในสิ่งที่หลิวหลินจำเป็นต้องรู้อีกด้วย เด็กสาวผู้นี้ถูกหล่อหลอมให้เติบโตเกินกว่าอายุ เขารู้ดีว่าภายใต้ท่าทีไม่สู้คนแบบหลิวลู่เอินทุกอย่างล้วนเป็นมายาที่เกิดจากการเสกสรรของหลิวหลินทั้งนั้น เพียงเพื่อให้ศัตรูลดความหวาดระแวงลงว่าที่ผู้นำคนใหม่จึงดูเหมือนเป็นเพียงเด็กหนุ่มอ่อนแอไร้ทางสู้ ทั้งหมดที่หลิวหลินสร้างคือเป็นคำตอบในตัวเองอยู่แล้วว่าทั้งหมดนี้เธอรู้หน้าที่ของเธอเองเป็นอย่างดี แม้ไม่อยากยอมรับแค่ไหนก็ตาม

    “ในเมื่อรู้คำตอบดีอยู่แล้ว ทำไมถึงยังต้องถามอีก”

    หลิวหลินขยับมุมปากคล้ายยิ้มทว่าแววตาของเธอกลับไม่ปรากฏร่องรอยของความยินดีแม้แต่น้อย

    “การถามในสิ่งที่รู้อยู่แล้ว...บางทีก็ไม่ได้ต้องการคำตอบ แต่แค่อยากตอกย้ำความจริงกับตัวเองก็เท่านั้น”

    พูดจบเธอก็ขยับตัวลุกขึ้นนั่ง ก่อนจะรินน้ำที่โต๊ะข้างเตียงขึ้นมาดื่ม หลิวหลินกระแอมเบาๆ สองครั้ง จากนั้นก็ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงประจันหน้ากับลีโดยตรง ร่างผอมเพรียวที่อยู่ในชุดนอนสีน้ำเงินเข้มของหลิวหลินดูคล้ายเด็กหนุ่มมากกว่าหญิงสาว อาจเป็นเพราะท่วงท่าที่ได้รับการฝึกปรือมานานและร่างกายที่ฝึกฝนตนเองมาอย่างหนักจนมีมัดกล้ามบางๆ นั่นด้วยที่หลอกสายตาคนนอกได้อย่างแนบเนียน

    “นายไม่ต้องกังวลหรอกนะลี”

    น้ำเสียงที่เปลี่ยนไปเป็นหลิวลู่เอินอย่างกะทันหันทำให้บอดี้การ์ดหนุ่มกระตุกยิ้มที่มุมปาก  

    “ฉันจะเป็นอย่างที่นายต้องการ”

    ลีค้อมศีรษะลงเล็กน้อยเพื่อแสดงความเคารพต่อคนตรงหน้า

    “นายท่านตัดสินใจได้ถูกต้องแล้วครับ”

    “แต่เมื่อไหร่ที่พี่จ้าวเล่ยกลับมายังเฟิ่งเทียน ฉันก็จะไม่ใช่นายใหญ่อีกต่อไป”

    การตัดสินใจที่เด็ดเดี่ยวและไม่อาลัยอาวรณ์ในความยิ่งใหญ่ของหลิวลู่เอินนั้นลีไม่นึกค้าน เขาเองก็คิดเช่นเดียวกัน ความจริงแล้วเขาไม่ได้อยากให้ตัวตนของหลิวหลินต้องหายไป เด็กสาวผู้นั้นควรจะเติบโตอย่างสง่างามในฐานะคุณหนูตระกูลหลิว ควรเติบโตเป็นสตรีที่งดงามและเป็นที่จับตามองของชายหนุ่มทั้งโลกอย่างที่พี่บุญธรรมของเขาวาดหวัง เขาไม่อยากซ่อนตัวตนและชีวิตของเธอไว้ในคราบของหลิวลู่เอินไปตลอดกาล

    .................................

    ร่างผอมเพรียวในชุดสูทสากลสีดำสนิทนั่งพิงพนักเก้าอี้ทำงานตัวใหญ่ด้วยท่าทีครุ่นคิด คิ้วทั้งสองข้างขมวดมุนจนคนที่เพิ่งก้าวเท้าเข้ามาในห้องอดเป็นห่วงไม่ได้ ทว่าลีก็ยังคงปล่อยให้เด็กหนุ่มนั่งอยู่แบบนั้นโดยไม่คิดรบกวน ในที่สุดหลิวลู่เอินก็เอ่ยปากทำลายความเงียบลง

    “เมื่อครู่เดซี่โทรมา”

    “จิวฮวา?”

    ลีนิ่วคิ้วแปลกใจ เดซี่หรืออู๋จิวฮวาคือหลานบุญธรรมของเขาที่ถูกส่งตัวไปอยู่อเมริกาตั้งแต่อายุสิบสอง สถานะที่ทุกคนในกลุ่มเฟิ่งเทียนรับรู้นั้นคือ คู่หมั้นของหลิวลู่เอิน ทว่าความจริงแล้วเธอเป็นบอดี้การ์ดส่วนตัวที่เขาฝึกฝนมากับมือเด็กสาวที่มีความเก่งกาจทั้งฝีมือและมีมันสมองเป็นอัจฉริยะเกินอายุ ทั้งยังไว้วางใจได้จึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดของมาดามโรสที่ต้องการให้ทายาทคนเดียวของตระกูลที่เหลืออยู่ผู้ดูแลใกล้ชิด อันที่จริงจิวฮวามีกำหนดจะเดินทางมาร่วมพิธีศพของอดีตนายหญิงด้วยแต่เธอกลับหายเงียบไปเสียเฉยๆ กระทั่งเขาเองก็ยังติดต่อไม่ได้

    “เดซี่จะไปเมืองไทย”

    “เมืองไทย? หมายความว่าที่จิวฮวาหายตัวไปเพราะเรื่องนี้ใช่ไหมครับ”

    หลิวลู่เอินพยักหน้าแทนคำตอบ

    “นายท่านให้จิวฮวาสืบเรื่องนั้นด้วยตัวเองตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”

    น้ำเสียงเคร่งเครียดของลีที่ถามขึ้นทำให้อีกฝ่ายช้อนสายตาขึ้นมอง ทว่าใบหน้าของชายหนุ่มไม่ได้ปรากฏความไม่พอใจหรือความรู้สึกอื่นใดนอกเหนือไปจากความวิตกกังวล

    “สองปีก่อนฉันได้พบคุณลุงที่นิวยอร์ค”

    ภาพหนุ่มใหญ่วัยห้าสิบต้นๆ ที่มีใบหน้าเคร่งขรึมอยู่เป็นนิจลอยเข้ามาในความคิด คุณลุง ที่หลิวลู่เอินพูดถึงคือศตพลพี่ชายคนเดียวของมาดามโรส ตอนที่รสรินตกลงแต่งงานกับนายท่านคนก่อนทางครอบครัวของหญิงสาวได้แสดงเจตนาตัดขาดความสัมพันธ์อย่างชัดเจนเพราะไม่อยากให้อิทธิพลของตระกูลหลิวลุกลามไปถึงที่นั่น แม้ภาพที่แสดงออกมาจะเป็นเช่นนั้นทว่าในความจริงทั้งสองครอบครัวยังคงมีความสัมพันธ์อันดีอยู่ในเงามืดนั่นเอง แต่จู่ๆ การที่ศตพลเดินทางไปหาหลิวลู่เอินนั้นย่อมไม่ใช่เหตุปกติอย่างแน่นอน

    “มาดามรู้เรื่องนี้หรือเปล่า”

    หลิวลู่เอินส่ายหน้ายิ้มน้อยๆ “ถ้ารู้ก็คงไปถึงเมืองไทยเองแล้วละ”

    “อย่างน้อยนายท่านก็ควรจะบอกผม”

    “ลีรับภาระทางนี้มากพอแล้ว อีกอย่างตอนนั้นเราก็ยังไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าพี่จ้าวเล่ยอยู่ที่ไหนด้วย”

    “แสดงว่าตอนนี้รู้แน่แล้วอย่างนั้นหรือครับ”

    “ยัง! แต่เบาะแสที่พบคราวนี้มันสำคัญและค่อนข้างชัดเจนกว่าที่ผ่านๆ มา”

    คำบอกเล่าของผู้อ่อนวัยกว่าทำให้ลีนึกทึ่ง ความกังวลในใจเบาลงไปกว่าครึ่งเมื่อตระหนักได้ว่าเด็กวัยสิบเก้าอย่างหลิวลู่เอินไม่ใช่ธรรมดาแม้แต่น้อย อยู่ไกลคนละซีกโลกยังสามารถตามหาเบาะแสของพี่ชายได้อีกแบบนี้เขาค่อยคลายใจ

    “นายท่านเคยไปเมืองไทยมาหรือยัง”

    “หลังจากรอดชีวิตมาตอนนั้น ฉันก็ไม่เคยไปเหยียบที่นั่นอีกเลยไม่ต้องห่วงหรอก”

    “นายท่านทราบด้วยหรือว่าผมกังวลเรื่องอะไร” ลีลองถามหยั่งเชิง

    “เรื่องที่ลีกังวลหรือ...ก็คงเป็นร่องรอยของฉันนั่นละ ไม่ต้องห่วงหรอกความลับทั้งหมดจะตายไปพร้อมกับหลิวลู่เอินอย่างแน่นอน ความพยายามของมาดามกับลีไม่สูญเปล่าแน่ๆ”

    ลีพยักหน้ารับ ใบหน้าของชายหนุ่มคงมีแต่ความเรียบเฉยเพื่อกลบบางอย่างไว้เพียงในใจ

    “แต่ยังไง ฉันก็คงต้องให้เดซี่กลับมาที่นี่ก่อน จากนั้นค่อยส่งเธอไปเมืองไทยอย่างเปิดเผย”

    “นายท่านกลัวว่าคนพวกนั้นจะสงสัยที่จู่ๆ จิวฮวาหายไปอย่างนั้นหรือครับ”

    หลิวลู่เอินส่ายหน้า “พวกมันต้องสงสัยอยู่แล้วละ ไม่ว่าจะใช้วิธีไหนหลอกตาก็ตาม เรื่องที่พี่จ้าวเล่ยหายตัวที่เมืองไทยไม่ใช่ความลับ เรื่องที่เราตามหาเขามาตลอดก็ไม่ใช่ความลับ แต่สิ่งที่เป็นปริศนาสำหรับพวกเราต่างหากที่เป็นความลับ”

    “คนทรยศ!

    เด็กหนุ่มพยักหน้า

    “ฉันต้องการตามหาคนทรยศให้ได้เร็วที่สุด” เขาเว้นวรรคเล็กน้อยเพื่อสังเกตสีหน้าของคนฟัง เมื่อพบเพียงความเรียบเฉยเขาจึงพูดต่อ “ฉันจะเปลี่ยนเฟิ่งเทียนให้เป็นไปในแบบที่นายท่านคนก่อนอยากให้เป็น แรงต่อต้านจากภายในคืออุปสรรคสำคัญที่จำเป็นต้องกำจัดทิ้ง”

    “แล้วพวกชิงเหลียนล่ะ”

    “เมื่อมีความแค้นย่อมต้องสะสางให้จบ”

    ถ้อยคำเด็ดเดี่ยวที่ออกมาจากปากของเด็กหนุ่มวัยสิบก้าวทำให้ลีเผลอขมวดคิ้วออกมาทันที

    “นายท่านไม่จำเป็นต้องเสี่ยง”

    “มันไม่ใช่การเสี่ยงหรอกลี แต่มันคือศักดิ์ศรีที่ฉันต้องปกป้องด้วยชีวิต ฉันไม่ต้องการให้เฟิ่งเทียนสูญเสียอีกแล้ว”

    แววตาอ่อนล้าของหลิวลู่เอินแทนคำตอบทุกอย่างได้ทั้งหมดลีจึงทำได้เพียงเงียบและฟัง

    “ฉันเรียนรู้มาแสนนานว่าเลือดมันล้างด้วยเลือดไม่ได้ วิธีการของฉันลีอาจจะไม่ชอบใจ”

    “นายท่านเห็นผมเป็นคนโหดร้ายป่าเถื่อนไปตั้งแต่เมื่อไหร่กัน” ลีพูดพลางมองอีกฝ่ายด้วยแววตาเอ็นดู

    “เปล่า...แค่รู้สึกว่าลีเป็นคนเด็ดขาดเท่านั้นเอง ฉันเป็นแบบลีไม่ได้”

    “งั้นก็จงเป็นนายท่านในแบบของหลิวลู่เอินเถอะครับ”

    คำแนะนำสั้นๆ จากคนสนิททำให้แววตาที่อ่อนล้ากลับกระจ่างใสด้วยความเข้าใจ หลิวลู่เอินพยักหน้ารับพร้อมทั้งสัญญากับตัวเองในใจ เขาจะต้องวางรากฐานของเฟิ่งเทียนให้แข็งแกร่งให้ได้ แม้ตัวตนจริงๆ จะไม่ได้รับการยอมรับ แต่เปลือกที่สวมไว้นี่ละ ที่จะทำให้เฟิ่งเทียนคงอยู่อย่างมั่นคง 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×