ตอนที่ 14 : lost child -END-
ทีชาล่ารู้ตัวว่าการกุเรื่องระเบิดเป็นวีรกรรมยอดแย่ที่สุดของเขา แต่ในฐานพี่ชาย เขาคิดว่าวันเกิดเป็นวันสำคัญวันหนึ่งในชีวิตของคนเรา เพราะเป็นวันแรกที่เราได้รับลมหายใจ ดังนั้นทันทีที่เขาสืบทราบว่าวันสำคัญนี้ใกล้เข้ามา บรรดางานตัดริบบิ้นก็ถูกเขี่ยทิ้งโดยทันที งานพวกนั้นไม่ว่าใครก็ทำได้ สหรัฐเองก็มีประธานาธิบดี แต่การดูแลเอริคในวันสำคัญควรเป็นหน้าที่ของ’ครอบครัว’
.
โฟล์กสวาเกนสีดำแล่นไปตามถนนสายหลักของเมืองจนถึงซอยสลัมซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของศูนย์ช่วยเหลือระหว่างประเทศแห่งแรกของวากันด้า แฟลตร้างแห่งนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่สังคมสงเคราะห์หรือสถานที่สำหรับแบ่งปันวิทยาการ หากยังเป็นบ้านเกิดเก่าของเอริค และอนุสรณ์ระลึกถึงเจ้าชายเอ็นโจบูผู้ล่วงลับ
.
ความแค้นและน้ำตาของเด็กหลงทางจากโอ๊คแลนด์เริ่มต้นตรงนี้ และทีชาล่าก็หวังว่าเขาจะยุติมันที่นี่ด้วยเช่นกัน จากัวร์หนุ่มมองภาพสนามบาสที่ตัวเองเคยเล่นในวัยเยาว์ แป้นบาสขึ้นสนิมถูกเปลี่ยน เส้นสีบนพื้นปูนถูกทาใหม่ จนแทบไม่เหลือเค้าโครงเดิม แต่กระนั้นกลิ่นไอแห่งความทรงจำก็ยังอัดแน่นไม่เปลี่ยน
.
“พี่สืบสานเจตนารมณ์ของท่านอามาก็จริง แต่ถ้าหากมีใครสักคนควรได้เห็นสถานที่แห่งนี้มากที่สุด ก็ควรเป็นเจ้าซึ่งมีเลือดของเขาไหลเวียนอยู่ในกาย และที่สำคัญหากเจ้าไม่พยายามนำความตั้งใจของท่านอากลับแผ่นดินเกิด สถานที่แห่งนี้คงกลายเป็นเพียงแค่เศษปูน”
.
พระราชาหนุ่มเดินจูงมือคู่พรหมลิขิตไปด้านใน ทุกชั้นบนตึกถูกตกแต่งใหม่เพื่อประโยชน์ใช้สอย ยกเว้นเพียงห้องเดียวที่ไม่ได้ถูกตกแต่งใหม่ และถูกใส่กลอนเอาไว้ตลอดเวลาเพื่อเป็นของขวัญวันพิเศษ
.
เอริคไขประตูบานนั้นเข้าไป เขากวาดตาสำรวจดูโดยรอบ การจัดวางสิ่งของทุกอย่างดูคล้ายเมื่อสิบกว่าปีก่อนไม่มีผิด ราวกับกาลเวลาในห้องแห่งนี้ถูกสะกดให้หยุดนิ่ง ชายหนุ่มจมลงสู่ห้วงความคิดของตน เขาไล้มือไปตามโซฟาหนัง พลางมองโต๊ะกินข้าวด้วยความโหยหา น้ำตาที่เคยเหือดแห้ง บัดนี้กลับเอ่อคลอดวงตาสีเข้ม จากัวร์หนุ่มแทบไม่เหลือแรงต้านเลยด้วยซ้ำในตอนที่ทีชาล่าดึงร่างของเขาเข้าไปกอด และจูบซับน้ำตาให้
.
“มีตรงไหนไม่เหมือนเดิมหรือเปล่า พี่พยายามจัดตามรูปถ่ายเก่าๆที่พอหาได้ ถ้ามีตรงไหนไม่เหมือนเดิมพี่จะให้คนมาจัดแก้ให้ใหม่ พี่อยากให้มันคล้ายบ้านในความทรงจำของเจ้ามาที่สุด” เจ้าของเสียงทุ้มเอ่ยถามด้วยความกังวล
.
เอริคส่ายหัวเบาๆ ไหล่ของเขาขยับไหวตามแรงสะอื้น ทีชาล่าอาจเข้าใจผิดว่าห้องนี้คือบ้านของเขา และพยายามทำทุกอย่างเพื่อรักษาบ้านไว้ให้กับเขา แต่คำว่าบ้านสำหรับเอริคตอนนี้ได้เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง ไม่ว่าของตกแต่งในห้องแห่งนี้ จะเหมือนเดิมหรือเปลี่ยนไป เขาก็ไม่สามารถรู้สึกว่ามันเป็นบ้านของเขาได้อีกหากไม่มีคู่แห่งโชคชะตาอยู่เคียงข้าง
.
น้ำตาแห่งความสุขของเขาในวันนี้ ไม่ได้หลั่งเพราะยินดีที่ได้เห็นโอ๊คแลนด์เปลี่ยนไปในทางดีขึ้น หรือ การได้กลับมาเห็นบ้านเก่า แต่เขาร้องไห้เพราะรู้สึกดีที่ได้รับการดูแลเอาใจใส่จากใครสักคน ถ้าทีชาล่าไม่พูดออกมา หมาป่าเดียวดายแบบเขาคงลืมไปด้วยซ้ำว่าวันนี้เป็นวันอะไร
.
“แล้ว…เจ้าชอบของขวัญของพี่ไหม” ฝ่ามืออุ่นประคองใบหน้าของชายหนุ่มไว้อย่างอ่อนโยน
.
“ไม่ นี่ไม่ใช่สิ่งที่ผมอยากได้ ต้องการของขวัญที่พี่เคยบอกว่าจะให้”
.
ทีชาล่าทำหน้างุนงงเมื่อถูกทวงถาม แต่แล้วทุกอย่างก็กระจ่างเมื่อลมหายใจอุ่นเป่าจรดข้างใบหูของชายผู้สูงศักดิ์ ความลับที่จากัวร์หนุ่มเก็บซ่อนไว้จากเสือดำถูกสารภาพออกมาอย่างมีชั้นเชิงและเย้ายวน
.
“วันนั้นพี่เคยบอกกับผมว่า ถ้าผมมีสติกว่านี้ พี่จะกอดผมจนกว่าสายสัมพันธ์ของเราจะก่อเกิดเป็นของขวัญที่มีเลือดเนื้อ โดยไม่สนว่าจะเป็นทิวาหรือราตรี พี่จะทำรักจนกว่าผมจะไม่เหลือแรงมาดื้อกับพี่ และอย่าหวังพี่จะหยุดกอดผม ถ้าผมยังไม่รู้ว่าการถูกรักเป็นอย่างไร”
.
คำถามมากมายพรั่งพรูออกมาในความคิดของเขา ทว่ายังไม่ทันที่ชายผู้สูงศักดิ์จะได้เอ่ยถามย้ำให้ความจริงชัดเจนขึ้น รอยยิ้มของเอริคก็ทำให้เขาตัดสินใจกลืนทุกคำถามลงคอ ทีชาล่ายิ้มตอบทั้งน้ำตา ไม่เพียงแค่เด็กหลงทางจากโอ๊คแลนด์ที่ได้เจอบ้านหลังใหม่ แต่ความพยายามของทีชาล่าในที่สุดก็ได้ปรากฏผลออกมาให้เห็น
.
เช่นเดียวกับที่เอริคไม่ถามว่าทำไมทีชาล่าถึงต้องยกเลิกตารางงานทั้งหมดเพื่อมาโอ๊คแลนด์ ทีชาล่าเองก็ตัดสินใจว่าเขาจะไม่ถามว่าทำไมเอริคถึงโกหก เพราะเชื่อว่าอีกฝ่ายเองย่อมมีเหตุผลมากมายอยู่ในใจ
.
ช่องว่างระหว่างทีชาล่ากับเอริคถูกถมจนเต็ม เส้นขนานที่ไม่มีวันบรรจบกันค่อยๆเคลื่อนเขามาใกล้กัน มือหนาโอบเอวชายตรงหน้าเข้ามาชิด กลิ่นหอมรุนแรงขึ้นปลุกเร้าร่างกายทุกส่วนให้ตื่นตัว ทีชาล่าหรี่ตาลงปรับลมหายใจสั่นพร่า แตะปลายนิ้วลงบนแก้มชื้นเหงื่อ เกลี่ยนิ้วโป้งบนริมฝีปากนุ่มให้เผยอรับการรุกราน
.
เสียงครางดังแผ่วเบา ลมหายใจร้อนรินรดแผ่ว ทีชาล่าบดเบียดริมฝีปากของตนลงบนกลีบปากนุ่ม เก็บเกี่ยวรางวัลละมุนที่เขาเฝ้ารอมาหลายสิบปีอย่างใจเย็น มันเป็นจูบที่แตกต่างออกไป ไม่ดุเดือดรุนแรงเหมือนที่ผ่านมา แต่หวานละมุนวาบวามจนใจเต้นระส่ำ เพียงแค่ร่างสูงสอดลิ้นเข้ามาสำรวจโพรงปากอุ่นทุกซอกมุมอย่างถวิลหา อุณหภูมิในร่างกายของเอริคก็ร้อนระอุจนแทบมอดไหม้
.
ไออุ่นของสองร่างผสานกันจนแยกไม่ออกว่าของใครเป็นของใคร พวกเขาพาตัวเองกลับมายังจุดเดิม สติสามัญสำนึกตีกันจนเรรวน และครานี้ก็ไม่มีผู้ใดคิดขัดขืนโชคชะตา พวกเขายอมรับว่าตัวเองต่างเกิดมาเพื่อเป็นของกันและกัน ฝ่ามือสากลูบไล้เข้ามาใต้เนื้อผ้านุ่ม เคลื่อนเลิกไปถึงแผ่นอก หยอกล้อกับยอดอกจนชูชัน สิ่งกีดขวางการร่วมรักถูกปลดกองพื้นชิ้นแล้วชิ้นเล่า ชายทั้งสองมอมเมาในรสเสน่หาของกันและกันจนไม่อาจล่วงรู้ถึงเวลาที่เคลื่อนผ่าน กว่าริมฝีปากของทั้งคู่จะผละห่างจากกัน ก็ตอนแผ่นหลังของเอริคกระทบกับเตียง
.
ทีชาล่าถอดเสื้อของตัวเองออก แล้วโยนมันลงพื้น ความตื่นเต้นซาบซ่านไปทั้งร่างกายที่สั่นเทิ้มด้วยปรารถนา เสียงหอบหายใจกระชั้นถี่พัดโหมราคะให้ยากเกินมอดดับ ลิ้นอุ่นเกาะเกี่ยวแลกเปลี่ยนสัมผัสร้อนชื้นกันไม่เว้นห่าง ทีชาล่าขบเม้มตีตราประทับลงลบซอกคอของร่างใต้อาณัติ ความรักถูกส่งผ่านจากกายสัมผัส ทุกบริเวณที่ฝ่ามือของทีชาล่าเคลื่อนผ่าน คนอายุน้อยกว่าแอ่นสะโพกขึ้นเสียดสีสัดส่วนความเป็นชายเข้าหาแอลฟ่าเพื่อแสดงเจตจำนงแห่งปรารถนา
.
“คืนนี้ให้ผมเป็นคนนำได้ไหม” เอริคเอ่ยถามเสียงแหบพร่า ดวงตาคู่สวยเต็มเปี่ยมด้วยแรงอารมณ์ซึ่งสะท้อนผ่านส่วนลึกของห้วงวิญญาณ “ให้ผมเป็นราชินีและพี่เป็นบังลังก์”
.
ร่างสูงกุมมือผู้เป็นที่รักไว้แน่น ก่อนจุมพิตอย่างลงบนหลังมืออย่างรักใคร่ “หากเป็นบัญชาของยอดรัก พี่มีหรือจะขัดให้หมองใจ ต่อให้เจ้าต้องการดาราหรือจันทรามาไว้ประดับเรือนหอ พี่ก็จะสรรหามาให้เจ้า”
.
“ปากหวาน”เอริคไล่มือคลอเคลียไปตามเรือนร่างของแอลฟ่าที่งดงามราวกับปะติมากรรมของพระผู้เป็นเจ้าก่อนเคลื่อนต่ำลงมาปลดเปลื้องอาภรณ์เบื้องล่างให้คู่รัก
.
สัดส่วนโอฬารของชายชาววากันด้าเคลื่อนเข้ามาในโพรงปาก เอริคค้างเล็กน้อยเพื่อให้เริ่มปรับการหายใจได้ ก่อนเริ่มขยับศีรษะขึ้นลงปรนเปรอคนรักอย่างชำนาญ จนกระทั่งหยาดน้ำอุ่นสีขาวขุ่นพวยพุ่งเข้าไปในโพรงปากชื้นและลำคอ โอเมก้าหนุ่มจึงรีบถอนริมปากออกก่อนสำลัก เขาเช็ดคาบขาวที่เปราะเปื้อนขอบปากของตนออก ยึดไหล่หนาไว้แน่นทั้งสองข้างเพื่อประคองเป็นหลัก แล้วทิ้งตัวลงบนบังลังก์ที่ตนปรารถนา
.
ใบหน้าหล่อบิดเบี้ยวด้วยความเสียวซ่าน เสียงหวานครางดังกระเส่าไม่ขาดสาย เขาขยับสะโพกเข้าออกกระแทกกระทั้นเข้าหาจุดกระสันที่คุ้นเคย เสียงเตียงและกระทบกระทั่งหยาบโลนดังขึ้นต่อเนื่องไม่หยุด ความคับแน่นใส่เอามาจนอึดอัดท้อง ช่องทางอุ่นตอดรัดแน่นเป็นจังหวะ ร่างของพวกเขาเชื่อมต่อกันตลอดทุกท่วงท่า
.
จากัวร์ผู้งดงาม เชิดรั้งใบหน้าขึ้นเป็นสัญญาณเตือนให้คู่แอลฟ่าฝังเขี้ยวลงมา รสขมเฝื่อนของเลือดแผ่ซ่านไปทั่วช่องปาก ความรู้สึกของพวกเขาเชื่อมเข้าหากันด้วยพันธะ สิ่งที่ชักจูงทั้งสองให้เข้าหากันคือพรหมลิขิต ทว่าสิ่งสานต่อเจตนารมณ์ของสวรรค์คือหัวใจของพวกเขาทั้งคู่ คำบอกรักหอบกระเส่า ดึงทั้งคู่ให้ดำดิ่งสู่บ่วงเสน่หา ความปิติกลั้นออกมาเป็นหยาดน้ำใสเอ่อล้นดวงแก้วใส
.
เลือดสีแดงไหลซึมจากรอยกัดตรงต้นคอ บทเพลงรักถูกบรรเลงครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างไม่รู้จัดเหน็ดเหนื่อย กลิ่นเหงื่อและคาวน้ำรักคละคลุ้งไปทั่ว ร่างของเอริคกระตุกสั่น ความร้อนที่คั่งค้างทั้งกายทั้งคู่ไหลออกมาเป็นน้ำนมขุ่น ทีชาล่าโอบเอริคมาแนบอก บอกรักคำหวานผ่านสัมผัสอุ่นและเสียงเต้นของหัวใจที่เป็นจังหวะหนักแน่น ได้รักและถูกรัก เด็กกำพร้าจากโอ๊คแลนด์ถูกปราบจนสิ้นเรี่ยวแรงในอ้อมแขนแกร่ง ดวงตาสีเข้มค่อยๆ หลับลงซึมซาบไออุ่นจากผู้เป็นที่รัก
.
รอยยิ้มที่หายสาบสูญถูกวาดระบายบนใบหน้าของจากัวร์หนุ่ม หลายครั้งเพราะมีชีวิตจึงเจ็บปวด…แต่ก็เพราะมีชีวิตจึงได้เรียนรู้ว่าฟ้าหลังฝนนั้นงดงามแค่ไหน พวกเขามีเรื่องต้องทำการรู้จักกันอีกมาก…อันที่จริงคือพวกเขาต้องเรียนรู้กันตลอดชีวิต แต่ไม่ว่าจะต้องเผชิยหน้ากับอะไร ตราบที่ทีชาล่ายังอยู่เขาก็พร้อมเผชิญหน้ากับทุกอย่าง
.
“พี่ชาย”
.
“?”
.
“ขอบคุณที่เป็นครอบครัวและบ้านหลังใหม่ให้ผม”
.
.
.
Talk : ว้าวววว จบแล้วเหรอ จบจริงดิ หลายคนอาจสงสัยว่าทำจบแบบนี้แต่เราต้องการเขียนตอนจบโดยสื่อว่าทุกความสัมพันธ์ไม่มีคำว่าจบ แต่งงานกันแล้ว มีลูกกันแล้ว =จบโดยสมบูรณ์ เราว่ามันไม่ใช่ ไม่ว่าคู่ไหนต้องเรียนรู้กันและกันไปตลอดชีวิตนั้นแหละไม่ว่าจะแต่งกันแล้ว หรือมีลูกกันแล้ว ขอบคุณที่ตามมาจนถึงตอนจบนะขอรับ ขอบคุณครับ แต่ว่าหลายๆคนที่อยากเห็นเจ้าตัวน้อยไม่ต้องห่วงนะครับ จะมีตอนพิเศษมาลงให้คลายเหงาแน่นอนค่ะ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ตอนพิเศษแอบเห็นในทวิต(รึเปล่าเน้อ???)แล้ว จะตั้งตารอคุณลูกๆว่าจะแสบสันแค่ไหน