ตอนที่ 11 : Lost child ep11(รีไรท์)
หลังจากออกจากห้องนอนของทีชาล่าสิ่งแรกที่เอริคทำคือการโทรหาที่ปรึกษาส่วนตัวของเขา ซึ่งก็คือเจ้าหน้าที่รอสส์ ชายหนุ่มลังเลใจชั่วหนึ่งเพราะรู้ว่าแอฟริกาคงเป็นคนละเวลากัน แต่ใจยังสงบจากเรื่องทีชาล่ากับเลขาประธานาธิบดีคนสวยไม่ได้ เขาคงเริ่มงานบอดี้การ์ดเช้านี้ไม่ไหวแน่ๆ เขาจึงโทรไปเรื่อยๆ จนถึงรอบที่ห้าเจ้าหน้าที่รอสส์ก็รับสาย
.
“ว่าไง?”
.
“ผมมีเรื่องด่วนอยากจะปรึกษา เรื่องของ....คนเดิมนั้นแหละ....” สมองของเจ้าหน้าที่รอสส์เริ่มประมวลเสียงปลายสาย และพบว่าไม่ใช่ใครอื่นนอกจากบอดี้การ์ดผู้เคยเกือบได้ขึ้นเป็นพระชายา อันที่จริงตอนสภาสั่งให้ทีชาล่าถอนหมั้นเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าให้สภาถอนหมั้นเพื่ออะไร สุดท้ายก็แค่การซื้อเวลา ปลอบใจอดีตพระราชินี ดูหน้าทีชาล่าก็รู้ว่าเดี๋ยวเจ้าตัวก็หาทางหมั้นอีกรอบเอง
.
“อืม ทีชาล่าทำไมอีกล่ะ” เจ้าหน้าที่ชาวสหรัฐเคยทำคดีมาหลายประเภท หลายคดีจบในตัว และอีกหลายคดีต้องตามเรื่องผลกระทบของเหตุการณ์ ที่มีต่อเหยื่อ เช่นถ้าเป็นคดีข่มขืนหรือค้าประเวณี ก็ต้องทำงานเป็นทีมสหวิชาชีพรวมกับหน่วยงานต่างๆ ดังนั้นทันทีที่ซูริบอกเขาว่าเอริค สตีเวนส์เป็นโอเมก้าที่กินยาต้านราคาถูกมานานหลายสิบปี เขาก็รู้ได้โดยทันทีว่าผู้ชายคนนี้น่าจะเป็นโอเมก้ามีแผลใจขนาดใหญ่ในอดีต
.
ถึงเขาจะไม่ชอบสิ่งที่เอริคทำกับวากันด้า แต่ในฐานะโอเมก้าด้วยกันก็อดสงสารไม่ได้ อีกอย่างหากเอริคมีวาสนาเป็นคู่พรหมลิขิตของทีชาล่าจริง คนๆนี้ก็ต้องถือว่าเป็นพี่สะใภ้ของเขา ผูกมิตรดีกว่าสร้างศัตรู ครอบครัวก็ควรช่วยครอบครัว ด้วยเหตุนี้เจ้าหน้าที่รอสส์จึงคอยเข้ามาให้คำแนะนำกับทีชาล่า เป็นช่วงๆ ตอนที่เอริคมีปัญหาเรื่องฮีท และตอนนี้ดูเหมือนว่านอกจากทีชาล่า แล้วเขายังต้องมาเป็นที่ปรึกษาให้พี่สะใภ้ด้วย
.
“ผู้หญิงคนนั้นเข้ามาประคองเขา กระซิบเสียงหวานว่าจะพาเขาไปส่งห้องนอน อะไรคือพาไปส่ง เฮ้! ผมก็อยู่ที่นี่นะ ยืนอยู่ด้านหลังเลย ผมเป็นให้เขา ทุกอย่างแล้ว แค่แบกไปส่งที่ห้องจะเหลือบ่ากว่าแรงอะไร พอเช้ามาผมเตือนเขาเรื่องนี้ แต่เขากลับทำหน้าเอ๋อ”
.
อดีตนักฆ่าระบายผ่านทางโทรศัพท์ ฝ่ายโอเมก้าสูงวัยกว่าก็ได้แต่ส่งเสียงตอบอืมๆ อาๆ ตาของเขาในยามนี้แทบจะลืมตาไม่ขึ้นด้วยซ้ำ เขาไม่รู้ว่าทำไมเอริคถึงไว้ใจยอมบอกความลับเรื่องที่ตัวเองไม่ได้ความจำเสื่อมให้เขาฟัง แต่เขาคิดว่ามันน่าจะมีเหตุผลด้วยกันทั้งหมดสองข้อ
.
ข้อแรก เด็กคนนี้ไม่รู้ว่าต้องทำตัวอย่างไรเมื่อเป็นโอเมก้า
.
ในหลายคดีที่เกี่ยวพันกับเรื่องทางเพศ เขาพบว่ามีโอเมก้าบางคนมีอาการปฏิเสธความเป็นโอเมก้า เพราะคิดว่าเขาโดนกระทำเพราะเป็นโอเมก้า ถ้าไม่เป็นโอเมก้าเรื่องเลวร้ายแบบนั้นคงไม่เกิดขึ้นกับตัวเอง แต่ในบรรดาทุกเคสที่ผ่านมาก็ได้รับการรักษาเร็ว ทำให้ไม่มีปัญหาอะไรมากมาย ผิดกับเอริคที่เจ้าตัวยึดติดกับความคิดแบบนั้นมาตลอด
.
สุดท้ายเมื่อเริ่มยอมรับว่าตัวเองเป็นโอเมก้าได้ อยากหยุดกินยานรกราคาถูกพวกนั้น ก็ไม่รู้จะปรับสภาพตัวเองอย่างไร จะปรึกษาโอเมก้าคนอื่นๆในวากันด้าที่มีวัฒนธรรมไม่คุมกำเนิด ไม่กินยาต้าน เจ้าตัวคงไม่รู้จะเริ่มตรงไหน เลยยอมเสี่ยงเลือกเขาซึ่งอยู่ในวัฒนธรรมคล้ายๆ กันเป็นที่ปรึกษา
.
ข้อสอง เด็กคนนี้เชื่อว่าเขาน่าจะรู้จักทีชาล่าระดับหนึ่ง
.
เอริคเป็นคนที่เดินหมากเก่ง เด็กคนนี้ไม่ได้เลือกใครก็ได้มาเป็นที่ปรึกษา เอริคเลือกเขาเพราะเห็นว่าเขารู้นิสัยทีชาล่าระดับหนึ่งและสนิทกับซูริ โอกาสที่จะได้รับคำปรึกษาที่เหมาะสมและใช้งานได้จริงย่อมมีสูง
.
“เธอกำลังหึง” เจ้าหน้าที่รอสส์รีบสรุปก่อนตัวเองจะไม่ได้นอนในคืนนี้ และแน่นอนว่าคนปลายสายเถียงทันทีตามนิสัยคนปากแข็ง
.
“เจ้าหน้าที่รอสส์ ผมไม่ได้หึง มันเป็นกลุ่มก้อนทางอารมณ์อย่างหนึ่ง” คนปากแข็งก็ยังปากแข็งต่อไป ความปากแข็งของเอริคเหมือนพวกจำเลยที่ไม่ยอมรับผิดจนกระทั่งถึงศาลฎีกา ถ้าเป็นตอนว่างๆ เขาคงปล่อยให้เอริคพูดวกวน อีกสักพักใหญ่ จนกว่าจะพอใจและเหนื่อย
.
“โอเค ได้ๆ ถ้าเธอจะเรียกแบบนั้น วิธีการจัดการกลุ่มก้อนทางอารมณ์อันดับแรกที่เธอต้องทำมีสองเรื่อง หนึ่งเธอต้องยอมรับว่ามีใจให้ฝ่าบาท สองเธอต้องยอมรับว่ามันคืออารมณ์หึง ถ้าเธอไม่ยอมรับ ฉันจะวางสายแล้ว เพราะฉันง่วงมาก”
.
“เดี๋ยว ! ได้ ผมยอมรับก็ได้ว่าสนใจเขาเล็กน้อย และรู้สึกเอ่อ...ก็ไม่ค่อยแน่ใจเรื่องของอารมณ์นะ แต่เรียกว่าหึงก่อนก็ได้ แล้วผมต้องทำอย่างไรต่อ ถึงจะกำจัดมันได้อย่างถาวร”
.
“หยุดรัก” เจ้าหน้าที่รอสส์ยื่นคำขาด เขาเห็นใจเรื่องที่มีบาดแผลในวัยเยาว์ แต่ถ้าเจ้าตัวยังจมอยู่กับมัน ไม่ยอมเปิดให้โอกาสได้ตัวเองได้รักและถูกรัก เขาก็คงจนปัญญาช่วย
.
“เธอต้องทำความเข้าใจใหม่เสียก่อน เพราะเธอรู้สึกกับเขาเธอเลยหึง มันไม่ใช่อารมณ์ที่มีเฉพาะโอเมก้า มันเกิดได้กับทุกคน เมื่อเธอมีความรักมันก็ต้องมีเรื่องหึงบ้างเป็นปกติ มันไม่ใช่เรื่องแปลก”
.
“….” ปลายสายเงียบลง เจ้าหน้าที่ชาวสหรัฐถอนหายใจเฮือกใหญ่
.
“เธอต้องปรับความคิดนะ เธอรู้สึกตัวมาตลอดว่ามีบางอย่างเกิดขึ้น กับเธอ มันเป็นสิ่งใหม่ที่ทำให้เธอรู้สึกไม่ปลอดภัย แต่เธอก็ไม่อยากเสียมันไปที่ผ่านมาเธออาจไม่เคยหึงใครเพราะเธอไม่ได้แคร์ความรู้สึกของใครจริงๆ จังๆ จนกระทั่งเจอเขา ดังนั้นหยุดหลอกตัวเองว่าเธอไม่สนใจ เพราะถ้าเธอไม่สนใจ อยากทำลายโชคชะตา ป่านนี้เธอก็จะไปตามทางของเธอ แล้วทิ้งเขาเป็นไอ้งั่งนอนหัวใจสลายอยู่ในวัง”
.
“ผมยอมรับว่าผมไม่อยากยอมรับความรู้สึกของตัวเอง เพราะอายความเป็นโอเมก้าของตัวเอง ตอนฮีทผมพอมีสติเหลืออยู่บ้าง และตอนช่วงท้ายผมก็พอควบคุมตัวเองได้ระดับหนึ่ง สุดท้ายผมกลับทำตัวไร้เกียรติเหมือนพวกฟรีเซ็กส์ ไม่สิ แม่ง โคตรเลวกว่านั้น มันเหมือนเดียรัจฉานกำลังติดสัด ผมควรเกลียดตัวเอง แต่ผมกลับเกลียดตัวเองไม่ลงเพราะกลัวผู้ชายคนนั้นจะเสียใจถ้าผมทำร้ายตัวเอง” จากัวร์หนุ่มยอมรับเสียงเบา
.
“ก็ดีแล้ว นี่คือข้อดีของการเป็นโอเมก้าไง เธอมีช่วงที่อ่อนแอได้ ผิดกับแอลฟ่าที่โดนคาดหวังว่าต้องปกป้องทุกคนได้ตลอดเวลา จากนี้ไปเธอก็ลองใจดีกับเขากลับบ้างสิ อย่างน้อยก็คิดซะว่าถึงเขาจะไม่สามารถรักษาเกียรติให้เธอจนถึงที่สุด แต่ตอนมีอะไรกัน เขายอมกัดแขนตัวเองจนเลือดอาบแทนที่จะตีตราบนลำคอเธอ
.
มนุษย์ไม่มีใครสมบูรณ์แบบหรอกแต่เขาก็พยายามที่จะเป็นคู่ที่ดีที่สุดให้เธอ เขาให้เวลาเธอตัดสินใจ เธอก็ต้องให้เวลาตัวเองและปรับตัว อุตส่าห์โกหกไปแล้วก็เอาให้คุ้ม มีความสุขกับการเป็นที่รักให้เยอะๆ วันหนึ่งถ้าความตายพรากพวกเธอจากกัน เธอจะได้อำลาเขาด้วยรอยยิ้มโดยไม่รู้สึกติดค้างต่อกัน”
.
“คุณอย่าพูดเป็นลางสิ” จากัวร์หนุ่มเผลอเอ็ดใส่ฟังปลายสาย แต่ใจของเขานึกไปถึงวันที่ได้เห็นภาพพระอาทิตย์ตกดินเป็นวันแรก ภาพใบหน้าของทีชาล่ายังคงตราตรึงอยู่ในห้วงความจำ เขารู้ตัวว่าการตายเท่ากับเขาชนะทีชาล่า เขาเป็นอิสระจากการถูกจองจำ แต่ส่วนลึกของเขากำลังดิ้นรนที่จะมีลมหายใจอยู่ต่อ ความรู้สึกผิดและโศกเศร้าแผ่ซ่านไปทั่วก้อนเนื้อในอกซ้าย มันเป็นความรู้สึกก่อนการตายที่แย่มาก ตอนซูริรักษาแผลให้ร่างกายของเขาเลยพยายามสู้ให้ตัวเองรอด เขาไม่สามารถตายได้หากยังมีอะไรติดค้างกับคู่แห่งโชคชะตา
.
“ฉันไม่ได้แช่งนะ แค่บอกไว้ว่าทุกอย่างไม่แน่นอน ลองเอาที่ฉันพูดไปคิดดูนะ” เจ้าหน้าที่รอสส์หาววอดก่อนวางโทรศัพท์ลง
.
...ใจดี...ให้มากขึ้นอย่างงั้นหรือ
.
คำแนะของเจ้าหน้าที่รอสส์ ยังติดค้างในความคิดของเอริคมันไม่ได้ทำให้เขาสงบลงเลย แต่ทำให้สมาธิแตกซ่านยิ่งกว่าเก่า วันนี้ทั้งวันเขาเอาแต่คิดว่าต้องทำตัวอย่างไรถึงจะเรียกว่าใจดีกับทีชาล่า
.
ต้องอ้อนไหม อ้อนแบบไหน อ้อนคลอเคลียแบบแมวเหรอ หรือเข้าไปกอดหลังเลิกงานเหมือนที่เคยทำกับบาบา แล้วจะอ้อนยังไงในเมื่อทีชาล่าไม่ยอมมาง้อเข้าสักที หรือหลังเลิกงานเขาต้องไปง้อเอง แล้วง้อพระราชาต้องทำอย่างไร จะซื้อของง้อแบบผู้หญิงก็คงไม่ใช่ เพราะสมบัติในพระคลังของทีชาล่าก็น่าจะมีพอซื้อทุกอย่างบนโลกที่คู่ของเขาอยากได้
.
“นายเหม่อนะ” โอโคเยทัก เอริครู้สึกแปลกใจเล็กน้อยที่วันนี้เธอเอ่ยทักเขาก่อน เพราะตั้งแต่เขาฆ่าลูกน้องเธอไปคนหนึ่ง เธอก็ดูเหมือนอยากอยู่ห่างจากเขา และพูดคุยแค่เท่าที่จำเป็น
.
“ก็นิดหน่อยเมื่อคืนมีเรื่องลอบยิงเลยไม่กล้านอน” เขาโกหกหน้าตาย และเธอก็เชื่อสนิทใจ
.
“สรุปเรื่องเมื่อคืน ที่ว่ารัฐบาลสหรัฐแอบแทงข้างหลังเรา ฉันคิดจากหลักฐานที่รวบรวมได้ในขณะนี้ เรื่องมันก็น่าจะมีมูลจริง ตั้งแต่เปิดประเทศมา วากันด้าก็เป็นที่จับตามองของมหาอำนาจ เช่นเดียวกับเรื่องพวกพ่อค้ายาเสพติด และสัตว์ป่า พวกเราเริ่มขัดผลประโยชน์กับพวกเขาชัดเจนขึ้น ฝ่าบาทเป็นผู้พิทักษ์วากันด้า ได้รับสืบทอดชื่อแบล็คแพนเธอร์ ฉันไม่คิดหรอกว่าฝ่าบาทจะพลาดท่าง่ายๆ แต่พอคิดถึงท่านทีชาก้าที่จากไปอย่างกระทันหัน ฉันก็คิดว่าทุกอย่างบนโลกไม่มีอะไรแน่นอน” หญิงสาวผิวสีกล่าวเสียงเครียด พลางทอดสายตามองไปยังนายเหนือหัวของเธอ ด้วยแววตาที่เต็มเปี่ยมด้วยอารมณ์
.
“ตอนที่เปิดประเทศฉันไม่คิดเลยว่าจะเกิดเรื่องพวกนี้ แต่ว่าตราบที่เราควบคุมมันได้ ก็ช่างเถอะ ฝ่าบาทมีความสุขที่วากันด้าได้ทำในสิ่งที่ถูกต้อง ฉันเองก็ด้วย หวังว่าความใจดีของฝ่าบาทจะไม่นำภัยที่น่ากลัวมาสู่มาตุภูมิ”
.
“แต่เขาจะไม่เป็นเหมือนทีชาก้าหรอก เพราะเขามีพวกเรา"
.
“งานประชุมครั้งนี้สำคัญสำหรับพี่มาก เพราะเป็นก้าวแรกที่วากันด้าจะปรากฏตัวต่อหน้าประชาคมโลกอย่างแท้จริง ถ้าการประชุมวันนี้เป็นไปด้วยดีก็จะมีก้าวต่อๆไปตามมา พี่ต้องการใครสักคนมาช่วยเป็นแรงผลักดัน และพี่ก็หวังว่าเจ้าจะยอมเป็นแรงขับเคลื่อนนั้นให้พี่”
.
“เขากำลังจะทำงานใหญ่ เขาต้องการแรงผลักดัน และเราจะแรงผลักดันนั้นให้เขา”
.
องครักษ์สาวยิ้มจางๆ “บางครั้งก็รู้สึกว่านายตั้งใจทำงานเกินคาดนะ คิดไม่ออกเลยว่าถ้ากลับเป็นศัตรูกันอีกครั้งจะเป็นอย่างไร ขอโทษที่เมื่อคืนหงุดหงิดไปหน่อย ขอบคุณที่สละเวลานอนทุกคืนมาสำรวจสถานที่ในตารางงานของฝ่าบาท เด็กเสิร์ฟคนเมื่อกี้เขาจำนายได้ เลยฝากเบอร์มาจีบ”
.
เธอมองสบตากับเขา ก่อนหยิบกระดาษแผ่นหนึ่งที่มีรอยลิปสติกขึ้นมา หัวหน้าหน่วยองครักษ์ยิ้มให้อดีตศัตรู เอริคคิดว่ามันเป็นรอยยิ้มแรกที่เธอมีให้กับเขา เขาทำทุกอย่างโดยไม่ได้คาดหวังการยอมรับ แต่ทำเพื่อให้ตัวเองได้สบายใจว่าจะไม่มีใครมาทำอันตรายกับคู่พรหมลิขิตเซ่อๆ ของเขา แต่รอยยิ้มบนใบหน้าของทหารสาว ก็ทำให้เขารู้สึกดีอย่างน่าประหลาด
.
‘มนุษย์ไม่มีใครสมบูรณ์แบบหรอกแต่เขาก็พยายามที่จะเป็นคู่ที่ดีที่สุดให้เธอ เขาให้เวลาเธอตัดสินใจ เธอก็ต้องให้เวลาตัวเองและปรับตัว อุตส่าห์โกหกไปแล้วก็เอาให้คุ้ม มีความสุขกับการเป็นที่รักให้เยอะๆ’
.
ยังเหลือโอกาสอยู่ไหม คนที่เคยทำผิดอย่างใหญ่หลวงกับคู่ของตัวเองและแผ่นดินมาตุภูมิอย่างเขายังเหลือโอกาสที่จะเริ่มต้นใหม่อยู่ใช่ไหม เพราะว่าเขาก็อยากทำเพื่อทีชาล่าเช่นกัน
.
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด”
.
เสียงหวีดร้องของหญิงสาวคนหนึ่งดังขึ้น ไม่ช้าผู้คนก็เริ่มแตกตื่นพูดถึงระเบิดกันอลหม่าน ใจเอริคตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม เลือดในกายเย็นเฉียบด้วยความกลัว เขาเช็กทุกอย่างดีแล้วไม่ใช่หรือ ทำไมจึงมีความผิดพลาดเกิดขึ้น อดีตนายทหารหน่วยเจช็อคลืมทุกสิ่งรอบข้างจนสิ้น เอริครีบวิ่งก้าวเข้าไปคว้าตัวทีชาล่าให้ก้มลงหมอบโดยไม่คิดชีวิต
.
“อย่าปล่อยมือนะ” เขากล่าวย้ำกับพระราชาแต่มันดูเหมือนประโยคขอร้องเสียมากกว่าคำสั่ง หัวใจของบอดี้การ์ดหนุ่มบีบรัดจนรู้สึกอึดอัด อะดรีนารีนหลั่งไปทั่วร่าง ภาพพระอาทิตย์ตกดินที่วากันด้า แว่บเขามาในหัวคล้ายเป็นลางบอกเหตุร้าย เขายังไม่พร้อมที่จะจากกับทีชาล่าตอนนี้ ในตอนที่เขายังมีความพูดอีกมากมายที่ยังไม่ได้เอื้อนเอ่ยออกไป
.
“อย่าปล่อยมือจากผมไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม” ชายหนุ่มก็รีบฉุด ทีชาล่าให้รีบหนีไปทางออกที่ใกล้ที่สุดที่ตัวเองเล็งเอาไว้ตอนมาสำรวจสถานที่ คำถามที่เขาถามตัวเองมาเป็นวันได้คำตอบโดยใช้เวลาเพียงชั่วอึดใจ ถ้าเขาหรือทีชาล่ากำลังจะตาย เขาจะกอดอีกฝ่ายให้มากขึ้น จะอารมณ์เสียใส่ให้น้อยลง และยินดีง้อโดยไม่สนว่าตัวเองถูกหรือผิด อดีตทรราชย์พาคนอายุมากกว่า วิ่งมาจนถึงรถกันกระสุน แต่แล้วจู่ๆเขาก็ถูกแอลฟ่าหนุ่มฉุดดึงให้ไปขึ้นรถอีกคัน
.
“พี่...เรานั่งรถคันนี้ไม่ได้ กระจกมันไม่กันกระสุนฟังกันก่อนสิ โธ่เว้ย!!!” เอริคประท้วงใส่ก่อนเตะเก้าอี้คนขับเพื่อประท้วงอย่างหัวเสีย ทว่ากษัตริย์หนุ่มกลับทำแค่ยิ้มออกมาอย่างมีเลศนัย ในวินาทีนั้นเองเอริคก็เริ่มรู้สึกว่ามีบางอย่างแปลกๆ เขาหันไปมองตัวอาคารเบื้องหลังที่กำลังวุ่นวายอลม่านด้วยความสับสน
.
ทำไม...ระเบิดถึงยังไม่ระเบิด...
.
“ฝ่าบาท ฝ่าบาทได้ยินแล้วตอบด้วย”
.
“ข้าได้ยินแล้วโอโคเย ข้ากำลังหาที่หลบภัย พรุ่งนี้เช้าค่อยมารับที่สนามบินนะ”
.
“แต่ฝ่าบาท-"
.
บทสนทนาผ่านลูกปัดคิโมโยถูกตัดลงตรงนั้น เอริคขมวดคิ้วมุ่น ดวงตาสีเข้มตวัดมองคาดคั้นคนอายุมากกว่าเพื่อถามว่านี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้น และคำสารบาปที่เขาไม่คิดว่าจะได้ยินจากชายผู้สูงศักดิ์ซึ่งกำลังทำหน้าที่เป็นสารถีก็ถูกเอ่ยขึ้น
.
เอริคเบิกตากว้าง เขาน่าจะรู้สึกตั้งแต่ที่เจอลีลาดิบเถื่อนบนเตียงของผู้ชายคนนี้แล้วว่าภายใต้ความสุขภาพนั้น ชายคนนี้น่ะ ‘เป็นพวกร้ายเงียบ’
.
“ผู้หญิงคนนั้นพี่จ้างเพื่อมาเป็นหน้าม้า กำหนดการณ์มันเยอะมาก ยกเลิกก็ไม่ได้ ดูแล้วจนถึงวันกลับก็ไม่มีแนวโน้มว่าจะว่างเลย คิดแล้วก็เสียดาย อุตสาห์มาพาเธอมาถึงนี้ก็เพราะอยากพาเธอไปในที่ที่หนึ่ง”
.
++++++++++++++++++++++++++
.
“เลี้ยวรถกลับเดี๋ยวนี้” เอริคสั่งอย่างก้าวร้าว รถแล่นออกห่างจากตัวเมืองมากขึ้นเรื่อยๆ จนมาถึงบริเวณทางเลี่ยงเมือง ซึ่งนั้นก็หมายความว่าความปลอดภัยของทีชาล่ากำลังห่างออกไปทุกขณะ รถคันนี้ไม่ใช่รถเคลือบไวเบรเนียมใครที่ก็สามารถลอบสังหารทีชาล่าได้อย่างง่ายดาย
.
“ไม่ เราจะไม่กลับจนกว่าพี่จะพาเจ้าไปที่นั้นได้สำเร็จ” คำพูดของทีชาล่ายิ่งเติมเชื้อไฟให้เอริค อารมณ์ของเขาเดือดพล่านไปทั่ว จากัวร์หนุ่มรู้สึกโมโหที่พี่ชายเล่นกับความรู้สึกของเขา ไม่ว่าชายคนนี้มีเหตุผลอะไร เขาก็จะไม่รับฟังทั้งนั้น เพราะเขาไม่ต้องการรู้สึกแบบนั้นอีกแล้ว ความรู้สึกที่ต้องเผชิญหน้ากับความตายโดยไม่รู้ว่าเมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาพวกเขายังจะมีกันและกันอยู่ไหม และในวินาทีที่เขาจนตรอก เขาพร้อมจะแลกทุกอย่างเพื่อความปลอดภัยของแอลฟ่าตรงหน้า
.
“ถ้าไม่กลับก็ฝากทำศพให้ผมด้วยล่ะกัน” เขาขู่พร้อมง้างประตูรถ คนที่อายุมากกว่าเลยต้องจำใจเหยียบเบรคอย่างกระทันหัน รถโฟล์กสวาเกนสีดำเคลื่อนตกลงข้างทาง บอดี้การ์ดหนุ่มถีบประตูรถออก ก่อนเดินไปกระชากประตูคนขับแล้วลากคู่ของตัวเองออกมาชกเต็มแรง
.
พลั่ก!
.
“นั่นคือโทษฐานที่ไม่ฟังผม” เอริคง้างหมัดอีกข้างขึ้นแต่ทีชาล่าก็รับเอาไว้ทัน เขาดึงน้องชายเอาไปกอดแน่น
.
“พี่ขอโทษ พี่ผิดเอง พี่ผิดเองทุกๆอย่าง แต่การไปที่นั้นมันสำคัญกับพี่มาก ช่วยสงบสติอารมณ์และช่วยเชื่อใจพี่สักครั้งโดยไม่ถามคำถามได้ไหม” ทีชาล่าพูดเสียงนิ่ง จากัวร์หนุ่มดิ้นขัดขืนให้พ้นพันธนาการ แต่พลันฝ่ามือหนาเริ่มลูบแผ่นหลังเขาเบาๆ เอริคก็สิ้นฤทธิ์ในอ้อมแขนนั้น พวกเขากอดกันนิ่ง ต่างคนต่างใช้ไออุ่นของอีกฝ่ายเพื่อดึงสติให้สงบ
.
“แค่ครั้งนี้เท่านั้นนะ อย่าหวังว่าจะมีครั้งอื่น ตราบเท่าที่ผมยังเป็นบอดี้การ์ดของพี่ ห้ามทำอะไรบุ่มบ่ามแบบนี้โดยไม่ปรึกษาผม” เอริคยอมถอยลงมาหนึ่งก้าว เป็นก้าวแรกที่คนชอบเอาชนะอย่างเขายอมถอยเพื่อคนอื่น และเป็นครั้งแรกที่เขายอมมอบความไว้วางใจทั้งหมดให้คนๆหนึ่งโดยไม่ตั้งถามคำถามอะไร
.
“ได้...พี่สัญญาด้วยเกียรติของพระราชาและผู้สืบทอดแบล็คแพนเธอร์ พี่ขอให้คำมั่นสัญญากับเจ้า”
.
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ภาษาสวยค่ะ อ่านเข้าใจดี ชอบในการกระทำทุกตัวละครนะคะ จะรอลุ้นครึ่งหลังว่าจะได้ลูกกี่คน55555 ส่วนเรื่องอัพก็ตามใจไรท์ นี่ก็รอลุ้นinfinity war ด้วยเหมือนกันกลัวใจมาเวลเหลือเกินค่ะ