แด่พรพระผู้เป็นเจ้า - นิยาย แด่พรพระผู้เป็นเจ้า : Dek-D.com - Writer
×

    แด่พรพระผู้เป็นเจ้า

    เด็กสาวสุดแสนธรรดา ณิชา อยู่ๆก็เกิดเหตุการที่ทำให้ตนเองเป็นคนที่ไม่ธรรดาอีกต่อไป ตัวเธอต้องใช้ชีวิตที่ไม่เหมือนเดิมและแสนอันตรายนี้ได้อย่างไง และเธอจะสามารถหาความรักครั้งใหม่ของเธอถึงไม่อยากได้เถอะ

    ผู้เข้าชมรวม

    16

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    16

    ผู้เข้าชมรวม


    16

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    จำนวนตอน :  0 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  4 พ.ค. 68 / 17:56 น.
    loading
    กำลังโหลด...
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    **ขอชี้แจง**

    นิยายเรื่องนี้ภูรินทร์ได้นำประวัติศาสตร์มากมายมาเป็นแรงบันดาลใจ บ้างจุดอาจจะจริงหรือไม่จริงก็แล้วแต่จินตนาการเสริมเพิ่มแต่งของภูรินทร์เองด้วย และยังมีเนื้อเรื่องที่มีความรุนแรงทั้งด้านร่างกายหรือแม้ด้านจิตใจที่ค่อยข้างมาก ภูรินทร์ก็อยากจะให้ทุกท่านโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วย มีบ้างสิอย่าลอกเลียนแบบโดยเด็ดขาด! 

    ขอพระคุณที่เข้ามาอ่านนิยายของภูรินทร์ด้วย เชิญทุกท่านENJOY! กับอ่านด้วยนะคะ

     


     

    ในอดีตนานนับหลายล้านปีตั้งแต่พระเจ้าได้สร้างสรรค์ดาวเคราะห์สีครามอันแสนสดใส อุดมไปด้วยธรรมชาติสีเขียวขจีอันแสนร่มรื่น บรรยากาศอันแสนบริสุทธิ์หาได้ยากจากดาวเคราะห์ดวงอื่น ๆ มีเหล่าสัตว์น้อยใหญ่ต่างกระโดดโลดแล่นอย่างสนุกสนาน มีเหล่าบริวารหรือทูตสวรรค์ที่ค่อยปกปักดูแลกฎระเบียบให้ไม่มีสิ่งแปลกปลอมปรากฏขึ้น และขนามนามดาวเคราะสีครามดวงนั้นไว้ว่า ‘โลก’

    แต่ไม่นานนักก็มีสิ่งแปลกปลอมปรากฏขึ้น สิ่งนั้นคือ ‘ปีศาจ’ ที่เกิดขึ้นจากเหล่าสัตว์น้อยใหญ่ที่ได้แอบทาน ผลไม้สีแดงสดอันกรอบหอมหวาน ผลไม้แห่งปัญญา ทำให้พวกมันอยากจะปกครองพื้นผิวของโลกเอาไว้เอง โดยเฉพาะแพะตัวหนึ่งที่ได้ทาน ผลไม้แห่งปัญญาถึงจำนวนหกร้อยหกสิบหกลูก ทำให้ต้นไม้ที่ผลิตผลไม้แห่งปัญญาเหลือเพียงต้นเดียว

    แพะตัวนั้นมีปัญญามากและก็เจ้าเล่ห์มากเช่นกัน มันพยายามให้เหล่าสัตว์ทั้งหลายเข้าถึงอุดมการณ์ของมันโดยมันได้บอกเหล่าสัตว์เหล่านั้นไว้ว่า ‘พื้นผิวอันเขียวขจีนี้คือของพวกเรา ทั้งสายน้ำแสนสดชื่นนี้ก็ด้วยล้วนเป็นของพวกเรา แล้วเหตุใดเราจะปกครองไม่ได้’ ทำให้เริ่มมีเหล่าสัตว์ที่คิดเห็นด้วยเหมือนมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้พื้นผิวสีเขียวขจิที่สงบสุขได้กลายเป็นเปลวไฟที่เต็มไปด้วยสงครามแย่งชิงพื้นที่โดยความโลภ

    พระเจ้าที่จ้องมองสถานการณ์อยู่ด้านบนสูงสุดนั้น พระองค์เองก็รู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก เลยลงโทษแพะตัวนั้นและเหล่าสัตว์ที่แย่งชิงพื้นที่ให้เนรเทศไปอยู่ใต้พื้นพสุธา แต่พระเจ้าหารู้ไม่ว่าใต้พื้นพสุธานั้นมีวิญญาที่ไม่สามารถเวียนว่ายเกิดใหม่ได้ที่เรียกว่า เนโค อยู่ด้วย

    ทำให้พอพวกสัตว์ทรยศมาอยู่ใต้พื้นพสุธานั้น เจ้าแพะตัวนั้นได้เห็นกับเนโคที่มีอยู่จำนวนมากมาย มันเห็นอย่างนั้นแล้วเหมือนจะคิดอะไรออก เจ้าแพะตัวนั้นได้ดูเนโคเข้ามาอยู่ในร่างกายตัวเอง การที่มีเนโคจำนวนมหาศาลทำให้เจ้าแพะตัวนั้นได้กลายมหาปีศาจ และขนามนามตัวเองไว้ว่า ซาตาน และปกครองใต้พสุธาอย่างเผด็จการ

    บนพื้นผิวสีเขียวขจิที่กลับมาสงบสุขอีกครั้ง พระเจ้าที่ทรงรู้สึกเงียบเหงาอยู่นั้น ก็ได้หยิบธุลีของโลกขึ้นมาปั้น พระองค์ปั้นธุลีนั้นอย่างปราณีให้มีรูปลักษณ์คล้ายกับพระองค์ ทำให้เกิดมนุษย์เพศผู้คนแรกของโลก ที่มีนามว่า อดัม แต่พระองค์ก็รู้สึกอย่างอยากให้เกิดประชากรมากขึ้น เลยสร้างมนุษย์จากธุลีเช่นเดียวกับอดัม ทำให้เกิดมนุษย์เพศหญิงคนแรก ที่มีนามว่า ลิลิธ

    และส่งทั้งสองให้เป็นอาศัยในสวนเอเดนที่พระองค์ได้สร้างเอาไว้ พระองค์ได้นำต้นไม้ที่ผลิตผลไม้แห่งปัญญามาอยู่ในสวนเอเดนเช่นกัน เพราะพระองค์ไม่อยากเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอบ พระองค์เลยตั้งกฎให้มนุษย์ทั้งสองไว้ว่า ห้ามทานผลไม้แห่งปัญญาโดยเด็ดขาด

    แต่ทว่ามันกลับไม่ได้ราบรื่นเช่นนั้น เพราะอดัมผู้ที่พระเจ้าสร้างมาคนแรก คิดว่าตนเองมีอำนาจมากที่สุดหวังที่จะควบคุมลิลิธให้อยู่ใต้อำนาจของตน แต่ลิลิธกลับไม่ยอมเธอปฏิเสธอดัมเสียงแข็งเพราะตัวเธอเองก็ถูกสร้างมาจากธุลีของโลกไม่ต่างอะไรจากอดัม อดัมที่ยังยืนกรานว่าตนคือผู้ที่มีอำนาจมากที่สุดทำให้ลิลิธทนไม่ไหว เธอเลยหนีออกจากสวนเอเดนสรวงสวรรค์สำหรับสิ่งมีชีวิตอย่างไม่ลังเล

    ลิลิธที่ได้หนีออกจากสวนเอเดน เธอระเหเร่ร่อนจนพบกับทะเลสีชาด ทะเลแดง ที่แห่งอุดมสมบูรณ์ไม่ต่างจากสวนเอเดนมากนักเธอเลยปัดถิ่นฐานอยู่ที่นั่นแทน

    อดัมที่รู้ว่าลิลิธได้หนีออกจากสวนเอเดนเขาเลยแจ้งกับพระเจ้า โปรดให้พระเจ้าช่วยตามหาลิลิธให้กับเขา พระเจ้าที่หวังให้ทั้งคู่อยู่ด้วยกันอยู่แล้วเลยช่วยตามหา โดยการส่งทูตสวรรค์สามตน เซนอย ซานซานอยและซาเมงกาโลฟ ให้พวกเขาไปช่วยเจรจาให้ลิลิธกลับมาอยู่ด้วยกับอดัมอีกครั้ง

    แต่เมื่อเหล่าทูตสวรรค์ทั้งสามไปยังทะเลแดง ลิลิธที่ตั้งตารออยู่แล้วเธอได้เอ่ยปฏิเสธอย่างหนักแน่นว่าตัวเองจะไม่กลับไป แต่ทูตสวรรค์เองก็ไม่ยอมแพ้พวกเขาทั้งสามพยายามเช่นกัน จนเกิดเหตุไม่คาดฝันมีออร่าสีดำปกคลุมไปทั่วทะเลแดง ปรากฏชายร่างใหญ่ที่มีเขาแพะอันน่าสะพรึงกลัว เขาคนไม่เป็นใครไม่ได้นอกจากเจ้าแพะผู้ปกครองพื้นที่ใต้พื้นพสุธา ซานตานั้นเอง

    ซานตานั้นมีรูปร่างที่สง่างามมากทำให้ลิลิธเห็นเพียงครั้งแรกก็ตกหลุมรักชายมีเขาแพะอย่างทันที เขายื่นมือของเขาไปหาลิลิธหวังว่านางจะตามเขาไปอยู่ด้วย ก่อนที่จะเอ่ยคำชวนไว้ว่า ‘หากเจ้ามาอยู่กับข้า ข้าจะตั้งเจ้าเป็นสูงสุดของข้า ข้าจะมอบอิสระแก่เจ้า และข้าจะรับฟังคำพูดของเจ้า’ เพียงแค่นี้ก็ทำให้ลิลิธตัดสินใจไปอยู่ซาตานอย่างไม่ลังเล เพราะไม่ใช่เธอตกหลุมรักชายคนนั้นแต่เป็นสิ่งที่ชายตรงหน้าจะมอบให้เธอต่างหากทำให้เธอเลือกไปอยู่กับเขา

    สิ่งที่ลิลิธทำให้ทูตสวรรค์ไม่พอใจเป็นอย่างมากแต่พวกเขากลับทำอะไรไม่ได้นอกจากกลับไปรายงานให้กับพระเจ้า พระเจ้าทรงเกรี้ยวเป็นอย่างมากแต่พระองค์ก็ต้องสร้างมนุษย์สตรีคนใหม่ให้กับอดัมเสียก่อน

    พระองค์ได้สร้างมนุษย์สตรีเพศคนใหม่แทนลิลิธ โดยทรงทำกระดูกซี่โครงของอดัมมาปั้น จนกลายเป็นสตรีที่รูปลักษณ์คล้ายกับลิลิธแทบทุกประการแต่นางกลับมีความอ่อนหวาน เชื่อฟังอดัมตามที่เขาปรารถนา ก่อนจะตั้งชื่อนางว่า อีฟ

    จนมาวันหนึ่งซาตานที่เหมือนคิดแผนการชั่วร้ายได้ เขาได้ลักลอบขึ้นสวนเอเดนและแปรกายเป็นอสรพิษ เขาได้เลื้อยไปยังต้นไม้ของผลไม้แห่งปัญญา ตั้งตารอให้สตรีผู้แสนอ่อนหวานเข้ามาใกล้ สุดท้ายก็เป็นตามที่เขาคิดอีฟได้เดินมาใกล้ต้นไม้อันสูงใหญ่ต้นไม้ของผลไม้แห่งปัญญา เพราะในใจลึกๆ เธอเองก็แอบสงสัยเหตุใดถึงไม่สามารถทานผลไม้จากต้นนี้ไม่ได้

    ในเวลาที่ดวงตาอันอ่อนโยนกำลังจับจ้องต้นไม้ อสรพิษได้เลื้อยออกมาปรากฏให้อีฟเห็นก่อนที่ใช้คำพูดชักชวนอีฟว่า ‘ไม่ลองรึ? ลองทานดูสิ ไม่มีใครเห็นหรอก’ อีฟที่ได้ยินเช่นนั้นซ้ำไปซ้ำมาหลายนาทีทำให้ทลายความกลัวที่จะทำผิด มือขาวเนียมค่อยๆ เด็ดผลไม้สีแดงออกจากต้น ในมือของอีฟในตอนนี้กำลังถือผลไม้แดงสดอยู่ ในใจที่ได้เกิดลังเลขึ้นเธอจะทานดีไหม แต่อสรพิษตัวนั้นกลับขึ้น ‘ทานสิ ทานเลย ไม่มีใครผู้ใดเห็น ไม่มีผู้ใดไปฟ้อง’ ยิ่งอสรพิษพูดชักชวนมากขึ้นยิ่งทำให้อีฟเริ่มคล้อยตาม ปากเล็กๆ ค่อยเอื้อมเข้าไปใกล้ๆ ผลไม้ผลสีแดงสดก่อนที่จะกัดผลไม้นั้นลง

    เธอได้ทานผลไม้ผลนั้นเข้าไปแล้วแต่กลับไม่เห็นอะไรผิดปกติเกิดขึ้น อสรพิษเลยเอ่ยขึ้นว่า ‘เห็นไหม ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย ผลไม้จากต้นนี้เป็นแค่ผลไม้ธรรดา’ ก่อนที่มันจะเลื้อยหนีออกจากสวนเอเดนด้วยชัยชนะ ทิ้งให้อีฟที่ได้รับรสอันเลิศเลออยู่ทำให้เธอคิดอะไรได้ เธอได้นำผลไม้สีแดงผลนี้ให้อดัมได้ลองทานด้วย อดัมที่ไม่รู้ว่าผลไม้ผลนี้มาจากต้นอะไรก็ทานโดยไม่รู้เรื่องอะไรเลย

    เหตุทั้งหมดพระเจ้าได้เห็น พระองค์ลงไปหาอดัมและอีฟด้วยความเกรี้ยวเพราะพระองค์ได้สั่งห้ามไว้แล้ว พระองค์เลยลงโทษมนุษย์ทั้งสองคนไปอยู่บนพื้นพสุธาและสาปแช่งไว้ว่า ‘ลูกหลานของเจ้าจะต้องชำระบาปของพวกเขาไปทุกรุ่นทุกสมัย’

    แต่ทว่าหลังจากอดัมกับอีฟได้ถูกเนรเทศลงให้เป็นพื้นพสุธานั้นก็ได้เกิดการขัดแย้งขึ้น มีทูตสวรรค์บ้างตนเริ่มคิดแตกต่างจากพระเจ้า พวกเขาได้แอบลักลอบรวบรวมพลเพื่อหวังจะทำลายกฎแห่งสวรรค์ แต่พระเจ้าเองที่ทราบเช่นนั้นพระองค์ได้ใช้พลังของตนขับไล่เหล่าทูตสวรรค์พวกนั้นออก ทำให้เหล่าทูตสวรรค์ต้องไปอาศัยรวมกับซาตานที่ใต้พื้นพสุธาและกลายเป็น ทูตสวรรค์ตกผู้ตกสวรรค์

    พระเจ้าได้จัดระเบียบสวรรค์ของตนใหม่หมด แต่พระองค์กลับหารู้ไหมว่าพื้นพสุธานั้นกำลังจะเกิดเรื่องแล้ว

    ลิลิธที่ทราบว่าสวรรค์กำลังวุ่นวาย นางได้ปรากฏตัวต่อหน้าอีฟ มนุษย์สตรีคนที่สอง นางได้เห็นถึงว่าลำบากของอีฟที่ตอนนี้ใบหน้าของอีฟเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดที่เป็นต้นเหตุให้ตนกับอดัมต้องถูกเนรเทศ ลิลิธที่เห็นเช่นนั้นได้เอ่ยชักชวนว่า ‘ข้ารู้ว่าเจ้ารู้สึกอย่างเช่นไร ข้าเองก็เหมือนกับเจ้า ข้าเลยมีข้อเสนอกับเจ้า’

    ‘ข้าจะให้สามีของข้ามอบพรกับลูกหลานของเจ้า ถึงจะนานๆ ครั้งแต่ก็ได้ เจ้าจะรับไหม’

    อีฟที่เห็นสตรีที่มีรูปลักษณ์คล้ายกับตน เธอเลยเชื่อใจกับสตรีตรงหน้าเลยรับข้อเสนอนั้นโดยไม่บอกอะไรอดัมเลยแม้แต่น้อย ทำให้ลูกหลานของอดัมและอีฟได้รับพรจากซาตานทุกๆ สิบปี บาปที่ต้องชำระกับเริ่มถูกหลงลืมใกล้จะหมดสิ้น มนุษย์แทบทุกคนทำผิดบาปมากขึ้น

    พระเจ้าที่เห็นเช่นนั้นพระองค์เริ่มที่จะสงสารเหล่ามนุษย์ที่ตนเคยตั้งใจปั้นมาอย่างดี พระองค์เลยส่งบุตรแห่งสวรรค์ลงไปช่วยมนุษย์บนพื้นพสุธา ก่อนที่จะมอบสมุดแห่งวิวรณ์ให้แก่สหายของกายของบุตรแห่งสวรรค์ ทำให้มนุษย์เริ่มตระหนักรู้เรื่องการชำระบาป ทำให้พระองค์เองให้เหล่าทูตสวรรค์มอบพรแก่มนุษย์ไม่ต่างกับที่ซาตานมอบให้ก่อนจะประกาศว่า ‘ทุกสิ่งทุกอย่างสามารถมอบพรให้แก่มนุษย์ได้หมด แต่จะมอบให้เพียงแค่คนเดียวในแต่ละครั้ง และจงเรียกพรนั้นไว้ว่า พรสวรรค์

    แต่อย่างงั้นโลกกลับเริ่มวุ่นวายยิ่งกว่าเดิม มีคนที่ใช้พรสวรรค์กับการแย่งชิงไม่ต่างกับเหล่าสัตว์ในตอนนั้น พระองค์เองก็อยากจะให้ดาวเคราะห์ที่พระองค์ทรงโปรดปรานต้องมาล่มสลาย พระองค์เลยส่งคำทำนายให้แก่สหายของบุตรแห่งสวรรค์ พระองค์ได้บอกไว้ว่า ‘ในภายภาคหน้าข้าจะปลดปล่อยคนขี่ม้าทั้งสี่ตน มอบบทลงโทษให้แก่เหล่าสิ่งมีชีวิตบนโลก และจะกลายเป็นวันที่ดาวเคราะห์อันแสนจะโปรดปรานของข้าต้องล่มสลายหายไป’

    เมื่อวันที่โลกถูกลงทัณฑ์ ท้องนภาถูกปกคลุมไปด้วยความมืดมิด สายน้ำทั้งหมดถูกย้อมสีแดงฉานไปด้วยโลหิตซากศพของสิ่งมีชีวิตมากมายล่องลอยบนพื้นผิวน้ำ ซากตึกอาคารรหะหักพังมากมายเต็มพื้นที่ เหล่าสิ่งมีชีวิตต่างล่มตายจนหมดสิ้น กองซากศพกระจุยกระจายไปหมด แต่มีเพียงคนขี่ม้าทั้งสี่ที่ยืนดูผลงานของอย่างไร้ชีวา และแล้วคำทำนายของพระเจ้าก็ดันกลายเป็นจริง…..

     

     

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น