คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ๓
หลังจากอาบน้ำเสร็จ คนตัวเล็กก็ค่อยๆ พาตัวเองเดินลงมาด้วยร่างกายที่อ่อนแอหากแต่เพราะเป็นห่วงครอบครัวจึงต้องการโทรหาพวกเขาให้เร็วที่สุดและบังเอิญได้ยินลูกน้องของรามพูดถึงเรื่องการรับสมัครคนงานใหม่เพราะแรงงานที่นี่ไม่พอแต่หญิงสาวไม่ได้สนใจอะไรนัก ตอนนี้เรื่องของครอบครัวสำคัญที่สุด เดินไปแบบสุ่มๆเอาไม่นานก็เจอห้องนั่งเล่นแสนทึบทะมึนแม้จะมีแสงจ้าสาดเข้ามาก็ตาม เขานั่งอยู่ตรงนั้นและกำลังทำอะไรบางหน้าตาเคร่งเครียดพอดู
“เอ่อคือ” คนตัวเล็กมองนาฬิกาทรายในมืออย่างลำบากใจก่อนจะทำใจกล้าเอ่ยปากขอโทรศัพท์ “ฉันขอยืมโทรศัพท์หน่อยได้ไหม”
“อะไรของเธออีก เอาไป ยุ่งจริงๆ เลย” ทำเป็นโวยวายแต่รามก็ยอมล้วงโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงยื่นให้เธออย่างขอไปที ธุวดาราไม่รอช้ารีบกดโทรหาพ่อของตนทันทีแม้ว่าคลื่นโทรศัพท์จะไม่เต็มขีดก็ตาม
“รีบๆ หน่อย”
“ค่ะ” เธอตอบพลางยกโทรศัพท์ข้างหูก่อนจะยิ้มกว้างเมื่อพ่อของเธอรับสายอย่างรวดเร็ว “พ่อคะ”
‘ดาวเหรอลูก’
“ค่ะพ่อ”
‘มีปัญหาอะไรหรือเปล่าทั้งวันทั้งคืนหนูเงียบไปเลย พวกเราเป็นห่วงแทบแย่’
“ดาวไม่ได้เป็นไรค่ะแล้วเรื่องคุณคณิน เขาไม่ได้มาหาเรื่องให้พ่อกับแม่ทุกข์ใจใช่ไหมคะ” ปลายสายเงียบไปครู่ใหญ่ๆ จนธุวดาราเริ่มเอะใจ
‘ไม่…ดาวหนูห้ามกลับมาเด็ดขาดนะ ตอนนี้เรื่องมันชักจะไปกันใหญ่แล้ว คณินส่งคนออกตามหาตัวเราให้ควัก อย่าเพิ่งกลับมาเด็ดขาด’
“หนูจะกลับไป ถ้าหนูเป็นต้นเหตุของเรื่องนี้ หนูต้องรับผิดชอบ”
‘พี่ดาว’
“ดา ดาเหรอ ดาเป็นไงบ้าง”
‘ดาไม่ได้เป็นไรแต่ว่าดาขอยืนยันตามพ่อว่าพี่ห้ามกลับมาเด็ดขาดไม่ว่ายังไงก็ตาม ตอนนี้นายนั่นส่งคนมาเวียนดูบ้านเราด้วยแถมจับตาดูเราตลอดเวลานี่ว่าต้องมีแอบดักฟังด้วยแน่ๆ เขาบอกว่าถ้าตามหาพี่เจอเขาจะต้องเอาตัวพี่มาเป็นเจ้าสาวให้ได้ไม่ว่ายังไง’
“พี่ยิ่งต้องกลับ มันเป็นเรื่องที่ทุกคนไม่ควรจะเดือดร้อน มันไปกันใหญ่แล้ว”
‘ถ้าพี่กลับมา มันจะใหญ่กว่านี้อีกอย่าเพิ่งกลับ หลบที่นั่นไปก่อนนะตอนนี้พวกเราสบายมากแต่คนที่จะเดือดร้อนคือพี่เต็มๆ อีตานี่ดูอยากจะเอาคืนพี่กับกลัวเสียหน้ามากกว่าอยากได้พี่ไปเป็นเจ้าสาวซะอีก’ ว่าแล้วน้องสาวก็วางสายไปทำเอาธุวดาราหน้าเครียดเลยทีเดียว ผู้ชายอย่างคณินน่ากลัวจริงๆ ที่จองล้างจองผลาญเธอไม่เลิก เอาวะ ไม่กลับก็ไม่ต้องกลับ ใบหน้าหวานค่อยๆ ช้อนดวงตามองรามตาปริบๆ อีกครั้ง
“เอ่อ คุณรามคะ”
“มีอะไร”
“ฉัน ฉันได้ยินเรื่องที่นี่กำลังรับสมัครคนงานหลายอัตรา ฉันขอสมัครด้วยได้ไหมคะพอดีว่าที่บ้านมีปัญหานิดหน่อย ฉันคิดว่าที่นี่คุณคงจะใหญ่โตอยู่”
“ดูหน้าฉันสิ หน้าฉันดูเหมือนพนักงานกรมการจัดหางานหรือไง ตกลงเธอหาทางออกให้ชีวิตตัวเองยังไงเนี่ย” ผู้หญิงคนนี้ชักจะมากไปแล้ว ทำให้คนอย่างเขาต้องอดปากเถียงกลับไม่ได้ทั้งที่รามก็ไม่เคยเป็นคนแบบนี้
“ไม่เหมือนหรอก แต่คุณดูใจดี หน้าตาก็หล่อ ดูเป็นคนมีน้ำใจ ดูน่ากลัว…เอ่อ น่าเกรงขาม ตอนนี้ฉันเดือดร้อนมากๆเลยอยากจะขอร้องคุณ ฉันไม่ได้ขออยู่ไปวันๆนะฉันจะทำงานแลก” แม้ว่าเขาจะดูก็รู้ว่าคนตรงหน้ายกสตรอเบอร์รี่มาทั้งสวน ช่วยไม่ได้นี่ในเมื่อเขาเป็นคนแรกที่เธอเจอนี่นา
“พอ! ได้แต่เธอต้องมีเอกสารของเธอด้วยฉันจะได้รู้ว่าเธอไม่ใช่ไอ้พวกเห็บหมัดน่ารำคาญ” เขาไม่ได้พูดอะไรนอกจากบอกแค่นั้น ธุวดาราก็ไม่อยากทู่ซี้มากเพราะตอนนี้การได้อยู่ที่นี่สำคัญกับเธอที่สุด นอกจากหนีคู่หมั้นเก่าแล้ว การที่ต้องทำในสิ่งที่เรียกว่าล้างคำสาปก็เป็นหนึ่งในนั้นที่สำคัญเช่นกัน
“ค่ะๆ ขอบคุณมากนะคะ”
อีกฟากหนึ่งในกรุงเทพมหานครที่เหล่าครอบครัวของธุวดาราเองก็ทำทีโทรตามหาไม่หยุด ล่าสุดปรากฏว่าโทรศัพท์ของเธอจะโทรไม่ติดเสียแล้ว ดารกาทำเป็นติดต่อไปยังรีสอร์ตที่ธุวดาราจะเข้าพักไม่มีรายงานว่ามาเช็คอินเพื่อตบตาคนของคณิน
“ทำยังไงดีคะแม่”
“ดาวเหนือหายไปเลยจนป่านนี้ยังโทรหาไม่ติด ต้องมีเรื่องแน่ๆ เลย”
“เอาล่ะๆ เดี๋ยวเราค่อยไปแจ้งตำรวจดีไหมให้ออกตามหาดาวเหนือแล้วกันนะ ตอนนี้ไม่มีใครรู้ว่าอะไรเป็นอะไร คิดในแง่ดีคือดาวอาจจะยังรอดเพราะพ่อรู้ดีว่าลูกสาวทุกคนเป็นคนเข้มแข็ง”
“ขอให้เป็นอย่างนั้นเถอะนะคุณ” ทั้งหมดถอนหายใจอย่างเป็นห่วงคนที่อยู่ไกล
“บางทีเรื่องนี้มันอาจจะไม่เลวร้ายขนาดนั้นก็ได้”
“สาธุ ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองดาวเหนือให้ปลอดภัยด้วยเถอะ” ภัคจีราเหลือบตาไปมองคนของคณินที่มาเดินเพ่นพ่านดูครอบครัวตนเองก็รีบทำเป็นยกมือขอสิ่งลี้ลับอย่างจนปัญญา งานนี้ขอแค่ได้ลูกอย่ากลับมาตกนรกกับผู้ชายแบบนี้ไม่ว่าอะไรก็ยอมทั้งนั้น
ผ่านไปอีกวัน ร่างกายที่ผ่านการอาบน้ำก็รู้สึกสดชื่นขึ้นทันใด หลังจากการใส่เสื้อและนุ่งซิ่นของแจงจิตก็ทำเอาคนช่วยใส่ตาวาวอึ้งในความงามไม่หยุด ขนาดนั่งหวีผมหน้ากระจกแล้วเสียงของแจงจิตก็ยังชมไม่หยุด
“หนูดาวเหนือนี่สวยมากๆ เลยนะ สวยแบบไม่ต้องพยายาม ขนาดหน้าสดยังดูเนียนดูเปล่งปลั่งอยู่เลย”
“ขอบคุณค่ะ แค่นี้หัวหนูก็จะติดเพดานแล้วนะ”
“งั้นหวีผมเสร็จรีบมาทานข้าวต้มเลยนะจ๊ะมันจะเย็นหมดแล้ว”
“ค่ะ ว่าแต่นายใหญ่ของที่นี่ของป้าใช่คนหน้าหล่อๆ ดุๆ ดูร้ายๆ ใช่ไหมคะหรือมีใครที่ใหญ่กว่านี้อีกคะ” ทันใดนั้นหญิงสาวก็หันมาถามด้วยความสงสัย
“ใช่ค่ะเขาเป็นเจ้าของที่นี่แล้วก็เป็นนายของพวกเรา ชื่อว่าคุณราม สิงหราช"
“ที่นี่มีแค่เขาเหรอคะ ดูบ้านเงียบๆ เหงาๆ ยังไงก็ไม่รู้” แจงจิตทำหน้าลำบากใจก่อนจะพยักหน้ารับอย่างช้าๆ
“มีแค่เขาคนเดียว ป้าก็อยู่บ้านป้า ลูกน้องคนอื่นก็มีบ้านพักคนงานของเขาที่นายสร้างไว้ให้”
“ถ้าอย่างนั้นก็เหงาแย่ล่ะสิคะแถมต้องกินข้าวคนเดียวทุกวันด้วย เป็นดาวนะคงอึดอัดตายเลย” ใบหน้าหวานส่ายหน้าเป็นพัลวัน ขนาดเธออยู่บ้านคนเดียวกินข้าวคนเดียวแค่ไม่กี่วันก็เหงาจะแย่อยู่แล้ว ถ้าจะให้อยู่คนเดียวไม่มีใครคอยคุยคอยเล่นด้วยเธอต้องอกแตกตายแน่ๆ
“ใช่ค่ะ บ้านหลังนี้เขาอยู่คนเดียวจนชินแล้ว” ธุวดาราหันไปมองนาฬิกาทรายของตนอย่างเงียบๆ บนหัวเตียงพลางครุ่นคิดอย่างหนัก
“ตอนนี้เขาน่าจะทานข้าวอยู่ใช่ไหมคะ งั้นเดี๋ยวดาวกลับมานะคะ” ว่าแล้วคนร่างบางก็ยกถ้วยข้าวต้มลงไปข้างล่างอย่างรวดเร็วจนแจงจิตเรียกไว้แทบไม่ทันต้องเดินลงไปตาม
ธุวดาราเดินลงมาข้างล่างก็เห็นเขานั่งดูเอกสารปึกใหญ่บนโต๊ะและมีเหล้าวางไว้ข้างๆ ราวกับว่าเป็นน้ำเปล่า หญิงสาวเห็นหน้าตาอันเคร่งเครียดของรามก็แอบหวาดหวั่นไม่น้อย แต่ก็เอาเถอะเขาคงไม่ว่าอะไรถ้าเธอไปนั่งกินที่โต๊ะอาหารไม่ใกล้ไม่ไกลนั้น แต่ขอหน่อยเถอะ ว่าแล้วธุวดาราก็วางข้าวต้มไว้แล้วจึงเดินมาหารามพลางยิ้มหวาน
“คุณ” เรียกไปแล้วแต่ก็ไร้สัญญาณตอบกลับมา “คุณราม”
“เรียกหาสวรรค์วิมานอะไร” แรงมากแม่…
“ฉันอยากจะมาขอบคุณที่คุณช่วยฉันทุกอย่างเลย ตอนนี้ฉันก็ดีขึ้นมากแล้ว ขอบคุณมากๆ นะ” ขนาดว่าส่งยิ้มกว้างๆ ไปให้รามยังไม่สนใจจะแลด้วยซ้ำ “ฉันรู้ว่าฉันทำให้คุณลำบากแต่ฉันเดือดร้อนจริงๆ นะคุณ”
“อืม” ตอบแค่นั้นเองเหรอ
“คุณพอมีเวลาสักเดี๋ยวไหมคะ”
“เวลาของฉันมันราคาแพง ฉันไม่อยากเสียเวลาไปกับอะไรไร้สาระ”
“แต่ช่วยคนไม่ไร้สาระนะ” เขาสูดลมหายใจลึกด้วยความเหลืออดก่อนจะยอมเงยหน้ามองเธออย่างติดจะรำคาญใจ หญิงสาวเห็นก็ยิ้มแหยๆ ส่งให้อย่างเป็นมิตร
“มีอะไร”
“คือ…ฉันอยากจะถามว่าหน้าที่ของฉันคืออะไรเหรอคะ”
“ไม่หนักหรอก” ใบหน้าหวานยิ้มกว้างทันทีอย่างดีใจ
“งานอะไรเหรอคะ”
“แม่บ้าน” ทันใดนั้นยิ้มของเธอก็เริ่มค้างแข็งพร้อมๆ กับคำว่าแม่บ้าน เธอไม่ค่อยทำงานด้านนี้มามากนัก อยู่ที่บ้านก็แชร์หน้าที่กับน้องสาวเสียส่วนใหญ่แถมมักจะจ้างแม่บ้านบ่อยๆ
“ฉันคือว่า…ฉันคิดว่ามันออกจะยากไปหน่อย” เห็นไม้เนื้อดีของบ้านหลังนี้ทำเอาธุวดาราไม่อยากทำขึ้นมาเลยทีเดียว
“ถ้าหายดีแล้วก็เริ่มงานได้เลยนะ”
“แล้วป้าแจงล่ะคะ” เธอรีบแย้งทันควันไม่ขอไปแย่งงานใครเด็ดขาด
“แจงจิตก็มีงานของเขาที่ไร่องุ่นเหมือนกัน เธอล่ะจะเอายังไง” พอได้ยินอย่างนั้นก็แอบไม่ชอบอยู่บ้างเพราะต้องใช้แรงทำความสะอาดบ้านทั้งหลังคนเดียว พอดีเป็นคนขี้เกียจนิดหน่อย
“ทำค่ะ”
“เงินเดือน 55,000 ตกลงไหม” คนร่างบางหันขวับไปหาเขาหน้าแทบสั่นอ้าปากค้างเมื่อได้ยินเงินเดือนที่จะได้ เป็นมหาเศรษฐีหรือไงงานแม่บ้านให้ตั้งห้าหมื่นกว่า
“คุณให้เงินเดือนอีกนิดนี่คือจะใกล้เคียงกับแม่บ้านที่วังประเทศอังกฤษแล้วนะเนี่ย”
“ของแพงๆ ฉันก็เยอะที่วางอยู่ทั้งบ้าน ไหนจะปืนเก่าปืนใหม่อีกเยอะแยะบนผนัง มันดูแลยากและเธอก็ต้องดูแลมันให้ดี เสียหายหนึ่งครั้งเงินเดือนเธอลดแน่”
“แหม ก็ได้ค่ะ เพื่อความอยู่รอดฉันตกลง” ใบหน้าหวานเริ่มยิ้มอีกครั้งก่อนจะเดินไปนั่งทานข้าวต้มมองเขาเงียบๆ ส่วนรามนั้นกลับถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย “ข้าวต้มไหมคะ”
คิดผิดหรือคิดถูกที่ให้ผู้หญิงคนนี้ทำงานที่นี่
“…”
“ฉันชื่อดาวเหนือนะคุณราม”
“ไม่ได้ถาม” ได้ยินเท่านั้นธุวดาราก็รีบหุบปากและทานข้าวทันที ตอกกลับแต่ละคำเอาเธอสะอึกแทบไปไม่เป็นเลยทีเดียว กินข้าวเฉยๆ ก็ได้ค่ะ
คนอะไรเย็นชาที่สุดเลย
คณินยืนมองกรุงเทพมหานครผ่านแผ่นกระจกใสบนตึกระฟ้าอย่างเป็นกังวล ยิ่งนึกภาพของธุวดาราตอนบอกเลิกเขาไปหัวใจก็เจ็บไม่ต่างกัน เขาทำแบบนั้นไปได้ยังไง ทรยศแฟนสาวที่แสนดีเพื่อความสุขชั่ววูบของตัวเอง พอทำไปแล้วถึงต้องมานั่งรับผลเสียที่เกิดขึ้นมาของตัวเอง
ไม่รู้ว่าตอนนี้เธอไปอยู่ที่ไหนทางฝ่ายดารกาก็ไม่บอกอะไรกันบ้างเลย
“ท่านรองคะ น้องดารกามาขอพบค่ะ” เสียงพนักงานสาวผู้เป็นเลขาจำเป็นเพราะคนเก่าไล่ออกไปแล้วต่อสายเข้ามายังในห้องของเขาทำให้คณินต้องรีบรับอย่างรวดเร็ว
“ให้เธอเข้ามา”
รอไม่นานนักหญิงสาวในชุดนักศึกษาก็เปิดประตูเดินเข้ามาหน้าตาดูไม่เต็มใจนัก คณินเห็นก็อดจะแสยะยิ้มใส่ไม่ได้
“มีอะไรเหรอคุณดารกา”
“ฉันจะมาถามว่าคุณไปตามหาพี่สาวฉันถึงไหนแล้ว” เสแสร้งให้ดูร้อนรนหน่อยก็แล้วกัน
“ทำไมผมต้องมาบอกเรื่องนี้กับคุณด้วยเดี๋ยวคุณก็ต้องเอาเรื่องไปบอกพี่สาวคุณอยู่ดี” เขาตอบเสียงเรียบ
“ก็…เพราะตอนนี้ฉันก็ยังติดต่อพี่ดาวเหนือไม่ได้นะสิ”
“ว่าไงนะ ยังติดต่อไม่ได้?”
“ก็ใช่แหละ พี่สาวฉันหายไปนายคงจะรู้แล้ว ฉันเห็นว่านายชอบใช้ลูกน้องไปสอดก็เลยรำคาญ ก็เลยมาที่นี่กะจะบอกว่าครั้งสุดท้ายที่คุยกัน เธอจะไปไหน”
“ครั้งสุดท้ายเธอบอกหรือเปล่าว่าอยู่ที่ไหน ผมจะรีบให้คนกลับมาตั้งต้นใหม่” คณินลุกพรึ่บถามขึ้นอย่างร้อนรน “ไม่ต้องห่วงหรอกเรื่องนี้ ฉันจะช่วย”
“ช่วยแต่ขอร้องถ้าตามเจออย่าบังคับจิตใจพี่สาวฉันนะ”
“ไม่ได้ ผมต้องรีบตามให้เจอ งานแต่งงานกำลังจะมีขึ้นอยู่แล้ว”
“คุณนี่มันบัวใต้น้ำจริงๆ เออ บอกก็ได้” ดารกาเงียบไปครู่หนึ่ง นึกจินตนาการว่าหากเขาพบเธอ ไม่รู้ว่าที่หายไปกับกลับมาต้องแต่งงานกับคณินแบบนี้ อย่างไหนจะน่ากลัวกว่ากัน “เอ่อ”
“ก็บอกมาเร็วๆ”
“อยู่จังหวัดสงขลาเห็นบอกว่าไป…ที่ไหนจำไม่ได้แล้วนะ รู้แต่ว่าไปจังหวัดสงขลา” พูดอย่างเดียวไม่พอเดี๋ยวไม่น่าเชื่อถือต้องทำตาเศร้าๆเติมเข้าไปด้วย
“ได้ ผมจะรีบส่งคนไปตามหาเร็วๆ เลย” พูดจบเธอก็เห็นคณินหยิบโทรศัพท์มากดส่งข้อความด้วยแววตาเคร่งเครียด ตอนนี้ดูเหมือนจะรักธุวดารา พี่สาวของเธอนะ
แค่ดูเหมือน
ดารกามั่นใจมากว่าพี่สาวของเธอเป็นคนมีเหตุผล ใจเย็น น่ารักไม่ใช้อารมณ์แต่จากวันนั้นที่กลับมาบอกได้เลยว่าคณินต้องทำเรื่องผิดมาอย่างแรงแน่นอน
“ก่อนไปฉันขอถามคุณได้ไหม คุณไปทำอะไรทำไมพี่สาวฉันถึงได้ร้องไห้กลับมา ก่อนหน้านั้นฉันสังเกตดู คุณกับพี่สาวฉันก็ไม่ได้ดูรักกันขนาดนั้นแต่ทำเหมือนกับเพื่อนกับพี่ที่นัดสังสรรค์กันทุกวันหยุดเพื่อไปดื่มกาแฟพูดคุยกัน มันดูไม่เหมือนคนรักกันจริงๆ นะ”
“แล้วยังไง เราคบกับเพราะคิดถึงความมั่นคงในอนาคตเหมือนกัน การแต่งงานนอกจากความรักแล้วเรื่องนี้ก็สำคัญนี่”
“โอ้โห ฉันอึ้งเลยอ่ะ ในโลกนี้ยังมีคนคิดแบบนี้นี่นะ”
“ก็ยังไงล่ะ ฉันคิดแบบธุรกิจรักด้วยใจและรักด้วยสมอง ถ้าเผื่อเธอจะสังเกตนะคู่รักกันส่วนมากจะทะเลาะกันก็เรื่องเงินนี่แหละ ฉันให้เกียรติพี่สาวของเธอตลอด ดาวเหนือต้องการมีคืนแรกในวันแต่งงานฉันก็โอเคแต่ก่อนนั้นฉันขอสนุกมันผิดเหรอ” ดารกาทำหน้าขยาดโดยไม่ปกปิดด้วยซ้ำ ความคิดของของเขามันยิ่งทำให้เธอเกลียดที่สุด
“คุณมันทุเรศของจริงเลย คิดได้ไงเอาเรื่องความรักกับธุรกิจมารวมกันแล้ว…” ฉับพลันตากลมเฉี่ยวก็เบิกกว้างขึ้นราวกับไข่ห่านเมื่อได้พินิจคำพูดของเขาอย่างละเอียดยิบ “คุณแอบไปมีอะไรกับคนอื่นแล้วพี่ดาวจับได้ใช่ไหม”
“ก็…เรื่องนอกกายฉันยอมรับแต่เรื่องนอกใจฉันไม่ยอมรับ ฉันรักดาวเหนือจริงๆ”
“เปล่า คุณรักตัวเองต่างหาก ขอตัวนะ ถ้าเจอเธอขอให้เธอไม่เอามีดปักคอคุณแล้วกัน” ว่าแล้วเธอก็เดินจากไปอย่างโกรธเกรี้ยวนึกเจ็บใจแทนพี่สาว นักธุรกิจที่คนข้างนอกมองเข้ามาว่าเป็นคนดีสุดแสนจะสมบูรณ์แบบแต่กลับเจ้าชู้ไม่รู้สึกผิดในสิ่งที่ทำ ตอนนี้ดารกาก็ได้แต่ขออย่างเดียว ขอให้พี่สาวเธอรอดจากผู้ชายแบบนี้เป็นพอ
เสียงรถเครื่องเก่าๆ วิ่งเข้ามาในบริเวณบ้านอีกหลังไม่ไกลกันมากนักดับลง คนขับเองก็รีบลงจากรถวิ่งเข้าบ้านไปอย่างรีบร้อนด้วยมีเรื่อง
“คุณปราชญ์ครับ” ปราชญ์ ชายหนุ่มวัยเกือบสามสิบผู้เป็นเจ้านายที่นั่งโอบเอวสาวๆ อยู่ก็มีอันต้องหงุดหงิดทันที คนกำลังมีความสุขดันมีมารผจญมาเสียนี่
“มีอะไร”
“คนของเราโดนพวกไอ้รามฆ่าตายแล้วครับ” เพียงเท่านั้นปราชญ์ก็ลุกขึ้นด้วยความตกใจเต็มความสูง
“บ้านมันติดกล้องวงจรปิดทุกสองเซนหรือไงวะ มันจะหูตาไวอะไรขนาดนั้น”
“ตอนนี้ศพไอ้เข่งโดนทิ้งอยู่แถวนี้ครับ”
“มึงรีบพามันไปไกลๆ กูเลย เอามันไปฝังทำพิธีเลยไป กูหลอน” เขาบอกเสียงห้วนก่อนจะหันไปหยอกล้อกับสาวๆ ต่อโดยไม่ได้สนใจเรื่องนี้อีกต่อไป
“แต่คุณปราชญ์ครับ มันเป็นมือขวาของนายใหญ่…”
“ไม่ต้องสนหรอกน่า ลุงกู กูจัดการเอง” ว่าแล้วก็หันไปโอบเอวสาวๆ ต่อตัดสินใจพาเดินขึ้นชั้นสองไปเพราะทนรำคาญลูกน้องที่ชอบขัดตลอดเวลาไม่ได้ คนจะมีความสุขมารผจญก็ไม่มีสิทธิ์
ความคิดเห็น