คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Chapter 5 Call me maybe
Luhan’s Side
คริสอู๋อี้ฟาน ไอ้บ้า บ้า ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ บ้าที่สุดเลย!!
ไม่ต้องแปลกใจหรอกครับที่ตอนนี้ผมโคตรอารมณ์เสีย ไม่ได้อารมณ์เสียธรรมดาด้วย อารมณ์เสียมากกกกกกกกก หลังจากที่เมื่อวานคริสได้เบอร์ผมไปแบบเนียน ๆ แล้ว ผมก็นั่งรอ นอนรอ ว่าเมื่อไหร่เสียงโทรศัพท์จะดังซักที แต่ผมรอถึงตีสาม!! ก็ไม่มีสายเข้าเลย อ้อ! ครั้งนึง มีข้อความเข้า ผมนี่ดีใจแทบตาย มือไม้สั่นไปหมด แต่พอเปิดดู กลับเป็นข้อความโฆษณาให้สมัครรับคลิปสาวน้อยอะไรไม่รู้ ผมเลยส่งกลับไปว่า ‘ไม่สมัครโว้ยยยยยรอคริสโทรมาอยู่!!’ ผมรู้ครับว่าผมบ้า ไม่เพี้ยนจริงทำไม่ได้หรอก
ก็แล้วมันเพราะใครล่ะ ที่ทำให้ผมเป็นแบบนี้! เฟล ๆ ๆ เฟลไม่ไหวแล้ว
ให้ทายว่าตอนนี้กี่โมง? ขณะนี้เวลาตีสามห้านาทีครับ แล้วผมก็ยังไม่นอน ทั้ง ๆ ที่ความจริงผมเป็นเด็กอนามัยจะตาย สารภาพก็ได้ว่าผมยังแอบมีความหวังนิด ๆ ว่าคริสจะโทรมา แต่ตอนนี้ความหวังของผมกำลังเริ่มเลือนรางแล้ว
ทั้ง ๆ ที่พรุ่งนี้ผมต้องตื่นตั้งแต่หกโมงมาเรียนพิเศษกับพี่เลย์ด้วยนะ แต่บอกตรง ๆ ว่าผมข่มตาหลับไม่ได้จริง ๆ ผมเอี้ยวตัวกดเปิดโคมไฟ แล้วไถลๆเอาหัวซุกหมอน มือควานหยิบหนังสือเรื่อง Snow White ที่ได้จากอาจารย์ขึ้นมา เปิดอ่านเล่นฆ่าเวลา พรุ่งนี้คยองซูไม่อยู่ ไปงานแต่งญาติที่ต่างจังหวัดอะไรประมาณนี้แหละ แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาหรอก เพราะถึงหนังสือมันจะหนาเป็นร้อยหน้า แต่ถ้าผมกับคยองซูช่วยกันแปล แป๊ปเดียวก็คงจะเสร็จ อะไรกัน อย่ามองผมแบบนั้น ก็อาจารย์บอกว่าให้ช่วยกันแปล ผมก็กำลังทำตามคำสั่งอย่างเคร่งครัดอยู่นี่ไง เรื่องอะไรผมจะทำคนเดียว ไม่ได้เป็นคนดีขนาดนั้นหรอก
“นาอือรือรอง อือรือรอง อือรือรอง แด…” ใครโทรมาดึกดื่นขนาดนี้กันนะ ผมหยิบไอโฟนขึ้นมาดู เป็นรหัสแปลก ๆ เหมือนโทรมาจากต่างประเทศ?
“ฮัลโหล”
“อืม…”????
“ใครน่ะ” ผมเป็นฝ่ายถามเองเมื่อปลายสายไม่พูดอะไร “เดี๋ยวนะ! คริสเหรอ!?”
“ใช่ ฉันเอง” ไอ้บ้าเอ้ย นายได้เบอร์ฉันไปตั้งแต่เมื่อวาน แต่เพิ่งโทรมาเอาป่านนี้เนี่ยนะ! “ฉันโทรมากวนนายรึเปล่า ลืมไปเลยว่าเวลาที่อเมริกากับเกาหลีมันต่างกัน”ยังดีนะที่อุตส่าห์เป็นห่วงกัน ผมสาบานได้เลยว่าผมหยุดยิ้มไม่ได้จริงๆ
“ไม่เป็นไร มีอะไรรึเปล่า”ผมพยายามตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่เรียบที่สุด ไม่อยากให้อีกฝ่ายรู้ว่าตอนนี้ผมดีใจแทบบ้า
“พุธหน้า วันเกิดฉัน”
“แล้ว?”
“แกล้งโง่รึไง” โอ้ย เจ็บเลย “ก็จะชวนมางานวันเกิดน่ะสิ”
“ในฐานะอะไรล่ะ”
“จะฐานะอะไรก็ช่างสิ ฉันเป็นคนชวนเอง ใครจะกล้าว่า!”
“เราแทบจะไม่เคยคุยกัน ฉันเลยไม่แน่ใจว่าแบบเรานี่…เรียกว่าเป็นเพื่อนกันรึได้เปล่า”
“แล้วแต่นายจะคิด”
“อ้าว”
“ฉันมีเรื่องจะบอกแค่นี้ นายจะได้เตรียมของขวัญได้ทัน”
“โธ่ ที่แท้ก็ห่วงของขวัญนี่เอง งกชะมัด”
“อะไรนะ?”
“ปล๊าวววววว”
“ฉันต้องไปทำงานต่อแล้ว นอนเถอะ ที่เกาหลีคงดึกมากแล้ว” ดึกมากอะไร จะเช้าแล้วต่างหาก!!
แต่ประโยคเมื่อกี้ แอบเป็นห่วงกราย ๆ รึเปล่านะ ขอคิดเข้าข้างตัวเองหน่อยแล้วกัน
“อือ ฝันดีนะ”
“ฉันยังไม่นอน”
“ก็บอกไว้ก่อนไง”
“หึ…” แล้วปลายสายก็ตัดไป ผมบิดไปบิดมาอยู่บนเตียง นี่ถ้าผมกรี๊ดแบบพวกผู้หญิงได้ ผมคงทำไปแล้ว ผมยิ้มกว้างอย่างไม่แคร์ตีนกาบนหน้า ก็มีความสุขอ่ะ ทำไมล่ะ
What a terrific night!!!
เป็นคืนที่สุดยอดไปเลย!!
ผมตื่นตั้งแต่หกโมงเช้า ไม่สิ อย่าเรียกว่าตื่นเลย แทบจะไม่ได้นอนเลยต่างหาก ผมไม่ได้เยอะนะ แต่ถ้าคุณเจอแบบผม คุณจะหลับลงได้ยังไง
โอ้ย ลู่หานฟินนนนนนนน
วันเสาร์กับวันอาทิตย์ตั้งแต่สามโมงเช้าถึงหนึ่งทุ่ม พี่เลย์จะมาสอนพิเศษให้ผมครับ เพราะรู้ว่าพี่เลย์มีเวลาให้ผมจำกัด ผมเลยต้องตั้งใจเรียนมากกว่าปกติ และพี่เลย์ก็ไม่เคยทำให้ผมผิดหวัง อะไรที่ผมงงหรือไม่เข้าใจ พี่เลย์ก็จะมีวิธีการอธิบายที่เราคาดไม่ถึงแต่ดันเข้าใจได้ทะลุปรุโปร่งชนิดล้วงลำไส้ทะลุออกทางตับ ลากม้ามออกมาทางปากแล้วผ่าให้ดูอะไรประมาณนั้น โดยเฉพาะวิชาสายวิทยาศาสตร์ ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา หรือแม้แต่คณิต ที่แต่ก่อนผมโคตรจะเกลียด แต่ตั้งแต่พี่เลย์มาสอนนี่รู้สึกว่าคณิตศาสตร์ง่ายขึ้นเยอะ แถมพี่เลย์ของผมเนี่ย ไม่ธรรมดานะครับ เป็นคุณหมออิมพอร์ทจากโรงเรียนแพทย์ที่อังกฤษ ครอบครัวผมเลยรีบจองตัวมาลงที่โรงพยาบาลของเราอย่างรวดเร็ว เพราะงั้นไม่ต้องแปลกใจเลยว่าผมเก่งอังกฤษเหมือนใคร ได้ครูดีก็งี้แหละครับ อยากได้บ้างมั้ยล่ะ
…ไม่ให้หรอกนะ ผมหวง:P
ผมเหลือบมองนาฬิกาที่บอกเวลาสามโมงตรง …แปลก พี่เลย์ไม่เคยเลทนี่นา
“ขอโทษนะเสี่ยวลู่ พอดีเมื่อเช้ามีเคสด่วนเข้ามาน่ะ”
ผมได้ยินเสียงพี่เลย์กระหืดกระหอบมาแต่ไกล
“ไม่เป็นไรพี่เลย์ ผมรอได้”
“น่ารักที่สุดเลย” พี่เลย์บีบจมูกผมอย่างหมั่นเขี้ยว
“โอ้ย เบาๆ พี่เลย์ เดี๋ยวดั้งหักพอดีกัน ฮึ้ย น่ารักแล้วรักป่ะล่ะ”
“รักสิ มาเลย อ้อนแบบให้นี้เลือกเลยว่าจะเรียนวิชาอะไรก่อน”
เผื่อคุณจะไม่รู้ เวลาพี่เลย์ยิ้มจนเห็นลักยิ้มเนี่ย
…น่ารักเป็นบ้าเลย!!
ตอนนี้เวลาห้าโมงเย็น ผมยังฟังสิ่งที่พี่เลย์อธิบายอย่างตั้งใจ จากนั้นไม่นานพี่เลย์ก็ให้ฝึกทำข้อสอบประมาณสิบกว่าข้อ ผมนั่งขีด ๆ เขียน ๆ อยู่พักใหญ่ จนทนไม่ไหว ต้องระบายสิ่งที่อัดอั้นตันใจออกมา
“พี่เลย์…” ผมพูดเสียงออดอ้อน “อยากกินชานมอ่ะ”
จริง ๆ แล้วผมกินแทบทุกวันเลยนะ แต่เมื่อวานหงุดหงิดที่คริสไม่โทรมาจนลืมๆ เรื่องนี้ไป พอนึกออกก็อยากกินขึ้นมาดื้อๆ
“เปล่าซักหน่อย”
“เอางี้ เดี๋ยวพี่พาไป”
“จริงดิ”
“จริงสิ ติวนอกสถานที่บ้างก็ได้ อยู่แต่บ้าน เสี่ยวลู่ของพี่คงเบื่อแย่”พี่เลย์อมยิ้ม ขยี้หัวผมอย่างหมั่นเขี้ยว อ๊า! รู้ไหมว่าใช้เวลาเซ็ททรงนี้ตั้งครึ่งชั่วโมงเชียวนะ !
“จริง ๆ ไม่ต้องไปก็ได้นะ เดี๋ยวฝากแม่บ้านไปซื้อมาให้ก็ได้ อยู่กับพี่เลย์ ผมไม่เบื่อหรอกน่า”
“ปากหวานแบบนี้รีบเก็บของเลยเร็ว ๆ เดี๋ยววันนี้พี่เลี้ยงเอง”
“เงินเดือนออกแล้วเหรอ” ต้องถามก่อน ดูว่ามีงบให้ล้างผลาญได้แค่ไหน อิ่มจัง ตังค์อยู่ครบนี่ ลู่หานชอบบบ
“ออกเมื่อวาน แต่เสี่ยวลู่อย่ากินเยอะนะ เดี๋ยวพี่เหลือไม่ถึงสิ้นเดือน”
“โหย พี่เลย์รวยจะตาย”
“จะจนก็เพราะเรานั่นแหละ ตัวนิดเดียว แต่กระเพาะอย่างกับหลุมดำ”
อะไรล่ะ ก็ผมอยู่ในวัยกำลังโตนี่นา!!
ใช้เวลาไม่นานเราก็มาอยู่ที่ร้านชานมไข่มุกร้านโปรด ผมเหลือบมองรอบตัวแต่ไม่เห็นวี่แววของคริสเลย ที่ตรงข้ามผมตอนนี้เลยมีพี่เลย์นั่งแทนอยู่แทนที่คริส
“ตรงนี้เข้าใจมั้ยครับ” คงเพราะคิดอะไรเพลิน ๆ ไปหน่อยผมเลยไม่ทันได้ฟังที่พี่เลย์พูด
“อีกรอบได้มั้ยครับ” แล้วผมก็เป็นพวกปากตรงกับใจซะด้วย
“โอเค งั้นเอาใหม่นะ…” ผมพยักหน้าหงึกหงัก เรียกสติกลับมา แล้วตั้งใจเรียนเหมือนเดิม
“เค้กหน่อยมั้ย เสี่ยวลู่”
“ไม่ล่ะพี่เลย์ แพงจะตาย เกรงใจ” แพงจริง ๆ นะครับเค้กชิ้นเล็กๆ ชิ้นเดียวซื้อชานมได้ตั้งสามแก้ว!!
“พี่บอกว่าเลี้ยงไง”
“งั้นเอาเค้กช็อกโกแลตชิ้นนึง” ผมยิ้มกว้างทันที เมื่อกี้เล่นตัวไปงั้นแหละครับ ของฟรีใครจะไม่ชอบ อ้อ พูดถึงของฟรี ผมยังไม่ได้ลองน้ำหอมที่คริสให้มาเลยนี่นา
ไม่นานเค้กช็อกโกแลตสามชิ้นก็มากองอยู่ตรงหน้าผม เดี๋ยวนะ!
เค้ก 1 ชิ้น = ชานม 3 แก้ว
เค้ก 3 ชิ้น = ชานม 9 แก้ว!!
แต่คิดอีกที ไม่ใช่เงินผมหรอก ช่างเถอะ
“เลี้ยงจริงดิ”
“ถ้ากินไม่หมดก็จ่ายเอง”
“พูดอะไรบ้า ๆ ถ้ากินไม่หมดก็ไม่ใช่ผมสิ” ผมตักเค้กเข้าปากทันที
อ่า…ฟินาเล่
“อร่อยมั้ย”
“ที่สุดเลย”
“เหมือนเดทเลยนะว่ามั้ย”
“มโนอีกละ หนังสือกองเต็มโต๊ะขนาดนี้เนี่ยนะ เดทแบบหมอเลย์สไตล์รึไงครับ”ว่าแล้วก็ตักเค้กเข้าปากอีกคำ
“แล้วชอบมั้ยล่ะ”
“ถามบ้าๆ …ถ้ามีเค้กกับชานมด้วยก็ต้องชอบอยู่แล้ว”
“งั้นไปดูหนังกันต่อมั้ย จะได้ครบสูตร”
“ถ้าเลี้ยงก็ไป”
“ของมันแน่อยู่แล้ว”
“จริงดิ น่ารักที่สุดเลย” ว่าแล้วผมก็ป้อนเค้กพี่เลย์ไปหนึ่งคำ ตามด้วยยิ้มหวาน ๆ แบบที่ไม่เห็นตีนกา ซึ่งวิจัยโดยโอเซฮุน
“ยิ้มให้แบบนี้พี่รักตายเลย”
“ก็รักสิ ไม่ได้ห้าม” ผมตอบหน้าตายที่ผมกล้าพูดแบบนี้ก็เพราะผมรู้ว่า ผมกับพี่เลย์เป็นได้แค่พี่น้องกันเท่านั้นแหละครับ
“....ตั้งใจจะแซวเสี่ยวลู่ แต่ทำไมพี่เป็นฝ่ายเขินซะเองละเนี่ย”พี่เลย์เกาหัวอายๆ
หึๆ คิดจะแซวผมเหรอ ช้าไปร้อยปีแสงนะครับ จางอี้ชิง J
Sehun’s Side
ผมขับรถไปรับแบคฮยอนที่ Exo Planet เวลาสี่โมงตรงเป๊ะ! คือนอกจากผมจะหล่อแล้วผมยังเป็นคนที่ตรงต่อเวลาด้วยน่ะ ไม่เคยหลงตัวเองนะครับ สาบาน!
รอได้ไม่นานแบคฮยอนก็เดินมึนอึน ๆ เข้ามานั่งในรถ
“แวะร้านขายยาให้หน่อยสิ” ร่างเล็กหันมาบอกผมด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ ตามแบบฉบับของเจ้าตัว
“จะซื้ออะไร เมนส์ไม่มาเหรอ”
“ฉันมีเมนส์ที่ไหนกันเล่า! จะซื้อยาแก้แฮงค์ต่างหาก”
“ห๊า? นี่นายดื่มมาเหรอ ให้ตายเถอะ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเด็กเรียนแว่นหนานั่งหน้าห้องแบบนายจะดื่มเป็นด้วย”ผมหันไปพูดกับแบคฮยอนรัวๆ จนเมื่อกี้เกือบปาดหน้ารถสิบล้อ
“มองถนนสิ ฉันยังไม่อยากตายนะ!” ร่างเล็กเหวี่ยงใส่ผมทันที
“อ่า ขอโทษ ฉันแปลกใจนิดหน่อย ไม่สิ แปลกใจมาก”
“เอาเถอะน่า ฉันทำงานได้แน่ ๆ ไม่ต้องห่วงหรอก”
“ใครเค้าห่วงเรื่องนั้นกันล่ะ”
“ไม่มีกฎว่าห้ามบยอนแบคฮยอนดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ซักหน่อย”
“แต่แบคฮยอน ที่แบบนั้น ตอนกลางคืนน่ะ มันอันตรายไม่ใช่เหรอ”ผมพูดพลาง ตบไฟเลี้ยวขวา เพื่อจะเข้าเลนส์ในสุด อีกสักพักก็จะถึงร้านขายยาแล้ว ผมคิดว่าจำได้แม่นว่ามันอยู่ตรงไหน.. ทำไมถึงจำได้น่ะเหรอครับ ?
ลูกสาวอาแปะร้านขายยาน่ารักมากน่ะซิ...
“ไม่ใช่สำหรับ Friday Night Club แน่นอน”แบคฮยอนยังคงตอบเสียงเรียบ ใครบอกว่าแอลกอฮอล์ทำให้การตัดสินใจลดลง ? จากที่เห็น ดูแล้วไม่น่าใช่
“ไม่กลัวใครฉุดรึไง”
“ใครจะกล้า”
“อ้อ นั่นสินะ คนอย่างนายใครจะกล้าทำอะไร แค่เห็นหน้าก็วิ่งหนีแทบไม่ทันละ”
“ฉันไม่ใช่ผี!”
“ฉันว่าก็คล้าย ๆ กันนั่นแหละ”
“โอเซฮุน!!”
“เรียกทำไม ไม่ได้ลืมชื่อ”ผมยักคิ้วกวนประสาท
“นายขับรถเลยร้านขายยา!!”
เออ จริง =____=
แบคฮยอนทำงานได้ดีอย่างที่พูดไว้ ถึงจะดูมึนๆ งงๆ อยู่บ้างก็ตาม
“นายรู้รึเปล่า จริง ๆ แล้วเวอร์ชั่นเดิมของเจ้าหญิงเงือกน้อยไม่ได้สวยงามเหมือนนิยายที่เรากำลังแปลอยู่นี่หรอกนะ”
“ห๊ะ?”ไม่ได้แกล้งครับ มันตกใจจริงๆ ก็อยู่ๆหมอนี่ก็พูดโพล่งออกมาดื้อๆ โอ๊ย..หล่อหัวใจจะวาย
“ก็เวอร์ชั่นเดิมของฮันส์คริสเตียน แอนเดอร์สันน่ะหลังจากที่เจ้าชายแต่งงานกับหญิงอื่น เจ้าหญิงเงือกน้อยก็เข้าสู่ดาร์กโหมด เอากริชจิ้มเจ้าชายจนตาย แล้วค่อยกระโดดลงทะเล... กลายเป็นฟองอากาศ”
“นี่จริงป่ะเนี่ย”
“จะหลอกทำไม แต่แค่ตอนจบอันนี้เค้าคิดว่ามันไม่เหมาะสม ก็เลยตัดออกน่ะ”
“เจ้าหญิงเงือกน้อย โคตรโหดเลย”
“คนเราก็มีดาร์กไซด์ด้วยกันทุกคนนั่นแหละ จะว่าไปเพราะเจ้าชายหนีไปแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่นไม่ใช่รึไง เจ้าหญิงเงือกน้อยจะแค้นก็ไม่เห็นจะแปลกเลย”แบคฮยอนแก้ตัวแทนนางเงือก กระพริบตาถี่ๆ เพื่อคลายอาการล้า หลังจากที่จ้องหนังสือเป็นเวลานาน
“แม่มดนั่นแหละที่ผิด ถ้าไม่สาปให้เจ้าหญิงเงือกน้อยกลายเป็นฟองอากาศ เจ้าหญิงเงือกน้อยก็ได้รักกับเจ้าชายแล้ว”
“ก็ถ้าไม่สาปเป็นข้อแลกเปลี่ยน เจ้าหญิงเงือกน้อยจะมีขาเดินขึ้นมาหาเจ้าชายรึไง”
“งั้นก็ทำให้เฉย ๆ สิ ทำไมจะต้องเอาเสียงของเจ้าหญิงเงือกน้อยไปแล้วต้องสาปให้เป็นฟองอากาศด้วย”
“นายเคยทำอะไรให้ใครฟรี ๆ มั้ยล่ะ คนเราก็งี้แหละไม่เคยทำอะไรเพื่อใครโดยไม่หวังผลตอบแทน หรือนายคิดว่าที่เจ้าหญิงเงือกน้อยยอมถูกสาปเพราะรักเจ้าชายเท่านั้นน่ะเหรอ เฮอะ เธอก็อยากได้ความรักตอบแทนกลับมาเหมือนกันนั่นแหละ”
“งั้นก็คงผิดที่เจ้าหญิงเงือกน้อยตั้งแต่แรก เพราะถ้าเธอไม่ตกหลุมรักเจ้าชาย เรื่องก็คงไม่เป็นแบบนี้”
“ใช่ ทั้งหมดเกิดจากความรักแท้ ๆ ถ้าไม่รักก็คงไม่มีจุดจบที่น่าเศร้าแบบนี้…”แบคฮยอนเงียบไปครู่นึง “แต่นายเคยห้ามใจตัวเองไม่ให้รักใครได้ด้วยเหรอ เมื่อรักใครไปแล้ว ก็อยากที่จะทำทุกอย่างเพื่อให้เค้ารักตอบนั่นแหละ ถึงความรักจะเป็นต้นเหตุของเรื่องต่าง ๆ แต่มันก็เป็นสิ่งที่ห้ามไม่ได้ จริงมั้ยล่ะ”
ความเงียบปกคลุมเราสองคนพักใหญ่ แบคฮยอนยังจ้องมองผม แต่ผมเกลียดสายตาแบบนั้นของแบคฮยอนจริงๆ สายตาที่เหมือนจะสื่อว่าฉันรู้ฉันเห็นทุกอย่าง ซึ่งผมไม่รู้ว่าแบคฮยอนรู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับตัวผมเข้าจริง ๆ หรือเป็นแค่เกมจิตวิทยาให้ผมรู้สึกกดดัน แต่ที่แน่ ๆ มันได้ผล เพราะตอนนี้ผมกำลังประหม่าอย่างบอกไม่ถูก
“จริง ๆ ฉันมีเรื่องจะสารภาพ” แบคฮยอนก้มหน้า
ดูไปดูมาเหมือนเด็กที่กำลังจะสารภาพกับคุณพ่อว่าแอบขโมยเงินไปซื้อของเล่น
“ว่ามาสิ”และผมก็กำลังรอฟังอย่างตั้งใจเช่นกัน
วันนี้พาพี่เลย์มาทำคะแนนแข่งกับคริสแล้วค่ะ 555
ได้กลิ่นฮุนแบคบ้างมั้ยคะ แบคก็กำลังจะมาทำคะแนนแข่งกับจงอินเหมือนกันน้า
เรื่องนี้ ไคฮุน หรือ ฮุนแบคนะคะ ขึ้นอยู่กับน้องฮุนว่าอยากเป็นเมะหรือเคะ 555
ขอโทษที่ไม่ได้อัพบ่อยๆ นะคะ กิจกรรมคณะเยอะมากเลย TT
เม้นติชมได้นะคะ จะได้ปรับปรุงให้ดีขึ้น
แล้วก็ขอบคุณทุกคอมเม้นมาก ๆ ค่ะ นึกว่าจะไม่มีคนอ่านซะแล้ว > <
ความคิดเห็น