ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO FIC] Love Paradise [KrisLu HunBaek ft.Kai]

    ลำดับตอนที่ #5 : Chapter 5 Call me maybe

    • อัปเดตล่าสุด 6 ส.ค. 56


               

                Luhan’s Side

     

                คริสอู๋อี้ฟาน ไอ้บ้า บ้า ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ บ้าที่สุดเลย!!

     

    ไม่ต้องแปลกใจหรอกครับที่ตอนนี้ผมโคตรอารมณ์เสีย  ไม่ได้อารมณ์เสียธรรมดาด้วย  อารมณ์เสียมากกกกกกกกก  หลังจากที่เมื่อวานคริสได้เบอร์ผมไปแบบเนียน ๆ แล้ว  ผมก็นั่งรอ นอนรอ ว่าเมื่อไหร่เสียงโทรศัพท์จะดังซักที   แต่ผมรอถึงตีสาม!!  ก็ไม่มีสายเข้าเลย อ้อ! ครั้งนึง  มีข้อความเข้า  ผมนี่ดีใจแทบตาย  มือไม้สั่นไปหมด  แต่พอเปิดดู  กลับเป็นข้อความโฆษณาให้สมัครรับคลิปสาวน้อยอะไรไม่รู้  ผมเลยส่งกลับไปว่า  ไม่สมัครโว้ยยยยยรอคริสโทรมาอยู่!!’  ผมรู้ครับว่าผมบ้า  ไม่เพี้ยนจริงทำไม่ได้หรอก

     

    ก็แล้วมันเพราะใครล่ะ  ที่ทำให้ผมเป็นแบบนี้! เฟล ๆ ๆ เฟลไม่ไหวแล้ว

     

    ให้ทายว่าตอนนี้กี่โมง? ขณะนี้เวลาตีสามห้านาทีครับ  แล้วผมก็ยังไม่นอน  ทั้ง ๆ ที่ความจริงผมเป็นเด็กอนามัยจะตาย  สารภาพก็ได้ว่าผมยังแอบมีความหวังนิด ๆ ว่าคริสจะโทรมา  แต่ตอนนี้ความหวังของผมกำลังเริ่มเลือนรางแล้ว

     

    ทั้ง ๆ ที่พรุ่งนี้ผมต้องตื่นตั้งแต่หกโมงมาเรียนพิเศษกับพี่เลย์ด้วยนะ  แต่บอกตรง ๆ ว่าผมข่มตาหลับไม่ได้จริง ๆ ผมเอี้ยวตัวกดเปิดโคมไฟ  แล้วไถลๆเอาหัวซุกหมอน มือควานหยิบหนังสือเรื่อง Snow White ที่ได้จากอาจารย์ขึ้นมา เปิดอ่านเล่นฆ่าเวลา  พรุ่งนี้คยองซูไม่อยู่  ไปงานแต่งญาติที่ต่างจังหวัดอะไรประมาณนี้แหละ  แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาหรอก  เพราะถึงหนังสือมันจะหนาเป็นร้อยหน้า  แต่ถ้าผมกับคยองซูช่วยกันแปล  แป๊ปเดียวก็คงจะเสร็จ  อะไรกัน  อย่ามองผมแบบนั้น  ก็อาจารย์บอกว่าให้ช่วยกันแปล  ผมก็กำลังทำตามคำสั่งอย่างเคร่งครัดอยู่นี่ไง  เรื่องอะไรผมจะทำคนเดียว  ไม่ได้เป็นคนดีขนาดนั้นหรอก

     

    “นาอือรือรอง  อือรือรอง อือรือรอง แด  ใครโทรมาดึกดื่นขนาดนี้กันนะ   ผมหยิบไอโฟนขึ้นมาดู  เป็นรหัสแปลก ๆ เหมือนโทรมาจากต่างประเทศ?

     

    “ฮัลโหล”

     

    “อืม”????

     

    “ใครน่ะ”  ผมเป็นฝ่ายถามเองเมื่อปลายสายไม่พูดอะไร  “เดี๋ยวนะ! คริสเหรอ!?”

     

    “ใช่  ฉันเอง”  ไอ้บ้าเอ้ย  นายได้เบอร์ฉันไปตั้งแต่เมื่อวาน  แต่เพิ่งโทรมาเอาป่านนี้เนี่ยนะ! “ฉันโทรมากวนนายรึเปล่า  ลืมไปเลยว่าเวลาที่อเมริกากับเกาหลีมันต่างกัน”ยังดีนะที่อุตส่าห์เป็นห่วงกัน  ผมสาบานได้เลยว่าผมหยุดยิ้มไม่ได้จริงๆ

     

    “ไม่เป็นไร  มีอะไรรึเปล่า”ผมพยายามตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่เรียบที่สุด ไม่อยากให้อีกฝ่ายรู้ว่าตอนนี้ผมดีใจแทบบ้า

     

    “พุธหน้า  วันเกิดฉัน”

     

    “แล้ว?”

     

    “แกล้งโง่รึไง” โอ้ย เจ็บเลย  “ก็จะชวนมางานวันเกิดน่ะสิ”

     

    “ในฐานะอะไรล่ะ”

     

    “จะฐานะอะไรก็ช่างสิ  ฉันเป็นคนชวนเอง  ใครจะกล้าว่า!

     

    “เราแทบจะไม่เคยคุยกัน  ฉันเลยไม่แน่ใจว่าแบบเรานี่เรียกว่าเป็นเพื่อนกันรึได้เปล่า”

     

    “แล้วแต่นายจะคิด”

     

    “อ้าว”

     

    “ฉันมีเรื่องจะบอกแค่นี้  นายจะได้เตรียมของขวัญได้ทัน”

     

    “โธ่  ที่แท้ก็ห่วงของขวัญนี่เอง  งกชะมัด”

     

    “อะไรนะ?”

     

    “ปล๊าวววววว”

     

    “ฉันต้องไปทำงานต่อแล้ว  นอนเถอะ  ที่เกาหลีคงดึกมากแล้ว”  ดึกมากอะไร  จะเช้าแล้วต่างหาก!!

     

    แต่ประโยคเมื่อกี้  แอบเป็นห่วงกราย ๆ รึเปล่านะ  ขอคิดเข้าข้างตัวเองหน่อยแล้วกัน

     

    “อือ  ฝันดีนะ”

     

    “ฉันยังไม่นอน”

     

    “ก็บอกไว้ก่อนไง”

     

    “หึ  แล้วปลายสายก็ตัดไป  ผมบิดไปบิดมาอยู่บนเตียง  นี่ถ้าผมกรี๊ดแบบพวกผู้หญิงได้  ผมคงทำไปแล้ว  ผมยิ้มกว้างอย่างไม่แคร์ตีนกาบนหน้า  ก็มีความสุขอ่ะ  ทำไมล่ะ

     

    What a terrific night!!!

     

    เป็นคืนที่สุดยอดไปเลย!!

     

     

     

     

     

    ผมตื่นตั้งแต่หกโมงเช้า  ไม่สิ  อย่าเรียกว่าตื่นเลย  แทบจะไม่ได้นอนเลยต่างหาก  ผมไม่ได้เยอะนะ  แต่ถ้าคุณเจอแบบผม  คุณจะหลับลงได้ยังไง

     

    โอ้ย ลู่หานฟินนนนนนนน

     

    วันเสาร์กับวันอาทิตย์ตั้งแต่สามโมงเช้าถึงหนึ่งทุ่ม  พี่เลย์จะมาสอนพิเศษให้ผมครับ  เพราะรู้ว่าพี่เลย์มีเวลาให้ผมจำกัด  ผมเลยต้องตั้งใจเรียนมากกว่าปกติ  และพี่เลย์ก็ไม่เคยทำให้ผมผิดหวัง  อะไรที่ผมงงหรือไม่เข้าใจ  พี่เลย์ก็จะมีวิธีการอธิบายที่เราคาดไม่ถึงแต่ดันเข้าใจได้ทะลุปรุโปร่งชนิดล้วงลำไส้ทะลุออกทางตับ ลากม้ามออกมาทางปากแล้วผ่าให้ดูอะไรประมาณนั้น  โดยเฉพาะวิชาสายวิทยาศาสตร์ ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา หรือแม้แต่คณิต  ที่แต่ก่อนผมโคตรจะเกลียด  แต่ตั้งแต่พี่เลย์มาสอนนี่รู้สึกว่าคณิตศาสตร์ง่ายขึ้นเยอะ  แถมพี่เลย์ของผมเนี่ย  ไม่ธรรมดานะครับ เป็นคุณหมออิมพอร์ทจากโรงเรียนแพทย์ที่อังกฤษ  ครอบครัวผมเลยรีบจองตัวมาลงที่โรงพยาบาลของเราอย่างรวดเร็ว  เพราะงั้นไม่ต้องแปลกใจเลยว่าผมเก่งอังกฤษเหมือนใคร  ได้ครูดีก็งี้แหละครับ  อยากได้บ้างมั้ยล่ะ

     

    ไม่ให้หรอกนะ  ผมหวง:P

     

    ผมเหลือบมองนาฬิกาที่บอกเวลาสามโมงตรง  แปลก  พี่เลย์ไม่เคยเลทนี่นา

     

    “ขอโทษนะเสี่ยวลู่  พอดีเมื่อเช้ามีเคสด่วนเข้ามาน่ะ”

     

    ผมได้ยินเสียงพี่เลย์กระหืดกระหอบมาแต่ไกล 

     

    “ไม่เป็นไรพี่เลย์  ผมรอได้”

     

    “น่ารักที่สุดเลย”  พี่เลย์บีบจมูกผมอย่างหมั่นเขี้ยว

     

    “โอ้ย เบาๆ พี่เลย์ เดี๋ยวดั้งหักพอดีกัน ฮึ้ย น่ารักแล้วรักป่ะล่ะ”

     

    “รักสิ  มาเลย  อ้อนแบบให้นี้เลือกเลยว่าจะเรียนวิชาอะไรก่อน”

     

    เผื่อคุณจะไม่รู้  เวลาพี่เลย์ยิ้มจนเห็นลักยิ้มเนี่ย

     

    น่ารักเป็นบ้าเลย!!

     

     

     

     

     

    ตอนนี้เวลาห้าโมงเย็น  ผมยังฟังสิ่งที่พี่เลย์อธิบายอย่างตั้งใจ  จากนั้นไม่นานพี่เลย์ก็ให้ฝึกทำข้อสอบประมาณสิบกว่าข้อ  ผมนั่งขีด ๆ เขียน ๆ อยู่พักใหญ่  จนทนไม่ไหว  ต้องระบายสิ่งที่อัดอั้นตันใจออกมา

     

    “พี่เลย์  ผมพูดเสียงออดอ้อน  “อยากกินชานมอ่ะ”

     

    จริง ๆ แล้วผมกินแทบทุกวันเลยนะ  แต่เมื่อวานหงุดหงิดที่คริสไม่โทรมาจนลืมๆ เรื่องนี้ไป  พอนึกออกก็อยากกินขึ้นมาดื้อๆ

     

    “เสพติดนะเราอ่ะ”

     

    “เปล่าซักหน่อย”

     

    “เอางี้  เดี๋ยวพี่พาไป”

     

    “จริงดิ”

     

    “จริงสิ  ติวนอกสถานที่บ้างก็ได้  อยู่แต่บ้าน  เสี่ยวลู่ของพี่คงเบื่อแย่”พี่เลย์อมยิ้ม ขยี้หัวผมอย่างหมั่นเขี้ยว อ๊า! รู้ไหมว่าใช้เวลาเซ็ททรงนี้ตั้งครึ่งชั่วโมงเชียวนะ !

     

    “จริง ๆ ไม่ต้องไปก็ได้นะ  เดี๋ยวฝากแม่บ้านไปซื้อมาให้ก็ได้  อยู่กับพี่เลย์  ผมไม่เบื่อหรอกน่า”

     

    “ปากหวานแบบนี้รีบเก็บของเลยเร็ว ๆ เดี๋ยววันนี้พี่เลี้ยงเอง”

     

    “เงินเดือนออกแล้วเหรอ”  ต้องถามก่อน ดูว่ามีงบให้ล้างผลาญได้แค่ไหน อิ่มจัง ตังค์อยู่ครบนี่ ลู่หานชอบบบ

     

    “ออกเมื่อวาน  แต่เสี่ยวลู่อย่ากินเยอะนะ  เดี๋ยวพี่เหลือไม่ถึงสิ้นเดือน”

     

    “โหย  พี่เลย์รวยจะตาย”

     

    “จะจนก็เพราะเรานั่นแหละ  ตัวนิดเดียว แต่กระเพาะอย่างกับหลุมดำ”

     

    อะไรล่ะ  ก็ผมอยู่ในวัยกำลังโตนี่นา!!

     

     

     

     

     

                ใช้เวลาไม่นานเราก็มาอยู่ที่ร้านชานมไข่มุกร้านโปรด  ผมเหลือบมองรอบตัวแต่ไม่เห็นวี่แววของคริสเลย ที่ตรงข้ามผมตอนนี้เลยมีพี่เลย์นั่งแทนอยู่แทนที่คริส

     

                “ตรงนี้เข้าใจมั้ยครับ”  คงเพราะคิดอะไรเพลิน ๆ ไปหน่อยผมเลยไม่ทันได้ฟังที่พี่เลย์พูด

     

    “อีกรอบได้มั้ยครับ”  แล้วผมก็เป็นพวกปากตรงกับใจซะด้วย

     

    “โอเค  งั้นเอาใหม่นะ  ผมพยักหน้าหงึกหงัก  เรียกสติกลับมา  แล้วตั้งใจเรียนเหมือนเดิม

     

    “เค้กหน่อยมั้ย เสี่ยวลู่”

     

    “ไม่ล่ะพี่เลย์   แพงจะตาย  เกรงใจ” แพงจริง ๆ นะครับเค้กชิ้นเล็กๆ ชิ้นเดียวซื้อชานมได้ตั้งสามแก้ว!!

     

    “พี่บอกว่าเลี้ยงไง”

     

    “งั้นเอาเค้กช็อกโกแลตชิ้นนึง”  ผมยิ้มกว้างทันที  เมื่อกี้เล่นตัวไปงั้นแหละครับ  ของฟรีใครจะไม่ชอบ  อ้อ พูดถึงของฟรี  ผมยังไม่ได้ลองน้ำหอมที่คริสให้มาเลยนี่นา

     

                ไม่นานเค้กช็อกโกแลตสามชิ้นก็มากองอยู่ตรงหน้าผม  เดี๋ยวนะ!

     

                เค้ก 1 ชิ้น  =  ชานม 3 แก้ว

     

                เค้ก 3 ชิ้น  =  ชานม 9 แก้ว!!

     

    แต่คิดอีกที  ไม่ใช่เงินผมหรอก ช่างเถอะ

     

    “เลี้ยงจริงดิ”

     

    “ถ้ากินไม่หมดก็จ่ายเอง”

     

    “พูดอะไรบ้า ๆ ถ้ากินไม่หมดก็ไม่ใช่ผมสิ”  ผมตักเค้กเข้าปากทันที

     

    อ่าฟินาเล่

     

                “อร่อยมั้ย”          

     

                “ที่สุดเลย”

     

                “เหมือนเดทเลยนะว่ามั้ย”

     

    “มโนอีกละ  หนังสือกองเต็มโต๊ะขนาดนี้เนี่ยนะ  เดทแบบหมอเลย์สไตล์รึไงครับ”ว่าแล้วก็ตักเค้กเข้าปากอีกคำ

     

    “แล้วชอบมั้ยล่ะ”

     

    “ถามบ้าๆ ถ้ามีเค้กกับชานมด้วยก็ต้องชอบอยู่แล้ว”

     

    “งั้นไปดูหนังกันต่อมั้ย  จะได้ครบสูตร”

     

    “ถ้าเลี้ยงก็ไป”

     

    “ของมันแน่อยู่แล้ว”

     

    “จริงดิ  น่ารักที่สุดเลย”  ว่าแล้วผมก็ป้อนเค้กพี่เลย์ไปหนึ่งคำ  ตามด้วยยิ้มหวาน ๆ แบบที่ไม่เห็นตีนกา  ซึ่งวิจัยโดยโอเซฮุน

     

    “ยิ้มให้แบบนี้พี่รักตายเลย”

     

    “ก็รักสิ  ไม่ได้ห้าม”  ผมตอบหน้าตายที่ผมกล้าพูดแบบนี้ก็เพราะผมรู้ว่า  ผมกับพี่เลย์เป็นได้แค่พี่น้องกันเท่านั้นแหละครับ 

     

    “....ตั้งใจจะแซวเสี่ยวลู่  แต่ทำไมพี่เป็นฝ่ายเขินซะเองละเนี่ย”พี่เลย์เกาหัวอายๆ

     

    หึๆ คิดจะแซวผมเหรอ  ช้าไปร้อยปีแสงนะครับ  จางอี้ชิง J

     

     

     

     

     

    Sehun’s Side

     

    ผมขับรถไปรับแบคฮยอนที่ Exo Planet เวลาสี่โมงตรงเป๊ะ! คือนอกจากผมจะหล่อแล้วผมยังเป็นคนที่ตรงต่อเวลาด้วยน่ะ  ไม่เคยหลงตัวเองนะครับ  สาบาน!

     

    รอได้ไม่นานแบคฮยอนก็เดินมึนอึน ๆ เข้ามานั่งในรถ

     

    “แวะร้านขายยาให้หน่อยสิ”  ร่างเล็กหันมาบอกผมด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ  ตามแบบฉบับของเจ้าตัว

     

    “จะซื้ออะไร  เมนส์ไม่มาเหรอ”

     

    “ฉันมีเมนส์ที่ไหนกันเล่า! จะซื้อยาแก้แฮงค์ต่างหาก”

     

    “ห๊า? นี่นายดื่มมาเหรอ  ให้ตายเถอะ  ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเด็กเรียนแว่นหนานั่งหน้าห้องแบบนายจะดื่มเป็นด้วย”ผมหันไปพูดกับแบคฮยอนรัวๆ  จนเมื่อกี้เกือบปาดหน้ารถสิบล้อ

     

    “มองถนนสิ  ฉันยังไม่อยากตายนะ!  ร่างเล็กเหวี่ยงใส่ผมทันที

     

    “อ่า  ขอโทษ  ฉันแปลกใจนิดหน่อย  ไม่สิ แปลกใจมาก”

     

    “เอาเถอะน่า  ฉันทำงานได้แน่ ๆ ไม่ต้องห่วงหรอก”

     

    “ใครเค้าห่วงเรื่องนั้นกันล่ะ”

     

    “ไม่มีกฎว่าห้ามบยอนแบคฮยอนดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ซักหน่อย”

     

    “แต่แบคฮยอน  ที่แบบนั้น  ตอนกลางคืนน่ะ  มันอันตรายไม่ใช่เหรอ”ผมพูดพลาง ตบไฟเลี้ยวขวา เพื่อจะเข้าเลนส์ในสุด อีกสักพักก็จะถึงร้านขายยาแล้ว ผมคิดว่าจำได้แม่นว่ามันอยู่ตรงไหน.. ทำไมถึงจำได้น่ะเหรอครับ ?

     

    ลูกสาวอาแปะร้านขายยาน่ารักมากน่ะซิ...

     

    “ไม่ใช่สำหรับ Friday Night Club แน่นอน”แบคฮยอนยังคงตอบเสียงเรียบ ใครบอกว่าแอลกอฮอล์ทำให้การตัดสินใจลดลง ? จากที่เห็น ดูแล้วไม่น่าใช่

     

    “ไม่กลัวใครฉุดรึไง”

     

    “ใครจะกล้า”

     

    “อ้อ  นั่นสินะ  คนอย่างนายใครจะกล้าทำอะไร  แค่เห็นหน้าก็วิ่งหนีแทบไม่ทันละ”

     

    “ฉันไม่ใช่ผี!

     

    “ฉันว่าก็คล้าย ๆ กันนั่นแหละ”

    “โอเซฮุน!!

     

    “เรียกทำไม  ไม่ได้ลืมชื่อ”ผมยักคิ้วกวนประสาท                                     

     

     

     

     

    “นายขับรถเลยร้านขายยา!!

    เออ  จริง =____=

     

     

     

     

     

    แบคฮยอนทำงานได้ดีอย่างที่พูดไว้  ถึงจะดูมึนๆ งงๆ อยู่บ้างก็ตาม

     

    “นายรู้รึเปล่า  จริง ๆ แล้วเวอร์ชั่นเดิมของเจ้าหญิงเงือกน้อยไม่ได้สวยงามเหมือนนิยายที่เรากำลังแปลอยู่นี่หรอกนะ”

     

    “ห๊ะ?”ไม่ได้แกล้งครับ มันตกใจจริงๆ ก็อยู่ๆหมอนี่ก็พูดโพล่งออกมาดื้อๆ โอ๊ย..หล่อหัวใจจะวาย

     

    “ก็เวอร์ชั่นเดิมของฮันส์คริสเตียน แอนเดอร์สันน่ะหลังจากที่เจ้าชายแต่งงานกับหญิงอื่น  เจ้าหญิงเงือกน้อยก็เข้าสู่ดาร์กโหมด  เอากริชจิ้มเจ้าชายจนตาย  แล้วค่อยกระโดดลงทะเล... กลายเป็นฟองอากาศ”

     

    “นี่จริงป่ะเนี่ย”

     

    “จะหลอกทำไม  แต่แค่ตอนจบอันนี้เค้าคิดว่ามันไม่เหมาะสม  ก็เลยตัดออกน่ะ”

     

    “เจ้าหญิงเงือกน้อย  โคตรโหดเลย”

     

    “คนเราก็มีดาร์กไซด์ด้วยกันทุกคนนั่นแหละ  จะว่าไปเพราะเจ้าชายหนีไปแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่นไม่ใช่รึไง  เจ้าหญิงเงือกน้อยจะแค้นก็ไม่เห็นจะแปลกเลย”แบคฮยอนแก้ตัวแทนนางเงือก กระพริบตาถี่ๆ เพื่อคลายอาการล้า หลังจากที่จ้องหนังสือเป็นเวลานาน

     

    “แม่มดนั่นแหละที่ผิด  ถ้าไม่สาปให้เจ้าหญิงเงือกน้อยกลายเป็นฟองอากาศ  เจ้าหญิงเงือกน้อยก็ได้รักกับเจ้าชายแล้ว”

     

    “ก็ถ้าไม่สาปเป็นข้อแลกเปลี่ยน  เจ้าหญิงเงือกน้อยจะมีขาเดินขึ้นมาหาเจ้าชายรึไง”

     

    “งั้นก็ทำให้เฉย ๆ สิ  ทำไมจะต้องเอาเสียงของเจ้าหญิงเงือกน้อยไปแล้วต้องสาปให้เป็นฟองอากาศด้วย”

     

    “นายเคยทำอะไรให้ใครฟรี ๆ มั้ยล่ะ  คนเราก็งี้แหละไม่เคยทำอะไรเพื่อใครโดยไม่หวังผลตอบแทน  หรือนายคิดว่าที่เจ้าหญิงเงือกน้อยยอมถูกสาปเพราะรักเจ้าชายเท่านั้นน่ะเหรอ  เฮอะ  เธอก็อยากได้ความรักตอบแทนกลับมาเหมือนกันนั่นแหละ”

     

    “งั้นก็คงผิดที่เจ้าหญิงเงือกน้อยตั้งแต่แรก  เพราะถ้าเธอไม่ตกหลุมรักเจ้าชาย  เรื่องก็คงไม่เป็นแบบนี้”

     

    “ใช่  ทั้งหมดเกิดจากความรักแท้ ๆ ถ้าไม่รักก็คงไม่มีจุดจบที่น่าเศร้าแบบนี้แบคฮยอนเงียบไปครู่นึง  “แต่นายเคยห้ามใจตัวเองไม่ให้รักใครได้ด้วยเหรอ  เมื่อรักใครไปแล้ว  ก็อยากที่จะทำทุกอย่างเพื่อให้เค้ารักตอบนั่นแหละ  ถึงความรักจะเป็นต้นเหตุของเรื่องต่าง ๆ แต่มันก็เป็นสิ่งที่ห้ามไม่ได้  จริงมั้ยล่ะ”

     

    ความเงียบปกคลุมเราสองคนพักใหญ่  แบคฮยอนยังจ้องมองผม แต่ผมเกลียดสายตาแบบนั้นของแบคฮยอนจริงๆ  สายตาที่เหมือนจะสื่อว่าฉันรู้ฉันเห็นทุกอย่าง  ซึ่งผมไม่รู้ว่าแบคฮยอนรู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับตัวผมเข้าจริง ๆ หรือเป็นแค่เกมจิตวิทยาให้ผมรู้สึกกดดัน  แต่ที่แน่ ๆ มันได้ผล  เพราะตอนนี้ผมกำลังประหม่าอย่างบอกไม่ถูก

     

    “จริง ๆ ฉันมีเรื่องจะสารภาพ”  แบคฮยอนก้มหน้า

     

    ดูไปดูมาเหมือนเด็กที่กำลังจะสารภาพกับคุณพ่อว่าแอบขโมยเงินไปซื้อของเล่น

     

    “ว่ามาสิ”และผมก็กำลังรอฟังอย่างตั้งใจเช่นกัน

     

     

     

     

     

    วันนี้พาพี่เลย์มาทำคะแนนแข่งกับคริสแล้วค่ะ 555

    ได้กลิ่นฮุนแบคบ้างมั้ยคะ  แบคก็กำลังจะมาทำคะแนนแข่งกับจงอินเหมือนกันน้า

    เรื่องนี้ ไคฮุน หรือ ฮุนแบคนะคะ  ขึ้นอยู่กับน้องฮุนว่าอยากเป็นเมะหรือเคะ 555

    ขอโทษที่ไม่ได้อัพบ่อยๆ นะคะ กิจกรรมคณะเยอะมากเลย TT

    เม้นติชมได้นะคะ  จะได้ปรับปรุงให้ดีขึ้น

    แล้วก็ขอบคุณทุกคอมเม้นมาก ๆ ค่ะ  นึกว่าจะไม่มีคนอ่านซะแล้ว > <

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×