คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 3 เร่งปฏิกิริยา?
Sehun’s Side
เบื่อเสียงเสี่ยวลู่กันรึยังครับ ผมโอเซฮุนนะ ผู้ชายที่หล่อล้ำเลิศที่สุดในเกาหลีใต้ ไม่ต้องทำหน้าคัดค้าน ผมมั่นใจในความหล่อของตัวเอง พอ ๆ กับที่มั่นใจว่าปีนี้ลิเวอร์พูลจะได้แชมป์ ไม่ใช่ผีแดงเน่า ๆ ของลู่หานแน่นอน
อย่างที่รู้ล่ะครับ ผมเป็นเพื่อนลู่หานมาตั้งแต่จำความได้ เราเลยตัวติดกันเป็นปลากระป๋อง เอ้ย.. ปลาท่องโก๋ เรื่องนั้นน่ะช่างมันเถอะครับ ทุกคนตกใจล่ะสิ ว่าผู้ชายที่หล่อมาดแมนแฮนซั่มอย่างผมไปตกหลุมรักไอ้ดำนั่นได้ยังไง
ขอเล่าสั้น ๆ ละกันนะครับ เรื่องมันเกิดขึ้นเพราะลู่หานคนดีของคุณนั่นแหละ เมื่อสองปีก่อนเกิดนึกคึกอยากไปแลกเปลี่ยนที่เมืองผู้ดี เลยทิ้งผมให้เผชิญชะตากรรมอันเลวร้ายคนเดียว โชคดีที่พระเจ้าชอบคนหล่อ เลยทนเห็นผมโดดเดี่ยวไม่ได้ ตอนนั้นสวรรค์เลยส่งไอ้ดำจงอินมันให้ย้ายเข้ามาใหม่พอดี ผมเลยรีบคว้ามาเป็นเพื่อน เพราะเห็นว่ามันก็ยังไม่มีเพื่อนเหมือนกัน
แต่จงอินมันฮอต สาว ๆ นี่ตามกันให้พรึบ แค่นั้นยังไม่พอเสือกเข้าชมรมบาสเล่นบาสโชว์สาวทุกเย็น แฟนคลับนี่กรี๊ดกันจนสนามบาสแทบแตก ส่วนผมก็ไปนั่งดูมันเล่นบ้างเป็นบางครั้งเพราะอยู่ชมรมเดียวกัน
และนั่นคือจุดเริ่มต้น…
ผมเริ่มคิดว่าผิวสีแทนนั้นดูเซ็กซี่อย่างบอกไม่ถูก
ใบหน้าโชกเหงื่อนั้นดูมีเสน่ห์
ปากที่ชอบยกยิ้มอยู่เสมอนั้นทำให้ผมสติแตกกระเจิง
และเมื่อเผลอไปสบตา …ใจผมก็เต้นแรงอย่างหาสาเหตุไม่ได้
ให้ตายเถอะ น้ำเน่าชัดๆ อ่ะ =______=
แต่พอลู่หานกลับมาเราก็เริ่มห่าง ๆ กัน เพราะจงอินย้ายห้อง บอกว่าการเรียนของห้อง A เข้มข้นเกินไป และที่ซวยกว่านั้นคือได้อยู่คนละตึก จะบอกว่าเราแทบไม่ได้เจอกันเลยก็ว่าได้ เพราะจงอินก็มีเพื่อนกลุ่มใหม่ไปแล้ว
ที่งานประกวดคิงแอนด์ควีนออฟเซคัง(งานเดียวกันกับที่ลู่หานโดนจับส่งเข้าประกวดแล้วได้ตำแหน่งควีนมาครองแบบงงๆ นั่นแหละครับ) บังเอิญว่าผมได้ทำหน้าที่พิธีกร หลังเวทีเราเลยได้ทักทายกันบ่อยๆ
และจงอินก็ได้ตำแหน่งคิงมาครอบครองตามความคาดหมาย
ถามว่าจงอินหล่อที่สุดในโรงเรียนเหรอ มันก็ไม่อ่ะ โรงเรียนไฮโซแบบนี้คนหน้าตาดีเดินกันเกลื่อน
แต่ถ้าพูดถึงความฮอตและความเซ็กซี่ ผมบอกได้เลยว่าคิมจงอินชนะขาด!
นี่ไม่ได้อวยนะ ความจริงล้วนๆ!!!
พอกลับมาคุยกันอีกครั้งผมก็พบว่าความรู้สึกที่มีต่อจงอินไม่เปลี่ยนไปเลย ไม่ว่าจะผ่านมาเป็นปีแล้วก็ตาม
ทำให้ผมตัดสินใจที่จะ … ลองจีบเพื่อนสนิทซักครั้ง
และนี่ก็เป็นจุดเริ่มต้นของนิยายเรื่องนี้ เย่!
ธรรมดาผมไม่ใช่คนที่ทำอะไรซับซ้อนเจ้าแผนการอะไรแบบนี้หรอกนะ แต่สำหรับจงอินที่มีแต่ผู้หญิงเข้าหาน่ะ ถ้าผมเดินมึน ๆ เข้าไปบอกว่า “เฮ้ยจงอิน ฉันชอบนายว่ะ คบกันป่ะ?” ผมคิดว่าคงจะโดนไอ้ดำมันสกายคิกกลับมาแหละครับ
ขอโทษที่ต้องทำลายความแมนของนายนะจงอิน
…
…
…
แต่ฉันจะต้องกดนายให้ได้!!!
“ไง เสี่ยวลู่ทิ้งเหรอ” นี่เป็นคำทักทายคำแรกจากปากของผู้ชายตัวสูง ผิวแทน และปากเสียนามว่าคิมจงอิน วันนี้มันบอกว่าจะไปกินข้าวที่โรงอาหารเป็นเพื่อนผม เพราะเมื่อวานเห็นผมนั่งหงอยแดกขัดหูขัดตามัน
เฮอะ! ห่วงก็บอก!!
“ทิ้งบ้าไรล่ะ” ผมสวนกลับอย่างลืมตัว “ไม่เคยคบกัน จะทิ้งได้ยังไง”แล้วผมก็ดัดเสียงให้เศร้าที่สุด เรื่องแอคติ้งนี่ผมเรียนมาจากลู่หานนั่นแหละ แต่ไม่คิดจะเทียบรุ่นด้วยหรอกนะ รายนั้นผมยกให้เป็นปรมาจารย์ ไปแล้ว
“เออ นั่นสิ น้องฮุนผู้น่าสงสาร มามะวันนี้เสี่ยจะเลี้ยงข้าวปลอบใจนะครับ หรือว่าอยากกินอะไรเพิ่มก็บอก ยกให้หนึ่งวันเลย” ร่างสูงทุบอกตัวเองเบา ๆ แถมท้ายด้วยการยักคิ้วกวนตีน ทำเอาผมหลุดหัวเราะออกมา
“ฉันไม่เป็นไร” ผมไม่เป็นไรจริง ๆ นี่นา ผมไม่ได้อกหักจากเสี่ยวลู่ซักหน่อย ถ้าจะอกหัก ก็คงจะอกหักจากมันนี่แหละ
“โหยยยยย ซึมทั้งวันแบบนี้จะไม่เป็นไรได้ไงวะ ไม่เอาน่า ไปกินข้าวกัน แดกๆ ไปจะได้ลืมๆ” ตรรกะไหนของนายวะเนี่ยจงอิน
“นั่งอยู่นี่แหละ เดี๋ยวไปซื้อให้” ผมนั่งลงเงียบ ๆ ตามที่มันบอก จริง ๆ ก็ขี้เกียจด้วยนั่นแหละ มีคนมาบริการก็ดีเหมือนกัน หึหึ
20 นาทีผ่านไป
นี่คิมจงอินไปซื้อถึงดาวอังคารรึไงครับคุณ เม้ากับมนุษย์ต่างดาวอยู่ใช่มั้ย ให้ตายเหอะกระเพาะผมนี่ก็ทำงานได้ดีจริง ๆ ร้องโครกครากจนน่ารำคาญเดี๋ยวตัดทิ้ง แม่ม! =____=
“เฮ้ย โทษที ขอโทษที่ช้า” ร่างสูงเดินยิ้มแหย ๆ มาให้ผมพร้อมกับของกินเต็มไม้เต็มมือ
ผมช็อกนิดหน่อยเมื่อเห็นอาหารในถาด นี่กินกันแค่สองคนนะเว้ย ไม่ใช่สิบคน แต่สายตาดันเหลือบไปเห็นชานมไข่มุกรสโกโก้ของโปรด
…ไม่คิดเลยว่าจะจำได้ ปลื้มใจเบานะเนี่ย
“จำได้ว่าใครไม่รู้ชอบกิน เลยไปต่อแถวซื้อมาให้ คนเยอะชิบหายวายวอด”
“ขอบใจ” ผมพูดเบา ๆ แล้วรีบคว้าแก้วชานมไข่มุกมาดูด ไม่ได้เห็นแก่กินเลยนะ สาบานจริงจริ๊งงงงงงงง“เดี๋ยวคืนตังค์ให้”
“คืนทำไม นายคนเดียวทำไมฉันจะเลี้ยงไม่ได้วะ” สนใจจะเลี้ยงฉันไปตลอดชีวิตมั้ยล่ะ “อย่างนายอ่ะ ฉันเลี้ยงตลอดชีวิตก็ยังได้”
แค่กๆ
ผมสำลัก จงอินยื่นทิชชู่มาให้ผมอย่างแหยะๆ
ไอ้บ้า ไอ้ดำ สารภาพมานะว่านายอ่านใจฉันได้ใช่มั้ย?????
“กินดิวะ เดี๋ยวเข้าเรียนไม่ทันนะ”
ขอช็อกก่อนได้มั้ยล่ะ =[]=
“จริง ๆ ไม่ต้องสุภาพก็ได้นะ พูดเหมือนแต่ก่อนอ่ะ”
“จริงดิโหยยยย กูโคตรอึดอัดเลย ฉัน ๆ นาย ๆ มาตั้งนาน มันไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงของคิมจงอินเลยซักนิด” ใช่สิ มึงพูดหวาน ๆ เฉพาะเวลาอยู่กับสาวนี่ =____=
“แล้วเพื่อนมึงอ่ะ”ผมหมายถึงปาร์คชานยอลกับคิมจงแด เพื่อนที่ชมรมบาสของจงอิน ชานยอลนี่ผมก็เข้าใจนะว่าส่วนสูงมันให้แต่จงแดนี่มัน… ใครรับมันเข้าชมรมเหรอ ติดสินบนป่ะวะดั้งค์บาสถึงเหรอ หรือใส่เสริมส้นตอนเล่น?
“ถามถึงพวกมันทำไมวะ”
“อ้าว ก็มึงมากินข้าวกับกูพวกมันไม่ว่าอะไรเหรอ แบบว่าน้อยใจไรเงี้ย”
“น้อยใจอะไรล่ะครับคุณโอเซฮุน เพื่อนนะ ไม่ใช่เมีย”
“งั้นมึงจะมากินกับกูทุกวัน?”
“ถ้ามึงอยากให้มา กูก็จะมา”คำตอบนั้นทำเอาผมเผลอเงยหน้าขึ้นมา ดวงตาสีเดียวกันของเราประสานกันเงียบ ๆ อยู่พักใหญ่ ก่อนที่ผมจะเป็นฝ่ายหลบตาเสียเองเพราะกลัวจะเผลอแสดงความรู้สึกออกไปผ่านแววตา
บ้าเอ๊ย…แค่สบตาก็แทบอยากจะหลอมละลาย ไร้เรี่ยวแรงต่อต้านจริงๆ
แต่จะให้เขินอายมุ้งมิ้งเป็นเด็กผู้หญิง ก็กลัวหมาคาบไปแดก...
เอาวะ...
“งั้น…” ผมตัดสินใจเงยหน้าขึ้นมาสบตาดวงตาปรือนั้นอย่างอ้อน ๆ “มาทุกวันเลยนะ”
เวลาอยู่ต่อหน้าคิมจงอินคนนี้ ผมควบคุมตัวเองไม่ได้จริงๆ
แล้วเราก็กลับมาเงียบอีกครั้ง…
“ตอนเย็นมึงจะไปไหนมั้ย”จงอินเป็นฝ่ายถามก่อน
“ไม่อ่ะ วันนี้ไม่มีเรียนพิเศษ ทำไมวะ”
“ไปดูกูเล่นบาสมั้ย”
“เออ ก็ดีเหมือนกัน กูก็อยากรู้ว่าจงแดเพื่อนมึงชู้ตบาสถึงรึเปล่า”
“โอเซฮุน กูให้ไปดูกูเล่นครับ ไม่ใช่ให้ไปดูเพื่อนกู เดี๋ยวตอนเย็นกูมารอหน้าห้อง”
“เออ โอเค”
“แล้วก็เย็นนี้น่ะ… กลับบ้านด้วยกันนะ”
คิดว่าผมจะปฏิเสธมั้ยล่ะ?
Luhan’s Side
ข้อดีของการมีเพื่อนเป็นหน่วยข่าวล่ามาเร็วอย่างแบคฮยอนและคยองซู ก็คือเราจะได้รู้ความเคลื่อนไหวของทุกคนที่เราอยากรู้
“มีคนโพสภาพคริสไปกินชานมไข่มุกกับแฟน”แบคฮยอนเปิดประเด็นด้วยสีหน้าจริงจัง
“คริสไหนอ่ะ เจ้าชายน้ำแข็งขวัญใจฉันอ่ะนะ”
“ใช่แล้วและคน ๆ นั้นก็อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลเราเลย”
“ใครอ่ะ”
“ก็ลองถามควีนดูสิ”แบคฮยอนหรี่ตามองผมอย่างจับผิด “ว่าไงลู่หาน ไปนั่งดูดชานมสร้างบรรยากาศสีชมพูแบบนั้นกับคริสได้ยังไง” ร่างเล็กหยิบไอแพดขึ้นมาโชว์หลักฐาน เป็นรูปถ่ายที่คริสนั่งหล่อ สไลด์มือถือเล่นแบบไม่สนใจคนรอบข้าง ส่วนผมนั่งกลั้นหัวเราะสุดชีวิตเพราะชานมสตรอเบอร์รี่ของคริส
เอิ่มมมมโคลสอัพทำไม เห็นตีนกาเลยอ่ะ!!
“พอดีเมื่อวานโต๊ะมันเต็มน่ะ เค้าคงเห็นที่มันว่างเลยมานั่งด้วย ไม่มีอะไรจริงๆ” ใช่มันไม่มีอะไรเลย ทั้ง ๆ ที่ใจผมก็อยากให้มันมีอะไรๆ เหมือนกัน(?)
“ว้า นึกว่าจะมีอะไรในกอไผ่ซะอีก” แบคฮยอนถอนหายใจ
“ฉันล่ะไม่เข้าใจคริสจริงๆ มีผู้ชายน่ารักๆ แบบควีนมานั่งตรงข้ามทั้งที ทำไมไม่รุกเลยว้า.. ไม่ได้ใจเลย !” คยองซู ทำหน้าเซ็ง กระแทกเสียงอย่างหงุดหงิดที่มันไม่มีอะไรเกิดขึ้น..
นี่ผู้ชายคนนี้อยากให้ผมเสียตัวให้คริสในร้านชานมหรือไงนะ !
....
แต่อันที่จริง ผมก็อยากทำแบบนั้นนะ ฮ่าๆ
บ้าเหรอครับ ! ผมแมนทั้งแท่งนะ
ผมมองคู่ซี้ที่นั่งตรงหน้า ไม่ทันไรสองคนนั้นก็วกประเด็นลามไปถึงน้องแอลสุดหล่อที่เพิ่งจะเดินผ่านไปแวบๆ เชื่อละว่าเรื่องชาวบ้านคืองานของสองคนนี้จริง ๆ =____=
ดูเหมือนว่าตอนนี้เซฮุนจะสนิทกับจงอินแทนผมแล้วนะเนี่ย คือน้อยใจบ้างได้ป่ะล่ะ นั่นมันเพื่อนสนิทคนเดียวของผมนะ
เราเคยตัวติดกันตลอดมีเซฮุนต้องมีผม มีผมต้องมีเซฮุน แต่ตอนนี้คนที่อยู่ข้าง ๆ เซฮุนกลับเป็นจงอิน
เราเคยนั่งกินข้าวกลางวันด้วยกันทุกวัน แต่ตอนนี้กลับเป็นจงอินที่ได้นั่งกินข้าวกับเซฮุน แถมมีหยอกล้อต่อกระซิกกันซะจนผมเห็นแล้วหมั่นไส้!
อ้อ เราเคยไปนั่งกินชาไข่มุกที่ร้านประจำแทบทุกวันด้วย แต่วันนี้ดูเหมือนว่าเซฮุนจะไปดูคิมจงอินเล่นบาส
อะไร ๆ ก็คิมจงอิน ฮึ้ยยยยยย
พอเสียงออดเลิกเรียนดังปุ๊บ เซฮุนก็รีบกวาดข้าวของลงกระเป๋า แล้วเดินไปหาจงอินที่นั่งรออยู่หน้าห้อง อารมณ์เสียนะเนี่ย แต่โกรธไม่ลงจริง ๆ เพราะผมชอบรอยยิ้มแบบนั้นของเซฮุน รอยยิ้มที่ยิ้มให้แค่จงอินคนเดียวนะ เห็นแล้วอิจฉาเป็นบ้า!
ไอโฟนของผมสั่นครืด ๆ ผมหยิบขึ้นมาเปิดดูข้อความที่ถูกส่งมาจากเจ๊ฮีชอล
‘ฉันส่งหมอเลย์ไปรอที่ใต้ตึก ทำตามแผนซะ’
ผมเห็นเซฮุนหยิบไอโฟนขึ้นมาเปิดดู คิดว่าคงได้รับข้อความเหมือนกัน
เอาล่ะนะ!
ย้อนกลับไปเมื่อคืนก่อน
“ฉันว่านะ ทำแบบนี้อ่ะ มันจะเห็นผลช้า” เสียงเจ๊ฮีชอลดังมาตามสายโทรศัพท์ ตอนนี้เรากำลังประชุมสายกันอยู่ มีผม เซฮุน และเจ้าของแผนการอย่างพี่ฮีชอล
“แล้วต้องทำยังไงล่ะพี่” เซฮุนถามอย่างสงสัย
ฟังจากเสียงดูท่าทางจะมีความสุขดี หมั่นไส้ว่ะ=____=
“ก็เหมือนวิชาเคมี ถ้ามันเกิดปฏิกิริยาช้า เราก็ต้องเติมตัวเร่งปฏิกิริยา...... หมายความว่าต้องมีตัวช่วย” ระหว่างที่เจ๊ฮีชอลกำลังพล่ามถึงหลักการทางเคมีก็มีเสียงเด็กแทรกเข้ามาเป็นระยะๆ ผมว่าพี่ฮีชอลคงจะอารมณ์เสียไม่น้อยเลยล่ะ รายนั้นเกลียดเด็กอย่างกับอะไร
“ใครละเจ๊” ผมอดถามไม่ได้
“หมอเลย์ดีมั้ย…”
“พี่เลย์!!” ผมเรียกชื่อร่างสูงที่นั่งรออยู่บนม้าหินอ่อน เจ้าตัวหันมายิ้มให้ผมบาง ๆ
…ผู้ชายมีลักยิ้มนี่มันมีเสน่ห์จริง ๆ เลย!
ผมเห็นเซฮุนกับจงอินเดินตามมาข้างหลัง
“เลิกเรียนแล้วเหรอ พี่นั่งรอตั้งนาน”
“อื้อ ไม่นึกเลยว่าพี่เลย์จะมารับ วันนี้จะพาไปไหนรึเปล่า”
“ไปที่ที่มีแค่เราสองคนดีมั้ย?” พี่เลย์อมยิ้มน่าหมั่นไส้ จนผมต้องตีแขนคนเจ้าเล่ห์ไปหนึ่งทีแบบแรงๆ
“น้องเซฮุน น้องจงอิน รีบไปไหนกันเหรอครับ ไม่เจอกันแป๊ปเดียว หล่อขึ้นเยอะเลยนะเนี่ย” ผมเห็นเซฮุนสะดุ้งเบา ๆ ใบหน้าขาวหันมายิ้มแหย ๆ ให้พี่เลย์ ดวงตากลมโตมีน้ำใส ๆ รื้นขึ้นมา พร้อมส่งสายตัดพ้อมาให้ผม
และเชื่อมั้ย ทุกอากัปกริยาทั้งหมดของเซฮุนอยู่ในสายตาของคิมจงอินตลอดเวลา
“สวัสดีครับพี่เลย์ ไม่ได้เจอกันนานเลย” เซฮุนเอ่ยพร้อมยิ้มตาหยีตามแบบฉบับของเจ้าตัว น้ำใส ๆ ที่พยายามกลั้นไว้ไหลลงที่หางตา จนเจ้าตัวต้องแอบยกมือปาดมันออกไป
แอคติ้งชนะเลิศ ลูกศิษย์ผมเองครับ!
“พักนี้เราไม่ค่อยได้เจอกันเลยนะ ว่าง ๆ ไปติวเป็นเพื่อนเสี่ยวลู่สิ คนเยอะ ๆ สนุกดี” อ้อ พี่เลย์เป็นครูสอนพิเศษของผมเองครับ เป็นหมอในโรงพยาบาลของครอบครัวผม แถมยังเป็นลูกชายเพื่อนสนิทของคุณหญิงแม่ด้วย
พี่เลย์หันมายิ้มให้ผม เรายิ้มให้กัน
บรรยากาศเป็นใจซะไม่มีล่ะ
“ไม่รบกวนดีกว่าครับ… พอดีว่าผม …” เซฮุนหยุดพูดไปซะดื้อ ๆ คงกลัวว่าจะหลุดเสียงสะอื้นออกมา “ผมชอบอ่านเองคนเดียวมากกว่า”
“ทำไมวันนี้ สีหน้าเซฮุนดูไม่ค่อยดีเลย ไม่สบายรึเปล่า ขอพี่ดูหน่อยสิ” พี่เลย์ถามด้วยน้ำเสียงห่วงใย เล่นเนียนอ่ะ ไม่เสียแรงที่จ้าง... เอ๊ย.. ไว้ใจ
“มะ… ไม่เป็นไรครับ”
“ไม่เชื่อมือพี่รึไง พี่เป็นหมอนะ”
“ขอบคุณพี่เลย์มากนะครับ” ประโยคนั้นพูดกับพี่เลย์ “ผมไม่เป็นไรจริงๆ” แต่ประโยคนั้นหันมาพูดกับผม
ถ้าผมไม่รู้แผนการนี้ล่วงหน้า ผมก็คงจะเชื่อว่าเซฮุนชอบผมจริง ๆ ทั้งสีหน้า แววตา ผมรู้สึกว่าเซฮุนกำลังเจ็บ เจ็บมากซะด้วย
และใช่ มีแค่ผม พี่เลย์ แล้วก็ตัวเซฮุนเอง ที่รู้ว่านี้เป็นการแสดง
แต่คิมจงอินไม่รู้…
จงอินเม้มปากเน้น สายตาที่จดจ้องเซฮุนนั้นบ่งบอกว่าเค้ากำลังทนไม่ไหวและจะไม่ทนอีกต่อไป
“พี่เลย์ครับ เดี๋ยวพวกผมสองคนไปก่อนนะ พอดีมีซ้อมบาส”
“อ้าวเหรอ อยากไปดูจัง” ผมเดาว่าจงอินคงกำลังจะพูดว่า ‘ไม่ต้อง!’ แต่พี่เลย์พูดขัดขึ้นก่อน “เสียดายจังนะ วันนี้ต้องพากวางน้อยไปเลี้ยงเนื้อย่างตามสัญญา ไว้วันหลังพี่จะแวะมาดูแล้วกัน”
“ครับ ขอตัวนะ”
แล้วจงอินก็โอบไหล่เซฮุนเดินไปทางสนามบาส แผ่นหลังของเซฮุนสะท้านเบา ๆ ผมคิดว่าคงกำลังร้องไห้ จงอินเลยเพิ่มแรงโอบไหล่บางนั้นให้แรงขึ้นอีก
อื้อหือ ผมมั่นใจนะว่าท่าทางสำออยแบบนั้นผมไม่ได้เป็นคนสอน!
“เฮ้อ พี่หมดประโยชน์แล้วสินะ กลับก่อนแล้วกัน”
“เดี๋ยวสิ ยังไม่หมดประโยชน์ซักหน่อย ไหนเมื่อกี้พี่เลย์บอกว่าจะพาไปเลี้ยงเนื้อย่างไง อยากกินอ่ะ เนื้อย่าง ๆ ๆ”
“พี่พูดไปงั้นแหละ เจ้าเล่ห์นักนะเราอ่ะโอเค ๆ เนื้อย่างก็เนื้อย่าง กินให้พุงกางไปเลยนะ” ถ้าได้แฟนแบบพี่เลย์นี่ผมต้องอ้วนแน่เลยอ่ะ อยากกินอะไรก็ตามใจตลอด
“พี่เลย์น่ารักที่สุดเลย!”
________________________
มาต่อแล้วนะทุกคน ถือซะว่าฉลองวันเอ็มวีออกเนอะ 555
แบคยังไม่มา กลัวจะยาวเกินไปเลยตัดไปรวมกับตอนหน้า
พรุ่งนี้อาจจะไม่ได้อัพนะคะ ต้องขนของเข้าหอ
แล้วเจอกันตอนหน้าค่ะ รักนักอ่านทุกคน จุ๊บๆ > <
ความคิดเห็น