ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO FIC] Love Paradise [KrisLu HunBaek ft.Kai]

    ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 3 เร่งปฏิกิริยา?

    • อัปเดตล่าสุด 31 ก.ค. 56


                Sehun’s Side
     

    เบื่อเสียงเสี่ยวลู่กันรึยังครับ  ผมโอเซฮุนนะ  ผู้ชายที่หล่อล้ำเลิศที่สุดในเกาหลีใต้  ไม่ต้องทำหน้าคัดค้าน ผมมั่นใจในความหล่อของตัวเอง พอ ๆ กับที่มั่นใจว่าปีนี้ลิเวอร์พูลจะได้แชมป์  ไม่ใช่ผีแดงเน่า ๆ ของลู่หานแน่นอน

     

    อย่างที่รู้ล่ะครับ ผมเป็นเพื่อนลู่หานมาตั้งแต่จำความได้ เราเลยตัวติดกันเป็นปลากระป๋อง เอ้ย.. ปลาท่องโก๋  เรื่องนั้นน่ะช่างมันเถอะครับ  ทุกคนตกใจล่ะสิ ว่าผู้ชายที่หล่อมาดแมนแฮนซั่มอย่างผมไปตกหลุมรักไอ้ดำนั่นได้ยังไง

     

    ขอเล่าสั้น ๆ ละกันนะครับ เรื่องมันเกิดขึ้นเพราะลู่หานคนดีของคุณนั่นแหละ  เมื่อสองปีก่อนเกิดนึกคึกอยากไปแลกเปลี่ยนที่เมืองผู้ดี  เลยทิ้งผมให้เผชิญชะตากรรมอันเลวร้ายคนเดียว  โชคดีที่พระเจ้าชอบคนหล่อ เลยทนเห็นผมโดดเดี่ยวไม่ได้ ตอนนั้นสวรรค์เลยส่งไอ้ดำจงอินมันให้ย้ายเข้ามาใหม่พอดี  ผมเลยรีบคว้ามาเป็นเพื่อน เพราะเห็นว่ามันก็ยังไม่มีเพื่อนเหมือนกัน

     

    แต่จงอินมันฮอต  สาว ๆ นี่ตามกันให้พรึบ  แค่นั้นยังไม่พอเสือกเข้าชมรมบาสเล่นบาสโชว์สาวทุกเย็น  แฟนคลับนี่กรี๊ดกันจนสนามบาสแทบแตก  ส่วนผมก็ไปนั่งดูมันเล่นบ้างเป็นบางครั้งเพราะอยู่ชมรมเดียวกัน

     

    และนั่นคือจุดเริ่มต้น

     

    ผมเริ่มคิดว่าผิวสีแทนนั้นดูเซ็กซี่อย่างบอกไม่ถูก

     

    ใบหน้าโชกเหงื่อนั้นดูมีเสน่ห์

     

    ปากที่ชอบยกยิ้มอยู่เสมอนั้นทำให้ผมสติแตกกระเจิง

     

    และเมื่อเผลอไปสบตา ใจผมก็เต้นแรงอย่างหาสาเหตุไม่ได้

     

    ให้ตายเถอะ  น้ำเน่าชัดๆ อ่ะ =______=

     

    แต่พอลู่หานกลับมาเราก็เริ่มห่าง ๆ กัน เพราะจงอินย้ายห้อง บอกว่าการเรียนของห้อง A เข้มข้นเกินไป  และที่ซวยกว่านั้นคือได้อยู่คนละตึก  จะบอกว่าเราแทบไม่ได้เจอกันเลยก็ว่าได้  เพราะจงอินก็มีเพื่อนกลุ่มใหม่ไปแล้ว

     

    ที่งานประกวดคิงแอนด์ควีนออฟเซคัง(งานเดียวกันกับที่ลู่หานโดนจับส่งเข้าประกวดแล้วได้ตำแหน่งควีนมาครองแบบงงๆ นั่นแหละครับ)  บังเอิญว่าผมได้ทำหน้าที่พิธีกร  หลังเวทีเราเลยได้ทักทายกันบ่อยๆ 

     

    และจงอินก็ได้ตำแหน่งคิงมาครอบครองตามความคาดหมาย

     

    ถามว่าจงอินหล่อที่สุดในโรงเรียนเหรอ  มันก็ไม่อ่ะ  โรงเรียนไฮโซแบบนี้คนหน้าตาดีเดินกันเกลื่อน

     

    แต่ถ้าพูดถึงความฮอตและความเซ็กซี่  ผมบอกได้เลยว่าคิมจงอินชนะขาด! 

     

    นี่ไม่ได้อวยนะ  ความจริงล้วนๆ!!!

     

    พอกลับมาคุยกันอีกครั้งผมก็พบว่าความรู้สึกที่มีต่อจงอินไม่เปลี่ยนไปเลย ไม่ว่าจะผ่านมาเป็นปีแล้วก็ตาม

     

    ทำให้ผมตัดสินใจที่จะ ลองจีบเพื่อนสนิทซักครั้ง

     

    และนี่ก็เป็นจุดเริ่มต้นของนิยายเรื่องนี้  เย่!

     

    ธรรมดาผมไม่ใช่คนที่ทำอะไรซับซ้อนเจ้าแผนการอะไรแบบนี้หรอกนะ แต่สำหรับจงอินที่มีแต่ผู้หญิงเข้าหาน่ะ  ถ้าผมเดินมึน ๆ เข้าไปบอกว่า “เฮ้ยจงอิน  ฉันชอบนายว่ะ คบกันป่ะ?”   ผมคิดว่าคงจะโดนไอ้ดำมันสกายคิกกลับมาแหละครับ

     

    ขอโทษที่ต้องทำลายความแมนของนายนะจงอิน

    แต่ฉันจะต้องกดนายให้ได้!!!

     

     

     

     

     

    “ไง เสี่ยวลู่ทิ้งเหรอ”  นี่เป็นคำทักทายคำแรกจากปากของผู้ชายตัวสูง ผิวแทน และปากเสียนามว่าคิมจงอิน  วันนี้มันบอกว่าจะไปกินข้าวที่โรงอาหารเป็นเพื่อนผม  เพราะเมื่อวานเห็นผมนั่งหงอยแดกขัดหูขัดตามัน

     

    เฮอะ!  ห่วงก็บอก!!

     

    “ทิ้งบ้าไรล่ะ”  ผมสวนกลับอย่างลืมตัว  “ไม่เคยคบกัน  จะทิ้งได้ยังไง”แล้วผมก็ดัดเสียงให้เศร้าที่สุด  เรื่องแอคติ้งนี่ผมเรียนมาจากลู่หานนั่นแหละ  แต่ไม่คิดจะเทียบรุ่นด้วยหรอกนะ  รายนั้นผมยกให้เป็นปรมาจารย์ ไปแล้ว

     

    “เออ  นั่นสิ น้องฮุนผู้น่าสงสาร  มามะวันนี้เสี่ยจะเลี้ยงข้าวปลอบใจนะครับ  หรือว่าอยากกินอะไรเพิ่มก็บอก ยกให้หนึ่งวันเลย”  ร่างสูงทุบอกตัวเองเบา ๆ แถมท้ายด้วยการยักคิ้วกวนตีน ทำเอาผมหลุดหัวเราะออกมา

     

     “ฉันไม่เป็นไร”  ผมไม่เป็นไรจริง ๆ นี่นา ผมไม่ได้อกหักจากเสี่ยวลู่ซักหน่อย  ถ้าจะอกหัก ก็คงจะอกหักจากมันนี่แหละ

     

    “โหยยยยย ซึมทั้งวันแบบนี้จะไม่เป็นไรได้ไงวะ  ไม่เอาน่า ไปกินข้าวกัน  แดกๆ ไปจะได้ลืมๆ”  ตรรกะไหนของนายวะเนี่ยจงอิน

     

    “นั่งอยู่นี่แหละ  เดี๋ยวไปซื้อให้”  ผมนั่งลงเงียบ ๆ ตามที่มันบอก  จริง ๆ ก็ขี้เกียจด้วยนั่นแหละ  มีคนมาบริการก็ดีเหมือนกัน  หึหึ

     

    20 นาทีผ่านไป

     

    นี่คิมจงอินไปซื้อถึงดาวอังคารรึไงครับคุณ  เม้ากับมนุษย์ต่างดาวอยู่ใช่มั้ย  ให้ตายเหอะกระเพาะผมนี่ก็ทำงานได้ดีจริง ๆ ร้องโครกครากจนน่ารำคาญเดี๋ยวตัดทิ้ง แม่ม! =____=

     

    “เฮ้ย  โทษที  ขอโทษที่ช้า”  ร่างสูงเดินยิ้มแหย ๆ มาให้ผมพร้อมกับของกินเต็มไม้เต็มมือ

     

    ผมช็อกนิดหน่อยเมื่อเห็นอาหารในถาด  นี่กินกันแค่สองคนนะเว้ย ไม่ใช่สิบคน  แต่สายตาดันเหลือบไปเห็นชานมไข่มุกรสโกโก้ของโปรด

     

                ไม่คิดเลยว่าจะจำได้  ปลื้มใจเบานะเนี่ย


                “จำได้ว่าใครไม่รู้ชอบกิน  เลยไปต่อแถวซื้อมาให้  คนเยอะชิบหายวายวอด”

     

    “ขอบใจ”  ผมพูดเบา ๆ แล้วรีบคว้าแก้วชานมไข่มุกมาดูด  ไม่ได้เห็นแก่กินเลยนะ สาบานจริงจริ๊งงงงงงงง“เดี๋ยวคืนตังค์ให้”

     

    “คืนทำไม  นายคนเดียวทำไมฉันจะเลี้ยงไม่ได้วะ”  สนใจจะเลี้ยงฉันไปตลอดชีวิตมั้ยล่ะ  “อย่างนายอ่ะ ฉันเลี้ยงตลอดชีวิตก็ยังได้”

     

    แค่กๆ

     

    ผมสำลัก  จงอินยื่นทิชชู่มาให้ผมอย่างแหยะๆ

     

    ไอ้บ้า ไอ้ดำ สารภาพมานะว่านายอ่านใจฉันได้ใช่มั้ย?????

     

    “กินดิวะ  เดี๋ยวเข้าเรียนไม่ทันนะ”

     

    ขอช็อกก่อนได้มั้ยล่ะ  =[]=

     

    “จริง ๆ ไม่ต้องสุภาพก็ได้นะ  พูดเหมือนแต่ก่อนอ่ะ”

     

    “จริงดิโหยยยย กูโคตรอึดอัดเลย  ฉัน ๆ นาย ๆ มาตั้งนาน มันไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงของคิมจงอินเลยซักนิด”  ใช่สิ  มึงพูดหวาน ๆ เฉพาะเวลาอยู่กับสาวนี่ =____=

     

    “แล้วเพื่อนมึงอ่ะ”ผมหมายถึงปาร์คชานยอลกับคิมจงแด เพื่อนที่ชมรมบาสของจงอิน  ชานยอลนี่ผมก็เข้าใจนะว่าส่วนสูงมันให้แต่จงแดนี่มัน ใครรับมันเข้าชมรมเหรอ  ติดสินบนป่ะวะดั้งค์บาสถึงเหรอ  หรือใส่เสริมส้นตอนเล่น?

     

    “ถามถึงพวกมันทำไมวะ”

     

    “อ้าว  ก็มึงมากินข้าวกับกูพวกมันไม่ว่าอะไรเหรอ แบบว่าน้อยใจไรเงี้ย”

     

    “น้อยใจอะไรล่ะครับคุณโอเซฮุน  เพื่อนนะ ไม่ใช่เมีย”

     

    “งั้นมึงจะมากินกับกูทุกวัน?”

     

    “ถ้ามึงอยากให้มา กูก็จะมา”คำตอบนั้นทำเอาผมเผลอเงยหน้าขึ้นมา ดวงตาสีเดียวกันของเราประสานกันเงียบ ๆ อยู่พักใหญ่  ก่อนที่ผมจะเป็นฝ่ายหลบตาเสียเองเพราะกลัวจะเผลอแสดงความรู้สึกออกไปผ่านแววตา 

     

    บ้าเอ๊ยแค่สบตาก็แทบอยากจะหลอมละลาย ไร้เรี่ยวแรงต่อต้านจริงๆ

     

    แต่จะให้เขินอายมุ้งมิ้งเป็นเด็กผู้หญิง ก็กลัวหมาคาบไปแดก...

     

    เอาวะ...

     

    “งั้น  ผมตัดสินใจเงยหน้าขึ้นมาสบตาดวงตาปรือนั้นอย่างอ้อน ๆ “มาทุกวันเลยนะ”

     

    เวลาอยู่ต่อหน้าคิมจงอินคนนี้  ผมควบคุมตัวเองไม่ได้จริงๆ

     

    แล้วเราก็กลับมาเงียบอีกครั้ง

     

    “ตอนเย็นมึงจะไปไหนมั้ย”จงอินเป็นฝ่ายถามก่อน

     

    “ไม่อ่ะ  วันนี้ไม่มีเรียนพิเศษ  ทำไมวะ”

     

    “ไปดูกูเล่นบาสมั้ย”

     

    “เออ  ก็ดีเหมือนกัน  กูก็อยากรู้ว่าจงแดเพื่อนมึงชู้ตบาสถึงรึเปล่า”

     

    “โอเซฮุน  กูให้ไปดูกูเล่นครับ  ไม่ใช่ให้ไปดูเพื่อนกู  เดี๋ยวตอนเย็นกูมารอหน้าห้อง”

     

    “เออ  โอเค”

     

    “แล้วก็เย็นนี้น่ะกลับบ้านด้วยกันนะ”

     

    คิดว่าผมจะปฏิเสธมั้ยล่ะ?

     

     

     

     

     

    Luhan’s Side

     

    ข้อดีของการมีเพื่อนเป็นหน่วยข่าวล่ามาเร็วอย่างแบคฮยอนและคยองซู ก็คือเราจะได้รู้ความเคลื่อนไหวของทุกคนที่เราอยากรู้

     

    “มีคนโพสภาพคริสไปกินชานมไข่มุกกับแฟน”แบคฮยอนเปิดประเด็นด้วยสีหน้าจริงจัง

     

     “คริสไหนอ่ะ  เจ้าชายน้ำแข็งขวัญใจฉันอ่ะนะ”

     

    “ใช่แล้วและคน ๆ นั้นก็อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลเราเลย”

     

    “ใครอ่ะ”

     

    “ก็ลองถามควีนดูสิ”แบคฮยอนหรี่ตามองผมอย่างจับผิด  “ว่าไงลู่หาน  ไปนั่งดูดชานมสร้างบรรยากาศสีชมพูแบบนั้นกับคริสได้ยังไง”  ร่างเล็กหยิบไอแพดขึ้นมาโชว์หลักฐาน  เป็นรูปถ่ายที่คริสนั่งหล่อ  สไลด์มือถือเล่นแบบไม่สนใจคนรอบข้าง  ส่วนผมนั่งกลั้นหัวเราะสุดชีวิตเพราะชานมสตรอเบอร์รี่ของคริส

     

    เอิ่มมมมโคลสอัพทำไม  เห็นตีนกาเลยอ่ะ!!

     

    “พอดีเมื่อวานโต๊ะมันเต็มน่ะ  เค้าคงเห็นที่มันว่างเลยมานั่งด้วย  ไม่มีอะไรจริงๆ”  ใช่มันไม่มีอะไรเลย  ทั้ง ๆ ที่ใจผมก็อยากให้มันมีอะไรๆ เหมือนกัน(?)

     

    “ว้า นึกว่าจะมีอะไรในกอไผ่ซะอีก”  แบคฮยอนถอนหายใจ

     

    “ฉันล่ะไม่เข้าใจคริสจริงๆ มีผู้ชายน่ารักๆ แบบควีนมานั่งตรงข้ามทั้งที ทำไมไม่รุกเลยว้า.. ไม่ได้ใจเลย !” คยองซู  ทำหน้าเซ็ง กระแทกเสียงอย่างหงุดหงิดที่มันไม่มีอะไรเกิดขึ้น..

     

    นี่ผู้ชายคนนี้อยากให้ผมเสียตัวให้คริสในร้านชานมหรือไงนะ !

    ....

    แต่อันที่จริง ผมก็อยากทำแบบนั้นนะ ฮ่าๆ

     

    บ้าเหรอครับ ! ผมแมนทั้งแท่งนะ

     

    ผมมองคู่ซี้ที่นั่งตรงหน้า ไม่ทันไรสองคนนั้นก็วกประเด็นลามไปถึงน้องแอลสุดหล่อที่เพิ่งจะเดินผ่านไปแวบๆ เชื่อละว่าเรื่องชาวบ้านคืองานของสองคนนี้จริง ๆ =____=

     

                ดูเหมือนว่าตอนนี้เซฮุนจะสนิทกับจงอินแทนผมแล้วนะเนี่ย  คือน้อยใจบ้างได้ป่ะล่ะ  นั่นมันเพื่อนสนิทคนเดียวของผมนะ 

     

    เราเคยตัวติดกันตลอดมีเซฮุนต้องมีผม  มีผมต้องมีเซฮุน  แต่ตอนนี้คนที่อยู่ข้าง ๆ เซฮุนกลับเป็นจงอิน

     

    เราเคยนั่งกินข้าวกลางวันด้วยกันทุกวัน  แต่ตอนนี้กลับเป็นจงอินที่ได้นั่งกินข้าวกับเซฮุน  แถมมีหยอกล้อต่อกระซิกกันซะจนผมเห็นแล้วหมั่นไส้!

     

    อ้อ  เราเคยไปนั่งกินชาไข่มุกที่ร้านประจำแทบทุกวันด้วย  แต่วันนี้ดูเหมือนว่าเซฮุนจะไปดูคิมจงอินเล่นบาส

     

    อะไร ๆ ก็คิมจงอิน  ฮึ้ยยยยยย

     

    พอเสียงออดเลิกเรียนดังปุ๊บ  เซฮุนก็รีบกวาดข้าวของลงกระเป๋า  แล้วเดินไปหาจงอินที่นั่งรออยู่หน้าห้อง  อารมณ์เสียนะเนี่ย  แต่โกรธไม่ลงจริง ๆ  เพราะผมชอบรอยยิ้มแบบนั้นของเซฮุน  รอยยิ้มที่ยิ้มให้แค่จงอินคนเดียวนะ  เห็นแล้วอิจฉาเป็นบ้า!

     

    ไอโฟนของผมสั่นครืด ๆ ผมหยิบขึ้นมาเปิดดูข้อความที่ถูกส่งมาจากเจ๊ฮีชอล

     

    ฉันส่งหมอเลย์ไปรอที่ใต้ตึก  ทำตามแผนซะ

     

    ผมเห็นเซฮุนหยิบไอโฟนขึ้นมาเปิดดู  คิดว่าคงได้รับข้อความเหมือนกัน

     

    เอาล่ะนะ!

     

     

     

     

     

    ย้อนกลับไปเมื่อคืนก่อน

     

    “ฉันว่านะ  ทำแบบนี้อ่ะ  มันจะเห็นผลช้า”  เสียงเจ๊ฮีชอลดังมาตามสายโทรศัพท์  ตอนนี้เรากำลังประชุมสายกันอยู่ มีผม เซฮุน และเจ้าของแผนการอย่างพี่ฮีชอล

     

    “แล้วต้องทำยังไงล่ะพี่”  เซฮุนถามอย่างสงสัย

     

    ฟังจากเสียงดูท่าทางจะมีความสุขดี  หมั่นไส้ว่ะ=____=

     

    “ก็เหมือนวิชาเคมี  ถ้ามันเกิดปฏิกิริยาช้า  เราก็ต้องเติมตัวเร่งปฏิกิริยา...... หมายความว่าต้องมีตัวช่วย”  ระหว่างที่เจ๊ฮีชอลกำลังพล่ามถึงหลักการทางเคมีก็มีเสียงเด็กแทรกเข้ามาเป็นระยะๆ ผมว่าพี่ฮีชอลคงจะอารมณ์เสียไม่น้อยเลยล่ะ  รายนั้นเกลียดเด็กอย่างกับอะไร

     

    “ใครละเจ๊”  ผมอดถามไม่ได้

     

    “หมอเลย์ดีมั้ย

     

     

     

     

     

    “พี่เลย์!!  ผมเรียกชื่อร่างสูงที่นั่งรออยู่บนม้าหินอ่อน  เจ้าตัวหันมายิ้มให้ผมบาง ๆ

     

    ผู้ชายมีลักยิ้มนี่มันมีเสน่ห์จริง ๆ เลย!

     

    ผมเห็นเซฮุนกับจงอินเดินตามมาข้างหลัง

     

    “เลิกเรียนแล้วเหรอ  พี่นั่งรอตั้งนาน” 

     

    “อื้อ ไม่นึกเลยว่าพี่เลย์จะมารับ  วันนี้จะพาไปไหนรึเปล่า”

     

    “ไปที่ที่มีแค่เราสองคนดีมั้ย?”  พี่เลย์อมยิ้มน่าหมั่นไส้ จนผมต้องตีแขนคนเจ้าเล่ห์ไปหนึ่งทีแบบแรงๆ

     

    “น้องเซฮุน  น้องจงอิน  รีบไปไหนกันเหรอครับ  ไม่เจอกันแป๊ปเดียว  หล่อขึ้นเยอะเลยนะเนี่ย”  ผมเห็นเซฮุนสะดุ้งเบา ๆ ใบหน้าขาวหันมายิ้มแหย ๆ ให้พี่เลย์  ดวงตากลมโตมีน้ำใส ๆ รื้นขึ้นมา  พร้อมส่งสายตัดพ้อมาให้ผม

     

    และเชื่อมั้ย  ทุกอากัปกริยาทั้งหมดของเซฮุนอยู่ในสายตาของคิมจงอินตลอดเวลา

     

    “สวัสดีครับพี่เลย์  ไม่ได้เจอกันนานเลย”  เซฮุนเอ่ยพร้อมยิ้มตาหยีตามแบบฉบับของเจ้าตัว น้ำใส ๆ ที่พยายามกลั้นไว้ไหลลงที่หางตา  จนเจ้าตัวต้องแอบยกมือปาดมันออกไป

     

    แอคติ้งชนะเลิศ  ลูกศิษย์ผมเองครับ!

     

    “พักนี้เราไม่ค่อยได้เจอกันเลยนะ  ว่าง ๆ ไปติวเป็นเพื่อนเสี่ยวลู่สิ  คนเยอะ ๆ สนุกดี”  อ้อ  พี่เลย์เป็นครูสอนพิเศษของผมเองครับ  เป็นหมอในโรงพยาบาลของครอบครัวผม  แถมยังเป็นลูกชายเพื่อนสนิทของคุณหญิงแม่ด้วย

     

    พี่เลย์หันมายิ้มให้ผม  เรายิ้มให้กัน

     

    บรรยากาศเป็นใจซะไม่มีล่ะ

     

    “ไม่รบกวนดีกว่าครับพอดีว่าผม” เซฮุนหยุดพูดไปซะดื้อ ๆ คงกลัวว่าจะหลุดเสียงสะอื้นออกมา  “ผมชอบอ่านเองคนเดียวมากกว่า”

     

    “ทำไมวันนี้  สีหน้าเซฮุนดูไม่ค่อยดีเลย  ไม่สบายรึเปล่า  ขอพี่ดูหน่อยสิ”  พี่เลย์ถามด้วยน้ำเสียงห่วงใย  เล่นเนียนอ่ะ  ไม่เสียแรงที่จ้าง... เอ๊ย.. ไว้ใจ

     

    “มะ ไม่เป็นไรครับ” 

     

    “ไม่เชื่อมือพี่รึไง  พี่เป็นหมอนะ”

     

    “ขอบคุณพี่เลย์มากนะครับ”  ประโยคนั้นพูดกับพี่เลย์  “ผมไม่เป็นไรจริงๆ”  แต่ประโยคนั้นหันมาพูดกับผม

     

    ถ้าผมไม่รู้แผนการนี้ล่วงหน้า  ผมก็คงจะเชื่อว่าเซฮุนชอบผมจริง ๆ ทั้งสีหน้า แววตา ผมรู้สึกว่าเซฮุนกำลังเจ็บ  เจ็บมากซะด้วย

     

    และใช่  มีแค่ผม พี่เลย์ แล้วก็ตัวเซฮุนเอง ที่รู้ว่านี้เป็นการแสดง

     

    แต่คิมจงอินไม่รู้

     

    จงอินเม้มปากเน้น  สายตาที่จดจ้องเซฮุนนั้นบ่งบอกว่าเค้ากำลังทนไม่ไหวและจะไม่ทนอีกต่อไป

     

    “พี่เลย์ครับ  เดี๋ยวพวกผมสองคนไปก่อนนะ  พอดีมีซ้อมบาส”

     

    “อ้าวเหรอ  อยากไปดูจัง”  ผมเดาว่าจงอินคงกำลังจะพูดว่า ไม่ต้อง!’  แต่พี่เลย์พูดขัดขึ้นก่อน  “เสียดายจังนะ  วันนี้ต้องพากวางน้อยไปเลี้ยงเนื้อย่างตามสัญญา  ไว้วันหลังพี่จะแวะมาดูแล้วกัน”

     

    “ครับ ขอตัวนะ”

     

    แล้วจงอินก็โอบไหล่เซฮุนเดินไปทางสนามบาส  แผ่นหลังของเซฮุนสะท้านเบา ๆ ผมคิดว่าคงกำลังร้องไห้  จงอินเลยเพิ่มแรงโอบไหล่บางนั้นให้แรงขึ้นอีก

     

    อื้อหือ  ผมมั่นใจนะว่าท่าทางสำออยแบบนั้นผมไม่ได้เป็นคนสอน!

     

    “เฮ้อ  พี่หมดประโยชน์แล้วสินะ  กลับก่อนแล้วกัน”

     

    “เดี๋ยวสิ  ยังไม่หมดประโยชน์ซักหน่อย  ไหนเมื่อกี้พี่เลย์บอกว่าจะพาไปเลี้ยงเนื้อย่างไง อยากกินอ่ะ เนื้อย่าง ๆ ๆ”

     

    “พี่พูดไปงั้นแหละ เจ้าเล่ห์นักนะเราอ่ะโอเค ๆ เนื้อย่างก็เนื้อย่าง  กินให้พุงกางไปเลยนะ”  ถ้าได้แฟนแบบพี่เลย์นี่ผมต้องอ้วนแน่เลยอ่ะ  อยากกินอะไรก็ตามใจตลอด

     

    “พี่เลย์น่ารักที่สุดเลย! 

     







    ________________________
    มาต่อแล้วนะทุกคน ถือซะว่าฉลองวันเอ็มวีออกเนอะ 555
    แบคยังไม่มา  กลัวจะยาวเกินไปเลยตัดไปรวมกับตอนหน้า
    พรุ่งนี้อาจจะไม่ได้อัพนะคะ  ต้องขนของเข้าหอ
    แล้วเจอกันตอนหน้าค่ะ  รักนักอ่านทุกคน จุ๊บๆ >
    <

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×