ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO FIC] Love Paradise [KrisLu HunBaek ft.Kai]

    ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 2 วันที่เราห่างกัน

    • อัปเดตล่าสุด 30 ก.ค. 56




     

     

    ผมเริ่มต้นแผนการของวันนี้ด้วยการขอแลกที่นั่งกับเพื่อนคนหนึ่งในห้อง ตั้งใจเมคเฟรนด์กับกลุ่มเพื่อนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ แม้จะไม่ค่อยเข้าใจที่พวกนั้นพูดกันเท่าไหร่แต่ก็แสร้งตั้งใจฟัง  ไว้เซฮุนของผมได้หัวใจคิมจงอินมาครอบครองเมื่อไหร่  ผมจะรีบหนีออกไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด  ผมเหลือบตามองเซฮุนที่นั่งนิ่งใจเหม่อลอยออกไปนอกหน้าต่าง ดูซึมลงอย่างเห็นได้ชัด ผมรู้ว่าตอนนี้เซฮุนไม่ได้แสดงละครตบตาใคร  เพราะผมเองก็รู้สึกหน่วง ๆ ในหัวใจไม่ต่างกัน

     

    “ลู่หาน  ฟังอยู่รึเปล่า” บยอนแบคฮยอนเอ่ยถามผม

     

    “อ่อ ฟังๆ แค่เหม่อนิดหน่อยน่ะ เมื่อกี้ถึงไหนแล้วนะ พี่แทยอนน่ารักมากใช่มั้ย”

     

    “ใช่เลย  น่ารักเหมือนนางฟ้าเลยล่ะ” ใบหน้าเฉยชาภายใต้กรอบแว่นหนาๆ แบบเด็กเรียนนั้นดูจะมีความสุขทุกครั้งที่เอ่ยชื่อพี่แทยอน  “พี่แทยอนเป็นไอดอลของฉันเลยนะ”

     

    “ห๊ะ นายอยากน่ารักเหมือนนางฟ้าแบบพี่แทยอนเหรอแบค!  โดคยองซู ตะโกนเสียงดังจนผมสะดุ้งเฮือกตาโตๆ นั้นเหลือกขึ้นอย่างตกใจ

     

    ผมกลัวมันจะหลุดออกนอกเบ้าตาจัง =_____=

     

    “ฉันอยากร้องเพลงเก่งแบบพี่แทยอนต่างหาก”แบคฮยอนสวนกลับเสียงนิ่ง  “แล้วนายล่ะลู่หาน  ไม่มีสาวในดวงใจบ้างเหรอ”

     

    “สาว ๆ เหรอ? ไม่มีหรอก  แต่ฉันชอบ EXO นะ”

     

    “จริงป่ะ  ฉันก็เป็นแฟนบอย EXO เหมือนกัน  นายชอบใครอ่ะ  ฉันชอบพี่ดีโอมากเลย เค้าน่ารักสุด ๆ ไปเลย”

     

    “โหย น่ารักตรงไหนเหอะ ตาโตอย่างกับไข่ห่าน”แบคฮยอนเบ้ปาก

     

    “อย่ามาว่าพี่ดีโอของฉันนะ!

     

    ผมกลอกตาอย่างเซ็ง ๆ มองดูคู่เพื่อนรักที่ทะเลาะกันเพราะประเด็น “พี่ดีโอตาโตเท่าไข่ห่านจริงหรือไม่?” 

     

    เป็นประเด็นที่สร้างสรรค์สุดๆ =____=

     

    ผมมองไปที่เซฮุนอีกครั้ง  เค้าเสียบหูฟังแล้วฟุบหลับบนโต๊ะอย่างเงียบ ๆ  ผมเปลี่ยนใจตอนนี้ทันมั้ยนะ  ไม่อยากจะอยู่ห่างจากเซฮุนเลยให้ตายเหอะ

     

    “ลู่หานเป็นอะไรรึเปล่า”

     

    “เปล่าหรอก  สรุปว่าพี่ดีโอตาโตเท่าไข่ห่านรึเปล่า”

     

    “เรื่องนั้นน่ะช่างมันเหอะ” แบคฮยอนกลอกตา

     

    “อย่าหาว่าก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของนายเลยนะลู่หาน  แต่นายกับเซฮุนทะเลาะอะไรกันเหรอ  ธรรมดาก็ดูเป็นคู่รักที่เข้ากันได้ดี”

     

    “คู่รัก? จะบ้าเหรอคยองซู  เราเป็นเพื่อนกัน”   ผมส่ายหน้าเบาๆ ราวกับเรื่องที่คยองซูพูดเป็นเรื่องไร้สาระ

     

    “โหย ไม่ต้องอายหรอกลู่หาน  คนเค้ารู้กันหมดแล้ว นายสองคนเล่นสวีทกันแบบไม่แคร์สื่อเลยนี่นา มีแต่คนอิจฉาเลยนะ  คนนึงสวยเว่อร์  อีกคนก็หล่อละลาย”

     

    “ใช่ แถวนี้ไม่มีใครไม่รู้จักคู่ฮุนฮานหรอก”แบคฮยอนช่วยยืนยัน

     

    “เพื่อนฉันหลายคนชอบนายมากเลยนะ  แต่ไม่มีใครกล้าเข้ามาคุยด้วยซักคน เพราะเซฮุนแฟนนายน่ะเป็นผู้ชายที่เพอร์เฟ็คโคตรๆ”

     

    ผมนั่งฟังเงียบ ๆ ได้ยินเรื่องนี้มาจนชินแล้ว 

     

    “ไม่ใช่แฟนหรอก เซฮุนเป็นเพื่อนสนิทน่ะ”  ผมยืนยันอีกครั้ง  ทำหน้าจริงจังจนดีโอเผลอกลืนน้ำลายลงคอแบบหวาดๆ

     

    “งั้นแปลว่าเพื่อนฉันก็มีโอกาสใช่ป่ะ”

     

    “คงงั้นมั้ง ฉันโสด”

     

     

     

     

     

    “เสี่ยวลู่อ่าว่างมั้ย ไปดูหนังกันนะ”

     

    “ลู่หานครับ ไปเที่ยวสวนสนุกกับผมดีกว่า”

     

    “ควีนฮะ  คบกับผมเถอะนะ”

     

    “น้องลู่ พี่จองโต๊ะไว้แล้ว เย็นนี้เราไปดินเนอร์กันนะครับ”  และบลา ๆ ๆ ๆ ที่ผมฟังแทบไม่ทัน

     

    หลังเลิกเรียนเป็นช่วงเวลาที่วุ่นวาย  เรื่องที่ผมโสดและกำลังทะเลาะกับเซฮุนแพร่สะพัดยิ่งกว่าไฟลามทุ่ง  ผมรู้ตัวเสมอว่าตัวเองฮอตแค่ไหน  แต่จะดีกว่านี้มากถ้าผมฮอตในหมู่ผู้หญิง

     

    ไม่ใช่ในหมู่ผู้ชายอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้!

     

    อีกฟากนึงก็ไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่ เพราะผมเห็นมีผู้หญิงมากหน้าหลายตาเข้าไปคุยกับเซฮุนไม่ขาดสาย(ทำไมของเซฮุนเป็นผู้หญิงอ่ะ  คุณผู้หญิงครับมาหาผมก็ได้  ผมว่างนะ!)  ไม่เว้นแม้แต่รุ่นพี่คนสวยที่คยองซูคลั่งไคล้

     

    “พี่โบราโคตรน่ารัก  เซ็กซี่สุดๆ เลยว่ะ”

     

    “มากอ่ะ” แม้แต่แบคฮยอนที่ปกติชอบทำหน้านิ่งๆ ก็เออออไปกับเค้าด้วย

     

    แต่คำตอบที่ได้จากเซฮุนคือ  “ผมมีคนที่ชอบแล้วครับ”

     

    คิมจงอิน  นายจะรู้ตัวมั้ยว่านายเป็นผู้ชายที่โชคดีที่สุดในโลก!

     

    “ลู่หานนนนนนอะไรอ่า นายเหม่ออีกแล้วนะ”  คยองซูงอแงเมื่อเห็นว่าผมไม่สนใจที่เค้าพูด

     

    “เปล่าหรอก  ฉันแค่คิดอะไรเพลิน ๆ แค่นั้นเอง”

     

    “เห็นนายกับเซฮุนเป็นแบบนี้แล้วฉันไม่สบายใจเลย  มีอะไรก็เล่าให้ฉันกับคยองซูฟังได้นะ”  แบคฮยอนส่งรอยยิ้มจริงใจมาให้ผม

     

    บางทีเพื่อนใหม่สองคนนี้ก็ไม่ได้เลวร้ายเท่าไหร่แฮะ

     

    “ช่ายยยย เรื่องชาวบ้านก็เหมือนเรื่องของเรานั่นแหละ เนอะแบค”

     

    “อือ”

     

    เอ่อที่พูดไปเมื่อกี้ ผมขอคืนคำนะครับ =______=

     

     

     

     

     

    วันต่อมา

     

    ตอนนี้เราอยู่ห้องสมุดครับ  ผมกลอกตาเซ็ง ๆ เป็นรอบที่แปด  เมื่อมองแบคฮยอนกับคยองซูที่กำลังลิสต์รายชื่อคนที่เข้ามาจีบผม

     

    เจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์เป็น “ผู้ชาย”

     

    ยี่สิบเปอร์เซ็นเป็น “ผู้หญิง”

     

    ส่วนอีกสิบเปอร์เซ็น “ไม่ใช่ผู้ชายและไม่ใช่ผู้หญิง” 

     

    ผมไม่รู้จะภูมิใจหรือจะร้องไห้ให้กับชะตาชีวิตตัวเองดี TT

     

    “ลู่อ่า ฉันว่าพี่ซีวอนเนี่ย  โอเคมาก ๆ เลยน้า ประวัติใสสะอาดมาก ไม่เจ้าชู้ เรียนเก่ง รูปหล่อพ่อรวย เพอร์เฟ็คจนไม่รู้จะอธิบายยังไง”  ว่าแล้วคยองซูก็ไฮไลท์ชื่อพี่ซีวอนให้เสร็จสรรพ  โดยไม่ถงไม่ถามสุขภาพผมซักคำ

     

    “ไง  ควีน  ช่วงนี้ฮอตนะ”  จงอินเดินยิ้มหล่อเข้ามาทักผม

     

    “ฮอตบ้าอะไรล่ะ  นายอยากลองมาเป็นฉันมั้ย”ผมกลอกตาอีกครั้ง รอบที่เท่าไหร่แล้วนะ เก้ารึเปล่า? “อีกอย่างเลิกเรียนฉันว่าควีนซักที  บอกตั้งกี่ครั้งแล้ว”

     

    “ก็เวลานายเหวี่ยงแล้วน่ารักดีนี่นา  ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงมีแต่ “ผู้ชาย” มาหลงรัก”

     

    จงอินเน้นเสียงคำว่า “ผู้ชาย” ชัดเจน  จนผมชักจะหมั่นไส้

     

    อย่าให้รู้แล้วกันว่า นายก็เป็นหนึ่งใน “ผู้ชาย” พวกนั้นน่ะ  เชอะ!

     

    “มาก็ดีแล้ว  ขอคุยด้วยหน่อยสิ”

     

    “หือ?”

     

    “เรื่องเซฮุนน่ะ”  ผมอ้อมแอ้ม

     

    “หึ  ถึงไม่พูด ฉันก็ว่าจะถามอยู่ดี”

     

    “ไปคุยตรงโน้นดีกว่า”  ผมลุกขึ้น เดินนำจงอินไปยังมุมที่เงียบที่สุดของห้องสมุด  แต่ก่อนจะลุกจากเก้าอี้ผมก็ได้ยินเสียงเคลิ้ม ๆ ของคยองซูดังมาว่า

     

    “แบคถึงผู้ชายแบบคิงจะเจ้าชู้ไปหน่อย  แต่ก็ดูเร้าใจดีนะ *0*

     

    ให้ตายเถอะ  เชื่อเค้าเลย!!

     

     

     

     

     

    “ทะเลาะกับไอ้ฮุนเหรอ”  จงอินเปิดประเด็นทันที  น้ำเสียงแสดงความเป็นห่วงชัดเจน “ฉันเห็นไอ้ฮุนมันนั่งกินข้าวที่โรงอาหารคนเดียว  ดูซึม ๆ ไม่สมเป็นมันเลย นี่พวกนายทะเลาะอะไรกันทำไมต้องถึงขั้นต่างคนต่างอยู่ขนาดนี้”  แต่ห่วงเซฮุนนะ ไม่ใช่ผม

     

    “ฉันมีเรื่องอยากจะขอร้องนาย”

     

    “อะไร”

     

    “อยู่ข้าง ๆ เซฮุนแทนฉันทีนะ  ฉันสัญญาว่าถ้าเซฮุนทำใจได้เมื่อไหร่  จะไม่รบกวนนายอีกเลย”

     

    “ทำใจ  ทำไมไอ้ฮุนต้องทำใจด้วย”  อ้าว  เวรแล้วไง

     

    “คือว่า นายสัญญานะว่าจะไม่บอกใคร”จะเอาเหตุผลที่ว่าเซฮุนชอบผมอย่างที่พี่ฮีชอลบอกดีมั้ยนะ

     

    “อือ”

     

    “เพื่อนสนิทก็เล่าให้ฟังไม่ได้นะ”  หรือจะคิดเหตุผลอื่นดี 

     

    “เออน่า”

     

    “เอ่อ  เรื่องอะไรดีนะ สมองผมประมวลผลอย่างหนัก  แต่ก็คิดไม่ออกว่าจะทะเลาะกับเซฮุนเรื่องอะไรดี

     

    “ว่าไงล่ะลู่หาน”  อย่าเร่งสิ  ไอ้ดำนี่ =____=!

     

    “สัญญาว่าจะดูแลเซฮุนแทนฉันอย่างดีที่สุด”  เออๆ ยอมก็ได้  ความคิดของพี่ฮีชอลคงดีที่สุดแล้ว  คงเป็นเหตุผลที่อ่อนไหวจนทำให้ผมกับเพื่อนรักอย่างเซฮุนทะเลาะกันได้

     

    “ตกลงนายจะบอกฉันมั้ย”จงอินกอดอก  มองผมตาเขียวปั๊ดเหมือนเริ่มจะอารมณ์เสียเข้าแล้ว

     

    “เซฮุนชอบฉัน

     

    เกิดความเงียบขึ้นพักใหญ่ จงอินไม่พูดอะไร  ส่วนผมเม้มปากแน่น

     

    พูดออกไปแล้ว!!!ไม่รู้มันจะเชื่อมั้ย  แต่ถ้าเป็นผม  ผมคงไม่เชื่อ  เพราะตลอดเวลาที่เป็นเพื่อนกับเซฮุนมา  ไม่เคยมีครั้งไหนที่พวกผมจะแสดงอาการปิ๊งปั๊งหรือสปาร์กกันเลย

     

    “ว่าแล้วเชียว”  จงอินพึมพำเสียงเบาหวิว  แต่ผมได้ยินชัดเจน

     

    เฮ้ย! มันเชื่อ?!

     

    “ฉันเสียใจ”  ไม่รู้ว่าเหตุผลมันฟังขึ้นรึเปล่า  เพราะฉะนั้นผมเลยบีบน้ำตานิดๆ หน่อย ๆ เพื่อเพิ่มความสมจริง 

     

    ขอรางวัลออสก้าร์ปีนี้ให้ผมด้วยนะครับ

     

    “ฉันเข้าใจ เฮ้.. อย่าร้องไห้สิ คนสวยๆ แบบนายไม่เหมาะกับน้ำตานะ”  จงอินยกมือขึ้นปาดน้ำตาให้ผมอย่างแผ่วเบา

     

    โอ้ย  หล่อ  สภาพบุรุษ  น่ารักเว่อร์ 

     

    แต่ดำ   ผ่านไปๆ  =____=

     

    เมื้อกี้ เกือบเคลิ้มแล้วมั้ยล่ะ

     

    “รับปากฉันสิ!  ว่านายจะต้องดูแลเซฮุนให้ดี”

     

    “อือ แน่นอนอยู่แล้ว ไอ้ฮุนมันก็เพื่อนฉันเหมือนกันนะ”

     

    “ห้ามทำให้เซฮุนเสียใจด้วย”  ทำไมผมถึงพูดเหมือนกำลังจะส่งเซฮุนเข้าหอเลยนะ

     

    “ด้วยเกียรติของคิมจงอินสุดหล่อคนนี้เลยครับควีน”  จงอินยิ้มหล่อ  อื้อหือ  รอยยิ้มโคตรเจ้าชู้  โคตรเพลย์บอย

     

    “บอกแล้วว่าไม่ชอบให้เรียกว่าควีน  ยังจะเรียกอีก”  ผมพึมพำอู้อี้น้ำตาไหลพราก ๆ อย่างควบคุมไม่ได้

     

    ความจริงอีกข้อของผมก็คือบีบน้ำตาเก่ง  แต่หยุดร้องไห้ยากมาก

     

    “แหยะ  น้ำมูกอ่ะ”  ไอ้ดำ ไอ้ถ่านถูกไฟไหม้ ไอ้เพื่อนเลววววววววว

     

     

     

     

     

                ตอนนี้ผมเดินอยู่ในห้างประจำที่อยู่ไม่ไกลจากโรงเรียนเท่าไหร่  เดินไปเดินมาอยู่หลายรอบสุดท้ายก็มาจบลงที่ร้านชานมไข่มุกที่ผมกับเซฮุนชอบกิน

     

                ชีวิตที่ไม่มีเซฮุนนี่มันเหงาจริงๆ

     

                ผมนั่งดูดชานมไข่มุกไปเรื่อย ๆ ผมชอบบรรยากาศร้านนี้  มันรู้สึกสดชื่นอย่างบอกไม่ถูก พอดีว่าผมเป็นผู้ชายรักสงบ รักธรรมชาติ  ผมเลยมีความสุขกับสีเขียวๆ ของต้นไม้ที่เค้าเอามาแต่งร้านเป็นพิเศษ

     

    แต่ไม่รู้มีงูมั้ยกลัวอยู่เหมือนกัน  =____=

     

                วันนี้คนเยอะกว่าปกติจนแทบจะไม่มีโต๊ะว่าง  ธรรมดาแล้วตอนที่ผมมากับเซฮุนมันแทบจะไม่มีคนเลยนะ  เซฮุนยังแอบกระซิบถามผมเลยว่า “คนก็ไม่ค่อยเข้า  ทำไมร้านไม่เจ๊งซักที”  เอ่อ ไปแช่งเค้าทำไม?

     

                คิดอะไรเพลิน ๆ ได้แป๊ปเดียว  ที่นั่งตรงข้ามผมก็ถูกยึดครองโดยใครบางคน  ผมไม่ถือหรอกนะที่จะนั่งกับคนแปลกหน้าน่ะ  โต๊ะมันเต็ม มันเป็นเหตุสุดวิสัย อันนี้ผมเข้าใจ

     

                แต่….!!!!

     

    คนตรงหน้าผมนี่มันคริส! คริสตัวเป็นๆ เลย!!

     

                เจ้าใบหน้าหล่อเหลาที่สะดุดใจผมตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ  ใบหน้าเนียนใสกับตาคมดุที่เผลอสบตาแล้วใจเต้นไม่เป็นจังหวะ

     

    ที่พูดมานี่ผมไม่ได้ชอบคริสเหมือนที่เซฮุนชอบไอ้ดำนะครับ  ผมแค่อิจฉาเท่านั้นเอง  คนอะไรไม่รู้ เพอร์เฟ็คจริง ๆ

    เปล่าพูดไปงั้นแหละ  ถ้าไม่ชอบแล้วจะนอนคิดถึงคริสทั้งคืนได้ยังไง  บ้าป่ะ?

     

    และอาจจะเพราะผมจ้องเค้ามากเกินไป  เจ้าของใบหน้าไร้ที่ติจึงเงยหน้าขึ้นมามองผมด้วยแววตาอ่านยาก  แต่เห็นแล้วเสียวสันหลังวาบยังไงไม่รู้

     

    เป็นมาเฟียป่ะวะ

     

    แต่เดี๋ยวนะ  ชานมไข่มุกในมือคริสนี่มัน

    ..

    ..

    รสสตรอเบอร์รี่!?

    โอ้ยยย ผมขอฮาแป๊ปนะ แทบอยากจะลงไปแดดิ้นกับพื้น  คิดดูสิผู้ชายหน้าโหด ๆ ตาดุ ๆ สูงเกือบร้อยเก้าสิบ  กินชานมไข่มุกรสสตรอเบอร์รี่!! เล่าให้ใครฟังใครจะเชื่อออออออ

     

    ผมแอบยิ้มไปหลายรอบ  ดีนะที่คริสไม่ได้สนใจผม  เค้านั่งสไลด์มือถือยี่ห้อผลไม้อย่างตั้งอกตั้งใจ  มืออีกข้างก็ยกแก้วชานมไข่มุกรสสตรอเบอร์รี่มาดูดแบบไม่แคร์!

     

    โคตรมั่นอ่ะ!

     

    ผมกลั้นหัวเราะจนน้ำตาแทบไหล  ไม่กล้าส่งเสียงหัวเราะออกมาดัง ๆ กลัวว่าคนหน้าโหดตรงหน้าจะลุกขึ้นเชือดคอผมทิ้ง

     

     เซฮุนเคยเตือนผมหลายครั้งว่าถ้าจะยิ้มให้ยิ้มที่มุมปากเบา ๆ น่ารัก ๆ ก็พอ เพราะถ้าฉีกยิ้มแบบกว้าง ๆ ตีนกาบนหน้าผมจะพร้อมใจกันโผล่พรึบขึ้นมาพร้อมกันแบบไม่น่าให้อภัย  แต่ตอนนี้ขอเหอะ มันฮาไม่ไหวจะเคลียร์จริง ๆนะครับ!!

     

    เรายังนั่งกันอยู่แบบนี้ซักพัก  และเมื่อเพลง MAMA ดังขึ้นมาจากโทรศัพท์ของคริส  เค้าก็เดินออกจากร้านไปโดยไม่คิดจะมองหน้าผมซักนิด

     

    โหยยยย ฟังมาม่าเหรอ  เดี๋ยวนี้ EXO ออกเพลงใหม่แล้วนะ ชื่อเพลง Growl อ่ะ นาอือรือรองอือรือรองอือรือรองเด อ่ะ  ไม่เคยฟังเหรอ   ไม่อัพเดทเลยนะ

     

    เอ๊ะ??

     

    เดี๋ยวนะ  กระเป๋าคริสนั่นมัน….

     

    ไม่ใช่  ผมไม่ได้หมายถึงกระเป๋าหลุยส์วิตตองใบละเป็นล้านใบนั้น 

     

    ผมหมายถึงที่ห้อยกระเป๋ารูปผลสตรอเบอร์รี่ต่างหาก

     

     แล้วไม่ใช่แค่ลูกเดียวนะครับ เป็นพวงเลยยยย!!!

     

    ใครเห็นผมตอนนี้คงจะงง เดี๋ยวยิ้มเดี๋ยวหัวเราะ  ผมไม่ได้บ้านะครับ

     

    แต่คริส  สตรอเบอร์รี่ คริสกับสตรอเบอร์รี่?  ไม่น่าเข้ากันได้อ่ะ 

     

    ผมว่าวันนี้ผมได้รู้ความจริงเกี่ยวกับคริสเพิ่มอีกอย่างนึงแล้วแหละ

     

    นายนี่มันโคตรแหววเลย  อู๋อี้ฟานนนนนนน

     

     

     

     

     

    ผมยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดู ตอนนี้เป็นเวลาห้าโมงกว่าแล้วครับ  ผมยังไม่อยากกลับบ้านหรอก  นั่งชิลล์ๆดูดชานมไข่มุกอร่อยๆแบบนี้ก็ดีอยู่แล้ว ถึงกลับไปก็ไม่มีใครอยู่บ้าน   แม่บ้านไม่ได้พักอยู่ที่บ้านผม  เค้ามาตอนเช้า เสร็จงานตอนเย็นก็กลับบ้าน  เวลานี้ที่บ้านก็คงจะเงียบเหงาพิลึก  อ้อ ไม่ต้องสงสารผมนะ  ยอดชาย(?)นายลู่คนนี้ไม่ได้เหงาเลยจริงๆ
     

    นั่งตากแอร์สบายอารมณ์ได้ไม่นาน  สายตาของผมก็สะดุดกับร่างเล็กของแบคฮยอนที่กำลังยืนอยู่กับผู้หญิงคนนึง  คงเป็นพี่ฮารา  แฟนสาวของแบคฮยอนล่ะมั้งครับ  เห็นออกไปด้วยกันตอนหลังเลิกเรียน  ผมก็ไม่เข้าใจหรอกนะว่าทำไมพี่เค้าถึงมาคบกับผู้ชายที่ส่วนสูงพอ ๆ กัน 

     

    แถมน่ารักพอ ๆ กันด้วย  =____=

     

    ผมไม่ได้ตั้งใจจะมองหรอกนะ

     

    แต่ภาพที่แบคฮยอนเอื้อมมือไปปัดปอยผมให้พี่ฮาราอย่างแผ่วเบานี่มัน

     

    ละมุนเป็นบ้า!

     

    แบคฮยอน  เด็กเนิร์ดดีกรีที่หนึ่งของสายชั้นห้าปีซ้อน  ก็มีมุมโรแมนติกกับเค้าเหมือนกัน  ไม่อยากจะเชื่อ!

     

                  พี่สาวคนสวยส่งยิ้มหวานหยดให้  แบคฮยอนยิ้มตอบ

     

    ตอนยิ้มนี่ดูดีจริงๆ นะ  ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมถึงชอบทำหน้านิ่งตลอดเวลา

     

    ทั้งสองคุยกันอยู่ซักพักก็หัวเราะออกมาพร้อมๆ กันแบคฮยอนดูผ่อนคลายมากเวลาอยู่กับแฟน  คงเพราะพี่ฮาราเป็นผู้หญิงที่ดูสดใส  แค่เห็นหน้าก็ยิ้มตามได้ง่ายๆ

     

    ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่

     

    อิจฉาอ่ะอิจฉาคนมีแฟนอ่ะ

     

    ถ้าสวรรค์ยังใจดี  ผมขอแฟนแบบพี่ฮาราซักคนได้มั้ยครับ….

     

     

     

     

     

     

     

     

    เอ่อแบบคริสก็ได้นะ  ผมเว้นไว้ให้คนนึง

     





    ________________________
    เค้ามาต่อแล้วน้า  ไม่รู้มีใครรอรึเปล่า 555
    ตอนนี้ไม่มีอะไรเลย  พี่ลู่ก็ยังรั่วเหมือนเดิม  พี่คริสก็ยังนิ่งเหมือนเดิม
    ตอนหน้าไคฮุนแบคกำลังจะมาค่ะ > < *แอบสปอย*

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×