คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Chapter 1 แรกพบสบตา
“นี่เธอ เธอว่าโรงเรียนเราใครหล่อสุดอ่ะ” เด็กสาวมัธยมปลายถามเพื่อนในกลุ่ม
“เอาเกรดไหนละแก โรงเรียนเราคนหล่อไม่ใช่น้อยๆ”
“แต่ถ้าเกรดสิบเอ็ดก็ต้องน้องแอลอยู่แล้ว ถ้าน่ารักน่ากินก็ต้องคู่แฝดยองมินกับกวังมิน ส่วนเกรดสิบสอง…”
“ฉันว่าฉันยกให้ลู่หานนะแก > <!!”
“คนอะไรไม่รู้เนอะ หล่อมาดแมนแฮนซั่มที่สุด”
“แล้วยิ่งตอนเตะบอลแล้วโชกไปด้วยเหงื่อนะ เท่อย่าบอกใคร”
“โคตรเพอร์เฟ็คอ่ะ รูปหล่อพ่อรวย ร้องเพลงเพราะ แถมเรียนดีติดท็อปไฟว์อีกอ่ะ”
“พูดแล้วอยากได้มาเป็นพ่อของลูกเลยอ่ะแก”
…
…
…
!!!
ฮึ้ย
ไอ้ที่พล่ามมาทั้งหมดน่ะเป็นจินตนาการของผมล้วนๆ และคงไม่มีทางเป็นไปได้เพราะผมอยู่โรงเรียนชายล้วนไม่มีผู้หญิง บทสนทนาที่แท้จริงน่ะ มันเป็นแบบนี้ต่างหาก
“เฮ้ยมึง มึงว่าโรงเรียนเราใครสวยสุดอ่ะ” เด็กหนุ่มมัธยมปลายถามเพื่อนในกลุ่ม
“เอาเกรดไหนวะมึง โรงเรียนเราคนสวยไม่ใช่น้อยๆ”
“แต่ถ้าเกรดสิบเอ็ดก็ต้องน้องเร็นอยู่แล้ว ถ้าน่ารักน่ากินก็ต้องน้องแทมิน ส่วนเกรดสิบสอง…”
“กูว่ากูยกให้ควีนลู่หานว่ะมึง > <!!”
“คนอะไรไม่รู้เนอะ สวยหวานอย่างกับนางฟ้า ตอนตกลงมาจากสวรรค์คงเจ็บน่าดู”
“แล้วยิ่งตอนเตะบอลแล้วโชกไปด้วยเหงื่อนะ เซ็กซี่อย่าบอกใคร”
“โคตรเพอร์เฟ็ค สวยใสไร้เสียงสา บ้านรวย ร้องเพลงเพราะ แถมเรียนดีติดท็อปไฟว์อีกอ่ะ”
“พูดแล้วอยากได้มาเป็นแม่ของลูกเลยว่ะมึง”
“ไม่น่ารีบมีแฟนเลย”
“แต่ควีนเข้าใจเลือกนะเว้ย ก็โอเซฮุนอ่ะ โคตรหล่อโคตรรวย อย่างเราจะเอาอะไรไปสู้ว้า”
ก็เพราะบทสนทนาเกี่ยวกับตัวผมมันเป็นแบบนี้ไปซะหมดไง! ผมถึงต้องนั่งมโนเอาเองว่ามีสาวๆ มากรี๊ดผม ไม่ใช่ผู้ชายหุ่นล่ำบึกแบบนี้! ผมสวยตรงไหนไม่ทราบครับ? ถึงได้ออกอาการเครซี่ผมขนาดนี้ ผมไม่ได้เตี้ย ส่วนสูงก็เกือบร้อยแปดสิบ หน้าผมก็หล่อสวรรค์สร้างขนาดนี้ ผมเคยเล่นฟุตบอลโชว์ความแมนด้วยนะ ไม่ได้นั่งเย็บปักถักร้อยแบบพวกผู้หญิงซักหน่อย แล้วอันสุดท้ายยิ่งไม่ใช่ใหญ่เลย
ผมไม่ได้เป็นแฟนกับเซฮุน!! เราเป็นเพื่อนสนิทที่โตมาด้วยกันต่างหาก แต่พูดไปก็ไม่เคยมีใครเชื่อ ทำไมอ่ะ ก็แค่นั่งเรียนข้างกัน กินข้าวด้วยกัน ไปไหนมาไหนด้วยกัน โทรหาคุยกันทุกคืน แค่นี้เอง ชวนให้เข้าใจผิดตรงไหน?
ทุกวันนี้ผมเลยไม่มีแฟนเพราะกระแสฮุนฮานมันแพร่กระจายไปทั่ว ผมเดินไปทางไหนก็มีแต่ผู้หญิงมองผมด้วยความเสียดายทั้งนั้น อยากจะเดินเข้าไปบอกเหลือเกินว่า “คุณครับ จีบได้ ผมโสด” แต่ถึงพูดไปก็ไม่มีใครเชื่ออยู่ดี ป่วยการจะอธิบาย อีกอย่างอยู่แบบนี้ก็มีความสุข ไม่วุ่นวายดี
“ควีนครับ อาจารย์เรียกให้ไปหาที่ห้องน่ะ”
“ก็บอกว่าฉันแมนไง เลิกเรียกฉันว่าควีนซักทีเถอะ ฟังแล้วขนลุกเป็นบ้า!!”
ถ้าไม่ใช่เพราะถูกจับส่งเข้าประกวดควีนออฟเซคังบ้าบออะไรนั่น ผมก็คงไม่ต้องมาทนกับฉายาประหลาดๆ แบบนี้หรอก!! ทำไมน้องเร็นไม่ลงประกวด ทำไมน้องแทมินต้องมาป่วย ทำไมน้องคีย์ต้องไปต่างประเทศ! ทำไมคนน่ารักๆ ถึงพากันหายไปหมดตอนประกวด ทำไมถึงทิ้งให้ผมเผชิญหน้ากับชะตากรรมอันเลวร้ายแบบนี้คนเดียว ผมอยากเป็นคิง ผมแมน ผมคือลู่หานศิษย์แมนยูเชียวนะ!
ผมเดินเข้าไปในห้องพักอาจารย์ ไม่มีอะไรมากหรอกครับ พอดีผมเป็นศิษย์คนโปรด อาจารย์เลยให้ผมไปช่วยยกของบ่อยๆ
ไม่เป็นได้มั้ย ศิษย์คนโปรดเนี่ย!
“ครูฝากหอบชีทนี่ไปให้เพื่อนๆ ด้วยนะจ๊ะลู่หาน ตอนบ่ายครูต้องไปประชุม”
“ได้ครับ” ผมตอบรับอย่างสุภาพ เรื่องสร้างภาพต่อหน้าผู้ใหญ่นี่ผมถนัด
“ทำหน้ายุ่งอีกแล้ว เป็นอะไรรึเปล่าเสี่ยวลู่” เซฮุนเอ่ยถามผมขณะที่เรากำลังเก็บของลงกระเป๋าเพราะเลิกเรียนแล้ว
“เปล่าหรอก ไปกินชานมกันนะเซฮุน”
“อือ ไปสิ ฉันก็มีเรื่องจะคุยกับนายเหมือนกัน”
ผมยิ้มกว้าง ชอบที่สุดเลยเวลามีคนตามใจเนี่ย ผมยกมือขึ้นพาดคอเซฮุน ส่วนสูงที่ต่างกันไม่กี่เซนไม่ใช่ปัญหา
เห็นมั้ย พวกผมเป็นเพื่อนกันจริงๆ กอดคอกันแบบแมนๆ เหมือนผู้ชายทั่วไป ไว้ถ้าเราจับมือกันมุ้งมิ้งเป็นสาวน้อยเมื่อไหร่ ค่อยมาบอกว่าผมไม่แมน!
ตอนนี้เรานั่งอยู่ในร้านชานมสุดหรูที่ชอบมากินด้วยกันบ่อยๆ บรรยากาศดี เป็นส่วนตัว แต่แพง เอาเถอะ นั่นไม่ใช่ปัญหาเท่าไหร่
“มีเรื่องอะไรจะคุยด้วยเหรอ”
“คือ ฉัน…” เซฮุนก้มหน้า หน้าขาวๆ นั้นแดงเถือกไปถึงหู
เซฮุนแตกต่างจากผมอยู่อย่างนึงคือผมค่อนข้างจะเก็บอารมณ์เก่งกว่า หน้าหนากว่า แมนกว่า(อันนี้คิดเองเออเอง) อาจจะเพราะผมชินที่โดนแซวมาเกือบทั้งชีวิต เพราะงั้นเรื่องหน้าแดงแบบที่เซฮุนเป็นตอนนี้แทบจะไม่เคยเกิดขึ้นกับผมเลย ยกเว้นว่าจะพีคจริงๆ
แต่เพื่อนผมแมนจริงๆ นะ การันตีได้จากกล้ามแขนน่ากัดนั่น
“ฉันให้เวลานายเรียบเรียงคำพูดก่อนแล้วกัน ฉันจะไปสั่งเค้กเพิ่ม” ผมเริ่มรำคาญ เมื่อเซฮุนมัวแต่อึกอักไม่ยอมพูดซักที
“อือ” รับคำแล้วกลอกตามองเพดานเหมือนกำลังขอความช่วยเหลือจากยานแม่ยังไงไม่รู้ =____=
ผมเดินออกมาที่เคาเตอร์ แล้วยืนเลือกเค้กน่าตาหน้ากินที่ตั้งอยู่ในตู้โชว์
แพงอ่ะ… T^T
แต่เพราะอยากกินมาตั้งแต่เมื่อวาน ผมเลยเดินไปสั่งพนักงาน แต่แล้วก็ต้องชะงัก…
เพราะร่างสูงตรงหน้าตรึงสายตาผมเอาไว้…
“เอาชานมรสสตรอเบอร์รี่ ใส่ไข่มุกเยอะๆ แล้วก็เค้กช็อกโกแลตอีกสองชิ้น”
ผมเหมือนต้องมนต์สะกด สาบานได้เลยว่าตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยคิดว่ามีใครหล่อกว่าตัวเอง แต่เมื่อได้เจอคนตรงหน้า ผมก็เปลี่ยนความคิดตัวเองแทบไม่ทัน ใบหน้าเนียนใส ตาคมดุ จมูกโด่งเหมือนมีเชื้อสายมาจากทางยุโรป ริมฝีปากบางสีสด ผมสีบรอนซ์ทองถูกเซตขึ้นไปเป็นทรง รวมองค์ประกอบของใบหน้าแล้วเหมือนรูปปั้นเทพเจ้ากรีกในพิพิธภัณฑ์ ร่างสูงอยู่ในชุดเสื้อเชิร์ตสีขาว กับกางเกงยีนส์แบรนด์ดังแพงหูดับตับไหม้ สะพายกระเป๋า MCM ส่วนสร้อย แหวน และนาฬิกา เป็นแบรนด์ Chrome Heart ที่รวมราคาแล้วซื้อบ้านได้เป็นหลัง
ไม่ว่ามองมุมไหนก็ดูดีไปหมด
แว๊บหนึ่งที่เค้าหันมา เราก็เผลอสบตากันแบบไม่ได้ตั้งใจ
…
…
…
และวินาทีนั้นก็เหมือนโลกทั้งโลกหยุดหมุน
ใครว่าดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ ผมว่าไม่จริง เพราะผมอ่านแววตาคู่นั้นไม่ออกเลย…
ผมเป็นฝ่ายที่รู้สึกตัวก่อน เลยแสร้งสั่งเค้กกลบเกลื่อน ไม่อยากเค้ารู้ตัว มันคงดูแปลกๆ ถ้ามีผู้ชายแอบมอง ส่วนเค้าก็เดินไปนั่งเงียบๆ ที่มุมหนึ่งของร้าน
ไม่เข้าใจเลยว่าหัวใจนี่จะเต้นตุบๆ อะไรนักหนา เต้นแรงจนผมกลัวเค้าได้ยิน น่าอายชะมัด
ผมเดินไปนั่งกับเซฮุนแบบคนจิตไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ดวงตาโฟกัสแต่ร่างสูงที่นั่งหล่อไม่แคร์โลกอยู่อีกฝั่ง
ทำไมผมถึงเป็นแบบนี้! ลางสังหรณ์ไม่ค่อยดี ทำไม่รู้สึกว่าความแมนที่รักษามานานกำลังสั่นคลอน!
“ทำไมถึงเอาแต่จ้องคริสแบบนั้น”
“คริส?”
“ก็คริสไง คนนั้นน่ะ ย้ายมาจากแคนาดาเมื่อปีที่แล้วอยู่โรงเรียนละแวกเดียวกับเรานี่แหละ ฮอตจะตายไม่รู้จักได้ไง”
“ฉันต้องรู้จักผู้ชายทุกคนที่หล่อกว่าฉันรึไง” ผมเบ้ปาก “ว่าแต่นายมีเรื่องอะไร”
“เฮ้อ พูดไปอย่าตกใจนะ”
“เห็นฉันขวัญอ่อนมากเหรอ” ผมย้อน ก้มลงดูดชานม มองหน้าเซฮุนแบบคาดคั้น
…
…
…
“คือจริงๆ แล้วฉันชอบจงอินน่ะ…”
แค่ก ๆ
ผมสำลักชานมแบบหมดมาดผู้ดี
โอเซฮุนชอบคิมจงอิน ไม่จริงน่า ผู้ชายที่มีแต่ผู้หญิงเข้าหาแบบเซฮุนเนี่ยนะ
เป็นไปไม่ได้! ลู่หานไม่เชื่อเด็ดขาด!
“เมื่อกี้นายว่ายังไงนะ” ผมถามย้ำ นึกในใจว่าตัวเองคงฟังผิด
“ก็ชอบจงอินไง ให้พูดซ้ำทำไมเนี่ย เขินเข้าใจป่ะ” หน้าขาวๆ ที่ขึ้นสีแดงเรื่อๆ นั้นเป็นหลักฐานได้อย่างดีว่าเจ้าตัวไม่ได้โกหก
“บ้าที่สุดเลยเซฮุน นายโดน ‘ความมืด’ ครอบงำตั้งแต่เมื่อไหร่?!”
“ก็ซักพัก”
“แล้วซักพักของนายมันเมื่อไหร่ล่ะ”
“ก็ตั้งแต่เกรดสิบ”
เกรดสิบ เกรดสิบเอ็ด เกรดสิบสอง รวมสามปี! บ้านนายเรียกสามปีว่าซักพักเหรอ!?
“ตอนที่ฉันไปแลกเปลี่ยนที่อังกฤษใช่มั้ย”
กำลังสงสัยใช่มั้ยครับว่าคิมจงอินมันเป็นใคร?
คิมจงอินเป็นผู้ชายตัวสูง หน้าหล่อ ผิวสีแทนสวย จนทั้งผู้หญิงและผู้ชายลงความเห็นว่าเซ็กซี่สุดๆ ไม่ได้เจ้าชู้แต่ก็มีผู้หญิงมาให้ควงไม่เคยขาด และที่สำคัญมันเป็นคนช่วงชิงตำแหน่งที่ผมอยากได้ไป ตำแหน่งคิงออฟเซคัง มันสมควรเป็นของลู่หานคนแมนคนนี้ ไม่ใช่มัน ฮือ TT
ผมจำได้ว่าเซฮุนเคยสนิทกับจงอินมากอยู่ช่วงนึง แต่พอผมกลับมาเซฮุนก็กลับมาตัวติดกลับผมเหมือนเดิม ผมก็สนิทกับจงอินด้วยเหมือนกัน แต่เพราะจงอินย้ายห้อง เราเลยไม่ค่อยได้คุยกัน
“อือ” เซฮุนก้มหน้า
ไม่นะเซฮุน เงยหน้าขึ้นมามองฉัน
อย่าทำให้ฉันผิดหวัง
ฉันคิดว่านายเมะมาตลอดนะ!
“เฮ้อ แล้วจะให้ฉันช่วยยังไง” ผมทำลายความเงียบ เซฮุนเอาแต่ก้มหน้าไม่ยอมมองผม “เงยหน้าขึ้นมา อย่าทำตัวเหมือนเด็กกลัวความผิดแบบนั้น”
“นายไม่โกรธ?”
“จะโกรธทำไม ก็ชีวิตมันเป็นของนาย ไม่ว่านายจะชอบใคร นายก็ยังเป็นเพื่อนฉันอยู่ดี”
“โหย ซึ้งงงงงงงงง”
“ล้อทำไม เดี๋ยวเหอะ ว่าแต่ทำไมต้องเป็นจงอินอ่ะ”
“แล้วจงอินไม่ดีตรงไหน”
“ดำ” คำเดียว ชัดเจน
“เค้าเรียกว่าผิวสีแทน เซ็กซี่จะตาย”
“ไม่ทันไรก็ออกรับแทนกันซะละ” ผมยิ้มล้อ “ถามจริงนะ จริงจังเหรอ”
“ถ้าไม่จริงจังก็คงไม่กล้าบอกนายหรอก ลู่หาน” เมื่อเห็นแววตาที่บ่งบอกว่าไม่ได้ล้อเล่นแบบนั้น ผมก็ถอนหายใจออกมาแรงๆ
“ตอนนี้ฉันคิดอะไรไม่ออกจริงๆ สงสัยเราต้องถามผู้รู้”
“ใคร?” เซฮุนขมวดคิ้ว
“แฟนพี่ชายฉัน พี่ฮีชอล เจ้าแม่เคะแห่งวงการ” แค่ได้ยินชื่อนี้ เซฮุนก็เบิกตากว้างอย่างหวาดกลัว
“แต่ฉันไม่ได้อยากเคะนะ!” แล้วประท้วงทันที
“หุบปากไปเลย เจ้าเด็กบ้า อย่างแกจะไปรุกใครได้นอกจากลู่หาน!!” เสียงเจ๊ฮีชอลแหวมาตามสายโทรศัพท์ เสียงดังจนผมถอดเอียร์โฟนออกจากหูแทบไม่ทัน
“โหย พี่อ่ะ”
“เชื่อฉันเถอะ แกรุกจงอินเนี่ยนะ ไม่รุ่งอ่ะ”
“เรื่องเมะเรื่องเคะนี่เอาไว้ปรึกษากันตอนบนเตียงเถอะ เอาเป็นว่าทำยังไงให้เซฮุนสมหวังอ่ะ เอาแผนแจ่มๆ นะเจ๊” ผมขัด
“แกบอกว่าเคยสนิทกันมากๆ เลยเหรอ แสดงว่าต้องแคร์กันมากใช่ป่ะ”
“ก็ …คงงั้นมั้งครับ”
“งั้นไม่ยาก พวกนายก็แยกกันซักพักแบบสร้างข่าวว่าทะเลาะอะไรกันก็ได้ แล้วก็ให้เซฮุนไปอยู่กับจงอิน”
“เฮ้ย แล้วผมล่ะเจ๊ ผมมีเพื่อนคนเดียว” ผมรีบประท้วงทันที เรื่องอะไรผมจะต้องแยกกับเซฮุน เราตัวติดกันเกือบตลอดเวลา ถ้าขาดเซฮุนไป ผมจะมีชีวิตอยู่ยังไง?
“เข้าใจว่าแยกกันซักพักมั้ยลู่หาน” ช่างเป็นว่าที่พี่สะใภ้ที่โหดอะไรแบบนี้นะ TT
“แล้วจะให้ทะเลาะกันเรื่องอะไรล่ะครับ ผมกับลู่หานไม่เคยไม่พอใจกันด้วยซ้ำ” ใช่ เราเข้ากันได้ดีจนไม่เคยทะเลาะกัน ไม่เคยงอน แทบไม่เคยขัดแย้งอะไรกันเลยก็ว่าได้
“ทำไมต้องให้ฉันคิดให้ทุกอย่างเลยนะ”
“ก็เจ๊ฉลาด”
“แล้วพวกแกโง่รึไง!” เจอแบบนี้มันเจ็บ TT “คู่ของแกสองคนเรียกว่าอะไรนะ ฮุนฮานป่ะ เออ เอาแบบนี้นะเซฮุน แกก็แอ๊บๆ บอกจงอินไปว่าแกชอบลู่หาน แต่ลู่หานไปชอบคนอื่น แกเลยอยากห่างๆ กันซักพัก อยู่ในช่วงระยะทำใจอะไรก็ว่าไป สุดแล้วแต่จะแถ แค่นี้ก่อนนะ ฉันต้องไปวอร์ดเด็กแล้ว โอ้ย! เด็กพวกนี้ร้องอะไรกันนักหนามันน่าจับหักคอให้หมด” น่าสงสารเด็กนะครับ เจ๊ฮีชอลตอนโมโห ไม่ใช่ภาพที่น่าประทับใจเลย แค่คิดก็ฝันร้าย TT
“ครับพี่ ขอบคุณนะครับ”
ปลายสายตัดไปแล้ว ผมมองหน้าเซฮุนเป็นเชิงถามว่าจะเอายังไงต่อไป
“งั้นก็เริ่มทะเลาะเลยแล้วกัน”
เฮ้ยยยยยย ให้ฉันตั้งตัวก่อนนนนนนนนน!!!
ผมกลับถึงบ้านตอนหนึ่งทุ่ม คฤหาสน์หลังใหญ่เงียบเชียบจนเหมือนไร้วี่แววของสิ่งมีชีวิต ทำยังไงก็ไม่ชินซักที มันกว้างเกินกว่าจะอยู่คนเดียว อย่ามองผมแบบนั้น ผมไม่ใช่เด็กขาดความอบอุ่นหรอกนะ เราจะครึกครื้นเฉพาะวันศุกร์ วันนั้นจะเป็นวันที่ พ่อ แม่ พี่ฮันเกิง พี่ฮีชอล และผมได้กินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตา ไม่ว่าจะยุ่งแค่ไหน ทุกคนก็จะต้องมาให้ได้ นั่นหมายความว่าพ่อกับแม่แคร์ผมมาก ไม่อยากให้ผมเหงา ไม่อยากให้ผมรู้สึกว่าถูกทอดทิ้ง ผมได้รับความรักและความอบอุ่นมากพอ ผมถึงไม่จัดตัวเองไปอยู่ในกลุ่มเด็กมีปัญหา
จริงๆ ผมอยู่กับพี่ฮีชอลอีกคน ที่ผมว่าพี่ฮีชอลเป็นว่าที่พี่สะใภ้ อันนั้นเรื่องจริง พี่ฮีชอลกับพี่ฮันเกิงหมั้นหมายกันแล้ว แล้วทางผู้ใหญ่ก็ให้ย้ายเข้ามาอยู่บ้านผมแล้วด้วย เหลือแค่รอเวลาให้พี่ฮีชอลเรียนจบ ถึงจะจัดงานแต่งงาน แต่วันนี้พี่เค้าคงไม่กลับ ชีวิตนักเรียนแพทย์นั้นไม่ง่ายเลย…
ผมอาบน้ำแต่งตัว ทำการบ้านและทบทวนบทเรียน คว้าแก้วนมมาดื่มด้วยความหวังว่าอยากสูงขึ้นกว่านี้อีกซักสามสี่เซ็น จากนั้นก็ล้มตัวลงนอนกับเตียงคิงไซส์นุ่มสบายที่สุดในสามโลก คว้าตุ๊กตาคิตตี้มากอด(ไหนใครบอกว่าตัวเองแมน?) แล้วหลับตาลง
พรุ่งนี้มีอะไรต้องทำอีกเยอะ
ต้องนอนพักเอาแรง เพราะพรุ่งนี้มีควิซ
ถ้าไม่รีบนอนจะเบลอ เรียนไม่รู้เรื่อง
ได้เวลานอนแล้ว
ใช่ ผมควรจะนอนซักที
…
…
…
…
ผมคว้าไอโฟนมาดู ตอนนี้ตีสามแล้ว แต่ผมไม่สามารถหลับตาลงได้!!
ทุกครั้งที่หลับตา ภาพใบหน้าหล่อเหลานั้นก็เข้ามาวนเวียนในหัวผมไม่หยุด ผมจำช่วงเวลาที่เราสบตากันได้อย่างแจ่มชัด วินาทีที่ทุกอย่างดูเบลอๆ สูญเสียการควบคุมไม่เป็นตัวของตัวเอง วินาทีที่ผมรู้สึกว่าตัวเองเป็นน้ำแข็งขั้วโลกที่ถูกพระอาทิตย์แผดเผา จนแทบจะละลายลงไปตรงนั้นเสียให้ได้
นึกขึ้นทีไรก้อนเนื้อในอกมันก็เต้นแรงไม่หยุด ผมได้ยินเสียงตุบๆ เสียงดังน่ารำคาญจนนอนไม่ได้
ขอร้องเถอะ ออกไปจากหัวของฉันได้แล้วคริส!!
____________________________________________
ลงตอนแรกแล้ว > <
เพิ่งเขียนเรื่องนี้เป็นเรื่องแรก ไม่ดียังไงติชมได้นะคะ ^______^
ความคิดเห็น