คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : Chapter 8 ลิเวอร์พูล Vs แมนยู
Sehun’s Side
ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าแบคฮยอนเข้ามามีบทบาทในชีวิตผมมากขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ เรานั่งติวหนังสือด้วยกันทุกเย็น ทะเลาะกันได้ตลอดเวลา เถียงกันด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง และแบคฮยอนยังพ่วงตำแหน่งที่ปรึกษาเรื่องจงอินให้ผมด้วย
อาจจะเพราะพักนี้ลู่หานอยู่ในช่วงอินเลิฟกับคริส ถึงเจ้าตัวจะปฏิเสธเป็นล้านครั้ง ผมก็ไม่เชื่อหรอก แค่เห็นภาพบรรยากาศสีชมพูวิ้งๆ ในร้านชานมไข่มุกทุกวันในไทม์ไลน์ ผมก็รู้แล้วว่ามีอะไรเปลี่ยนไป
แล้วยังจะมีหน้ามาปฏิเสธอีกนะว่าไม่ได้เป็นอะไรกัน!
ส่วนเจ๊ฮีชอล เจ้าของแผนการ ตอนนี้บินไปฮันนีมูนกับเฮียฮันเกิงที่บาหลีแล้วครับ ไม่รู้จะฮันนีมูนอะไรกันทุกเดือน อยากจะบ้า =____=!!
“เซฮุน ขอน้ำหน่อย” จงอินวิ่งเข้ามาหาผมกับแบคฮยอนที่นั่งดูบาสกันอยู่ข้างสนาม ผมยื่นขวดน้ำให้ เจ้าตัวรับไปแล้วดื่มเสียงดังอึ๊กๆ กระหายอย่างกับไม่ได้กินน้ำมาสิบชาติ แถมเทราดหัวตัวเองแล้วสะบัดไปมาอีกต่างหาก
แต่ก็ดูเซ็กซี่ไม่เบาเลยล่ะ…
“ซับหน้าให้เค้าหน่อยดิตัวเอง” จงอินอ้อนด้วยน้ำเสียงตอแหลที่สุดเท่าที่ผมเคยได้ยิน แต่ผมก็ยอมซับหน้าให้โดยดี
“ฮิ้วววววววววววว” ไอ้คู่หูเสาไฟฟ้า(ชานยอล)กับหลักกิโล(จงแด) นี่ก็ขยันแซวกันจริง มึงคิดว่ากูชอบเหรอ?
เออ กูชอบบบบบบ แซวอีกกกกกก แซวเยอะๆ เลย กร๊ากกกกกก
“เดี๋ยวเหอะพวกมึง” ผมชี้หน้าคู่หูต่างความสูงอย่างคาดโทษ จงอินหัวเราะหึๆ ในลำคอ มองผมด้วยสายตาวิบวับจนผมต้องเสหน้ามองไปทางอื่นด้วยความเขิน
ข้อเสียของการเกิดเป็นคนผิวขาว คือเวลาที่หน้าแดงมันจะเห็นชัด แล้วตอนนี้ผมก็ชักจะเกลียดผิวขาวๆ ของตัวเอง เพราะมันซ่อนความรู้สึกไม่ได้เลย
โดยเฉพาะเวลาอยู่ต่อหน้าไอ้ดำจงอินแล้วด้วย มันห้ามไม่ได้จริง >////<
“พวกมึงแซวทำไมกันครับ ไม่เห็นเหรอว่าเซฮุนของกูหน้าแดงไปถึงหูแล้ว”
เออ!! ถนัดนักนะเรื่องทำให้ผมเขินเนี่ยยยยยยย!! ไอ้หน้านี่ก็ขยันร้อนจริงๆ ตัดทิ้งเลยดีมั้ย =____=!!
ก็อย่างที่บอก นอกจากผมกับแบคฮยอนจะขยับสถานะจากเพื่อนร่วมห้องมาเป็นเพื่อนสนิทแล้วความสัมพันธ์ของผมกับจงอินก็ดูพัฒนาไปด้วยเช่นกัน สังเกตได้จากคำพูดเลี่ยนๆ ที่มันชอบพูดกับผม
“แบคครับ ซับเหงื่อให้ชานบ้างดิ” และนี่เป็นอีกคู่หนึ่งที่กำลังพยายามแย่งซีนผมอยู่
แบคฮยอนกลอกตาเนือยๆ
“ฉันไปก่อนนะ มีนัดดูหนังกับพี่ฮารา” ลาผมแล้วก็คว้ากระเป๋าไปเลย
ทิ้งให้ไอ้เอ๋อชานยอลของพวกเรายืนหูลู่หางตกเป็นหมาหงอย
“ไม่เป็นไรนะมึง มึงยังมีกูอยู่ทั้งคน” จงแดตบไหล่ชานยอลเป็นเชิงปลอบใจ
“ขอโทษนะมึง เห็นแบบนี้กูก็เลือกว่ะ” แต่ดูเหมือนว่าชานยอลจะแปลความหมายผิดไปมหาศาล เอ๋อสมชื่อจริงๆ =______=
“ไอ้…” จงแดถึงกับด่าไม่ออก
“พี่ฮารา แม่ง มีดีกว่ากูตรงไหนวะ” คนตัวสูงบ่นอย่างน้อยอกน้อยใจ ถ้าจะบอกว่าน่ารักก็คงจะฟังดูประหลาดๆ เพราะเจ้าตัวมันสูงเกือบสองเมตร
“ไม่ได้ดีกว่ามึงตรงไหนหรอก ก็แค่อย่างแรกคือพี่เค้าสวย อย่างที่สองคือสวยมาก อย่างสุดท้ายคือสวยโคตร ไม่ได้มีดีกว่ามึงตรงไหนเลยไอ้เอ๋อ” จงอินตอกย้ำ แล้วหัวเราะเยาะเย้ยอย่างเปิดเผย
ไอ้ดำมันเป็นเพื่อนที่ดีนะครับ ว่ามั้ย =_____=?
เหมือนมันจะรู้ตัวด้วยนะว่าผมแอบนินทามันในใจ เลยบีบจมูกผมแรงๆ ทีนึง ดั้งหักมานี่เรื่องใหญ่นะครับ!
แต่ว่า…บีบจมูกเหรอ มุ้งมิ้งเป็นบ้า!
“แม่ง งั้นกูแต่งหญิงเลยดีป่ะวะ ถึงตัวจะสูง เสียงจะใหญ่ แต่มั่นใจว่าน่ารักนะเว้ย”
“อย่าเหอะมึง แค่คิดกูก็สยองแล้ว” เออ อย่าเหอะมึง กูก็กลัววววววววว
“สาดดดดดดด” แล้วพวกผมสามคนก็โดนชานยอลสาดอย่างถ้วนหน้า ฮ่าๆ ๆ
วันนี้ผมกลับถึงบ้านตอนหนึ่งทุ่มตรง หลังจากทำลาซานญ่าไปวันนั้นก็ไม่เคยทำอะไรอร่อยอีกเลย ผมเลยคิดว่าต่อไปนี้กินข้าวนอกบ้านดีกว่า จะได้ไม่ต้องเสี่ยงตายกับอาหารที่ตัวเองทำ
ผมหอบหิ้วถุงขนมถุงใหญ่ พร้อมด้วยเสบียงอีกหลายอย่างอย่างทุลักทุเล พอดีวันนี้มีแข่งนัดสำคัญของลิเวอร์พูลกับแมนยูครับ พูดไปแล้วก็คิดถึงลู่หาน เคยนั่งดูบอลด้วยกันทุกนัด แล้วก็ตื่นไปเรียนสายด้วยกัน ถ้าแอบย่องไปหาลู่หานที่บ้านจงอินมันจะรู้มั้ยนะ เอาเหอะ ไม่เสี่ยงดีกว่า ไว้ถ้านัดนี้ลิเวอร์พูลชนะ ค่อยโทรไปเย้ยแล้วกัน
ฟังดูเป็นเพื่อนเลวยังไงไม่รู้ ว่ามั้ยครับ =____=
“อ้าว แบคฮยอน มาทำอะไร” ผมเอ่ยทักทันทีเมื่อเห็นเพื่อนตัวเล็กมายืนด้อมๆ มองๆ อยู่หน้าบ้าน
“คิดถึง” ผมว่าไม่ใช่เหตุผลนี้นะ มันฟังดูพิลึกเกินไปสำหรับคนอย่างแบคฮยอน
“เอาดีๆ”
“เหงา” อันนี้ก็ยังไม่ใช่
“เอาความจริง”
“เบื่อ” โป๊ะเช๊ะ! อันนี้แหละเหตุผลที่แท้จริง
“ดูบอลกันมั้ยล่ะ เชียร์ทีมไหน”
“แมนยู”
“นายกลับบ้านไปเลยไป =_____=” น่าส่งไปอยู่กับลู่หานจริงๆ แต่รายนั้นเข้าขั้นเทิดทูนบูชายิ่งชีพ อย่าได้ไปแตะ แหย่เรื่องอะไรก็แหย่ได้ แต่มาว่าแมนยูอ่อน ลู่หานไม่ยอม อะไรประมาณนั้นอ่ะครับ
“แตกต่างแต่ไม่แตกแยกนะเซฮุน”
“ไม่ต้องอ้างแล้ว เข้าบ้านเถอะ ยุงเยอะ” ผมเปิดประตู “ดูหนังกับพี่ฮาราเป็นยังไงบ้าง”
“ก็ดี”
“ไม่น่าเชื่อเลยว่านายจะมีแฟนสวยขนาดนั้น”
“อิจฉาเหรอ” นั่น รู้ทันอีกนะ “ฉันนึกว่าคนที่ตกอยู่ในสภาวะโดน ‘ความมืด’ เข้าครอบงำอย่างนาย จะไม่สนใจผู้หญิงสวยๆ ซะแล้ว”
“ปากเหรอที่พูดน่ะ”
“ก็ปากสิ แค่เคยลองแตะแล้วไม่ใช่เหรอ” หน้าผมร้อนวาบขึ้นมาทันที ผิดกับคนพูดที่ยังทำหน้าเฉยไม่รู้ร้อนรู้หนาว
“หิวรึเปล่า” ผมเปลี่ยนเรื่อง
“นายจะทำให้กินเหรอ”
“เปล่า จะบอกว่ามีมาม่าอยู่ในตู้ ถ้าหิวก็ต้มกินเอง”
ผมรู้ตัวว่าตัวเองเป็นคนดี ไม่ต้องชมนะครับ 555
เสียงนาฬิกาปลุกดังมาจากไอโฟนสีขาวบนหัวเตียง ผมตั้งเวลาไว้เองแหละ ต้องนอนพักเอาแรงไว้ดูบอล ตอนนี้ก็ใกล้เวลาแล้วด้วย ผมหันไปมองแบคฮยอนที่นอนอยู่ข้างๆ
ร่างบางนอนคุดคู้อยู่บนเตียง ดูหลับสบายจนผมไม่กล้าปลุก ใบหน้าเนียนใสไร้แว่นอันใหญ่ปิดบัง ไม่ว่าจะมองกี่ครั้ง ก็ยังไม่เบื่อซักที
“เซฮุน” ผมสะดุ้งสุดตัว เมื่อจู่ๆ แบคฮยอนก็ลืมตาขึ้นมาอย่างไม่บอกไม่กล่าว
“อะ..อะไร” ผมตอบตะกุกตะกัก
“ไม่ต้องมองใกล้ขนาดนั้นก็ได้ ฉันอายสิว”
“แต่นายไม่มีสิวนะ”
“งั้นก็ยอมรับแล้วสิว่ามองจริงๆ”
“ก็คงงั้น” นั่นแหละ ปฏิเสธไม่ได้นี่นา หลักฐานมัดตัว
“นายคิดจะบอกจงอินเมื่อไหร่” นี่เป็นสิ่งที่ผมถามตัวเองมาตลอดเหมือนกัน แต่ถ้าจะให้บอกว่าชอบมันตอนนี้ ผมว่าผมยังไม่พร้อมจริงๆ
“ฉันก็ไม่รู้”
“การรักและไม่ได้รับการรักตอบเป็นทุกข์ แต่สิ่งที่ทุกข์ยิ่งกว่าคือการรักใครซักคนแต่ไม่มีความกล้ามากพอที่จะบอกให้คนคนนั้นรับรู้ แล้วต้องมานั่งเสียใจทีหลัง”
“…” ผมเงียบไป
“ฉันจำมาจากหนังซักเรื่องน่ะ ไม่ได้คิดเองหรอก” ถึงบอกว่านายคิดเองฉันก็ไม่เชื่อหรอก หน้าตาไม่น่าคิดเรื่องโรแมนติกแบบนี้ได้
“ฉันแค่ยังไม่มั่นใจ นายก็เห็น… จงอินมันก็เล่นๆ แบบนี้กับทุกคน แค่เล่นกับฉันมากกว่าคนอื่นเท่านั้นเอง” ผมถอนหายใจแล้วบอกแบคฮยอนอย่างไม่ปิดบัง เพราะถึงโกหกไป แบคฮยอนก็มีวิธีง้างปากให้ผมพูดออกไปอยู่ดีนั่นแหละ
“งั้นถ้าเราเป็นฝ่ายทำให้จงอินสารภาพออกมาล่ะ แบบนั้นดีมั้ย” ดวงตาคู่สวยวิบวับเหมือนมีแผนการอยู่ในหัว แบคฮยอนนี่ยิ่งรู้จักยิ่งน่ากลัวขึ้นทุกวันนะ
“นายมีวิธี?” แต่ผมก็แอบสนใจอยู่เหมือนกันนั่นแหละ
“ไว้จะบอก”
“แล้วนายล่ะ”
“ฉันทำไม” คนตัวเล็กขมวดคิ้ว
“ไม่หวั่นไหวกับชานยอลบ้างเหรอ”
“เผื่อนายจะไม่รู้ ชานยอลจีบฉันมาตั้งแต่อยู่อนุบาล ถ้าจะหวั่นไหวก็คงจะหวั่นไหวไปนานแล้ว”
กูนับถือในความพยายามของมึงครับปาร์คชานยอล =[]=!!
“แล้วก็ เผื่อนายจะลืม ตอนนี้ฉันคบกับพี่ฮาราอยู่”
เออ ก็จริง =______=
ผมเดิมพันกับกับแบคฮยอนไว้ว่าถ้าลิเวอร์พูลชนะแบคฮยอนจะพาผมไปเลี้ยงฮ็อตพ็อต
แต่ถ้าแมนยูชนะ… ผมต้องตามใจแบคฮยอนหนึ่งอย่าง
เดิมพันกันแบบลูกผู้ชาย พูดแล้วไม่คืนคำ!!
แต่ก็เพราะมั่นใจว่าลิเวอร์พูลจะชนะไง ผมเลยกล้าพนันไปแบบนั้น…
“โธ่เว้ย!” ผมสบถเป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ เมื่อแมนยูทำประตูที่สามได้ในนาทีที่หกสิบเอ็ด และปิดท้ายด้วยการเอาชนะลิเวอร์พูลไปสี่ประตูต่อสอง
ลิเวอร์พูล แม่งกากกกกกกกก อ๊ากกกกกกกก
ผมหันควับไปมองแบคฮยอนเมื่อเจ้าตัวส่งเสียงหัวเราะสะใจแบบไม่ปิดบัง
“อ่อนว่ะ!”
ผมพยายามข่มอารมณ์เมื่อคนตัวเล็กพูดประโยคนั้นกระแทกหน้าเข้าจังๆ
ทำไมวะลิเวอร์พูล แม่งก็เล่นดีมาตลอดนี่หว่า ทำไมต้องมาแพ้นัดนี้ด้วย!!!
ไหนมึงบอก You’ll never walk alone ไง แต่ตอนนี้มึงทำกูอะโลนมากนะ!
“เอาดิ อยากได้อะไรขอมาเลย ไม่ต้องตอบว่าขอคิดดูก่อนนะ เพราะครั้งที่แล้วนายยังไม่ได้ขออะไรฉันเลย ห้ามขอบ้านขอรถด้วย”
“งั้นขอเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว”
“ไปขอเณรคำเถอะ =____=”
“งั้นอะไรที่นายให้ฉันได้”
“อะไรที่ไม่แพง ฉันจน”
“ถ้านายจน ฉันคงเป็นขอทาน =_____=”
“เอาอะไรที่ไม่เวอร์อ่ะ”
“งั้น…” ผมไม่รู้ว่าคิดไปเองรึเปล่าแต่ด้วยตาเรียวสวยนั้นช้อนสายตาขึ้นมามองด้วยท่าทีเขินๆ แต่นั่นก็แว๊บเดียว แบคฮยอนก็ยังคงเป็นแบคฮยอนผู้เฉยชา ไม่โปรดปรานการแสดงอารมณ์ความรู้สึกผ่านทางใบหน้า!!
“งั้น?”
“ขอจูบได้รึเปล่า” โธ่ แค่จูบเองหรอกเหรอ
…
…
…
ห๊าาาาาาาาาาาาาาาาาา?! อะไรนะ อะเกน พลีสสสสสสสสสสสสส
“คือ… จูบอะไร แบบไหน”
“แค่จูบ นายจะหวงทำไมเนี่ย เก็บไว้ให้จงอินคนเดียวรึไง”
“ก็เปล่า แล้วทำไมต้องอยากจูบ…” ผมกลืนน้ำลายหนืดๆ ลงคออย่างยากเย็น “…ฉัน” แล้วชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง
“ก็แค่อยากแน่ใจอะไรบางอย่าง เร็วๆ ดิ เล่นตัวทำไม ไหนบอกลูกผู้ชายพูดแล้วไม่คืนคำไง” แบคฮยอนเบะปาก น่าหมั่นไส้มาก ณ จุดนี้ =_____=
“ไม่ได้ใจว่ะ” แบคฮยอนพึมพำได้ไม่ทันขาดคำ ก็คว้าคอผมไปจูบทันทีจนผมเผลอเบิกตากว้างอย่างตกใจสุดขีด!
แบคฮยอนขบเม้มริมฝีปากของผมอยู่หลายครั้งจนผมคิดว่าตอนนี้มันคงบวมเจ่อ ก่อนที่ลิ้นเรียวเปียกชื้นนั้นจะค่อยๆ ชอนไชเข้ามาในโพรงปากของผมอย่างเชี่ยวชาญ
เดี๋ยวนะ… ผมว่ามันไม่ถูกต้อง!!
…
…
ผมไม่ควรทำตัวเป็นเคะแสนหวานให้แบคฮยอนจูบแบบนี้! แล้วอย่างแบคฮยอนก็ไม่ควรเป็นเมะด้วย!!!
คิดได้ดังนั้นผมก็กดท้ายทอยของแบคฮยอนลงมาบดเบียดริมฝีปากอย่างร้อนแรงจนแบคฮยอนเผลอครางอือในลำคอ ผมแอบยิ้มในใจเมื่อตัวเองเป็นฝ่ายพลิกเกมจนกลับมานำเกมได้
ยังไงโอเซฮุนก็ไม่ยอมเป็นเคะ หรอก !
ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงรู้สึกดีเวลาที่ลิ้นของเราเกี่ยวกระหวัดกัน ยิ่งเก็บเกี่ยวก็ยิ่งหอมหวานจนไม่อยากผละจากริมฝีปากนี้แม้เพียงเสี้ยววินาที รู้สึกอุณหภูมิในร่างกายเริ่มพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ ทั้งที่เปิดแอร์เย็นเฉียบ
…
…
…
และผมคงเพลิดเพลินกับรสจูบที่แสนเร่าร้อนนั่นจนไม่ทันสังเกตว่าแบคฮยอนหยิบคัตเตอร์คมกริบขึ้นมาถือไว้ในมือ!!
_____________________________
เห็นโหวตฮุนแบคกันมาเยอะเลย
ไม่รู้ว่าจะถูกใจกันรึเปล่านะคะ
อย่าเข้าใจแบคฮยอนผิดน้า แบคไม่ได้โรคจิต แบคเป็นผู้ชายไร้เดียงสา 555
ความคิดเห็น