ตอนที่ 20 : ❥ Whisper, XVII 100%
บรรยากาศตรึงเครียดของห้องประชุมใหญ่ภายในตึกสำนักงานใหญ่ของคิมกรุ๊ป เสียงถกเถียงของเหล่าหุ้นส่วนและบอร์ดบริหารส่งเสียงดังออกไปถึงหน้าห้องประชุม
ซอกจินมองประตูบานใหญ่ตรงหน้าด้วยสายตาสงบนิ่ง โดยมีเลขาส่วนตัวอย่างเคนยืนอยู่ข้างกายด้วยความเป็นห่วง เพราะถ้าเขาเปิดประตูบานนี้เข้าไปแล้ว วันนี้ทุกอย่างจะถูกเปลี่ยนแปลง ตำแหน่งที่ว่างจะถูกแทนที่ นอกจากเลขาเขาแล้วคงมีทนายประจำตระกูลที่ยืนให้กำลังใจเขาอยู่ด้านหลัง
“นายจะเข้าไปเลยไหมจิน”
น้ำเสียงที่เต็มปด้วยความเป็นห่วงของเพื่อนสนิทของเขาถามอย่างเป็นกังวล เขาหมดเวลากังวลอะไรแล้วในตอนนี้ มันถึงเวลาที่เขาต้องเผชิญหน้ากับปัญหาที่เขาปล่อยทิ้งไว้เกือบปี
วันนี้มันอาจจะเป็นวันที่ตอบคำถามสงสัยแก่บอร์ดบริหาร แต่มันจะเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับสงครามภายในตระกูลที่ยาวนานมาเกือบสิบปี...
ตั้งแต่วันที่เขาสูญเสียแม่ไป...
“อืม จัดการให้เสร็จเถอะ”
มือใหญ่จับลูกบิดประตูก่อนจะออกแรงดันเปิดประตูพร้อมกับขายาวก้าวเข้าไปภายในด้วยความสุขุมและสงบนิ่ง ทันทีที่ทุกสายตาเห็นบุคคลที่ก้าวเข้ามาใหม่ เสียงถกเถียงต่างๆ ก็สงบลงราวกับไม่เคยมีเสียงดังกล่าวมาก่อน ทุกสายตาจับจ้องซอกจินที่เดินไปยังหัวโต๊ะประชุมตัวยาวด้วยท่าทางที่เปี่ยมไปด้วยอำนาจ
อำนาจของสายตระกูลคิมที่แท้จริง
“สวัสดีครับทุกท่าน ขออภัยที่ปล่อยให้ทุกท่านรอคอยกันนาน โดยเฉพาะวันนี้”
น้ำเสียงทุ้มที่เปี่ยมไปด้วยอำนาจเอ่ยกับเหล่าผู้ร่วมประชุมด้วยความสุภาพและใจเย็น ก่อนจะกวาดสายตามองผู้ร่วมประชุมก่อนจะหยุดสายตาที่ชายหนุ่มอีกคนด้วยสายตาไม่เป็นมิตร
คิมแจจุง ญาติฝั่งอาของเขา... ทายาทอันดับสามของตระกูลคิมรองจากเขาและพี่ชาย
“เรื่องแรกที่ผมจะแจ้งให้ในที่ประชุมทราบ ตลอดเวลาที่พี่ชายผมไม่ได้เข้าประชุมใหญ่... เป็นเพราะเรื่องภายในครอบครัวของเรา ต้องขออภัยทุกท่านแต่เรื่องนี้ผมมอบหมายให้เป็นหน้าที่ของทนายของตระกูลคิมแจ้งทุกท่าน”
น้ำเสียงที่ไม่เปลี่ยนแปลงและสงบยิ่งขึ้นพร้อมสายตาที่มองญาติผู้พี่อย่างไม่เป็นมิตรตอบอีกคน เขารู้... และรู้มาตลอดว่าใครเป็นคนทำเรื่องทั้งหมด คนคนเดียวที่ถืออำนาจของตระกูลคิมไว้หนึ่งในสาม... รองจากครอบครัวของเขา
ตลอดเวลาเขาไม่เคยสนใจหรอกว่าอีกฝั่งจะเป็นใคร เขาไม่เคยสนใจต่ำแหน่ง หรือเงินทอง เพราะเขาพอใจกับการมีชีวิตแบบนี้ มีพ่อแม่และพี่ชาย แต่ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปในวันที่แม่ของเขาประสบอุบัติเหตุเช่นเดียวกับพี่ชายของเขา
การเสียชีวิตของแม่และพี่ชายของเขา มาจากคนคนเดียวกัน เหมือนสิบกว่าปีก่อนไม่สามารถจับคนกระทำได้เพราะอำนาจฝั่งพ่อเขาไม่ได้แข็งแกร่งเท่าทุกวันนี้ เงินถึงเป็นสิ่งทำให้การตายของแม่ของเขาไม่สามารถจับคนผิดได้
ต่างจากพี่ชายเขา... ตลอดเวลาที่ผ่านเขาและพี่ชายรู้ตัวดีมาตลอด พี่ชายเขาพยายามสร้างอำนาจจนกระทั่งควบคุมทุกอย่างงไม่ว่าจะภายในเกาหลีหรือที่จีนก็ตาม จนมาถึงเขาที่ตัดสินใจแยกตัวออกมาสร้างอำนาจของตัวเองโดยมีพี่ชายที่คอยสนับสนุนช่วยเหลือ เพื่อจะรื้อคดีของแม่ขึ้นมาอีกครั้ง
ทุกอย่างยังไม่ได้เริ่มอีกครั้งก็เกิดอุบัติเหตุกับพี่ชายและพี่สะใภ้ของเขา แต่สวรรค์ก็ยังคงเมตา... ให้เขาสามารถช่วยหลานชายคนเดียวได้ ถึงแม้ทางบ้านพี่สะใภ้จะไม่ต้อนรับหลานชายของเขาตั้งแต่หลานเขาเสียครอบครัวไป จนเขาต้องไปรับหลานมาอยู่ด้วยกัน
จนตอนนี้อำนาจทุกอย่างตกอยู่ในมือของเขา แม้กระทั่งอาการป่วยของหลานชายของเขาหายเป็นปกติ นายคงยังไม่รู้เรื่องหลานสินะถึงได้นั่งเชิดหน้าอยู่ในห้องนี้...
ไม่นานหรอกพี่แจจุง เขาไม่ปล่อยให้พี่รอนานหรอก ทุกอย่างมันจะจบด้วยตัวเขานี่แหละ
“... ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ผู้ดำรงตำแหน่งประธานบริษัทคิมกรุ๊ปคือคุณคิมซอกจิน ทายาทอันดับสองของตระกูลคิม ตามที่แจ้งในพินัยกรรมของท่านประธานคนเก่า ขอให้ที่ประชุมรับทราบและเข้าใจ”
สิ้นสุดเสียงอ่านเอกสารพินัยกรรมจากทนายประจำตระกูลคิม เสียงฮือฮาภายในบอร์ดบริหารก็ดังขึ้นอีกครั้ง ถึงแม้เสียงส่วนใหญ่จะแสดงถึงความตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่กลับมีคนคนเดียวที่นั่งนิ่งพร้อมส่งยิ้มให้เขา...
เขาจ้องมองอีกคนกลับเช่นเดียวกับสายตาของอีกคน... ไม่เลยจุดที่เขาจะต้องแสดงความเป็นมิตรกับลูกพี่ลูกน้องคนนี้แล้ว คำว่าญาติไม่มีตั้งแต่เขาสูญเสียคนสำคัญไป รอยยิ้มที่ให้มา คงใช้ยินดีกับตัวเองมากกว่าสินะ
หลังจากประกาศเรื่องสำคัญทุกคนก็เริ่มประชุมภายในกันต่อซึ่งใจความไม่ได้มีอะไรสำคัญนัก ล้วนเป็นเรื่องที่เขาได้ข้อมูลจากเลขามาหมดแล้ว เคนทำงานดีมาตลอด เพื่อนเขาอยู่ตำแหน่งนี้ได้ไม่ใช่เพราะเป็นเพื่อนเขาเท่านั้น เพราะเพื่อนคนนี้สามารถช่วยเขาได้ทุกเรื่อง
ทันทีที่จบการประชุมทุกคนก็ทยอยเดินออกจากห้องประชุมมีบ้างที่เป็นเพื่อนของพ่อเขาที่เดินมาแสดงความเสียใจกับเขา ซึ่งเขาทำเพียงยิ้มรับอย่างสุภาพ
เสียงเดินของรองเท้าหนังที่ก้าวเดินมายังจุดที่เขายืนอยู่ คนที่เขารอ... ต้องรอให้ทุกคนออกไปหมดก่อนสินะถึงได้กล้าออกมาเผชิญหน้ากับเขา...
ขี้ขลาด
“เสียใจด้วยนะ...”
“ขอบคุณครับแต่เก็บไว้เถอะ ผมไม่ต้องการ”
“ฮึ... หยิ่งให้สุดนะซอกจิน ฉันจะรอดูจุดจบของนาย นายก็น่าจะรู้นะ ยิ่งขึ้นสูงแค่ไหน ยิ่งต้องเก็บจุดอ่อนให้ดีเท่านั้น... ระวังตัวไว้ จุดจบนายก็ไม่ต่างจากพี่ชายหรอก”
น้ำเสียงที่เปี่ยมไปด้วยความอิจฉาและประสงค์ร้ายของอีกคน ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกหวั่นใจจนกระทั่งท้ายประโยค... จุดอ่อนของเขา
ใช่เขามีจุดอ่อน แต่จุดอ่อนของเขาไม่ได้บอบบางที่นายจะทำร้ายได้ง่ายๆ หรอกนะ...
เขาเชื่อว่าเขาปกป้องจองกุกและหมิ่งฮ่าวได้...
“ครับ... ระวังตัวเช่นกันนะครับฮยอง สิ่งเน่าๆ ถึงจะปิดดีแค่ไหน ยังไงสุดท้ายกลิ่นมันก็ยังมีนะครับ เดินทางปลอดภัยนะครับ”
เขามองหน้าอีกคนที่หันมามองทันทีที่เขาเอ่ยจบด้วยรอยยิ้ม จนกระทั่งอีกคนเดินพ้นออกไปจากห้องประชุมแล้ว เหลือเพียงเขาที่ยังยืนคิดอะไรเพียงลำพังกับเคนที่เดินกลับเข้ามาหลังจากไปส่งทนายขึ้นรถ
มันถึงเวลาแล้ว ที่เขาจะต้องทำให้จริงจัง...
“เคน... เรียกเด็กคนนั้นมาพบฉันทีที่บริษัท คิมมินกยู”
ถึงเวลาที่นายจะต้องทดแทนให้กับตระกูลคิมแล้ว มินกยู...
❥ Whisper
ภายในสตูดิโอขนาดกลางเช้าวันนี้สถานที่แห่งนี้ได้ถูกเซตฉากเตรียมพร้อมสำหรับการถ่ายทำมิวสิกวีดิโอคัมแบคของศิลปินเดี่ยวเบอร์หนึ่งของค่าย BH
มิวสิกวีดิโอคัมแบคแรกในรอบหกเดือนของมินจองกุก ฉากหลากหลายถูกเซตและถูกตรวจสอบความปลอดภัยกับทีมงานและตัวศิลปิน
จองกุกในตอนนี้ที่นั่งเป็นตุ๊กตาให้พี่สาวทั้งหลายละเลงเติมต่างเครื่องสำอางลงบนใบหน้าหวานน่ารักของตัวเองเงียบๆ รวมถึงผมของเขาก็เช่นกัน เขาตื่นเดินทางออกจากบ้านมาถึงสตูดิโอตั้งแต่ตีสี่ จนตอนนี้แปดโมงเช้าแล้วยังไม่ได้เริ่มถ่ายสักฉาก เพราะสภาพอากาศที่แปรปรวนทำให้ทีมงานตัดสินใจย้ายเข้ามาถ่ายทำภายในแทน เพราะฉะนั้นฉากต่างๆ ถึงพึ่งได้เซต
เขาก็ไม่ได้หงุดหงิดอะไรหรอก ดีซะอีกเขาจะได้มีเวลาพักผ่อน เมื่อคืนก็เอาแต่ซ้อมอยู่ที่บริษัททั้งคืนกว่าจะกลับก็ใกล้เช้า อาบน้ำเปลี่ยนชุดก็มาเตรียมถ่ายเอ็มวีเลย ช่วงใกล้คัมแบคมักเป็นแบบนี้ปกติแหละ ยุ่งจนไม่ได้พักสองวันแล้วหลังจากคืนนั้น เขาไม่มีเวลาไปหาหมิงฮ่าวเลย เช่นเดียวกันเขาก็ไม่ได้เจอพี่จินเหมือนกัน แต่อีกคนก็ไม่ได้หายไปไหน ยังคอยส่งแชทสั้นๆ มาเหมือนเดิมจนเขารำคาญกดเข้าไปตอบ
จริงๆ ก็กดเข้าโปรแกรมนานแล้ว แต่แค่ไม่กดเข้าห้องแชทแค่นั้น ก็อยากเล่นตัวบ้าง จะได้ไม่ดูไร้ค่าเกินไป
เขาตัดสินใจเอาความรักของแฟนคลับมาเสี่ยงกับความรักของอีกคน... ไม่ได้หมายความว่าเขารักแฟนคลับเขาน้อยลง กลับกันถ้าทุกอย่างมันชัดเจนแล้วแฟนคลับเขารับได้... มันทำให้เขาคิดไม่ผิดที่เลือกเส้นทางสายนี้ แต่ถึงอย่างงั้นเรื่องดีๆ แบบนี้มันไม่มีนักหรอกในสายอาชีพของเขา
ขนาดพี่ยุนกิยังมีปัญหาจนพี่ชายเขาต้องออกมาประกาศจะออกจากวงการแต่งเพลงถ้ายังไม่เลิกวิจารณ์หรือต่อต้าน คุกคามครอบครัว ตัวเขาก็เห็นด้วยกับพี่ชายนะ พี่ยุนกิไม่ใช่ไอดอลแบบเขาไม่ควรมาเจออะไรแบบนี้โดยเฉพาะหลานชายที่น่ารักของเขา...
จีฮุนคงจะเจ็บปวดไม่น้อยที่ต้องโดนวิพากษ์วิจารณ์ทั้งๆ ไม่ได้ทำอะไรผิด หรือแม้กระทั่งพี่จีมิน แต่สำหรับเขา... คงไม่มีใครรับได้และยังคงยืนข้างเขาหรอก ถ้าเขาเลือกที่จะเดทกับใครสักคน... ซึ่งลึกๆ แล้วมันอาจจะฟังดูเห็นแก่ตัวไป แต่เจเคก็ยังต้องการแฟนคลับที่รักเขา เช่นเดียวกับจองกุกที่ต้องการคนรักสักคน
ทั้งเจเค และจองกุกเหมือนกันคือต้องการให้คนรัก แต่ถ้าสุดท้ายแล้วเจเคจะถูกทอดทิ้ง... เขาก็ไม่คิดจะโทษใครนอกจากตัวเขาเอง เพราะเส้นทางเส้นนี้เขาเป็นคนกำหนดด้วยตัวเขาเอง
“น้องจองกุก หิวไหม?”
เสียงหวานของพี่สาวที่เดินเข้ามาพร้อมเสื้อผ้าที่เขาต้องใส่ในวันนี้พร้อมรอยยิ้มมองเขาอย่างใจดี จนเขาเผลอหันไปมองจนโดนพี่ๆ ที่กำลังเซตผมให้เขาอยู่นั้นตีเบาๆ
“พี่มินอามีอะไรให้กุกทานบ้างครับ?”
“เยอะแยะเลย เนี่ยทางคิมฟูดส่งฟูดซัพพอร์ตมาเมื่อกี้เอง มีของจองกุกด้วยนะเมื่อกี้พี่เห็นเดี๋ยวเมเนฯเราคงเอามาให้แหละ มีช่อดอกไม้มาด้วยนะ”
อ่า... คิมฟูด พี่จินสินะ
ใบหน้าหวานน่ารักเบ้ลงอย่างหมั่นไส้ ก่อนจะก้มลงมองหน้าจอโทรศัพท์ในมือที่มีแชทค้างไว้เต็มหน้าจอจากคนคนเดิมตั้งแต่ชั่วโมงที่แล้ว
“ยังไงจ๊ะ พ่อหนุ่มหล่อของนูนา กับคุณซอกจินนี่ยังไง ล่าสุดที่พี่เห็นยังตีอยู่เลยไม่ใช่เหรอออ”
“นั่นสิ หลังจากนั้นก็มีข่าว นี่ยังส่งฟูดซัพพอร์ตมาอีก ยังไงค่ะ”
เสียงแซวของเหล่าพี่สาวทำให้เขาเผลอกัดปากตัวเองอย่างประหม่า ก็รู้แหละว่าทุกคนสงสัย แต่เขาไม่รู้จะตอบยังไงดีกับสถานะตอนนี้ จะให้ตอบว่า
ไม่ได้เป็นอะไรกันครับ แต่นอนด้วยกันแล้วงี้เหรอ มันก็ไม่ใช่ไหมเล่า!!
หรือให้บอกว่า อ่อ พอดีพี่จินตามจีบอยู่ครับ งี้เหรอ มันไม่ใช่ป่ะวะ เฮ้อ...
“ไม่มีอะไรหรอกครับ ก็แค่ส่งซัพพอร์ตให้พรีเซนเตอร์แค่นั้นแหละ กุกขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ”
เขาลุกขึ้นแล้วรีบเดินออกจากห้องทันทียังไม่วายโดนเสียงตะโกนแซวจากเหล่าพี่สาวตามมาอยู่ดี บางทีเขาก็คิดนะว่าบริษัทนี้สนิทกันเกินไปไหม...
“ฝากขอบคุณ คุณซอกจินสำหรับอาหารด้วยนะจองกุก และรีบกลับมากินข้าวนะจ๊ะ อย่ามัวแต่คุยเพลินหละ คิคิ”
ขอบคุณอะไรกันเล่า!! เขาไม่ได้ออกมาโทรหาพี่จินซะหน่อย ก็บอกแล้วว่าไปห้องน้ำ นี่จะชงอะไรกันนักหนาาา ฮือๆ ทำไมเขาต้องมาเจออะไรแบบนี้คนเดียวด้วยเนี่ย!
อย่าให้เจอตัวนะพี่จิน จะด่าให้... ก็รู้ว่าส่งของมาให้ไม่ได้อยู่ในข้อตกลง แต่จะทำอะไรควรบอกให้เขาตั้งตัวบ้าง ไม่ใช่สส่งมาแบบนี้ เซอร์ไพร์มาก เซอร์ไพร์จนอยากว๊าบไปด่ามากตอนนี้
ตัวไม่มา แชทไม่อ่าน ยังจะทำให้เขาเขินได้อีก!
มากไปแล้วนะ หัวใจนายเนี่ย เต้นหนักไปแล้วนะ จะเขินอะไรทุกสิ่งอย่างแบบนี้ มินจองกุก ตั้งสตินะ!!
vitamin J Talk
ตัวพี่เขาอาจจะไม่มา แต่ก็ยังทำให้น้องเขินได้อีกนะ ส่วนมินกยูบทบาทไหนนี่เจอกันตอนหน้านะคะ ทายมาที่ผิดแทบทุกคนเลย เขามาดีค่ะ #ฟิคกระซิบ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

คิม แจจุง ก็มา555555 มาซะร้ายเลย ว่าแต่คิม มินกยู มาเป็นใครในเรื่องคะเนี่ยยยย รออ่านต่อ5555
ทำไมดูเครียด โอ้ยยยย เครียดตาม ฮืออออ ดูแลปกป้องแม่ของลูกกับลูกให้ได้นะพี่จินน น้องเข้มแข็งแต่ก็เปราะบางได้นะ ;_;
สู้ๆ นะพี่ น้องใจอ่อนแล้ว ฮือๆๆๆๆๆๆๆ