"คำตอบที่ตามหา"
ทันทีที่ซอกจินเคลียเอกสารทั้งหมดที่เขาทำผิดพลาด และเหลือตกค้างเรียบร้อย มือใหญ่จัดการคว้าเอกสารที่เขาให้เลขาหาเตรียมไว้ให้ ที่อยู่ของสตูดิโอทำเพลงภายในโซลที่จองกุกน่าจะอยู่
ขายาวก้าวออกจากห้องทำงานโดยมีสายตาคมของเลขาเพื่อนสนิทอย่างเคนนั่งมองด้วยคำถาม เขาเลือกที่ไม่สนใจก่อนจะบอกงานที่เขาเคลียเสร็จเรียบร้อยแล้ว และเดินตรงไปรอลิฟต์ทันที กว่าเขาจะเคลียอะไรเสร็จก็บ่ายสามแล้ว เขาเหลือเวลาไม่กี่ชั่วโมงที่จะตามหาอีกคนตามที่อยู่ในมือที่มีเพียงแค่สี่ที่ แต่ละที่นั้นอยู่คนละฟากฝั่งของโซลเลย
ถ้าหาไม่เจอจริงๆ เขาคงต้องรีบกลับคอนโดก่อนเวลาปกติสักชั่วโมงเพื่อไปดักรอจองกุกที่เขามั่นใจว่าอีกคนนั้นเขามาดูแล หาลูกชายเขาทุกวันแน่นอน...
ยิ่งคิดถึงสิ่งที่จองกุกทำเพื่อเขาแล้วมองในสิ่งที่เขาทำกับอีกคน... เป็นครั้งแรกตั้งแต่เกิดมาที่เขารู้สึกว่าตัวเองเลวขนาดไหน
เขาโตมาในครอบครัวที่ต้องแข่งขัน ใครอ่อนแอก็เป็นคนถูกทำร้ายเป็นเรื่องปกติ เพื่อปลายทางเขาสามารถทำได้ทุกวิธีเพื่อให้ตัวเองประสบความสำเร็จ
นี่คือสิ่งที่เขาได้เรียนรู้ตลอดเวลาของการเป็นคนของตระกูลคิม เขาไม่เคยรู้สึกผิดเลยสักครั้งที่ทำเรื่องไม่ดี หรือทำร้ายคนที่ไม่ได้ทำความผิด
แต่กับจองกุก... เขารู้สึกอยากแก้ไขในสิ่งที่เขาทำไปมันอาจจะสายแต่เขาก็อยากจะทำ
จองกุกทำให้เขาอยากเป็นคนดีเพื่อใครสักคน นี่คือความรู้สึกที่เขาไม่เข้าใจตัวเอง แม้กระทั่งจีมินเขายังไม่รู้สึกแบบนี้เลยสักครั้ง
โอเคเขายอมรับว่าเขาสับสน เขายอมรับว่าเขารักจีมินตลอดเวลาที่ตามจีบจีมินมา เขาไม่เคยทำร้ายจีมินเลยสักครั้ง พยายามทำตัวให้อีกคนไว้วางใจและยอมพึ่งพาเขา ถึงแม้จะรู้อยู่แก่ใจว่าจีมินไม่เคยมองเขาไปมากกว่าพี่ชายเลยสักครั้ง
แต่จะมีใครรู้ไหมวันที่จีมินพูดกับเขาตรงๆ วันนั้นไม่ได้ทำให้เขารู้สึกเจ็บเท่ากับคำพูดบอกลาพร้อมน้ำเสียงเย็นชาของจองกุกในเช้าวันนั้น
จองกุกทำให้เขาไม่เข้าใจตัวเองในหลายเรื่องและเรื่องสำคัญที่สุดที่เขาไม่เข้าใจ...
ทำไมเขาต้องร้อนรนพยายามตามหาอีกคนขนาดนี้
"พี่จะหานายให้เจอ เพราะนายต้องมาตอบคำถามของพี่ จองกุก"
เขาพูดกับตัวเองก่อนจะขับรถออกจากบริษัทเพื่อตามหาคำตอบของตัวเองที่ไม่รู้ว่าตอนนี้ไปอยู่ที่ไหนกัน ไม่ว่านายจะอยู่ที่ไหนพี่จะตามนายมาคุยให้รู้เรื่องจองกุก
ซอกจินขับรถเข้าออกตึกที่เป็นที่ตั้งของสตูดิโอทำเพลงที่เขาได้มาจนครบ ซึ่งทุกทีที่เขาไปนั้นให้คำตอบเดียวคือไม่มีการจองเพื่อใช้งานของจองกุก หรือแม้แต่ชื่อผู้จัดการส่วนตัวของจองกุกแม้แต่น้อย มีอย่างมากก็เป็นชื่อค่ายจองไว้สำหรับศิลปินหน้าใหม่ในการทำเพลงตรงตามข้อมูลที่เขาได้รับจากเคนที่หาข้อมูลมาให้เขา
สตูดิโอยังไม่มี... ที่คอนโดก็น่าจะยังไม่มีเพราะช่วงบ่ายถึงเกือบๆ หกโมงของวันนี้ชานดึลอยู่กับหมิงฮ่าวเพื่อสังเกตุอาการ
นายอยู่ที่ไหนกันในเวลาแบบนี้จองกุก...
"ยออีโด... บริษัทอีกสักรอบละกันซอกจิน ถ้าไม่อยู่..."
สายตาคมมองออกไปนอกรถอย่างเหม่อลอย ก่อนจะพึมพัมบางอย่างกับตัวเองแล้วออกรถไปยังบริษัทต้นสังกัดจองกุกที่อยู่ไม่ไกลจากที่เขาอยู่ในตอนนี้
รถยนต์คันหรูเคลื่อนตัวเข้าเทียบจอดรถข้างทางใกล้ๆ กับตึกต้นสังกัดจองกุก สายตาคมสำรวจโดยรอบบริเวณอย่างระวัง พร้อมกับหากระต่ายที่กำลังเล่นซ่อนหากันเขาอยู่
มือใหญ่ดับเครื่องยนต์พร้อมกับเปิดกระจกเล็กน้อยเพื่อให้มีอากาศหายใจ เพราะตอนนี้เป็นฤดูหนาว อากาศด้านนอกนั้นลดลงจนติดลบ แถมมีลมอีก จะให้ออกไปยืนรอไม่ถึงครึ่งชัวโมงเขาได้แข็งตายอยู่หน้าตึกนี่แหละ
แล้วทำไมไม่เข้าไปหาในตึก... ถ้าเขาเข้าได้ก็คงเข้าไปแล้ว วันนี้เขามาโดยไม่ได้ติดต่อใคร การที่จะขอเข้าตึกค่ายเพลงนี้คงเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้อีกเช่นกัน และที่สำคัญ... ถ้าเขานัดกระต่ายในตึกนี้คงได้ไหวตัวหนีเขาไปอีกแน่นอน
ตอนนี้ห้าโมง... เท่ากับว่าเขารออีกคนตรงนี้ได้ไม่เกินอีกสองชั่วโมง ถ้าสองชั่วโมงนี้เขาไม่เจอจองกุก เขาคงต้องกลับบ้านก่อนเวลาเพื่อจับกระต่ายแล้วแหละ
เขามั่นใจว่าวันนี้ยังไงเขาก็ต้องเจอจองกุก ไม่ที่นี่ก็ที่คอนโด หนีเขามาอาทิตย์นึงแล้วนะ หมดเวลาวิ่งหนีเขาแล้วจองกุก พี่ต้องคุยกับเราให้รู้เรื่อง
ไม่ว่ายังไง... เขาต้องทำให้จองกุกไม่หนีเขาไปไหนอีก ต่อให้เขาทำอะไรเขาก็ยอมทำแล้วตอนนี้แลกกับการที่อีกคนไม่หนีเขาไปไหนก็พอ จะเย็นชาใส่เขา ต่อว่าเขา หรืออะไรก็ได้ ขอเพียงแค่เขาสามารถเจอจองกุกทุกวันก็พอ...
มินจองกุกทำให้คิมซอกจินยอมแพ้กับทุกสิ่งเพื่อไม่เสียอีกคนไป ทำให้คนที่ไม่มีจุดอ่อนแบบเขาพ่ายแพ้ได้ขนาดนี้...
จุดอ่อนของเขาที่ต้องปกป้องในเวลากัน
โลกธุรกิจของเขามันมีเพียงคนที่ไร้จุดอ่อนกับคนที่แข็งแกร่งถึงจะอยู่รอดได้ และเขาจำเป็นจะต้องเป็นคนที่แข็งแกร่งเพราะเขามีจุดอ่อนอย่างจองกุก... เขาจะไม่ยอมให้ตัวเองต้องเป็นเหมือนพี่ชายแน่นอน
เรื่องพี่ชายเขาเสียชีวิตนั้นคงปิดได้อีกไม่นานแล้วจริงๆ... เพราะฉะนั้นเขาต้องจัดการเรื่องจองกุกให้จบก่อนที่จะต้องขึ้นเป็นประธานคิมกรุ๊ป
คิมกรุ๊ปที่ไม่ใช่คิมฟูดฯ
ประธานคิมกรุ๊ปที่ต้องแข็งแกร่ง จุดยืนที่มีหลายคนจ้องที่จะผลักตกลงจากผาสูงเหมือนพี่ชายของเขา หรือพ่อแท้ๆ ของหมิงฮ่าว
เพราะฉะนั้นจองกุกนายต้องตอบคำถามพี่ เพื่อที่พี่จะได้รู้ว่าตัวเองต้องก้าวต่อไปยังไง
ก้าวต่อไปอย่างมีคนที่ต้องปกป้องอย่างหมิงฮ่าว หรือก้าวต่อไปพร้อมๆกับนายที่พี่ต้องปกป้องเช่นกัน...
เขาจะรับผิดชอบในสิ่งที่เขาทำกับจองกุก ถึงแม้ยังจะไม่เข้าใจความรู้สึกของตัวเอง ไปพร้อมๆ หาคำตอบของตัวเองในเวลาเดียวกัน
เพราะนายคือคำตอบของพี่จองกุก
"ย๊า! แบ่งนะเว้ย ไม่ใช่ซื้อให้กิน"
"ฮ่าๆ ก็คำเดียวไง ไม่ได้บอกว่าชิมสักหน่อย"
"มานี่เลยนะเว้ย!"
เสียงหยอกล้อดังมาจากด้านหลังรถ ดวงตาคมจับจ้องต้นเสียงจากกระจกข้างรถ ก่อนจะรีบเปิดประตูลงไปทันทีที่เห็นซีกหน้าข้างของหนึ่งในต้นเสียง... คนที่เขาตามหากับใครอีกคนที่เขาไม่รู้จัก
นายกล้าดียังไงที่ส่งยิ้มสดใสใครผู้ชายคนนั้นแล้วปล่อยให้เขาตามหาแบบนี้ จองกุก
"จองกุก"
น้ำเสียงทุ้มเอ่ยขึ้นพร้อมกับข้อมือที่ถูกจับจากอีกคน เสียงที่เขาไม่ได้ยินมาหลายวันทำให้จองกุกหันไปมองอย่างตกใจ ดวงตากลมโตเบิกกว้างพร้อมกับพยายามดึงมือตัวเองออกจากการจับกุมอีกคนทันที
"นี่เหรอความหมายในสิ่งที่นายพูดวันนั้น?"
"ปล่อยผม คุณซอกจิน"
น้ำเสียงเย็นชาที่แตกต่างจากก่อนหน้าที่ซอกจินจะก้าวลงมาจากรถ ยิ่งทำให้เขาหงุดหงิดยิ่งขึ้น ทำไมจองกุก เกลียดเขามากเลยหรือไง ทีกับไอ้สูงนั้นหัวเราะหยอกล้ออารมณ์ดี แต่กับเขาทำน้ำเสียงเย็นชาใส่พร้อมทำเหมือนรังเกียจเขาขนาดนั้น
"ฉันมีเรื่องจะคุยกับนายจองกุก เป็นการส่วนตัว"
น้ำเสียงเน้นย้ำที่จงใจส่งไปให้คนยืนมองเขาสลับกับจองกุกด้วยสีหน้าไม่เข้าใจในสถานะการณ์ของเขาทั้งสอง เขาไม่รู้หรอกว่าอีกคนเป็นใคร
รู้เพียงว่าแค่เห็นจองกุกหัวเราะ ยิ้มให้มันเขาก็หงุดหงิดมากแค่นั้นแหละ แต่พยายามจะไม่เอาอารมณ์ไปลงกับจองกุกเหมือนคืนนั้นอีกแล้ว... แค่เห็นสายตาจองกุกตอนที่หันมาเจอเขามันก็ทำให้ความหงุดหงิดเขาลดลงฮวบทันที...
สายตาตกใจและเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
สายตาที่เขาได้รับจากคนอื่นบ่อยครั้งตั้งแต่โตมาในตระกูลคิม และเป็นสายตาที่เขารู้สึกว่าไม่อยากได้รับมันจากจองกุก...
"ผมไม่มีอะไรจะคุยกับคุณครับ ปล่อยผม เดี๋ยวมีใครมาเห็นแล้วจะมีปัญหา"
"นายสนใจทำไมในเมื่อทุกวันนี้ข่าวนายกับฉันมันก็ไม่ได้หายไปไหน หรือนายอยากจะไปกับใครกันแน่"
"นั่นมันเรื่องของผม"
"งั้นฉันจะคุยกับนายก็เป็นเรื่องของฉันเหมือนกันจองกุก"
"เอ่อ... ผมว่าคุณปล่อยจองกุกเถอะครับ แล้วไม่คุยในตึกก็ได้นี่มันกลางซอย อย่างที่จองกุกพูด เดี๋ยวใครมาเห็นจะเป็นข่าวใหญ่อีกนะครับ"
คนที่ยืนมองเขากับจองกุกเถียงอยู่นานเอ่ยกับเขาอย่างใจเย็น พร้อมใช้คำพูดสุภาพและเหตุผลในการเจรจากับเขา แต่ถึงอย่างงั้น เขาก็ไม่คิดจะปล่อยจองกุกอยู่ดีจนกว่าเจ้ากระต่ายดื้อตรงหน้าเขาจะยอมคุยกับเขาดีๆ
"เลือกเอาจองกุก จะไปคุยกับฉันดีๆ หรือเข้าตึกแล้วคุยเรื่องของเราต่อหน้าผู้ชายคนนี้"
"นี่คุณ..."
เขามองจองกุกที่มองเขาด้วยสายตาที่ตกใจและโมโหอย่างเห็นได้ชัดทันทีที่ได้ยินข้อเสนอของเขา ช่วยไม่ได้นะ นายทำให้ฉันบังคับเองนะจองกุก ถ้ายอมตามเขาดีๆ เขาคงไม่จำเป็นต้องสร้างข้อต่อรองอะไรกับจองกุกแบบนี้หรอก
นายจะเคยคิดบ้างไหม ตลอดเวลาที่รู้จักกันต้องมีข้อต่อรองระหว่างเราทุกครั้งเลยนะจองกุก
"คยอมนายเข้าตึกไปก่อนเถอะ ฝากบอกแบมด้วยนะ เดี๋ยวเจอกันวันอื่น"
"โอเคแน่นะ"
"อืม"
เขามองผู้ชายอีกคนที่มากับจองกุกมองมาทางเขากับจองกุกด้วยสายตาเป็นห่วง แต่ก็ยอมทำตามคำพูดของจองกุกเดินเข้าตึกไปโดยดี แต่ก็ยังไม่วายหันกลับมามองอีกครั้งก่อนจะเข้าตึกไป
จะห่วงอะไรกันขนาดนั้น... เหอะ!
"ปล่อยผมได้หรือยัง"
"ขึ้นรถสิ"
"ไม่!"
"อย่าดื้อจองกุก"
"ปล่อยผม"
เขามองจองกุกที่พยายามแกะมือเขาออกจากข้อมือตัวเองไม่หยุดอย่างเหนื่อยใจ... ยิ่งเห็นปฏิกริยาที่จองกุกมีต่อเขาแบบนี้มันยิ่งทำให้เขาเจ็บ... เจ็บยิ่งกว่าจีมินปฏิเสธเขาตรงๆ ก็การกระทำของจองกุกในตอนนี้นี่แหละ
"รังเกียจอะไรกับผัวตัวเองนักหนา หรือไอ้หมอนั้นมันเป็นผัวใหม่นาย จองกุก"
เพี๊ย!
เสียงตบหน้าซอกจินโดยมืออีกข้างของจองกุกที่ว่างอยู่ดังขึ้นทันทีที่เขาพูดประโยคนั้นจบ มันเป็นคำพูดที่แรงก็จริง แต่... เป็นสิ่งเดียวที่เขาตีความได้ในตอนนี้ จากการกระทำทั้งหมดของจองกุกที่ปฏิบัติต่อเขากับผู้ชายคนนั้น ไหนจะสายตาที่มองเจ้ากระต่ายของเขานั่นอีก
"ถ้าคุณยังพูดจาดูถูกผมอีกคร้ัง ผมจะเรียกรปภ.มาจัดการ"
"ขอโทษ..."
"คุณต้องการจะคุยกับผมเรื่องอะไร"
"ขึ้นรถก่อน แล้วพี่จะคุยกับนาย"
"แค่นั้นใช่ไหม"
"อืม"
"งั้นปล่อย ผมเดินเองได้"
น้ำเสียงเฉยชาของจองกุกพร้อมสายตาเย็นชาที่ใช้กับเขาทำให้เขาเลือกที่จะปล่อยข้อมืออีกคนแล้วพาอีกคนขึ้นรถ ซึ่งจองกุกไม่ได้หนีหรืออะไร นอกจากเดินตามเขาขึ้นรถเงียบๆ
ทันทีที่เขาพาจองกุกขึ้นรถเรียบร้อยแล้ว เขารีบกลับมาขึ้นรถทันทีเพราะกลัวจองกุกจะหนีเขาลงจากรถตอนที่เขามาขึ้นรถนี่แหละ...
บอกแล้วไง สิ่งที่เขากลัวตอนนี้คือการหนีหายไปของจองกุกนั่นแหละ
"ผมให้เวลาคุณถึงหกโมง ผมต้องไปดูหมิงฮ่าวที่คอนโด"
"วันนี้ไม่ต้องไปวันนึง"
"ผมรับปากน้องไว้แล้ว และผมไม่ใช่คนผิดคำพูด ทิ้งน้องไว้คอนโดคนเดียวแบบคุณนะ!"
เสียงหวานตวาดขึ้นเสียงใส่เขาทันทีที่เขาเอ่ยจบ ก็รู้ว่าผิด แต่เขาต้องการจะเคลียกับจองกุกจริงๆ มันไม่มีปัญหาอะไรแน่นอนถ้าจองกุกไม่เข้าไปดูหมิงฮ่าววันนี้ไม่ใช่เขาจะทิ้งลูกอีกหรอก แต่มีคนดูแลแทนอยู่แล้วตอนนี้
(มีอะไรไอ้จิน)
"ยังอยู่กับอาฮ่าวใช่ป่ะ"
(เออ)
"วันนี้กูให้มึงอยู่กับหลานทั้งวัน ฝากบอกอาฮ่าวด้วยว่าพี่จองกุกมีธุระกับป๊าจิน ขอบใจนะไอ้ดึล / นี่คุณซอกจิน!!"
(ไอ้เหี้ยจิน เออ! เดี๋ยวกูตามไอ้เคนซื้อข้าวให้ก็ได้วะ แค่นี้ใช่ป่ะ)
"อืม บาย"
นิ้วคดกดตัดสายบนปุ่มคอนโทลจากพวงมาลัยรถทันทีที่คุยธุระจบ โดยไม่สนใจว่าจองกุกจะหงุดหงิดขนาดไหน หงุดหงิดให้พอนะ ถ้าถึงปลายทางแล้วพี่จะยอมให้นายเอาแต่ใจตามที่นายต้องการเลยจองกุก
เพราะคิมซอกจินคนนี้จะรับผิดทุกสิ่งที่เขาทำด้วยตัวเอง
เมื่อถึงจะไม่มีข้อต่อรองใดๆ จากเขา เพราะเขาจะให้อีกคนสร้างข้อต่อรองระหว่างเราต่อจากนี้เป็นต้นไป เขาจะยอมอีกคนจนกว่าจะได้คำตอบที่ชัดเจนว่าที่เขารู้สึกกับจองกุกมันเรียกว่าอะไรกันแน่ ข้อต่อรองระหว่างเราที่เขาจะเป็นคนเสียเปรียบแทนกระต่ายที่นั่งเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างที่เสียเปรียบกับเขามาตลอด
ถ้านายคือคำตอบนั้นที่พี่ตามหาจริงๆ พี่สัญญาพี่จะทำทุกวิถีทางเพื่อรั้งนายไว้ ช่วยทำให้พี่เข้าใจกับสิ่งที่เรียกว่าความรักได้ไหมจองกุก...
เพราะถ้าเขาไม่ได้รักจีมินจริงๆ อย่างที่เคนพูด เขาก็คงหลงรักเจ้ากระต่ายจอมดื้อที่นั่งเงียบกอดตัวเองข้างๆเขานี่แหละ
พรึบ!
"ถึงจะรังเกียจก็ใส่ไปก่อน เดี๋ยวจะไม่สบาย อากาศมันหนาว"
เขาเอี้ยวตัวไปดึงเสื้อคลุมของเขาที่พาดไว้เบาะหลังห่มให้จองกุกอย่างลวกๆ ก่อนจะกลับมาตั้งใจขับรถอีกครั้ง เพราะอากาศภายนอกรถที่ลดต่ำลงเนื่องจากเวลาด้วยทำให้ฮิตเตอร์ที่เปิดไว้ทำงานได้ไม่ดีพอ ถึงอย่างงั้นเขาก็หวังว่าเสื้อตัวนั้นช่วยให้คนข้างๆ อุ่นขึ้นได้...
เหมือนกับตัวเขาที่ต้องการความอบอุ่นจากใครสักคนและมอบความอบอุ่นในรู้แบบของเขาให้ใครสักคนจริง ใครสักคนที่เขาอยากจะหยุดแล้วเดินก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับเขา...
หวังว่าคนนั้นจะเป็นนายนะจองกุก
Vitamin J Talk"
น้องไม่่ใจอ่อนง่ายๆหรอกนะคะงานนี้ ปากเสียอะไรเบอร์นี้ แน่ใจว่าจะมาง้อน้องคุณซีอีโอ แล้วจะรู้ว่าการที่พลิกไพ่่ให้น้องเป็นต่อนั้น จะเป็นยังไง #ฟิคกระซิบ
ช่วงนี้ขออัพเรื่องที่ไม่ฟิลกุ๊ดก่อนนะคะ สภาพจิตใจเราตอนนี้ไม่สามารถแต่ #ฟิคสนามบินเจเค ที่อบอุ่นและโรแมนติกได้จริงๆ ถ้าแต่งกลัวจะไม่ฟิลกู๊ดเท่าที่ควรเป็นต้องขอโทษด้วยนะคะ ยังไงจะรีบกลับไปอัพให้ไวที่สุด แล้วเจอกันตอนหน้าค่ะ
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
มาต่อ100%ไวๆ ขอให้ซอกจินเจอคำตอบไวๆ อยากรู้จะทำอย่างไงกับจองกุกให้ได้คำตอบ
ชอบมาคะเรื่องนี้