ลำดับตอนที่ #16
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : ตอนที่ 016 ทางออก
ตอนที่ 016 ทางออก
“ว่า..ไงนะ”นิวม่ารู้สึกประหลาดใจมากที่ได้ยินคำถามเมื่อครู่ บรรยากาศภายในห้องดูเหมือนกับว่าทุกสิ่งทุกอย่าง หายไปหมดแม้แต่อากาศ ทำให้หญิงสาวรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย
“ผมต้องการจะรู้ว่า อดีตของผมเป็นยังไง”รีเซ่ทวนอีกครั้ง สายตาของเด็กหนุ่มดูน่ากลัวกว่าที่คิด ทำให้นิวม่าเสียวสันหลังวูบเหมือนมีมือเย็นมาแตะข้างหลังเธอ
“ก็ได้.....ถ้าเธอต้องการ แต่อดีตของเธอถูกจำกัดเอาไว้ อยู่ช่วงหนึ่งนะ เป็นช่วงที่เธอจะไม่สามารถดู หรือตรวจสอบได้ในตอนนี้”นิวม่าพูดพร้อมกับถอนหายใจเบาๆ และก้าวเดินนำรีเซ่ออกจากห้องของเธอผ่านประตูบานๆเล็กสีทอง ไปตามทางเดินที่พวกเขาเข้ามาในตอนแรก เธอเลี้ยวผ่านทางแยกสีขาวสะอาดตา รีเซ่ตามเธอมาติดๆ จนมาถึงบันไดเวียนขนาดย่อมๆ ที่สูงขึ้นไปจนสุดเพดาน  (สูงมาก เพดานสูงตั้ง 500กว่าชั้น)
“ข้อมูลและประวัติของเธออยู่ที่ชั้น สิบสาม”นิวม่าเอ่ยออกมาเป็นการบอกให้รีเซ่รู้ว่าเขาอาจจะพบกับเรื่องร้ายๆก็ได้ถ้าไปดูอดีตของตัวเอง แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรมากแค่บ่นพึมพำเบาๆว่า ‘สิบสามเลขสวยดีนิ’ พวกเขาทั้งสองเดินขึ้นไปเรื่อยจนถึงชั้นสิบสาม มีป้ายเขียนไว้ว่า ‘ชั้นสิบสาม ประวัติบุคคลสำคัญ’รีเซ่เลิกคิ้ว ก่อนที่จะก้าวเข้าไป
ภายในชั้นมีพื้นที่ที่กว่างขวางมากๆ ตู้เก็บเอกสารจำนวนนับไม่ถ้วนถูกเรียงรายไว้รอบชั้น ตรงกลางเป็นรูขนาดใหญ่ที่เจาะให้เห็นพื้นของชั้นที่หนึ่ง ส่วนเพดานก็ถูกเจาะให้มองเห็นชั้นต่อๆไป  นิวม่าเดินนำรีเซ่ไปจนถึงจุดที่เป็นตู้เก็บเอกสารที่มีชื่อของเด็กหนุ่มติดไว้ ‘ผู้ถูกเลือก รีเซ่ แกรนเทียร์’ นิวม่าเอื้อมเตรียมที่จะเปิดลิ้นชัก แต่เธอหยุดชะงักแล้วหันกลับไปมองรีเซ่
“เธอแน่ใจนะ รีเซ่ แกรนเทียร์”นิวม่าถามย้ำรีเซ่ เด็กหนุ่มพยักหน้าด้วยความตั้งใจ นิวม่าค่อยๆเอื้อมไปเปิดลิ้นชัก หญิงสาวค่อยเลื่อนมันออกมาอย่างช้าๆ 
“ชั้นจะไม่เข้าไปกับเธอนะ”นิวม่าพูด แต่ก่อนที่รีเซ่จะได้ทันถามเธอว่าทำไม ก็เกิดแสงสว่างสีขาวพุ่งเข้าใสเด็กหนุ่ม ภาพเบื้องหน้าของชั้นที่สิบสามที่เขาอยู่กับนิวม่าถูกเปลี่ยน เป็นห้องสีขาวที่มีตัวอักษรบางอย่างปรากฏขึ้นมาตรงหน้าเขา มันค่อยๆเรียงตัวอย่างช้าๆ จนได้ความว่า ‘โปรดเลือกช่วงเหตุการณ์’
“สงครามกลางเมืองที่บราบิแกน”รีเซ่ตอบอย่างฉับไว เกิดการเรียงตัวอักษรอีกครั้ง จนได้ความว่า ’โปรดรอสักครู่’ ทันใดนั้นเกิดแสงสว่างอีกครั้ง เด็กหนุ่มหลับตาสนิท เพราะแสงที่จ้ามากเหมือนแสงสปอร์ตไลท์ส่องใส่ตาระยะ 1เมตร และทุกอย่างก็เริ่มเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว
ฟ้าวววว!!
....................................................
“เราเหลือเวลาอีกแค่สี่วัน เท่านั้น”ซิเรียเอ่ยขึ้นกับทุกคน ในขณะที่กายวางแผนที่ขนาดใหญ่ลงบนโต๊ะสีน้ำตาลแบบไม้เก่า
“ว่าแต่ว่าเถอะ ไหนเธอบอกว่าที่นี่มีแต่อันตรายไง”กายขัด ซิเรียซึ่งกำลังจะอธิบายเรื่องแผนการในการเดินทางครั้งนี้
“อันตรายน่ะ ไม่ใช่ตอนเข้ามาหรอก แต่.....”ซิเรียนิ่งไปครู่หนึ่ง พร้อมกับทำสีหน้าไม่สบายใจเล็กน้อย
“ตอนออกไปต่างหากที่อันตราย”แซกซีรัสเสริมในสิ่งที่ซิเรียพูดไม่จบ ทำให้สีหน้าของคณะเดินทางดูย่ำแย่ลงไปอีก
“ผู้เฝ้าปแระตูมีทั้งหมดห้าคน จะประจำตำแหน่งห้าจุด ซึ่งมีประตูชั้นที่หนึ่ง ถึงชั้นที่ห้าซึ่งเป็นทางออก”ซิเรียอธิบายให้ทุกคนฟัง หญิงสาวหยิบบางอย่างออกมาจากกระเป๋าเสื้อขอเธอ มันเป็นก้อนกลมๆบางอย่างที่ทำมาจากแก้วสามารถมองทะลุผ่านได้ ตรงแกนกลางมีนาฬิกาทรายเรือนเล็กๆ ถูกหลอมติดกับก้อนๆกลมนั้น ซิเรียหยิบมันวางลงบนโต๊ะ
“หลังจากนี้อีกสี่วันเราต้องไปให้ถึงหมู่เกาะเทนให้ทันก่อนเกิดสุริยุปราคา ทุกคนรับทราบนะ”ซิเรียบอกแก่ทุกคน และทันใดนั้นนาฬิกาทรายที่วางอยู่บนโต๊ะก็เริ่มมีทรายสีน้ำตาลไหลลงมาอย่างช้าๆ
“ทรายนี่จะหมดลงเมื่อสุริยุปราคาที่หมู่เกาะเทนเกิด เพราะฉะนั้นเราจำเป็นต้องรีบออกเดินทางเดี่ยวนี้”ซิเรียบอกกับทุกคนและเริ่มเดินนำทุกคนไป
“เดี่ยวก่อนสิคะพี่  รีเซ่ไม่อยู่ที่นี่ค่ะ!!”แองจี้แย้งขึ้นมา ก่อนที่ซิเรียจะเดินออกจากประตูไป
“เอาอีกแล้ว!! เราคงต้องรอผู้ถูกเลือกอีกล่ะสิ  เฮ้อ.....ให้ตาย”ซิเรียถอนหายใจพร้อมกับนั่งลงบนโซฟาสีน้ำตาลที่เข้ากับโต๊ะ แต่ดันไม่เข้ากับห้องที่เป็นสีขาวสะอาดตาเอาซะเลย
..............................................................
ตุบ!!
ร่างของรีเซ่ร่วงลงมากระแทกพื้นหินอย่างแรง ทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกเจ็บที่ก้นกบอย่างมาก แต่แทนที่เขาจะสนใจกับความเจ็บปวดเด็กหนุ่มกลับสนใจในสิ่งที่อยู่ข้างหน้าแทน
“ที่นี่มัน.....บราบิแกน” รีเซ่อุทานออกมาโดยที่ตนไม่ได้ตั้งใจ คงเป็นเพราะสถานที่เบื้องหน้าเขาคือ เมืองที่กำลังลุกเป็นไฟสีแดงฉานดั่งนรกแตก  ทันใดนั้นมีชายผมสีแดงรีบวิ่งอย่างเอาเป็นเอาตายออกมาจากตรอกข้างๆกับรีเซ่  ทำให้เด็กหนุ่มรู้ในทันทีว่าชายคนนั้นคือพ่อของเขา  เพราะหน้าตาของพ่อของพ่อของเด็กหนุ่มนั้นอยู่ในจิดใจตลอดมา
“พ่อ!!”รีเซ่ร้องเรียก แต่ชายคนนั้นกลับวิ่งไปอย่างรวดเร็ว รีเซ่รีบวิ่งไล่ตามเขาไป ทั้งสองวิ่งผ่านสี่แยกซึ่งมีกองกำลังของฝ่ายทหารแบ่งแยกดินแดงขวางอยู่สามสี่คน ชายผมแดงวิ่งฝ่าออกไปอย่างรวดเร็ว ในขณะที่เขาวิ่งผ่านทหารเหล่านั้น เขาก็ได้ใช้ดาบผ่าร่างของทหารเหล่านั้นจนสิ้นใจ ทิ้งร่างที่ไร้วิญญาณของพวกทหารไว้อย่างไม่แยแส  ชายผมแดงยังวิ่งไม่หยุดจนมาถึงสุดทางที่เป็นสี่แยก ซึ่งมีทหารจำนวนสิบถึงสิบห้าคนยืนขวางเอาไว้
“พวกแกจงรีบล่าถอยออกไปซะ ที่นี่ไม่ที่ที่พวกแกจะบุกยึดหรือทำลายได้!!”ชายผมแดงตะโกนออกไป แต่ทหารเหล่านั้นกลับไม่ซะทกซะท้านในคำพูดที่ดูไร้น้ำหนักนั่นแม้แต่น้อย ชายผมแดงจึงวิ่งเข้าหาทหารแบ่งแยกดินแดน เขาใช้ดาบผ่าลงที่กลางหลังของทหารคนหนึ่ง ก่อนที่จะรับการโจมตีจากทหารคนอีกคนหนึ่งที่หมายเอาชีวิตเขา ชายหนุ่มสวนกลับโดยทันทำให้ทหารนายนั้นสิ้นใจอย่างรวดเร็ว 
รีเซ่ซึ่งมองดูเหตุการณ์อยู่ห่างๆ เขาพยามร้องเรียกชื่อพ่อของเขา แต่งชายคนนั้นกลับดูเหมือนว่าไม่มีใครนอกจากเขากับทหารจำจวน10-15 คน  รีเซ่จึงตัดสินใจวิ่งเขาไปใส่ทหารนายหนึ่งซึ่งอยู่ด้านหลังพ่อของเขา  เด็กหนุ่มกระโดดพุ่งเข้าใส่ร่างที่หมายเอาชีวิตพ่อของเขา แต่สิ่งที่เขาคว้าได้คืออากาศที่ว่างเปล่า ร่างของเด็กหนุ่มพุ่งผ่านทะลุทหารนายนั้นออกไปเหมือนเป็นภาพสามมิติที่ไม่สามารถแตะต้องได้ เด็กหนุ่มได้แต่ตะลึงอยู่อย่างนั้นจนเขาตั้งสติได้อีกครั้ง พ่อของเขาก็ปราบทหารทั้งหมดเป็นที่เรียบร้อย
ตุบ!! ตุบ!! ตุบ!!
เสียงฝีเท้าเล็กๆซึ่งกำลังวิ่งมาทางรีเซ่ ภาพที่เขาเห็นคือเด็ผู้ชายอายุประมาณสองขวบ วิ่งผ่านร่างของเขาไป รีเซ่ลองเพ่งพินิจชั่วครู่ เขาก็รู้ในทันทีว่าเด็กคนนั้นคือตัวเขาเองในอดีต
“พ่อฮะ!!”เด็กคนนั้นตะโกนร้องเรียกชื่อพ่อของเขาซึ่งยืนห่างออกไปเกือบห้าเมตร ชายผมแดงซึ่งถูกเรียกว่าพ่อถึงกับตะลึงเมื่อเห็นลูกชายของตนวิ่งออกมาจากผ่านสมรภูมิรบเพื่อมาหาเขา แต่แทนที่เขาจะทราบซึ้งในสิ่งที่ลูกเขาทำ เขากลับตะคอกใส่ด้วยความโมโหแต่แฝงความเป็นห่วงเอาไว้
“รีเซ่!!  พ่อบอกว่าอย่าออกมาไงแล้วแม่กับน้องสาวลูกล่ะ!!”ชายผมแดงตะคอกใส่เด็กชายที่อยู่ห่างออกไป
“ผมแค่เป็นห่วงพ่อ!!”เด็กชายผมสีเทากล่าวออกไปพร้อมกับน้ำที่คลอเบ้า แต่ยังไม่ไหลรินลงมา
“ลูกทิ้งแม่กับน้องมาเพื่อตามหาพ่ออย่างงั้นนะรึ!!ถ้าแม่กับน้องเป็นอะไรไปล่ะก็ ลูกอาจจะไม่ได้อยู่กับพ่อหรือแม่ หรือแม้แต่น้องสาวของลูกนะ!!”คำพูดที่ชายผมแดงพูดออกมานั้นสอดคล้องกับความทรงจำของรีเซ่เป็นอย่างมาก เด็กหนุ่มยังคงเฝ้าดูเหตุการณ์เบื้องหน้าต่อไป และเขารู้ว่าอีกไม่นานเหตุการณ์ที่เขาอยากรู้ก็จะมาถึง
ฟุบ!!
ร่างของชายในชุดผ้าคลุมพุ่งดิ่งลงจากหลังคาตึกที่สูงถึงสามชั้น  ในจุดนี้ทำให้รีเซ่จับผิดได้ในทันที  นั่นก็คือชายในชุดผ้าคลุมนั่นคือรีนีคัส แต่กลับกลายเป็นพี่ชายของเขาที่โตเต็มไวแล้วเหมือนกับตอนที่เขาเจอในบราบิแกนคราวก่อน และแทนที่จะอายุเพียงสิบปี  แต่เขากลับดูหนุ่มแน่นเหมือนอายุยี่สิบเก้า  รีนีคัสพุ่งตรงไปยังเด็กหนุ่มผมสีเทาอย่างรวดเร็ว และ......
ฟ้าว!!
รีเซ่ซึ่งกำลังลุ้นอยู่กับเหตุการณืข้างหน้าก็ต้องหยุดชะงักลง เพราะภาพเหตุการณ์ข้างหน้ากำลังจางหายไป และทุกๆสิ่งรอบตัวของเขาค่อยจางลงจนหายไปหมดเหลือไว้แต่สภาพแวดล้อมสีขาวดั่งเดิม  ทันใดนั้นมีข้อความปรากฏขึ้นตรงหน้าเขาได้ใจความว่า ‘ข้อมูลถูกจำกัด ขออภัยเป็นอย่างสูง’ เด็กหนุ่มรู้สึกหัวเสียกับข้อความนั้น เพราะเขายังค้างคาใจอยู่กับเหตุการณ์เมื่อครู่ และภาพสีขาวก็กลับสู่สภาพของห้องโถงขนาดใหญ่ที่มีตู้เอกสารจำนวนมากอีกครั้ง เด็กหนุ่มเสียการทรงตัวจนพลาดล้มลงกับพื้น ด้วยความมึนงงเขาจึงยังคงนั่งอยู่อย่างนั้น จนนิวม่าซึ่งยืนรอเขาตลอดเวลาฉุดร่างของเขาขึ้นมา
“เป็นยังไงบ้าง”นิวม่าเอ่ยถาม แต่สีหน้าของเธอกลับดูไม่ดีเท่าที่ควร
“ข้อมูลถูกจำกัดไปช่วงนึง”รีเซ่ตอบเรียบเพราะตอนนี้ในหัวยังมีแต่เรื่องเมื่ครู่ จนไม่สังเกตุสีหน้าของนิวม่าซึ่งดูกังวลกับเรื่องที่ผ่านมา
“ทำไมข้อมูลถึงถูกจำกัดล่ะครับ” รีเซ่ถามหญิงสาว ทำให้เธอสะดุ้งเล็กน้อยแต่ก็กลับสู่สภาพปรกติอีกครั้ง
“ชั้นก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน”นิวม่าตอบออกไปแต่สีหน้าของเธอกลับดูเหมือนว่าโกหกหน้าตาเฉย
“เอ่อ...พวกเพื่อนเธอคงเป็นห่วงกันแย่แล้ว”เธอบอกกับรีเซ่พร้อมกับเดินนำออกไป รีเซ่ได้แต่ยืนงงอยู่อย่างนั้น จนเมื่อเขาตั้งสติได้อีกครั้งจึงรู้ว่าเขาไปสายแล้ว
.......................................
ห้องโถง
“โอยยย ไม่ไหวแล้วๆ ชั้นทนรอไม่ไหวแล้วนะ ถ้ากลับมาเมื่อไรล่ะก็ชั้นจะอัดให้เละเลย”ซิเรียพูดด้วยความโมโห และคนอื่นก็พยักหน้ารับหมือนกับว่าเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง
ปัง!!
เสียงผลักประตูดังออกมาจากทางประตูห้องโถง ทำให้ทุกคนหันควับไปมอง สิ่งที่พวกเขาเห็นคือรีเซ่ที่กำลังหอบแฮ่กๆ ยืนเกาะประตูอยู่
“แฮ่ก....แฮ่ก...ขอโทษๆ ชั้นมาสาย คือว่าหลงทางน่ะ”รีเซ่ตอบแก้ตัวพร้อมกับยิ้มแห้งๆ แต่สายตาทุกคู่กลับมองเขาด้วยแรงอาฆาตร
กร๊อบ!!
เสียงหักข้อมือดังลั่นพร้อมกันทั่วห้อง รีเซ่จึงรู้ชะตากรรมของตนในทันที ว่าเรื่องนี้คงจะไม่จบแบบแฮปปี้เอนดิ้งแน่ๆ
ปัก!!  ผั่วะ!!  ผลัก!! ปัง!! ตุบ!!  ผั่วะ!!  ตูม    !!!!
............................................................
หลังจากที่ซัดรีเซ่จนหนำใจแล้ว พวกเขาทั้งหมดก็เตรียมตัวออกจาหห้องทิ้งร่างของรีเซ่ที่นอนปางตายอยู่บนพื้นอย่างนั้น
“โอยย...”เสียงครางออกมาด้วยความเจ็บปวดของรีเซ่ดังไปทั่วห้อง แต่ไม่มีใครพูดหรือเป็นห่วงเขาเลย
“เราเสียเวลามากแล้วต้องรีบออกจากที่นี่โดยด่วน”ซิเรียเอ่ยออกมาดังๆ ก่อนที่จะนำทุกคนในห้องออกไป เหลือไว้แต่รีเซ่ เด็กหนุ่มพยามลุกแต่ดูเหมือนว่า ร่างกายจะหมดเรี่ยวหมดแรงไปหมดแล้ว แองจี้ซึ่งออกจากห้องเป็นคนรองสุดท้าย หันกลับมาทางรีเซ่แต่แทนที่เธอจะช่วยพยุงเขาขึ้นมา เธอกลับเมินเฉยแล้วเดินปึงปังออกไปแทน ทิ้งรีเซ่ไว้ตามลำพัง
พวกเขาทั้งหมดเดินมาเรื่อยๆโดยมีรีเซ่รั้งท้าย จนมาถึงประตูบานเดิมที่เคยเข้ามาในครั้งแรก
“ถึงแล้วทางออก......”ซิเรียเอ่ยเบาๆ เธอหยุดนิ่งไปพักหนึ่ง ก่อนจะหันกลับมาสร้างความประหลาดใจให้แก่ทุกๆคน  แต่ก็ไม่มีใครถามอะไร
“ทุกคนเตรียมใจไว้แล้วใช่มั๊ย พวกเราอาจจะออกไปได้นะ........”ซิเรียเอ่ยพร้อมกับทอดถอนใจ ก่อนที่ประตูบานยักษ์จะเปิดแล้วพวกเขาทั้งหมดก็เดินเข้าไป ..
เหลือเวลาอีก 4 วันก่อนจะเกิดสุริยุปราคา
To Be Continued
..
Nakato
เง้อตอนนี้ก็จบไปแล้วอ่ะนะครับเหอะๆ หวังว่าจะมีคนมาอ่านนะ ฮือๆๆ  รู้สึกว่าช่วงนี้นิยายผมจะเงียบไปมากเลย ถ้ามีคนมาอ่านโปรดช่วยกันโพสหน่อยนะครับฮือๆๆ
ปล.คือตอนนี้ผมว่ามันยังใช้ภาษาไม่ดีอ่ะนะครับช่วยติหน่อยล่ะกัน
........................................................
Profiles Character# 5  Amily
ชื่อ:เอมิลี่ บลูโอเชี่ยน
อายุ:14
หมู้เลือด: O
เกิด: 5 กรกฎาคม 0487
ส่วนสูง/น้ำหนัก: 156 ซม. / 43 กก.
สิ่งที่ชอบ:ภูติ สัตว์ต่างๆ
สิ่งที่เกลียด:เนื้อสัตว์
สิ่งที่แพ้ทาง:ความโกรธของตัวเอง
งานอดิเรก:เล่นกับสัตว์,ภูติ
อาวุธ:ปืนภูติ (Existence Gun)
นิสัย:ร่าเริง อารมณ์แปรปวนได้ง่าย
สถานะปัจจุบัน:อยู่ในหน่วย Season White
.
“ว่า..ไงนะ”นิวม่ารู้สึกประหลาดใจมากที่ได้ยินคำถามเมื่อครู่ บรรยากาศภายในห้องดูเหมือนกับว่าทุกสิ่งทุกอย่าง หายไปหมดแม้แต่อากาศ ทำให้หญิงสาวรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย
“ผมต้องการจะรู้ว่า อดีตของผมเป็นยังไง”รีเซ่ทวนอีกครั้ง สายตาของเด็กหนุ่มดูน่ากลัวกว่าที่คิด ทำให้นิวม่าเสียวสันหลังวูบเหมือนมีมือเย็นมาแตะข้างหลังเธอ
“ก็ได้.....ถ้าเธอต้องการ แต่อดีตของเธอถูกจำกัดเอาไว้ อยู่ช่วงหนึ่งนะ เป็นช่วงที่เธอจะไม่สามารถดู หรือตรวจสอบได้ในตอนนี้”นิวม่าพูดพร้อมกับถอนหายใจเบาๆ และก้าวเดินนำรีเซ่ออกจากห้องของเธอผ่านประตูบานๆเล็กสีทอง ไปตามทางเดินที่พวกเขาเข้ามาในตอนแรก เธอเลี้ยวผ่านทางแยกสีขาวสะอาดตา รีเซ่ตามเธอมาติดๆ จนมาถึงบันไดเวียนขนาดย่อมๆ ที่สูงขึ้นไปจนสุดเพดาน  (สูงมาก เพดานสูงตั้ง 500กว่าชั้น)
“ข้อมูลและประวัติของเธออยู่ที่ชั้น สิบสาม”นิวม่าเอ่ยออกมาเป็นการบอกให้รีเซ่รู้ว่าเขาอาจจะพบกับเรื่องร้ายๆก็ได้ถ้าไปดูอดีตของตัวเอง แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรมากแค่บ่นพึมพำเบาๆว่า ‘สิบสามเลขสวยดีนิ’ พวกเขาทั้งสองเดินขึ้นไปเรื่อยจนถึงชั้นสิบสาม มีป้ายเขียนไว้ว่า ‘ชั้นสิบสาม ประวัติบุคคลสำคัญ’รีเซ่เลิกคิ้ว ก่อนที่จะก้าวเข้าไป
ภายในชั้นมีพื้นที่ที่กว่างขวางมากๆ ตู้เก็บเอกสารจำนวนนับไม่ถ้วนถูกเรียงรายไว้รอบชั้น ตรงกลางเป็นรูขนาดใหญ่ที่เจาะให้เห็นพื้นของชั้นที่หนึ่ง ส่วนเพดานก็ถูกเจาะให้มองเห็นชั้นต่อๆไป  นิวม่าเดินนำรีเซ่ไปจนถึงจุดที่เป็นตู้เก็บเอกสารที่มีชื่อของเด็กหนุ่มติดไว้ ‘ผู้ถูกเลือก รีเซ่ แกรนเทียร์’ นิวม่าเอื้อมเตรียมที่จะเปิดลิ้นชัก แต่เธอหยุดชะงักแล้วหันกลับไปมองรีเซ่
“เธอแน่ใจนะ รีเซ่ แกรนเทียร์”นิวม่าถามย้ำรีเซ่ เด็กหนุ่มพยักหน้าด้วยความตั้งใจ นิวม่าค่อยๆเอื้อมไปเปิดลิ้นชัก หญิงสาวค่อยเลื่อนมันออกมาอย่างช้าๆ 
“ชั้นจะไม่เข้าไปกับเธอนะ”นิวม่าพูด แต่ก่อนที่รีเซ่จะได้ทันถามเธอว่าทำไม ก็เกิดแสงสว่างสีขาวพุ่งเข้าใสเด็กหนุ่ม ภาพเบื้องหน้าของชั้นที่สิบสามที่เขาอยู่กับนิวม่าถูกเปลี่ยน เป็นห้องสีขาวที่มีตัวอักษรบางอย่างปรากฏขึ้นมาตรงหน้าเขา มันค่อยๆเรียงตัวอย่างช้าๆ จนได้ความว่า ‘โปรดเลือกช่วงเหตุการณ์’
“สงครามกลางเมืองที่บราบิแกน”รีเซ่ตอบอย่างฉับไว เกิดการเรียงตัวอักษรอีกครั้ง จนได้ความว่า ’โปรดรอสักครู่’ ทันใดนั้นเกิดแสงสว่างอีกครั้ง เด็กหนุ่มหลับตาสนิท เพราะแสงที่จ้ามากเหมือนแสงสปอร์ตไลท์ส่องใส่ตาระยะ 1เมตร และทุกอย่างก็เริ่มเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว
ฟ้าวววว!!
....................................................
“เราเหลือเวลาอีกแค่สี่วัน เท่านั้น”ซิเรียเอ่ยขึ้นกับทุกคน ในขณะที่กายวางแผนที่ขนาดใหญ่ลงบนโต๊ะสีน้ำตาลแบบไม้เก่า
“ว่าแต่ว่าเถอะ ไหนเธอบอกว่าที่นี่มีแต่อันตรายไง”กายขัด ซิเรียซึ่งกำลังจะอธิบายเรื่องแผนการในการเดินทางครั้งนี้
“อันตรายน่ะ ไม่ใช่ตอนเข้ามาหรอก แต่.....”ซิเรียนิ่งไปครู่หนึ่ง พร้อมกับทำสีหน้าไม่สบายใจเล็กน้อย
“ตอนออกไปต่างหากที่อันตราย”แซกซีรัสเสริมในสิ่งที่ซิเรียพูดไม่จบ ทำให้สีหน้าของคณะเดินทางดูย่ำแย่ลงไปอีก
“ผู้เฝ้าปแระตูมีทั้งหมดห้าคน จะประจำตำแหน่งห้าจุด ซึ่งมีประตูชั้นที่หนึ่ง ถึงชั้นที่ห้าซึ่งเป็นทางออก”ซิเรียอธิบายให้ทุกคนฟัง หญิงสาวหยิบบางอย่างออกมาจากกระเป๋าเสื้อขอเธอ มันเป็นก้อนกลมๆบางอย่างที่ทำมาจากแก้วสามารถมองทะลุผ่านได้ ตรงแกนกลางมีนาฬิกาทรายเรือนเล็กๆ ถูกหลอมติดกับก้อนๆกลมนั้น ซิเรียหยิบมันวางลงบนโต๊ะ
“หลังจากนี้อีกสี่วันเราต้องไปให้ถึงหมู่เกาะเทนให้ทันก่อนเกิดสุริยุปราคา ทุกคนรับทราบนะ”ซิเรียบอกแก่ทุกคน และทันใดนั้นนาฬิกาทรายที่วางอยู่บนโต๊ะก็เริ่มมีทรายสีน้ำตาลไหลลงมาอย่างช้าๆ
“ทรายนี่จะหมดลงเมื่อสุริยุปราคาที่หมู่เกาะเทนเกิด เพราะฉะนั้นเราจำเป็นต้องรีบออกเดินทางเดี่ยวนี้”ซิเรียบอกกับทุกคนและเริ่มเดินนำทุกคนไป
“เดี่ยวก่อนสิคะพี่  รีเซ่ไม่อยู่ที่นี่ค่ะ!!”แองจี้แย้งขึ้นมา ก่อนที่ซิเรียจะเดินออกจากประตูไป
“เอาอีกแล้ว!! เราคงต้องรอผู้ถูกเลือกอีกล่ะสิ  เฮ้อ.....ให้ตาย”ซิเรียถอนหายใจพร้อมกับนั่งลงบนโซฟาสีน้ำตาลที่เข้ากับโต๊ะ แต่ดันไม่เข้ากับห้องที่เป็นสีขาวสะอาดตาเอาซะเลย
..............................................................
ตุบ!!
ร่างของรีเซ่ร่วงลงมากระแทกพื้นหินอย่างแรง ทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกเจ็บที่ก้นกบอย่างมาก แต่แทนที่เขาจะสนใจกับความเจ็บปวดเด็กหนุ่มกลับสนใจในสิ่งที่อยู่ข้างหน้าแทน
“ที่นี่มัน.....บราบิแกน” รีเซ่อุทานออกมาโดยที่ตนไม่ได้ตั้งใจ คงเป็นเพราะสถานที่เบื้องหน้าเขาคือ เมืองที่กำลังลุกเป็นไฟสีแดงฉานดั่งนรกแตก  ทันใดนั้นมีชายผมสีแดงรีบวิ่งอย่างเอาเป็นเอาตายออกมาจากตรอกข้างๆกับรีเซ่  ทำให้เด็กหนุ่มรู้ในทันทีว่าชายคนนั้นคือพ่อของเขา  เพราะหน้าตาของพ่อของพ่อของเด็กหนุ่มนั้นอยู่ในจิดใจตลอดมา
“พ่อ!!”รีเซ่ร้องเรียก แต่ชายคนนั้นกลับวิ่งไปอย่างรวดเร็ว รีเซ่รีบวิ่งไล่ตามเขาไป ทั้งสองวิ่งผ่านสี่แยกซึ่งมีกองกำลังของฝ่ายทหารแบ่งแยกดินแดงขวางอยู่สามสี่คน ชายผมแดงวิ่งฝ่าออกไปอย่างรวดเร็ว ในขณะที่เขาวิ่งผ่านทหารเหล่านั้น เขาก็ได้ใช้ดาบผ่าร่างของทหารเหล่านั้นจนสิ้นใจ ทิ้งร่างที่ไร้วิญญาณของพวกทหารไว้อย่างไม่แยแส  ชายผมแดงยังวิ่งไม่หยุดจนมาถึงสุดทางที่เป็นสี่แยก ซึ่งมีทหารจำนวนสิบถึงสิบห้าคนยืนขวางเอาไว้
“พวกแกจงรีบล่าถอยออกไปซะ ที่นี่ไม่ที่ที่พวกแกจะบุกยึดหรือทำลายได้!!”ชายผมแดงตะโกนออกไป แต่ทหารเหล่านั้นกลับไม่ซะทกซะท้านในคำพูดที่ดูไร้น้ำหนักนั่นแม้แต่น้อย ชายผมแดงจึงวิ่งเข้าหาทหารแบ่งแยกดินแดน เขาใช้ดาบผ่าลงที่กลางหลังของทหารคนหนึ่ง ก่อนที่จะรับการโจมตีจากทหารคนอีกคนหนึ่งที่หมายเอาชีวิตเขา ชายหนุ่มสวนกลับโดยทันทำให้ทหารนายนั้นสิ้นใจอย่างรวดเร็ว 
รีเซ่ซึ่งมองดูเหตุการณ์อยู่ห่างๆ เขาพยามร้องเรียกชื่อพ่อของเขา แต่งชายคนนั้นกลับดูเหมือนว่าไม่มีใครนอกจากเขากับทหารจำจวน10-15 คน  รีเซ่จึงตัดสินใจวิ่งเขาไปใส่ทหารนายหนึ่งซึ่งอยู่ด้านหลังพ่อของเขา  เด็กหนุ่มกระโดดพุ่งเข้าใส่ร่างที่หมายเอาชีวิตพ่อของเขา แต่สิ่งที่เขาคว้าได้คืออากาศที่ว่างเปล่า ร่างของเด็กหนุ่มพุ่งผ่านทะลุทหารนายนั้นออกไปเหมือนเป็นภาพสามมิติที่ไม่สามารถแตะต้องได้ เด็กหนุ่มได้แต่ตะลึงอยู่อย่างนั้นจนเขาตั้งสติได้อีกครั้ง พ่อของเขาก็ปราบทหารทั้งหมดเป็นที่เรียบร้อย
ตุบ!! ตุบ!! ตุบ!!
เสียงฝีเท้าเล็กๆซึ่งกำลังวิ่งมาทางรีเซ่ ภาพที่เขาเห็นคือเด็ผู้ชายอายุประมาณสองขวบ วิ่งผ่านร่างของเขาไป รีเซ่ลองเพ่งพินิจชั่วครู่ เขาก็รู้ในทันทีว่าเด็กคนนั้นคือตัวเขาเองในอดีต
“พ่อฮะ!!”เด็กคนนั้นตะโกนร้องเรียกชื่อพ่อของเขาซึ่งยืนห่างออกไปเกือบห้าเมตร ชายผมแดงซึ่งถูกเรียกว่าพ่อถึงกับตะลึงเมื่อเห็นลูกชายของตนวิ่งออกมาจากผ่านสมรภูมิรบเพื่อมาหาเขา แต่แทนที่เขาจะทราบซึ้งในสิ่งที่ลูกเขาทำ เขากลับตะคอกใส่ด้วยความโมโหแต่แฝงความเป็นห่วงเอาไว้
“รีเซ่!!  พ่อบอกว่าอย่าออกมาไงแล้วแม่กับน้องสาวลูกล่ะ!!”ชายผมแดงตะคอกใส่เด็กชายที่อยู่ห่างออกไป
“ผมแค่เป็นห่วงพ่อ!!”เด็กชายผมสีเทากล่าวออกไปพร้อมกับน้ำที่คลอเบ้า แต่ยังไม่ไหลรินลงมา
“ลูกทิ้งแม่กับน้องมาเพื่อตามหาพ่ออย่างงั้นนะรึ!!ถ้าแม่กับน้องเป็นอะไรไปล่ะก็ ลูกอาจจะไม่ได้อยู่กับพ่อหรือแม่ หรือแม้แต่น้องสาวของลูกนะ!!”คำพูดที่ชายผมแดงพูดออกมานั้นสอดคล้องกับความทรงจำของรีเซ่เป็นอย่างมาก เด็กหนุ่มยังคงเฝ้าดูเหตุการณ์เบื้องหน้าต่อไป และเขารู้ว่าอีกไม่นานเหตุการณ์ที่เขาอยากรู้ก็จะมาถึง
ฟุบ!!
ร่างของชายในชุดผ้าคลุมพุ่งดิ่งลงจากหลังคาตึกที่สูงถึงสามชั้น  ในจุดนี้ทำให้รีเซ่จับผิดได้ในทันที  นั่นก็คือชายในชุดผ้าคลุมนั่นคือรีนีคัส แต่กลับกลายเป็นพี่ชายของเขาที่โตเต็มไวแล้วเหมือนกับตอนที่เขาเจอในบราบิแกนคราวก่อน และแทนที่จะอายุเพียงสิบปี  แต่เขากลับดูหนุ่มแน่นเหมือนอายุยี่สิบเก้า  รีนีคัสพุ่งตรงไปยังเด็กหนุ่มผมสีเทาอย่างรวดเร็ว และ......
ฟ้าว!!
รีเซ่ซึ่งกำลังลุ้นอยู่กับเหตุการณืข้างหน้าก็ต้องหยุดชะงักลง เพราะภาพเหตุการณ์ข้างหน้ากำลังจางหายไป และทุกๆสิ่งรอบตัวของเขาค่อยจางลงจนหายไปหมดเหลือไว้แต่สภาพแวดล้อมสีขาวดั่งเดิม  ทันใดนั้นมีข้อความปรากฏขึ้นตรงหน้าเขาได้ใจความว่า ‘ข้อมูลถูกจำกัด ขออภัยเป็นอย่างสูง’ เด็กหนุ่มรู้สึกหัวเสียกับข้อความนั้น เพราะเขายังค้างคาใจอยู่กับเหตุการณ์เมื่อครู่ และภาพสีขาวก็กลับสู่สภาพของห้องโถงขนาดใหญ่ที่มีตู้เอกสารจำนวนมากอีกครั้ง เด็กหนุ่มเสียการทรงตัวจนพลาดล้มลงกับพื้น ด้วยความมึนงงเขาจึงยังคงนั่งอยู่อย่างนั้น จนนิวม่าซึ่งยืนรอเขาตลอดเวลาฉุดร่างของเขาขึ้นมา
“เป็นยังไงบ้าง”นิวม่าเอ่ยถาม แต่สีหน้าของเธอกลับดูไม่ดีเท่าที่ควร
“ข้อมูลถูกจำกัดไปช่วงนึง”รีเซ่ตอบเรียบเพราะตอนนี้ในหัวยังมีแต่เรื่องเมื่ครู่ จนไม่สังเกตุสีหน้าของนิวม่าซึ่งดูกังวลกับเรื่องที่ผ่านมา
“ทำไมข้อมูลถึงถูกจำกัดล่ะครับ” รีเซ่ถามหญิงสาว ทำให้เธอสะดุ้งเล็กน้อยแต่ก็กลับสู่สภาพปรกติอีกครั้ง
“ชั้นก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน”นิวม่าตอบออกไปแต่สีหน้าของเธอกลับดูเหมือนว่าโกหกหน้าตาเฉย
“เอ่อ...พวกเพื่อนเธอคงเป็นห่วงกันแย่แล้ว”เธอบอกกับรีเซ่พร้อมกับเดินนำออกไป รีเซ่ได้แต่ยืนงงอยู่อย่างนั้น จนเมื่อเขาตั้งสติได้อีกครั้งจึงรู้ว่าเขาไปสายแล้ว
.......................................
ห้องโถง
“โอยยย ไม่ไหวแล้วๆ ชั้นทนรอไม่ไหวแล้วนะ ถ้ากลับมาเมื่อไรล่ะก็ชั้นจะอัดให้เละเลย”ซิเรียพูดด้วยความโมโห และคนอื่นก็พยักหน้ารับหมือนกับว่าเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง
ปัง!!
เสียงผลักประตูดังออกมาจากทางประตูห้องโถง ทำให้ทุกคนหันควับไปมอง สิ่งที่พวกเขาเห็นคือรีเซ่ที่กำลังหอบแฮ่กๆ ยืนเกาะประตูอยู่
“แฮ่ก....แฮ่ก...ขอโทษๆ ชั้นมาสาย คือว่าหลงทางน่ะ”รีเซ่ตอบแก้ตัวพร้อมกับยิ้มแห้งๆ แต่สายตาทุกคู่กลับมองเขาด้วยแรงอาฆาตร
กร๊อบ!!
เสียงหักข้อมือดังลั่นพร้อมกันทั่วห้อง รีเซ่จึงรู้ชะตากรรมของตนในทันที ว่าเรื่องนี้คงจะไม่จบแบบแฮปปี้เอนดิ้งแน่ๆ
ปัก!!  ผั่วะ!!  ผลัก!! ปัง!! ตุบ!!  ผั่วะ!!  ตูม    !!!!
............................................................
หลังจากที่ซัดรีเซ่จนหนำใจแล้ว พวกเขาทั้งหมดก็เตรียมตัวออกจาหห้องทิ้งร่างของรีเซ่ที่นอนปางตายอยู่บนพื้นอย่างนั้น
“โอยย...”เสียงครางออกมาด้วยความเจ็บปวดของรีเซ่ดังไปทั่วห้อง แต่ไม่มีใครพูดหรือเป็นห่วงเขาเลย
“เราเสียเวลามากแล้วต้องรีบออกจากที่นี่โดยด่วน”ซิเรียเอ่ยออกมาดังๆ ก่อนที่จะนำทุกคนในห้องออกไป เหลือไว้แต่รีเซ่ เด็กหนุ่มพยามลุกแต่ดูเหมือนว่า ร่างกายจะหมดเรี่ยวหมดแรงไปหมดแล้ว แองจี้ซึ่งออกจากห้องเป็นคนรองสุดท้าย หันกลับมาทางรีเซ่แต่แทนที่เธอจะช่วยพยุงเขาขึ้นมา เธอกลับเมินเฉยแล้วเดินปึงปังออกไปแทน ทิ้งรีเซ่ไว้ตามลำพัง
พวกเขาทั้งหมดเดินมาเรื่อยๆโดยมีรีเซ่รั้งท้าย จนมาถึงประตูบานเดิมที่เคยเข้ามาในครั้งแรก
“ถึงแล้วทางออก......”ซิเรียเอ่ยเบาๆ เธอหยุดนิ่งไปพักหนึ่ง ก่อนจะหันกลับมาสร้างความประหลาดใจให้แก่ทุกๆคน  แต่ก็ไม่มีใครถามอะไร
“ทุกคนเตรียมใจไว้แล้วใช่มั๊ย พวกเราอาจจะออกไปได้นะ........”ซิเรียเอ่ยพร้อมกับทอดถอนใจ ก่อนที่ประตูบานยักษ์จะเปิดแล้วพวกเขาทั้งหมดก็เดินเข้าไป ..
เหลือเวลาอีก 4 วันก่อนจะเกิดสุริยุปราคา
To Be Continued
..
Nakato
เง้อตอนนี้ก็จบไปแล้วอ่ะนะครับเหอะๆ หวังว่าจะมีคนมาอ่านนะ ฮือๆๆ  รู้สึกว่าช่วงนี้นิยายผมจะเงียบไปมากเลย ถ้ามีคนมาอ่านโปรดช่วยกันโพสหน่อยนะครับฮือๆๆ
ปล.คือตอนนี้ผมว่ามันยังใช้ภาษาไม่ดีอ่ะนะครับช่วยติหน่อยล่ะกัน
........................................................
Profiles Character# 5  Amily
ชื่อ:เอมิลี่ บลูโอเชี่ยน
อายุ:14
หมู้เลือด: O
เกิด: 5 กรกฎาคม 0487
ส่วนสูง/น้ำหนัก: 156 ซม. / 43 กก.
สิ่งที่ชอบ:ภูติ สัตว์ต่างๆ
สิ่งที่เกลียด:เนื้อสัตว์
สิ่งที่แพ้ทาง:ความโกรธของตัวเอง
งานอดิเรก:เล่นกับสัตว์,ภูติ
อาวุธ:ปืนภูติ (Existence Gun)
นิสัย:ร่าเริง อารมณ์แปรปวนได้ง่าย
สถานะปัจจุบัน:อยู่ในหน่วย Season White
.
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น