คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ห้าผู้พิทักษ์ปราการตะวันออก
รุ่งเช้าฉันและซายูริถูกคุณซูซูกิเอามาส่งที่วังตั้งแต่ 7 โมงเช้า สำหรับตัวเองน่ะ ฉันรู้ว่ามาที่นี่ทำไม แต่ซายูรินี่สิ เธอมาที่นี่ด้วยทำไมกัน ผู้หญิงสวย ๆ น่ารัก ๆ อย่างเธอน่าจะอยู่ที่บ้าน ไม่สิ อยู่ในกรงทองถึงจะถูก ขณะที่ฉันนั่งตัวแข็ง เพราะคุณซูซูกิบอกว่าห้ามแตะต้องอะไรเด็ดขาด เพราะอาจทำมันเสียหายอยู่นั่นเอง ซายูริก็โปรยยิ้มมาให้กับฉัน
“ไม่ต้องเกร็งหรอกเร”
“อ่ะ...เอ่อ...เปล่าๆ ฉันแค่ไม่ค่อยชินเท่านั้นแหละ ว่าแต่...นี่เธออุตส่าห์มานั่งอยู่ในห้องนี้เป็นเพื่อนฉันหรอ”
ฉันพูดพร้อมแอบยิ้มในใจ
“แน่นอนน่ะสิ...ก็วันนี้เป็นวันประกาศตำแหน่งนี่นา”
“ประกาศตำแหน่ง...เธอด้วยหรอ”
“ใช่...ตระกูลของฉันเป็นตระกูลอัศวินนะ ลูกหลานทุกคนก็เข้าวังถวายอารักษ์ขากันหมด รวมทั้งฉันด้วย”
“จริงหรอ...คนสวย ๆ อย่างเธอเนี้ยนะ”
“แล้วทำไมล่ะ”
อุ้ย...หลุดปากแฮะ...ดันชมเธอว่าสวยแบบออกหน้าออกตาแบบนี้ เขินเหมือนกันนะเนี้ย แต่ว่า...ซายูริเองก็เอียงหน้าหนีอย่างเขินอายเหมือนกัน
ไม่นาน ประตูห้องที่เรานั่งอยู่ก็เปิดออก ผู้ชายอายุราว ๆ 40 ปีที่แต่งกายด้วยชุดทหารสวยงาม เดินเข้ามาในห้อง พร้อมกับผู้หญิงอีก 2 คน เธอมานั่งใกล้ๆ ฉันกับซายูริ ส่วนผู้ชายคนนั้นไปนั่งที่หัวโต๊ะ
“อ้า...มากันครบแล้วสินะสำหรับผู้ที่จะไปอารักษ์ขาปราการตะวันออก”
“ยังหรอกค่ะ...ยังขาดอีกหนึ่ง คนสำคัญซะด้วย”
ซายูริพูดขึ้นแล้วยิ้มให้กับชายคนนั้น
“อ้อ...ลืมไป คำสั่งเพิ่งจะมาเมื่อคืน เลยไม่รู้จำนวนที่แน่นอน”
สิ้นคำพูดของชายคนนั้นห้องก็ตกอยู่ในความเงียบ แล้วเสียงหนึ่งก็ดังมาเบา ๆ จากด้านนอก
“ฉันบอกนายเป็นล้านครั้งว่าให้ปลุกฉันด้วย”
“กระหม่อมก็ปลุกท่านเป็นล้านครั้งแล้วเหมือนกัน”
“แล้วแบบนี้ใครโดนด่าล่ะเนี้ย”
“ท่านก็ซัดทอดกระหม่อมทุกทีนั้นแหละ”
พร้อมกับที่ซายูริเดินไปเปิดประตู ผู้ชาย 2 คนกำลังยืนอยู่ที่หน้าประตู ชายคนสูงยิ้มให้ซายูริก่อนที่จะเดินผ่านประตูเข้ามา ชายอีกคนก็เอื้อมมือปลดผ้าคลุมไหล่สีแดงเลือดหมูออกให้กับเขา เผยให้เห็นชุดสีน้ำเงินเข้มที่ตัดเย็บอย่างประณีตที่สวยงาม เขานั่งลงติดกับซายูริ
“เธอรู้ด้วยหรอว่าเป็นฉัน”
“จะไม่รู้ได้ยังไง เล่นสายซะขนาดนี้”
“เอ่อ...ขออนุญาตนะครับ...”
ชายในชุดทหารหันไปพูดกับคนทัน 2 ก่นจะเริ่มหัวข้อของเขา
“จากการประชุมเพื่อสรรค์หายอดนักสู้เข้าประจำการในตำแหน่งต่าง ๆ สรุปได้ว่า ผู้ที่รับตำแหน่งอารักษ์ขาปราการตะวันออกได้แก่ หนึ่งท่านไซเซนซาอิ สองซูซูกิ ซายูริ สามคิซาโนะ อากิ สี่คุทาบิ มูมู่ และห้าโทคิมูระ เร เริ่มเดินทางในบ่ายวันนี้ ขอให้ทุกคนโชคดีกับปราการที่ต้องการนักสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดใน 4 ทิศ”
เมื่อประกาศจบชายในชุดทหารก็เดินออกจาห้องไปโดยไม่สนใจใยดีพวกเรา
และแล้วคนทั้ง 5 ก็เริ่มทำความรู้จักซึ่งกันและกัน แต่ของฉันน่ะสบายหน่อย เพราะรู้จักกับซายูริกับท่านชายไซเซนซาอินั่นมาก่อนแล้ว จะว่าไป...พอเห็นท่านชายนั่นใกล้ๆ ฉันก็รู้ซะแล้วว่าหมอนี่เป็นคู่แข่งที่น่ากลัวจริง ๆ เพราะนอกจากยศถาบรรดาศักดิ์จะไม่ธรรมดาแล้ว หมอนี่ยังหน้าตาหล่อเหลา สง่างามสมกับที่เป็นท่านชายเสียจริง ๆ
“อืม...ลืมไปเร...นายจะเรียกฉันว่าไซเซนเฉย ๆ เหมือนกับที่ซายูริเรียกก็ได้นะ เมื่อวันก่อนยัยนี่ไม่ให้ฉันพูด เพราะกลัวจะโดนพ่อว่าเอา”
“อ้อ...ได้ ๆ อืม...เธอคนนั้นชื่อ อากิกับมูมู่ใช่ไหม ฉันขออนุญาตเรียกแบบนี้นะ ส่วนฉันชื่อเร”
ฉันหันไปทางผู้หญิงอีกสองคน คนหนึ่งหน้าตาสะสวย ออกทางน่ารัก ส่วนอีกคนหนึ่ง...หือ...ดูเหมือนจะเป็นเด็กอายุราว ๆ 13-14 อยู่เลย แต่ดูจากพลังเวทแล้ว ไม่แปลกเลยที่ถูกจัดเป็นนักสู้ชั้นดี พวกเธอยิ้มให้ฉันอย่างเป็นมิตร แต่คงไม่ใช่กับไซเซน เพราะเมื่อไซเซนหันไปทักทายพวกเธอบ้าง อากิกลับมีสีหน้าไม่เต็มใจนักผิดกับมูมู่จังที่ดูสดใสน่ารักตามประสาเด็ก
ขณะที่เราเดินทางด้วยรถม้าของวังซายูริกับไซเซนพูดคุยกันอยู่ตลอดทาง เดี๋ยวหัวเราะ เดี๋ยวแหย่กันเล่น ทำเอาบุคคลที่ 3 ที่นั่งอยู่ตรงนี้ใจร้อนเป็นไฟ
“เฮ้...เร ซายูริมีอะไรจะบอกน่ะ”
“จะบ้าหรอ หยุดนะ”
“โอ้ย...ยอมแล้ว ๆ ไม่บอกก็ได้ ฮ่ะ ๆ ๆ”
โชคดีที่ทหารด้านนอกเข้ามาบอกพอดีว่าถึงปราการแล้ว เพราะถ้าขืนต้องนั่งดูนานกว่านี้คงอกแตกตายแน่ เอ๊ะ...นี่ฉันชอบซายูริตั้งแต่เมื่อไหร่กันล่ะนี่ เมื่อไหร่ก็ช่างเถอะ แต่ตอนนี้สงสัยจะมีมากหัวใจซะแล้ว
เมื่อลงจากรถม้าไซเซนก็จัดการประคองผู้หญิงทุกคนลงจากรถม้า แต่เมื่อเขายื่นมือให้กับอากิ เธอกลับปฏิเสธที่จะจับมือเขา ไซเซนยิ้มพร้อมกัดริมฝีปากตัวเองแก้เขิน
“จะโดดลงเองหรือไงครับคุณผู้หญิง”
และถึงแม้ว่าหมอนั่นจะโปรยน้ำเสียงนุ่ม ๆ กับเธอ แต่เธอก็ยังไงปฏิเสธและโดดลงมาจากรถม้าเองโดยไม่สนใจเขาเลยแม้แต่น้อย อะไรกันนี่ผู้หญิงอะไรใจแข็งชะมัด
“นี่...อย่าให้เธอรู้นะว่าฉันเป็นท่านชาย”
“ทำไมล่ะ”
“เออน่า...”
ไซเซนเดินมาบอก ก่อนที่วิ่งไปขนข้าวของของพวกผู้หญิงเข้าปราการ อ้าวเฮ้ย...ฉันก็ควรทำด้วยสิจะให้หมอนั้นมาโชว์เท่อยู่คนเดียวได้ยังไง
“เฮ้ ไซเซนรอด้วย...เอามาแบ่งฉันบ้าง”
ประตูปราการอยู่สุดขอบกำแพงเมืองพอดี ที่แท้ ปราการนี่ก็คือด่านแรกที่จะสกัดฆ่าศึกนี่เอง ประตูของปราการใหญ่เกือบเท่ากับประตูเมืองใหญ่ที่ด้านหน้า พวกเรามาหยุดยืนอยู่หน้าประตูก่อนที่ไซเซนจะจัดการเคาะประตู แล้วประตูก็เปิดออก เผยให้เห็นปราการสีขาวที่สวยงามพร้อมสวนกว้างขวาง มีชายร่างใหญ่ราว ๆ 2 เมตรกว่ายืนรอเราอยู่ที่ด้านใน
“ยินดีต้อนรับ...ข้าโยอิน นายทวารแห่งปราการตะวันออก”
“สวัสดีครับ พวกเราก็มีซายูริ อากิ มูมู่ เร แล้วฉันไซเซน”
ไซเซนแนะนำทุกคนเสร็จสรรพ แล้วเดินนำทุกคนเข้าปราการ
“ว้าว...กว้างจัง ทีแรกนึงว่าจะดูอับ ๆ ซะอีก น่าอยู่กว่าบ้านฉันอีก ไม่มีคนมาพันแข้งพันขาด้วย”
ไซเซนยืนหมุนมองไปรอบ ๆ ก่อนจะตะโกนเล่นเสียงก้อง ๆ จากผนัง เหมือนกับไม่เคยเห็นมันมาก่อน นี่ชีวิตการเป็นท่านชายนี่มันอึดอัดขนาดนั้นเชียวหรอ
“ไปดูห้องพักกัน”
ฉันเดินตามไซเซนขึ้นมายังชั้น 3 ของปราการ ผู้หญิงไปดูห้องพักทางด้านซ้าย ส่วนทางด้านขวาเป็นห้องพักของผู้ชาย แต่ไซเซนชวนฉันให้อยู่ห้องเดียวกับเขา ทีแรกฉันก็ไม่สู้จะเต็มใจนักเพราะห้องที่เตรียมไว้ให้หมอนั่นหรูเหลือเกิน ถ้าฉันนอนฉันคงคันแน่ ๆ แต่สุดท้ายก็สู้คารมหมอนั่นไม่ได้ต้องยอมจำนนแต่โดนดี และขณะนั่งพักอยู่ในห้องไซเซนก็ชวนฉันพูดคุย
“วันประลองนายสุดยอดมาก ฉันชอบ”
“อ๋อ...ก็แค่วิชาอะไรไม่รู้ที่ลุงของฉันสอนน่ะ”
“วิชาอะไรไม่รู้ที่ไหนกัน นั้นน่ะต้องคนที่มีพลังเวทขั้นสูงนะถึงจะปลดปล่อยพลังเวทแบบนั้นได้”
“จริงหรอ...นายพูดแบบนี้ก็แสดงว่านายเองก็คงมีพลังเวทไม่เบาเหมือนกันล่ะสิ”
“ไม่หรอก...นายจับกระแสเวทของคนอื่นได้ไม่ใช่หรอ ก็ลองเพ่งมองฉันดูสิ”
เมื่อเขาพูดจบ ฉันก็ลองทำตามที่เขาว่า พยายามจับพลังเวทของเขา แต่หน้าแปลกที่กลับจับได้แค่พลังเวทอ่อน ๆ เท่านั้น
“อ่ะ...คงมีอะไรผิดปกติล่ะมั้ง...คนอย่างนายจะมีแค่พลังเวทอ่อน ๆ แบบนี้เองหรอ”
“แค่นี้ก็พอแล้ว”
“หือ...”
คำตอบด้วยเสียงเบา ๆ ในลำคอจากไซเซนทำให้ฉันต้องส่งเสียงถามกลับไป แต่ฉันได้กลับมาแค่การยักไหล่และรอยยิ้มกวน ๆ ของหมอนั่น จะว่าไปนิสัยหมอนี้ถือว่าน่าคบทีเดียว ถึงแม้ว่าจะมียศศักดิ์สูงขนาดนั้นแต่หมอนี่กลับทำตัวสบาย ๆ และเป็นกันเองกับทุกคน ที่จะไม่ชอบก็คืออ้ายที่หมอนี่ชอบทำเท่ต่อหน้าสาว ๆ ตัดหน้าฉันน่ะสิ โดยเฉพาะชอบอ่อยซายูริเหลือเกิน อันนี้ยอมไม่ได้
“นายไม่ใช่คนเมืองนี้ใช่ไหม แล้วนายมาจากที่ไหนล่ะ”
“ฉันมาจากโรฮังน่ะ แต่สงสัยว่าจะไม่ได้อยู่ที่นั่นตั้งแต่เกิดหรอก แค่ฉันจำได้ว่าฉันเกิดวันที่ 21 กันยา นี่ก็บุญเท่าไหร่แล้ว”
“หือ...นายเกิดวันที่ 21 กันยา งั้นหรอ แล้วนายอายุเท่าไหร่ล่ะ”
หมอนั่นดูจะสนใจฉันขึ้นมาทันที
“กำลังจะ 21”
“เฮ้ย!!! นี่เราเกิดวันเดียวกันปีเดียวกันเลยหรอ เฮ้ ฉันไม่เคยเจอคนที่เกิดวันเดียวปีเดียวกับฉันเลยนะเนี้ย”
“ฉันก็ไม่อยากเชื่อเหมือนกัน ถึงว่าฉันถึงได้รู้สึกถูกชะตากับนาย”
“งั้นเราคงเหมือนกันมากเลยล่ะ เพราะฉันเองก็ไม่ได้เกิดที่เมืองนี้เหมือนกัน”
ฉันมองหน้าหมอนั่นแล้วนึกขำในใจ ท่านชายบ้าที่ไหนไม่ได้เกิดในวังที่ใหญ่โตบ้างล่ะ
“จริงหรอ...นายจะบอกฉันว่าชีวิตนายเหมือนกับนิยายอย่างงั้นหรอ ที่เป็นเชื้อพระวงศ์ตกยากต้องไปเกิดนอกวัง แล้วอยู่ ๆ ก็ได้พบกับพ่อที่เป็นกษัตริย์ ก่อนจะได้อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขงั้นหรอ”
ฉันพูดพร้อมหัวเราะตามประสา ไซเซนที่ฟังอยู่ก็หัวเราะเช่นกัน แต่ครู่หนึ่งสีหน้าของเขากลับดูเศร้าลงอย่างเห็นได้ชัด
“เปล่าเลย...มันเป็นโศกอนาตกรรมต่างหาก...”
พูดจบเขาก็ลงไปนั่งกอดเข่าอยู่บนเตียง ส่วนฉันน่ะหรอ พูดอะไรไม่ออกเลยครับ ทำอะไรไม่ถูกด้วย ได้แต่ยืนเกาหัวเกาหูอีกตามเคย
“เฮ้ ๆ ๆ ฉะ...ฉันขอโทษ เฮ้อ...ปากฉันมันไม่ค่อยจะอยู่สุขเท่าไหร่ ไม่น่าพูดเรื่องบ้า ๆ อะไรนั้นออกมาเลย ฉันนี่มัน...”
“นี่...ถ้าจะเอาเวลามาพร่ำเพ้อน่ะ เราไปกินอาหารว่างพร้อมพวกสาว ๆ ดีกว่า จริง ๆ แล้วถ้านายสนใจความเงียบซะบ้าง นายจะไม่พลาดโอกาสนะ”
หมอนั่นหันมายิ้มให้ฉัน ก่อนจะลุกไปที่ประตู
“พ่อฉันสอนฉันว่าอย่างงั้น ดังนั้นถึงฉันจะอยู่ไม่สุข ชอบสนุกสนานยังไง แต่ฉันก็จะต้องใสใจเสียงเล็ก ๆ น้อย ๆ รอบตัวเสมอ...แล้วโอกาสดี ๆ ก็มักเป็นของฉัน”
ความคิดเห็น