คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : โคลงที่๑๖[พบกันอีกครั้ง]
โคลงที่๑๖[พบกันอีกครั้ง]
ในรุ่งขึ้น ทุกคนต่างก็ตื่นกันแต่เช้า ไม่มีทหารคนใดเลยที่ตื่นสาย ยกเว้น..
“ไอ้คุณท่านพี่!!!”อาคมสะดุ้ง วุฒิน้องชายของเขาตะโกนจนเรือนแทบแตก ชายหนุ่มงัวเงีย“เว้ยย หนวกหูจริงเชียว ไว้เช้าก่อนข้าจะตื่น..”อาคมล้มตัวลงนอนอีกครั้ง ด้านน้องชายเห็นแม่ทัพตื่นสายเองแบบนี้ชักจะหงุดหงิด“ก็นี่มันตะวันส่องกลางหัวพอดี แบบนี้มันมืดรึไงขอรับท่าน!!”อาคมทำเป็นไม่ได้ยิน แล้วหน้าด้านนอนต่อ ในที่สุดวุฒิก็ทนไม่ไหว งัดท่าไม้ตายออกมาใช้แบบเสียของทันที!!“กระบวนท่าลับสำนักฤทธิ์มั่น..”วุฒิกระโดด“[ลูกถีบไม่นับญาติ]!!”แล้วถีบเข้าไปที่พี่ชายของตัวเองทันที แต่อาคมที่หลับอยู่นั้นรับได้สบายๆแถมพื้นนั้นทะลุลงไปเป็นวงกลม!!“ฮะ..อะ อะไรกัน!?”อาคมพูดแบบงัวเงีย“คิดจะปลุกพี่แบบปลุกท่านปู่ล่ะก็ ประมาทไปหน่อยล่ะ!”ชายหนุ่มหาว แล้วนอนต่อ วุฒิโมโหจัดจึงพุ่งเข้าไป แต่อาคมตื่นขึ้นมาเสียก่อน พลั่ก! วุฒิวิ่งมาเร็วจึงโดนหัวพี่ชายที่เพิ่งตื่นขึ้นมาโขกเข้าซะก่อน อาคมนั้นเมื่อตื่นขึ้นมาก็ทำท่านึกออกว่า“ปลุก!?..ใช่แล้ว ปลุกไง!”อาคมวิ่งแจ้นไปที่ค่ายพักทหาร คว้าชุดเกราะและดาบเหล็กน้ำพี้แล้ววิ่งไปทันที“ท่านอาคม ท่านจะไปไหนน่ะ!”โอรสหนุ่มร้องถามอาคม ชายหนุ่มนึกในใจทีไม่ให้เรียกล่ะเรียกจัง ทีให้เรียกดันไม่เรียกซะงั้นอาคมจึงตอบแบบหงุดหงิดไปว่า“ไปปลุกว้อย!!”ทิ้งให้พัฒน์สงสัยว่า ปลุกนี่มันปลุกอะไรหว่า?แล้ววิ่งออกนอกหมู่บ้านไป..
ที่ฐานลับของฝ่ายกบฏ คงฤทธิ์นั่งอยู่บนบัลลังก์ที่ขโมยมาจากเจ้าของที่แท้จริงที่เขาปลงพระชนม์ไปแล้ว“ฮวกฮันเฮนฮังไฮฮ่าง?(แปลสักนิด:พวกมันเป็นยังไงกันบ้าง?)”คงฤทธิ์ถามทั้งๆที่ยังเคี้ยวหมากตุ้ยๆ“ข้าสืบมาแล้วว่าพวกมันเตรียมตัวพร้อมที่จะรบแล้วขอรับ”สายของคงฤทธิ์ตอบอยู่ในเงามืด“เฮฮาฮ่ะ?(แปลสักรอบ:เวลาล่ะ?)”คงฤทธิ์ถามถึงเวลา สายของเขาจึงตอบว่า“มะรืนนี้ขอรับ”ชายหนุ่มยิ้มอย่างอำมหิต แล้วหัวเราะน้ำหมากแทบกระเด็น“ฮะฮะฮะ พวกนั้นคงจะพร้อมกันแล้วสินะ ถึงได้มากันเร็วเช่นนี้”สายของคงฤทธิ์รายงานต่อว่า“คงเป็นเพราะว่าขุนคมปาฏิหาริย์ หัวหอกของเจ้าพวกนั้นตื่นแล้วกระมังขอรับ”จากหัวเราะอย่างสะใจ กลายมาเป็นหงุดหงิดอย่างที่สุด“อะ-อะไรนะ หรือว่าเจ้าหมอนั่น”สายของคงฤทธิ์ต่อให้“ตื่นมาหลังจากที่หลับมาเป็นเวลาถึงสามเดือนพอดิบพอดีขอรับ”คงฤทธิ์โมโหถุยหมากลงพื้น“หลับเป็นเวลาสามเดือน ไม่จริงน่า หรือว่าเจ้าหมอนั่น..”คงฤทธิ์มีสีหน้าหวาดหวั่นกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น..
ในป่าลึกแห่งหนึ่ง อาคมยืนสงบนิ่ง แล้วพึมพำว่า“ปลุกสินะ ปลุกพลังที่แท้จริง ปลุกพลังที่แท้จริง..”ชายหนุ่มตั้งสมาธิ เขาทำอยู่อย่างนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนเขาจับหลักได้ จนเสียงหนึ่งดังขึ้นมาว่าเยี่ยมมากเลยเพคะนายท่านอาคมสะดุ้ง สมาธิที่อุตส่าห์รวบรวมไว้เมื่อครู่นี้หายไปหมด“โธ่เว้ย!โผล่มาทำหยังตอนนี้ล่ะเนี่ย..”นันทกาลืมไปว่าอาคมกำลังรวบรวมสมาธิอยู่จึงได้แต่ขอโทษไปว่าอุ๊ย!ขอโทษเพคะ นายท่าน ลืมไป แหะแหะอาคมเอามือกุมหัว ชูดาบไว้ตรงหน้า แล้วพูดว่า“นี่ นันทกา ฟังนะ เจ้าเนี่ยชักจะยุ่งไม่เข้าเรื่องเข้าไปทุกทีแล้วนะเนี่ย”อาคมต่อว่าหญิงสาว “อะไรกันนักหนา อยู่มาเกือบยี่สิบปีไม่เคยโผล่มาให้เห็นแม้แต่ในฝัน พอโผล่มาก็พูดแทรกเข้ามาในหัวข้าตั้งแต่เมื่อเช้าแล้ว เจ้านี่ยังไงกันนะ?”พอได้ยินแค่นั้น นันทกาถึงกับเงียบเสียงไปชั่วขณะ“ทำไมน่ะเหรอ..วิญญาณของดาบอย่างข้าจะไม่มีสิทธิ์ก้าวก่ายกับชีวิตของท่าน!”นันทกาสะอื้นไห้“จนกว่าท่านจะใกล้ถึงเวลาที่สามารถดึงพลังของดาบออกมา ดะ..ได้อย่างสมบูรณ์ที่สุด!”หญิงสาวมีน้ำเสียงโกรธเคือง“น่ะ..นี่ท่านน่ะ รู้บ้างมั้ยว่าตลอดเวลาเกือบยี่สิบปีที่ผ่านมา ข้าต้องโดเดี่ยวขนาดไหน!!ข้าเป็นเพียงวิญญาณของดาบ ขะ..ข้าไม่รู้เรื่องราวในอดีตชาติของข้าเลยแม้แต่เศษเสี้ยว!ตลอดเวลานั้นข้าทำได้เพียงรับรู้จิตใจของท่าน และทำทุกอย่างที่ท่านคิดเท่านั้นเอง!!”ชายหนุ่มเริ่มรู้แล้วว่าตัวเองผิด เขาทำท่าจะพูด แต่นันทกาชิงพูดก่อนว่า“ในเมื่อท่านไม่เข้าใจวิญญาณของดาบ ถ้าอย่างงั้น..”ดาบเหล็กน้ำพี้ขยับ“..ท่านก็จงเป็นวิญญาณดาบแทนข้าก็แล้วกัน!?”อาคมตะลึง ดาบพุ่งเข้ามาหาเขา ชายหนุ่มเบี่ยงหลบ พลังมหาศาลที่นันทกาปล่อยออกมาทำให้ต้นไม้ทั้งป่าถูกฟันหมดจนเหลือแค่โคนต้น!“น่ะ..นันทกา ค่อยๆพูดค่อยๆจา เจ๋ย! กันก่อนก็ได้!”ชายหนุ่มเกลี้ยกล่อม ระหว่างที่เกลี้ยกล่อมดาบเฉียดเขาแค่ต้นคอ ดูเหมือนนันทกาจะโกรธจัดจริงๆ..
ในที่สุด อาคมก็รู้ว่านันทกาหลอกให้เขาฝึกครั้งสุดท้าย ความจริงแล้วเธอก็แค่เพิ่งจะตื่นขึ้นมาจากการนอนหลับจากวันที่ถูกตีขึ้นมา แถมคุณเธอยังบอกว่าขี้เกียจตื่นอีกต่างหาก“เอาล่ะ”อาคมพูดหลังจากเอามือกุมหัว“ในเมื่อข้าฝึกเสร็จแล้วก็บุกเดี่ยวได้แล้วใช่มั้ย?”นันทกาตอบได้เพคะ แต่ต้องระวังตัวด้วย เพราะที่ตายน่ะท่านไม่ใช่ข้าอาคมเลยบ่นพึมพำว่า“ดาบบ้าอะไรวะ ปากเสียจริงๆ”(อาคมเกือบหูแหว่งเมื่อบ่นคำนี้)ชายหนุ่มสวมชุดคลุมสีดำ แล้วออกเดินทาง..
ณ ซากปราสาท ในชั้นใต้ดิน ซึ่งในอดีตเคยเป็นที่คุมขังนักโทษมาก่อน มาบัดนี้มันกลายเป็นที่อยู่ของเชลยศึก รวมทั้ง..“ไง มาลัยจันทร์ อยู่นี่สบายดีมั้ย?”คงฤทธิ์พูดอย่างเยาะเย้ย“เห็นว่าเจ้าหนูเหล็กน้ำพี้นั่นจะมาช่วยเจ้านี่นา แล้วไหงผ่านมาตั้งสามเดือนทำไม..”คงฤทธิ์เอาหน้าชิดขอบกรง“..ไอ้หมอนั่นยังมิรีบมาช่วยเจ้าอีกล่ะ”หญิงสาวในชุดที่ฉีกขาด ถ่มน้ำลายใส่หน้าของคงฤทธิ์ ชายหนุ่มเอามือปาดหน้า“อื้อหือ แสบใช่ย่อย เอามันไปโบยหวาย ร้อยที!!”หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมา อสูรวิญญ์สองตัวเข้ามาลากตัวเธอไปยังลานโบยหวาย มาลัยจันทร์พึมพำเบาๆว่า “..อาคม..ข้าเชื่อ..เจ้าต้องมา..”แต่โชคร้าย ที่คงฤทธิ์หูไวเกินเหตุ จึงสั่งอสูรวิญญ์ก่อนจะกลับเข้าไปในห้องของตัวเองว่า“..เชื่อว่าจะมางั้นรึ งั้นประหารมันไปเลยก็แล้วกัน!!!”น้ำตาร่วงลงจากใบหน้าของหญิงสาว เธอรู้ดีว่าเขาคงมาไม่ทันแน่แล้ว จึงได้แต่ยอมรับชะตากรรมของตัวเอง..
“..เฮ้อ ข้าบอกแล้วไง ว่าข้าไม่ชอบหน้าเจ้าตอนร้องไห้..”มาลัยจันทร์เงยหน้าขึ้น ชายหนุ่มเอามือเช็ดน้ำตาของหญิงสาว อสูรวิญญ์สองตัวปล่อยหญิงสาวแล้วเข้าไปขย้ำอาคม ชายหนุ่มเบี่ยงหลบ แล้วตวัดดาบเพียงวูบเดียว อสูรวิญญ์ทั้งสองไปเกิดใหม่ทันที หญิงสาวนั่งเข่าอ่อน เธอพูดขึ้นว่า“..เจ้ามะ-มาสายมากเลยนะ รู้มั้ย..”ชายหนุ่มเถียงไม่ออกจึงพูดแบบไม่กลัวสีข้างถลอกว่า“..แค่สามเดือนเอง มันสายที่ไหนกันล่ะ..”มาลัยจันทร์โผเข้ากอดอาคมและเริ่มร่ำไห้“..ไม่เป็นไร ข้าอยู่นี่แล้ว ไม่เป็นไร..”พูดจบ ชายหนุ่มก็พาหญิงสาวออกจากสถานที่แห่งนั้นทันที โดยหารู้ไม่ว่ามีดวงตาคู่หนึ่งจ้องมองอยู่..
จบโคลงที่๑๖
ความคิดเห็น