คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #19 : ลางร้าย (+เปิดวาร์ปน้องขนมเทียน!)
ควันไฟลอยคลุ้งไปทั่วห้องโดยสาร
ผู้คนต่างแตกตื่นกันแม้ทางกัปตันจะประกาศให้ทุกคนนั่งอยู่กับที่
แต่จิตใจของพวกเขามันไม่อยู่แล้ว เพราะพวกเขารู้ว่า...อีกไม่ช้า
ชีวิตของพวกเขาจะจบสิ้น
“ชะ-ช่วย..ช่วยด้วย”
เสียงร้องขอความช่วยเหลืออันแผ่วเบาราวกระซิบ
เอื้อนเอ่ยออกมาด้วยความยากลำบาก เพราะควันไฟที่ลอยฟุ้ง ทำให้แสบตาและหายใจไม่ออก ความทรมานที่พวกเขากำลังพบเจอบนเครื่องบินลำนี้...
มันช่างน่าหดหู่เสียเหลือเกิน...
ทุกคนล้วนรู้ดี...แม้จะกู่ร้องก้องโลกเสียเท่าไหร่
ก็ไม่มีใครมาช่วยพวกเขาได้ บางคนจับมือภรรยาและลูกน้อยที่นั่งประกบข้างแน่น
คล้ายกับเตรียมพร้อมสำหรับการจากลาที่กำลังจะมาถึง แต่หากได้จากไปพร้อมกับคนที่รัก
อย่างน้อยก็ได้รู้ว่า...เขาไม่ได้โดดเดี่ยว
“อึก...จะไม่ได้เจอ...กันแล้วเหรอ...”
“เฮือก !!!”
เด็กสาวสะดุ้งตื่นพร้อมกับเสียงหอบหายใจ
ภายในอกเต้นระรัวราวกับจะระเบิดออกมาเสียให้ได้
ก่อนที่มือบางจะยกขึ้นปาดเม็ดเหงื่อข้างแก้ม ที่เสมือนเป็นการเรียกสติ...
ว่าเธอแค่ฝันไป
“ฝันร้ายงั้นหรอ...”
-Kanomtien Part-
ฉันตื่นมาในเช้าวันใหม่ที่ไม่ค่อยสดใสมากนัก
คงเพราะความคิดอะไรหลายๆ อย่างที่เริ่มนำมาปะติดปะต่อกัน
บวกกับฝันร้ายที่แสนน่ากลัวเมื่อคืน มันน่ากลัวมาก
มากเสียจนฉันนึกว่ามันคือความจริง ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในฝัน
ทำให้ฉันอยากร้องไห้ออกมา ทุกคนน่าสงสารมาก อีกทั้ง...เสียงปริศนาในฝันนั้น
ที่ช่างดูคุ้นเคยเหลือเกิน
“วันนี้น้าจะกลับมาทำดินเนอร์ให้เอง
รีบๆ กลับบ้านนะจ๊ะ”
น้าเอมิลี่พูดพร้อมโปรยยิ้มหวานใส่
นี่ถ้าฉันเป็นผู้ชายมีหวังใจเต้นกันบ้างแหละ จบบทสนทนาคุณน้าแสนสวยก็พาฉันมาส่งที่โรงเรียน
พอดีว่าวันนี้น้ามีประชุมเช้าเลยมาส่งฉันที่โรงเรียนได้
“ขอบคุณนะคะ
แล้วเจอกันตอนเย็นค่ะ”
ฉันเอ่ยขอบคุณก่อนจะโบกมือลา
แล้วมุ่งหน้าสู่โรงเรียนที่อยู่มา 3 เดือนแล้ว
จะว่าไปเวลามันก็ผ่านไปรวดเร็วเหมือนกันนะเนี่ย แรกๆ ก็ปรับตัวไม่ค่อยได้
เพื่อนก็ไม่มี แต่ดีที่เจ้าปีเตอร์กับเน็ดดันนิสัยคลิ๊กกับฉันซะด้วยสิ
เลยคบกันมาจนถึงป่านนี้
“เด็กผู้ชายงั้นหรอ...?”
ฉันเอ่ยกับตัวเองขณะเดินขึ้นชั้นเรียน
เสียงเด็กผู้ชายในฝันนั้นช่างคุ้นหู เหมือนกับว่าเคยได้ยินมาก่อน ทั้งๆ
ที่ยังไม่เห็นหน้าเขาด้วยซ้ำ! รึฉันจะเพี้ยนไปแล้วจริงๆ เนี่ย...
“เฮ้โย้ว! Good Morning
KT!”
อ่า...เขาเป็นคนที่มี
Energy
เต็มขีดทุกวันเลยรึเปล่าเนี่ย...
ฉันมองหน้าเน็ดที่กำลังโบกมาโบกมือพร้อมส่งยิ้มมาให้ ก่อนที่จะตัดสินใจทักทายกลับ
เอาเข้าจริงๆ ก็เริ่มรู้สึกอิจฉาที่เขามีพลังบวกเหลือล้นแล้วเหมือนกันนะ ฮ่ะๆ
“วันนี้ห้องเราจะประชุมเรื่องค่ายข้างแรมกันด้วยแหละ
ฉันล่ะโคตรจะตื่นเต้นเลย!”
ดูท่าจะตื่นเต้นจริงๆ
แหละ ดูสินั่นนั่งไม่ติดที่เลย กระโดกกระเดกไปมาเป็นลูกลิงไปได้
ก่อนที่ฉันจะหันมองคนข้างกายที่กำลังจดอะไรยุกยิก
“ทำอะไรน่ะปีเตอร์”
มือของเขาหยุดเขียน
ก่อนจะหันมาตอบ
“ฉันกำลังคำนวณอยู่ว่าปีนี้โรงเรียนจะจัดแบ่งเด็กที่ไปเข้าค่ายยังไง
2 ปีก่อนมี 3 สี ปีที่แล้วมี 4 ไม่แน่ใจว่าปีนี้จะกลับไป 3 หรือ 5”
ฉันพยักหน้าหงึกหงักเข้าใจ
ก่อนจะคิดตาม จะว่าไปตามที่เจ้าเน็ดและปีเตอร์เคยพูดมา
เหมือนว่าทางโรงเรียนจะจัดแบ่งเด็กตามสีที่แบ่งให้ แล้วให้ทำกิจกรรมเป็นกลุ่มๆ ไป
เพราะฉะนั้นทุกคนในห้องก็จะถูกแยกย้ายกันไปตามสีต่างๆ
เห...ถ้าเป็นอย่างนี้ฉันก็อาจจะถูกจับแยกจาก 2 คนนั้นล่ะสิ! ฮืออออ
เพื่อนยิ่งน้อยๆ อยู่ ถ้าถูกแยกไปอีก...อโลนไปสิ (ซับน้ำตาแปป)
“เอาล่ะนักเรียน
วันนี้ครูจะมาพูดเรื่องค่ายข้างแรมที่โรงเรียนจะจัดขึ้นในปีนี้กันนะ”
ทันทีที่ครูมอลลี่เข้ามาในห้อง
นักเรียนก็ต่างแยกย้ายไปตามที่นั่งของตัวเอง ก่อนจะตั้งใจรอฟังสิ่งที่ครูจะเอ่ย
“ในปีนี้
ทางโรงเรียนแบ่งออกเป็น 3 สี ซึ่งได้แก่ สีเขียว, แดง และน้ำเงิน
ครูเข้าใจว่าพวกเธอคงอยากอยู่ด้วยกัน แต่ระเบียบก็คือระเบียบ
และนี่คือลิสต์รายชื่อของพวกเธอ”
ครูมอลลี่ยกกระดาษขึ้นมาให้พวกเราดู
ตาราง 3 ช่องที่ใส่ชื่อพวกเราไว้นั้นถูกส่งต่อมากันเรื่อยๆ
เพื่อดูว่าแต่ละคนอยู่สีไหนบ้าง บางคนก็มีสีหน้าดีใจที่ยังได้อยู่กลุ่มเดียวกับเพื่อนตัวเอง
บางคนก็หงุดหงิดหัวฟัดหัวเหวี่ยงทันทีที่เจอชื่อของเพื่อนที่ไม่ถูกหน้านัก
เห็นอย่างนี้แล้วใจฉันแป้วเลยค่ะ...ฉันจะเจอกับอะไรบ้างเนี้ยยยยยยยยย!!??
“ฮึ้ยๆ
ไหนดูหน่อยๆ”
เจ้าเน็ดโพล่งด้วยความตื่นเต้น
ก่อนจะชะโงกหน้าไล่หารายชื่อของพวกเรา และทันใดนั้นเอง...
“ห้ะ!!! ฉันโดนแยกจากพวกนายหรอเนี่ย...โอ้ยยยยยยยยยยย!!!”
เสียงร้องโอดครวญของเขาดังลั่นไปทั่วห้อง
โดยที่ลืมไปเลยว่ามีครูอยู่ด้วย! ฉันรีบหยิบกระดาษขึ้นมาดู ก่อนจะพบว่า
แดง xxx เน็ด |
เขียว XXX xxx |
น้ำเงิน ปีเตอร์ ขนมเทียน |
อย่างน้อย...
ฉันก็ยังมีบุญค่ะ !!!
ฮืออออ ขนมเทียนขอกราบขอบพระคุณบุญ(อันน้อยนิด)ที่ได้สั่งสมมา
“เราได้อยู่ด้วยกันแฮะ”
ปีเตอร์พูดพลางหัวเราะชอบใจ
ผิดกับเน็ดที่กำลังร้องไห้อ้อนวอนพระผู้เป็นเจ้า...ชักเริ่มสงสารซะแล้วสิ
“อ่ะแฮ่ม! อยู่ในความสงบด้วย
ในรายชื่อนี้มีแค่ห้องพวกเธอ แต่อย่าลืมล่ะ
ว่ากิจกรรมนี้เราต้องทำร่วมกับห้องอื่นด้วยนะ ยังไงก็ช่วยเหลือกันเข้าไว้ล่ะ”
ครูมอลลี่พูดพลางรอให้นักเรียนทุกคนดูรายชื่อให้ครบ
ก่อนที่พวกเราจะกลับเข้าสู่โหมดคาบเรียนเช่นเดิม
“อ๊า! ฮอทด็อกป้าแมรี่ขายดีชะมัด!
นี่ถ้าไม่ได้ฉันไปสู้รบกับพวกนั้น พวกนายก็ไม่ได้กินหรอกนะ!”
เน็ดพูดขึ้นก่อนจะกัดฮอทด็อกคำใหญ่
สงสัยจะโมโหหิว ยิ่งช่วงนี้เรียนหนักๆ อยู่ด้วย ฉันกับปีเตอร์ลอบมองตากันอย่างเข้า
ก่อนจะแอบขำกับท่าทีของเพื่อนตัวกลมในกลุ่ม
“จะว่าไป
พวกนายเตรียมของกันรึยัง?”
ปีเตอร์ถามพลางมองหน้าพวกเรา
2 คน ซึ่งคำตอบก็คือ...
“ยัง/ยัง!”
ไม่ต้องเดาก็รู้…แหงสิ
ของแบบนี้ ต้องงานไฟไหม้เท่านั้นเว้ยยยย!
“ฉันว่าวันนี้จะไปหาของที่ยังไม่ครบอยู่
พวกนายจะไปด้วยกันไหม?”
เห…จะว่าไปก็น่าสนเหมือนกันนะ
ไปหาซื้อของที่สำคัญๆ ไว้ก่อนก็ได้ จะได้ไม่ต้องออกมาเอง
คิดได้ดังนั้นฉันจึงตอบตกลง และแน่นอนว่าเน็ดก็เช่นกัน
จะได้หาเวลาไปเข้าร้านหนังสือ แล้วหานิยายเล่มใหม่มาตุนไว้ไปอ่านที่ค่ายด้วย ฮุฮุ//หัวเราะแบบรว้ายๆ
ณ ซุปเปอร์มาร์เก็ต
“ฉันเอาอันนี้ด้วยๆ
เอ๊ะ อันนั้นด้วย!”
ดูท่าจะเป็นลูกลิงอย่างที่เคยว่าไปจริงๆ...
ฉันมองเน็ดที่วิ่งไปทั่วและทุกครั้งที่เขากลับมาที่รถเข็น
ก็จะมีของติดไม้ติดมือมาตลอด ไอเราก็นึกว่าจะหาซื้อของสำคัญ ที่ไหนได้...
“กองทัพต้องเดินด้วยท้องนะ
KT”
ขนมเต็มมือเลยจ้า!
ส่วนฉันก็หาของที่จำเป็นจริงๆ ซึ่งตอนนี้ก็ได้มาเกือบครบหมดแล้ว ก่อนที่เจ้า 2
คนนั้นจะซุบซิบอะไรบางอย่างกัน
“มีอะไรรึเปล่า?”
ฉันเอ่ยถามด้วยความสงสัย
ก่อนที่จะสบความกับดวงตาเบิกโพล่งของปีเตอร์ เขาเป็นอะไรกันนะ ทำไมดูมีพิรุธแปลกๆ
“คือว่านะ KT
เจ้าปีเตอร์กะว่าจะไปดูบ็อกเซ-”
หมับ!
“เอ่อ...คือพวกเราต้องไปดูของที่จำเป๊นจำเป็นจริงๆ
น่ะ เดี๋ยวมานะ เธอไปเดินเล่นตากแอร์รอก็ได้”
ไม่รอให้เน็ดพูดจบก็เจอฝ่ามือพิฆาตปิดปากเข้าให้
ก่อนที่ทั้งสองคนจะลากรถเข็นไปจากที่ตรงนี้กันอย่างว่องไว
แหม่...ฉันก็พอเข้าใจอยู่หรอก แถม...ไม่ได้คิดจะไปด้วยเลยเว้ยยยย!!!
“งั้นอย่างงี้แวะร้านหนังสือดีกว่า
คิคิ”
ว่าแล้วก็รีบปรี่ไปร้านหนังสือด้วยท่าทีเบิกบาน
ฮื้มมม ความสุขอยู่ตรงหน้า ฉันต้องรีบคว้ามันเอาไว้!
อ่า...พอได้ก้าวเข้ามาในร้าน
ก็รู้สึกได้เลยว่า...มันคือสวรรค์ชัดๆ!
โซนแรกของร้านหนังสือทั่วไปก็คงไม่พ้นหนังสือพิมพ์รายวัน
แน่นอนว่าสมัยนี้คนแทบจะไม่อ่านข่าวจากหนังสือพิมพ์เลยด้วยซ้ำ
แต่ก็ยังมีสำนักพิมพ์บางเจ้าที่ยังคงความคลาสสิคของมันไว้
ฉันเปรยตาไล่มองผ่านๆ
กับโซนหนังสือพิมพ์ จะว่าไงดีล่ะ ฉันไม่ใช่คนชอบติดตามข่าวสารซะด้วยสิเลยไม่ได้สนใจกับมันมากเท่าไหร่นัก
ก่อนจะสะดุดเข้ากับตัวหนังสือตัวใหญ่เบ้อเร่อที่พาดอยู่บนหนังสือพิมพ์หน้าหนึ่ง
-team formation
help! thun-light team with...-
“เห...เดี๋ยวนี้เขาลงข่าวเกี่ยวกับเกมกันด้วยหรอเนี่ย”
เอ่ยออกมาอย่างสนใจ(นิดๆ) เพราะไม่คิดว่าจะเอาเรื่องเกมมาลงหน้าหนึ่ง
ปกติมันต้องเป็นข่าวสารบ้านเมือง ไม่ก็เหตุการณ์ที่กำลังฮ็อตฮิตสิ
ฟู่วววว
ก่อนจะต้องกระชับเสื้อคลุมให้แน่นขึ้น
อึ้ยย ทำไมลมแอร์มันตกหรือยังไง จู่ๆ ก็มีลมหวิวๆ พัดมาซะงั้น
ฉันซุกมือเข้าไปในเสื้อคลุมก่อนจะเตรียมหันตัวไปยังโซนนิยาย
ทว่า...
ตัวหนังสือที่พาดหัวข่าวเมื่อครู่นั้น...
มันกลับเลือนหายไป...
เหลือเพียงคำสั้นๆ...
.
.
.
.
.
- help! thun-
ต่อจากนี้ขอต้อนรับทุกท่านเข้าสู่เนื้อหาที่เเท้จริงค่ะ//ผายมือพร้อมรอยยิ้มชั่วรว้ายยย
มาหาเเล้วค่าาาา คิดถึงสามเเสบกันไหมหนอ เอ๊ะ! หรือสี่?
เอ้ยยยยยยย!!5555555555555555
อย่าลืมติดตามตอนต่อไปกันนะคะ ถึงเเม้ยอดผู้ติดเชื้อในเเต่ละวันจะลดน้อยลง
เเต่ก็อย่าพึ่งวางใจกันนะคะ!
หมั่นดูเเลสุขภาพตัวเองกันด้วยนะ!
เเล้วเจอกันค่าาาาาาาาา <3
ภาพน้องหนมเทียนสวยๆ จาก Enrg Thai อีกเเย้วค่าาา
น่ารักมากอ่ะ ไรท์ชอบมากๆๆๆ เลย
หนูสวยขนาดนี้เลยหรอลู๊กกกกกกก//หวง(กำไม้เรียวเเน่น)
ขอบคุณที่เอ็นดูน้องนะคะ ไรท์ปลื้มม้ากกก(ก.ไก่ล้านตัว)
#KTspi
ขอบคุณค่ะ ♥
ความคิดเห็น