ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    108 ซองคำถาม lll

    ลำดับตอนที่ #48 : “มกุฎราชกุมารแห่งภูฏาน” ผู้ทรงสิริโฉม นอบน้อม สง่างาม

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 297
      0
      17 มิ.ย. 49




                                  “มกุฎราชกุมารแห่งภูฏาน” ผู้ทรงสิริโฉม นอบน้อม สง่างาม




    ถามตอบรอบโลกในวันนี้ขอเกาะกระแสพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่มีคนส่งคำถามเข้ามาในคอลัมน์ พร้อมกันอย่างถล่มทลายโดยไม่ได้นัดหมาย ว่าอยากจะรู้พระราชประวัติเกี่ยวกับมกุฎราชกุมาร ผู้ทรงสิริโฉม แห่งภูฏาน ที่เสด็จฯมาร่วมพระราชพิธีในครั้งนี้
           
           สำหรับผู้แทนกษัตริย์แห่งภูฏานที่มาเข้าร่วมพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติในครั้งนี้ คือ เจ้าชายจิกมี เคเซอร์ นัมเจล วังชุก มกุฎราชกุมาร พระราชสมภพเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 1980  ปัจจุบันมี พระชนมายุ 26 พรรษา และที่สำคัญคำตอบที่สาวๆ หลายคนที่ตั้งตารอคือ “พระองค์ยังไม่ได้ทรงอภิเษกสมรส”
           
           มกุฎราชกุมารพระองค์นี้ทรงเป็นพระราชโอรสของ สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี ซิงเย วังชุก ซึ่งเป็นกษัตริย์แห่งภูฏาน องค์ปัจจุบัน กับ สมเด็จพระราชินีอาชี เชอริง ยังดอน วังชุก พระมเหสีองค์ที่ 3 ซึ่งมกุฎราชกุมารพระองค์นี้มีพระอนุชา และ พระกนิษฐา อีก 2 พระองค์ รวมถึงพระกนิษฐาต่างพระมารดาอีก 4 พระองค์ และพระอนุชาต่างพระมารดาอีก 3 พระองค์
           
           พระราชาธิบดีของภูฏาน ทรงประกาศเปลี่ยนแปลงการปกครองไปเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2005 จากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ไปสู่ระบอบประชาธิปไตย โดยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขภายใต้รัฐธรรมนูญ และให้มีการเลือกตั้งเป็นครั้งแรกของประเทศในปี 2008
           ทั้งนี้ พระองค์จะสละราชบัลลังก์ให้แก่ มกุฎราชกุมาร จิกมี เคเซอร์ นัมเจล วังชุก ในปี 2008 เช่นกัน ส่งผลให้มกุฎราชกุมารพระองค์นี้ จะทรงเป็นพระมหากษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญพระองค์แรกของราชอาณาจักรภูฏาน
           
           มกุฎราชกุมารแห่งภูฏาน ทรงสำเร็จการศึกษาขั้นพื้นฐาน ในภูฏาน หลังจากนั้นทรงศึกษาต่อที่คัชชิง อะคาเดมี และวิทยาลัยวีตัน ในแมสซาชูเซตส์ และสำเร็จการศึกษาในระดับอนุปริญญา ด้าน โครงการบริการต่างประเทศ ของวิทยาลัย แมกดาเลน แห่งมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด และทรงสำเร็จการศึกษาระดับมหาบัณทิตทางด้านปรัชญาการเมือง จากมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ดเช่นกัน
           
           นอกจากนี้พระองค์ยังทรงสำเร็จการศึกษาหลักสูตรการป้องกันประเทศ จากวิทยาลัยป้องกันประเทศ กรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย และหลักสูตนวัตรกรรมการบริหารงานรัฐจาก เคเนดี สกูล ออฟ กอเวอร์แนนซ์ มหาวิทยาลัย ฮาร์วารด์ สหรัฐอเมริกา เมื่อปี 2005
           
           สำหรับในเวลาว่างพระองค์ยังทรงโปรดการยิงธนู และ กีฬาประเภทเอ็กซ์ตรีม เป็นอย่างยิ่ง ซึ่งหลังจากที่พระองค์เสร็จสิ้นพระกรณียกิจ ในการร่วมพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติแล้ว พระองค์จะเสด็จฯ เป็นการส่วนพระองค์ไปยังภูเก็ต เพื่อทรงร่มพาราเซล (ร่มชูชีพใช้เรือลาก)
           
           มกุฎราชกุมารแห่งภูฏาน เคยเสด็จเยือนไทยเป็นการส่วนพระองค์หลายครั้ง โดยในการเสด็จฯ เยือนราชอาณาจักรไทยระหว่างวันที่ 14-22 มีนาคม 2003 ได้ทอดพระเนตรโครงการหลวงที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อนำไปปรับปรุงและประยุกต์ใช้กับประเทศของพระองค์





    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×