รักหมดใจยัยเด็กแว้นซ์ - นิยาย รักหมดใจยัยเด็กแว้นซ์ : Dek-D.com - Writer
×

    รักหมดใจยัยเด็กแว้นซ์

    เมื่อฉันต้องมาเป็นคู่หมั้นของเด็กเทสต์อย่างเขา และฉันก็กลายเป็นเด็กแว้นซ์ไปในตัว เรื่องราวมากมายเกิดขึ้นในสนามแข่งรถ...ฉันและเขาต้องวางแผปนให้แม่ของเรายกเลิกการหมั้น เรื่องราวจะเป็นอย่างไรมาดูกัน...

    ผู้เข้าชมรวม

    129

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    129

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    จำนวนตอน :  0 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  1 ก.ย. 66 / 17:57 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    ตอนที่ 1

     

    ~ตอนนี้ตำรวจกำลังรวบตัวผู้ต้องหาคดี ซิ่งมอเตอร์ไซค์ในยามวิกาล เป็นที่รบกวนประชาชนเป็นอย่างมาก ซึ่งข่าวรายงานออกมาว่า ผู้ต้องหาล้วนเป็นนักเรียนนักศึกษากันเป็นส่วนใหญ่ ความคืบหน้าดิฉันจะรายงานให้ทราบภายหลังคะ~

     

                    ฉันนั่งดูโทรทัศน์ที่มีข่าวประกาศปาวๆทุกวันว่ามีแก๊งซิ่งมอเตอร์ไซค์กำลังซิ่งรถป่วนเมืองอยู่ในขณะนี้ซึ่งมันเป็น่าวที่โด่งดังมากทีเดียวสำหรับตอนนี้ สำหรับตาก็ดูโทรทัศน์นะแต่ว่ามือกับปากนี่สิกำลังเมามันอยู่กับ ขนมเค้กและขนมคบเคี้ยวต่างๆที่วางกองอยู่บนโต๊ะหลังจากที่ฉันใช้ความอดทนอย่างหนักในการลดความอ้วนหฤโหดครั้งที่ผ่านมานี้ฉันใช้เวลาถึง 3 อาทิตย์ในการที่จะทำให้น้ำหนักของฉันลดลงบ้าง

     

                    กลับมาที่เรื่องของแก๊งซิ่งมอเตอร์ไซค์ที่กำลังโด่งดังอยู่ในขณะนี้ ก็จะไม่ให้ดังได้ยังไงก็เล่นทั้งลงหนังสือพิทพ์ ลงข่าวรายวันทุกวัน ว่าแก๊งพวกนี้ชอบออกวิ่งตอนกลางคืนออกมารบกวนการหลับการนอนของชาวบ้านชาวช่อง ซึ่งมันก็เป็นนิสัยที่ไม่ดีไร้มารยาทอยู่แล้วแถมไอพวกนี้ยังลุกขึ้นมาตั้งชื่อแก๊งกันอีกต่างหาก แต่ก็โดนจับไปแล้วหลายรายหลายแก๊งเหมือนกัน แต่ตอนนี้เห็นตำรวจเขาว่ากำลังติดตามจับแก๊งซิ่งที่มีชื่อแก๊งเก๋ไก๋สุดๆที่มีชื่อว่า THE FOX สำหรับแก๊งนี้นะสุดยอดของความเป็นสุดยอดเห็นข่าวออกมาว่าหัวหน้าแก๊งอายุเกือบเท่าแม่ของฉันเลยทีเดียวแล้วก็ยังไม่มีตำรวจคนไหนสามารถรวบตัวครในแก๊งได้เลยนะ

     

    ไอซ์ ไปนอนเถอะลูกเดี๋ยวพรุ่งนี้ไปโรงเรียนสายนะลูก

     

    แม่ฉันตะโกนออกมาจากครัวหลังบ้านดูเหมือนว่าแม่กำลังจะล้างจานอยู่ซึ่งฉันก็อาบน้ำเสร็จไปตั้งแต่กินข้าวเสร็จแล้ว แล้วแม่ก็มักจะเรียกให้ฉันขึ้นนอนทุกวันถ้าวันไหนแม่ไม่เรียกฉันฉันคงนอนไม่หลับแน่ๆเลย  พูดถึงครอบครัวของฉันนะบ้านเรามีกันอยู่แค่ 4 คนเท่านั้นเอง ก็ประกอบไปด้วย แม่ พี่ชาย 2 คนที่รูปหล่อหน้าตาดี ก็เลยพลอยที่จะมีน้องหน้าตาดีเช่นฉันเข้าไปด้วย คงสงสัยใช่ไหมคะว่า พ่อฉันไปไหน พ่อหน่ะจากพวกเราไปตั้งแต่ฉันอายุน่าจะสักประมาณ 9 ขวบได้ ตอนนั้นฉันไม่ร้องไห้เลยสักนิดเดียว แต่พี่ชายฉัน 2 คนกับแม่ร้องไห้กันเป็นเดือนเลยฉันก็ไม่เข้าใจเท่าไหร่สำหรับตอนนั้น แต่ตอนนี้ฉันเริ่มอยากมีพ่อขึ้นมา แต่จะทำไงได้ก็มันไม่มีนี่นา  ก็ได้แต่ทนเหงาไปอยู่กับพี่กับมันก็มีความสุขดีอยู่แล้ว

     

    บ้านของฉันค่อนข้างรวยมากทีเดียวเพราะว่ามามีกิจการร้านผ้าไหมไทยที่ใหญ่เป็นอันดับต้นๆของเมืองไทยเลยก็ว่าได้ สำหรับกิจการผ้าไหมนั้น แม่สืบต่อมาจากพ่ออีกทีหนึ่ง ซึ่งตอนนี้ทั้งพี่ทั้งแม่ก็ช่วยกันพัฒนาร้านผ้าไหมแห่งนี้จนเป็นที่โด่งดังและเลื่องชื่อมั่กมากเลยทีเดียวและก็รุ่งสุดๆเหมือนกัน

    หลังจากที่คุยกันก็มานานฉันก็ค่อยๆยันตัวเองขึ้นจากโซฟามีกำซึ่งน่าจะทำมาจากผ้ากำมะหยี่ที่สวยนั่งแล้วก็สบาย และค่อยๆก้าวเท้าเดินขึ้นบนห้องแล้วล้างหน้าแปรงฟันพร้อมกับทิ้งตัวลงนอนอย่างหมดแรงและก็อิ่มจากนั้นรู้สึกว่าตามันปรือๆก็เลยตัดสินใจฟลุบตัวหลับซะเลย

                                

     

     

     

     

    หกพัน  พอรึเปล่า

                   

    ผมยื่นหน้าตายต่อรองรากับไอบ้าอีกคนที่ทำหน้าเบ้อย่างเซงๆ ผมเองก็เซงไม่น้อยไปกว่ามันหรอก ก็ไอหมอนี่เล่นต่อรองร่ค่อย่างไม่สงสารคนที่เป็นฝ่ายเสียเปรยบอย่างผมบ้างเลย ดูแล้วท่าทางไอหมอนี่จะงกใช่เล่นก็เล่นต่อรองร่ค่กับซะจะเหลืองวแค่พันเดียวอบยู่แล้วยังจะมาทำหน้าเซงใส่ผมอีก

     

    ถ้าปอด...ก็ไปเล่นเกมส์ตู้นู่น

                   

    ผมชี้แนะแนวทางให้ซึ่งมันก็ทำให้หมอนั่นชะงักและกำเงินในมือแน่นเหมือนโกรธผมซะจะตายให้ได้ มันก็น่าโกรธอยู่หรอกนะ ไอประโยคนี้หน่ะเป็นประโยคไม้ตายของผมที่เวลาเจอไอพวกงกๆมาต่อรองราคาจนจะไม่เหลืออะไรอยู่แล้ว แล้วผมก็มองมันด้วยสายตาเหยียดหยามสุดๆเท่าที่จะทำได้ หน้าตาก็ไม่เคยเห็นไม่รู้ว่ามันมาจากไหน หน้าตาก็พอจะโอเคอ่านะ..แต่มันจะเอาอะไรมาสู้ผมที่ทั้งหล่อ ทั้งเก่ง แล้วยังจะฉลาดอีก แล้วอย่างนี้มันจะเอาอะไรมาสู้ผม

     

    เอาวะ ! หกพันก็หกพัน....แต่ถ้านายแพ้นายจ่ายฉันหมื่นนึง

    ~   ดู้ ดู มันทำ นั่นมันได้เต็มๆเลยนะนั่น   ~

    ตกลง...แล้วเจอกันในสนาม

     

                    ผมพูดทิ้งท้ายเข้าให้ตามสไตล์เท่ๆของผม ตอนนี้สายตาและอารมณ์ของผมมันพลุ่งพรวดขึ้นมา ทั้งสายตาที่เหมือนจะมีไฟมากๆถึงมากที่สุด อารมณ์ที่กำลังคึกคะนองอยากจะทำอะไรที่ตัวเองรักและชอบมันมากที่สุดและยิ่งตอนนี้ผมมั่นใจสุดๆในการแข่งครั้งนี้ว่าผมจะต้องชนะ

     

    จะว่าไปแล้วผมก็ใช้ชีวิตอย่างนี้มานานพอดูแล้ว ผมเริ่มที่จะติดใจชีวิตแบบนี้ตอนผมอยู่ประมาณ ม. 3 มั้ง ตอนนี้ผม ม.5 แล้ว ผมก็ยังไม่เลิกหลงไหลในความเร็วแบบนี้ สำหรับสถิติการแข่งรถนั้นก็ดีพอดูได้ แข่งมาก็เกือบจะร้องครั้งแต่ก็ไม่มีครั้งไหนเสมอ ครั้งไหนแพ้ เลยแม้แต่ครั้งเดียว มันก็ประมาณว่า รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้งเลยก็ว่าได้ แต่ก็ไม่รู้นะครับว่าที่ผมชนะมาได้เนี่ยเพราะว่าผมเก่งหรือว่าไอพวกนั้นมันเก่งสู้ผมไม่ได้แน่ แต่สำหรับที่ผมมองตัวเองนั้นก็ต้องมองว่าผมเก่งอยู่แล้วครับ 555+

     

    เฮ้ย ! ไอแลค มึงมั่นใจแค่ไหนวะ กูว่าไอหมอนั่นหน้ากลัวอยู่นะเว้ย

     

    ไอตั้น เพื่อนผมตบบ่าผมแรงๆหลายทีและเอ่ยตามเหมือนจะให้กำลังใจ แต่ก็เป็นเชิงสั่งลาก่อนผมตายด้วยอีกทีนึง แต่ไอเพื่อนผมคนนี้ก็เป็นอย่างนี้ประจำ มันทั้งรักและเป็นห่วงผมมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ จนเป็นเรื่องปกติกันแล้ว แต่ผมก็ไม่เคยรำคาญมันนะเพราะยังไงมันก็เป็นเพื่อนผมที่ดีของผมคนหนึ่งทีเดียว

     

    เต็มล้านเว้ย  คนอย่างไอแล็คไม่เคยกลัวใครโว้ย

    มึงอย่าตายคาสนามละกัน กูไม่อยากเก็บศพมึง

    หุบปากมึงไปเลยไอตั้นค์

    เออๆ ก็โชคดีและกันวะ กูไปหล่ะ

    เฮ้ย  ขอบใจเว้ย

     

    และแล้วก็ถึงเวลาที่ผมต้องลงสนามแข่งในเวลาต่อมาที่ไม่นานจากที่ไอเพื่อนบ้าสั่งลาผม  เพียงแค่ก้าวเท้าลงสนามเท่านั้นแหละ สาวๆรอบสนามก็กรี๊ดดังลั่นเชียวทำให้ผมมองตามเสียงกรี๊ดทั่งลั่นอย่างปราบปลื้มใจเป็นที่สุด นี่ผมหล่อขนาดนี้เลยเหรอถึงได้มีสาวๆกรี๊ดดังลั่นขนาดนี้ (แอบหลงตัวเองนิดๆแหะ)

     

    เสียงกรี๊ดก็ดังขึ้นเรื่อยๆเมื่อผมก้าวเท้าขึ้นมอเตอร์ไซค์คันโปรดทีผมใช้เวลาเกือบ 3 ปี ในการเก็บเงินซื้อมอเตอร์ไซค์คันนี้ มอเตอร์ไซค์คันนี้หามาได้ด้วยความยากลำบากนอกจากจะต้องเก็บตังค์(ที่ได้มาจากแม่อีกที)แล้วยังจะต้องเที่ยวหาซื้อสิ่งต่างๆมาอต่งรถอีกอันหลังเนี่ยไม่ค่อยเท่าไหร่เลย แต่ที่เครียดก็เพราะว่าต้องเก็บตังค์ซื้อเครื่องแต่งรถอีก แต่ว่าตอนนี้ผมไม่สนใจแล้ว ผมพอใจกับการที่มีมอเตอร์ไซค์คันโปรดคันนี้อยู่แล้ว สำหรับสีมันก็เป็นประมาณสีดำ เทา ที่มีล้อสีสวยสุดๆ  (ก็แม่มีเงินให้ผลาญนี่นา แต่ว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่ดีนะครับ)

     

    ผมบิดพวงมาลัยให้มีเสียงดังที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่บิดไปก็เหยียบคันเร่งไปแต่ก็ต้องกดเบรคไว้เช่นเดียวกันไม่งั้นเครื่องก็วิ่งสิครับ สำหรับทางที่จะแข่งผู้จัดการแข่งสุ่มสถานที่เอาครับ กลายเป็นทางที่ไม่ถนัดเอาซะเลยสำหรับผมก็ไหนมันจะต้องขึ้นเขาลงห้วย ข้ามผ่านน้ำตกที่ถ้าตกลงไปตายหอหักชัวร์เลย แต่ผมก็เชื่อมือตัวองมากกว่าที่จะเชื่อดวงชะตา ผมจะต้องเซฟตัวเองให้ได้มากที่สุดเพราะการเล่นกับความเร็วแบบนี้เป็นเรื่องที่อันตรายมากทีเดียว

     

    ผมมองไปยังสาวที่ถือธงเดินไปเดินมาอย่างน้ำลายจะหก (อู๊ย~เซ็กซี่ชะมัดเลย) ผมมองเธอ ตั้งแต่หัวจรดเท้ามองตรงไหนก็ดูดีไปหมดเลย รองเท้าบูตส้นสูงสง่าสีดำสนิทมีขลิบสีขาว กางเกงขาสั้นสุดๆสีแดงแปร๊ดชวนให้แสบตา กับเสื้อเกาะอกตัวจิ๋วที่รัดรูปจนจะปริอยู่แล้ว ผมมองแล้วจะว่าดีก็ดี แต่จะว่าไม่ดีก็ไม่ดี เธอเป็รผู้หญิงสาวสวยที่น่าจะทำอะไรที่มันดีกว่านี้มากกว่าจะมาทำอะไรแบบนี้

    ไม่นานนักเธอสาวสวยคนนั้นก็สบัดธงลงแล้วส่งสายตายั่วยวนมาให้ผม ผมมองเธอแล้วยิ้มพร้อมกับปล่อยตัวเบรคทำให้รถของผมพุ่งไปข้างหน้าด้วยความเร็วสุดขีด ผมหันไปมองรถข้างๆอย่างเหยียดหยาม หมอนั่นมองหน้าผมแล้วยิ้มบางๆให้ ผมถึงกับอึ้งไปเล็กน้อบชั่วขณะ ก็นะ มีใครมายิ้มให้คู่แข่งแบบนี้ในสนามบ้างหล่ะ แต่ดูท่าแล้วหมอนี่จะเก่งอย่างที่ ไอตั้นพูดว่าไอหมอนี่เก่งน่ากลัว

    ผมหลบตาหมอนั่นแล้วก็มองไปยังทางข้างหน้าที่แสงสว่างจากท้องฟ้าเหลือน้อยเต็มทีตอนนี้ก็คงต้องพึ่งแสงไฟจากข้างทางซะแล้ว ผมมองไปทางข้างหน้าและเพ่งมันว่าทาข้างหน้าเป็นอย่างไรเพราะผมไม่ถนัดเลยกับถรนนแข่งรถสายนี้

     

    ~ ทางข้างหน้ามีโค้ง ~

     

    ผมคิดได้วูบเดียวรถของผมก็แล่นเข้ามาถึงที่ที่ผมจะต้องโค้งตามถนน เพราะว่าผมไม่โค้งตามหล่ะก็ตกเขาตายแน่ๆ ผมโค้งไปอย่างสวยงามแต่ว่า ต้องเหยียบเบรคนิดนึงเพราะทางแถวนี้มันลื่นมั่กมากเลย ถ้าไม่เหยียบเบรคกันลื่นละก็ตกไปหอก็หักตายเหมือนกัน แต่เมื่อผมมองไปที่รถข้างๆ

     

    ~ ไอนี่มันไม่เหยียบเบรคเหรอวะ ~

     

    ครับ...มันไม่เหยียบเบรค มันวิ่งฉิวไปสุดๆโดยที่หันหน้ามายิ้มให้ผมอีกต่อหนึ่ง ผมไม่ยิ้มด้วยเพราะตอนนี้มันทิ้งห่างผมไปเกือบ 200 เมตร แล้วครับ แย่แล้วถ้าผมแพ้มันนะมีหวัง...จ่ายมัน หมื่นนึงแน่ๆ หมดตัวเลยนะครับนั่น

     

    ผมพยายามเร่งเครื่องต่อไปโดยที่ไม่คิดว่าตัวเองจะตายหรือไม่ตายแต่ผมไม่ยอมเสีย...หมื่นนึงให้มันแน่ๆ ผมเร่งเครื่องด้วยความเร็วสูงสุดจนเข้าใกล้มันมาขึ้นเรื่อยๆจนมาประชิดตัวมันและทำท่าจะแซงแล้วครับแต่ว่าไอทางที่ผมกำลังจะแซ.ได้แล้วนั้นกลับมีอุปสรรคอีกแล้ว...ทางข้างหน้าเป็นน้ำตกพอดเลยครับผมเลยต้องเหยียบเบรคเบาๆแล้วบังคับพวงมาลัยดีๆ เพื่อไม่ให้มันส่ายมากรถจะได้ไม่ล้ม แต่ไอรถข้างๆเนี่ยสิ...

     

    ~ มันไม่เบรคอีกแล้วเหรอวะ  ~

     

    มันไม่เบรคอีกแล้วครับ ผมชักจะหมดความอดทนแล้วนะ ไอหมอนี่มันไม่คิดจะเบรคเลยรึไง..มันอยากได้เงินขนาดนั้นเชียวเหรอ  หรือว่า ไอหมอนนี่ไปเล่นพนันไว้แล้วไม่มีตังค์ใช้เลยมาใช้วิธีนี้หาตังค์  เพราะนี่มันแข่งเล่นๆนะ มันไม่น่าจะจริงจังขนาดนี้เลยนะ  (ทำตัวเป็นโคนันเชียว พระเอกเรา :  ผู้แต่ง)

     

    แล้วเราก็วิ่งเข้าโค้งสุดท้ายกันอย่างสูสี ก็เมื่อผ่านโค้งนั่นมาได้นะ ผมรีบเร่งความเร็วเหมือนไม่กลัวตายวิ่งมาประชิดรถมันแล้วผมก็ยิ้มให้มันเหมือนที่มันยิ้มให้ผมตอนแรกๆ แต่คราวนี้หมอนั่นมันไม่รับยิ้มผมอย่าว่าแต่รับยิ้มผมเลยมองหน้าผมยังไม่เลย ...5555 คงกลัวผมจนไม่กล้ามองหน้าผมมั้ง....

     

    แต่ท่าจะไม่เป็นที่ผมคิดแหะ หมอนนั่นพยามที่จะบังคับรถให้วิ่งต่อไปอย่างระมัดระวังที่สุด หน้าของหมอนั่นซีดลงเรื่อยถึงถนนมันจะมืดแค่ไหนแต่ว่าผมก็รับรู้ได้ถึงความรู้สึกลัวจับใจได้แม้จะไม่มองหน้ากันด้วยซ้ำผมใช้สายตาที่เป็นดั่งเหยี่ยว มองไปยังรถฝั่งตรงข้ามอย่างงงๆว่ามันเกิดอะไรขึ้นหมอนั่นถึงได้ลดความเร็วลงจนเกือบจะจอดอยู่แล้ว

    กำ!ไมเป็นอย่างนี้หว่ะ

     

    หมอนั่นสบถออกมาอย่างหัวเสียแล้วมองหน้าผมยิ้มๆ มันก็ยิ่งทำให้ผมมึนหัวกับเหตุการที่เกิดขึ้นมากกว่าเดิม ผมมองไปที่หมอนั่นอีกครั้งก่อนจะมองดูที่เครื่องยนต์ของหมอนั่น แล้วรู้สึกว่า เครื่องของหมอนั่นจะติดๆขัดๆพิกล แล้วผมก็มองไปที่พวงมาลัยของหมอนั่น สิ่งที่ผมเห็นคือหมอนั่นบีบเบรกไว้แน่นมากจนผมงง การที่เรากำเบรกไว้แน่นขนาดนั้น ถ้ารถมันไม่ยอมหยุดหรือว่ามันตัวกดเบรกมันหลวมมากนัก สอ่งแรกที่เป็นไปได้มากที่สุดก็คือ.....

     

    เฮ้~~~~ เบรกนายแตกใช่ไหม

     

    ผมตะโกนแข่งกับเสียงท่อไอเสียงของผมและก็เสียงของลมที่โกรกมาตลอดแต่ว่าตอนนี้มันเริ่มเบาลงเพราะว่าผมลดความเร็วลงมากแล้วพยายามที่จะขยับรถให้เข้าใกล้หมอนั่นมากที่สุด

     

    เก่งหว่ะ  รู้ได้ไงวะ

    ~เวร  ไอนี่  นี่~

    นายปล่อยรถลงเหวไป แล้วกระโดดมานี่

    โดดไปไหน

    รถฉันเดะ

    นายเอาจริงเหรอ

    (_ _) (-_-) (_ _) (-_-)

     

                    ผมพยักหน้าให้หมอนั่นเบาๆเป็นเชิงตกลงว่าให้หมอนั่นกระโดดขึ้นมาบนรถของผม เพราะว่า ถ้าหมอนนั่นเบรกแตกตามที่ผมคาดการณ์ไว้ละก็ เกิดเหตุปางตายแน่ เพื่อความปลอดภัยจะต้องให้หมอนี่กระโดดมารถของผมซะก่อน

     

    มาเร็วๆ

                   

    ผมตะโกนเรียกเร่งให้หมอนั่นทิ้งรถตัวเองแล้วกระโดดมารถของผมผมชะลอรถลงให้ช้าพอๆกับหมอนั่นแล้วไม่นานนักหมอนั่นก็เลี้ยวรถมาใกล้รถของผมให้มากที่สุดแล้วค่อยๆโยนตัวเองมารถของผมอย่างยากลำบาก เขาค่อยๆเอาขาข้างซ้ายมาวางไว้บนที่วางขาของรถของผมซะก่อน แล้วจึงตัดสินใจกระโจนมาบนรถผมจริงโดยที่ถีบรถของตัวเองลงเขาไปอย่างอาลัยอาวรณ๋ที่สุด ก็นะ..พวกเราเป็นเด็กเทสน์ที่มีความรักรถมากที่สุดเป็นชีวิตจิตใจ ถ้าหากให้เลือกระหว่างรถ กับแฟน คนส่วนใหย๋ที่เป็นเด็กเทสน์จะต้องเลือกรถ แต่สำหรับผมแล้วก็เลือกแฟนสิครับ ผมรักแฟนผมมากๆเลย จนต่อให้ผมต้องถอดอะไหล่รถแลกกับแฟนผมก็ยอม(ฮือๆๆๆๆๆๆ)

     

    เฮ้~~~~นาย

                    ผมรอฟังคำพูดของคนที่ตอนนี้กระโดดมาอยู่ข้างหลังรถของผมแล้วอย่างใจจดใจจ่อว่าสิ่งที่มันจะพดต่อไปนี้คืออะไร ระหว่างกล่าวคำขอบคุณงามๆแล้วยกมือไหว้ด้วย แต่อันหลังนี่มากไปมั้ง..ไอหมอนี่คงไม่ทำหรอก  ส่วนอย่างที่สองก็คือ ไอหมอนี่จะยอมยกเงินพนันให้ฉันในฐานะที่ฉันเป็นคนออกความคิดช่วยมันแล้วก็ช่วยให้มันไม่ตาย

     

    อารายยยยย...เหรอ...พูดดังๆดิไม่ได้ยิน

     

                    ผมไม่ค่อยได้ยินเท่าไหร่เพราะทั้งเสียงลมเสียงอะไรต่อมิอะไรเต็มไปหมดเลยต้องทำให้ผมต้องเหงี่ยหูฟังและพยายามบอกให้หมอนี่พูดดังๆ

     

    ขอบใจนะ

    ~อิอิ...~

    อะไรนะ...พูดดังดิฉันไม่ได้ยิน

    ~แกล้งครับแกล้ง...ไอหมอนี่ดูหยิ่งจะตายต้องให้เข็ดซะมั่ง~

    ขอบใจเว้ยยยยยยยยยยยยยย

     

                    ผมแอบหัวเราะในใจนิดๆ ที่ได้แกล้งคน เพราะหมอนี่ดูหยิ่งๆมาตั้งแต่มาท้าผมแข่งแล้วตอนนั้นผมคิดว่าต้องชนะหมอนี่ให้ได้อย่างแน่นอนเพื่อที่หมอนี่จะได้ไม่มาหาว่าผมขี้แพ้ แต่ถ้าหมอนั่นชนะนะผมคงเสียตังค์ไปบานเลยชัวร์ เพราะฉะนั้นผมจะต้องไม่แพ้หมอนนี่เด็ดขาดแต่พอมาเจอเหตุการณ์แบบนี้เข้านะ ผมคิดเอาไว้ว่าจะไม่ช่วยหมอนนี่เด็ดขาด แต่พอไปๆมาๆความเป็นพระเอกก็ต้องช่วยจนได้

     

    เออ~~~ได้ยินแล้ว

     

                    ผมลากเสียงยาวอย่างหมั่นไส้ ขอโทษแค่นี้ไม่เห็นจะต้องตะโกนแล้วตะคอกกันด้วย ไอหมอนี่ท่าทางจะป็ฯพวกไร้หัวใจแน่ๆ กับอีแค่คำขอโทษแค่สองคำยังจะทำไม่ได้เลย แต่มันก็เรื่องของหมอนั่นอ่ะนะ ช่างมันเหอะ....

     

    นาย..ชื่อไร

    ~ฮั่นแน่...มีถามชื่อด้วย...ท่าทางจะเป็นเพื่อนกันได้แหะ~

    ชื่อ แลค นายอ่ะ

    โคร ยินดีที่ได้รู้จัก...เราคงเป็นเพื่อนกันได้นะ

    แน่นอน

     

                    ผมตอบด้วยความยินดีที่จะมีเพื่อนเก่งๆอย่างไอหมอนี่ เวลาแข่งจะได้ลงขันกันได้ และเวลาถูกใจเด็กแว้นซ์คนเดียวกันจะได้ไม่ต้องทะเลาะแล้วมีเรื่องกันแล้วก็จบลงที่การเอานรกมาท้าทายเล่นกัน ก็คือแข่งรถกันนั่นเองเหมือนที่ผมเคยเจอมาเหมือนเมื่อก่อน

    ผมขับรถไปเรื่อยๆด้วยความอารมณ์ดีที่ได้ทั้งเหมือนใหม่ ได้ทั้งประสบการณ์ใหม่ๆในการช่วยคนเมื่อเกิดเหตุการณ์คับขัน อย่างเช่นเรื่องเมื่อกี๊ที่ผ่านมา มันทำให้ผมมีความรู้สึกว่าถึงจะแข่งรถกัน แล้วบางทีถึงขั้นเป็นศัตรูกันแต่เมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเกิดเป็นอะไรขึ้นมา เราก็ควรที่จะช่วยเหลือกันอย่างสุดความสามารถ และแก๊ง THE FOX  ของเรานี้ก็เป็นมิตรกับแก๊งอื่นๆแทบจะทุกแก๊ง เพราะว่าแก๊งของเรามีหัวหน้าดีถึงดีมากๆเลยก็ว่าได้

    ท่านเป็นคนที่ดีมากๆ ท่านเป็นพ่อบุญธรรมของแฟนผมเอา แต่เรื่องที่ผมกับลูกสาวเขาคบกันนั้นเขาไม่รู้ก็เลยไม่เกิดเรื่อง ถึงอม้ว่าผมจะเป็นคนที่หยิ่งทระนงในตัวเองมากเท่าไหร่ ผมก็รู้ว่าใครควรให้ความเคารพ ใครที่ควรจะหือด้วยมากกว่าที่จะทำอะไรตามใจตัวเองแล้วก็โดดฆ่าหมกศพซะก่อน

     

    ~เฮๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ~

     

                เสียงคนเฮดังลั่นสนามเมื่อผมขับรถเข้าในสนามด้วยท่าทีองอาจก็ตอนนี้ผมเป็นตัวขี่นี่ครับ ไม่ใช่ตัวซ้อนท้ายอย่างไอนายคนข้างหลังนั้น มันก็เลยทำให้ผมเกิดอาการ เก๊ก  ขึ้นมานิดๆตามแบบฉบับคนหลงตัวเองนิดๆเช่นผม(อิอิ)

                     ขอบใจอีกทีนะ แลค

                    เออ..ไม่เป็นไรหรอก

     

                    เราสองคนพูดกันแค่นั้น เราก็ต่างคนต่างไป ผมไม่รู้หรอกว่าผลแพ้ชนะเป็นยังไงแต่ไม่นานนักไอตั้น เพื่อนผมก็วิ่งหน้าตาตื่นมาหาผม แล้วบอกว่าผลก็คือว่า เราสองคนเสมอกันแล้วหมอนั่นก็ไม่เอาเงินผม กลับยอมเสียเงินพนัน หกพัน ให้กับผมซะอีก ผมรับเงินมาอย่างงงๆปะปนกับความอึ้งที่สิบวันก็ไม่หาย ผมถามไอตั้นว่าไอคนที่ให้เงินมาหน่ะ ไปไหนแล้วอยู่ไหนแล้ว ไอตั้นส่ายหน้าแล้วก็มองเงินในมือผมตาโต ผมเลยตัดสินใจพามันไปเลี้ยงข้าวแล้วก็เลี้ยงเหล้ามันด้วย แต่ว่าผมไม่กินนะ เหล้าไม่กิน บุหรี่ไม่สูบ การพนันไม่เล่น เนื่องจากเหตุผลพวกนี้มันก็เลยทำให้ผมมีสาวๆลายล้อมมากมาย เลยทีเดียว

                    หลังจากนั้นมา ผมก็ไม่เคยเห็นหน้าไอหมอนั่นที่ ชื่อ โครอีกเลย ไม่รู้ว่ามันอายผมหรือจงใจอะไรวักอย่างกันแน่ ผมรู้สึกว่าผมเริ่มจะหลอนผมก็เลยมองตัวเองแล้วพยายามบอกตัวเองว่ามีมีอะไรหรอก เขาก็อาจจะผ่านมาแล้วก็ผ่านไป แต่ว่า..ผมมีลางสังหรณ์แปลกๆว่า  หมอนนี่จะมาพรากอะไรไปจากผมซักอย่าง  ผมได้แต่คิดอย่างนั้นมาตลอดจนทำให้บางคืนผมถึงเข้าขั้นนอนไม่หลับเลยด้วย ทำไมความรู้สึกผมเหมือนกลัวไอหมอนั่นกลัวรอยยิ้มที่เหมือนมีจุดหมาย  กลัวลางสังหรณ์ที่มันกำลังเกิดขึ้นกับผมในขณะนี้ กลฃัวว่ามันจเป็นเรื่องจริง

     

    แล้วทำไมผมต้องกลัวมันด้วยฟ่ะ

     

    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น