ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ 3 : ก้าวแรกแห่งการต่อสู้
บทที่ 3 : ก้าวแรกแห่งการต่อสู้
“ท่านเมลล์”
เสียงหนึ่งดังขึ้นขณะผู้ถูกเรียกกำลังนั่งอย่างสบายอารมณ์ในลานน้ำพุ เจ้าของเสียงโผล่ออกมาจากช่องสี่เหลี่ยมสีขาวที่ปรากฏขึ้นกลางอากาศ และเมื่อก้าวขาออกมา ช่องสี่เหลี่ยมนั้นก็อันตรธานหายไปในอากาศ
“เด็กใหม่ปีนี้เป็นยังไงบ้างครับ” ชายสวมแว่นในชุดคอปกสีขาวสลับดำพูดกับชายชราซึ่งนั่งอยู่ใกล้น้ำพุ
“ไม่รู้สิ ฉันยังไม่เห็นเวทมนตร์ของแต่ละคนเลย” ชายชราตอบด้วยเสียงเอื่อยๆ ชายสวมแว่นทำหน้าผิดหวัง
“งั้น นักเรียนกลุ่มไหนโชคร้ายเลือกเส้นทางพิเศษล่ะครับ” ชายสวมแว่นเปลี่ยนคำถาม
ชายชรานั่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเปิดปากอย่างช้าๆ “เป็นเด็กผู้ชายสองคน กับเด็กผู้หญิงอีกหนึ่ง”
“แล้วพวกเขาสามคนมีสิทธิ์ชนะพวกประธานนักเรียนที่รออยู่ในทางนั้นไหมครับ” ชายสวมแว่นขยับแว่นตาเล็กน้อย ตาเรียวเล็กของเขามองมาที่ผู้อำนวยการโรงเรียนอีลิท วิซ
“ฉันคงบอกอะไรไม่ได้นะ จะเกิดอะไรขึ้นก็ถือว่าเป็นดวงของพวกเขานั่นแหละ ที่บังเอิญเลือกทางที่มีประธานนักเรียนรออยู่ แต่ ” ชายชราชะงักกลางคัน เขาลูบเคราสีขาวโพลนเบาๆ “ฉันสนใจเด็กผู้ชายคนหนึ่งในกลุ่มนั้น ฉันมองเห็นเงาของมนุษย์มีปีกอยู่ในร่างนั้น” สายตาของเมลล์ส่องประกายเจิดจ้า รอยยิ้มผุดขึ้นที่มุมปากของเขา
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
การต่อสู้กำลังจะเริ่มขึ้น ทางเดินอันมืดสลัวทำให้ชายทั้งสามในชุดรัดรูปสีดำเป็นฝ่ายได้เปรียบ ไม่มีสรรพเสียงใดจนทำให้แม้แต่เสียงเหงื่อหยดลงสู่พื้นก็ยังได้ยิน ทั้งสองฝ่ายจ้องตากันไม่กระพริบ รอเพียงฝ่ายใดจะเป็นผู้บุกก่อนเท่านั้น
“พวกเราจะบุกก่อนล่ะนะ” ในที่สุดฝ่ายชายในชุดรัดรูปก็พูดออกมา พวกเขาออกตัวพุ่งเข้าใส่เด็กทั้งสามในทันที เด็กหญิงฟาดกระบี่เข้าใส่ชายคนหนึ่งที่พุ่งเข้าหาเธอ แต่กลับไม่สามารถโจมตีผ่านคลื่นพลังสีม่วงที่กระจายออกมาจากรอบตัวเขาได้
พอลร่ายโซ่เวทมนตร์สายหนึ่งเข้าพันธนาการชายในชุดรัดรูปอีกคน ชายคนนั้นเคลื่อนตัวหลบอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะพุ่งเข้าใส่เด็กชายพร้อมกับมีดสั้นในมือ พอลมองไม่ทันว่ามีมีดอยู่ในมือชายคนนั้นตั้งแต่เมื่อไร ในเวลานี้เขาต้องคิดเพียงวิธีจัดการศัตรูตรงหน้าเท่านั้น
ผัวะ! เสียงการโจมตีแรกดังขึ้น เมื่อขาของชายในชุดรัดรูปคนสุดท้ายเตะเข้าที่ต้นขาของไลท์ หนุ่มร่างบางถอยกรูดออกมาพลางลูบเบาๆบริเวณที่โดนโจมตี
“เอ๋ ฉันต้องสู้ด้วยงั้นเหรอ” ไลท์หันหน้าไปหาพอล
“ศัตรูมีสามคน พวกเราก็มีสามคน ต้องสู้หนึ่งต่อหนึ่งสิ ฉันเองโดนรุมสองก็ไม่ไหวเหมือนกันนะ” พอลตอบ พลางบังคับโซ่เวทมนตร์สายเดียวรุกและรับอย่างชำนาญ การใช้โซ่เวทมนตร์ทีละสายทำให้ไม่เปลืองพลังเวทมนตร์มากเกินไป
“อย่าพูดมากน่า เจ้าหนู รีบๆสู้ซะสิ” ชายชุดรัดรูปที่เตะไลท์พูดขึ้น เขารวมพลังเวทมนตร์สีม่วงมาไว้ที่เท้าแล้วพุ่งเข้าใส่เด็กชายร่างบาง ไลท์เพียงมองศัตรูที่พุ่งเข้ามาอย่างพินิจ
ชายชุดดำหยุดที่หน้าไลท์ ก่อนที่จะหมุนตัวเตะด้วยขาที่เปี่ยมไปด้วยพลังเวทมนตร์ ถ้าโดนไปเต็มๆคงรอดยาก ไลท์เคลื่อนตัวไปด้านหลังหลบหลีกเท้าคู่ต่อสู้อย่างง่ายดาย การโจมตีพลาดเป้าของชายชุดดำทำให้เขาเคลื่อนไหวติดขัด เด็กหนุ่มใช้จังหวะนี้พุ่งปราดเข้าใส่ทันที
ผัวะ! ใบหน้าของชายผู้เป็นศัตรูโดนหมัดลุ่นๆของไลท์เข้าไปเต็มๆ ศีรษะของเขาหันหน้าไปตามแรงของหมัดนั้น ด้วยพลังอันเล็กน้อยของร่างที่บอบบางทำให้ชายชุดดำไม่ได้รับบาดเจ็บมากนัก เขายันพื้นด้วยเท้าข้างหนึ่งแล้วฟาดเท้าอีกข้างที่อาบด้วยพลังเวทมนตร์เข้าใส่ลำตัวของไลท์ ส่งผลให้ร่างบางกระเด็นไปตามแรงเท้า และกระแทกเข้ากับพื้น
“เป็นอะไรหรือเปล่า ไลท์” พอลร้องถามด้วยความเป็นห่วงเป็นใย ขณะพูดเขายังสามารถแยกสมาธิไปบังคับโซ่เพื่อป้องกันการโจมตีจากมีดสั้นของชายชุดดำได้
“ไม่เป็นไร มั้งนะ” เลือดสีแดงไหลออกมาจากปากเขาเล็กน้อย การโจมตีโดยการใช้พลังเวทมนตร์ร่วมด้วยคงทำให้พลังทำลายเพิ่มหลายเท่าทีเดียว
“แย่ละสิ พวกเราใช้เวทมนตร์รักษาไม่เป็นซะด้วย” พอลพูดแล้วหันไปหาเด็กหญิง เธอส่ายหัวเป็นเชิงปฏิเสธว่าเธอไม่มีเวทมนตร์รักษา
ไลท์ใช้มือข้างหนึ่งประกบไว้ที่ท้องของเขา มือนั้นเปล่งแสงสีขาวนวลออกมา ก่อนที่แสงเหล่านั้นจะเคลื่อนเข้าไปในแผลที่ละนิด จนไม่มีเลือดไหลออกมาจากปากไลท์อีก
พอลมองด้วยสายตาทึ่งในตัวเพื่อนของเขา แต่ในแววตาคู่นั้นก็ยังแฝงความสงสัยที่ปิดอย่างไรก็ไม่มิด “นายใช้เวทมนตร์รักษาได้ด้วย! ไม่เห็นบอกกันมั่งเลยนี่”
“ฉันเพิ่งเคยใช้พลังได้มากขนาดนี้เป็นครั้งแรกนั่นแหละ ปกติใช้อยู่ที่บ้านก็ไม่เห็นมีพลังออกมาขนาดนี้เลย” ไลท์ตอบพลางมองมือของตัวเองด้วยสายตาสงสัย เขาพลิกมือกลับไปกลับมาหลายรอบก็ไม่พบอะไรที่ผิดแผกไปจากเดิม
“อย่าคุยกันมากน่า รีบๆจบการต่อสู้ดีกว่า” ชายชุดดำผู้เป็นคู่ต่อสู้ของไลท์พูดขึ้น ก่อนที่จะพุ่งเข้าใส่เด็กหนุ่มร่างบางที่บัดนี้ไม่ได้อยู่ในท่าพร้อมตั้งรับ
ฉัวะ! เสียงกระบี่แหวกอากาศดังขึ้น ร่างชายที่พุ่งเข้าหาไลท์ขาดเป็นสองส่วนในพริบตา เจ้าของอาวุธนั้นโดดลงมาที่พื้น ขาทั้งสองของเธอแตะพื้นอย่างนุ่มนวล
“นั่นกระบี่แน่เหรอ ถึงขนาดใช้สันตัดตัวคนเป็นสองส่วนได้เนี่ยนะ” พอลพูดแต่ศีรษะไม่ได้หันไปทางผู้ที่พูดด้วย เขาใช้สมาธิอย่างหนักในการบังคับโซ่เวทมนตร์ซึ่งบัดนี้เขาใช้สองสายพร้อมกัน
“เพราะแรงกระโดดหรอก ยิ่งกระโดดสูงเท่าไร ตอนตกลงมาพลังทำลายก็จะเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น” เด็กสาวตอบ ก่อนที่จะเก็บกระบี่ใส่ถุงผ้า ขณะนี้มีพอลเพียงคนเดียวที่สู้อยู่ ชายชุดดำอีกสองคนถูกเด็กสาวจัดการไปเรียบร้อย
ไลท์เดินเข้าหาเด็กสาว เขาพูดไม่เป็นจังหวะ “คุณ ฆ่าเขา ทำไม” เด็กชายช็อคมากที่พบคนโดนฆ่าตายต่อหน้าต่อตา
เด็กสาวได้ฟังก็ยิ้มกริ่ม “ใครบอกว่าฉันฆ่าคน ดูให้ดีสิ” ไลท์หันหน้าไปที่ศพทั้งสอง บัดนี้มันกลายเป็นฝุ่นควันสลายไปในอากาศแล้ว เด็กสาวพูดต่อ “นั่นเป็นเพียงร่างที่สร้างจากหมอกควันเท่านั้นแหละ เป็นพลังเวทมนตร์แขนงหนึ่ง”
“งั้นผู้ใช้เวทมนตร์ควัน ก็น่าจะเป็น ” ไลท์เปรยขึ้น สายตาของเขาและเด็กสาวพุ่งเป้าไปที่ชายในชุดรัดรูปสีดำซึ่งกำลังสู้อย่างเอาเป็นเอาตายกับพอล เสียงของพวกเขาไปถึงหูชายในชุดรัดรูป ชายคนนั้นจึงผละออกจากการต่อสู้กับพอลและยืนตั้งหลักอยู่ในระยะสองเมตร
“รู้ตัวแล้วงั้นเหรอ แต่มันก็ช่วยอะไรไม่ได้มากหรอกนะ” ชายในชุดรัดรูปพูด ทันใดนั้นก็ปรากฏร่างของเขาจำนวนมากซึ่งสร้างจากหมอกควัน ไลท์นับได้กว่ายี่สิบร่าง “ฉัน ประธานนักเรียนปีสี่ โรงเรียนอีลิท วิซ นามของฉันคือ ทรีเพล ไลอาโซน” ร่างที่สร้างจากควันนั้นตั้งท่าต่อสู้ “ถนัดการใช้หมอกควัน ” ร่างทั้งหมดพุ่งเข้าใส่ไลท์ พอล และเด็กสาวผู้ใช้กระบี่
เด็กสาวตั้งท่าจะใช้กระบี่ฟันร่างศัตรู แต่ด้วยจำนวนศัตรูที่เยอะพอสมควรทำให้เธออาจจะสู้ได้ไม่ถนัดนัก พอลปล่อยโซ่จำนวนมากออกมาจากตัว โซ่เหล่านั้นพุ่งเข้าหาร่างทรีเพลที่สร้างขึ้นมาจากควันกว่ายี่สิบร่าง
“ถอยไป!!!!!!” ไลท์ที่ยืนเงียบอยู่นานร้องขึ้น เขาพุ่งเข้าไปด้านหน้าพอลและเด็กสาว พอลรีบบังคับโซ่ให้เปลี่ยนทิศทางเพราะมันกำลังจะชนร่างบางของเด็กหนุ่มผู้ห้าวหาญมายืนด้านหน้า เด็กสาวยืนถือกระบี่นิ่งไม่รู้ว่าควรจะทำเช่นไร ในใจเธอนึกอยากเชื่อใจไลท์สักครั้ง แม้เขาจะไม่เคยแสดงพลังต่อสู้ออกมาก็เถอะ
ไลท์ขยับปากอย่างแผ่วเบาและรวดเร็ว ศัตรูกว่ายี่สิบร่างพุ่งเข้ามาใกล้เรื่อยๆ เมตรครึ่ง หนึ่งเมตร ครึ่งเมตร จนอยู่ติดตัวเขาเพียงปลายจมูก
ฉัวะ! ฉึก! เสียงกระบี่ดังขึ้น พร้อมกับเสียงของโซ่ที่พุ่งทะลุตัวศัตรู ไลท์ยังคงยืนนิ่งท่ามกลางศัตรูที่ถาโถมเข้ามา เด็กสาวกับพอลจึงต้องยื่นมือเข้าสังหารศัตรูก่อนที่พวกมันจะโจมตีพวกเขา น่าแปลกที่ทุกร่างพุ่งผ่านไลท์ไปราวกับมองไม่เห็นไลท์ หรือไลท์ไม่มีตัวตนอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงกันแน่
“บทขับกล่อมแรกแห่งเทพลงทัณฑ์ The First Judgement!”
เสียงของไลท์ดังกึกก้อง
ตูม! เกิดระเบิดขึ้นในทางเดินนั้น ร่างศัตรูที่ถาโถมเข้ามาหายไปในพริบตา ทุกคนในห้องนั้นหลับตา ในใจของพวกเขาคิดว่าได้ไปทัวร์สวรรค์เรียบร้อยแล้ว โดนระเบิดระยะใกล้ขนาดนั้นคงไม่มีทางรอด กลิ่นควันปะทะเข้ากับจมูกของพวกเขาทั้งสาม ทำให้พวกเขาไม่แน่ใจว่าแท้จริงแล้วพวกเขายังมีชีวิตหรือไม่
พอล เด็กสาว และทรีเพลค่อยๆเปิดตาขึ้น สิ่งที่พบคือเด็กหนุ่มร่างบางกำลังยืนอยู่ท่ามกลางฝุ่นที่กระจายด้วยแรงระเบิด ทุกๆคนไม่มีบาดแผลใดในตัว แต่ร่างที่เกิดจากควันทั้งหมดกลับหายไปกับระเบิดด้วย
“นั่นคือพลังเวทมนตร์ของนายงั้นเหรอ ไลท์” พอลพูดด้วยน้ำเสียงไม่มั่นใจ เขามองไปที่เด็กหนุ่มร่างบางด้วยสายตาสงสัย
ไลท์หันหน้ามา สิ่งที่พอลและคนอื่นๆเห็นคือ ดวงตาสีฟ้าของไลท์บัดนี้ได้เปลี่ยนเป็นสีทอง!
ไม่ทันที่พอลจะเปิดปากถามอีก ดวงตาของเด็กหนุ่มร่างบางก็กลับเป็นสีฟ้าใสดังเดิม พอลจ้องไลท์ด้วยสายตาสงสัยมากขึ้นไปอีก
“อ๋อ ก็เวทมนตร์โจมตีที่ฉันบอกว่าเบามากไง เห็นไหมล่ะ ไม่มีใครบาดเจ็บเลยแม้แต่คนเดียว” ไลท์ตอบ พอลมองไปรอบๆ ไม่พบใครที่บาดเจ็บเลยจริงๆ ทรีเพลและเด็กสาวมองมาที่ไลท์ด้วยสายตาสงสัยเช่นเดียวกัน
ทำไมพวกเขารู้สึกถึงแรงระเบิด และความร้อนที่เกิดจากการระเบิด แต่พวกเขากลับไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรเลย แผลสักอย่างก็ไม่มีให้เห็น ราวกับตัวพวกเขาเป็นอากาศธาตุไปช่วงหนึ่ง
มีเพียงร่างของหมอกควันเท่านั้นที่อันตรธานไป
จบ บทที่3
“ท่านเมลล์”
เสียงหนึ่งดังขึ้นขณะผู้ถูกเรียกกำลังนั่งอย่างสบายอารมณ์ในลานน้ำพุ เจ้าของเสียงโผล่ออกมาจากช่องสี่เหลี่ยมสีขาวที่ปรากฏขึ้นกลางอากาศ และเมื่อก้าวขาออกมา ช่องสี่เหลี่ยมนั้นก็อันตรธานหายไปในอากาศ
“เด็กใหม่ปีนี้เป็นยังไงบ้างครับ” ชายสวมแว่นในชุดคอปกสีขาวสลับดำพูดกับชายชราซึ่งนั่งอยู่ใกล้น้ำพุ
“ไม่รู้สิ ฉันยังไม่เห็นเวทมนตร์ของแต่ละคนเลย” ชายชราตอบด้วยเสียงเอื่อยๆ ชายสวมแว่นทำหน้าผิดหวัง
“งั้น นักเรียนกลุ่มไหนโชคร้ายเลือกเส้นทางพิเศษล่ะครับ” ชายสวมแว่นเปลี่ยนคำถาม
ชายชรานั่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเปิดปากอย่างช้าๆ “เป็นเด็กผู้ชายสองคน กับเด็กผู้หญิงอีกหนึ่ง”
“แล้วพวกเขาสามคนมีสิทธิ์ชนะพวกประธานนักเรียนที่รออยู่ในทางนั้นไหมครับ” ชายสวมแว่นขยับแว่นตาเล็กน้อย ตาเรียวเล็กของเขามองมาที่ผู้อำนวยการโรงเรียนอีลิท วิซ
“ฉันคงบอกอะไรไม่ได้นะ จะเกิดอะไรขึ้นก็ถือว่าเป็นดวงของพวกเขานั่นแหละ ที่บังเอิญเลือกทางที่มีประธานนักเรียนรออยู่ แต่ ” ชายชราชะงักกลางคัน เขาลูบเคราสีขาวโพลนเบาๆ “ฉันสนใจเด็กผู้ชายคนหนึ่งในกลุ่มนั้น ฉันมองเห็นเงาของมนุษย์มีปีกอยู่ในร่างนั้น” สายตาของเมลล์ส่องประกายเจิดจ้า รอยยิ้มผุดขึ้นที่มุมปากของเขา
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
การต่อสู้กำลังจะเริ่มขึ้น ทางเดินอันมืดสลัวทำให้ชายทั้งสามในชุดรัดรูปสีดำเป็นฝ่ายได้เปรียบ ไม่มีสรรพเสียงใดจนทำให้แม้แต่เสียงเหงื่อหยดลงสู่พื้นก็ยังได้ยิน ทั้งสองฝ่ายจ้องตากันไม่กระพริบ รอเพียงฝ่ายใดจะเป็นผู้บุกก่อนเท่านั้น
“พวกเราจะบุกก่อนล่ะนะ” ในที่สุดฝ่ายชายในชุดรัดรูปก็พูดออกมา พวกเขาออกตัวพุ่งเข้าใส่เด็กทั้งสามในทันที เด็กหญิงฟาดกระบี่เข้าใส่ชายคนหนึ่งที่พุ่งเข้าหาเธอ แต่กลับไม่สามารถโจมตีผ่านคลื่นพลังสีม่วงที่กระจายออกมาจากรอบตัวเขาได้
พอลร่ายโซ่เวทมนตร์สายหนึ่งเข้าพันธนาการชายในชุดรัดรูปอีกคน ชายคนนั้นเคลื่อนตัวหลบอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะพุ่งเข้าใส่เด็กชายพร้อมกับมีดสั้นในมือ พอลมองไม่ทันว่ามีมีดอยู่ในมือชายคนนั้นตั้งแต่เมื่อไร ในเวลานี้เขาต้องคิดเพียงวิธีจัดการศัตรูตรงหน้าเท่านั้น
ผัวะ! เสียงการโจมตีแรกดังขึ้น เมื่อขาของชายในชุดรัดรูปคนสุดท้ายเตะเข้าที่ต้นขาของไลท์ หนุ่มร่างบางถอยกรูดออกมาพลางลูบเบาๆบริเวณที่โดนโจมตี
“เอ๋ ฉันต้องสู้ด้วยงั้นเหรอ” ไลท์หันหน้าไปหาพอล
“ศัตรูมีสามคน พวกเราก็มีสามคน ต้องสู้หนึ่งต่อหนึ่งสิ ฉันเองโดนรุมสองก็ไม่ไหวเหมือนกันนะ” พอลตอบ พลางบังคับโซ่เวทมนตร์สายเดียวรุกและรับอย่างชำนาญ การใช้โซ่เวทมนตร์ทีละสายทำให้ไม่เปลืองพลังเวทมนตร์มากเกินไป
“อย่าพูดมากน่า เจ้าหนู รีบๆสู้ซะสิ” ชายชุดรัดรูปที่เตะไลท์พูดขึ้น เขารวมพลังเวทมนตร์สีม่วงมาไว้ที่เท้าแล้วพุ่งเข้าใส่เด็กชายร่างบาง ไลท์เพียงมองศัตรูที่พุ่งเข้ามาอย่างพินิจ
ชายชุดดำหยุดที่หน้าไลท์ ก่อนที่จะหมุนตัวเตะด้วยขาที่เปี่ยมไปด้วยพลังเวทมนตร์ ถ้าโดนไปเต็มๆคงรอดยาก ไลท์เคลื่อนตัวไปด้านหลังหลบหลีกเท้าคู่ต่อสู้อย่างง่ายดาย การโจมตีพลาดเป้าของชายชุดดำทำให้เขาเคลื่อนไหวติดขัด เด็กหนุ่มใช้จังหวะนี้พุ่งปราดเข้าใส่ทันที
ผัวะ! ใบหน้าของชายผู้เป็นศัตรูโดนหมัดลุ่นๆของไลท์เข้าไปเต็มๆ ศีรษะของเขาหันหน้าไปตามแรงของหมัดนั้น ด้วยพลังอันเล็กน้อยของร่างที่บอบบางทำให้ชายชุดดำไม่ได้รับบาดเจ็บมากนัก เขายันพื้นด้วยเท้าข้างหนึ่งแล้วฟาดเท้าอีกข้างที่อาบด้วยพลังเวทมนตร์เข้าใส่ลำตัวของไลท์ ส่งผลให้ร่างบางกระเด็นไปตามแรงเท้า และกระแทกเข้ากับพื้น
“เป็นอะไรหรือเปล่า ไลท์” พอลร้องถามด้วยความเป็นห่วงเป็นใย ขณะพูดเขายังสามารถแยกสมาธิไปบังคับโซ่เพื่อป้องกันการโจมตีจากมีดสั้นของชายชุดดำได้
“ไม่เป็นไร มั้งนะ” เลือดสีแดงไหลออกมาจากปากเขาเล็กน้อย การโจมตีโดยการใช้พลังเวทมนตร์ร่วมด้วยคงทำให้พลังทำลายเพิ่มหลายเท่าทีเดียว
“แย่ละสิ พวกเราใช้เวทมนตร์รักษาไม่เป็นซะด้วย” พอลพูดแล้วหันไปหาเด็กหญิง เธอส่ายหัวเป็นเชิงปฏิเสธว่าเธอไม่มีเวทมนตร์รักษา
ไลท์ใช้มือข้างหนึ่งประกบไว้ที่ท้องของเขา มือนั้นเปล่งแสงสีขาวนวลออกมา ก่อนที่แสงเหล่านั้นจะเคลื่อนเข้าไปในแผลที่ละนิด จนไม่มีเลือดไหลออกมาจากปากไลท์อีก
พอลมองด้วยสายตาทึ่งในตัวเพื่อนของเขา แต่ในแววตาคู่นั้นก็ยังแฝงความสงสัยที่ปิดอย่างไรก็ไม่มิด “นายใช้เวทมนตร์รักษาได้ด้วย! ไม่เห็นบอกกันมั่งเลยนี่”
“ฉันเพิ่งเคยใช้พลังได้มากขนาดนี้เป็นครั้งแรกนั่นแหละ ปกติใช้อยู่ที่บ้านก็ไม่เห็นมีพลังออกมาขนาดนี้เลย” ไลท์ตอบพลางมองมือของตัวเองด้วยสายตาสงสัย เขาพลิกมือกลับไปกลับมาหลายรอบก็ไม่พบอะไรที่ผิดแผกไปจากเดิม
“อย่าคุยกันมากน่า รีบๆจบการต่อสู้ดีกว่า” ชายชุดดำผู้เป็นคู่ต่อสู้ของไลท์พูดขึ้น ก่อนที่จะพุ่งเข้าใส่เด็กหนุ่มร่างบางที่บัดนี้ไม่ได้อยู่ในท่าพร้อมตั้งรับ
ฉัวะ! เสียงกระบี่แหวกอากาศดังขึ้น ร่างชายที่พุ่งเข้าหาไลท์ขาดเป็นสองส่วนในพริบตา เจ้าของอาวุธนั้นโดดลงมาที่พื้น ขาทั้งสองของเธอแตะพื้นอย่างนุ่มนวล
“นั่นกระบี่แน่เหรอ ถึงขนาดใช้สันตัดตัวคนเป็นสองส่วนได้เนี่ยนะ” พอลพูดแต่ศีรษะไม่ได้หันไปทางผู้ที่พูดด้วย เขาใช้สมาธิอย่างหนักในการบังคับโซ่เวทมนตร์ซึ่งบัดนี้เขาใช้สองสายพร้อมกัน
“เพราะแรงกระโดดหรอก ยิ่งกระโดดสูงเท่าไร ตอนตกลงมาพลังทำลายก็จะเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น” เด็กสาวตอบ ก่อนที่จะเก็บกระบี่ใส่ถุงผ้า ขณะนี้มีพอลเพียงคนเดียวที่สู้อยู่ ชายชุดดำอีกสองคนถูกเด็กสาวจัดการไปเรียบร้อย
ไลท์เดินเข้าหาเด็กสาว เขาพูดไม่เป็นจังหวะ “คุณ ฆ่าเขา ทำไม” เด็กชายช็อคมากที่พบคนโดนฆ่าตายต่อหน้าต่อตา
เด็กสาวได้ฟังก็ยิ้มกริ่ม “ใครบอกว่าฉันฆ่าคน ดูให้ดีสิ” ไลท์หันหน้าไปที่ศพทั้งสอง บัดนี้มันกลายเป็นฝุ่นควันสลายไปในอากาศแล้ว เด็กสาวพูดต่อ “นั่นเป็นเพียงร่างที่สร้างจากหมอกควันเท่านั้นแหละ เป็นพลังเวทมนตร์แขนงหนึ่ง”
“งั้นผู้ใช้เวทมนตร์ควัน ก็น่าจะเป็น ” ไลท์เปรยขึ้น สายตาของเขาและเด็กสาวพุ่งเป้าไปที่ชายในชุดรัดรูปสีดำซึ่งกำลังสู้อย่างเอาเป็นเอาตายกับพอล เสียงของพวกเขาไปถึงหูชายในชุดรัดรูป ชายคนนั้นจึงผละออกจากการต่อสู้กับพอลและยืนตั้งหลักอยู่ในระยะสองเมตร
“รู้ตัวแล้วงั้นเหรอ แต่มันก็ช่วยอะไรไม่ได้มากหรอกนะ” ชายในชุดรัดรูปพูด ทันใดนั้นก็ปรากฏร่างของเขาจำนวนมากซึ่งสร้างจากหมอกควัน ไลท์นับได้กว่ายี่สิบร่าง “ฉัน ประธานนักเรียนปีสี่ โรงเรียนอีลิท วิซ นามของฉันคือ ทรีเพล ไลอาโซน” ร่างที่สร้างจากควันนั้นตั้งท่าต่อสู้ “ถนัดการใช้หมอกควัน ” ร่างทั้งหมดพุ่งเข้าใส่ไลท์ พอล และเด็กสาวผู้ใช้กระบี่
เด็กสาวตั้งท่าจะใช้กระบี่ฟันร่างศัตรู แต่ด้วยจำนวนศัตรูที่เยอะพอสมควรทำให้เธออาจจะสู้ได้ไม่ถนัดนัก พอลปล่อยโซ่จำนวนมากออกมาจากตัว โซ่เหล่านั้นพุ่งเข้าหาร่างทรีเพลที่สร้างขึ้นมาจากควันกว่ายี่สิบร่าง
“ถอยไป!!!!!!” ไลท์ที่ยืนเงียบอยู่นานร้องขึ้น เขาพุ่งเข้าไปด้านหน้าพอลและเด็กสาว พอลรีบบังคับโซ่ให้เปลี่ยนทิศทางเพราะมันกำลังจะชนร่างบางของเด็กหนุ่มผู้ห้าวหาญมายืนด้านหน้า เด็กสาวยืนถือกระบี่นิ่งไม่รู้ว่าควรจะทำเช่นไร ในใจเธอนึกอยากเชื่อใจไลท์สักครั้ง แม้เขาจะไม่เคยแสดงพลังต่อสู้ออกมาก็เถอะ
ไลท์ขยับปากอย่างแผ่วเบาและรวดเร็ว ศัตรูกว่ายี่สิบร่างพุ่งเข้ามาใกล้เรื่อยๆ เมตรครึ่ง หนึ่งเมตร ครึ่งเมตร จนอยู่ติดตัวเขาเพียงปลายจมูก
ฉัวะ! ฉึก! เสียงกระบี่ดังขึ้น พร้อมกับเสียงของโซ่ที่พุ่งทะลุตัวศัตรู ไลท์ยังคงยืนนิ่งท่ามกลางศัตรูที่ถาโถมเข้ามา เด็กสาวกับพอลจึงต้องยื่นมือเข้าสังหารศัตรูก่อนที่พวกมันจะโจมตีพวกเขา น่าแปลกที่ทุกร่างพุ่งผ่านไลท์ไปราวกับมองไม่เห็นไลท์ หรือไลท์ไม่มีตัวตนอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงกันแน่
“บทขับกล่อมแรกแห่งเทพลงทัณฑ์ The First Judgement!”
เสียงของไลท์ดังกึกก้อง
ตูม! เกิดระเบิดขึ้นในทางเดินนั้น ร่างศัตรูที่ถาโถมเข้ามาหายไปในพริบตา ทุกคนในห้องนั้นหลับตา ในใจของพวกเขาคิดว่าได้ไปทัวร์สวรรค์เรียบร้อยแล้ว โดนระเบิดระยะใกล้ขนาดนั้นคงไม่มีทางรอด กลิ่นควันปะทะเข้ากับจมูกของพวกเขาทั้งสาม ทำให้พวกเขาไม่แน่ใจว่าแท้จริงแล้วพวกเขายังมีชีวิตหรือไม่
พอล เด็กสาว และทรีเพลค่อยๆเปิดตาขึ้น สิ่งที่พบคือเด็กหนุ่มร่างบางกำลังยืนอยู่ท่ามกลางฝุ่นที่กระจายด้วยแรงระเบิด ทุกๆคนไม่มีบาดแผลใดในตัว แต่ร่างที่เกิดจากควันทั้งหมดกลับหายไปกับระเบิดด้วย
“นั่นคือพลังเวทมนตร์ของนายงั้นเหรอ ไลท์” พอลพูดด้วยน้ำเสียงไม่มั่นใจ เขามองไปที่เด็กหนุ่มร่างบางด้วยสายตาสงสัย
ไลท์หันหน้ามา สิ่งที่พอลและคนอื่นๆเห็นคือ ดวงตาสีฟ้าของไลท์บัดนี้ได้เปลี่ยนเป็นสีทอง!
ไม่ทันที่พอลจะเปิดปากถามอีก ดวงตาของเด็กหนุ่มร่างบางก็กลับเป็นสีฟ้าใสดังเดิม พอลจ้องไลท์ด้วยสายตาสงสัยมากขึ้นไปอีก
“อ๋อ ก็เวทมนตร์โจมตีที่ฉันบอกว่าเบามากไง เห็นไหมล่ะ ไม่มีใครบาดเจ็บเลยแม้แต่คนเดียว” ไลท์ตอบ พอลมองไปรอบๆ ไม่พบใครที่บาดเจ็บเลยจริงๆ ทรีเพลและเด็กสาวมองมาที่ไลท์ด้วยสายตาสงสัยเช่นเดียวกัน
ทำไมพวกเขารู้สึกถึงแรงระเบิด และความร้อนที่เกิดจากการระเบิด แต่พวกเขากลับไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรเลย แผลสักอย่างก็ไม่มีให้เห็น ราวกับตัวพวกเขาเป็นอากาศธาตุไปช่วงหนึ่ง
มีเพียงร่างของหมอกควันเท่านั้นที่อันตรธานไป
จบ บทที่3
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น