ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Elite Wizard School

    ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 2 : สู่จุดหมาย

    • อัปเดตล่าสุด 29 ส.ค. 48


    บทที่ 2 : สู่จุดหมาย



    เครื่องบินของโรงเรียนอีลิท วิซ ซึ่งบรรทุนักเรียนหลายร้อยชีวิต กำลังเคลื่อนที่ไปข้างหน้าท่ามกลางหมู่เมฆจำนวนมาก ภายในชั้นหนึ่งของเครื่องบิน เป็นห้องสำหรับนักเรียนอายุ 14 ปีที่เพิ่งเข้าใหม่



    เด็กหนุ่มร่างบางคนหนึ่งกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้หมายเลข 168 เขามีผมสั้นสีน้ำตาล ตาสีฟ้า สูงประมาณ 152 ซม. เขากำลังคุยอย่างออกรสกับเด็กหนุ่มร่างสูง ผมสีเทา ซึ่งนั่งอยู่ข้างๆเขา



    “ขอบใจมากนะ ที่ช่วยผมจากเจ้านั่น” ไลท์พยักเพยิดไปทางเด็กชายร่างใหญ่ที่นั่งอยู่คนละแถวกัน



    “ไม่เป็นไรหรอก ฉันเป็นพวกเห็นคนโดนรังแกไม่ได้น่ะ อ้อ ว่าแต่นายชื่ออะไรเหรอ” เด็กหนุ่มผมเทาถาม ดวงตาสีขาวขุ่นของเขาส่องประกาย



    “ผมชื่อ ไลท์ ดิเคออส”



    “ยินดีที่ได้รู้จักนะ ไลท์ ฉันชื่อ พอล โรเวลลอน” เด็กหนุ่มร่างสูงแนะนำตัวบ้าง



    “ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกัน! พอล” ไลท์พูดด้วยท่าทีร่าเริง เขาเริ่มเปิดประเด็นใหม่ในการสนทนาทันที “เวทมนตร์โซ่ของนายเจ๋งมากเลยนะ ฉันอยากมีบ้างจัง”



    “ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก …ว่าแต่ นายมีเวทมนตร์ของตัวเองมั้ย หรือใช้เวทมนตร์ไม่เป็นเลย” พอลถามด้วยความสนใจ เขารอคำตอบอย่างใจจดใจจ่อว่าเวทมนตร์ประจำตัวของไลท์จะเป็นเช่นไร มันจะดีกว่า หรือแย่กว่าเวทมนตร์ ‘โซ่พันธนาการ’ ของเขา



    ไลท์ตอบด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง “ฉันก็พอใช้เวทมนตร์เป็นหรอกนะ แต่ไม่เก่งมาก”



    พอลขมวดคิ้ว “นายใช้เวทมนตร์อะไรเหรอ บอกได้ไหม”



    ไลท์ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบ “อืม เป็นเวทมนตร์สายแปลกประหลาดน่ะ มันโจมตีได้ ป้องกันได้ แล้วก็รักษาได้ …แต่ไม่มีอะไรที่สามารถใช้การได้จริงๆเลยน่ะสิ โจมตีก็เบามาก ป้องกันก็ไม่ค่อยไหว รักษาก็ช่วยได้นิดหน่อยเท่านั้นเอง”



    “เวทมนตร์สายแปลกจริงด้วยแฮะ ถ้ามีเวทมนตร์แบบนี้นายน่าจะฝึกเวทมนตร์ใหม่นะ เวทมนตร์นี้ดูท่าจะใช้การอะไรไม่ค่อยได้” พอลออกความคิดเห็น



    “อย่าเลย แค่เวทมนตร์นี้ฉันก็ใช้เวลาฝึกตั้งหลายปี ขืนไปฝึกเวทมนตร์อื่นให้ชำนาญคงใช้เวลาหลายสิบปีแน่” ไลท์พูดประชดตัวเอง ทั้งสองหัวเราะขึ้นพร้อมกัน



    ทันใดนั้นตัวเครื่องบินก็ลอยต่ำลง นักเรียนใหม่ต่างไปมุงดูที่หน้าต่าง พบว่าเครื่องบินค่อยๆบินทะลุหมู่เมฆลงมา และเห็นตึกรามมากมายที่ตั้งอยู่ด้านล่าง ไม่นานนักเครื่องบินของโรงเรียนอีลิท วิซก็ค่อยๆร่อนลงสู่พื้นดินและเข้าเทียบท่าในช่องจอดเครื่องบินที่เตรียมไว้แล้ว รอบข้างของเครื่องบินก็มีช่องจอดเครื่องบินเรียงรายกันไปมากมาย บางช่องก็มีเครื่องบินจอด บางช่องก็ว่างเปล่า



    “ขอเชิญนักเรียนทุกคนลงจากเครื่องบินได้แล้วค่ะ” เสียงใสๆของหญิงสาวผู้หนึ่งดังขึ้นจากลำโพงในห้องของนักเรียนที่เข้าใหม่ เด็กหนุ่มสาวจำนวนมากรีบวิ่งไปที่ประตูทางออก ไลท์กับพอลก็เป็นหนึ่งในนั้น เขาตามฝูงชนไปจนออกจากเครื่องบิน โดยนักเรียนเก่าใช้ประตูทางออกที่ตั้งอยู่ชั้นบนซึ่งเชื่อมกับอาคารสนามบิน ส่วนนักเรียนเข้าใหม่ต้องมารวมกันอยู่ใต้ท้องเครื่องบินที่พวกเขาเพิ่งนั่งกันมา



    “ยินดีต้อนรับนักเรียนใหม่ทุกคนสู่ เมืองเวทมนตร์ เซนทานิส” ชายแก่คนหนึ่งกล่าวขึ้นเมื่อเด็กนักเรียนใหม่ยืนเป็นแถวเรียบร้อยแล้ว ผู้พูดมีร่างกายผอมและไม่สูงมากนัก ผิวหนังที่เหี่ยวย่นตามวัยประกอบกับเครายาวสีขาวโพลนทำให้เดาอายุได้ว่าไม่น่าต่ำกว่า 70 ปี



    “เมืองเวทมนตร์… แปลว่าตอนนี้เรายังไม่ถึงโรงเรียนงั้นเหรอคะ” เสียงเด็กผู้หญิงดังมาจากในแถวนักเรียนใหม่



    ชายแก่ลูบเคราสีขาวของเขา “ใช่ ที่นี่เป็นสนามบิน เราจำเป็นต้องจอดเครื่องบินที่นี่แล้วเดินทางไปที่โรงเรียน”



    “ไปโรงเรียนด้วยอะไรเหรอครับ เดินไปหรือเปล่า” เด็กชายคนหนึ่งถามบ้าง



    ชายแก่หัวเราะเบาๆ ก่อนที่จะมองมาทางผู้ถาม “สนามบินอยู่ในเขตนอกเมือง ส่วนโรงเรียนอยู่ใจกลางของตัวเองเซนทานิส จากที่นี่ไปก็ประมาณห้าสิบกิโลเมตร พวกเธอเดินกันไหวไหมล่ะ”



    เสียงนักเรียนดังขึ้นทันทีเมื่อชายแก่พูดจบ หลายคนถกเถียงกันว่าจะไปโดยวิธีใด หลายคนคุยกันเรื่องโรงเรียนว่าจะมีสภาพเป็นเช่นไร หลายคนก็ถือโอกาสคุยเล่นตามประสาเด็ก



    “อ้อ ลืมแนะนำตัวไป ฉันชื่อ เมลล์ เบสเอจ เป็นผู้อำนวยการโรงเรียนเวทมนตร์อีลิท วิซ” ชายแก่แนะนำตัว เขาสอดส่ายสายตาไปรอบๆ ก่อนจะพูดออกมา “ได้เวลาที่จะต้องไปโรงเรียนกันแล้วล่ะ!”



    “จะเดินไปจริงๆเหรอครับเนี่ย” เด็กคนเดิมถาม เมลล์ยิ้มตอบเด็กหนุ่มคนนั้น



    “เดี๋ยวก็รู้…” พูดจบชายชราก็ส่งเสียงออกมา ทุกถ้อยคำดูมีพลังอำนาจอยู่ในตัวมัน



    “เอลลี่ เทเลพอร์ต้า – Elly Teleporteta”



    สิ้นเสียงชายชรา ปรากฏแสงสีขาวล้อมรอบตัวเขาและนักเรียนกว่าสองร้อยคน แสงนั้นจ้าจนนักเรียนทุกคนต้องหลับตา แต่ไม่ทันที่พวกเขาจะปิดตาได้สนิท ก็บังเกิดแรงลมปะทะกับใบหน้าของพวกเขา พร้อมกับกลิ่นหอมอบอวลที่ลอยมาในอากาศ เด็กหนุ่มสาวค่อยๆเปิดตาออก ภาพที่เห็นคือทุ่งดอกไม้ที่มีดอกไม้หลากหลายชนิดจากทั่วทุกมุมโลก ลมเย็นสบายพัดผ่านทุกเวลา แม้จะมีแดดก็ไม่ทำให้รู้สึกร้อนมากนัก เบื้องหลังทุ่งหญ้าคือกำแพงสูงลิบลิ่วที่ก่อด้วยอิฐ มีประตูขนาดยักษ์ที่สร้างด้วยไม้เปิดอยู่ เด็กนักเรียนใหม่ต่างสนอกสนใจกับธรรมชาติรอบด้าน



    “พวกเรามาถึงโรงเรียนเวทมนตร์ อีลิท วิซแล้ว ทางเข้าโรงเรียนคือประตูไม้บานใหญ่ตรงนั้น ตอนนี้ในโรงเรียนมีพิธีเพื่อรอรับนักเรียนใหม่อยู่นะ รีบๆเข้าไปสิ” เมลล์พูดด้วยเสียงกึกก้อง ก่อนจะเดินนำเข้าไปในประตูขนาดยักษ์ที่สูงกว่าสี่เมตร เด็กนักเรียนใหม่เดินตามไปติดๆ



    เมื่อพ้นประตูไม้ไป ก็เป็นทางเดินที่ปูด้วยหินอ่อน กำแพงด้านข้างมีกระจกที่เป็นโมเซสรูปชายหน้าบึ้งในชุดผ้าสีเหลืองทอง มีปีกสีดำคู่หนึ่งด้านหลัง ไลท์รู้สึกคุ้นตากับภาพนี้เหลือเกิน แต่นึกเท่าไรก็นึกไม่ออกว่าภาพนั้นเป็นภาพของใครกันแน่ เด็กชายตัดสินใจเก็บคำถามไว้ในใจแล้วเดินตามกลุ่มนักเรียนไป



    ชายชรานำทางเด็กนักเรียนใหม่มาถึงบริเวณลานโล่งๆที่มีน้ำพุอยู่บริเวณใจกลางของลาน รอบๆลานปรากฏประตูและทางแยกมากมายนับไม่ถ้วน หน้าประตูและหน้าทางแยกจะมีตัวอักษรที่ลอยได้อยู่ ซึ่งจะบ่งบอกว่าประตูนี้หรือทางแยกนี้จะพาไปที่ใด



    “เอาล่ะ ที่นี่คือ ‘ลานน้ำพุ’ ใจกลางของโรงเรียนที่มีทางไปทุกที่ในโรงเรียนนี้ ให้ไปงานพิธีกันเองนะ หาทางแยกที่เขียนว่า ‘ไป หอประชุมอควารีส’ ก็จะพาเราไปถึงสถานที่จัดงาน อ้อ! ระหว่างทางเดินอาจจะมีกับดักหรือคนที่ซุ่มอยู่นะ ระวังไว้หน่อยละกัน” เมลล์พูดแล้วนั่งลงที่ม้านั่งใกล้ๆน้ำพุ



    เด็กนักเรียนกว่าร้อยชีวิตต่างแยกกันเดินเข้าคนละทาง เพราะมีหลายทางมากที่เขียนว่า ‘ไป หอประชุมอควารีส’ จนสุดท้ายเหลือเพียงไลท์ พอล และเด็กสาวอีกหนึ่งคน ที่ยังยืนอยู่ในลานน้ำพุ ไลท์กับพอลเลือกทางแยกที่มีเขียนว่าเป็นทางไปหอประชุมเช่นเดียวกัน แต่เป็นทางที่ยังไม่มีใครเข้า ก่อนที่เขาจะก้าวเข้าไปในทางแยกนั้น เด็กสาวก็เดินตามมา



    “ฉัน…ขอไปด้วยได้มั้ยคะ” เด็กสาวคนนั้นถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน เธอตัวสูงพอๆกับไลท์ มีผมยาวสลวยสีน้ำตาลทอง กับตาสีน้ำตาลเข้ม แววตาอันอ่อนหวานของเธอจ้องมาที่เด็กชายทั้งสอง เธอสะพายห่อผ้าขนาดยาวที่ใส่อะไรบางอย่างไว้บริเวณไหล่



    “ได้ครับ!” พอลพูดพร้อมกับออกเดินโดยไม่ถามความคิดเห็นของผู้ร่วมทางอีกคน ทั้งสามเดินเข้ามาในทางแยก เป็นทางเล็กๆมืดสลัว มีเพียงแสงจากตะเกียงข้างกำแพงเท่านั้นที่ทำให้พอเห็นทางข้างหน้า



    การเดินทางเหมือนจะราบรื่น อยู่ๆเด็กสาวที่ร่วมทางมาด้วยก็สะกิดหลังของไลท์กับพอล



    “มีคนกำลังเดินมา…” เด็กสาวกระซิบด้วยเสียงแผ่วเบา



    “เอ๋ ทำไมพวกเราไม่ได้ยินเสียงฝีเท้าเลยล่ะ” พอลตอบกลับโดยพูดด้วยเสียงเบาเช่นกัน



    “ฉันอยู่กับธรรมชาติมานาน จนหูฉันสามารถแยกเสียงต่างๆได้” เด็กสาวพูดเพียงเท่านี้ ก็ปลดสายสะพายของห่อผ้าบริเวณไหล่ออก แล้วดึงวัตถุที่อยู่ในห่อผ้ามาถือไว้ในมืออย่างรวดเร็ว



    “ว้าว!” ไลท์อุทานออกมา สิ่งที่เขาเห็นคือกระบี่ในมือเด็กสาวที่ส่องประกายแวววาว ด้ามจับกระบี่เป็นสีเขียวเข้ม ตัวกระบี่เป็นสีนิล ปลายกระบี่ถูกเหลาจนคมกริบ แตกต่างจากด้านข้างของกระบี่ที่ไม่มีความแหลมคมเอาเสียเลย



    “ทำไมสันของดาบนี่ไม่แหลมเลยล่ะ ของแบบนี้จะฟันใครเข้าเหรอ” พอลถามพลางมองกระบี่อย่างพินิจ



    “นี่คือกระบี่ ไม่ใช่ดาบ ถึงแม้รูปร่างจะคล้ายกันก็เถอะ แต่ดาบเป็นอาวุธที่ใช้ฟัน ส่วนกระบี่เป็นอาวุธที่ใช้แทง …อะ ก้มลงไปซะ!” เด็กสาวร้องเสียงดัง เด็กหนุ่มทั้งสองรีบก้มหัวลง



    วัตถุแหลมเล็กบางอย่างพุ่งมาจากความมืดมิดเบื้องหน้า มันฝ่าอากาศเข้าใส่เด็กสาวที่ถือกระบี่ในมือเตรียมพร้อมไว้อยู่แล้ว สายตาของเธอจับการเคลื่อนไหวของวัตถุนั้นอย่างรวดเร็ว



    ฉัวะ! พริบตาเดียวกระบี่ของเธอก็ฟาดเข้าใส่เข็มเล่มหนึ่ง โดยเด็กชายทั้งสองมองไม่ทันว่าเธอสะบัดกระบี่ตอนไหน บริเวณสันกระบี่ที่สัมผัสกับปลายเข็มกลายเป็นสีม่วงทันที เข็มเล่มนั้นตกกระทบกับพื้นส่งเสียงแผ่วเบา



    เสียงฝีเท้าหลายคู่ดังมาจากทางข้างหน้าที่มืดมิด เสียงนั้นชัดขึ้นเรื่อยๆ เด็กสาวกระชับด้ามกระบี่ไว้แน่น สายตาจับจ้องเพียงความมืดเบื้องหน้า พอลใช้พลังเวทมนตร์สีเทาอ่อนของเขาห่อหุ้มร่างเอาไว้ ส่วนไลท์นั้นยืนนิ่ง เขาหลับตาพินิจเสียงฝีเท้า



    ไม่นานนักก็ปรากฏร่างชายสามคนเดินออกมาจากทางที่มืดสลัว แต่ละคนอยู่ในชุดรัดรูปสีดำสนิทกลมกลืนไปกับสิ่งรอบข้าง มีเพียงใบหน้าเท่านั้นที่เปิดให้เห็น



    “ถ้าอยากจะไปต่อ ต้องผ่านพวกเราไปให้ได้ซะก่อน” ชายคนหนึ่งในกลุ่มพูดขึ้น รอบตัวของพวกเขาทั้ง สามปรากฏคลื่นพลังสีม่วงเข้มห่อหุ้มตัว



    จบ บทที่2
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×