ลำดับตอนที่ #38
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #38 : Send :: ภารกิจรักกามเทพ (รับแล้ว)
ภารกิจรักกามเทพ
ชื่อนักวิจารณ์ : กุหลาบน้ำเงิน
โครงเรื่อง [9/10] : เนื่องจากตอนที่จะให้วิจารณ์มีน้อยมากๆ มีเเค่ 1 ตอนเท่านั้น ฉะนั้นผู้วิจารณ์จะขอวิจารณ์โดยละเอียดเฉพาะตอนที่ 1
โครง เรื่องมีจุดขัดเเย้งชัดเจน คือ "นางเอกต้องเเต่งงานกับผู้ชายที่ไม่เคยคุยกับใครเพื่อเเลกกับเงิน" นี่เองที่จะดึงดูดให้ผู้อ่านติดตามเอาใจช่วยตัวละคร
แต่โครงเรื่องยังมีจุดอ่อนเรื่องความสมเหตุสมผล ซึ่งผู้วิจารณ์จะบอกในส่วนของความสมเหตุสมผลอีกที
ตัว ละคร [8/10] : ตัวละครมีจำนวนมากมายเป็นการสร้างสีสันให้แก่เรื่อง ต่างมีบุคลิกชัดเจนผ่านการพูด ท่าทาง การกระทำ เเต่จุดที่ควรปรับคือ
1. ผู้เขียนมีตัวละครมากเกินไป เเละตัวละครเหล่านั้นล้วนมีเพื่อสร้างสีสันเท่านั้น คล้ายกับนักแสดงในละครโทรทัศน์ ในละครโทรทัศน์ต้องมีตัวละครจำนวนมาก เพราะต้องใช้ตัวละครเหล่านั้นยืดเรื่องให้ยาวขึ้น เเละทำให้เรื่องผ่อนคลาย อย่างไรก็ตามนิยายไม่ใช่ละครโทรทัศน์ จึงไม่จำเป็นต้องยืดเวลา ผู้อ่านจะไม่ทนอ่านนิยายที่ยืดยาว เเนะนำให้ผู้เขียนตัดตัวละครที่ไม่จำเป็นออกไป ตัวละครใดที่ไม่มี แต่เรื่องก็ยังสามารถดำเนินไปได้ ก็ขอให้ตัดตัวละครตัวนั้นทิ้งเสีย
2. ผู้เขียนควรบรรยายลักษณะหน้าตา บุคลิกภาพ ของตัวละครเพิ่มขึ้น เพราะถึงเเม้ผู้เขียนจะมีอิมเมจมาให้ชมเเล้ว เเต่ผู้อ่านไม่ได้จำอิมเมจเหล่านั้นทุกตัว เเละเวลาตีพิมพ์ ในหนังสือก็ไม่มีอิมเมจเหล่านั้น นิยายที่ดีคือการที่ผู้เขียนได้โชว์ฝีมือในการบรรยายเเละพรรณารูปร่างหน้าตา ของตัวละครจนเห็นภาพ เพียงเเค่การขยับกาย ทำท่าเล็กๆน้อยๆก็บ่งบอกนิสัยของตัวละครได้ เช่น การยักไหล่ การเบ้ปาก การฝืนยิ้ม การถอนหายใจ เป็นต้น
ฉาก สถานที่ เวลา [7/10] : ผู้อ่านสามารถเข้าใจว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นทีไ่หน เวลาใด คนจำนวนมากเท่าใด เเต่อยากติงผู้เขียนว่าผู้เขียนบรรยายน้อยเกินไป การขึ้นฉากควรบรรยายว่าใคร ทำอะไร เหตุการณ์เกิดขึ้นที่ไหน เมื่อไหร่ แต่ปรากฏว่าในย่อหน้าเเรก ผู้เขียนกลับไม่เขียนถึงสิ่งเหล่านั้นเลย
ตัวอย่าง
"เสียง ปรบมือดังลั่นฮอลล์แห่งนี้ ผู้ชมบางคนถึงขั้นน้ำตาเอ่อเพราะบางคนเป็นแฟนคลับตัวจริงของมาติกา บางคนก็บ่นว่าเสียดายในความสามารถของเธอ
มาติกาโค้งคำนับ พลางยกมือไหว้ขอบคุณด้วยความจริงใจและแปลกใจที่แฟนคลับของเธอหลายๆคนที่ถือ ป้ายไฟมาเชียร์เธอราวกับเธอจะออกจากบ้านเดอะสตาร์เป็นวีคแรก!"
ใน ย่อหน้านี้ผู้อ่านไม่รู้เลยว่ามาติกาคือใคร? เเสดงอะไร? ผู้เขียนควรอธิบายว่า สถานที่นั้นคือที่ไหน มีลักษณะอย่างไร คับคั่งไปด้วยผู้คนมากมายเพียงไร เเล้วคนเหล่านั้นมาทำอะไร พวกเขามาชมการเเสดงอะไรการเเสดงนั้นเ็ป็นอย่างไร น่าทึ่ง น่าตระการตาเพียงใด เเล้วผู้ชมตอบรับการเเสดงเหล่านั้นอย่างไร...
ยกตัวอย่างการเเก้ไข
ณ หอการแสดงใหญ่ใจกลางนครหลวงของเมืองไทย
เสียง ปรบมือดังสนั่นไปทั่วทั้งห้องจัดแสดงครั้งนี้ หลังจากที่ร่างบางในชุดทักซิโด้สีขาวปล่อยฝูงผีเสื้อนับพันให้โผบินออกมาจาก หมวกของเธอ ผีเสื้อเหล่านั้นสยายปีกบินตระการตาไปทั่วห้องจัดเเสดง ท่ามกลางเสียงปรบมือที่ดังอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ตามด้วยเสียงร้องชื่นชมไม่ขาดสาย
มาติกา ... หญิงสาวในชุดทักซิโด้สีขาวโดดเด่นที่สุดในงานครั้งนี้โค้งตัวลงรับเสียงปรบ มือนั้น เธอคือนักมายากลผู้มากความสามารถ ทุกครั้งที่ขึ้นเเสดง เธอจะเสกสรรค์เวทมนต์สร้างจินตนาการพร่างพราย จนผู้ชมต้องประทับใจอย่างไม่มีวันลืม
แต่ครั้งนี้เเตกต่าง...
ระหว่าง ที่มาติกาก้าวลงจากเวทีท่ามกลางเสียงปรบมือที่ยังไม่สิ้นสุด เธอสังเกตเห็นใบหน้าที่นองน้ำตาของผู้ชมหลายคน เธอสัมผัสได้ถึงความโศกเศร้าที่อัดเเน่นไปทั่วห้องการเเสดงแห่งนี้ ผู้ชมของเธอต่างพร้อมใจส่งเสียงร้องให้กำลังใจเธออย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ได้ยินเสียงบ่นเสียดายในความสามารถของเธอดังมาไม่ขาดสาย...
สรุปก็ คือ ผู้เขียนควรจะบรรยายให้ชัดเจน มากกว่าการบรรยายตัดตอนอย่างง่ายๆ เเละทุกครั้งที่เปลี่ยนฉาก ก็ควรมีการบรรยายฉากให้มองเห็นอารมณ์ความรู้สึกในฉาก เห็นภาพ เห็นความโศกเศร้า เห็นความยิ่งใหญ่ เห็นความเก่งกาจ อย่างชัดเจน
การ ดำเนินเนื้อเรื่องและมุมมองการเล่าเรื่อง [8/10] : การดำเนินเรื่องยังรวดเร็วไป ไม่มีการตัดเเบ่งฉากที่เเน่ชัด ตัวละครเข้าฉากง่ายๆโดยที่ไม่มีการบรรยายที่มาที่ไปของตัวละคร ผู้เขียนดำเนินเรื่องเหมือนเรื่องย่อละครทีวีที่อยู่ตามหน้าหนังสือพิมพ์ ที่พยายามย่อประหยัดพื้นที่
เเต่นี่คือนิยาย ซึ่งมิได้เห็นภาพชัดเจนเหมือนละครทีวี นักอ่านไม่ได้รู้มาก่อนว่าตัวละครที่ปรากฏมาเป็นใคร ผู้เขียนจึงจำเป็นต้องดำเนินเรื่องอย่างค่อยเป็นค่อยไป เเต่ก็ไม่ยืดเยื้อ เเละไม่รวดเร็วเกินไป ควรมีการตัดฉากที่เนียน
ยกตัวอย่างเช่น
.....หลังจากงานแสดงมายากลของเธอเสร็จลง
มาติกาก็รีบเปลี่ยนเสื้อคลุมสีดำที่เธอใส่อยู่ถอดออกแล้วใส่สีส้มแทน
"น้องเมย์ค่า.."พี่มดช่างทำผมประจำตัวเธอหันมาจ้องหน้าเธอแล้วน้ำตาไหล
"พี่มดเป็นอะไรค่า"มาติการีบเดินเข้าไปหามดทันที ....
เท่าที่อ่านดู พบว่าทุกอย่างรวบรัดจนเหมือนอ่านเรื่องย่อละครในหน้าหนังสือพิมพ์ นิยายที่ดีควรมีการบรรยายชัดเจนกว่านี้
ตัวอย่างการเเก้ไข
หลัง จากการเเสดงของเธอจบสิ้นลง มาติกาเดินกลับเข้ามาที่หลังเวลาพลางยกมือขึ้นปาดเหงื่อบนใบหน้า ทีมงานแต่ละคนต่างทำงานฝ่ายของตนอย่างขมักเขม้น เพราะใกล้ถึงรอบการเเสดงต่อไปเเล้ว
ทันทีที่มาถึงห้องเเต่งตัว มาติการีบปลดเสื้อคลุมสีดำออก เเล้วคว้าเสื้อคลุมสีส้มจากราวเเขวนผ้า
"น้องเมย์คะ"
เสียงที่มาติกาคุ้นเคยดังขึ้นจากด้านหลังของเธอ มาติกาเหลียวหลังไปอย่างประหลาดใจ
"พี่มด"
พี่มดคือช่างตัดผมประจำตัวของเธอ พี่มดเป็น.....(คนรูปร่างหน้าตาอย่างไร)...
วันนี้ พี่มดแปลกไปจนมาติการู้สึกไม่่สบายใจ พี่มดเรียกชื่อเเล้วมองหน้าเธอเงียบๆ เหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง เเต่ก็ไม่ยอมพูดออกมา เเล้วมาติกาก็ใจหายวาบเมื่อเห็นน้ำตาของพี่มด
"พี่มด!" มาติกาอุทานอย่างตกใจ รีบถลาเข้าหาพี่มดทันที "พี่มดเป็นอะไรไปคะ" หญิงสาวถามเสียงสั่นเมื่อเห็นพี่มดยิ่งสะอื้นหนักเข้าไปใหญ่
เกิดอะไรขึ้น? ทำไมพี่มดที่เคยสดใสร่าเริงของเธอจึงดูซึมเศร้าเเละเอาแต่ร้องไห้ถึงขนาดนี้!?
สรุปก็คือ ผู้เขียนไม่ควรบรรยายเเค่ว่าใครทำอะไรที่ไหนอย่างไร เเต่ควรบรรยายให้เห็นอารมณ์ความรู้สึกของตัวละครด้วย
ความ สมเหตุสมผล [8/10] : เรื่องจะดูสมเหตุสมผลมาก ถ้าเกิดว่าในบทที่ 1 ตัวละครเอกไม่ไ่ด้เป็นคนมีชื่อเสียงถึงขนาดมีเเฟนคลับมากมายเช่นที่ผู้เขียน บรรยาย
เพราะการเป็นนักมายากล ไม่จำเป็นต้องขึ้นตรงกับบริษัทใดๆก็ได้
นักมายากลที่มีความสามารถอย่างมาติกา จะสามาารถหาเงินได้อีกมาก
ความสามารถถของเธอ ชื่อเสียงของเํธอ แฟนคลับของเธอ
จะทำให้นายทุนจำนวนมากยินดีรับเธอไปร่วมงาน
หรือเธอจะสามารถเเสดงมายากลเป็นอาชีพอิสระก็ย่อมได้
นี่จึงไม่น่าเป็นสถานการณ์ที่สมเหตุสมผลพอจะทำให้เธอตกอับจนถึงขั้นต้องยอมเเต่งงานกับผู้ชายเพื่อเเลกกับเงิน
เว้น เสียเเต่ว่าผู้เขียนวางเรื่องไว้ว่านางเอกเป็นคนธรรมดา ฐานะไม่ค่อยดีนัก ไฝ่ฝันอยากเป็นนักมายากล เเต่ทำอะไรไม่ได้เรื่อง ขายขี้หน้าตลอด เปิ่นเเละปล่อยไก่ตลอดงาน โดนคนดูโห่ไล่ทุกครั้ง ทำให้บริษัทต้องเลิกจ้าง เธอตกงานซ้ำเเล้วซ้ำเล่า เเต่ก้ไม่ทิ้งความฝัน เธอยังพยายามต่อไป แต่สุดท้ายก็มาเข้าตาจนเมื่อพ่อเเละเเม่ป่วยหนัก ทำให้เธอร้อนเงิน
สถานการณ์นี้จะสมเหตุสมผลกว่ามาก
อย่าง ไรก็ตาม คำวิจารณ์เรื่องโครงเรื่องดังกล่าวเป็นเพียงคำวิจารณ์เบื้องต้น เพราะผู้เขียนเขียนไปได้เเค่ 1 ตอน ผู้อ่านจึงยังตัดสินอะไรมากกว่านี้ไม่ได้ บางทีผู้เขียนอาจมีเหตุผลอื่นที่สมเหตุสมผลยู่เเล้ว
บทสนทนา [9/10] : บทสนทนาเป็นธรรมชาติดีค่ะ บ่งบอกความคิดเเละเงื่อนงำในตัวละครได้ดี เเต่มีบางส่วนที่ผิด ควรเเก้ไข ดังนี้
"น้องเมย์ค่า.." ควรใช้เป็น "น้องเมย์คะ..."
"พี่มดเป็นอะไรค่า" ควรใช้เป็น "พี่มดเป็นอะไรไปคะ?"
"เห้ย!ไอน้อยหน่า แกดุพี่มดทำไมเนี่ย"
มาติกาลุกจะเถียงน้อยหน่าที่มาดุมดจนมดร้องไห้หนักกว่าเก่า
ประ โยคสนทนาเเสดงความเป็นกันเองมาก เเสดงว่านางเอกเเละน้อยหน่าสนิทสนมกันเป็นส่วนตัว ผู้เขียนควรบรรยายเพิ่มเติมว่าน้อยหน่าเป็นใคร มีความสัมพันธ์อย่างไรกับมาติกา
ภาษาสำนวน
- การบรรยาย [7/20] : ดังที่ได้กล่าวมาเเล้ว ผู้เขียนควรบรรยายเพิ่มเติม
1. บรรยายความรู้สึกของตัวละคร
2. บรรยายสีหน้าของตัวละคร
3. บรรยายรูปร่างหน้าตาของตัวละคร
4. บรรยายฉาก
5. บรรยายบรรยากาศ
ภาษาสำนวนถือว่าดีเเล้ว
เเต่ยังมีที่ควรเเก้ไข นั่นคือ ผู้เขียนใช้ประโยคไม่สมบูรณ์ ใช้การเปรียบเทียบที่ไม่สวยงามนัก เช่น
1. "คนที่เซ็นทรัลที่มาชมเธอแน่นขนัด " ใช้คำว่า ที่ ซ้ำกันถึง 2 ครั้ง เเละยังไม่ใช่ประโยคสมบูรณ์ ควรใช้ "ผู้ชมในเซ็นทรัลต่างเเห่เเหนมาชมการเเสดงของเธอจนเเน่นขนัด"
2. "เวลาเธอสั่งงานเธอก็มักจะดุแบบนี้ แต่ตัวจริงๆเธอสดใสและร่าเริง แต่เวลาทำงานเธอจะจริงจังเสมอ" มีคำว่า เเต่ ซ้ำกันถึง 2 ครั้ง ทำให้สะดุด
3."แถมยังไม่พอบางคนยังร้องไห้อีก!! " มีคำว่า ยัง ซ้ำกันถึง 2 ครั้ง
4. "วันนี้เธอแสดงเป็นรอบที่ห้าได้เพราะตั้งแต่เช้าเธอแทบยังไม่มีอะไรลงท้อง เลย" ประโยคไม่เป็นเหตุเป็นผลกัน ...เธอเเสดงรอบที่ห้าเพราะยังไม่ได้ทานอะไร? ไม่เกี่ยวกันเลย เว้นเเต่ผู้เขียนจะเขียนว่า "เธอรู้สึกอิดโรยมาก เพราะยังไม่มีอะไรลงถึงท้องเลย" หรือ "เธอเเสดงต่อเนื่องเป็นรอบที่ห้าของวันนี้โดยไม่ได้กินอะไรเลย"
- คำผิด คำซ้ำ การหลากคำ [8/10] : มีคำซ้ำมากตามที่ได้กล่าวไปในส่วนบรรยายเเล้ว ไม่พบการหลากคำ เเต่พบคำผิด ซึ่งเกิดจากการพิมผิดเช่น
น้ำเอ่อ ควรเป็น น้ำตาเอ่อ
เยดาย ควรเป็น เสียดาย
ความ น่าติดตาม [9/10] : เดิมทีโครงเรื่องนี้ค่อนข้างกระชับเเละเเข็งเเรง เพราะมีจุดหมายปลายทางชัดเจน เเต่การจบบทเเรกยังไม่ดึงดูดพอ เเละดูเหมือนกระชับเกินไปจนผู้อ่านสงสัยว่า เฮ่ย จบเเล้วหรอ อะไรเนี่ย? เเค่เนี๊ยะ?
ตัวอย่าง
"วันนี้ดูแปลกจัง"
มาติกานั่งลงที่เก้าอี้หลังเวทีพลางมองรอบกายแล้วรู้สึกแปลกใจชอบกล
เเล้วผู้เขียนก็จบง่ายๆเเบบนี้ เหมือนว่ายังไม่สมบูรณ์
ผู้ เขียนไม่ควรจบเเค่นี้ ควรบรรยายเพิ่มเติมอีกสักหน่อยว่า มาติการู้สึกแปลกใจอะไรยังไง เล่าทวนเล็กน้อยว่าวันนี้เกิดอะไรขึ้น เเล้วจบด้วยประโยคทิ้งท้ายชวนติดตาม ให้ผู้อ่านตั้งคำถาม
อย่างไรก็ตามผู้วิจารณ์อ่านไปได้เเค่บทเดียว ซึ่งหากผู้เขียนเขียนเพิ่มเเล้ว จะสามารถขอให้ผู้วิจารณ์กลับมาวิจารณ์อีกครั้งก็ได้
เรื่อง ของผู้เขียนเป็นเรื่องที่ไม่ซับซ้อนมาก เเต่มีความน่าติดตาม เเละมีพล็อตที่เเข็งเเรงเป็นทุนเดิมอยู่เเล้ว ปรับเเก้เรื่องการการบรรยายเล็กน้อยก็จะดีเยี่ยม
ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ^^
สรุปคะแนน
คะแนนรวมเต็มร้อย ได้
73/100
โครง เรื่องมีจุดขัดเเย้งชัดเจน คือ "นางเอกต้องเเต่งงานกับผู้ชายที่ไม่เคยคุยกับใครเพื่อเเลกกับเงิน" นี่เองที่จะดึงดูดให้ผู้อ่านติดตามเอาใจช่วยตัวละคร
แต่โครงเรื่องยังมีจุดอ่อนเรื่องความสมเหตุสมผล ซึ่งผู้วิจารณ์จะบอกในส่วนของความสมเหตุสมผลอีกที
ตัว ละคร [8/10] : ตัวละครมีจำนวนมากมายเป็นการสร้างสีสันให้แก่เรื่อง ต่างมีบุคลิกชัดเจนผ่านการพูด ท่าทาง การกระทำ เเต่จุดที่ควรปรับคือ
1. ผู้เขียนมีตัวละครมากเกินไป เเละตัวละครเหล่านั้นล้วนมีเพื่อสร้างสีสันเท่านั้น คล้ายกับนักแสดงในละครโทรทัศน์ ในละครโทรทัศน์ต้องมีตัวละครจำนวนมาก เพราะต้องใช้ตัวละครเหล่านั้นยืดเรื่องให้ยาวขึ้น เเละทำให้เรื่องผ่อนคลาย อย่างไรก็ตามนิยายไม่ใช่ละครโทรทัศน์ จึงไม่จำเป็นต้องยืดเวลา ผู้อ่านจะไม่ทนอ่านนิยายที่ยืดยาว เเนะนำให้ผู้เขียนตัดตัวละครที่ไม่จำเป็นออกไป ตัวละครใดที่ไม่มี แต่เรื่องก็ยังสามารถดำเนินไปได้ ก็ขอให้ตัดตัวละครตัวนั้นทิ้งเสีย
2. ผู้เขียนควรบรรยายลักษณะหน้าตา บุคลิกภาพ ของตัวละครเพิ่มขึ้น เพราะถึงเเม้ผู้เขียนจะมีอิมเมจมาให้ชมเเล้ว เเต่ผู้อ่านไม่ได้จำอิมเมจเหล่านั้นทุกตัว เเละเวลาตีพิมพ์ ในหนังสือก็ไม่มีอิมเมจเหล่านั้น นิยายที่ดีคือการที่ผู้เขียนได้โชว์ฝีมือในการบรรยายเเละพรรณารูปร่างหน้าตา ของตัวละครจนเห็นภาพ เพียงเเค่การขยับกาย ทำท่าเล็กๆน้อยๆก็บ่งบอกนิสัยของตัวละครได้ เช่น การยักไหล่ การเบ้ปาก การฝืนยิ้ม การถอนหายใจ เป็นต้น
ฉาก สถานที่ เวลา [7/10] : ผู้อ่านสามารถเข้าใจว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นทีไ่หน เวลาใด คนจำนวนมากเท่าใด เเต่อยากติงผู้เขียนว่าผู้เขียนบรรยายน้อยเกินไป การขึ้นฉากควรบรรยายว่าใคร ทำอะไร เหตุการณ์เกิดขึ้นที่ไหน เมื่อไหร่ แต่ปรากฏว่าในย่อหน้าเเรก ผู้เขียนกลับไม่เขียนถึงสิ่งเหล่านั้นเลย
ตัวอย่าง
"เสียง ปรบมือดังลั่นฮอลล์แห่งนี้ ผู้ชมบางคนถึงขั้นน้ำตาเอ่อเพราะบางคนเป็นแฟนคลับตัวจริงของมาติกา บางคนก็บ่นว่าเสียดายในความสามารถของเธอ
มาติกาโค้งคำนับ พลางยกมือไหว้ขอบคุณด้วยความจริงใจและแปลกใจที่แฟนคลับของเธอหลายๆคนที่ถือ ป้ายไฟมาเชียร์เธอราวกับเธอจะออกจากบ้านเดอะสตาร์เป็นวีคแรก!"
ใน ย่อหน้านี้ผู้อ่านไม่รู้เลยว่ามาติกาคือใคร? เเสดงอะไร? ผู้เขียนควรอธิบายว่า สถานที่นั้นคือที่ไหน มีลักษณะอย่างไร คับคั่งไปด้วยผู้คนมากมายเพียงไร เเล้วคนเหล่านั้นมาทำอะไร พวกเขามาชมการเเสดงอะไรการเเสดงนั้นเ็ป็นอย่างไร น่าทึ่ง น่าตระการตาเพียงใด เเล้วผู้ชมตอบรับการเเสดงเหล่านั้นอย่างไร...
ยกตัวอย่างการเเก้ไข
ณ หอการแสดงใหญ่ใจกลางนครหลวงของเมืองไทย
เสียง ปรบมือดังสนั่นไปทั่วทั้งห้องจัดแสดงครั้งนี้ หลังจากที่ร่างบางในชุดทักซิโด้สีขาวปล่อยฝูงผีเสื้อนับพันให้โผบินออกมาจาก หมวกของเธอ ผีเสื้อเหล่านั้นสยายปีกบินตระการตาไปทั่วห้องจัดเเสดง ท่ามกลางเสียงปรบมือที่ดังอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ตามด้วยเสียงร้องชื่นชมไม่ขาดสาย
มาติกา ... หญิงสาวในชุดทักซิโด้สีขาวโดดเด่นที่สุดในงานครั้งนี้โค้งตัวลงรับเสียงปรบ มือนั้น เธอคือนักมายากลผู้มากความสามารถ ทุกครั้งที่ขึ้นเเสดง เธอจะเสกสรรค์เวทมนต์สร้างจินตนาการพร่างพราย จนผู้ชมต้องประทับใจอย่างไม่มีวันลืม
แต่ครั้งนี้เเตกต่าง...
ระหว่าง ที่มาติกาก้าวลงจากเวทีท่ามกลางเสียงปรบมือที่ยังไม่สิ้นสุด เธอสังเกตเห็นใบหน้าที่นองน้ำตาของผู้ชมหลายคน เธอสัมผัสได้ถึงความโศกเศร้าที่อัดเเน่นไปทั่วห้องการเเสดงแห่งนี้ ผู้ชมของเธอต่างพร้อมใจส่งเสียงร้องให้กำลังใจเธออย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ได้ยินเสียงบ่นเสียดายในความสามารถของเธอดังมาไม่ขาดสาย...
สรุปก็ คือ ผู้เขียนควรจะบรรยายให้ชัดเจน มากกว่าการบรรยายตัดตอนอย่างง่ายๆ เเละทุกครั้งที่เปลี่ยนฉาก ก็ควรมีการบรรยายฉากให้มองเห็นอารมณ์ความรู้สึกในฉาก เห็นภาพ เห็นความโศกเศร้า เห็นความยิ่งใหญ่ เห็นความเก่งกาจ อย่างชัดเจน
การ ดำเนินเนื้อเรื่องและมุมมองการเล่าเรื่อง [8/10] : การดำเนินเรื่องยังรวดเร็วไป ไม่มีการตัดเเบ่งฉากที่เเน่ชัด ตัวละครเข้าฉากง่ายๆโดยที่ไม่มีการบรรยายที่มาที่ไปของตัวละคร ผู้เขียนดำเนินเรื่องเหมือนเรื่องย่อละครทีวีที่อยู่ตามหน้าหนังสือพิมพ์ ที่พยายามย่อประหยัดพื้นที่
เเต่นี่คือนิยาย ซึ่งมิได้เห็นภาพชัดเจนเหมือนละครทีวี นักอ่านไม่ได้รู้มาก่อนว่าตัวละครที่ปรากฏมาเป็นใคร ผู้เขียนจึงจำเป็นต้องดำเนินเรื่องอย่างค่อยเป็นค่อยไป เเต่ก็ไม่ยืดเยื้อ เเละไม่รวดเร็วเกินไป ควรมีการตัดฉากที่เนียน
ยกตัวอย่างเช่น
.....หลังจากงานแสดงมายากลของเธอเสร็จลง
มาติกาก็รีบเปลี่ยนเสื้อคลุมสีดำที่เธอใส่อยู่ถอดออกแล้วใส่สีส้มแทน
"น้องเมย์ค่า.."พี่มดช่างทำผมประจำตัวเธอหันมาจ้องหน้าเธอแล้วน้ำตาไหล
"พี่มดเป็นอะไรค่า"มาติการีบเดินเข้าไปหามดทันที ....
เท่าที่อ่านดู พบว่าทุกอย่างรวบรัดจนเหมือนอ่านเรื่องย่อละครในหน้าหนังสือพิมพ์ นิยายที่ดีควรมีการบรรยายชัดเจนกว่านี้
ตัวอย่างการเเก้ไข
หลัง จากการเเสดงของเธอจบสิ้นลง มาติกาเดินกลับเข้ามาที่หลังเวลาพลางยกมือขึ้นปาดเหงื่อบนใบหน้า ทีมงานแต่ละคนต่างทำงานฝ่ายของตนอย่างขมักเขม้น เพราะใกล้ถึงรอบการเเสดงต่อไปเเล้ว
ทันทีที่มาถึงห้องเเต่งตัว มาติการีบปลดเสื้อคลุมสีดำออก เเล้วคว้าเสื้อคลุมสีส้มจากราวเเขวนผ้า
"น้องเมย์คะ"
เสียงที่มาติกาคุ้นเคยดังขึ้นจากด้านหลังของเธอ มาติกาเหลียวหลังไปอย่างประหลาดใจ
"พี่มด"
พี่มดคือช่างตัดผมประจำตัวของเธอ พี่มดเป็น.....(คนรูปร่างหน้าตาอย่างไร)...
วันนี้ พี่มดแปลกไปจนมาติการู้สึกไม่่สบายใจ พี่มดเรียกชื่อเเล้วมองหน้าเธอเงียบๆ เหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง เเต่ก็ไม่ยอมพูดออกมา เเล้วมาติกาก็ใจหายวาบเมื่อเห็นน้ำตาของพี่มด
"พี่มด!" มาติกาอุทานอย่างตกใจ รีบถลาเข้าหาพี่มดทันที "พี่มดเป็นอะไรไปคะ" หญิงสาวถามเสียงสั่นเมื่อเห็นพี่มดยิ่งสะอื้นหนักเข้าไปใหญ่
เกิดอะไรขึ้น? ทำไมพี่มดที่เคยสดใสร่าเริงของเธอจึงดูซึมเศร้าเเละเอาแต่ร้องไห้ถึงขนาดนี้!?
สรุปก็คือ ผู้เขียนไม่ควรบรรยายเเค่ว่าใครทำอะไรที่ไหนอย่างไร เเต่ควรบรรยายให้เห็นอารมณ์ความรู้สึกของตัวละครด้วย
ความ สมเหตุสมผล [8/10] : เรื่องจะดูสมเหตุสมผลมาก ถ้าเกิดว่าในบทที่ 1 ตัวละครเอกไม่ไ่ด้เป็นคนมีชื่อเสียงถึงขนาดมีเเฟนคลับมากมายเช่นที่ผู้เขียน บรรยาย
เพราะการเป็นนักมายากล ไม่จำเป็นต้องขึ้นตรงกับบริษัทใดๆก็ได้
นักมายากลที่มีความสามารถอย่างมาติกา จะสามาารถหาเงินได้อีกมาก
ความสามารถถของเธอ ชื่อเสียงของเํธอ แฟนคลับของเธอ
จะทำให้นายทุนจำนวนมากยินดีรับเธอไปร่วมงาน
หรือเธอจะสามารถเเสดงมายากลเป็นอาชีพอิสระก็ย่อมได้
นี่จึงไม่น่าเป็นสถานการณ์ที่สมเหตุสมผลพอจะทำให้เธอตกอับจนถึงขั้นต้องยอมเเต่งงานกับผู้ชายเพื่อเเลกกับเงิน
เว้น เสียเเต่ว่าผู้เขียนวางเรื่องไว้ว่านางเอกเป็นคนธรรมดา ฐานะไม่ค่อยดีนัก ไฝ่ฝันอยากเป็นนักมายากล เเต่ทำอะไรไม่ได้เรื่อง ขายขี้หน้าตลอด เปิ่นเเละปล่อยไก่ตลอดงาน โดนคนดูโห่ไล่ทุกครั้ง ทำให้บริษัทต้องเลิกจ้าง เธอตกงานซ้ำเเล้วซ้ำเล่า เเต่ก้ไม่ทิ้งความฝัน เธอยังพยายามต่อไป แต่สุดท้ายก็มาเข้าตาจนเมื่อพ่อเเละเเม่ป่วยหนัก ทำให้เธอร้อนเงิน
สถานการณ์นี้จะสมเหตุสมผลกว่ามาก
อย่าง ไรก็ตาม คำวิจารณ์เรื่องโครงเรื่องดังกล่าวเป็นเพียงคำวิจารณ์เบื้องต้น เพราะผู้เขียนเขียนไปได้เเค่ 1 ตอน ผู้อ่านจึงยังตัดสินอะไรมากกว่านี้ไม่ได้ บางทีผู้เขียนอาจมีเหตุผลอื่นที่สมเหตุสมผลยู่เเล้ว
บทสนทนา [9/10] : บทสนทนาเป็นธรรมชาติดีค่ะ บ่งบอกความคิดเเละเงื่อนงำในตัวละครได้ดี เเต่มีบางส่วนที่ผิด ควรเเก้ไข ดังนี้
"น้องเมย์ค่า.." ควรใช้เป็น "น้องเมย์คะ..."
"พี่มดเป็นอะไรค่า" ควรใช้เป็น "พี่มดเป็นอะไรไปคะ?"
"เห้ย!ไอน้อยหน่า แกดุพี่มดทำไมเนี่ย"
มาติกาลุกจะเถียงน้อยหน่าที่มาดุมดจนมดร้องไห้หนักกว่าเก่า
ประ โยคสนทนาเเสดงความเป็นกันเองมาก เเสดงว่านางเอกเเละน้อยหน่าสนิทสนมกันเป็นส่วนตัว ผู้เขียนควรบรรยายเพิ่มเติมว่าน้อยหน่าเป็นใคร มีความสัมพันธ์อย่างไรกับมาติกา
ภาษาสำนวน
- การบรรยาย [7/20] : ดังที่ได้กล่าวมาเเล้ว ผู้เขียนควรบรรยายเพิ่มเติม
1. บรรยายความรู้สึกของตัวละคร
2. บรรยายสีหน้าของตัวละคร
3. บรรยายรูปร่างหน้าตาของตัวละคร
4. บรรยายฉาก
5. บรรยายบรรยากาศ
ภาษาสำนวนถือว่าดีเเล้ว
เเต่ยังมีที่ควรเเก้ไข นั่นคือ ผู้เขียนใช้ประโยคไม่สมบูรณ์ ใช้การเปรียบเทียบที่ไม่สวยงามนัก เช่น
1. "คนที่เซ็นทรัลที่มาชมเธอแน่นขนัด " ใช้คำว่า ที่ ซ้ำกันถึง 2 ครั้ง เเละยังไม่ใช่ประโยคสมบูรณ์ ควรใช้ "ผู้ชมในเซ็นทรัลต่างเเห่เเหนมาชมการเเสดงของเธอจนเเน่นขนัด"
2. "เวลาเธอสั่งงานเธอก็มักจะดุแบบนี้ แต่ตัวจริงๆเธอสดใสและร่าเริง แต่เวลาทำงานเธอจะจริงจังเสมอ" มีคำว่า เเต่ ซ้ำกันถึง 2 ครั้ง ทำให้สะดุด
3."แถมยังไม่พอบางคนยังร้องไห้อีก!! " มีคำว่า ยัง ซ้ำกันถึง 2 ครั้ง
4. "วันนี้เธอแสดงเป็นรอบที่ห้าได้เพราะตั้งแต่เช้าเธอแทบยังไม่มีอะไรลงท้อง เลย" ประโยคไม่เป็นเหตุเป็นผลกัน ...เธอเเสดงรอบที่ห้าเพราะยังไม่ได้ทานอะไร? ไม่เกี่ยวกันเลย เว้นเเต่ผู้เขียนจะเขียนว่า "เธอรู้สึกอิดโรยมาก เพราะยังไม่มีอะไรลงถึงท้องเลย" หรือ "เธอเเสดงต่อเนื่องเป็นรอบที่ห้าของวันนี้โดยไม่ได้กินอะไรเลย"
- คำผิด คำซ้ำ การหลากคำ [8/10] : มีคำซ้ำมากตามที่ได้กล่าวไปในส่วนบรรยายเเล้ว ไม่พบการหลากคำ เเต่พบคำผิด ซึ่งเกิดจากการพิมผิดเช่น
น้ำเอ่อ ควรเป็น น้ำตาเอ่อ
เยดาย ควรเป็น เสียดาย
ความ น่าติดตาม [9/10] : เดิมทีโครงเรื่องนี้ค่อนข้างกระชับเเละเเข็งเเรง เพราะมีจุดหมายปลายทางชัดเจน เเต่การจบบทเเรกยังไม่ดึงดูดพอ เเละดูเหมือนกระชับเกินไปจนผู้อ่านสงสัยว่า เฮ่ย จบเเล้วหรอ อะไรเนี่ย? เเค่เนี๊ยะ?
ตัวอย่าง
"วันนี้ดูแปลกจัง"
มาติกานั่งลงที่เก้าอี้หลังเวทีพลางมองรอบกายแล้วรู้สึกแปลกใจชอบกล
เเล้วผู้เขียนก็จบง่ายๆเเบบนี้ เหมือนว่ายังไม่สมบูรณ์
ผู้ เขียนไม่ควรจบเเค่นี้ ควรบรรยายเพิ่มเติมอีกสักหน่อยว่า มาติการู้สึกแปลกใจอะไรยังไง เล่าทวนเล็กน้อยว่าวันนี้เกิดอะไรขึ้น เเล้วจบด้วยประโยคทิ้งท้ายชวนติดตาม ให้ผู้อ่านตั้งคำถาม
อย่างไรก็ตามผู้วิจารณ์อ่านไปได้เเค่บทเดียว ซึ่งหากผู้เขียนเขียนเพิ่มเเล้ว จะสามารถขอให้ผู้วิจารณ์กลับมาวิจารณ์อีกครั้งก็ได้
เรื่อง ของผู้เขียนเป็นเรื่องที่ไม่ซับซ้อนมาก เเต่มีความน่าติดตาม เเละมีพล็อตที่เเข็งเเรงเป็นทุนเดิมอยู่เเล้ว ปรับเเก้เรื่องการการบรรยายเล็กน้อยก็จะดีเยี่ยม
ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ^^
สรุปคะแนน
คะแนนรวมเต็มร้อย ได้
73/100
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น