คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : เชื่อมโยง
หลังจากเหตุการณ์ที่มีนักสืบถูกฆาตกรรมในโรงเรียนมีชื่อในอำเภอหนึ่งของจังหวัดขอนแก่น เมื่อสามวันก่อนสร้างความงงงันแก่ผู้คนที่ทราบเรื่องอย่างยิ่งเนื่องจากมีส่วนคล้ายกับคดีที่เขารับมาทำทุกคนจึงลงความเห็นว่าเป็นฝีมือของฆาตกรคนเดียวกันแต่ก็ยังไม่รู้อยู่ดีว่าใครเป็นฆาตกร
แต่เราก็รู้แล้วว่าเด็กสาวที่หายตัวไปนานคือผู้ก่อคดีฆาตกรรมอาจจะทุกคดีที่เคยเกิดในโรงเรียนเหตุผลในการก่อคดีคืออะไรกันแน่เธอมีอาการทางจิตรึเปล่านะแต่ทำไมเธอถึงสามารถทำลายหลักฐานที่จะสาวถึงได้ล่ะเธอดูมีความรู้ทีเดียวและมีแรงเยอะมากๆ
ผู้หมวดโกเมนเจ๊สสมศรีเจ้าของคดีหลายสิบคดีทั้งคดีฆาตกรรมเด็กนักเรียนหญิงและคดีล่าสุดคดีฆาตกรรมนักสืบพัฒนรัตน์ทองมีตอนนี้เขาอยู่ในที่เกิดเหตุกับเพื่อนอีกคนของเขา
“ไม่รู้ว่ามันจะอะไรนักหนาฆ่ากันได้เรื่อยๆทุกวี่วัน”ผู้หมวดโกเมนเอ่ยอย่างมีอารมณ์
“ก็โรงเรียนนี้วางแผนรักษาความปลอดภัยไม่ดีพอแกน่าจะให้ตำรวจมาเผ้าที่โรงเรียนนี้นะ”ผู้เป็นเพื่อนบอก
“ตำรวจก็ยุ่งเรื่องอื่นเยอะเลย ดูฉันสิคนเดียวรับผิดชอบคดีตั้งสิบคดี รวมคดีไอ้เอิบด้วย”ผู้หมวดบอกพลางยืนมองเส้นสีขาวที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทำไว้รอบศพของนักสืบ เป็นวงที่ไม่ค่อยได้รูป
“ศพไอ้เอิบเละซะขนาดนั้นแล้วจะมีร่องรอยสาวถึงตัวฆาตกรรึเปล่า”เพื่อนถาม
“นี่จะบอกอะไรให้นะว่าเราได้หลักฐานชิ้นโตมาเลยตั้งแต่ทำคดีมาเนี่ยในกองศพของเอิบเราเจอกล้องดิจิตอลในนั้นต้องมีภาพโฉมหน้าฆาตกรติดมาแน่ๆ”ผู้บอกพลางนั่งลงข้างเส้นสีขาวและเอาคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กออกมาวางตรงหน้า
“ทำอะไรน่ะ”
“อ๋อก็ดูว่าพวกนั้นทำงานไปถึงไหนแล้ว”ผู้หมวดตอบแล้วก็พิมพ์อะไรก็ไม่รู้ที่แป้นพิมพ์พลางพูดต่อ
“ดีนะที่มีข้อมูลบางส่วนเหลือไว้อยู่ท่านสารวัตรไม่น่าอนุมัติแฟ้มข้อมูลนั่นให้ไอ้เอิบไปเลยเฮ้อ”
“แฟ้ม! แฟ้มข้อมูลที่เอิบเอามาสืบคดีนะรึ รึแกว่ามันมีอะไรเกี่ยวกัน”
“ใช่มันต้องมีแน่และมันอาจจะเกี่ยวข้องในหลายๆคดี ถัดจากคดีฆาตกรรมเด็กนักเรียนหญิงซึ่งมันก็ยังคลี่คลายคดีไม่ได้”
“เราพบรอยไหม้ที่ตรงนั้น”เขาว่าพลางชี้ไปที่ข้างๆเส้นสีขาว
“ซึ่งเราก็สันนิฐานว่าจะเป็นร่องรอยของการเผาไหม้แฟ้มข้อมูล”
“อืม”ผู้เป็นเพื่อนมีท่าทีเข้าใจ
“แต่มันก็มีจุดต่างนิดหน่อย”
“แตกต่างตรงไหน”
“ก็จนป่านเราก็ยังหาหัวของเอิบไม่เจอเลยทางพ่อกับแม่มันก็เร่งๆให้หาเจอเร็วๆแล้วศพก็ยังถูกอายัตอีกหรือจะรอให้เจอหัวก่อนโอยคิดแล้วกลุ้ม”
“อ้าวไหนบอกว่าศพไอ้เอิบเละจนคืนสภาพไม่ได้แล้วไง”
“เออ! ใช่ศพถูกหั่นเป็นชิ้นๆชนิดที่ว่าตรวจลายนิ้วมือแฝงไม่ได้เลยล่ะแต่หมอกฤตวิทย์กับท่านรองอนุสรณ์ก็คัดค้านเสริมเข้าไปอีกว่าอยากให้ศพสมบูรณ์มันจะสมบูรณ์ได้ไงเละซะขนาดนั้น”ผู้หมวดว่าพลางถอนหายใจ
“ช่างเถอะจะคิดให้กลุ้มทำไมวะ ว่าแต่ว่าไหนล่ะข้อมูลที่ว่าน่ะ”
“ดีนะที่ข้าแสกนข้อมูลบางส่วนที่เห็นสำคัญเข้าคอม”
“อืมเข้าใจคิดนี่หว่า”ผู้เพื่อนเอ่ยพลางดูที่หน้าจอโน้ตบุ๊ก
“นี่ข้าลองเปรียบเทียบเล่นๆนะว่าสภาพทั่วไปของคดีฆาตกรรมเด็กหญิงกับคดีฆาตกรรมไอ้เอิบจะมีจุดเหมือนจุดต่างตรงไหนบ้าง”
“อันแรกเลยนะที่ต่างคดีฆ่าเด็กหญิงนั่นเขาเอาศพไปไว้บนขื่อศาลานิ่”
“แล้วแกจะให้ฆาตกรเอาซากไอ้เอิบยัดใส่ถุงก๊อบแก๊ปแล้วเอาไปห้อยบนขื่อรึไง”
“ถ้ามันทำได้คงจะทำนะ”เขาว่าก่อนเงยหน้าขึ้นดูข้างบน
“บ้าเปล่า”ผู้หมวดร้อง
“เอ่อเจ๊ส...ฆาตกรตัดหัวไอ้เอิบมันจะเอาไปทำอะไร”
“ข้าก็ยังนึกไม่ออกไม่รู้ว่าเหตุผลที่ฆาตกรมันทำน่ะทำไมเพื่ออะไรแค่หั่นศพก็น่าจะพอแล้วนะในหลายๆคดีก็ไม่เห็นว่ามีตัดหัวด้วย”ผู้หมวดว่าพลางนึกในใจ“ไม่มีเหตุผลเลย”
“รึว่าฆาตกรจะเป็นคนละคน”เพื่อนร้อง
“มีเหตุผลแต่....ข้าว่าไม่ใช่หรอก”
“หือ”แล้วผู้หมวดเจ๊สก็เอาโทรศัพท์มือถือออกมา
“โทรเช็คงานก่อน..........................นี่ผู้หมวดโกเมนเป็นยังไงบ้างได้เรื่องรึยัง............................เหรอดี...........ส่งมาเลย”แล้วที่หน้าจอคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กก็มีหนาต่างการโอนข้อมูลปรากฏ
“ดีมาก”เขาบอกพลางคลิกดูข้างในมีภาพถ่ายนับร้อยปรากฏอยู่เขาลากแถบเลื่อนลงมาจนเจอสองภาพสุดท้าย
“ไหงเป็นงี้ล่ะ.......................ภาพมันดูเบลอๆนะทำให้ภาพมันชัดๆหน่อ...................แล้วจะรู้มั๊ยว่าเป็นภาพอะไร..............จริงอยู่ที่สันนิฐานว่าในกล้องของนักสืบพัฒนรัตน์จะมีภาพของฆาตกรติดมาด้วยแต่ก็น่าจะนะ............จัดการด้วยนะ”แล้วผู้หมวดก็ปิดโทรศัพท์มือถือ
“มันคงเป็นตอนชุลมุนมั่งไม่ทันได้ตั้งตัว”
“ก็คงงั้น”
“ฆาตกรไม่ทันได้สังเกตมัวแต่ฆ่าและทำลายหลักฐานอื่นๆแล้วก็หนีแต่ดูๆไปมันก็ใจเย็นมากๆมันเดินไปที่หลังอาคารหนึ่งล้างคราบเลือดที่ก๊อกน้ำซึ่งเราก็เจอมีดที่นั่นแต่ให้ตายมีดเล่มนั้นไม่มีรอยนิ้วมือไม่มีคราบเลือดยังกับเปิดซองมาใหม่ๆยังไม่ทันได้ใช้”
“แล้วมันจะทำหาพระแสงอะไร”
“นั่นสิไม่รู้เรื่องพรรค์นี้ต้องเกิดขึ้นที่นี่ด้วย”ผู้หมวดร้องขึ้น
“อาจเป็นเพราะโรงเรียนนี้มีอาถรรพ์แกจำไม่ได้เหรอ ที่นี่ผีเฮี้ยนจะตาย”
“แล้วมันเกี่ยวกับคดีพวกนี้ตรงมิทราบหรือแกคิดว่าผีที่นี่คือฆาตกร”
“ข้าก็ไม่อยากจะพูดหรอกนะว่าเป็นฝีมือของผี แต่ที่นี่มีคนตายทุกปีตอนที่เราอยู่มอหนึ่งก็มีนักเรียนชั้นเดียวกับเราตกอาคารหนึ่งตาย มอสองก็มีมอสามก็มีมอสี่ก็มี”
“เออใช่ตอนมอสี่วันที่ไปดูผลสอบแกโดนรถชนนี่เลือดอาบตัวนอนโรงบาลเป็นเดือนไม่ยักตาย”
“รึแกอยากให้ฉันตายวะ”
“เปล่าไม่ใช่อย่างนั้น”
“ก็จริงที่ข้าโดนรถชนแต่อาจเป็นเพราะทำบาปมาเยอะเขาก็ไม่ให้ตายมั่งแล้วตอนมอห้าเพื่อนฉันคนหนึ่งตายตอนเทอมแรกพอเทอมสองนักเรียนมอหกทับสองถูกฆ่ายกห้องห้าสิบคนในหมวดศิลป์รู้สึกว่าตอนนั้นฉันชวนไอ้เอิบโดดไปเช่าการ์ตูนที่ร้านนะ”เขาว่าพลางหันไปดูโรงเรียนที่ไม่ได้เรียนมานาน
“แล้วเด็กนักเรียนมอหนึ่งคนนั้นก็ถูกฆ่าตอนงานปัจฉิมนิเทศพวกเราจบมอหกหลังจากนั้นเดือนหนึ่งพอดีผู้อำนวยการเฉลิมก็ถูกฆ่าในวันเกษียณอายุราชการ”
“พอเราเรียนมหาลัยก็มีคนตายอีกประเดิมก็ไอ้ดร๊าฟขับมอเตอร์ไซน์ชนห้องวิชาการได้ยินว่าเมาสุราต่อมาก็ไอ้บื๋อไอ้แฮมและไอ้บอสก็ขับรถอาจารย์กิตติพ่อไอ้แฮมไปทัศนะศึกษาตู้โทรศัพท์หน้าโรงเรียนตายหมู่ไปเลย”
“ต่อมาผู้ช่วยสมเดชขับรถตู้ชนห้องประชาสัมพันธ์ตาย”
“แต่พิสดารก็ยัยสุกัญกับตาวินัยน่ะสิขับรถเก๋งพุ่งลงคูโศกเฉยเลยตายทั้งคู่ดีแล้วที่ไม่เป็นแบบบิ๊กดีทูบี”
“ไม่ที่แปลกสุดก็อาจารย์โจ้นี่แหละที่ตายในหมวดพละถูกกระบี่หวายสิบสองเล่มที่แกใช้สอนเสียบตามร่างกายตั้งสิบสองเล่มคนพันถึกยังงั้นยังถูกฆ่าอีก”
“สิบสองเล่มวิชากระบี่ก็มีสิบสองท่านี่”
“แล้วยังมีผู้ช่วยผู้อำนวยการธนะกับผู้ช่วยผู้อำนนวยการณัฒวุฒิ ผูกคอตายบนเสาธงโรงเรียน”
“เออแล้วยังมีอีกบานเลยตลอดเจ็ดปีมานี้ไม่มีใครคลี่คลายคดีได้ซักคดีตอนนั้นก็หวังเพิ่งฝีมือไอ้เอิบที่เป็นนักสืบแต่มันก็ดันถูกฆ่าตัดหัวไปด้วยเวร!”
“เอ้อนี่ตอนนั้นที่มันไปรับงานนี้มาทำมันเคยบอกว่าคดีฆ่าเด็กนักเรียนเป็นจุดเริ่มต้นในหลายๆคดี”
“ฮึแล้วมันเป็นใครกันที่ฆ่าได้อย่างมากมายขนาดนี้และไม่ทิ้งหลักฐานไว้เลย”
“นอกจากรูปถ่ายสองใบในโน้ตบุ๊กแต่ก็อีกนานนะกว่าจะทำให้ภาพดูรู้เรื่อง”ผู้หมวดบ่น
“โรงเรียนนี้มีอาถรรพ์จริงๆ”
“ว่าแต่ว่าแกน่ะวันนี้ไม่มีงานให้ทำรึไงหนุ่ย”
“ในตารางงานฉันน่ะมีงานข้ามาตอนบ่ายๆนู่นนี่ก็เพิ่งสี่โมงเองไม่งั้นฉันไม่มาเป็นเพื่อนกับแกหรอก”
“เอ้อนี่เจ๊สฉันว่าเป็นไปได้มั๊ยว่าจะมีคนตายอีก”
“ไหงแกพูดงี้ว้าแค่คดีที่ข้ารับผิดชอบเนี่ยก็แย่แล้วนะ.............เฮ้อกลุ้มจริง.......รึต้องพึ่งฝีมือพวกcsi.มาสืบคดีให้นะแต่คงยาก.......ฉันว่าเห็นทีต้องหากล้องวงจรปิดมาติดที่นี่ซักสิบยี่สิบตัวซะแล้ว”
ติ๊ดๆๆๆๆๆๆเสียงโทรศัพท์มือถือของหนุ่ยดังขึ้นเขาล้วงเอาออกมาแล้วกดรับ“ฮัลโหลเกมเหรอว่าไง”เขาเอ่ยพลางเดินไปที่เสาต้นหนึ่งซักพักก็เดินกลับมา
“เฮ้เจ๊สไม่ใหวว่ะ อยู่กับแกต่อไม่ได้แล้วเขาโทรให้ไปรับที่มหาลัย”
“เออๆไปเถอะ”แล้วเขาก็เดินลงจากศาลาไปผู้หมวดส่งเสียงตามหลัง
“ได้แฟนแล้วทิ้งเอนเลยนะใอ้บ้าาาาา............”
“เฮ้ออยู่คนเดียวแล้วสิ........ปิดเทอมไหงไม่มีใครมาเล่นที่โรงเรียนรึจะกลัวอาถรรพ์ที่นี่อย่างที่หนุ่ยมันว่ากันนะ”
แล้วความเงียบก็เข้าครอบคลุมศาลาผู้หมวดรู้สึกเหนื่อยๆก็เลยเอนหลังนอนกับพื้นเงยหน้ามองดูเพดานศาลา
“เฮ้ย”เขาอุทานเสียงดัง ก่อนลุกขึ้นยืนเมื่อเห็นศีรษะมนุษย์ในถุงพลาสติกใส ห้อยอยู่บนขื่อเขาได้สติก็ไปที่โต๊ะยาวแล้วยกมาตั้งเพื่อจะเอาถุงนั่นลงมาตามด้อยเก้าอี้แต่ยังสูงไม่พอวิ่งไปหลังฐานพระพุทธรูปมีไม้กวาดและไม้ถูพื้นวางอยู่เขาคว้าเอาไม้ถูพื้นมาก่อนปีนโต๊ะเก้าอี้ที่ตั้งซ้อนกันแล้วใช้ไม้ถูพื้นช้อนลงมาเขาวางถุงนั่นที่โต๊ะแล้วดูว่าเป็นศีรษะใคร
“ไอ้เอิบ”เขาร้องเมื่อเห็นศีรษะของนักสืบพัฒนรัตน์ทองมี
“เป็นไปได้ไงผ่านมาสามวันแล้วน่าจะเน่าได้แล้วนะ”เขาว่าก่อนล้วงเอาโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วกดโทรออกไม่ทันที่จะได้พูดอะไรคนในชุดดำก็ปรากฏตัวด้านหลังแล้วหวดท่อนเหล็กเข้าที่ศีรษะผู้หมวด
โพละ!ศีรษะแตกกระจาย ร่างล้มลงพื้นแล้วคนชุดดำก็กระหน่ำท่อนเหล็กใส่ร่างต่อไปตุบๆๆๆๆๆๆๆ ร่างบุบปริแตกเลือดและอวัยวะภายในทะลักออกมา เหมือนตอนที่นักสืบพัฒนรัตน์ทองมี ถูกฆาตกรรม บัดนี้ร่างผู้หมวดโกเมนเละเทะไม่ต่างจากร่างนักสืบพัฒนรัตน์ทองมีที่โดนสับแต่ก็ยังจำเค้าเดิมได้
คนชุดดำหยุดทุบแล้วนั่งดูคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กเขาล้วงเอาถุงมือยางออกมาสวมและเอาแผ่นซีดีก่อนใส่เข้าไปในคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กและคลิกดูในโปรแกรมประมวลผลจากแผ่นซีดีปรากฏว่ามันเป็นแผ่นซีดีที่เต็มไปด้วยไวรัสแล้วมันก็ถูกปล่อยเข้าคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กซึ่งมันกำลังออนไลน์กับสถานีตำรวจชุมแพและอีกไม่นานไวรัสคงเดินทางไปถึง เขาเอาแผ่นซีดีออกมาแล้วก็ปิดคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กโดยการทุบจนแหลกเป็นชิ้นๆโทรศัพท์มือถือของผู้หมวดดัง คนชุดกดรับและเอาไว้ห่างจากหูนิดหน่อย
“เป็นยังไงไวรัสตัวเก่งของฉัน”เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงแปร่งๆราวกับพูดผ่านเครื่องแปลงเสียง
“ฉันนี่แหละฆาตกรฮึๆๆ”แล้วเขาก็ปิดเครื่องด้วยการทุบอีกเขาเดินจากไปไปทางอาคารหนึ่งอย่างช้าๆในมือลากท่อนเหล็กที่ชุ่มเลือดและมีบางส่วนไหลลงจากชุดคลุมไปที่พื้นเป็นทางยาวที่โต๊ะบนศาลาศีรษะของนักสืบพัฒนรัตน์ทองมีกลิ้งตกจากโต๊ะเผยให้เห็นว่าศีรษะนั่นถูกสร้างขึ้นจากปูนปาสเตอร์และยางพารา........
ความคิดเห็น