Falo king นักล่าราชา
เด็กหนุ่มไร้นาม ได้รับสืบทอดนามของ"Falo" นามของผู้นำกลุ่มนักล่าที่ เหล่ากษัตริย์ทั้งหลายต้องหวาดกลัว
ผู้เข้าชมรวม
89
ผู้เข้าชมเดือนนี้
1
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
สงครามและการค้าทาสมีอยู่ทุกทีที่มีอาณาจักร เหล่าผู้คนส่วนใหญ่ต่างก็พยายามหนีห่างจากมัน ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ไฟสงครามได้ลามไปทั่วทุกอาณาจักรและทวีป ไม่เว้นแม้แต่กับอาณาจักรเล็กๆ
ซึ่งมันตั้งอยู่ทางตอนใต้ใกล้ติดกับทะเล พื้นที่โดยรอบเต็มไปด้วยป่าและภูเขาที่ตั้งอยู่ใกล้กับเมืองหลวง สภาพอากาศแถวนั้นเป็นป่าชื่น มีเมฆมากและฝนตกบ่อยครั้ง
การสู้รบระหว่างอาณาจักรเกิดขึ้นอยู่ทั่วทุกหนแห่ง เหล่าคนธรรมดาที่ไร้ทางสู้ ก็ทำได้แค่หนีและหลบซ่อนตัวจากสงคราม
จนกระทั่งทาสไร้นามกลุ่มหนึ่งได้หนีออกมาจากคุก ไปอาศัยอยู่แถวๆภูเขา พวกเค้าใช้ชีวิตอย่างสงบสุข โดยไร้ซึ่งผลกระทบจากสงคราม และก่อตั้งเป็นหมู่บ้านเล็กๆขึ้นมา
ลิเทีย อาณาจักรใหญ่ เป็น1ใน12 อาณาจักรที่มีอำนาจและกำลังรบพวกเขานั้นเทียบเท่ากับอาณาจักรเล็ก12อาณาจักรรวมกันเสียอีก และขึ้นชื่อเรื่องการค้าทาสเป็นอันดับต้นๆในทวีปนี้อีกด้วย
วันหนึ่งพวกเขาถูกค้นพบโดยหน่วยสอดแนมของทัพพระราชา และถูกบุกจู่โจมอย่างไม่ทันตั้งตัว หมู่บ้านถูกปิดล้อมทางหนีถูกตัดขาดไร้ซึ่งทางหนี
เหล่าชาวบ้านตาดำๆก็ทำได้แค่ขอร้องอ้อนวอนขอชีวิต ราชาผู้รักสนุกเลยเสนอให้พวกเขาเหล่านั้นฆ่ากันเองเพื่อหาผู้อยู่รอดเพียงคนเดียว
หลังจากฟังข้อเสนอนั้นทั้งเด็ก ผู้ชาย และผู้หญิง หรือแม้กระทั่งคนแก่ ต่างก็เข้าต่อสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตาย บางคนก็ทำได้แค่ร้องไห้ทามกลางความวุ่นวายนั้น บางคนก็พยายามวิ่งหนีออกจากการหนองเลือดนี้ แต่ก็ไร้ผล เพราะทหารทุกคนจะสังหารคนที่คิดจะหนี
การต่อสู้นี่กินเวลานานพอสมควร เพราะพวกเขานั้นใช้แค่มือเปล่า แต่ก็ดิ้นรนต่อสู้อย่างทุลักทุเล ทั้งการชกต่อย ถุยน้ำลายใส่ ใช้เล็บขูดที่ใบหน้า ใช้ปากกัด หรือแม้กระทั่งใช้ดินปาใส่ ไม่สนวิธีการใดๆ ถ้ามันทำให้พวกเขาสามารถเพิ่มโอกาสรอดได้แล้วล่ะก็พวกเขาก็จะทำโดยไม่ลังเล
ราชาผู้กำลังมองดูศึกที่อยู่ตรงหน้านั้นก็หัวเราะออกมาอย่างขบขัน ราวกับว่าเขานั้นมองพวกเขาเหล่านั้นไร้ค่าและต่ำยิ่งกว่าสัตว์หรือสิ่งของเสียอีก
จนกระทั่งเสียงแห่งความเจ็บปวดทรมานและความวุ่นวายนั้นจบลง เหลือให้เห็นแค่สองคนที่ยืนอยู่ตรงข้ามกัน คนหนึ่งเป็นชายหนุ่ม ทั้งเสื้อผ้านั้นเปียกชุ่มไปด้วยเลือด ตัวและใบหน้าเต็มไปด้วยบาดแผลและดิน อีกคนเป็นหญิงชรา ตาข้างหนึ่งมีเลือดไหล และใบหน้านั้นเต็มไปด้วยรอยขีดข่วน ไม้เท้าในมือของเธอนั้นปลายของมันมีเลือดติดอยู่เป็นจำนวนมาก
ราชาเมื่อเห็นดังนั้นจึงยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์และวิปริต เขาได้เสนอว่าจะให้ดาบแก่ทั้งสองคน หลังพูดจบทหารคนหนึ่งชักดาบและโยนมันออกไป ดาบตกลงมาปักอยู่บนศพ ซึ่งอยู่ระหว่างกลางคนทั้งสอง มันห่างออกไปจากหญิงชราเพียงไม่กี่ก้าว แต่มันก็ไม่ได้ห่างมากนักกับชายหนุ่ม
ชายหนุ่มเห็นดาบที่อยู่ตรงหน้านั้นก็วิ่งตรงไปยังมัน แต่ก็สะดุดซากศพล้มลงอย่างแรง หญิงชราที่มาถึงดาบก่อนก็พยายามดึงดาบนั้นที่ปักอยู่ออกจากศพ ด้วยแรงอันน้อยนิดของหญิงชราก็ไม่สามารถทำมันได้ เธอจึงล้มเลิกและใช้ไม้เท้าฟาดไปที่หัวของชายหนุ่มที่ล้มอยู่บนพื้นอย่างสุดกำลังที่เธอมีพร้อมกับเสียงตะโกนอย่างอ่อนแรง ชายหนุ่มลุกขึ้นในขณะที่กำลังถูกฟาดอย่างต่อเนื่องหลายต่อหลายที่ เขาลุกขึ้นแล้วดึงดาบออกจากศพ และใช้ดาบนั้นแทงไปที่หญิงชราพร้อมตะโกนอย่างสุดแรง
ดาบที่เสียบเข้าตรงคอของหญิงชราค่อยๆปรากฏเป็นเส้นทางเลือด ไหลออกมาเต็ม จนทำให้ดาบนั้นอาบไปด้วยเลือด และหญิงชราก็ล้มตัวลงไปกับพื้นพร้อมกับกองเลือดที่ค่อยๆปรากฏบนพื้น
หลังจากจบเรื่องทั้งหมดราชาได้สั่งให้ทหารเล้งธนูไปยังที่ชายหนุ่มที่ยืนนิ่ง ชายหนุ่มที่กำลังช็อกกับการกระทำของตนอยู่นั้นถูกลูกยิงเข้าตรงหัว เขาล้มลงเหลือไว้เพียงร่างที่ไร้ลมหายใจแน่นิ่งอยู่ตรงนั้น
พวกทหารเผาศพและหมู่บ้านทั้งหมด ไฟได้ลามไปทั่วเกิดเป็นทะเลเพลิงขนาดใหญ่ ไม่เหลือสิ่งใดให้จดจำ ทุกอย่างถูกเผาไหม้เป็นเถ้าถ่าน
เหล่าทาสที่รอดจากเหตุการณ์นั้นมีเพียงแค่หยิบมือ พวกเขาหนีลงใต้ไปเรื่อยๆอย่างไร้จุดหมาย
การเดินทางนั้นใช้เวลาหลายเดือน จากที่หนึ่งสู่อีกทีหนึ่งไปเรื่อยๆ ไม่ลงหลักปักฐานอยู่กับที่ ระหว่างเดินทางพวกเขาบางคนเกิดป่วยและตายจำนวนหนึ่ง บางคนถึงกับท้อแท้ที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปแล้วล้มเลิกที่จะหนี บางคนก็หิวโหยจนตาย และบางคนถูกสัตว์โจมตีจนตายไปบางส่วน
จนกระทั่งการเดินทางมาสิ้นสุดตรงชายหาด ชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณนั้นรู้ในทั้งที่ว่าพวกเขาเป็นทาสหลบหนี แทนที่จะแจ้งกับกองทหาร พวกเขากลับเลือกที่จะให้เรือและเสบียงแก่ทาสเหล่านั้นเพื่อหลบหนี
เรือแล่นออกไปสู่ทะเลโดยมีหนึ่งในคนจากหมู่บ้านต้องการเดินทางไปด้วย เขาเป็นคนเดินเรือให้ โดยมีจุดหมายเป็นแผ่นดินที่ทวีปอื่น
เป็นเวลาหลายเดือนที่พวกเขาลอยคออยู่ในทะเลไร้ซึ่งวี่แววของแผ่นดินใหญ่ เสบียงที่เป็นมานั้นเริ่มที่จะเหลือน้อยลงไปทุกที แต่ก็น่าแปลกใจที่กลับไม่มีทาสคนไหนลูกหือหรือพยายามขโมยเสบียง เหตุการณ์นั้นทำให้คนจากหมู่บ้านนั้นประหลาดใจเป็นอย่างมาก และต่อมาในภายหลังปัญหานั้นก็ได้ถูกแก้ไขเมื่อชาวบ้านสอนวิธีการหาปลาให้แก่พวกเค้า
ระหว่างการเดินทางนั้นเกิดพายุและฝนตกกระหน่ำ หลายต่อหลายวัน ลมจากพายุได้พัดพวกเขาออกนอกเส้นทางเดินเรือมาสู่เกาะแห่งหนึ่ง ที่นั้นเต็มไปด้วยหินและมีขนาดใหญ่ เขานั้นได้ลงหลักปักฐานอยู่ที่เกาะนี้เป็นเวลาหลายปี มีการคัดคนเข้ามาหลายต่อหลายครั้งทั้งนักเดินทาง ชาวบ้านหรือแม้กระทั่งทาสหลบหนี
จนวันหนึ่งทาสที่มีชื่อว่า"ฟาโล"ได้มาถึง พวกเขาก็ได้ก่อตั้งตนเป็นกลุ่มนักล่าหัวกษัตริย์ ฟาโลได้สอนวิธีการต่อสู้และความรู้ต่างๆที่เขามีให้แก่ผู้คนบนเกาะ เวลาผ่านไปหลายปีจากคนกลุ่มเล็กๆตอนนี้ได้เพิ่มจำนวนเป็นหลายพันคน และเริ่มที่จะลอบสังหารกษัตริย์ของอาณาจักรต่างๆไว้มากมาย เหตุการณ์ต่างได้ถูกพูดถึงเป็นจำนวนมากในราชวงศ์และขุนนาง พวกเขาเรียกคนเหล่านั้นว่า"กลุ่มต่อต้าน"แต่น้อยคนนักที่จะรู้จักหรือรู้ถึงการมีอยู่ของพวกเขา
ผ่านไปหลายปีฟาโลได้ล้มป่วยและเข้าสู่ช่วงสุดท้ายของชีวิต สิ่งหนึ่งที่เขามอบให้นั้นคือนามของเค้า เหล่าลูกหลานหลายต่อหลายรุ่นก็ได้รับนามของเขามาใช้และรวมถึงหน้าที่นั้นด้วย ผู้ที่ได้รับนามนั้นต่างก็ได้รับพลังที่แตกต่างกันไป และผู้ที่มีนามนั้นจะมีสัญลักษณ์ปรากฏบนร่างกาย ถึงแม้ฟาโลจะจากโลกนี้ไปแล้วแต่เขาก็ยังถูกเล่าขานในนามของ"FALO KING"
ผลงานอื่นๆ ของ NEXFEG ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ NEXFEG
ความคิดเห็น