ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : [Chapter I] Keep Holding You
[Chapter I] Keep Holding You
สิ้นสัปดาห์ของวันทำงาน ร้านเดิมก็เป็นสถานที่ที่ผมเลือกอีกเช่นเคย ตรอกบนเดินแคบๆเต็มไปด้วยผู้คนที่พยายามยัดเยียดแออัดเข้ามา ควันสีขาวตลบควบคู่ไปกับเสียงเพลงที่ดังสะเทือนแก้หูอยู่ตลอดเวลา สถานที่แห่งนี้เป็นที่ๆเดียวที่ผมจะหาทางออกของปัญหาได้แม้เพียงชั่วขณะก็ตาม
“ สวัสดีครับคุณชิน เฮซอง เหมือนเดิมหรือเปล่าครับ ” บาร์เทนเดอร์หนุ่มจดจำชายหนุ่มหน้าสวยแต่แฝงไปด้วยนัยน์ตาเศร้าได้เป็นอย่างดี
“ ครับ เหมือนเดิม ” เสียงตอบรับก็เช่นเดิมอีก แม้จะมาที่นี่เป็นประจำแต่น้อยครั้งนักที่จะได้ยินเสียงพูดคุยจากปากเฮซอง
จินสีขาวใสในแก้วใบสวยถูกเสิร์ฟถึงมือชายหนุ่มแก้วแล้วแก้เล่า ฤทธิ์แอลกอฮอล์ส่งผลให้คนที่ดื่มเข้าไปเกิดอาการมึนๆเล็กน้อย นาฬิกาส่งสัญญาณเตือนว่าตอนนี้เวลาล่วงเลยเข้าสู่วันใหม่ แม้ในวันนี้จะไม่สาวเคียงข้างกายเช่นทุกสัปดาห์ที่ผ่านมาแต่อากาศของเฮซองก็ดูจะแปลกไป เจ้าตัวเองก็รู้สึกได้ถึงอาการครั่นเนื้อครั่นตัวอย่างบอกไม่ถูก ในคืนนี้เค้าอาจจะต้องหยุดกิจกรรมในแบบที่เค้าทำมาทุกอาทิตย์อย่างการเริ่มต้นด้วย แอลกอฮอล์ ต่อด้วยสาวสวยสักคน และจบลงที่ห้องใดห้องหนึ่งในโรงแรม วันนี้อาจจะต้องพับโปรแกรมไปก่อน เพราะถึงยังไงก็ต้องกลับไปเผชิญหน้ากับความเจ็บปวดอยู่ดี วันนี้ไม่ลืมมันไปสักวันคงไม่เป็นไรหรอก
หันกลับมาดูชายหนุ่มอีกคนที่บ้านดีกว่า.......................
หนุ่มสูงโปรงกำลังนั่งอยู่หน้าโทรทัศน์แต่สายตากลับสอดส่ายไปยังประตูและนาฬิกาที่แขวนอยู่บนผนัง แม้ว่าจอนจินจะรู้ดีว่ายังไงก็ตามคืนวันศุกร์เช่นนี้เฮซองมักจะกลับใกล้สว่างเสมอ แต่ก็อดเป็นห่วงไม่ได้ แม้จะไม่สามารถก้าวก่ายความเป็นส่วนตัวของคนที่รักได้เพราะเส้นแบ่งที่ถูกขีดไว้ด้วยคำว่าพี่ชายแต่เค้าเองก็ยังกระวนกระวายเสมอ
ยิ่งเวลาล่วงเลยมากเท่าไหร่ ร่างกายที่เหนื่อยล้าจากการออกไปเรียนทั้งวันทำให้คนที่รอเผลอหลับไปหน้าโทรทัศน์จนได้ แต่ในคืนนี้ดูออกจะแปลกออกไปตรงนี้ในคำคืนนี้มีเสียงเรียกปลุกให้ตนเข้าไปนอนต่อในห้อง
“ จิน ทำไมนายมานนานอยู่ตรงนี้เนี่ย... ไปนอนต่อในห้องไป... ” เสียงสวยๆช่วยปลุกให้ชายหนุ่มตื่นจากภวังค์
“ พี่เฮซอง กี่โมงแล้วฮะ ทำไมวันนี้พี่กลับเร็วจัง ” นำเสียงงัวเงียจากอาการครึ่งหลับครึ่งตื่นของคนโดนปลุก
“ เดี๋ยวค่อยคุยดีกว่า นายไปนอนต่อในห้องเถอะ ”
“ พรุ่งนี้พี่อย่าลืมปลุกผมน้า ” ทำเสียงอ้อนเสียงหวานอีกแหนะ
“ อืม ไม่บอกพี่ก็ปลุกเราอยู่แล้วนิ ไปนอนได้แล้วไป ” เสียงหวานๆก็ไล่ให้ชายหนุ่มไปนอนไม่เลิก
“ แล้วก็พี่ก็รีบไปนอนด้วยละ ”
“ เออน่า....ไปนอนได้แล้ว ” เสียงหวานๆเปลี่ยนเป็นเสียงติดขึ้นเสียงเล็กๆ
คืนนี้ผมหลับสลายจริงๆครับ ก็วันนี้พี่เค้ากลับเร็วได้ จริงๆแล้วก็น่าแปลกอยู่หรอกนะครับ ทำไมอยู่ๆพี่เค้าถึงได้กลับเร็วขนาดนี้ถามคืนนี้เค้ายังไม่ขึ้นเสียงกับผมซะด้วย สงสัยวันนี้จะอารมณ์ดีแน่ๆเลย ว่าแต่เค้าไปทำอะไรมาน้า....???
นอนต่อดีกว่าครับ พรุ่งนี้จะได้ตื่นมาเจอหน้าหวานๆของคนที่ผมรักอีก...................... ^o^
..........................................
.....................
อากาศไม่ค่อยดีเลยครับวันนี้ อากาศดูอึมครึมยังไงพิกล เม็ดฝนที่เกาะอยู่ที่กระจกชวนให้ดูเหงาๆ ผมนอนพลิกไปพลิกมาอยู่บนที่นอนนุ่มสักผัก ก่อนที่จะเหลือบไปมองนาฬิกาที่อยู่เหนือหน้าต่าง ตอนนี้ก็แปดโมงแล้วซินะ เดี๋ยวนะ แปดโมง วันนี้ทำไมพี่เฮซองไม่มาปลุกผมละ ปกติให้พี่เค้านอนดึก หรือเกือบเช้าแค่ไหน พี่เค้าก็จะมาปลุกเสมอ ไม่เคยขาดเลย นี่ผมเผลอนอนรอให้พี่เค้ามาปลุก เกินอะไรขึ้นหรือเปล่า...
เมื่อคิดได้ดังนี้จอนจินก็รีบลุกจากที่นอนอย่างเร็วที่สุด ก่อนที่จะตรงไปยังห้องนอนของพี่ชายสุดที่รักแต่สิ่งที่พบคือความว่างเปล่า ต่อจากนั้นขายหนุ่มก็ตรงไปยังห้องครัวต่อทันที และสิ่งที่พบคือ....
ร่างบางของคนที่เค้ารักมากที่สุดกำลังกองอยู่กับพื้น
“ พี่เฮซอง พี่ พี่...... ” ผมเรียกที่เค้าอยากสุดเสียง มันน่าตกใจนะครับ ผมเค้าตัวร้อนจี๊เลย รู้ทั้งๆรู้ว่าตัวเองไม่ไหวยังอุตสาห์ลุกขึ้นมาทำกับข้าวอีก ให้ตายจริงๆ
“ จิน นาย นายอย่า....อย่าไปนะ....... ” เสียงเพ้อจากริมฝีปากคนตัวร้อนเพราะพิษไข้
“ พี่ครับ ผมอยู่นี่แล้ว ” ผมจึงพาพี่เข้าไปนอนในห้องนอนก่อนที่จะลุกไปเอาผ้ามาเช็ดตัวให้พี่เค้า หัวใจมันหล่นวูบเมื่อเห็นพี่เฮซองอยู่ในสภาพนั้นครั้งแรก ผมมันเป็นน้องชายที่ใช้ไม่ได้จริงๆ ดูแลคนที่ตัวเองรักไม่ได้...
...ไข้ของเฮซองดูจะไม่ลดลงง่ายๆ คงเพราะพิษไข้อีกนั่นแหละที่ทำให้คนสวยจะเพ้อออกมาอยู่ตลอดเวลา.....
“ หนาววววว จิน จอนจิน นายย.....อย่าไปนะ อย่าไปนนนน...นะ ” เสียงของพี่เพ้อออกมาทำเอาผมทำอะไรไม่ถูก
“ พี่ครับ ผมอยู่นี่แล้วนะ พี่ครับ ” น้ำตาที่มาพร้อมกับเสียงสั่นเครือของพี่ ผมฉวยเอามือของพี่มากุมไว้หากแต่เสียงของพี่กลับหยุด
“ ไม่นะ นายอย่าไปนะจิน นายอย่าไป ทำไม ทำไมมันหนาวยังงี้ อย่าไปนะจิน อย่า.... ”
ตั้งแต่วันนั้นจนวันนี้ ผมไม่เคยเห็นพี่หรือคนที่ผมรักเป็นแบบนี้เลย ผมแทบจะไม่ได้เห็นด้านที่อ่อนแอของพี่เลยสักนิด พี่มักจะเข้มแข็งเสมอไม่ว่าจะเป็นอะไรหรือเจ็บปวดมากแค่ไหน นี่ถ้าไม่เพราะพิษไข้ ผมก็คงจะไม่ได้เห็นภาพแบบนี้เป็นแน่
เสียงเพ้อของพี่ยังดังมาไม่ขาดสายพร้อมกับร่างกายที่บัดนี้สั่นเทาอย่างน่าเป็นห่วง ความอบอุ่นคงเป็นสิ่งที่ช่วยได้ ขอโทษนะครับพี่ ผมขอข้ามเส้นที่พี่ขีดเอาไว้สักวัน ขอให้ผมได้ช่วยอะไรพี่บ้างก็ยังดี
จอนจินคิดดังนั่นจึงแทรกตัวไปข้างๆร่างบางก่อนที่ดึงคนที่เป็นไข้นอนซมมากอดไว้แน่นที่สุดเพื่อสร้างความอบอุ่นให้กับคนที่เค้ารัก ภาพที่เห็นช่างเป็นภาพที่ดูอบอุ่นเสียจริงๆ หากแต่ถ้าไม่ได้เป็นเช่นนี้ พวกเราจะได้มีโอกาสเห็นภาพแบบนี้ของคนสองคนนี้หรือเปล่า
ผมจะกอดพี่ไว้ให้แน่นที่สุด นี่อาจเป็นสิ่งเดียวที่ผมช่วยพี่ได้ในตอนนี้ ผมไม่สนทั้งนั้นว่าใครจะมองผมเป็นยังไง ร่างที่สั่นเทาค่อยๆกลับมาสม่ำเสมออีกครั้ง นั่นทำให้ผมใจชื้นขึ้นมาอีกหน่อย เสียเพ้อของพี่ที่ค่อยๆหายไป ผมคงทำไม่ผิดใช่ไหมครับพี่ นานแล้วสินะที่ผมไม่ได้นอนกอดกับพี่แบบนี้ ครั้งสุดท้ายที่จำได้ก็เมื่อตอนที่เรายังเด็กกันมากๆ ครั้งนั้นผมก็ไม่สบายแบบนี้แหละครับถ้าไม่นับวันที่เราเคยมีความสุขด้วยกัน
ผมอยากให้พี่รู้จริงๆว่าผมรักพี่มากแค่ไหน แขนที่กอดพี่อยู่ในตอนนี้ไม่เคยเป็นของใครเลย ผมไม่เคยให้ใครอยู่อ้อมอกของผม ผมยังรอ เลือกที่จะรออยู่เสมอ ทั้งที่พี่บอกให้ผมเลิกรอซะที มันทำไม่ได้หรอกครับ ผมรู้นะว่าพี่ก็ทำใจไม่ได้แต่ก็ยังฝืนเข้มแข็ง ถ้าวันนี้พี่ไม่ป่วยแล้วเพ้อออกมา ผมอาจจะคิดว่าผมคิดเข้าข้างตัวเอง คิดเองเออเองแต่ผมก็เดาไม่ผิดใช่ไหมที่พี่ไม่ยอมให้ผมไป ไม่ยอมให้ผมเป็นของใคร เมื่อไหร่พี่จะเอายางลบลบเส้นที่พี่เป็นคนขีดมันขึ้นมาเองสักที
ผมจะรอนะครับพี่ ผมจะรอ รอตลอดไป ไม่ว่าจะเมื่อไหร่ก็ตาม เมื่อไหร่ที่พี่ยอมเข้าใจตัวเอง ยอมรับในสิ่งที่พี่อยากจะทำ ผมจะรอฮะ ผมจะรอ..............................................
ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่เฮซองจะยอมเปิดใจกับจอนจิน แต่ตอนนี้ชายหนุ่มที่มอบความอบอุ่นผ่านอ้อมกอดให้กับคนที่รักเผลอหลับไปซะแล้ว ไม่มีใครรู้ว่าเมื่อตอนที่เฮซองตื่นขึ้นมาเค้าจะทำหน้ายังไงกัน คงมีคนๆเดียวที่รู้คือเจ้าตัวนั้นเอง
ผม.................................................
-------------------------------- The end of Chapter I -------------------------------
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น