ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic-Y- SHINHWA][OneShot][JinSyung] Sorry for...Forgetting U

    ลำดับตอนที่ #1 : [Fic-Y-JinSyung][One-Shot] Sorry for… Forgetting You

    • อัปเดตล่าสุด 20 ม.ค. 52




    [Fic-Y-JinSyung][One-Shot]
    Sorry for… Forgetting You
     
     
             ราตรีที่ท้องฟ้ามืดมิดแต่แสงไฟและเสียงดนตรีที่ปนไปกับเสียงพูดคุยจนจับไม่ได้ศัพท์ ควันบุหรี่ที่ยังคละคลุ้งส่งกลิ่นตลบอบอวน หากแต่ที่นี่กลับอัดแน่ไปด้วยผู้คน
             ชายหนุ่มในเสื้อเชิ้ตสีแดงสด กระดุมที่ละการกลัดสามเม็ดเผยให้เห็นเนื้ออกขาวเนียน กางเกงแสลกสีดำยิ่งส่งให้ชายหนุ่มหน้าตาดีดูโด่ดเด่นกว่าใครๆในที่นี้ ริมฝีบางที่ดูน่าดึงดูด ใบหน้าที่ชวนให้สาวๆในสถานที่แห่งนี้มองตามกันเรียงแถวเข้าคิวกันมาหาไม่ขาดสาย หากแม้ยืนอยู่ที่หน้าเค้าเตอร์บาร์พร้อมกับมาตินี่ก็มาสาวๆเรียงราวมาชวนพูดคุย ชวนเชิญให้ชายหนุ่มไปกลางฟลอร์
             มีเหยื่อมาป้อนให้ถึงปาก ไหนๆก็มาแล้วก็ไม่ขัดศรัทธาให้เสียศักดิ์ชายหนุ่มรูปงามที่ใครๆก็ร่ำลือกันนักว่าเป็นคาสซิโนว่าที่ทั้งรูปหล่อ พ่อรวย แถมเป็นที่หมายปองของสาวๆเป็นนักเป็นหนา หากแต่เรื่องนี้ก็มีเบื้องลึกเบื้องหลังที่มาไม่น้อย จากหนุ่มอ่อนโยนจะเปลี่ยนไปเป็นอีกคนที่เป็นนักรักร้อนแรงได้อย่างไร
             ชายหนุ่มในชุดเสื้อเชิ๊ตสีแดงสนยังคงสนุกสนานกับสาวท่อมกลางแสงไฟกลางฟอร์ อย่างน้อยคืนนี้คงไม่ต้องนอนแก่วคนเดียว อาจจะได้หิ้วสาวๆสวยๆสักคนนึงติดไม้ติดมือไปสนุกต่ออีกสักหน่อย   เว้นแต่การกระทำนี้ยังมีสายตาอีกคู่นึงยังคงจับจ้องอย่างไม่วางตา สายตานึงเฉยที่ดูน่ากลัวราวกับหมาป่าที่จ้องจะตะคุบเหยื่อ ราวกับแวมไพกระหายเลือด หากคนที่สนุกอยู่นั้นกลับไม่รู้ตัวเลยสักนิด
     
             ............. หนึ่งปีก่อน ..............
     
             “นาย.... นายออกไปจากชีวิตฉันเลย  ไปให้ไกลแล้วอย่ากลับมาที่นี่อีก” คราบน้ำตาที่แห้งฉาบอยู่บนแก้ม ดวงตาแดงกล่ำโกรธจัดที่ยากจะยกโทษให้ใครทั้งสิ้น
             “เฮซอง... นายฟังชั้นก่อนซิ... เรื่องมันไม่ใช่อย่างที่นิดเห็นนะ” ยังไม่ทันที่อีกคนจะพูดจบ
             “พอซะทีกับข้อแก้ตัวห่วยๆของนาย   นายมันก็แค่ผู้ชายเลวๆคนนึง   ฉันไม่อยากจะฟังอะไรจากนายอีก คำพูดนายมันเชื่อถือไม่ได้”
            “แต่....”
             “คนอย่างนานมันเปลี่ยนไม่ได้หรอก มันเปลี่ยนไม่ได้จริง คนไม่น่าเชื่อ...อุ๊บบบบ” คนที่พยายามหาอธิบายบางอย่างเริ่มหมดความอดทน เขาอยากจะปิดปากบางๆที่ด่าทออย่างไร้เยื้อใย ความคิดนั้นเมื่อกระทำลงไปโดยใช้ริมฝีปากกดไปหนักๆเพื่อหยุดคำพูดเหล่านั้น แต่เวลาเช่นนี้ก็ทำให้ได้ผลตอบรับอย่าง....
     
             ......เพี๊ยะ !!!! ฝ่ามือเรียวตบลงไปเต็มแรงที่แก้มคนที่กระทำจาบจ้วง
             “อย่ามาทำสกปรกๆแบบนี้กับฉัน... นายมันสกปรก   รีบออกไป ออกไปให้ไกล อย่ามาให้เห็นหน้าอีก เราคงไม่มีอะไรต้องพูดกันอีกต่อไป... ออกไปให้พ้น”
             “เฮซอง....”
             “ฉันบอกว่าให้นายออกไป ไปให้พ้น ได้ยินไหม ออกไป” เมื่อดูท่าแล้วไม่ว่าจะยังไงก็ดึงดันที่จะอยู่ เค้าก็คงต้องก้าวจากไปเอง
             “ได้.... ฉันไปเองก็ได้   ลาก่อนจอนจิน ฉันกับนายคงไม่เจอกันอีก”
     
            หลังจากวันนั้นเฮซองก็ทิ้งทุกอย่างเพื่อที่จะลืมเรื่องราวดีๆที่ผ่านมาระหว่างเขาทั้งสอง เพื่อที่จะลบภาพที่ติดอยู่ในใจมาตั้งแต่วันแรกที่พบกัน ตั้งแต่ครั้งแรกที่รักกันและคำมั่นสัญญาที่จะรักและเชื่อมั่นในตัวอีกคน แต่เมื่อคำสัญญาที่มันเป็นเหมือนเพียงลมปากคน นับครั้งไม่ถ้วนที่เขาพยายามให้อภัยจอนจิน และหลายครั้งที่เขาพยายามทำเป็นมองไม่เห็นซะ แต่คนเราก็มีขีดจำกัด ความอดทนที่มีน้อยนิดมันก็หมดลงดั่งน้ำผึ้งหวานหยดสุดท้าย
             นี่หรือเปล่าที่ใครๆต่างบอกว่า รักมากย่อมเจ็บมาก ก็คงจะจริง หากเป็นแผลอื่นก็คงรักษาหายได้ไม่นานนัก แต่รอยแผลที่ค่อยๆถูกกระทำ มีดคมๆที่ค่อยเฉือนลงไปกลางใจทีละนิด ค่อยๆให้เลือดมันไหลซึมย่อมเจ็บกว่าเป็นไหนๆและกว่าจะหายก็คงไม่ง่าย   เมื่อคนๆนั้นเป็นคนสร้างบาดแผลให้เขา เมื่อความเชื่อมั่นในคำสัญญารักค่อยๆหมดความเชื่อถือ ความรักที่ให้ไปเหมือนไม่เคยจะพอเพราะอีกคนพยายามจะขวนขวายจากที่อื่น เมื่อมาถึงจุดนี้คำสัญญาระหว่างเราก็คงไร้ความหมาย และในจุดสุดท้ายคงให้อภัยกันไม่ได้อีกต่อไป
     
             ภาพที่คนที่ตัวเองรักฉอเลอะกับสาวอื่น และจบลงที่ห้องในโรงแรมหรู ทั้งๆที่เคยสัญญากันว่าจะเลิก และหลายครั้งกับการให้คำสัญญา คำพร่ำบอกว่าขอโทษและข้อแก้ตัวต่างๆนานาที่ถูกยกขึ้นมาอ้าง เขาเองก็ให้อภัยได้เสมอ แต่การกระทำซ้ำแล้วซ้ำเล่าความอดทนที่สะสมก็พลันหมดลง และวันที่ไม่อยากให้มาถึงมันก็มาถึงจริงๆ และวันนั้นและที่เขาก้าวออกมาจากตรงนั้น
             สถานที่เริงรมย์ยามค่ำคืนถูกเลือกเป็นสถานที่ช่วยลบความทรงจำ สุราและนารีเป็นเหมือนการเยียวยาบาดแผลจากความเจ็บปวด หากแต่ความเจ็บปวดก็ไม่ได้ลดลงไปแต่อย่างใด หากนับวันยิ่งกลับเป็นเหมือนตัวทวีคูณยิ่งเพิ่มความทรงจำให้นึกถึงเพียงคนๆเดียวที่อยากและยากจะลืม   ทั้งอยากเดินย้อนกลับไปหาคงก็จะทำไม่ได้เพราะเขาหมดแรงจะเดินต่อสู้ความเจ็บปวดที่ยากจะรับ แต่การเดินหน้าต่อก็เจ็บปวดไม่ต่างกัน และศักดิ์ศรีที่ค้ำคอก็ทำให้เขาก้าวกลับไปไม่ได้เช่นกัน
     
             ค่ำคืนนี้ก็เป็นอีกคนที่ออกไปท่องราตรี กิจกรรมที่เหมือนจะวนเวียนเหมือนเดิมตลอดหนึ่งปี เฮซองในยังอยู่ตรงกลางฟลอร์โดยไม่ได้สังเกตสายตาในเงามืดนั้น หากจะรู้สึกเล็กน้อยเท่านั้นเหมือนมีใครจับจ้อง แต่เขาอาจจะคิดไปเองก็ได้
     
             “โอปาข๋า... คืนนี้ไปต่อที่ไหนหรือเปล่าค่ะ”
             “เปล่าหรอก ว่าแต่สนใจไปต่อกับโอปาหรือเปล่าละ”
             “โอปาก็พูดไปนั้น เอาเพื่อนมีมี้ไปด้วยได้ไหมค่ะ”
             “ชื่อมีมี้หรอ น่ารักเชียว แล้วเพื่อนมีมี้สวยเหมือนมีมี้หรือเปล่าละค่ะ”
             “สวยค่ะ แต่อาจจะน้อยกว่าหน่อย”
             “มีมี้น่ารักแบบนี้ โอปารักตายเลย”
     
             ถ้อยคำหยอกล้อทุกคำพูดถูกได้ยินโดยคนอีกคนที่ค่อยจับจ้องการกระทำต่างๆของเฮซองตาไม่กระพริบ ความเจ็บปวดบวกกับแรงหึงหวงที่กำลังพลุกพล่านกำลังประทุอยู่ทำไร แต่ยังไม่ถึงขีดหากไม่มีอีกการกระทำซะก่อน
     
             ภาพที่เฮซองกำลังหอมก้อมสาวสายแก้มยุ้ยที่เค้าเตอร์ พร้อมๆกับเพื่อนๆของเธอที่กำลังรายล้อม ดูเหมือนเฮซองจะสนุกกับสุราและนารีจนไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้างว่าตอนนี้ตัวเค้าจะกลายเป็นเหงื่อของราชสีห์อยู่ร่ำไร เพราะ...
             จู่ๆชายในเงามืดผู้คอยจะตะคลุบเหยื่อก็โผล่ออกมา   จอนจินเดินผ่านผู้คนโดยไม่สนใจสิ่งรอบข้างใดๆ เขาเดินตรงไปหาเฮซองพร้อมสีหน้าที่เต็มไปด้วยโทสะ กระฉากเฮซองอย่างแรง   พร้อมกับลากมุ่งออกไปนอกร้านโดยไม่สนใจสีหน้าตกใจของกลุ่มสาวๆที่เฮซองกำลังฉอเลอะอยู่เลยสักนิด

             เฮซองเองก็ตกใจไม่น้อยกับการกระทำที่เขาไม่ทันได้ตั้งตัว ความตกใจจนทำอะไรไม่ถูก เพราะเขาเองก็ไม่คิดว่าเขาจะเจอคนๆนี้ คนที่หัวใจมันเรียกหา แต่สมองสั่งให้ลืม   ด้วยแรงที่ต่างกันการฉุดกระฉากลากถูจึงเป็นไปตามแรงคนที่มากกว่านั้นก็คือจอนจิน
     
             “ฉันบอกให้ปล่อย   ได้ยินไหม ปล่อยเซ่....”
     
             แม้เฮซองจะทั้งส่งเสียง ทั้งทุบ ทั้งตีให้คนตรงน้าปล่อยจากการลากตัวเอง แต่ก็เหมือนไร้ผล แม้การส่งเสียงทำให้หลายๆคนที่อยู่ในลานจอดรถหน้าร้านหันมามอง แต่ดูเหมือนจอนจินก็ไม่ได้ดูแคร์หรือสนใจสายตาเหล่านั้นเอาซะเลย
     
             ตอนนี้จอนจินลากเฮซองมาถึงรถตัวเอง
     
             “ปล่อยไง ฉันบอกนายแล้วว่าอย่ามาให้เห็นหน้าอีก   ปล่อยนะ” แทนที่จะปล่อย ข้อมือบางๆนั้นก็ถูกมือหนาตรึงไว้กับประตูรถแน่นจนเขียวช้ำ
             “ปล่อย   ฉันบอกให้ปล่อย นายไม่มีสิทธิ์มาทำกับฉันแบบนี้”
             “ไม่มีสิทธิ์งั้นหรอ   แล้วสาวๆพวกนั้นมีสิทธิ์ในตัวนายงั้นซิ”
             “ก็แล้วจะทำไม่ละ ก็ตัวฉันมันก็เป็นของฉัน   ฉันจะทำอะไรก็ได้ สาวๆพวกนั้นก็มีสิทธิ์ในตัวฉัน นายจะทำไม”
             “งั้นหรอ.... งั้นฉันก็มีสิทธิ์ในตัวนายเหมือนกัน”
             “นายไม่มีสิทธิ์อะไรทั้งนั้นในตัวฉัน แล้วก็ไม่เคยมีด้วย”
             “อ๋อหรอ   นายเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่าเฮซอง ก็นายเอาตัวไปให้สาวๆฟรีๆ แล้วทำไมฉันจะทำแบบนั้นไม่ได้ละ   อยากนักฉันก็จะสนองให้   ฟรีๆเลย นายไม่ต้องไปหาเอาที่ไหนด้วย”
             “จอนจิน....   นายมัน...... เพี๊ยะ....” ทันทีที่ข้อมือข้างนึงของเฮซองสะบัดหลุดออกจากมือหนาก็ตบเข้าอย่างจัง
             “อย่าทำสกปรกๆอย่างนี้กับฉันนะ”
             “สกปรกงั้นหรอ ก็นายยากเสนอ ฉันก็สนองให้ไง ไม่ถูกหรือไง” ความท้าทายของจอนจินดูไม่สนลงเลยแต่อย่างใด
             “คนอย่างนายมันก็เป็นแบบนี้และ มันถึงได้.....” ยังพูดไม่ทันจบเสียงของตะคอกจากอีกคนก็ดังขึ้นเสียก่อน
             “ก็แล้วไงละ นายก็รักคนแบบฉันไม่ใช่หรือไง”
             “รักหรอ... คำว่ารักที่ให้นายไปมันหมดไปแล้ว   ได้ยินชัดไหม   ฉันไม่ได้รักนาย”
             “รักซี่ นายรักชั้น   ได้ยินชัดไหม ชิน เฮซอง นายนะรักฉัน”
             “ฉันไม่ได้รักนาย ปล่อยซิ ฉันไม่เคยรักนาย และไม่มีวันด้วย”
             “เดี๋ยวนายก็รู้ว่ารักหรือเปล่า”
     
             จอนจินกดริมฝีปากอย่างแรงไปที่ริมฝีปากของเฮซองอย่างจาบจ้วงและรุกล้ำ แม้จะมีแรงขืนมากเท่าไหร่เขาก็ยังไม่ยอมผละออกแต่อย่างใด เขาดันร่างคนโดนกระทำขึ้นไปในรถอย่างได้ใจ เหมือนเห็นแรงที่อ่อนล้าลงของเฮซอง  แรงโมโหและโทสะที่ควบคุมไม่ได้ทำให้จูบที่มอบให้ดูเหมือนไร้ซึ่งความรัก
             ความเจ็บปวดที่โดนกระทำอย่างไม่สนใจของจอนจินแม้จะเจ็บ แต่ก็เจ็บน้อยกว่ารู้ว่าการกระทำทั้งหมดไม่ได้มีความรัก แต่มีเพียงความโกรธาเท่านั้น
     
             ความผิดปกติที่เกิดขึ้น   แรงดึงดันที่ริมฝีปากดูเหมือนจะหายไป มือที่ทั้งทุบทั้งตีหยุดลงไปดื้อๆ ทำให้จอนจินต้องผละออกจากกระทำของตัวเอง    เฮซองสลบไปแล้ว จอนจินสัมผัสได้ถึงลมหายใจที่ร้อนผิดปกติ เขาอังมือไม่ที่หน้าผากมน ใช่แล้ว เฮซองคงจะสลบไปเพราะพิษไข้
             ชายหนุ่มขับรถเลี้ยวไปยังโรงแรมที่ใกล้ที่สุด เช็คอิน แล้วพาคนไร้สติขึ้นไปยังห้องพัก เขาคอยเช็ดตัวให้คนที่ตัวร้อนอย่างต่อเนื่อง ช่วยให้ไข้ลดลงมาก ทุกครั้งที่เฮซองเพ้อ มือหนาก็จะคอยปลอบพร้อมกับกุมมือไว้แน่น   แม้การกระทำของตัวเองที่ผ่านมาทั้งหมดจะดูเลวร้ายโดยที่เขาก็พอจะรู้ตัวเองอยู่บ้างว่าทำร้ายคนๆนี้ไปมากแค่ไหน   แต่เมื่อเอาเข้าจริงๆ เขาก็ลืมตัวทุกทีเวลาที่อยู่กับคนๆนี้
             จอนจินตัวสินใจจะเช็ดตัวให้เฮซองอีกครั้ง เขาเดินไปยังห้องน้ำเพื่อซักผ้าขนหนูกับน้ำอุ่นๆ แต่ทันทีที่ออกจากห้องน้ำมาที่เตียงเขาก็เห็นเฮซองกำลังนั่งพิงตัวอยู่
     
             “นายจะเอาอะไรจากฉันอีกจอนจิน” เฮซองกล่าวด้วยคำพูดที่อ่อนระโหยโรยแรง แม้เขาพยายามแล้วก็ตาม
            
             แต่จอนจินกลับไม่สนใจคำพูดเหล่านั้น เขาเพียงแต่กลับไปนั่งข้างๆคนบนเตียง มือข้างนึงกำลังเอื้อมไปเช็ดแขนคนเป็นไข้อย่างทะนุถนอม
     
             “นายตัวร้อนมานะรู้ไหม ทำไมไม่รักษาสุขภาพ รู้ทั้งรู้ว่าไม่สบายยังออกไปเที่ยงอีก .......”   จอนจินยังคงเช็ดต่อไปพร้อมกับคำพูดต่างๆนานา เฮซองที่หมดแรงจะทำอะไรก็ได้เพียงแต่มองการกระทำนั้นๆ เขาบอกอารมณ์ตัวเองไม่ถูกเหมือนกัน ไม่รู้ซิ เขาอาจจะเหนื่อยเกินไปหรือเปล่า
     
             “พอเถอะจอนจิน   พอซะที หยุดเถอะ” น้ำตาใสๆไหลอาบแก้ม ((แล้วทำไมต้องร้องไห้ด้วยนะทำไมกัน))
             “อย่าร้องไห้นะคนดี” จอนจินเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตานั้น
             “พอเถอะ พอเถอะนะจิน ได้โปรด พอ”
             “ทำไมละ ฉันรักนายนะเฮซอง นายเองก็รักฉันไม่ใช่หรอ”
             “พอได้ พอนะ” น้ำตาก็ยังคงไม่หยุดไหล และเสียงที่อ่อนล้าลงเรื่อยๆ จนจะหมดแรงขาดใจไม่ตรงนี้
             “ทำไมละ อย่าร้องไห้ได้ไหม คนดี”
     
             เฮซองหมดแรงที่จะพูดสิ่งใดอีก มีแต่เพียงเสียงที่ร่ำร้องอยู่ในหัวใจกับน้ำตาที่ไหลรินเท่านั้น
            
             ((ทำไมนะหรอ ก็เพราะสิ่งที่ฉันพยายามมาตลอดมันจะไร้ความหมายนะซิ ไอ่การที่ฉันพยายามลืมนายมันก็เหมือนไร้ประโยชน์ ได้โปรด ช่วยทำกับฉันแรงๆ ทำยังไงก็ได้จอนจิน ทำให้ฉันเกลียดนาย ไม่ใช้ให้นายมาทำแบบนี้ เพราะใจฉันมันจะลืมนายไม่ได้อีกต่อไป ได้โปรด))
     
             หยดน้ำตาที่ไม่ยอมเหือดแห้งไปซักที ริมฝีปากอุ่นๆที่เฮซองสัมผัสได้ที่แก้ม ลมหายใจอุ่นที่รดอยู่ต้นคอ ทำให้ทุกอย่างเขาโหยหายและพยายามทิ้งขว้างไปพร้อมกันกับมาอีกครั้ง จอนจินกำลังเริ่มต้นมันใหม่
             ดวงตาทั้งคู่สบกันยาวนานเหมือนมองหาบางสิ่งในนัยน์ตานั้น คำพูดก็ไร้ความหมายเช่นกันในเวลานี้ จอนจินครอบครองริมฝีปากคนตรงหน้าอย่างโหยหา ความรู้สึกที่ถูกลืมถูกปลุกขึ้นมาอีกครั้ง แม้จะมีการแข็งขืนเล็กน้อยหากแต่เมื่อจอนจินรุกล้ำเขาไปในโพรงปากเท่านั้น เฮซองก็อ่อนยวบและรับสัมผัสอย่างเต็มใจ หมดแรงที่จะขัดขืน หมดแรงที่จะต้านทานแรงมหาสานนั้น หมดแรงที่จะทำแบบที่สมองสั่งแต่ใจกลับรั้งไว้...
             จอนจินพรมจูบไล่เรียงจากแก้มใส หน้าผากมน ไปจนถึงซอกคอขาว มือหนาเลือนไปที่กระดุมเม็ดแรก ค่อยปลดออกอย่างแผ่วเบาพร้อมกับไม่ลืมที่จะลิ้มรสเนินออกผิวใสราวกับเด็กอ่อนที่เขาจำได้เป็นอย่างดี เฮซองเองก็ลืมตัวรับสัมผัสที่ทิ้งร้างอย่างหลงใหล   เหมือนสมองหยุดสั่งการแต่ปล่อยให้หัวใจทำหน้าที่ของมันไปในเวลานี้
     

             ----------------------------------------------  ตัดฉาก NC  -------------------------------------------------


              อ่านส่วน NC ที่ตัดไป Click >>>  ® [ShotFicY][JinSyung] Sorry for… Forgetting You [Add NC] ep.II >End< 
     
             ...............................................
             .............................
             ......
     
             เช้าวันใหม่ที่อากาศด้านนอกออกจะหนาวเย็น ฝ้าที่กระจกกับตัวกันจนเป็นหยดน้ำไหลรินบนทาง   จอนจินงัวเงียโดยที่ยังไม่ทันลืมตา   มือหนาขวานหาคนข้างกายเมื่อคืนที่ในวันนี้เขาเองตั้งใจที่จะขอโทษสำหรับทุกเรื่องที่ผ่านมาพร้อมกับเปลี่ยนเป็นคนใหม่ เพราะเขาเองทราบแล้วว่าใครคือคนที่สำคัญที่สุดในชีวิต
             คิ้วชายหนุ่มขมวดผูกโบว์ทันที่ที่มือที่ใช้ขวานหาคนข้างกายกลับวางเปล่า เปลือกตาหนักอึ้งจึงลืมตาขึ้นพลันพยุงตัวลุกขึ้นมองหาไปรอบๆห้อง เมื่อไม่พบใครเขาจึงพาขายาวๆก้าวไปดูที่ห้องน้ำ   แต่ทันทีกำลังจะเดินผ่านไปห้องน้ำ ตาคมก็พบกับโน๊ตกระดาษแผ่นนึงที่ติดอยู่ที่หน้ากระจก
     
             ลายมือแสนคุ้นเคยที่เขาจำได้เป็นอย่างดี ใจเริ่มร้อนรนกับเนื้อความในจดหมายและสิ่งที่เขาไม่อยากจะพบเจอ
     
             จอนจินดึงโน้ตออกจากกระจกด้วยความกระสับกระส่าย แล้วนั่งลงบนเตียงพร้อมกับอ่านเนื่อความในจดหมายนั้น
     
     
             “จอนจิน   ฉันอยากให้นายอ่านที่ฉันเขียนให้จบ ฉันของร้องนายนะ...
             เมื่อคืนฉันมีความสุขมากๆ มันทำให้ฉันรู้ว่าความรักที่ฉันมีให้นายหนะมากแค่ไหน
             ขอบใจนายจริงๆ   ใช่จินนี่ นายพูดถูกว่าฉันรักนาย รักนายมาก 
             และไม่สามารถรักใครได้นอกจากนายจริงๆ
             แต่ก็นั่นและ ฉันเหนื่อย แล้วก็ก้าวถอยหลังไม่ได้อีกแล้ว แต่ไม่ว่าจะทำไม่
             หรือว่าเพราะอะไร ฉันขอนายนะจอนจิน ได้โปรดอย่าตามหาฉัน เราอย่าเจอกันอีกเลย...
             ฉันรู้ว่ามันเจ็บ เจ็บมากแค่ไหนที่ต้องบอกสิ่งนี้กับคนที่ฉันรักมากที่สุดอย่างนาย
             แต่พอเถอะนะ เลิกตามหาฉัน  ได้โปรด  ...
             เมื่อเราอยู่ด้วยกันแล้วมันเจ็บทั้งคู่ ยิ่งใกล้กันมากเท่าไหร่ก็เจ็บปวดมากขึ้นเท่านั้น
             ก็ให้เรื่องของเราเหลือเพียงความทรงจำดีๆระหว่างกันให้คิดถึงก็พอ
             แต่จำไว้อย่างนึงนะ ไม่ว่ายังไงก็ตาม เวลาที่เหลือทั้งหมดในชีวิตฉัน ตราบใดที่ฉันยังหายใจ
             นายจะเป็นเพียงคนเดียวในชีวิตที่ฉันรักมากที่สุด ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ตาม
             ขอโทษที่ฉันต้องทำให้นายเจ็บปวดกับการตัดสินใจของฉัน แต่ฉันแค่ขอให้นายเชื่อสักครั้ง
            เราอย่าพบกันอีก ในวันไหนที่ลมหนาวพัดผ่านขอให้นายนึกถึงฉันบ้างก็พอ...
             ลาก่อน จอนจินที่รัก...
                                                                                             ฉันรักนาย
                                                                                               เฮซอง                      ”
     
     
            จอนจินวางจดหมายในมือลงอย่างอ่อนแรง น้ำตาที่ไม่เคยไหลมานานค่อยเอ่อล้นดวงตาโดยไร้เสียงสะอื้น สายตามองเหม่อนอกหน้าต่างอย่างไร้จุดหมาย เสียงพรึมพร่าแผ่วเบาราวจะขาดใจจากริมฝีปากหนา
     
             “หรือมันต้องจบแค่นี้จริงๆ”
     
     
             ............................................
             .........................
             ....
     
             (ย้อนกลับมาช่วงเวลาก่อนการจากลาแสนเจ็บปวด)
     
     
             เฮซองตื่นขึ้นกลางดึงทั้งๆที่ยังอยู่ในอ้อมแขนแกรงของคนที่รักหมดใจ ตาเรียวมองหาสิ่งบอกเวลาที่ท้องฟ้ายังมืดมิด ตอนนี้ตีสี่แล้ว อากาศด้านนอกยังหนาวจับขั้วหัวใจ เขาค่อยพยายามออกจากอ้อมแขนอบอุ่นอย่างแผ่วเบาที่สุดเพราะกลัวจะรบกวนคนหลับสบาย
             ร่างบางลุกจากเตียงช้าๆ หยิบเสื้อผ้าที่กองอยู่คนละทิศคนละทางเข้าห้องน้ำก่อนจะกลับออกมาหลังจากจัดการตัวเองเป็นที่เรียบร้อย   เฮซองเดินตรงที่โต๊ะภายในห้องก่อนจะเริ่มเขียนจดหมายใส่กระดาษอย่างช้าๆ   ทุกๆคำที่ถูกถ่ายทอดผ่านตัวหนังสือล้วนเจ็บปวด น้ำตาที่ไหลอาบแก้มอย่างห้ามไม่ไหว   แม้จะรักมาเพียงใด แต่นี้ก็เป็นหนทางที่เขาเลือก...
             เสียงสะอื้นเบาๆยังมีต่อไปจนกระทั่งเขียนจบ เขาติดมันไว้ตรงกระจกหน้าที่แต่งตัวด้วยใจที่เบาหวิวที่ราวกับกำลังจะมีบางสิ่งบางอย่างที่ขาดหายไปจากชีวิตอีกครั้งหนึ่ง
     
             เขาเดินไปยังคนที่นอนหลับไม่รู้เรื่องรู้ราวอย่างเงียบเชียบ นั่งลงเบาๆบนที่นอนนุ่มข้างๆ ขยับจับผ้าห่มขึ้นห่มให้คนที่นอนดิ้นไปดิ้นมาอย่างเอ็นดู เฮซองพิจารณาใบหน้าคมอย่างช้าๆ   ค่อยมองไล่ไปทีละส่วนพร้อมกับค่อยถ่ายภาพด้วยหัวใจเก็บไว้เป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่เขาจะไม่ได้พบกับคนๆนี้อีกเลย   มือนุ่มปัดผมที่ปรกหน้าอย่างแผ่วเบา นิ้วเรียวลูบไปยังแก้มใสที่ยามหลับเหมือนกับเด็กน้อยก่อนเขาจะยิ้มพร้อมกับน้ำตาที่ยังไหล่เอ่ออย่างไม่ขาดสาย
             มือเรียวไล่เรียงมาถึงริมฝีปากหนาที่เขาโหยหามาตลอด ก่อนจะตัดสินใจใช้ริมฝีปากบางตัวเองสัมผัสไปอย่างแผ่วเบาเป็นครั้งสุดท้ายเพื่อจดจำรสชาติความหอมหวานที่เขาจะคิดถึงไปตลอดชีวิต...
     
             เฮซองลุกขึ้นจากเตียงนุ่มที่จอนจินยังคงหลับใหล จุมพิตเบาไปที่หน้าผากเพื่อบอกลาคนที่รักก่อนจะจากไป
     
     
             “ฉันรักนายนะจอนจิน   ลาก่อน ... ที่รัก”
     
     
             น้ำตาที่ไม่ยอมหยุดไหล สองขาที่ไร้เรี่ยวแรง ความอาลัยอาวรณ์ที่ยังล้นท้วมอยู่ในหัวใจ แต่ก็นี่คือสิ่งที่เขาเลือก สายตาที่ยังมองคนนอนอยู่อย่างไม่กระพริบจนกระทั้งขาสองข้างพาร่างกายพ้นจากประตูห้องไป
     
             เฮซองปิดประตูอย่างเบามือที่สุด หลังยังพิงประตูห้องไว้อย่างเหนื่อยอ่อน มันยากมากที่จะทำเรื่องง่ายๆอย่างการปิดประตูห้องในเวลาแบบนี้   แต่หลังจากวันนี้ไปฉันจะรักนายคนเดียว   จะมีคนเดียว   นายได้ยินฉันใช่ไหมจอนจิน   ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นนายก็จะเป็นคนที่ฉันรักมากที่สุดในชีวิตนี้ ... เพราะเราอยู่ใกล้กันแล้วต่างคนต่างเจ็บปวดก็หยุดมันไว้แค่นั้น ให้เราแยกกัน ให้เราจดจำกันในเรื่องราวดีๆที่มีเหมือนเมื่อคืนนี้
     
             เพราะไม่ว่าอนาคตข้างหน้าจะเป็นยังไง ไม่ว่านายหรือฉันจะเปลี่ยนไปแค่ไหน อย่างน้อยครั้งนึงในชีวิตฉันได้ใช้ทั้งหัวใจเพื่อรักนาย และมันก็จะรักนายตลอดไป......... ฉันรักนาย จอนจิน
     
             ลาก่อน...
     
             เฮซองปาดน้ำตาที่อาบแก้มก่อนจะก้าวออกมาพร้อมกับความเจ็บปวดและความทรงจำที่จะตราตรึงไปชั่วชีวิต 
     

          ......................................... The END ...........................................



                
     
    เรื่องเก่าไม่จบ ซ่าแต่งเรื่องใหม่ค่ะ กร๊ากกกกก   อันนี้พี่ jinmeaw    ขอแบบตบจูบ หนูสามารถได้แค่นี้ค่ะพี่ แหะๆๆๆ เรื่องยาวๆเอาไว้เรื่องเก่าจบก่อนนะค่ะ ช่วงนี้อึนๆมึน เรียนกันหัวบานเต็มไปด้วยสารพัดเรื่อง แงแงแง ท่าจะแย่ค่ะ แง๊บๆๆ พี่ชื่ออะไรหรอค่ะ แอบถามเลย อิอิ ขอบคุณทุกคนเม้นเลยนะค่ะ ขอบคุณมากๆๆค่ะ ลืมบอก แพร ค่า...
     
    เรื่องนี้แอบแต่งเอ็นซี เอาซี่ค่ะ คนแต่งแต่งไปเขินไป   ขำตัวเอง ปล้ำกับฉากนั้นสามวันแล้วค่ะ ได้แค่นี้จริงๆ หนูอยากร้องไห้ (ได้ข่าวว่าแกร้องไปแล้ว กร๊ากกก กะตรงอื่นนะค่ะ อิอิ)  

    อ่านฉากเอ็นซีคลิ๊กที่ลิงค์ข้างล่าง(ที่ชื่อเรื่องด้านล่าง) นี้ได้เลยนะค่ะ V   

    ® [ShotFicY][JinSyung] Sorry for… Forgetting You [Add NC] ep.II >End<

    หรือ  http://le-petit-prince.exteen.com/20090119/174-shotficy-jinsyung-sorry-for-8230-forgetting-you-add-nc-e


    ** ส่วนที่ตัดออกคือสีนวลๆสีไข่ไก่ค่ะ  ที่เหลือเหมือนกัน ^u^  ยุ่งยากไปหน่อยนะค่ะ  ขอโทษด้วยนะค่ะ ...
     
    พี่พุดข๋า เรื่องก่อนพี่บอกว่าน่าจะยาวอีกหน่อย เรื่องนี้หนูมาสั้นกว่าเก่าอีก   กร๊ากกก ไม่ไหวแล้วค่ะพี่ หนูท่าจะแย่   มันลากไปไหนไม่ได้เลย ขึ้นดื้อๆ จบดื้อๆ
     
    ว่าแต่เรื่องนี้ช็อตฟิคนะค่ะ จบแล้ว   จบแบบนี้อาจจะโดนรุมยำปะค่ะ เจ็บแบบเจ็บๆ อันนี้รีบหลบก่อน อิอิ (มันจบแล้วจริงๆนะค่ะ)
     
    ปล. ฉากเอ็นซีไม่อยากอ่านข้ามไปได้เลยนะค่ะ   ไม่ต้องคลิ๊กต่อไปอีกนี่นึงนะค่ะ ลงเอ็นซีไว้ในบล็อกในเด็กดีไม่ได้ลงค่า ไปอ่านต่อในบล็อกได้นะค่ะ ยินดีรับทุกคำติชม   ว่าได้นะค่ะ ติได้ไม่มีปัญหา อิอิ ขอบคุณค่ะ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×