ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    END รักร้าย...นายสารเลว : QP MISCREANT

    ลำดับตอนที่ #1 : QP ♥ LEMAY : 1 100% [รีไรท์ใหม่ 2018]

    • อัปเดตล่าสุด 3 ส.ค. 61


                                         

         http://ookbeetunwalai.s3.amazonaws.com/files/member/61612/227047302-member.jpg

                    

    รักร้ายนายสารเลว : QP & LEMAY

    ตอนที่ 1 ความเสียใจ

    @QP MISCERANT CLUB             


           “เอ้า ชนๆ”


          วันนี้ฉันจะดื่ม เอาให้มันเละไปข้างหนึ่งเลยไม่สนใจว่าของเหลวในแก้วที่ถูกกระทบด้วยความแรงระดับหนึ่งจะกระเซ็นออกจากแก้วมาใส่เสื้อผ้ามากแค่ไหน


          ขอหนึ่งวัน วันเดียวเท่านั้น


        ขอดื่มให้มันลืมไอ้ผู้ชายหน้าเหี้ยคนนั้นผู้ชายที่เป็นรักแรกของฉัน ผู้ชายที่ฉันรักเขามากแต่ตอนนี้คงมีแต่ความเกลียดมันมากกว่ารักแล้วล่ะ เกลียดชนิดที่ว่าชาตินี้ไม่ต้องมาให้เห็นหน้าค่าตาหรือแม้กระทั่งมาเผาผีกันเลยทีเดียว 


        ณ ตอนนี้ฉันอยู่ใน QP MISCREANT CLUB  กับนานาเพื่อนรักเพื่อนสนิทอีกหนึ่งคนที่คบกันมายาวนานตั้งแต่มัธยมปราย คลับนี้เป็นคลับชื่อดังที่วัยรุ่นนิยมชอบมาเที่ยวกัน มันไม่เปิดแค่เพียงตอนกลางคืนเท่านั้นแต่ตอนกลางวันก็ยังเปิดให้บริการเรียกว่าให้บริการแข่งกับเซเว่นเลยก็ว่าได้


        เพราะเปิดตลอดยี่สิบยี่ชั่วโมงภายในคลับจึงมืดสลัวนิดหน่อยได้บรรยากาศเหมือนอยู่กลางคืนตลอดเวลาจึงได้ฟิวอีกแบบ สไตล์การตกแต่งร้านออกเป็นโทนสีม่วงกับสีดำผสมกันให้ดูเข้ากับเฟอร์นิเจอร์หรูหราที่เลือกใช้ตกแต่งตามโซนต่างๆ เรียกง่ายๆ ก็ตามราคานั่นแหละส่วนในเรื่องของเครื่องดื่มก็มีทั้งราคาแพงราคาถูกปนให้เลือกดื่มมากมายหลากหลายชนิดจึงมีนักเที่ยวมาใช้บริการกันเยอะกว่าที่อื่นๆ


        “พอแล้วๆ ลีเมย์แกดื่มไปเยอะแล้วนะเว้ยรู้ตัวมั้ย?”


       เสียงของนานาพูดขึ้นแล้วไม่พอเธอยังเอามือเข้ามากระชากแก้วเหล้าในมือออกไปให้ห่างๆ พ้นจากตัวฉัน


        “รู้ รู้ดีเลย”


        “ถ้างั้นก็หยุด ดื่มไรนักหนานั่งแทบทรงตัวไม่อยู่แล้วนะ ฉันรู้ว่าแกเสียใจแต่ก็ใช่ว่าจะเอาความเสียใจพวกนั้นมาทำลายชีวิตแก”


        ฉันฝืนยิ้มให้กับนานา


        “ยัยนาแกรู้ไหมว่าฉันไปเจออะไรมา...” เป็นการบอกเพื่อนที่น่าสงสารที่สุดในชีวิตแล้วแหละ ไม่คิดเหมือนกันว่าตัวฉันจะมีวันนี้วันที่น้ำตาไหลอาบแก้มทั้งสองข้าง ไม่ห่วงภาพลักษณ์ตัวเองว่าสายตาคนอื่นมันจะเป็นยังไง น้ำตาเอ่อล้นเบ้าตาพวกนี้สามารถเป็นเครื่องยืนยันได้ว่าความรู้สึกมันเจ็บปวดไปทั่วหัวใจ “ไม่นึกไม่ฝันว่าจะเจอกับตัวเอง เหี้ยสุด!


    ย้อนไปเหตุการณ์ 2 ชั่วโมง ก่อนหน้า


        วันนี้เป็นวันครบรอบ1ปี

       เนื่องในโอกาสที่ฉันคบกับวีแฟนหนุ่ม

       ผู้ชายที่แสนอ่อนโยนอบอุ่นที่สุดช่างเอาอกเอาใจเป็นที่สุดแล้วเขาก็เป็นผู้ชายที่เข้าใจฉันอย่างแท้จริง ฉันจึงขอลางานกับเจ้าของร้านขายเสื้อผ้าที่ทำงานตอนเลิกเรียนเป็นประจำพร้อมกับหยิบของขวัญซึ่งเป็นกล่องดนตรีแก้วสวยที่มีรูปปั้นผู้ชายและผู้หญิงกำลังกอดกันด้วยความรักขึ้นมาถือเพื่อจะเอาไปให้วีที่คอนโดของเขา

       จะเซอร์ไพรส์เขาในวันที่แสนพิเศษแบบนี้เมื่อมาถึงหน้าห้องของวีจึงรีบเร่งไขกุญแจเข้าไป วีเขาเคยให้กุญแจสำรองไว้ให้ฉันตั้งแต่ตอนที่คบกันแรกๆ จึงไม่ค่อยทำให้ยุ่งยากมากเท่าไหร่นัก

        เพล้ง!

       แต่แล้วภาพที่ฉันวาดฝันเอาไว้ต้องจางหายไปเหลือเพียงความมืดมนไม่แม้มีหนทางออกใดๆ เสียงวัตถุในมือตัวเองกระทบพื้นห้องแตกกระจายกลายเป็นเสียงดังสนั่นไปทั่วทั้งห้อง ต้นเสียงนั้นทำให้ชายหญิงคู่หนึ่งที่ทำศึกรักกันอยู่บนเตียงพร้อมกับร่างกายที่เปลือยเปล่าต่างชะงักทั้งสองหันหน้าไปทางต้นเสียงนั้นอย่างพร้อมเพียงกันราวกับการถูกเรียกชื่อ...

       “นี่มันอะไรกันวี!”

       ฉันมองทั้งสองคนด้วยสายตาที่ผิดหวัง สายน้ำตามันพรั่งพรูออกมาอย่างไม่ขาดสายทั้งที่ทั้งคู่คนหนึ่งก็เป็นแฟนคนแรกส่วนอีกคนก็เป็นเพื่อนรักแต่ฉันไม่คิดว่าทั้งสองจะทำเหมือนฉันเป็นควาย!

       ควายที่กินหญ้าเป็นอาหารยังดูฉลาดกว่าเลย

       การได้พบสิ่งที่เซอร์ไพรส์ยิ่งกว่าในวันนี้สิ่งที่เห็นทำให้ฉันแทบทรงตัวไม่อยู่ถ้าไม่จับโต๊ะเพื่อประคองร่างตัวเองไว้ก็คงจะล้มลงเป็นแน่

       สายตาที่เห็นชัดเจนก็คือวีแฟนตัวเองกับแป้งเพื่อนรักของฉันอีกคนกำลังกอดกันบนเตียงพร้อมกับร่างกายที่เปลือย ไม่รู้ว่าทั้งสองเข้ากิจกรรมอย่างว่าไปแล้วกี่น้ำก่อนฉันมาเห็น

       ยิ่งตอกย้ำความโง่ของตัวเองไม่สุดสิ้น

       “นานแล้วหรือยัง?”

       ฉันกลั้นใจถามออกไปด้วยน้ำเสียงสั่นๆ เก็บอารมณ์สุดฤทธิ์พยายามไม่ให้ระเบิดออกมา

       “…”

       แต่แล้วคำตอบก็ว่างเปล่า

       “ฉันถามว่านานแล้วหรือยัง หูหนวกหรือยังไงวะ!”

       แต่แล้วก็ไม่สามารถกักเก็บอารมณ์ได้อยู่ ทางเลือกของฉันก็คือปล่อยมันระเบิดออกมาไม่สนใจสิ่งรอบข้างว่าจะเป็นยังไง การตะโกนด้วยคำพูดที่เสียงดังพร้อมกับก้าวเท้าเข้าไปใกล้กับเตียงนอนที่ทั้งสองยืนอยู่ข้างๆ ซึ่งตอนนี้ทั้งสองใช้ผ้าห่มมาพันตัวไว้

       ฉันมองทั้งสองด้วยสายตาที่แข็งกร้าว

       “มันไม่ใช่อย่างที่เมย์คิดนะ”

       หึ... เนี้ยหรอคือคำพูดของคนที่ฉันรักนักหนาเขาพูดมาได้ไงทั้งๆ ที่หลักฐานก็เห็นอยู่ตำตา

       “ฉันปัญญาอ่อนหรอวีแม้แต่เด็กประถมยังรู้เลยว่าพวกนายทำอะไรกัน คิดว่าฉันโง่นักหรอ!” จากนั้นฉันก็หันหน้าไปสบตากับหญิงสาวที่อยู่ข้างกายของวี  สายตาของเธอที่สบตากับฉันอย่างไม่คิดสำนึกพร้อมกับเผยรอยยิ้มเยาะเย้ยออกมา นี่หรอสายตาที่เขาเรียกว่าเพื่อนรัก เพื่อนที่ฉันคบมานาน เพื่อนที่ฉันไว้ใจและไม่คิดว่าเธอจะแทงข้างหลังฉัน “ฉันรู้ว่าเรื่องแบบนี้พ่อแม่แกคงไม่ได้สั่งไม่ได้สอนและคงไม่สนับสนุนลูกตัวเองทำแต่มันเกี่ยวกับสันดานสถุลที่แกสร้างขึ้นมาเองยัยแป้ง!”

        เบาไปด้วยซ้ำ มันใช่คำพูดแรง

        คำพูดนั้นของฉันทำให้ยัยแป้งหันมองมองหน้าเหมือนกับอยากจะฆ่าจะแกงเต็มแก่ ฉันรู้ว่ายัยแป้งโกรธแต่มันยังน้อยกว่าที่ได้ทำไว้กับฉัน

       “ลีเมย์!” ชื่อของฉันถูกเอ่ยขึ้นพร้อมกับสายตาตาแข็งจับจ้องออกมาจากยัยแป้งจากนั้นก็เปลี่ยนไป “หึ...ก็อย่างว่าล่ะนะใครมันจะทนคบกับแกได้วันๆ ก็เอาแต่ทำงานงกๆ จะบอกเอาบุญให้นะเพื่อนรัก ฉันกับวีเรามีอะไรกันตั้งแต่วันที่เขาตกลงคบกับแกแล้วคนอย่างแกมันก็เป็นได้แค่เพื่อนโง่ๆ คนหนึ่งเท่านั้นแหละ”

       มีอะไรกันตั้งแต่วันนั้น

       สวมเขาให้ฉันเป็นควายตั้งแต่วันนั้น

       คำพูดของยัยแป้งทำให้ฉันยืนนิ่งตะลึงจากถ้อยคำเหล่านั้นที่ออกมาจากปากของเธอ ฉันคงเป็นคนที่โง่มากในสายตาพวกเขาสินะ

       ฝ่ามือของตัวเองค่อยๆ กำแน่นจนมันสั่นไปหมดจนท้ายความอดทนว่าจะไม่ใช้กำลังมันก็ถึงจุดสิ้นสุดลง

       ผัวะ! ผัวะ!

       “โอ้ย!”

       ฉันชกยัยแป้งทั้งซ้ายและขวาจนล้มไปนั่งกับพื้น มันเกินไปจริงๆกับการกระทำของเธอ พอกันทีกับเพื่อนเลวๆ

       “พอกันทีแกกับฉันอย่าพบเจอกันอีกเลยทั้งชาตินี้และชาติหน้าส่วนไอ้เหี้ยวียกให้แกจะไปขึ้นสวรรค์หรือลงนรกที่ไหนก็เชิญ” ฉันพูดพร้อมกับถือขวดไวน์ที่บนโต๊ะเทรดศีรษะหล่อน “ฉันหยาดน้ำอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้จะได้ไม่ต้องมาลากของใครลงน้ำไปกินอีกที่สำคัญอย่ามาแย่งกินขโมยกินของฉันอีก!” 

       ส่วนวีตอนนี้กำลังมองการกระทำของฉันที่ทำกับยัยแป้งอย่างอึ้งๆ คนอย่างเขาคงไม่รู้ว่าคนอย่างฉันร้ายกว่าที่เขาคิดมากเพียงเพราะว่ายังไม่ได้แสดงพฤติกรรมร้ายๆ แรงๆ กับคนอย่างเขาล่ะมั้งอีกอย่างความอดทนของฉันก็หมดลงแล้ว

       “เมย์…ผมขอโทษ ผมผิดไปแล้วยกโทษให้ผมนะ ผมรักคุณคนเดียวนะ”

       วีพูดขึ้นพร้อมกับทำสายตาสำนึกผิด

       “เห่าเสร็จยังบอกแล้วไงว่าไม่ได้ปัญญาอ่อน!”

       เวลานี้วีจะพูดอะไรขึ้นมามันก็เหมือนกับการแก้ตัวเท่านั้นแหละ ฉันไม่ฟังอะไรเท่ากับสิ่งที่ตัวเองได้เห็นหรอก

       ไม่เชื่ออีกแล้วโว้ย

       “ก็เมย์ไม่เคยให้ผมสักครั้งแค่จับมือก็ยังไม่ให้เลยจะให้ทำยังไงล่ะนี่คือวิธีที่ดีที่สุดแล้วนะครับเมย์”

       “วิธีที่ดีที่สุดหรอพูดมาได้ไม่อายหมา หึ! เห็นแกตัวไปหน่อยนะฉันว่าไปใส่กระโปรงผู้หญิงแทนเถอะวะพูดออกมาได้ยังไง!”

       “พูดแรงไปนะเพราะเมย์นั้นแหละผมเลยทำแบบนี้ เมย์นั้นแหละที่ผิด ใช่อย่างที่แป้งพูดทุกอย่างผมกับแป้งคบกันตั้งแต่วันที่ผมตกลงคบกับเมย์ แล้วแต่คนที่มาทีหลังมันก็เป็นเมย์วันนั้นผมตกลงคบกับแป้งก่อน แล้วไงล่ะแป้งเขาให้ทุกอย่างกับผมไม่เหมือนกับใครบางคน คิดผิดจริงๆ ที่ตกลงคบกับคนอย่างคุณลีเมย์!”

        เพล้ง!

       ไม่รู้ว่าใช้แรงไปเท่าไหร่

       เลือดสดๆ สีแดงฉานจึงไหลลงอาบลำคอของไอ้เหี้ยวี มันรีบเอามือใหญ่มาลูบที่ศีรษะของตัวเองด้วยใบหน้าซีดราวกับไก่ถูกต้ม 

       ใช่ฉันเป็นคนทำเอง

       ฉันเอาขวดไวน์ที่เทรดหัวยัยแป้งและขวดเปล่าๆ ขวดนั้นยังอยู่ในมือก็เลยเอาขวดฟาดลงไปหลังจากที่ประโยคสุดท้ายจบลง

       “จบกันสักทีอย่ามายุ่งกับฉันอีกทั้งสองคน ฉันจะปล่อยให้ดอกทองให้ได้อยู่กับเหี้ยสมใจ!”

       จากนั้นฉันเดินออกมาจากคอนโดเหมือนกับร่างที่ไร้วิญญาณ ร่างที่ผ่านการร้องไห้มาอย่างหนักหน่วง มันทั้งแสนอ่อนล้าสาหัสไปหมดทั้งหัวใจแขนขาเรี่ยวแรงในร่างกายไม่เหลือขนาดหายใจก็ยังลำบากกับการที่ในชีวิตจะต้องเจอกับเหตุการณ์แบบนี้จากนั้นฉันจึงกดโทรหานานา


       “อย่าร้องไห้แก ฉันจะอยู่และเป็นเพื่อนแกเสมอนะลีเมย์ ฉันจะไม่ทิ้งแก คอยอยู่ข้างๆเสมอ”


        คำพูดของยัยนานาทำให้หลุดออกจากการคิดถึงเรื่องที่ผ่านมาก่อนหน้า ฉันร้องไห้และโผเข้ากอดเธออย่างซึ้งใจ    


        “ขอบใจมากนานาแกเป็นเพื่อนรักของฉันคนเดียว”


        “กลับบ้านกันเถอะนะเมย์” สรรพนามการเรียกชื่อเปลี่ยนไปเหมือนเดิมเมื่อนานาเริ่มเห็นว่าฉันสบายใจถึงจะไม่เต็มร้อยก็เถอะ “แกรู้ไหมว่าคลับที่นี่เป็นของหนึ่งใน 5 MISCREANT ที่วัยรุ่นต่างร่ำลือในเรื่องของความเลวความชั่วร้ายใครๆ ที่คิดเป็นศัตรูกับเขาต้องตายนะอีกทั้งพวกเขาทั้งโหด เถื่อน เลวโคตร ร่ำรวย  หล่อและที่สำคัญมีลูกน้องเป็นพัน  ฉันกลัวปะไปกันเถอะอีกอย่างหนึ่งฉันต้องไปทานข้าวกับครอบครัวของทิว เรานัดกันวันนี้”


        ยัยนานาเป็นคนน่ารัก นิสัยดี ชอบช่วยเหลือฉันทุกอย่างพวกเราเป็นเพื่อนกันมานานที่สำคัญเธอยังมีคนรักแสนดีอย่างทิว ทั้งสองคบกันมานานมากตั้งแต่มัธยมจนมาถึงเรียนมหาลัย


        ฉันดีใจกับนานาจริงๆ ไม่เหมือนฉันเลยที่ต้องเจอกับเรื่องแบบนี้ 


        “แกกลับไปก่อนเถอะเดี๋ยวฉันจะกลับเองไม่ต้องเป็นห่วง ขอบคุณที่แกมาอยู่เป็นเพื่อนฉันนะ”


        “แต่ว่า... แกจะกลับยังไง?”


        “เถอะหน่า...ไว้ใจนะฉันกลับเองได้อีกอย่างห้องพักก็อยู่ใกล้ๆ เอง รีบๆ ไปเดี๋ยวทิวรอนาน ยิ่งไปทานข้าวกับครอบครัวแฟนเธออีก” ฉันร่ายยาวบอกเพื่อนรักคนเดียว “ไปสิไม่รีบไปฉันโกรธนะ”


        “ก็ได้ๆ แกรีบกลับเลยนะถึงห้องแล้วโทรบอกฉันด้วยล่ะ ห้ามลืมย้ำ!” จนสุดท้ายนานาก็ลุกขึ้นเดินไปครึ่งทางก็หันกลับมาสั่งฉันอีกครั้งหนึ่ง


           “ok”


      นานาไปแล้วสักพักฉันก็ลากสังขารตัวเองออกมาหน้าคลับ วันนี้ใช้ทางกลับหอทางลัดดีกว่าประหยัดเงินในกระเป๋าจะได้ไม่เปลืองส่วนทางลัดที่ฉันว่าก็คือทางเดินเข้าไปในซอยหลังคลับ 


        ซอยนี้ใช้เวลาเดินทางไปถึงห้องพักฉันประมาณครึ่งชั่วโมงแต่วันนี้ทำไมมันไม่มีคนเดินเลยวะแถมยังเงียบสงัดยังดีนะที่มีไฟส่องแสงสว่างตลอดทาง  


          “ใครใช้แกมา!”


    ใครมาส่งเสียงดังแถวนี้ฉันรีบแอบย่องๆเข้าไปดูข้างๆประตูใหญ่นี่มันเป็นประตูหลังคลับQP MISCREANT CLUB  ข้างหลังเป็นกำแพงสูงแต่ประตูใหญ่ได้เปิดไว้ข้างในเป็นลานกว้างมีรถหรูแลมโบกินีสีขาวจอดอยู่พร้อมกับผู้ชายใส่เสื้อสีดำ ผิวสีขาวผ่องทรงผมซอยยาวสวมแว่นตาสีดำพร้อมรับกับจมูกโด่งใบหน้าเรียวซึ่งพิงกับประตูรถ


    นายนี่ต้องเป็นหัวหน้าแน่ๆ ลูกน้องนับร้อยที่กำลังล้อมชายวัยรุ่นสองคนซึ่งใบหน้าตอนนี้มีแต่รอยซ้ำจากการโดนต่อยริมฝีปากมีเลือดไหลผู้ชายที่ยืนพิงรถเดินเข้ามาหาชายวัยรุ่นสองคนนั้น พร้อมกับพูดขึ้นว่า


    “ฉันจะถามเป็นครั้งสุดท้ายว่าใครใช้แกมาแส่ที่นี่! ”


    เขาชั่งดูโหดร้ายเลือดเย็นลูกน้องทั้งหมดที่ล้อมชายวัยรุ่นทั้งสองคนนั้นไม่กล้าที่จะสบตากับเขาเลยทุกคนได้แค่ก้มหน้ามองพื้นดิน


    “ตอบหรือว่าพวกแกอยากจะตายแบบศพไม่มีญาติ”


    ว่าแล้วเขาก็เอามือเข้าไปล้วงอะไรบ้างอย่างภายใต้ชายเสื้อสีดำออกมาซึ่งนั้นมันคือ ปะปืน!

    ----------------------------

    ​รีไรท์ใหม่นะคะสำหรับเรื่องเฮียคิวพี 

    โครงเรื่องยังเหมือนเดิมแต่มีการแทรกเรื่องราวต่างๆ ใหม่ขึ้นบ้าง

    รวมถึงบทที่จะแบ่งชัดเจนไม่ผสมกันเหมือนเมื่อก่อนที่ค่อนข้างรวมกันไปหมดเพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่แต่ง

    ขอฝากนักอ่านทุกคนด้วยน๊า

    ^____^

     

     

     

     




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×