คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : QP ♥ LEMAY : 1 100% [รีไรท์ใหม่ 2018]
รักร้ายนายสารเลว : QP & LEMAY
ตอนที่ 1 ความเสียใจ
@QP MISCERANT CLUB
“เอ้า ชนๆ”
วันนี้ฉันจะดื่ม เอาให้มันเละไปข้างหนึ่งเลยไม่สนใจว่าของเหลวในแก้วที่ถูกกระทบด้วยความแรงระดับหนึ่งจะกระเซ็นออกจากแก้วมาใส่เสื้อผ้ามากแค่ไหน
ขอหนึ่งวัน วันเดียวเท่านั้น
ขอดื่มให้มันลืมไอ้ผู้ชายหน้าเหี้ยคนนั้นผู้ชายที่เป็นรักแรกของฉัน ผู้ชายที่ฉันรักเขามากแต่ตอนนี้คงมีแต่ความเกลียดมันมากกว่ารักแล้วล่ะ เกลียดชนิดที่ว่าชาตินี้ไม่ต้องมาให้เห็นหน้าค่าตาหรือแม้กระทั่งมาเผาผีกันเลยทีเดียว
ณ ตอนนี้ฉันอยู่ใน QP MISCREANT CLUB กับนานาเพื่อนรักเพื่อนสนิทอีกหนึ่งคนที่คบกันมายาวนานตั้งแต่มัธยมปราย คลับนี้เป็นคลับชื่อดังที่วัยรุ่นนิยมชอบมาเที่ยวกัน มันไม่เปิดแค่เพียงตอนกลางคืนเท่านั้นแต่ตอนกลางวันก็ยังเปิดให้บริการเรียกว่าให้บริการแข่งกับเซเว่นเลยก็ว่าได้
เพราะเปิดตลอดยี่สิบยี่ชั่วโมงภายในคลับจึงมืดสลัวนิดหน่อยได้บรรยากาศเหมือนอยู่กลางคืนตลอดเวลาจึงได้ฟิวอีกแบบ สไตล์การตกแต่งร้านออกเป็นโทนสีม่วงกับสีดำผสมกันให้ดูเข้ากับเฟอร์นิเจอร์หรูหราที่เลือกใช้ตกแต่งตามโซนต่างๆ เรียกง่ายๆ ก็ตามราคานั่นแหละส่วนในเรื่องของเครื่องดื่มก็มีทั้งราคาแพงราคาถูกปนให้เลือกดื่มมากมายหลากหลายชนิดจึงมีนักเที่ยวมาใช้บริการกันเยอะกว่าที่อื่นๆ
“พอแล้วๆ ลีเมย์แกดื่มไปเยอะแล้วนะเว้ยรู้ตัวมั้ย?”
เสียงของนานาพูดขึ้นแล้วไม่พอเธอยังเอามือเข้ามากระชากแก้วเหล้าในมือออกไปให้ห่างๆ พ้นจากตัวฉัน
“รู้ รู้ดีเลย”
“ถ้างั้นก็หยุด ดื่มไรนักหนานั่งแทบทรงตัวไม่อยู่แล้วนะ ฉันรู้ว่าแกเสียใจแต่ก็ใช่ว่าจะเอาความเสียใจพวกนั้นมาทำลายชีวิตแก”
ฉันฝืนยิ้มให้กับนานา
“ยัยนาแกรู้ไหมว่าฉันไปเจออะไรมา...” เป็นการบอกเพื่อนที่น่าสงสารที่สุดในชีวิตแล้วแหละ ไม่คิดเหมือนกันว่าตัวฉันจะมีวันนี้วันที่น้ำตาไหลอาบแก้มทั้งสองข้าง ไม่ห่วงภาพลักษณ์ตัวเองว่าสายตาคนอื่นมันจะเป็นยังไง น้ำตาเอ่อล้นเบ้าตาพวกนี้สามารถเป็นเครื่องยืนยันได้ว่าความรู้สึกมันเจ็บปวดไปทั่วหัวใจ “ไม่นึกไม่ฝันว่าจะเจอกับตัวเอง เหี้ยสุด!
ย้อนไปเหตุการณ์ 2 ชั่วโมง ก่อนหน้า
วันนี้เป็นวันครบรอบ1ปี
เนื่องในโอกาสที่ฉันคบกับวีแฟนหนุ่ม
ผู้ชายที่แสนอ่อนโยนอบอุ่นที่สุดช่างเอาอกเอาใจเป็นที่สุดแล้วเขาก็เป็นผู้ชายที่เข้าใจฉันอย่างแท้จริง ฉันจึงขอลางานกับเจ้าของร้านขายเสื้อผ้าที่ทำงานตอนเลิกเรียนเป็นประจำพร้อมกับหยิบของขวัญซึ่งเป็นกล่องดนตรีแก้วสวยที่มีรูปปั้นผู้ชายและผู้หญิงกำลังกอดกันด้วยความรักขึ้นมาถือเพื่อจะเอาไปให้วีที่คอนโดของเขา
จะเซอร์ไพรส์เขาในวันที่แสนพิเศษแบบนี้เมื่อมาถึงหน้าห้องของวีจึงรีบเร่งไขกุญแจเข้าไป วีเขาเคยให้กุญแจสำรองไว้ให้ฉันตั้งแต่ตอนที่คบกันแรกๆ จึงไม่ค่อยทำให้ยุ่งยากมากเท่าไหร่นัก
เพล้ง!
แต่แล้วภาพที่ฉันวาดฝันเอาไว้ต้องจางหายไปเหลือเพียงความมืดมนไม่แม้มีหนทางออกใดๆ เสียงวัตถุในมือตัวเองกระทบพื้นห้องแตกกระจายกลายเป็นเสียงดังสนั่นไปทั่วทั้งห้อง ต้นเสียงนั้นทำให้ชายหญิงคู่หนึ่งที่ทำศึกรักกันอยู่บนเตียงพร้อมกับร่างกายที่เปลือยเปล่าต่างชะงักทั้งสองหันหน้าไปทางต้นเสียงนั้นอย่างพร้อมเพียงกันราวกับการถูกเรียกชื่อ...
“นี่มันอะไรกันวี!”
ฉันมองทั้งสองคนด้วยสายตาที่ผิดหวัง สายน้ำตามันพรั่งพรูออกมาอย่างไม่ขาดสายทั้งที่ทั้งคู่คนหนึ่งก็เป็นแฟนคนแรกส่วนอีกคนก็เป็นเพื่อนรักแต่ฉันไม่คิดว่าทั้งสองจะทำเหมือนฉันเป็นควาย!
ควายที่กินหญ้าเป็นอาหารยังดูฉลาดกว่าเลย
การได้พบสิ่งที่เซอร์ไพรส์ยิ่งกว่าในวันนี้สิ่งที่เห็นทำให้ฉันแทบทรงตัวไม่อยู่ถ้าไม่จับโต๊ะเพื่อประคองร่างตัวเองไว้ก็คงจะล้มลงเป็นแน่
สายตาที่เห็นชัดเจนก็คือวีแฟนตัวเองกับแป้งเพื่อนรักของฉันอีกคนกำลังกอดกันบนเตียงพร้อมกับร่างกายที่เปลือย ไม่รู้ว่าทั้งสองเข้ากิจกรรมอย่างว่าไปแล้วกี่น้ำก่อนฉันมาเห็น
ยิ่งตอกย้ำความโง่ของตัวเองไม่สุดสิ้น
“นานแล้วหรือยัง?”
ฉันกลั้นใจถามออกไปด้วยน้ำเสียงสั่นๆ เก็บอารมณ์สุดฤทธิ์พยายามไม่ให้ระเบิดออกมา
“…”
แต่แล้วคำตอบก็ว่างเปล่า
“ฉันถามว่านานแล้วหรือยัง หูหนวกหรือยังไงวะ!”
แต่แล้วก็ไม่สามารถกักเก็บอารมณ์ได้อยู่ ทางเลือกของฉันก็คือปล่อยมันระเบิดออกมาไม่สนใจสิ่งรอบข้างว่าจะเป็นยังไง การตะโกนด้วยคำพูดที่เสียงดังพร้อมกับก้าวเท้าเข้าไปใกล้กับเตียงนอนที่ทั้งสองยืนอยู่ข้างๆ ซึ่งตอนนี้ทั้งสองใช้ผ้าห่มมาพันตัวไว้
ฉันมองทั้งสองด้วยสายตาที่แข็งกร้าว
“มันไม่ใช่อย่างที่เมย์คิดนะ”
หึ... เนี้ยหรอคือคำพูดของคนที่ฉันรักนักหนาเขาพูดมาได้ไงทั้งๆ ที่หลักฐานก็เห็นอยู่ตำตา
“ฉันปัญญาอ่อนหรอวีแม้แต่เด็กประถมยังรู้เลยว่าพวกนายทำอะไรกัน คิดว่าฉันโง่นักหรอ!” จากนั้นฉันก็หันหน้าไปสบตากับหญิงสาวที่อยู่ข้างกายของวี สายตาของเธอที่สบตากับฉันอย่างไม่คิดสำนึกพร้อมกับเผยรอยยิ้มเยาะเย้ยออกมา นี่หรอสายตาที่เขาเรียกว่าเพื่อนรัก เพื่อนที่ฉันคบมานาน เพื่อนที่ฉันไว้ใจและไม่คิดว่าเธอจะแทงข้างหลังฉัน “ฉันรู้ว่าเรื่องแบบนี้พ่อแม่แกคงไม่ได้สั่งไม่ได้สอนและคงไม่สนับสนุนลูกตัวเองทำแต่มันเกี่ยวกับสันดานสถุลที่แกสร้างขึ้นมาเองยัยแป้ง!”
เบาไปด้วยซ้ำ มันใช่คำพูดแรง
คำพูดนั้นของฉันทำให้ยัยแป้งหันมองมองหน้าเหมือนกับอยากจะฆ่าจะแกงเต็มแก่ ฉันรู้ว่ายัยแป้งโกรธแต่มันยังน้อยกว่าที่ได้ทำไว้กับฉัน
“ลีเมย์!” ชื่อของฉันถูกเอ่ยขึ้นพร้อมกับสายตาตาแข็งจับจ้องออกมาจากยัยแป้งจากนั้นก็เปลี่ยนไป “หึ...ก็อย่างว่าล่ะนะใครมันจะทนคบกับแกได้วันๆ ก็เอาแต่ทำงานงกๆ จะบอกเอาบุญให้นะเพื่อนรัก ฉันกับวีเรามีอะไรกันตั้งแต่วันที่เขาตกลงคบกับแกแล้วคนอย่างแกมันก็เป็นได้แค่เพื่อนโง่ๆ คนหนึ่งเท่านั้นแหละ”
มีอะไรกันตั้งแต่วันนั้น
สวมเขาให้ฉันเป็นควายตั้งแต่วันนั้น
คำพูดของยัยแป้งทำให้ฉันยืนนิ่งตะลึงจากถ้อยคำเหล่านั้นที่ออกมาจากปากของเธอ ฉันคงเป็นคนที่โง่มากในสายตาพวกเขาสินะ
ฝ่ามือของตัวเองค่อยๆ กำแน่นจนมันสั่นไปหมดจนท้ายความอดทนว่าจะไม่ใช้กำลังมันก็ถึงจุดสิ้นสุดลง
ผัวะ! ผัวะ!
“โอ้ย!”
ฉันชกยัยแป้งทั้งซ้ายและขวาจนล้มไปนั่งกับพื้น มันเกินไปจริงๆกับการกระทำของเธอ พอกันทีกับเพื่อนเลวๆ
“พอกันทีแกกับฉันอย่าพบเจอกันอีกเลยทั้งชาตินี้และชาติหน้าส่วนไอ้เหี้ยวียกให้แกจะไปขึ้นสวรรค์หรือลงนรกที่ไหนก็เชิญ” ฉันพูดพร้อมกับถือขวดไวน์ที่บนโต๊ะเทรดศีรษะหล่อน “ฉันหยาดน้ำอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้จะได้ไม่ต้องมาลากของใครลงน้ำไปกินอีกที่สำคัญอย่ามาแย่งกินขโมยกินของฉันอีก!”
ส่วนวีตอนนี้กำลังมองการกระทำของฉันที่ทำกับยัยแป้งอย่างอึ้งๆ คนอย่างเขาคงไม่รู้ว่าคนอย่างฉันร้ายกว่าที่เขาคิดมากเพียงเพราะว่ายังไม่ได้แสดงพฤติกรรมร้ายๆ แรงๆ กับคนอย่างเขาล่ะมั้งอีกอย่างความอดทนของฉันก็หมดลงแล้ว
“เมย์…ผมขอโทษ ผมผิดไปแล้วยกโทษให้ผมนะ ผมรักคุณคนเดียวนะ”
วีพูดขึ้นพร้อมกับทำสายตาสำนึกผิด
“เห่าเสร็จยังบอกแล้วไงว่าไม่ได้ปัญญาอ่อน!”
เวลานี้วีจะพูดอะไรขึ้นมามันก็เหมือนกับการแก้ตัวเท่านั้นแหละ ฉันไม่ฟังอะไรเท่ากับสิ่งที่ตัวเองได้เห็นหรอก
ไม่เชื่ออีกแล้วโว้ย
“ก็เมย์ไม่เคยให้ผมสักครั้งแค่จับมือก็ยังไม่ให้เลยจะให้ทำยังไงล่ะนี่คือวิธีที่ดีที่สุดแล้วนะครับเมย์”
“วิธีที่ดีที่สุดหรอพูดมาได้ไม่อายหมา หึ! เห็นแกตัวไปหน่อยนะฉันว่าไปใส่กระโปรงผู้หญิงแทนเถอะวะพูดออกมาได้ยังไง!”
“พูดแรงไปนะเพราะเมย์นั้นแหละผมเลยทำแบบนี้ เมย์นั้นแหละที่ผิด ใช่อย่างที่แป้งพูดทุกอย่างผมกับแป้งคบกันตั้งแต่วันที่ผมตกลงคบกับเมย์ แล้วแต่คนที่มาทีหลังมันก็เป็นเมย์วันนั้นผมตกลงคบกับแป้งก่อน แล้วไงล่ะแป้งเขาให้ทุกอย่างกับผมไม่เหมือนกับใครบางคน คิดผิดจริงๆ ที่ตกลงคบกับคนอย่างคุณลีเมย์!”
เพล้ง!
ไม่รู้ว่าใช้แรงไปเท่าไหร่
เลือดสดๆ สีแดงฉานจึงไหลลงอาบลำคอของไอ้เหี้ยวี มันรีบเอามือใหญ่มาลูบที่ศีรษะของตัวเองด้วยใบหน้าซีดราวกับไก่ถูกต้ม
ใช่ฉันเป็นคนทำเอง
ฉันเอาขวดไวน์ที่เทรดหัวยัยแป้งและขวดเปล่าๆ ขวดนั้นยังอยู่ในมือก็เลยเอาขวดฟาดลงไปหลังจากที่ประโยคสุดท้ายจบลง
“จบกันสักทีอย่ามายุ่งกับฉันอีกทั้งสองคน ฉันจะปล่อยให้ดอกทองให้ได้อยู่กับเหี้ยสมใจ!”
จากนั้นฉันเดินออกมาจากคอนโดเหมือนกับร่างที่ไร้วิญญาณ ร่างที่ผ่านการร้องไห้มาอย่างหนักหน่วง มันทั้งแสนอ่อนล้าสาหัสไปหมดทั้งหัวใจแขนขาเรี่ยวแรงในร่างกายไม่เหลือขนาดหายใจก็ยังลำบากกับการที่ในชีวิตจะต้องเจอกับเหตุการณ์แบบนี้จากนั้นฉันจึงกดโทรหานานา
“อย่าร้องไห้แก ฉันจะอยู่และเป็นเพื่อนแกเสมอนะลีเมย์ ฉันจะไม่ทิ้งแก คอยอยู่ข้างๆเสมอ”
คำพูดของยัยนานาทำให้หลุดออกจากการคิดถึงเรื่องที่ผ่านมาก่อนหน้า ฉันร้องไห้และโผเข้ากอดเธออย่างซึ้งใจ
“ขอบใจมากนานาแกเป็นเพื่อนรักของฉันคนเดียว”
“กลับบ้านกันเถอะนะเมย์” สรรพนามการเรียกชื่อเปลี่ยนไปเหมือนเดิมเมื่อนานาเริ่มเห็นว่าฉันสบายใจถึงจะไม่เต็มร้อยก็เถอะ “แกรู้ไหมว่าคลับที่นี่เป็นของหนึ่งใน 5 MISCREANT ที่วัยรุ่นต่างร่ำลือในเรื่องของความเลวความชั่วร้ายใครๆ ที่คิดเป็นศัตรูกับเขาต้องตายนะอีกทั้งพวกเขาทั้งโหด เถื่อน เลวโคตร ร่ำรวย หล่อและที่สำคัญมีลูกน้องเป็นพัน ฉันกลัวปะไปกันเถอะอีกอย่างหนึ่งฉันต้องไปทานข้าวกับครอบครัวของทิว เรานัดกันวันนี้”
ยัยนานาเป็นคนน่ารัก นิสัยดี ชอบช่วยเหลือฉันทุกอย่างพวกเราเป็นเพื่อนกันมานานที่สำคัญเธอยังมีคนรักแสนดีอย่างทิว ทั้งสองคบกันมานานมากตั้งแต่มัธยมจนมาถึงเรียนมหาลัย
ฉันดีใจกับนานาจริงๆ ไม่เหมือนฉันเลยที่ต้องเจอกับเรื่องแบบนี้
“แกกลับไปก่อนเถอะเดี๋ยวฉันจะกลับเองไม่ต้องเป็นห่วง ขอบคุณที่แกมาอยู่เป็นเพื่อนฉันนะ”
“แต่ว่า... แกจะกลับยังไง?”
“เถอะหน่า...ไว้ใจนะฉันกลับเองได้อีกอย่างห้องพักก็อยู่ใกล้ๆ เอง รีบๆ ไปเดี๋ยวทิวรอนาน ยิ่งไปทานข้าวกับครอบครัวแฟนเธออีก” ฉันร่ายยาวบอกเพื่อนรักคนเดียว “ไปสิไม่รีบไปฉันโกรธนะ”
“ก็ได้ๆ แกรีบกลับเลยนะถึงห้องแล้วโทรบอกฉันด้วยล่ะ ห้ามลืมย้ำ!” จนสุดท้ายนานาก็ลุกขึ้นเดินไปครึ่งทางก็หันกลับมาสั่งฉันอีกครั้งหนึ่ง
“ok”
นานาไปแล้วสักพักฉันก็ลากสังขารตัวเองออกมาหน้าคลับ วันนี้ใช้ทางกลับหอทางลัดดีกว่าประหยัดเงินในกระเป๋าจะได้ไม่เปลืองส่วนทางลัดที่ฉันว่าก็คือทางเดินเข้าไปในซอยหลังคลับ
ซอยนี้ใช้เวลาเดินทางไปถึงห้องพักฉันประมาณครึ่งชั่วโมงแต่วันนี้ทำไมมันไม่มีคนเดินเลยวะแถมยังเงียบสงัดยังดีนะที่มีไฟส่องแสงสว่างตลอดทาง
“ใครใช้แกมา!”
ใครมาส่งเสียงดังแถวนี้ฉันรีบแอบย่องๆเข้าไปดูข้างๆประตูใหญ่นี่มันเป็นประตูหลังคลับQP MISCREANT CLUB ข้างหลังเป็นกำแพงสูงแต่ประตูใหญ่ได้เปิดไว้ข้างในเป็นลานกว้างมีรถหรูแลมโบกินีสีขาวจอดอยู่พร้อมกับผู้ชายใส่เสื้อสีดำ ผิวสีขาวผ่องทรงผมซอยยาวสวมแว่นตาสีดำพร้อมรับกับจมูกโด่งใบหน้าเรียวซึ่งพิงกับประตูรถ
นายนี่ต้องเป็นหัวหน้าแน่ๆ ลูกน้องนับร้อยที่กำลังล้อมชายวัยรุ่นสองคนซึ่งใบหน้าตอนนี้มีแต่รอยซ้ำจากการโดนต่อยริมฝีปากมีเลือดไหลผู้ชายที่ยืนพิงรถเดินเข้ามาหาชายวัยรุ่นสองคนนั้น พร้อมกับพูดขึ้นว่า
“ฉันจะถามเป็นครั้งสุดท้ายว่าใครใช้แกมาแส่ที่นี่! ”
เขาชั่งดูโหดร้ายเลือดเย็นลูกน้องทั้งหมดที่ล้อมชายวัยรุ่นทั้งสองคนนั้นไม่กล้าที่จะสบตากับเขาเลยทุกคนได้แค่ก้มหน้ามองพื้นดิน
“ตอบหรือว่าพวกแกอยากจะตายแบบศพไม่มีญาติ”
ว่าแล้วเขาก็เอามือเข้าไปล้วงอะไรบ้างอย่างภายใต้ชายเสื้อสีดำออกมาซึ่งนั้นมันคือ ปะปืน!
----------------------------
รีไรท์ใหม่นะคะสำหรับเรื่องเฮียคิวพี
โครงเรื่องยังเหมือนเดิมแต่มีการแทรกเรื่องราวต่างๆ ใหม่ขึ้นบ้าง
รวมถึงบทที่จะแบ่งชัดเจนไม่ผสมกันเหมือนเมื่อก่อนที่ค่อนข้างรวมกันไปหมดเพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่แต่ง
ขอฝากนักอ่านทุกคนด้วยน๊า
^____^
ความคิดเห็น