คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : เพื่อนมา!!!!
“คุณบูรพาปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ ฉันบอกให้ปล่อยไงเล่...” เสียงที่หายลงไปในลำคอถูกปิดด้วยปากของเจ้าของอ้อมกอดนั้น รรินทร์ดูจะงงกับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วนั้นพอเธอเริ่มรู้สึกตัวปากบางก็ปิดกั้นการรุกรานของอีกฝ่ายทันที บูรพาดูจะไม่ยอมแพ้ต่อการกระทำของอีกฝ่ายเขายังคงใช้สัญชาติญาณดิบของเขารุกรานอีกฝ่ายจนได้ ความหวานที่เขาได้รับจากเสียงประท้วงใสๆเมื่อครู่นั้นทำให้เรารู้สึกมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก รรินทร์ได้แต่ทุบอีกฝ่ายเป็นการตอบแทนเท่านั้น ตอนนี้ร่างกายของเธอดูจะเริ่มหมดเรี่ยวแรงลงทุกที ความที่เธอยังไม่เคยได้ใกล้ชิดกับผู้ชายคนไหนมาก่อนทำให้เธอไม่รู้เลยว่าเธอต้องทำตัวยังไงในสถานการณ์แบบนี้ มือบางเริ่มหยิกทึ้งอีกฝ่ายเท่าที่แรงกายของตัวเองมี บูรพาไม่สนใจกับการต่อต้านของอีกฝ่าย มือของเขาเริ่มทำงาน เสื้อคลุมอาบน้ำที่ตอนนี้เผยเห็นหัวไหล่เนียนนั้นยิ่งทำให้เขารู้สึกอยากจะสัมผัสเธอมากขึ้นมากกว่า สายรัดที่อยู่ตรงเอวคอดนั้นถูกดึงออกมาอย่างไม่ไยดี
รรินทร์เริ่มมีแรงสู้ขึ้นอีกครั้งเมื่อรู้ถึงการกระทำของอีกฝ่าย หญิงสาวพยายามที่จะขืนตัวเองออกจากวงแขนที่ยังรัดตัวเธอแน่นอยู่ ปากบางที่ส่งเสียงอู้อี้อยู่ในลำคอบอกให้รู้ว่าเธอขัดขืนมากขนาดไหน บูรพาได้แต่คิดว่าการกระทำทั้งหมดของหญิงสาวเป็นเพียงมารยาอย่างหนึ่งเท่านั้น เพราะจากข้อมูลที่เขาให้นักสืบไปสืบมานั้น รดา ภมรยุรวงศ์เป็นผู้หญิงที่เรียกได้ว่านอนกับผู้ชายทุกคนที่คนๆนั้นเงินถึงพอ แล้วจะเป็นไรไปถ้าจะรวมเขาไปอีกสักคน
ริมฝีปากของชายหนุ่มถอนออกจากปากบางที่แดงเพราะฝีมือของเขา ก่อนที่จะอุ้มร่างบางที่ยังต่อสู้ไม่หยุดนั้นวางลงกับเตียงนอนแสนนุ่มแล้วกดร่างของตัวเองทับลงทันที รรินทร์เอ่ยปากประท้วงอีกรอบแต่ก็ถูกชายหนุ่มปิดปากด้วยริมฝีปากของเขา มือน้อยๆของเธอเริ่มทั้งทุบทั้งข่วน แต่ก็ถูกยึดไว้ด้วยมือหนาของอีกฝ่าย เนื้อตัวที่ตอนนี้เผยให้เห็นถึงสรีระภายในต่อชายหนุ่มที่อยู่บนร่างกายของเธอยิ่งทำให้รรินทร์อยากจะฆ่าผู้ชายคนนี้มากขึ้น ขาเรียวงานทั้งสองทั้งเตะทั้งถีบแต่ก็ดูจะไม่ได้ผล ใบหน้าของชายหนุ่มเริ่มไล้ลงมายังคองามตามมาถึงเนินอกอย่างชำนาญ สองมือที่หยุดการกระทำของหญิงสาวตรงหน้าเปลี่ยนมาสัมผัสเนินอกทั้งสองข้างอย่างเป็นเจ้าของ เนื้อตัวของหญิงสาวที่สั่นเหมือนลูกนกตกน้ำนั้นยิ่งเพิ่มความเป็นผู้ชายให้ชายหนุ่มมากยิ่งขึ้น เสื้อผ้าตัวนอกของชายหนุ่มถูกถอดออกอย่างง่ายดาย เนื้อตัวที่เปล่าเปลือยของคนสองคนสัมผัสกันอย่างแนบแน่นมากขึ้นกว่าเก่า
“ปล่อยฉันเถอะนะ คุณบูรพา” เสียงอ้อนวอนของหญิงสาวดูจะสร้างความเย้ยหยันในด้วงตาของเขาได้มากขึ้น
“อย่ามาทำเป็นไร้เดียงสารดา ผมรู้ว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกของคุณ ผู้ชายกี่คนแล้วที่นอนกับคุณ เพิ่มผมเข้าในนั้นด้วยคุณน่าจะดีใจนะ” เสียงเย้ยหยันของชายหนุ่มทำให้น้ำตาที่รื้นของหญิงสาวหยดลงมาทันที เขากำลังเข้าใจเธอผิด ถ้าเธอบอกเขาตอนนี้ว่าเธอไม่ใช่รดาแต่เป็นรรินทร์เขาจะเชื่อไหม?
บูรพาใช้สองมือของเขาสัมผัสร่างกายของหญิงสาวตรงหน้าอย่างเคียดแค้น น้ำหนักมือแต่ละครั้งที่สัมผัสทำให้รรินทร์รู้สึกเจ็บปวด เขาไม่มีความอ่อนโยนเลยซักนิด น้ำตาที่ไหลออกมาไม่หยุดไม่ได้ช่วยห็ชายหนุ่มตรงหน้าเบามือลงไม้แต่น้อย แต่ยิ่งเพิ่มความรุนแรงมากขึ้น ผู้หญิงคนนี้ทำให้น้องชายของเขาต้องเป็นเจ้าชายนิทรา ยิ่งเธอเจ็บปวดมากเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้เขามีความสุขมากขึ้นเท่านั้น!!!!!!!!!!!!!
รรินทร์รู้สึกถึงบางอย่างเข้าไปยังร่างกายของเธอ เธอส่ายหน้าไปมาเพราะความเจ็บปวดหญิงสาวได้แต่พร่ำขอร้องชายหนุ่มตรงหน้าแต่เขาก็ดูจะไม่สนใจเลยแม้แต่น้อย
บูรพารับรู้ถึงความเจ็บปวดของอีกฝ่าย และรู้ถึงความจริงที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ นี่เป็นครั้งแรกของหญิงสาวคนนี้!!!! เขารู้สึกสับสนในตัวเองอย่างบอกไม่ถูก ในเมื่อข้อมูลที่เขาหามานั้น ผู้หญิงคนนี้เคยนอนกับผู้ชายมาแล้วไม่ต่ำกว่าสิบคน แต่ทำไมผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเขาถึงยัง...????
นิ้วมือที่ทำงานอยู่เมื่อครู่นี้ชะงักลงทันที ก่อนที่เขาลุกขึ้นเดินตรงเข้าไปยังห้องน้ำแล้วเปิดฟักบัวรดตั้งแต่หัวจนถึงเท้าหวังว่าความเย็นของน้ำจะดับไฟในร่างกายของเขาได้ รรินทร์ที่ยังคงอยู่บนเตียงรีบลุกขึ้นทันทีพร้อมกับจัดแจงเสื้อผ้าให้เร็วที่สุด เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้เธอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับชายหนุ่ม เขาถึงยอมปล่อยเธอให้เป็นอิสระ แต่สิ่งหนึ่งที่เธอรู้ก็คือ อย่าลองดีกับผู้ชายคนนี้อีก เพราะยังไง ผู้ชายก็คือผู้ชายอยู่วันยังค่ำ เสียงน้ำในห้องน้ำเงียบลงตามมาด้วยเสียงเปิดประตูของชายหนุ่ม ผมที่เปียกลู่พร้อมกับหน้าตาที่ยังคงไว้กับคำว่ากระดาษนั้นเดินออกมาโดยนุ่งผ้าขนหนูผืนเล็กเพียงผืนเดียว รรินทร์ที่ยืนอยู่ข้างเตียงอีกด้านหนึ่งรีบหันหน้าไปมองอีกทาง แม้ว่าเมื่อกี้เธอกับเขาจะแนบชิดกันแค่ไหนแต่มันก็ไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกชินกับการที่มีชายหนุ่มแต่งตัวเกือบเปลือยต่อหน้า น้ำตาที่เหือดแห้งไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้นั้นทำให้หญิงสาวรู้สึกว่าใบหน้าเริ่มตึงๆจากการร้องไห้อย่างหนักเมื่อครู่
บูรพายืนมองผู้หญิงที่อยู่ข้างเตียงอีกฟากด้วยใจที่ไม่เป็นปกติมากนัก แม้ว่าเขาจะพยายามทำสีหน้าเรียบเฉยแต่คงมีแต่เขาคนเดียวที่รู้ว่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้นในใจของเขา ชายหนุ่มละจากร่างบางนั้นหันไปหยิบเสื้อผ้าของตัวเองออกจากคู้เสื้อผ้าอีกใบแล้วตรงไปยังประตูห้องนอนโดยไม่หันกลับมามองร่างบางนั้นอีก
เสียงปิดประตูเบาๆ ทำให้รรินทร์ถอนหายใจอย่างโล่งอก นี่ถือว่าเป็นโชคดีของเธอจริงๆที่เขาถอนตัวกลางคันแบบนั้น ต่อไปนี้หญิงสาวคิดว่าจะต้องล็อกประตูทุกครั้งเวลายู่ในห้องนอนคนเดียว เมื่อคิดได้เธอก็รีบวิ่งตรงไปยังประตูห้องนอนทันทีและจัดการล็อกมันซะ ตามมาด้วยการทิ้งตัวนอนอย่างหมดแรง ในหัวของเธอคิดแต่เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้ กว่าเธอจะหลับได้ก็รุ่งเช้าของอีกวัน...
เช้าวันนี้เป็นวันที่รรินทร์ไม่อยากตื่นมากที่สุด เพราะเธอไม่อยากจะไปเจอหน้าชายหนุ่มหน้ากระดาษน่ะสิ คิดแล้วก็หนักใจ ก่อนที่จะลากขาตัวเองที่นอนไม่พอนั้นตรงไปยังห้องน้ำ เพื่อทำงานในฐานะที่ถูกเรียกเมื่อวานว่าคนใช้ต่อไป
วันนี้ทั้งวันรรินทร์ไม่เห็นแม้แต่เงาของบุรุษที่จับเธอมาที่นี่ หญิงสาวเลยรู้สึกดีใจมากกว่าวันก่อนๆเพราะเธอก็ไม่สามารถที่จะสู้หน้าอีกฝ่ายได้เช่นกัน เสียงกริ๊งจากในตัวบ้านดังขึ้น รรินทร์ละมือจากเสื้อผ้าที่เธอตากไว้เมื่อเช้านี้แล้วเดินเข้าไปในบ้านเพื่อดูว่าใครเป็นคนกดกริ๊งหน้าบ้าน จะว่าเป็นชายหนุ่มตานิลก็ไม่น่าใช่เพราะชายหนุ่มคนนั้นมีกุญแจสำรองจะเข้ามาเมื่อไหร่ก็เข้าได้ หญิงสาวเอื้อมมือไปบิดลูกบิดนั้น เบื้องหน้าของเธอเผยให้เห็นถึงหญิงสาวผมบ็อบหน้าตาจิ้มลิ้มตามประสาลูกคนจีน ดวงตาเรียวเล็กมองมายังเธอด้วยความแปลกใจก่อนที่ส่งยิ้มมาให้เธอ รรินทร์รู้สึกคุ้นหน้าผู้หญิงตรงหน้านี้มาก จนกระทั่งเสียงเล็กๆที่เรียกชื่อเธออย่างดีใจของแขกผู้มากดกริ๊งทักขึ้นก็ทำให้เธอจำได้
“เจน!!!!” รรินทร์เข้าไปสวมกอดเพื่อนสาวสมัยเรียนมัธยมทันที ซึ่งอีกฝ่ายก็กอดตอบเธออย่างดีใจเช่นกัน
“เธอมาทำอะไรอยู่ที่นี่?รรินทร์” เจนหรือเจนิสาถามขึ้นอย่างแปลกใจหลังจากที่คลายอ้อมกอดแห่งความดีใจนั้น
“ฉัน...เข้าบ้านก่อนดีกว่านะ” รรินทร์พูดตัดบททันที ก่อนที่จะเดินนำเพื่อนสาวเข้าไปยังบ้านไม้ หญิงสาวเดินไปเทน้ำเปล่าใส่แก้วแล้วเดินกลับมาวางไว้ที่โต๊ะกลางของห้องรับแขกพลางนั่งลงเพื่อนสนทนากับเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันมานาน
“ไม่นึกเลยนะว่าจะได้เจอเธอที่นี่ ฉันเพิ่งกลับจากอังกฤษเมื่อสามวันที่ผ่านมานี้เอง ว่าจะโทรหาเธออยู่ แต่ก็ไม่มีเวลา เพราะเตี่ยมัวแต่ให้ฉันเดินทางไปพบปะญาติๆของแก” เจนิสาพูดอย่างคนช่างพูด รรินทร์มองเพื่อนของเธอที่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นหญิงสาวหน้าตาน่ารักคนนี้อย่างดีใจ
“ตกลงว่าเธอมาทำอะไรอยู่ที่นี่ล่ะ?” เจนิสาถามขึ้น
รรินทร์ได้แต่ทำสีหน้าลำบากใจ เธอไม่รู้ว่าจะเล่าให้เพื่อนของเธอฟังดีไหม แต่เมื่อชั่งใจเธอก็ตัดสินใจที่จะเล่าให้เพื่อนของเธอฟัง เพราะเจนิสาเป็นเพื่อนที่เรียกได้ว่าสนิทกับเธอที่สุด แม้ว่าเธอทั้งสองจะไปเรียนต่อต่างประเทศคนละที่แต่ก็ยังติดต่อกันอยู่ไม่ขาด เมื่อรรินทร์ตัดสินใจได้หญิงสาวก็เล่าให้เพื่อนของเธอฟังทันที ใบหน้าที่แสดงความตกใจของเพื่อนหลังจากที่เธอเล่าให้ฟังอย่างคร่าวสำหรับความเป็นไปเป็นมานั้นทำให้รรินทร์รีบพูดตัดบทขึ้นว่า
“แต่เขาก็ไม่ได้ทำร้ายอะไรฉันหรอกนะ” เสียงแก้ตัวอ่อยๆของเธอพูดขึ้น รรินทร์เล่าทุกเรื่องก็จริงว่าเธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงแล้วเขาให้เธอทำอะไรบ้างแต่เธอก็ไม่ได้เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้
“ฉันอยากจะบ้าตาย” เจนิสาพูดพลางล้มตัวไปพิงกับโซฟารับแขกนั้นอย่างหมดแรง
“โธ่! เจน ก็ฉันนึกได้ทางออกนี้ทางเดียว แล้วเธอคิดหรอว่าถ้าฉันบอกให้เขารู้ว่าฉันเป็นรรินทร์ไม่ใช่พี่รดาเขาจะยอมปล่อยฉันไปน่ะ อย่างน้อยๆเขาก็ต้องฆ่าฉันล่ะเพราะว่าฉันรู้แผนการของเขา สู้ให้เขาเข้าใจผิดคิดว่าฉันเป็นพี่รดาดีกว่า เรื่องทุกอย่างจะได้จบลงด้วยดี”
เจนิสาลุกเงยหน้าขึ้นอย่างหมดแรงพลางกับมองเพื่อนสาวสวยคนนี้ด้วยความเป็นห่วง
“เธอพูดมันก็ถูก แต่อีกนานไหมล่ะที่พี่ณุจะปล่อยเธอไปน่ะ แล้วฉันก็กล้ารับประกันหรอกนะว่าความจะไม่แตก เพราะเธอกับรดานิสัยแตกต่างกันแบบนี้ พี่ณุนี่ก็ฉลาดแต่เรื่องธุรกิจไม่ฉลาดเรื่องการวิเคราะห์คนเล้ย” เสียงหมดอย่างหมั่นไส้ของเจนทำให้รรินทร์ยิ้มออกมาครั้งแรกของวันนี้
“แล้วตกลงเธอรู้จักกับคุณบูรพาด้วยหรอ?” รรินทร์ถามขึ้นบ้าง
เจนิสายกแก้วน้ำขึ้นมาดื่มก่อนที่จะตอบเพื่อนของเธอว่า
“รู้จักสิ เพราะว่าเตี่ยฉันกับพ่อของพี่ณุเป็นเพื่อนกัน วันนี้ฉันก็ตั้งใจจะมาเซอร์ไพร์เขาเหมือนกันเพราะเตี่ยบอกว่าพี่ณุมาอยู่ที่นี่ตั้งแต่อาทิตย์ก่อนแล้ว กลับกลายเป็นว่าฉันเป็นฝ่ายถูกเขาเซอร์ไพร์ซะเอง เฮ้อ!!! แล้วตกลงเธอจะทำยังไงต่อ จะอยู่แบบนี้ไปอีกนานเท่าไหร่? พี่ณุเป็นผู้ชายนะเกิดวันดีคืนดีเขามาทำร้ายเธอเข้าจะทำยังไง?”
คำพูดของเพื่อนสาวนี่แหละที่ทำให้เธอคิดหนัก รรินทร์ได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ แต่ยังไม่ทันที่เธอจะตอบอะไรประตูหน้าบ้านก็เปิดออกพร้อมกับผู้มาใหม่สองคน
“เจน!!!!” เสียงของชายหนุ่มตานิลพูดขึ้นอย่างแปลกใจที่เห็นผู้หญิงที่เขารักเหมือนน้องสาวอยู่ในบ้านไม้ของเขา หญิงสาวอีกคนที่ยืนเกาะแขนเขาราวกับเป็นเจ้าของนั้นมองหน้าหญิงสาวที่ชื่อเจนอย่างเหยียดๆ พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงไม่เป็นมิตรว่า
“ไม่เจอกันนานนะเจน” แม้จะเป็นประโยคธรรมดาของหญิงสาวผมทอง แต่ก็ทำให้เจนิสาหน้าง้ำลงเล็กน้อยก่อนที่จะปรับสีหน้ายกมือไหว้ผู้สูงวัยกว่าอย่างนอบน้อมพร้อมกับเดินเข้าไปแทรกกลางระหว่างหญิงสาวที่ทำท่าเป็นเจ้าของกับชายหนุ่มตานิลด้วยสีหน้าเรียบเฉย พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อนตามประสาเธอว่า
“ไม่เจอกันนานเลยนะคะพี่ณุ ดูสิ...ยังมีแม่ปลิงยักษ์มาเกาะติดเหมือนเคย” แม่ปลิงยักษ์ถึงกับโกรธจนตาแทบจะถลนออกมาจากเบ้า รรินทร์มองเหตุการณ์ตรงหน้าก็อดยิ้มไม่ได้ แม้ว่าจะไม่กล้าเงยหน้ามองชายหนุ่มที่อยู่ตรงนั้นคนเดียวเลยก็ตาม เมื่อแม่ปลิงยักษ์ลงกับใครไม่ได้ก็ลงกับคนยิ้มนั่นแหละ
“ยิ้มอะไร? ไม่มีงานอะไรจะทำหรอไง” เป็นคนใช้ก็อยู่ส่วนคนใช้สิ ไปซิ” เสียงแวดของแม่ปลิงยักษ์ไม่ได้ทำให้สาวใช้ประจำบ้านไม้กลัวเลยแม้แต่น้อย รรินทร์ได้แต่พยักหน้าพลางลิ่วตาเล็กน้อยให้เพื่อนสาวของเธอเห็น ก่อนที่จะเดินไปหลังบ้านเพื่อเก็บเสื้อผ้าที่เหลือไว้ต่อไป
“พี่ณุไปไหนมาคะ?” เสียงออดอ้อนของเจนิสาดังพลางลากผู้สูงวัยกว่านั่งลงตรงโซฟารับแขก ลิซ่าเห็นอย่างนั้นก็รีบไปนั่งที่นั่งอีกข้างของชายหนุ่มพร้อมพูดขึ้นว่า
“ก็ไปกับฉันน่ะซิ เมื่อคืนนี้บีบี้อยู่กับฉันทั้งคืน”
เจนิสาได้แต่แบะปากเล็กน้อยก่อนที่จะยิ้มกริ่มออกมา
“งั้นหรอคะ? แต่ฉันจำได้ว่าฉันถามพี่ณุไม่ได้ถามแม่ปลิงยักษ์อย่างเธอ” เสียงโต้ตอบอย่างดุเด็ดเผ็ดมันของหญิงสาวหน้าจีนคนนี้ทำให้แม่ปลิงยักษ์หน้าขึงขึ้นทันที เจนิสาไม่สนใจกับสีหน้าของอีกฝ่ายยังคงพูดกับชายหนุ่มคนเดิมว่า
“แล้ววันนี้พี่ณุจะไปไหนหรือเปล่าคะ? เตี่ยบอกให้เจนมาชวนพี่ณุไปทานอาหารเย็นด้วยกันวันนี้”
“ได้ซิ”
“ฉันไปด้วย” เสียงสอดแทรกของหญิงสาวอีกคนพูดขึ้น
“ขอโทษนะ” เจนิสาพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ “เตี่ยชวนพี่ณุไม่ได้ชวนเธอ เพราะฉะนั้นไม่จำเป็นต้องเสนอตัว”
ลิซ่าแทบอยากกรี๊ดและเข้าไปตบหญิงสาวหน้าหมวยคนนั้น แต่ก็กลัวว่าชายหนุ่มที่นั่งข้างๆจะไม่พอใจเธอจึงได้แต่เก็บงำความไม่พอใจนั้น และหันไปขอความช่วยเหลือจากชายหนุ่มแทน
“บีบี้คะ...ให้ลิซ่าไปด้วยนะ เย็นนี้ลิซ่าก็ต้องอยู่คนเดียวน่ะซิ ถ้าบีบี้ไปแล้วลิซ่าละคะ” เสียงอ้อนของหญิงสาวผมทองทำให้เขาทำสีหน้าไม่ถูก
“เธอก็อยู่คนเดียวมานานแล้วไม่ใช่หรอลิซ่า? ตอนที่เธออยู่อังกฤษเธอก็อยู่ได้โดยไม่มีพี่ณุนี่” เสียงเสียดสีดังขึ้นอีกรอบ ก่อนที่จะปิดสงครามทะเลาะวิวาทบูรพาจึงพูดตัดบทว่า
“ผมคิดว่าคุณกลับไปทานอาหารที่โรงแรมก็ได้ พ่อเลี้ยงเชิญผมไปถ้าผมพาคุณไปด้วยจะน่าเกลียด”
รอยยิ้มอย่างผู้ชนะของสาวหน้าจีนทำให้ลิซ่าได้แต่เดินกระทืบเท้าหายเข้าไปยังหลังบ้าน
“กลับมานานแล้วหรอ?” บูรพาเอ่ยถาม
“สามวันแล้วค่ะ เอ่อ...พี่ณุคะ” น้ำเสียงกล้าๆกลัวๆของอีกฝ่ายทำให้ชายหนุ่มตาสีดำนิลขมวดคิ้วดกเข้มนั้นอย่างสงสัย
“ผู้หญิงที่อยู่ในบ้านนี้เป็นใครหรอคะ?” แม้จะรู้ในใจอยู่แล้วว่าตัวเองถามถึงใครแต่ก็ต้องแกล้งทำเป็นไม่รู้เพราะเพื่อนสาวแสนสวยของเธอขอร้องเอาไว้ อีกอย่างเธอเองก็อยากรู้ว่าชายหนุ่มตรงหน้าจะตอบว่าอย่างไร
สีหน้าเรียบเฉยของอีกฝ่ายทำให้สาวน้อยข้างกายรู้ได้ทันทีว่าอีกฝ่ายเก็บอารมณ์ขนาดไหน
“เขาเป็นคนใช้คนใหม่ของพี่” ชายหนุ่มตอบแค่นั้นแล้วไม่พูดอะไรอีก เจนิสาอยากจะถามอีกหลายคำถามแต่ก็ต้องชะงักลงเมื่อได้ยินเสียงโวยวายมาจากหลังบ้าน ทั้งสองหนุ่มสาวต่างลุกจากโซฟารับแขกที่นั่งอยู่ทันที และเดินตรงไปยังที่มาของเสียง
**************************
ความคิดเห็น