ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    戦争...Sensō [รับสมัครตัวละคร]

    ลำดับตอนที่ #6 : บทที่สาม || เผชิญหน้า 1

    • อัปเดตล่าสุด 2 ต.ค. 59


    บทที่สาม

    เผชิญหน้า 1



     

    ณ โบสถ์ใหญ่ของคริสเตียนประเทศญี่ปุ่น

    โบสถ์คืออาคารศักดิ์สิทธิ์สร้างขึ้นเพื่อนมัสการพระเจ้าเป็นสถานที่ซึ่งบรรดาสัตบุรุษรวมตัวกันปฏิบัติคารวะกิจสาธารณะหรือก็คือ บ้านของพระเจ้า ถึงแม้บ้านนี้จะเปลี่ยนแปลงตามกาลเวลาแล้วก็ตาม ทั้งลานหน้าโบสถ์ที่ดูสงบเงียบไร้เสียงผู้คนเข้าออก ทั้งหอระฆังเก่าสีทองที่กำลังส่งสียงสัญญาพิธีเริ่มก้องกังวานไปทั่วพื้นที่อยู่ ณ ตอนนี้แต่ก็ไม่มีผู้ใครมาเข้าร่วมพิธี ยกเว้นเด็กหญิงที่ตอนนี้กำลังนั่งร้องเพลงพร้อมกับน้ำตาที่กำลังไหลออกจากดวงตาสีน้ำตาลนั้น

    ...* จงอย่าได้กลัวเลย เราอยู่กับเจ้าทุกเวลา

    ป้องกันอันตราย มะ .. แม้ในคืนที่มืดมิด

    ข้าจะ .. อะ ฮึก .. ไม่กลัว .. สิ่งใด แม้ว่า .. อึก ..จะหนาวร้อนเพียงใด

    มี .. พระองค์ข้าง .. กาย ข้าฯ .. อึก .. จะไม่กลัวสิ่งใด ....  บทเพลงที่มีชื่อว่า จงอย่าได้กลัวเลย ด้วยเสียงเพลงนี้จะไพเราะขึ้นถ้าหากไม่มีเสียงสะอึกสะอื้นของเธอระหว่างร้องเพลง เธอร้องต่อไปจนกระทั่งจบเพลงด้วยเสียงร้องที่ยากลำบาก

    “ .. พระผู้เป็นเจ้า .. ณ เวลานี้ .. อึก .. ลูกควรทำอย่างไรดี .. ฮืออ “ ในตอนนี้เด็กหญิงร้องไห้โฮออกมาอย่างอดกลั้นไว้ไม่อยู่อีกต่อไป เด็กหญิงไม่สังเกตตัวเธอเลยว่า มีคนเข้ามาในโบสถ์ตั่งแต่เธอร้องเพลงนั้นออกมา

    “  ฮืออ.. “ เด็กหญิงยังคงไม่รู้ตัวได้แต่ก้มหน้าร้องไห้ต่อไปราวกับว่าเธอได้ทำความผิดบาปมหันต์ออกไป และไม่มีทางที่จะแก้ไขมันได้ด้วยตัวเอง

                            ตึ๋ง ตึง ตึ๊ง ตึ่ง ตึง (เสียงเปียโน)

    จู่ๆ เสียงเปียโนโบราณในโบสถ์ก็ถูกบรรเลงขึ้นทำให้เด็กหญิงหยุดร้องไห้แล้วหันไปมองที่เปียโนตัวเก่าที่ตอนนี้มีบุคคลปริศนามานั่งอยู่โดยที่เธอเองก็ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่า เขามาตั้งแต่ตอนไหน เสียงเปียโนยังคงบรรเลงต่อไปจนกระทั้งจบเพลงบุคคลคนนั้นก็ลุกจากเปียโนแล้วหันมามองที่เพียงแค่เด็กสาวสบตาและด้วยรูปร่างหน้าตาของบุคคลปริศนาก็ทำให้เธอรู้สึกถึงคำว่า เทพเทวา.. ผิวสีขาวบริสุทธิ์ที่ไร้มลทิน ดวงตาที่จ้องมองมายังเธอทั้งคมกริบทะลุมายังใจของเธอ

    “ อะ .. เอ่อ .. คะ คือว่า .. ”

    “ เธอนะ.. เคารพรักพระเจ้าจากใจจริงหรือเปล่า? “ บุคคลรูปงามถามเธอด้วยน้ำเสียงที่สุขุมและเรียบง่ายแต่แอบแฝงไปด้วยสิ่งที่เธอเองก็ไม่รู้ว่าคืออะไร..

    “ .. นะ หนู .. เคารพรักและเทิดทูนพระเจ้า .. จากใจจริงแต่ว่า... ” เด็กหญิงก่อนพูดประโยคก็เริ่มมีท่าทีจะร้องไห้อีกครั้งและเธอก็พูดต่อด้วยเสียงที่สั่นเครือ

    “ .. หนู ... ฮือ .. มันไม่สะอาดพอที่จะเคารพหรือเทิดทูนท่านได้อีกต่อไปแล้ว! “ เธอปล่อยเสียงโฮออกมาอีกครั้งก่อนจะได้ยินเสียงหญิงสาวอีกคนพูดขึ้นมา

    “ แน่ใจเหรอ.. ” เด็กหญิงรีบไปหาตินเสียงแล้วพบกับหญิงสาวที่รูปร่างเหมือนเด็กสาวร่างเล็ก ดวงตากลมโตสีฟ้าใสแจ๋วประดับขนตางอนยาวโดดเด่น เรือนผมสีเงินแปลกตาและยิ่งเธอสวมใส่เสื้อผ้าสไตล์โกธิค ยิ่งทำให้เธอราวกับเป็นเทพธิดาที่อยู่คู่กับเทพเทวา

    “ ... นะ หนู “ เด็กหญิงได้แต่เพียงก้มหน้าและกระอื้นอยู่เช่นนั้น

     

                หมับ..

     

    หญิงสาวเอื้อมมือที่แสนอ่อนโยนและนุ่มนิ่มมาลูบหัวเด็กหญิงอย่างเบามือ

                                      .... อบอุ่นจัง ....

    “ ไม่ต้องกลัว.. ไม่ว่าหนูจะไปทำความผิดพลาดอะไรมาก็ตาม พระเจ้าท่านจะทรงให้อภัยอย่างแน่นอน.. ” นอกจากรูปร่างหน้าตาแล้วน้ำเสียงยังอ่อนหวาน ทำให้เด็กหญิงที่ก้มหน้าอยู่นั้นเงยขึ้นมาพร้อมกับดวงตาที่เต็มไปด้วยความหวังที่จะได้รับโอกาสใหม่อีกครั้ง

    “ จะ จริงเหรอค่ะ? พะ.. พี่สาวเทพธิดา ” หญิงสาวเทพธิดาได้หัวเราะออกมาเล็กน้อยด้วยความน่ารักของเด็กหญิง

    “ หึหึ จริงสิจ้ะ ” เด็กหญิงพอได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกว่าเธอมีกำลังใจอีกครั้ง เธอก้มโค้งแสดงความปิติยินดีใจเป็นอย่างมากที่ได้เจอพี่ชายเทพเทวาและพี่สาวเทพธิดา แถมพวกเขายังสอนเธอถึงความเมตตาของพระเจ้าอีกด้วย

    “ ขอบคุณพี่ๆมากเลยนะคะ .. ต่อไปหนูจะไม่กลัวอีกต่อไปแล้ว “ เด็กหญิงโค้งให้อีกครั้งก่อนจะวิ่งออกนอกโบสถ์ไปด้วยความดีใจจนลืมเรื่องที่เธอกำลังทุกข์ใจไปจนหมด ในโบสถ์จึงเหลือไว้เพียงแค่ เทพธิดาและเทพเทวาทั้งสองต่างหันมามองหน้ากันก็จะยิ้มให้กัน

    “ ประเทศนี้ยังมีคนที่เคารพรักพระเจ้าอยู่สินะ .. ชั่งเป็นเด็กที่น่ารักอะไรแบบนี้ คิดเหมือนกันไหมจ้ะ ฮาโล? “ เทพธิดาได้พูดกับเทพเทวาที่มีชื่อว่า ฮาโล อย่างสนิทสนม

    “ ..ครับ พี่โซฮาร์ ” โซฮาร์ได้ยินแบบนั้นก็แอบยิ้มดีใจที่น้องชายของเธอก็คิดแบบเดียวกัน

    “ ไว้เธอโตกว่านี้แล้วฉันจะเอาเธอมาเข้าร่วมกับฉันนะ สาวน้อย.. ” ฮาโลมองโซฮาร์โดยสายตาที่ราวกับว่ารู้กันดีถึงความหมายของพี่สาว

     

    พึ! 

     

    จู่ๆก็มีคนชุดขาวราวนักบวชก็ได้ปรากฏตัวอยู่ข้างหลังของทั้งสองคน

    “ .. ได้ข่าวอะไรมาบ้าง? ” โซฮาร์พูดด้วยน้ำเสียงที่ดูหน้าเกรงขามมากขึ้น

    “ .. ตอนนี้เรารู้ถึงการเคลื่อนไหวของเด็กทั้งหกแล้วตอนนี้กำลังรวบรวมพวกที่เหลืออยู่ซึ่งนำทีมโดย ไฟ และตามมาด้วย ดิน แสงสว่างอีก 3 คน “

    “ ส่วนเรื่องข่าวของทางต่อต้านเรายังไม่ได้รับรายงานแน่ชัดแต่มั่นใจได้ว่าพวกมันเองก็เริ่มค้นหาเด็กที่เหลืออยู่เช่นเดียวกับพวกเราครับ.. ”

    “ มีแค่ใช่ไหม? .. งั้นไปได้ ” สิ้นเสียงของโซฮาร์คนชุดขาวก็หายไปอย่างรวดเร็วเกินที่สายตาคนธรรมดาจะมองเห็นได้ทัน และทั้งสองก็ยังคงอยู่ในโบสถ์สักพัก

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    “ จะเอายังไงต่อครับพี่? ” ฮาโลเอ่ยพูดทำลายความเงียบเพราะด้วยข่าวที่ว่ามาจากกลุ่มคนภายในทำให้เขาคิดมากพอสมควร

    “ ไม่ต้องรีบจะดีที่สุดล่ะ ” โซฮาร์ได้แต่ตอบแบบนั้นก่อนจะนั่งเงียบไปอีกครั้งเพื่อจะทำพิธีเคารพพระเจ้าให้เสร็จสิ้น

     

     

    อีกด้านของฝั่งเด็กทั้งสี่คน

     


    เห้ย! ไนท์นายแน่ใจนะว่าจับสัมผัสมาถูกที่นะ!! “ เชเต้พูดออกมาด้วยความอารมณ์อย่างที่สุดจะเป็นเพราะอะไรล่ะ!! ... ก็เจ้าไนท์เล่นพาเธอมาหาเด็กธาตุลมถึงตีนเขาแถมยังบอกอีกว่า เด็กธาตุลมอาจจะอยู่บนเขาก็เป็นไป .... - -* มันจะเป็นไปได้ไงวะ ตาบ้ารูปปั้นไนท์

              “ ..อืม.. “ ให้ตายสิแล้วทำไมฉันต้องมากับมันแค่ 2 คนด้วยล่ะเนี่ย!? ... เชเต้หลังจากที่บ่นกับตัวเองเสร็จก็หันไปมองรูปปั้นไนท์? ที่ตอนนี้กำลังมองหาทางขึ้นไปบนเขา... ถ้าจะบ้าก็ของให้น้อยๆหน่อยเถอะ

     


    ....... เฮ่อ~ พอหมอนี่อยู่ใกล้ป่าทีไรก็เป็นแบบนี้ซะทุกที่ ตาเป็นประกายดีใจซะขนาดนั้น ......

     


                เชเต้มองซ้ายขวารอบๆตัวของเธอก่อนสายตาจะสะดุดกับร้านขายผลไม้ที่สดและน่ากิน แถมยังร้านยังมีป้ายบอกอีกว่ามีน้ำดื่มขายเชเต้จับแขนไนท์ก่อนจะลากไปที่ร้านผลไม้ร้านที่ต้องตาทันทีโดยไม่ถามไนท์ผู้โดนลากซักคำ

                “ ว้าววววววว~~ ... ผลไม้น่ากินสุดไปเลย “ เชเต้ปล่อยมือออกจากแขนของไนท์ทันทีที่ถึงร้านเป้าหมายไนท์ถอนหายใจแรงจนเชเต้ต้องหันมาตีแขนจนไนท์รู้สึกว่า ทำไมคนอย่างเขาต้องมากับยัยนี้ด้วย.. ถึงจะเป็นพี่เราปี 1 ก็เถอะ

                “ เอ่ออ.. คือว่ามีใครอยู่ร้านไหมค่ะ? “

              .

              .

              .

                “ .. มะ มาแล้วค่ะ ขอโทษนะคะที่ทำให้รอนาน พอดีว่าหนูไปเก็บของหลังร้านมานะคะ ... “  เด็กสาวหน้าละอ่อน ผิวสีไข่มุกขาวออกแนวไม่แห้งแต่ดูชุ่มชื้นและสีตาสีส้มน้ำตาลที่เข้ากับสีผมน้ำตาลออกเข้มนั้นก็เข้ากันได้อย่างดี แถมยังเสียงที่เหมือนจะห้าวแต่กลับอ่อนหวาน ทำให้ไนท์ที่หันไปตามเสียงต้องชะงักไป

                “ ไม่เป็นไรค่ะ พี่ขอแอปเปิ้ล 5 ลูกกับน้ำเปล่า 2 ขวดจ้ะ ” เชเต้ที่ตอนแรกก็ตะลึงกับหน้าตาของแม่ค้าหน้าละอ่อนแต่ก็ต้องรีบลืมมันไปก่อนจะสั่งสิ่งที่ตนอยากซื้อ

                “ ได้ค่ะ รอสักครู่นะคะ.. “ เพียงเวลาไม่นานเด็กสาวผู้ขายก็เอาของใส่ถูกให้กับเชเต้เรียบร้อย

                “ นี้ค่ะ ... ไม่ทราบว่าคุณลูกค้าต้องการดอกไม้สักช่อหรือสักดอกไหมค่ะ? พอดีทางร้านกำลังเพิ่มสินค้าขายนะคะ สนใจไหมค่ะ?” ไม่รู้ว่าด้วยเหตุผลอะไรทำให้เชเต้ที่กำลังปฏิเสธในตอนแรกกลับหยุดคำพูดไปก่อนจะโดนไนท์ที่ยืนนิ่งอยู่สวนเสียงตอบแทน

                “ ..ขอสักดอกก็ดีครับ “ ไนท์ที่พูดเบาอยู่ก็พูดเบาลงไปอีกแต่มันก็ดังพอที่เด็กสาวแม่ค้าจะเข้าใจ เธอเดินไปเลือกดอกไม้อยู่สักพักก่อนจะกลับมาหน้าร้านแล้วยื่นดอกไม้ลักษณะสีขาว ออกฟ้าอ่อนๆ ดอกไม้ไม่ใหญ่หรือเล็กมากจนเกินไปและดอกไม้ยังมีความน่าหลงใหลอย่างประหลาดไนท์สงสัยว่ามันคือดอกอะไร.. ถึงเขาจะชอบป่ามากก็ตาม แต่เรื่องดอกไม้เนี่ยเขาไม่รู้จริงๆ

                “ มันคือ ดอกไฮเดรนเยีย หวังว่าคุณคงจะรู้ความหมายนะคะ ... ถ้าหากคุณไม่รู้ความหมายของมันจริงๆก็ขอให้เปิดกระดาษแผนนี้หลังจากออกจากร้านนี้ไปนะคะ.. ^ ^ “ เด็กสาวยื่นกระดาษโน้ตให้กับไนท์ก่อนจะยื่นดอกไม้อีกดอกให้แก่เชเต้ที่กำลังอ้าปากกินแอปเปิ้ลอย่างเอร็ดอร่อย ดอกไม้ที่ให้เชเต้นั้นมีลักษณะเป็นดอกไม้สีส้ม แต่แอบกลิ่นหอมหวนเล็กน้อยไม่แรงจนเกินไป

    “ นี้คือ ดอกลิลลี่สีส้มค่ะ ความหมายอยู่ในกระดาษนะคะ ” เธอส่งกระดาษอีกแผ่นให้เชเต้

    “ เอ่ออ.. ขอบใจมากนะ ทั้งหมดเท่าไหร่เหรอจ้ะ? “

    “ ไม่เป็นไรค่ะ วันนี้เป็นวันเตรียมปิดปรับปรุงร้านเลยว่าจะให้ฟรีนะคะ ถือซะว่าเป็นการโปรโมทร้านนะคะ “

    “ มัน.. จะดีเหรอ? ”

    “ ค่ะ!

    “ ถ้ายังงั้นขอบใจมากนะ งั้นพวกฉันไปนะ ขอให้ร้านขายได้ดีๆนะจ้ะ.. ”

    “ ขอบคุณที่มาอุดหนุนค่ะ “

              .

              .

              .

              .

                  เชเต้กับไนท์ออกห่างจากร้านนั้นมามากพอที่จะไม่เห็นเงาดำของร้านแล้วทั้งคู่ก็มองดอกไม้ในมือของพวกเขาก่อนจะคลีกระดาษโน้ตออกข้อความข้างในทำเอาทั้งคู่หันหลังรีบวิ่งกลับไปที่ร้านแต่พอไปถึงก็สายไปเสียแล้วเด็กสาวได้หายไปพร้อมกับเจ้าของร้านที่พอพวกเขาถามถึงเด็กสาวก็เอาแต่พูดว่า ร้านฉันไม่ได้จ้างใครนะจ้ะหนู พวกเขาได้แต่รู้สึกแปลกๆ เหมือนเคยเจอที่ไหนแต่ก็นึกไม่ออกได้แต่เก็บมันไว้แล้วเดินทางต่อไปกับดอกไม้และกระดาษสองแผ่นที่เขียนไว้ว่า

    .

    .

    .

    ดอกไฮเดรนเยีย หมายถึง คำขอบคุณ

    ขอบคุณที่เข้าใจในตัวฉัน และยอมรับความเป็นฉันเสมอมานะ ... ไนท์

    ดินนะ ขาดน้ำกับลมไม่ได้หรอกนะ... จริงไหม รีบหาพวกเขาให้เจอนะ ^ ^ BY. MR

    .

    .

    .

    “ ดอกลิลลี่สีส้ม หมายถึง สดใส ความปิติสุขที่ได้อยู่ใกล้

    สุขใจที่ได้ใกล้เธอนะ เชเต้ ... ดีใจที่ได้เจอกันอีก

    ไฟนะไม่ถูกกับลมหรือน้ำหรอกนะ ... แต่ว่าอย่าท้อถอยนะ BY.MR

               

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×