ตอนนี้กำลังนั่งฟุบหน้าลงบนโต๊ะรอครูเข้ามาสอนคาบบ่ายอยู่ ในสมองมันได้แต่พยายามคิดว่าทำไมดอนถึงได้เริ่มรู้สึกตัว แล้วทำไมถึงรู้ว่าผมหลบหน้า ถึงจะผ่านมาหลายวันแล้วเรื่องที่ทำให้ผมรู้สึกคาใจคือเรื่องในห้องน้ำอะ แล้วไหนจะเมื่อวานที่ดอนบอกว่าผมไม่ได้ทำให้รู้สึกไม่พอใจอีก แสดงว่าผมไม่ได้ดูแปลกในสายตาดอนใช่ไหม?
‘สับสนอะไรของเราเนี่ย...’ ที่จริงคือกลัวว่าจะทำให้ดอนเกลียด มันมีทั้งข้อดีและขอเสีย ถ้าเขาเกลียดเขาจะไม่สนใจอะไรผมอีกแล้วใช่ไหมล่ะ เหมือนถ้าผมลืมกระเป๋าหรือลืมตังค์ทอนเขาก็จะไม่แคร์ อื้ม… อีกอย่างคือผมจะได้ไม่ต้องใจสั่นเวลาอยู่ใกล้เขา
แต่ข้อเสียคือ... คนที่เราแอบชอบเขาดันเกลียดเรานี่สิ ก็แอบเจ็บ ๆ ป่ะ ทั้ง ๆ ที่ตอนแรกเขาไม่รู้ก็ดีอยู่แล้วเชียว แต่ช่างเถอะ… ยังไงแล้วเมื่อวานคำพูดของคนตัวสูงมันก็ทำให้ผมรู้สึกแอบโล่งอก ที่เหลือคือเราเองต้องมีสติ ไม่ลุกลี้ลุกลนจนเกินไป ไม่ทำให้ตัวเองดูแปลก อื้ม!
เสียงสั่นจากโทรศัพท์ที่วางคว่ำหน้าอยู่ข้าง ๆ ดังขึ้น แสดงว่ามีการแจ้งเตือนเข้ามาใหม่ ผมจึงรีบเงยหน้าแล้วเลื่อนมือไปหยิบขึ้นมาดู
(Layer A ได้แสดงความคิดเห็นต่อโพสต์ของคุณ)
อ่านจบผมถึงกับรีบหันไปมองไอ้คนที่มันแสดงความคิดเห็นต่อโพสต์ผมทันที
“ใคร ๆ เขาก็แอบชอบนาย...” มันหันมาพูดล้อ ยัง… ยังไม่คิดที่จะจบจริง ๆ ใช่ไหมหา!!!
“เดี๋ยวเหอะ...” ผมทำหน้าขู่มัน
“ฮา ๆ ๆ ก็มันยังคาใจกูว่ะ แม่งใครวะกูอยากรู้ฉิบหาย…”
“พอเลยเลย์ กูบอกแล้วไม่มีอะไร…”
“สักวันดัซ… สักวันกูจะรู้ให้ได้ หึๆ”
“เออ… หันไปเล่นเกมต่อเลยมึงอะ” ก่อนหันไปยังมีทำหน้าเจ้าเล่ห์ ๆ ใส่ผมอีก น่าทุบจริง ๆ ไอ้นี่ จะว่าไปวันนี้วันศุกร์แล้ว ในที่สุดก็จะได้พักสักที…
‘พักบ้าอะไรล่ะ การบ้านเยอะกว่าเสื้อผ้าที่ใส่ในแต่ละวันอีก’
สักพักโทรศัพท์มันก็สั่นขึ้นอีกครั้ง แต่พอเห็นว่าเป็นการแจ้งเตือนจากใครผมยิ่งชะงักขึ้นไปอีก
(Until Dawn ได้อัปเดตสถานะของเขา)
มีเหรอที่ผมจะรอช้ารีบกดเข้าไปดูทันที หัวใจมันเต้นแรงแปลก ๆ จะโพสต์ด่าเรารึเปล่านะ แต่เอ๊ะ... เราสำคัญตัวเองเกินไปอีกล่ะ
อ่านจบถึงกับรีบวางโทรศัพท์ลงทันที
‘ยังไงเขาก็ต้องมีคนที่ชอบอยู่แล้วไหมดัซ...’ มันต้องแน่นอนอยู่แล้วที่ยังไงผมก็คงเป็นได้แค่คนที่แอบชอบอยู่ฝ่ายเดียว เหมือนอีกหลาย ๆ คนที่แอบชอบเขาก็คงเป็นแบบผม ที่ดอนโพสต์คงเป็นเพราะรู้ว่ามีคนแอบชอบดอนเยอะละมั้ง ถึงได้โพสต์ดักทางให้คนอื่นรู้ เอาง่าย ๆ ก็เหมือนโพสต์บอกให้ตระหนักว่าจุดที่คุณยืนคือจุดไหนแบบนี้ล่ะมั้ง
‘ใครจะไปรู้ว่าอยู่ดี ๆ จะแอบชอบนายล่ะไอ้บ้า!!!’ ฮือออ… คิดว่าเราแอบชอบใครคนหนึ่งง่ายขนาดนั้นเลยรึไงห๊ะ!? ทำไมอยู่ดี ๆ ต้องหงุดหงิดคนที่เขาไม่รู้จักเราด้วยวะ
“มึงจะทุบกูป่ะเนี่ยทำหน้าแบบนั้น…” ได้ยินผมจึงหันไปทำหน้าเหมือนอยากกระโดดกัดคอมัน
“วันนี้คุณดัซจะไม่ไปดูผู้ชายเล่นบอลเลยรึไงครับ...” เลย์มันเหมือนพูดล้อผมที่ตอนนี้กำลังเดินก้มหน้าอยู่ ที่จริงคือไม่ได้ดูมาหลายวันแล้วป่ะวะ
“ดูผู้ชายบ้านมึงสิ...” ผมด่ามันโดยไม่หันไปมอง ตอนนี้พวกผมกำลังเดินลงมาจากตึกเรียน ก็ว่าจะกลับบ้านเลยแหละ คงไม่กล้าไปสู้หน้าคนคนนั้นหรอก เขาโพสต์บอกขนาดนั้นแล้วก็คงต้องถอยไหมอะ
“เป็นอะไรของมึงวะ? ไหนบอกเพื่อนเลย์สุดหล่อมาสิ...” เลย์มันเดินมากอดคอจนผมต้องดันร่างมันออก แค่คบกันเป็นเพื่อน อยู่ด้วยกันสองคนเพื่อนในห้องก็ยุให้มันมาเป็นผัวผมอยู่ละ ยังจะมากอดคออีกนะ ไม่มีลงมีเรือระหว่างเราทั้งสอง จำ!
“แหม่... พอแอบชอบใครสักคนก็รังเกียจผัวหลวงคนนี้ของมึงเลยนะดัซ...”
“หุบปากเลยเลย์! หน้ากูดูเล่นด้วยรึไง?” ผมหันไปทำตาขวางใส่จนมันทำหน้าเบื่อโลก คนยิ่งเครียด ๆ เรื่องของใครสักคนอยู่ด้วยตอนนี้ เนี่ย… พอเอาเรื่องไม่เป็นเรื่องมาใส่ใจก็มันจะชอบเป็นแบบนี้อะ ต้องฟังธรรมไหมถึงจะโอเคขึ้น
แต่จะว่าไปแล้วผมไม่รู้ว่าตัวเองเป็นคนเดียวรึเปล่าที่พอเห็นเขายิ้มตัวเองก็พลางที่จะยิ้มไปด้วย มันเหมือนประโยคนี้เลย
‘Your smile is literally the cutest thing I have ever seen in my life.’
รอยยิ้มของคุณเป็นสิ่งที่น่ารักที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมา ยิ่งคิดยิ่งอนาถใจกับตัวเองอะ ชอบใครเขาก็จะดูดีไปหมด เครียดว่ะ… เครียดดดดด…
“มีอะไรก็บอกกูมาดิวะแม่ง ไหนบอกกูมาดิว่ามึงแอบชอบใคร? กูจะช่วยไปติดต่อให้ มันอยู่ในทีมฟุตบอลใช่ไหม? มอห้าถูกป่ะ?”
“มะ ไม่ได้นะเลย์!” ผมรีบเงยหน้าไปเบรกมันทันที ถ้าขืนทำแบบนั้นต้องฉิบหายกันหมดแน่ ๆ ตอนนี้ก็ยิ่งไม่ค่อยกล้าจะไปสู้หน้าเขาอยู่แล้ว ถ้าทำแบบนั้นเขาจะไม่เกลียดผมจนไม่แม้แต่จะเหลือบตามองเลยรึไง
“เฮ้อ… กูเข้าใจความรู้สึกของมึงเว้ย”
“…” เลย์มันถอนหายใจพร้อมกับหันไปมองข้างหน้า ยัดมือใส่ถุงกางเกงเดินเหมือนมันหล่อมาก ผมเองก็รอฟังอยู่ว่ามันจะพูดอะไร
“ตอนนี้กูก็แอบชอบใครคนหนึ่งอยู่ มันเป็นความลับว่ะ...”
“ถ้าบอกมันก็ไม่ใช่ความลับดิวะ...” มันหันมาบอกจนผมต้องทำหน้างง
“หล่อเอ๋อ ๆ แบบมึงเขาอาจจะชอบก็ได้นะเลย์ เดินหน้ารุกเลย...”
“เหมือนด่ากูเลย แต่มีคำว่าหล่อกูให้อภัย...”
“วันนี้ไม่ต้องซ้อมวอลเลย์ใช่ป่ะ?”
“กูว่ามึงดีขึ้นมากแล้ว… เอาแค่ให้เสิร์ฟข้ามก็พอ”
“อื้ม ๆ งั้นกลับบ้าน...” ผมเปลี่ยนเรื่อง เลย์มันก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ พวกผมพากันเดินออกมาจากรั้วโรงเรียน ในระหว่างทางเดินกลับผมก็เอาแต่คิดถึงเรื่องของดอน ทำไมวะดัซ!? มึงไม่ต้องไปคิดถึงเรื่องของเขาดิวะ… ไหนบอกจะทำใจทำไมไม่ทำวะ หน่วงทำไมเนี่ย…
“เอาอีกละ” เลย์มันหันมาพูดใส่จนผมต้องเม้มปาก
“กินอะไรหวาน ๆ ไหมเผื่อมึงจะดูมีชีวิตชีวาขึ้น...” เอาของกินมาล่อผมอีกละ
“ไม่เอาอะ พอเถอะเลิกพูดเรื่องนี้ดีกว่า ต่อไปถ้ากูถอนหายใจให้คิดว่ากูเบื่อมึงก็แล้วกัน...”
“โอ๊ย... จะผลักทำไมเนี่ย?” ชอบจังเลยจับ ๆ ผลัก ๆ หัวกูเนี่ย
“ไป ๆ กูไปเอารถที่ซ่อมละบาย...” และแล้วผมก็เดินแยกทางกับมัน บ้านผมอยู่ในหมู่บ้านจัดสรร ใกล้ ๆ นี้แหละเคยบอกไปแล้ว ตามจริงเป็นคนต่างจังหวัด แต่พ่อกับแม่หย่าร้างกันผมเลยต้องย้ายมาอยู่กับแม่สองคน เรื่องมันผ่านมาหลายปีแล้ว ตอนนี้ผมก็มีความสุขกับแม่ดีครับ
“กลับมาแล้วครับ~” ผมบอกพร้อมกับยกมือไหว้แม่ที่กำลังนั่งดูทีวีอยู่ในห้องรับแขก ทำไมวันนี้แม่ถึงกลับเร็วจังนะ สงสัยคงไม่มีงานสินะ
“ดัซเก่งอยู่แล้วเหอะครับ...”
ผมพูดพร้อมเดินไปหอมแก้มแม่ที่นั่งอยู่บนโซฟาก่อนจะรีบเดินหนีขึ้นห้อง
“ลูกคนนี้... อาบน้ำแล้วรีบลงมาทานข้าวด้วย”
หลังอาบน้ำและลงไปกินข้าวเสร็จเรียบร้อยก็ได้เวลาที่ผมต้องขึ้นมานั่งทำการบ้านจนเสร็จ เคลียร์ไว้เสาร์อาทิตย์จะได้ว่าง และตอนนี้เวลาก็ล่วงเลยมาจนถึงสามทุ่มแล้ว ไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อเลยได้แต่นอนเขี่ยโทรศัพท์เล่นอยู่บนเตียง กดเข้าเฟซบุ๊กแล้วเลื่อนดูคอมเมนต์ในโพสต์ของตัวเอง
“ไอ้บ้า...” ถึงจะด่ามันแต่ผมก็เผลอแอบยิ้มนะ พอนึกถึงหน้ากับท่าทางของมันเวลาเอ่ยประโยคแบบนี้ออกมาในชีวิตจริง อย่างน้อยมันก็ทำให้ผมยิ้มได้… นอนเขี่ยหน้าจอโทรศัพท์ไปสักพัก ก็มีแจ้งเตือนขึ้นมารัว ๆ และยิ่งกดเข้าไปดูผมยิ่งต้องชะงัก ชะงักไม่ชะงักธรรมดา ถึงขึ้นตาสว่างเลื่อนโทรศัพท์เข้ามาแหกตาดูใกล้ ๆ
(Until Dawn ถูกใจรูปภาพของคุณ)
(Until Dawn ถูกใจรูปภาพของคุณ)
(Until Dawn ถูกใจรูปภาพของคุณ)
(Until Dawn ถูกใจรูปภาพของคุณ)
(Until Dawn ถูกใจรูปภาพของคุณ)
(Until Dawn ถูกใจรูปภาพของคุณ)
(Until Dawn ถูกใจรูปภาพของคุณ)
(Until Dawn ถูกใจรูปภาพของคุณ)
“ชะ เชี่ย...” เผลอสบถคำหยาบออกมาด้วยความแปลกใจ เพราะว่าดอนไม่เคยมาไลก์รูปให้ผมก่อนเลยหน้านี้ ยิ่งเลื่อนดูก็เหมือนเจ้าตัวจะไลก์ให้ผมเกือบทุกรูปเลย เวลาลงรูปผมมักจะลงเป็นสาธารณะตลอดเลยด้วย
พยายามเลื่อนเช็กดี ๆ ว่าใช่ดอนจริง ๆ ใช่ไหมและมันก็ใช่จริง ๆ ด้วย มือผมสั่นไปหมดละครับตอนนี้
เสียงสั่นเนื่องจากมีข้อความเข้าดังขึ้น แต่มันกลับทำให้ผมถึงกับตาค้าง มะ ไม่จริงใช่ไหมดัซ!?
“ตะ ตายแน่ดัซ…” ตอนนี้หัวใจมันเหมือนจะหยุดเต้นไปแล้ว แทบอยากจะปล่อยโทรศัพท์ทิ้งไว้แล้วหลับตานอน ตัวก็สั่นไปหมด แต่มือมันดันเผลอไปกดอ่านเสียแล้วนี่สิ ไม่รู้ว่าตอนนี้ดอนจะมาอีท่าไหน แต่ผมจะตั้งสติไว้ก่อนนะครับ!
ตอนกดส่งไปหัวใจมันก็ดันเต้นระรัว ๆ เหมือนส่งไปพร้อมกับวิญญาณที่อยู่ในร่างของผม ถ้าเป็นลมได้ตอนนี้ผมคงเป็นลมไปแล้ว
Until Dawn: ตัวเล็กชื่ออะไรครับ?
ตัวเล็ก… เรียกเราว่าตัวเล็กอีกแล้วววว…
Dusk Aussadong: เราชื่อดัซ
หลังดอนตอบกลับผมก็ไม่รู้ว่าจะส่งอะไรต่อดี แค่ตั้งสติพิมพ์ข้อความส่งกลับแค่นี้มันก็แทบจะหายใจไม่ทั่วท้องอยู่แล้ว โทรศัพท์ตอนนี้ผมก็คว่ำหน้าไว้ หัวใจมันก็สั่นไม่หยุด ใครจะไปคิดว่าคนที่เราแอบชอบจะทักมาอะ เสียงโทรศัพท์สั่นขึ้นอีกครั้งผมจึงรีบหยิบขึ้นมาเปิดดูอย่างรวดเร็ว
Until Dawn: พักนี้ทำไมถึงไม่ค่อยมาดูบอลเลยครับ
กึก… ถึงกับชะงักไปกับข้อความที่ดอนส่งมาทันที ดอนรู้มาตลอดเลยเหรอ!!! งื้อออ... ผมไม่ไหวแล้วตอนนี้ จะเป็นแล้วววว…
Until Dawn: ตัวเล็กหลับแล้วเหรอครับ
Dusk Aussadong: เอ่อพอ_อยดีเรากววติดธุรพน่พ เลยไม่ค่อยได้
Untill Dawn: ใจเย็นๆก็ได้ครับ
งื้อออออ… เด๋ออีกแล้วทำไมต้องพิมพ์ข้อความผิด ๆ ไปให้ดอนด้วย เจ้าตัวจะหาว่าผมเด๋อเหมือนกับทุกครั้งแน่ ๆ เลย ไหนจะลืมกระเป๋า ลืมตังค์ทอน แถมยังพูดจาแปลก ๆ ต่อหน้าเจ้าตัวอีก
Dusk Aussadong: เราขอโทษ TT
หลังส่งข้อความไปผมก็รีบปิดเน็ตปิดหน้าจอโทรศัพท์หลับตาลงทันที ได้แต่นอนกอดหมอนกลิ้งไปกลิ้งมาด้วยความเขินที่ดอนถามแบบนั้น ถึงผมจะยังไม่รู้จุดประสงค์ของคนตัวสูงที่ทักผมมาก็ตามทีเถอะ แต่ว่าสำหรับความรู้สึกของคนที่เป็นฝ่ายแอบชอบอย่างผมมันก็รู้สึกดีมาก ๆ เลยนะ
หายไปนานมากอะ อย่าเพิ่งโกรธนะครับ นิยายเยอะ 55555
แต่ปั่นหมดละ เรื่องแค่สองเรื่องละครับ อิอิ
เขิลเบอร์เเรงง
เขิงงง
รอค๊าาาาาาา