ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เจ้าหญิง แห่งฟุชิมา กับเจ้าชายในฝัน <1>

    ลำดับตอนที่ #2 : โรงเรียนวานาซา

    • อัปเดตล่าสุด 13 มี.ค. 49


     

     

             ทางผ่านตลอดทางจากบ้านในเมืองแวร์ซายส์เป็นถนนลูกรังมาตลอดทางแม้จะไม่ใช่ถนนที่ดีแต่พอมาถึง

     

    หน้าทางเข้าเมืองวานาซาก็ปูพื้นด้วยผ้าสีแดงเพื่อต้นรับเจ้าหญิงเจ้าชายต่างเมือง ตลอดทางเกวียนเล่มน้อยใหญ่ก็

     

    ติดกันเป็นพรืดเพื่อแห่แหนเข้าไปสมัครและสอบในวันนี้ แต่นับเป็นโชคดีของเรจิสเพราะ เนื้อ หาที่จะสอบของ

     

    โรงเรียนวานาซา เรจิสเคยอ่านมาแล้วก่อนหน้านี้เลยไม่หน้ากังวลเท่าไร

     

     

             เมืองวานาซาเป็นเมืองสำคัญเมืองหนึ่ง แม้มีขนาดเล็กก็ยังได้รับความสำคัญจากราชา ซึ่งยอมให้เมืองนี้อยู่

     

    ภายใต้การปกครองของมหาปราชญ์ ผู้เก่งกล้าและเมืองทั้งเมืองนี้พื้นที่ส่วนใหญ่จะเป็นของโรงเรียนทั้งหมด

     

     

             “เรจิสแม่ส่งชื่อลูกสมัครแล้วเหลือรอแค่ประกาศชื่อเรียกเพื่อไปหาแล้วก็พยายามเข้านะจ๊ะไม่ทันขาดคำ

     

    เสียงประกาศเรียกชื่อแรกก็ดังขึ้น

     

     

             “เรจิส เคลเวลร่า ออฟ แวร์ซายส์

     

     

             ไปได้แล้วจ้าสาวน้อยเสียงท่านแม่ทำให้เรจิสค่อยๆผ่อนคลายแล้วก้าวเท้าออกไปผ่านหน้าชายหนุ่มผม

     

    สีดำน้ำตาลเข้ม นัยน์ตาสีเงิน ที่ส่อประกายเย็นชาไร้อารมณ์เบือนหน้ามองเธอแล้วหั่นกลับมา แต่สายตานั้นทำให้

     

    สันชาติยาน ของเรจิสหันกลับมามองแล้วเดินจากไปอย่างไม่ใส่ความ

     

     

             “แหมสวยจริงๆนักเรียนใหม่ปีนี้คำแซวจากพิธีกรทำให้เรจิสหันไปยิ้มให้น้อยแล้วหันกลับมาก่อนเสียง

     

    ประกาศรายชื่อนักเรียนที่จะเข้าสอบคนต่อไปฟรานซิส เดเกลลี ออฟ คาราวา เจ้าชายคนสำคัญจากคาราวา

     

    แล้วเจ้าชายคนสำคัญก็ย่างเท้าขึ้นมาบนเวทีซึ่งทำให้เรจิสถึงกลับอึ้ง

     

     

             “นาย...”เพราะเจ้าชายฟรานซิสคือคนที่มองเธอและเธอจำได้ว่าตอนที่เธอฝันก็มีชื่อของคนๆนี้และหน้า

     

    ตาก็เป็นคนๆเดียวกันแน่ๆ

     

     

              ชายหนุ่มในมาดเจ้าชายหันมามองเธอด้วยสายตาเย็นชาแล้วก็หันกลับไป แล้วเสียงประกาศแซวก็ดังมา

     

    อีกครั้ง

     

     

             “หล่ออะไรขนาดนี้ดูซิตาหญิงสาวข้างล่างหวานเยิ้มเชียว เก็บๆหน่อยสาวๆแล้วเสียงข้างล้างก็หัวเราะ

     

    ครื้น ก่อนที่พิธีกรจะเปลี่ยนเรื่องพูดชื่อคนต่อไป กาเบลียน เลโอเรีย ออฟ นิวรี นักบวชขาวแห่งนิวรีแล้ว

     

    ความเงียบก็ปกคลุมเมื่อหนุ่มตาเดียวผิวขาวผมสีทองยาวที่ถักเป็นเปียสวย เจ้าตัวเดินขึ้นมาด้วยสีหน้าเปื้อนรอยยิ้ม

     

    แล้วกล่าวทักทายอย่างเป็นกันเอง

     

     

             “หวัดดีครับอย่าแข็งเป็นหินซิครับผมเป็นคนสบายๆนะครับ หายห่วงพอเจ้าตัวพูดอย่างนั้นทุกคนก็

     

    ค่อยผ่อนคลายมากขึ้น คงเพราะว่าเขาเป็นนักบวชถึงอายุจะน้อยแต่คนที่นี่ก็ให้ความเคารพเช่นกัน แล้วกาเบลียน

     

    ก็หันมาทักทายหญิงสาว สวัสดีครับคุณเรจิส

     

     

             “สวัสดีค่ะคุณกาเบลียน ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ

     

     

             “เช่นกันครับและยินดีมากที่ได้รู้จักสาวสวยอย่างคุณคำชมที่ทำให้หญิงสาวเขินอาย

     

     

             “ขอบคุณค่ะ

     

     

             “แหม่ นักบวชอารมณ์ดีของเราหาเพื่อนแล้วหรอครับนี่พิธีกรแซวอีกแล้วเนี้ย

     

     

             “แหม ผมต้องการมีมนุษย์สัมพันธ์นะครับผมอยากมีเพื่อนแล้วก็ยิ้มหวานให้สาวๆข้างล้างอีก

     

     

             “OK พอแล้วคร้าบ คนต่อไปเลยดีกว่า เกรซ ไอดะ ออฟ แบนตรี เจ้าหญิงผู้เรอโฉมแห่งแบนตรีแล้ว

     

    ผู้หญิงคนหนึ่งดูหยิ่งเล็กน้อยและมาดนางพญาของเธอทำให้ดูน่าเกรงขามขึ้นอีก เธอยิ้มขึ้นมาเล็กน้อยเพื่อเป็นการ

     

    ทักทายคนทั่วไป

     

     

             “ปีนี้ทำไมมีแต่คนสวยคนหล่อเนี้ยอิจฉาเด็กรุ่นนี้จังพิธีกรกล่าวยิ้มๆแล้วเรียกชื่อคนสุดท้ายในการสอบ

     

    รอบที่หนึ่งคนสุดท้ายในรอบนี้แล้วนะครับจะเป็นใครเอ่ย โห่ ทายาทนักฆ่านะครับนี่ คีน เวรัส ออฟ ซาลอส

     

    ทายาทนักฆ่าผู้มีชื่อเสียงโด่งดัง

     

     

             ชายหนุ่มผมสีดำสนิทกระตุกมุมปากขึ้นมาเล็กน้อยดูโหดเหี้ยมแต่ภายในนัยน์ตานั้นส่อถึงความสนุก

     

    สนานอยากรู้อยากเห็นแต่เจ้าตัวก็ไม่ได้พูดอะไรนอกจากยักคิ้วทักทายนักบวชที่ท่าทางน่าคบกว่าคนอื่นเพราะ ผู้

     

    หญิงคนแรกก็ดูเป็นมิตรอยู่หรอกแต่เหมือนเธอมีจุดที่ต่างจากคนอื่นเธอดูลึกลับชวนหน้าสงสัยเหมือนเธอมีพลัง

     

    พิเศษจากคนอื่น ดูจากสีผมที่และนัยน์ตาสีแดงเหมือนมีมนต์สะกดไว้นั้นเหมือนดั่งราชาปีศาจที่อยู่ในเมืองอีกฝาก

     

    อย่าไปยุ่งดีกว่าอาจเป็นภัยกับเรา ต่อมานายหน้าหล่อคนนั้นคนนั้นเป็นพวกนักรบและผู้ใช้เวทย์ดูไม่ค่อยเป็นมิตร

     

    แถมเย็นชามากจนไม่อยากอยู่ใกล้ ส่วยนายนักบวชนี่พอดูคุยกันไหวแต่ดูท่าจะบ้าผู้หญิงตีสนิทเป็นว่าเล่นแต่คบ

     

    ไปก่อน แล้วผู้หญิงมาดนางพญาคนสุดท้ายดูดีน่าคบแต่เธอยึดหน้านางพญาไว้จนหน้ากลัว (ไอนี่เลือกคบอีก คน

     

    อื่นเค้าก็อยู่เฉยๆไอนี่คิดมากจริงๆ ผู้แต่ง) (อ้าว แม้ขอเรื่องมากหน่อยสิ นักฆ่า) (No ผู้แต่ง)

     

     

             “พวกเธอห้าคนพร้อมจะสอบมั๊ยชายแก่ใส่ชุดนักปราชญ์ที่เดินออกมาจากข้างหลังถามขึ้น

     

     

              ^-^ หน้าเรจิส พร้อมค่ะเธอตอบเป็นคนแรกทำให้คนอื่นหันมามอง

     

     

              o-o หน้าฟรานซิส ดูเฉยเมยไม่สนใจและไม่ตอบ

     

     

              =*= หน้ากาเบลียน คาบ...” ไม่เต็มใจเท่าไหรแหะ

     

     

              @_@ หน้า เกรซ ดูเธอจะไม่ค่อยอยากสอบเท่าไหรนะเนียแต่ก็ตอบรับ ค่ะ

     

     

              T.T หน้า คีน ดูว่าไม่อยากสอบกว่าใครเพื่อนต้องสอบด้วยหรอ

     

     

              “ไม่สอบได้ไงละในเมื่อเราจะมาสอบแบ่งป้อมหน้านายคีนยิ่งบูดใหญ่

     

     

             แล้วเด็กทั้งห้าคนก็เดินเข้าไปทางข้างหลังโดยทุกคนต่างเดินไปยังคนละห้องที่เตรียมไว้ห้าห้องโดยเริ่ม

     

    จากคนแรกอยู่ห้องแรก เรจิสเปิดประตูเข้าไปคนแรกแล้วกล่าวทักทาย

     

     

             “สวัสดีค่ะเสียงใสๆของเธอทำให้หญิงสาวดูมีอายุราวๆสามสิบขึ้นหันโต๊ะมาทางเธอ

     

     

             “สวัสดีจ๊ะ เชิญนั่งก่อนหล่อนกล่าวทักทายแล้วเชิญให้นั่งตรงข้ามเธอ เรียกฉันว่า มิสคามิล

     

     

             “ขอบคุณค่ะ

     

     

             “เริ่มการทดสอบได้แล้วห้องเปล่าๆก็มีหนังสือว่างเต็มไปหมดฉันจะให้เธอเลือกหนังสือสามเล่มที่

     

    เธอสนใจนะ เราว่างให้ตามหมวดแล้ว เชิญจะ

     

     

             แล้วเรจิสก็เดินไปดูรอบๆก่อนหยิบหนังสือเกี่ยวกับโรงเรียนวานาซา การทำนายฝัน แล้วเล่มสุดท้ายคือ

     

    การต่อสู่

     

     

             “ได้แล้วค่ะแล้วเธอก็โชว์หนังสือทั้งสามเล่มให้มิสคามิลดู

     

     

             “ทำไมถึงเลือกสามเล่มนี้จ้ะกะแล้วเชียว เรจิสคิดในใจ

     

     

             “เล่มแรกเกี่ยวกับโรงเรียนเพราะ จะได้ศึกษาว่ามีอะไรอยู่บ้างมีสถานที่ไหนน่าสนใจหรือห้ามเข้า ดู

     

    ประวัติของโรงเรียนค่ะ เล่มที่สองเพราะก่อนที่จะได้มาสมัครที่โรงเรียนประมาณสองวันก่อนได้ฝันแล้วก็มาเจอผู้

     

    ชายที่เหมือนกับคนในฝันค่ะ ส่วนเล่มสุดท้ายฉันชอบการต่อสู่มากจึงสนใจค่ะแล้วก็ฉันอยากอยู่ป้อมอัศวิน

     

    ค่ะ

     

     

             เอ้า มิสคามิล งงไปเลย ไม่หน้าเชื่อเด็กสาวที่ดูไม่หน้าจะสนใจเรื่องแบบนี้กลับสนใจได้ แล้วมิสคามิลก็

     

    ยิ้มให้

     

     

             “ฉันว่าเธอเป็นคนที่น่าสนใจที่เดียว ฉันเป็นอาจารย์ประจำป้อมอัศวินจะแล้วมิสคามิลก็ยิ้มน้อยๆเพราะ

     

    ใบหน้าของเรจิสเริ่มยิ้มเหมือนดีใจในสิ่งที่เธอพูดออกมาต่อหน้าอาจารย์ประจำป้อม เธอไม่มีความอายในเรื่อง

     

    แบบนี้ น่าสนใจใช่เล่นเลย แล้วมิสคามิลก็จดบันทึกชื่อหนังสือและคำพูดของเรจิสลงไป

     

     

             “ต่อไปการทดสอบที่สองนะจะ เธอไปหยิบอาวุธที่เธอเล่นได้สองถึงสามชนิดนะจะดูซิเธอจะเลือก

     

    อะไร มิสคามิลยิ้มแล้วเรจิสก็ลุดออกไปหยิบ ธนู ดาบ และด้ายเหล็ก

     

     

             “เหตุผลที่ฉันเลือกของสามสิ่งนี้เพราะ ธนูเป็นสิ่งที่ฉันชอบและเล่นได้ ดาบเป็นสิ่งศักดิ์สิทธ์มากมีสิ่งที่

     

    หน้าสนใจดี ส่วนด้ายเหล็กเป็นอาวุธที่น้อยคนที่จะเล่นได้เพราะต้องใช้การฝึกฝนเป็นพิเศษค่ะ

     

     

             “แล้วของทั้งสามสิ่งเธอสามารถใช้มันได้ทั้งหมดหรือเปล่า

     

     

             “ค่ะ ได้ทั้งหมดเรจิสตอบด้วยความมั่นใจ แล้วมิสคามิลก็ยิ้มน้อยๆ

     

     

             “งั้นเธอจะแสดงฝีมือให้ดูได้มั๊ย เพื่อเธอจะมีความสามารถพอที่จะอยู่ในป้อมอัศวิน"มิสคามิลพูดยิ้มๆ

     

     

             “ค่ะต้องเข้าไปอยู่ในป้อมอัศวินให้ได้

     

     

             “เชิญทางนี้แล้วมิสคามิลก็เดินนำเด็กสาวไปยังอีกห้องที่ดูเหมือนสนามปะลองเชิญ

     

     

             “สู้กับคุณหรอ

     

     

             “จะ

     

     

             “ไม่เกรงใจนะค่ะแล้วเรจิสก็เริ่มรายเพลงดาบด้วยท่วงท่าที่สง่างามและก้าวประชิดตัวด้วยความรวดเร็ว

     

    ทำให้มิสคามิลผงักถอยหลังไปก่อนตั่งตัวและเรียกดาบของตัวเองออกมา

     

     

             “เก่งนี่ปากพูดไปแล้วมือก็ตั้งกาดรับดาบไว้

     

     

             “ขอบคุณค่ะเรจิสกล่าวขอบคุทั้งๆที่ไม่ได้มีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้าเหลือแต่ความเหี้ยมเกรียมไว้

     

     

             “ใช่ได้แล้วเรจิสก็ตวัดดาบของมิสคามิลทิ้งไปและเก็บดาบก่อนดึงธนูและดอกที่อยู่ข้างหลังออกมาตั้ง

     

    ยิงแล้วก็ปล่อยดอกลูกธนูออกไปปักที่ปลายแขนเสื้อมิสคามิลก่อนจะเข้าประชิดตัวแล้วชักด้ายเหล็กออกมาว่างไว้

     

    ที่คออาจารย์ทำให้ดูเหมือนจะปลิดชีพ

     

     

            แปะๆๆๆๆๆเสียงตบมือดังมาจากด้านบนซึ่งเป็นของนักปราชญ์ในชุดคลุมสีดำสนิท "เก่งมาก"

     

     

             "ขอบคุณค่ะ"แล้วเรจิสก็หันมาทานมิสคามิล "ขอโทษที่ล่วงเกินนะค่ะ คืนค่ะ"


             "
    ไม่เป็นไรฉันอยากทดสอบพลังของเธออยู่แล้วเธอเก่งมากเลยรู้มั๊ย ส่วนของฉันให้เธอเลือกไปอย่าง

     

    หนึ่ง"แล้วมิสคามิลก็เรียกอาวุธเหมือนกับที่เรจิสเลือกไว้มาซึ่งมีคุณภาพที่ดีกว่า

      
             "
    ขอบคุณนะค่ะ แต่ไม่เป็นไรค่ะเกรงใจแล้วก็ฉันมีของพวกนี้อยู่แล้วค่ะ"เธอยิ้มโปรยปรายไว้


             "
    เธอสอบผ่านตอนนี้แม่เธอคงจะได้ชำระเงินค่าเล่าเรียนแล้วนะจะเออนี่คือรายการที่ต้องซื้อนะจ้ะ"มิสคา

     

    มิลกล่าว่อนที่จะส่งกระดาษที่ทำจากเยื้อต้นไม้อย่างดีให้


             "
    ขอบคุณค่ะ"แล้วเรจิสก็เดินออกไปทางประตูฟังตรงข้าม


             "
    เค้าเก่งนะค่ะ ไม่เคยเห็นใครมีฝีมืออาวุธได้มากมาก่อยเลย"


             "
    ใช่ เก่งจริงๆ ไม่น่าเชื่อว่าเด็กสาวที่ดูท่าทางอ้อนแอ้นอย่างนั้นจะฝึกปรือฝีมีได้ดี"


             เสียงของนักปราชญ์และมิสคามิลก็คุยกันต่อไปภายในห้องนั้น
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×