คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ไม่เหมือนเดิม
หลังจากที่เริ่มเรียนฉันเพิ่งมารู้ว่า ทำไมมันดูดวิญญาณขนาดนี้นะ เนื้อหาที่หนักเอาการ ทั้งตัวเลขและตัวหนังสือชักจะเข้าใจดวงวิญญาณที่ฆ่าตัวตายเพราะเครียดเรื่องการเรียนแล้วแหละ
ฟุบ! ฉันฟุบตัวลงกับโต๊ะโดยใช้แขนรองไว้แต่โชคร้ายที่ลืมว่าตัวเองนั่งอยู่กับใครคนหนึ่งที่กำลังทำท่าเดียวกันแถมยังหันหน้าเข้ามาทางฉันอีก ทันทีที่ดวงตาของเราสอดประสานกันก็เกิดความเงียบขึ้น คราวนี้ไม่มีอาการสั่นไหวอะไร เพียงแต่...ความทรงจำของมาลีนคนก่อนได้พรั่งพลูเข้ามา
.....................................................
ความทรงจำเพียงแค่บอกว่าพวกเขาทั้งสองคนรู้จักกันผ่านเพื่อนของตัวเอง มาลีน มีนา และดาริน เป็นเพื่อนสนิทกัน ทั้งสามคนมักจะช่วยเหลือกันในเรื่องต่างๆอยู่เสมอ ภายนอกดารินเป็นผู้หญิงสวย เย็นชา และฉลาด มีนาและมาลีน ร่าเริงและดูเข้าหาง่ายมากกว่าดารินด้วยซ้ำ จนกระทั่งดารินได้คบกับคิน นักเรียนชายห้อง C คินเองก็มีเพื่อนอยู่ห้อง A เช่นเดียวกัน คือ ชินอิจิ กับ เอส
ช่างเป็นคู่ที่ไม่เข้ากันชะมัด แต่ก็รักกันที่สุด ทั้ง 6 คนมักจะไปเที่ยวด้วยกันเป็นกลุ่มจนมาลีนได้เริ่มสนิทกับแก๊งของคินไปด้วย เธอเริ่มหวั่นไหวกับชินอิจิเธอรู้สึกว่าเขาอาจจะมีใจให้จนกระทั่งมารู้ว่าที่จริงเขาแอบชอบดารินอยู่โดยที่คินและคนอื่นๆก็ไม่รู้ ในใจของมาลีนเริ่มมีความอิจฉา เธอทำเรื่องไม่ดีกับดารินจนผิดใจกันแน่นอนว่าเรื่องนี้มีแค่ทั้งสามคนที่รู้ ตอนนี้ชินอิจิคงเกลียดมาลีนมาก และดารินเองกับมาลีนก็มองหน้ากันไม่ติด จนถึงตอนนี้
......................................................
นั่นคือเรื่องราวทั้งหมดที่ฉันรู้ตอนนี้
ว่าแล้วเชียว ไม่ชอบขี้หน้าเลยจริงๆสินะ
"มองอะไรนักหนา?"คิ้วหนาขมวดขึ้นทำเสียงไม่พอใจ
"ฉันไม่ได้มองเพราะชอบนายละกัน"พูดเสร็จฉันก็ลุกขึ้นจากโต๊ะ ก่อนจะสะบัดหน้าเดินออกห้องไปหาอะไรกินก่อนจะเตรียมตัวไปเรียนวิชาต่อไปทันที ชินอิจิยืดตัวขึ้นหลังจากแผ่นหลังเล็กๆนั่นเดินจากไปก่อนจะลุกไปหาคินกับเอสที่ห้องด้วยอารมณ์ขุ่นมัวจนถึงวิชาต่อไป
ในห้องเรียนคลาสวิชาศิลปะ
"เอาล่ะ ครูสอนถึงเรื่องการลงเส้นอะไรไปแล้วนะคะ วันนี้จะลองให้ทุกคนวาดภาพตามจินตนาการเลย"เสียงคุณครูผู้สอนที่กำลังเดินไปมาในคลาสพูดถึงเรื่องการวาดภาพทำให้ฉันกระตือรือร้น ซึ่งเรื่องนี้น่ะฉันถนัดที่สุด
บนสวรรค์ฉันใช้เวลาเรียนรู้มาเป็นร้อยปี ทำไมเรื่องแค่นี้จะทำไม่ได้ ฉันค่อยๆร่างภาพตามสิ่งที่อยู่ในหัวอย่างตั้งใจ
"เดี๋ยวนะ! เธอวาดเก่งแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไร่มาลีน"น้ำเสียงตื่นเต้นร้องว้าวที่คุ้นหูสุดๆเมื่อเห็นฉันวาดภาพออกมา
"มีนา...เอ่อ ฉันฝึกมาน่ะ"ฉันยิ้มแห้งๆให้กับมีนา หญิงสาวตัวเล็กมัดผมทรงทวิลเทลข้างๆคือมีนาเพื่อนสนิทอีกคนของฉัน เธอเพิ่งกลับมาจากการแข่งขันเทควันโดของโรงเรียนเมื่อตอนพักเที่ยง
"ว่าแต่เธอยังเรียนไหวอีกหรอ ทำไมไม่กลับไปพักผ่อน"ฉันถามกลับคนตัวเล็กข้างๆ
"หืม เธอหัดเป็นห่วงฉันตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ถ้าเป็นเธอตอนนี้คงต้องบอกว่า 'นั่งเงียบๆแล้วเรียนได้แล้ว'ต่างหาก"สีหน้าแบบตกใจสุดๆของมีนาทำให้ผู้ชายคนข้างๆหันมามอง ใช่แล้วล่ะ ดันได้นั่งใกล้กันตั้งแต่เข้าห้องเลยเพราะปกติชินอิจิจะรับบทเป็นคนช่วยดูงานให้แต่มาคราวนี้เขาแทบไม่ต้องบอกอะไรเลย ถึงจะต้องบอกแต่ตอนนี้คงไม่มีอารมณ์บอกหรอก...
"คนเรามันเปลี่ยนกันได้"ฉันยิ้มอย่างร่าเริงจนมีนาหรี่ตามองอย่างแปลกใจ ฉันหุบยิ้มแล้วทำหน้าเป็นเครื่องหมายคำถาม
"เธอป่วยแค่สองวัน เปลี่ยนไปเยอะเลยนะ ทั้งๆที่ปกติปากร้ายกว่านี้แท้ๆ"มีนาพูดก่อนจะหยิบอมยิ้มซึ่งเป็นของโปรดของเธอใส่ปาก เธอเหมือนจะพูดอะไรบางอย่างอีกรอบแต่ครูก็เดินมาไล่ให้เธอกลับไปนั่งที่เสียก่อน ก่อนที่จะเข้ามาตรวจงาน
"หืมม สวยมากเลยนี่ถ้าไม่เห็นเธอนั่งวาดกับตา ฉันนึกว่านักศิลปะระดับโลกมาวาดนะเนี่ย"สีหน้าของคุณครูที่เห็นภาพนี้ตะลึงไม่น้อยทำให้เพื่อนๆหลายคนเข้ามารุมถามและดู ต้นไม้และดอกไม้นานาพันธุ์ที่ขึ้นล้อมรอบศาลาสีขาวสายลมและแสงสว่างเหล่านั้นทำให้ฉันยิ้มบางๆออกมาอย่างอบอุ่น
"ภาพนี้ เป็นแบบจำลองของสรวงสวรรค์น่ะ....มุมโปรดของฉัน"ฉันตอบคำถามของเพื่อนในคลาสโดยที่ประโยคสุดท้ายเลือกที่จะพูดให้กับตัวเองเท่านั้น
สายตาของชินอิจิที่มองมายามเธอวาดภาพนันแข็งกระด้างและแปลกใจ คนที่ไหนจะฝึกวาดรูปแล้วเป็นเร็วขนาดนี้ ทั้งที่ปกติเธอวาดห่วยแตกขนาดนั้นแถมวิธีจับด้ามดินสอก็ดูคล่องแคล่วราวกับซ้อมมาทั้งชีวิต วาดไปยิ้มไปโดยไม่เสียสมาธิเลยเขาจ้องเธออยู่นานจนลืมตัว จนกระทั่งเสียงมีนาดังขึ้นเขาถึงกลับไปตั้งใจวาดของตัวเอง
1 ชั่วโมงผ่านไป...
"เฮ้ออออ เสร็จแล้ว"พอภาพวาดแห่งจินตนาการของฉันเสร็จก็ต้องบิดขี้เกียจทันที ฉันป้องปากหาวหนึ่งครั้งก่อนจะเหลือบมองเพื่อนๆที่กำลังตั้งใจอยู่ ก่อนจะไปสะดุดเข้ากับชินอิจิที่เพิ่งวาดเสร็จเหมือนกัน เราทั้งคู่จ้องตากันเงียบๆจนครูที่สังเกตุอยู่ทักขึ้นมา
"ชินอิจิ กับมาลีนวาดเสร็จแล้วใช่ไหม พอดีเลยช่วยเอาพู่กันกับถาดสีไปล้างให้ครูหน่อยนะจ้ะ"สิ้นเสียงของคุณครูพยักหน้าอย่างไม่อิดออดผิดกับอีตาขวางโลกข้างๆที่ทำหน้าไม่พอใจสุดๆ ฉันรีบลุกอย่างไม่สนใจท่าทีนั่นแล้วเดินไปยังอ่างล้างถาดสีข้างนอกทันที พอถึงอ่างเสร็จฉันจึงแยกพู่กันออกมาก่อนจะเอาถังมาใส่น้ำแล้วขัดถูตรงด้ามพู่กันเบาๆ รู้สึกถึงลมเย็นๆที่พัดผ่านมาเบาๆกับกลิ่นน้ำหอมผู้ชายคงเป็นใครไปไม่ได้นอกจากชินอิจิ
"รีบๆล้างเข้าสิ จะเข้าเรียนคลาสต่อไปไม่ทันนะ"
"ที่จริงเธอก็วาดรูปได้ตั้งแต่แรกสินะ.."ชินอิจิที่ช่วยล้างถาดสีอยู่ถามขึ้นมาน้ำเสียงเรียบนิ่งฉันจึงตอบเขาไปตรงๆ
"ใช่"
"งั้นที่ผ่านมานี่ก็เป็นแผนที่จะเข้าใกล้ฉันงั้นสิ?"น้ำเสียงเหมือนจะมีอารมณ์นิดๆของคนตัวสูง
ฉันลืมไปได้ยังไงว่ามาลีนวาดรูปไม่ได้
"ฉัน...ฉันฝึกได้"ฉันตอบข้างๆคูๆก่อนจะเร่งมือล้างสีออกจากพู่กัน
"ไม่น่าเชื่อซักนิด คนที่ไหนจะฝึกวาดสองสามวันแล้วได้ขนาดนั้น"
"นี่ เลิกถามแล้วรีบๆล้างได้แล้ว จะได้กลับไปเรียนต่อ"ฉันบ่ายเบี่ยงคำตอบท่าทางเลิกลั่กจนคนข้างๆขมวดคิ้วสงสัย เขากำลังคิดว่ามาลีนคนนี้เปลี่ยนไปเล็กน้อย...
เขาอยากลองทำอะไรซักอย่าง...ชินอิจิวางมือจากถาดสีก่อนจะเดินไปด้านหลังของมาลีน่า เขาเท้ามือทั้งสองข้างลงกับอ่างล้างสีโดยมีร่างของมาลีน่าอยู่ข้างใน กลายเป็นว่าตอนนี้เหมือนกับว่าเขากำลังกอดเธอจากด้านหลัง ร่างเล็กที่อยู่ข้างในสะดุ้งทันทีกับการกระทำอันล่อแหลมของชินอิจิ เธอรีบทิ้งพู่กันแล้วหันกลับมาทันที ด้วยความรีบจึงทำใบหน้าของเธอชนกับหน้าอกของเขาอย่างจัง
"น..นายจะทำอะไร?"ใบหน้าใสซื่อไร้เดียงสาของเธอทำให้เขาขมวดคิ้วหนักกว่าเดิม ถ้าเป็นยัยนั่นคนเดิมคงไม่รอที่จะโน้มตัวเขาลงมาจูบแล้ว แววตาไร้เดียงสาแบบนี้เขาไม่เคยเห็น ชินอิจิค้อมตัวลงให้ใบหน้าของทั้งคู่อยู่ในระดับเดียวกัน
"จะทำอะไรล่ะ แบบนี้ในซีรี่ส์ควรต้องทำไง"เสียงทุ้มต่ำเซ็กซี่ทำให้มาลีนขนลุกซู่ เธอไม่เคยถูกจาบจ้วงขนาดนี้ทั้งชีวิตถูกประคบประหงมราวไข่ในหิน ยิ่งไม่ต้องคิดถึงเรื่องแบบนี้เลย
"นาย..."น้ำเสียงของมาลีน่าสั่นเล็กน้อย แต่ยังไม่ยอมหลบตาราวกับจะท้าทายอำนาจของเขา
"หืม?.."เขามองเธอราวกับจะกลืนกินใบหน้าหล่อเหลายิ้มมุมปากเล็กน้อยเพิ่มความเซ็กซี่หัวใจของมาลีน่าสั่นไหวไปชั่วขณะไม่รู้เพราะอาการของร่างเดิมหรือเธอเองกันแน่ เขาก้มหน้าลงมาจนจมูกทั้งคู่ชนกัน ลมหายใจของมาลีน่าเริ่มกระตุกถี่ขึ้นเขายิ้มเยาะในใจลากริมฝีปากเฉียดแก้มขาวๆไปข้างหุของเธอก่อนจะกระซิบเบาๆ
"อยากให้ฉันจูบหรือทำให้รู้สึกดีกว่านี้ไหมล่ะ"
ตุบ! โอ้ย! ไม่ทันที่จะทำเรื่องอย่างที่พูด พอจบประโยคเท่านั้น เท้าของหญิงสาวตัวเล็กก็เตะอย่างแรงเข้าไปที่หน้าแข้งของชินอิจิทันทีจนต้องกระเด้งตัวออกมา ใบหน้าของมาลีนเต็มไปด้วยความโกรธแบบที่เขาไม่เคยเห็น
"ไอ้คนบ้า! ลามก ออกไปห่างๆฉันนะ" พอพ่นคำด่าเสร็จมาลีนก็เดินออกไปอย่างหัวเสียโดยที่ชินอิจิเองสังเกตเห็นหางตาของเธอนั้นเหมือนมีน้ำใสๆคลออยู่...
ร้องไห้?
............................................................................
ความคิดเห็น