ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รัก(แรก) ผูกพัน

    ลำดับตอนที่ #4 : ความทรงจำ

    • อัปเดตล่าสุด 3 มี.ค. 67


    บทที่ 4

    ความทรงจำเก่าๆ…

     

    คนที่สลบไปตั้งแต่ก่อนที่จะมาโรงพยาบาลจนถึงตอนนี้แล้วเธอก็ยังคงนอนหลับไม่ขยับเขยื้อนอยู่บนเตียงอย่างเดิม ไม่มีทีท่าว่าจะตื่นขึ้นมาเลยสักนิด ซึ่งตอนนี้เวลาก็ผ่านไปแล้วกว่าห้าชั่วโมงตั้งแต่ที่เธอสลบไป อาจเป็นเพราะว่าหมอพึ่งจะฉีดยาไปด้วย เลยทำให้หลับยาวไปเลย

     

    “เฮ้อ…”

    เมื่อสถานการณ์สุ่มเสี่ยงก่อนหน้านี้เริ่มปกติดีแล้ว เควินก็อดที่จะถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกไม่ได้

     

    ยังไม่ทันข้ามวันกับการมาไทยแท้ๆ ก็ดันมีเรื่องมากมายเกิดขึ้นมาให้ต้องเจอ จนเขาแทบตั้งตัวไม่ถูกเลยทีเดียว และตัวเขาเองก็ไม่ได้พักผ่อนอย่างเพียงพอตั้งแต่ก่อนจะมาถึงไทยแล้วด้วย

    เพราะพึ่งรู้ว่าตัวเขาจะต้องเตรียมตัวเข้ารับตำแหน่งผู้บริหารอย่างเร่งด่วนด้วย หลังจากนั้นก็มีเรื่องมากมายต่างวิ่งเข้ามา ให้เขาต้องจัดการอย่างไม่หยุดไม่หย่อน

     

    หนึ่งในนั้นคือเรื่องที่เขาจะต้องรีบเข้าสู่พิธีวิวาห์...

    ก่อนจะขึ้นรับตำแหน่ง…

    ซึ่งในขณะนี้แม่ก็กำลังหาเจ้าสาวให้เขาด้วย…

     

    ความอ่อนเพลียที่ถูกสะสมมาหลายวันทำให้ชายหนุ่มวางหัวลงบนเตียงนอนคนไข้ที่กำลังนอนหลับไม่ได้สติอยู่อย่างช้าๆ หวังว่าจะเพียงแค่พักหลับตาสักครู่เท่านั้น

    แต่มันกลับให้เจ้าตัวเผลอหลับไปอย่าง่ายดาย เป็นการเผลอหลับที่ทำให้เข้าสู่ห้วงแห่งความฝัน…

    ความฝันที่เกิดจากจิตใต้สำนึก ความเครียด และความกดดันของเจ้าตัวที่เก็บเอาไปฝันจนเป็นเรื่องเป็นราว…

     

    “พ…พาย พี่ขอโทษ”

     

    เขาฝันถึงช่วงวัยเด็ก…ความฝันที่ทำให้เขาได้เจอ ได้พูด ได้ทำในสิ่งที่อยากทำมากที่สุดตอนนี้…

    จนร่างกายหลุดละเมอออกมาเป็นคำพูด….

    คำว่า…ขอโทษ

     

    ในความฝันมีเด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิง คอยดูแลซึ่งกันและกันอยู่เกือบตลอดเวลา และใบหน้าอ่อนเยาว์ของผู้เด็กหญิงก็มักจะมีรอยยิ้มปรากฏอยู่เสมอเมื่อได้อยู่กับคนพี่…

    พี่ที่ไม่เคยมีรอยยิ้มตอบกลับน้องเลยสักครั้ง…

     

    แต่ถึงอย่างนั้น….

    ทั้งสองคน…ก็ไม่เคยทะเลาะจนถึงขั้นต้องแยกและห่างกันข้ามวันเลยสักครั้ง ยกเว้นวันที่เกิดเรื่องนั้นขึ้น

     

    ไม่ว่าคนพี่จะไปไหน..น้องก็มักจะตามติดไปด้วยเสมอ จนทำให้ทั้งสองกลายเป็นคู่พี่น้องที่ตัวติดกันเกือบตลอดเวลา และนั้นก็ทำให้คนเป็นพี่มักจะโดนเพื่อนในวัยเดียวกันล้ออยู่เสมอ…

    ล้อว่าเขามีน้องติดมาบ้างล่ะ...

    ล้อว่าไม่แมนบ้างล่ะ….

     

    แต่มันก็เท่านั้นแหละ…

     

    เพราะเขาไม่แคร์ และไม่เคยคิดที่จะไล่น้องไปไหนเลยสักครั้ง จนกระทั่งวันหนึ่งน้องถึงขั้นต้องพูดอะไรบางอย่างออกมา…

     

    ‘หนูไม่ไปก็ได้ค่ะ พี่วินไปคนเดียวดีกว่านะ ถ้าหนูไปด้วยพี่วินก็จะโดนเพื่อนล้อ…’

    ‘ล้อแล้วทำไม!พี่ได้ไม่สนใจสักหน่อย…หรือว่าจริงๆ แล้วพายไม่อยากไป…เบื่อที่จะเล่นกับพี่แล้วใช่ไหมล่ะ’

    เปล่านะ! พายไม่ได้เบื่อ…ไม่เคยเบื่อ แต่พายแค่ไม่อยากเห็นพี่วินโดนว่าอีก…ไม่อยากให้พี่ต้องอายคนอื่นเพราะมีพายไปด้วย’

    ‘พี่ไม่อาย!แล้วนี่ตกลงจะไปได้ไหม ถ้าไม่!พี่ไปคนเดียวก็ได้’

     

    มันเป็นความสัมพันธ์ที่คนอื่นเห็นแล้ว จะเข้าใจว่ามีแต่น้องฝ่ายคนเดียวเท่านั้นที่ติดพี่ เพราะพี่มักจะแสดงท่าทีรำคาญน้องเสมอเมื่ออยู่ต่อหน้าคนอื่น

     

    แต่นั้นกลับไม่ใช่เรื่องจริงเลย…

     

    เพราะเมื่อไหร่ที่น้องเริ่มท้อใจ และทำตัวเหมือนจะตีตัวออกห่างแล้วล่ะก็ คนเป็นพี่ก็มักจะหาเหตุผลต่างๆ นานา มาอ้างให้น้องอยู่เล่นด้วยทุกครั้งไป และก็มักจะเป็นแบบนั้นมาโดยตลอด

     

    จนกระทั่ง…

     

    ภาพที่เจ็บปวดที่สุดของความฝันก็เกิดขึ้น…มันคือภาพน้องที่มีรอยยิ้มอยู่เสมอแปรเปลี่ยนเป็นใบหน้าเศร้าหม่น และมันก็เป็นสถานการณ์ที่ทำให้น้องร้องไห้ออกมาอย่างคนใจจะขาด

     

    เมื่อถึงเวลาที่ต้องจากกัน…

     

    การจากกันที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดขึ้น…

     

    ‘ไม่ต้องร้องไห้…เดี๋ยวพี่จะกลับมาหานะ...’

    ‘ฮึก…ล…แล้วพี่วินจะกลับเมื่อไหร่…จะไปนานไหม’

    ‘พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่พี่สัญญานะ…พี่จะกลับมา…กลับมาหาเรา…เราจะรอพี่ไหม’

    ‘ฮึก…ได้..ค่ะ..พายจะรอพี่วินนะ…พี่วินต้องกลับมาหาพายนะ’

     

    ภาพของเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ เอาแต่ยืนร้องไห้อยู่อย่างนั้น เป็นการร้องไห้ที่ทำให้เขาทนมองแทบไม่ไหว เพราะเขาเองก็ปวดใจไม่น้อยไปกว่าน้องเลย…

    และนั้นก็เป็นความเจ็บปวดในความฝัน…

    ที่ทำให้คนที่ฝันอยู่น้ำตาไหลริน…

     

    *******

     

     

    ไม่นานภาพในความฝันเหล่านั้นก็หายลับไป เมื่อคนคนฝันถูกปลุกด้วยเสียงสั่นเครือของโทรศัพท์ที่ดังขึ้นมากะทันหัน เสียงที่ทำให้ชายหนุ่มสะดุ้งตื่นจากฝันและรีบเดินออกมาจากห้องคนไข้อย่างเร็ว

     

    เพราะกลัวว่ามันจะไปกวนคนป่วย…

     

    เควินเดินออกมาภายนอกห้องพักของโรงพยาบาล ที่มีกระจกบานใสเห็นวิวตึกสูงของหลวงข้างนอกสุดลูกหูลูกตา ให้คนมองได้ชื่นชมความสวยงามของมัน แต่นั่นกลับไม่สามารถดึงดูดความสนใจของเควินเลยสักนิด เพราะตอนนี้จิตใจของเขาไม่ได้อยู่กับเนื้อกับตัวเท่าไหร่

    ตอนนี้เขากำลังดำดิ่งอยู่ในความคิดของตัวเอง อย่างหาทางออกไม่ได้เลยต่างหาก

     

    เกิดอะไรขึ้นกันแน่…

     

    คิ้วหนาขมวดเข้าหากันอย่างคิดไม่ตก กับสิ่งที่พึ่งเกิดขึ้นเมื่อช่วงกลางวันที่ผ่านมา เพราะไม่ว่าจะคิดหาเหตุผลยังไงก็ดูไม่สมเหตุสมผลเลยสักข้อเดียว ที่การได้มาเจอกับใครบางคนในรอบหลายปี แล้วจะทำให้จำหน้าไม่ได้

     

    เพราะครั้งแรกที่เขาเห็นเธอในรูปถ่าย…

    เขาก็จำได้ทันที…ว่านั่นคือน้องของเขา

    แต่ทำไมน้องถึงกลับจำเขาไม่ได้…

    หรือว่าน้องจะลืมเขาไปแล้วจริงๆ

     

    แต่มันจะเป็นไปได้ยังไงที่เธอจะจำคนที่โตมาด้วยกันไม่ได้ ถ้าบอกว่าเป็นเพราะการเติบโตเป็นผู้ใหญ่เลยจำไม่ได้ ก็ดูไม่น่าจะเป็นไปได้อีก…

    ใช่ว่าหน้าตาของคนเรา…จะเปลี่ยนไปจนทำให้ไม่เหลือเค้าโครงเดิมจนจำไม่ได้หรอกน่ะ ยิ่งเคยผูกพันกัน ก็ยิ่งทำให้จดจำได้ง่ายมากขึ้นด้วยซ้ำไป

     

    “เฮ้อ…”

     

    สิ่งแรกที่ทำให้เขาอยากรู้และต้องรู้ให้ได้ในตอนนี้คือ…ทำไมน้องถึงจำเขาไม่ได้ และเขาก็จะหาความจริงให้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่

    เพราะหากว่าตอนนี้เธอจำเขาไม่ได้จริงๆ นั่นก็แปลว่าต้องเกิดอะไรขึ้นกับน้องในตอนที่เขาไม่อยู่แน่ๆ

     

    ครืด ครืด…

     

    ในระหว่างที่เอาแต่คิดจนหัวหมุนอยู่นั้น จู่ๆ เสียงโทรศัพท์ที่เคยดังขึ้นมาก่อนหน้านี้ที่เขากดรับไม่ทันก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง ครั้งนี้ชายหนุ่มก็รีบยกโทรศัพท์ขึ้นมาดูทันที เมื่อเห็นว่าเป็นใครที่โทรเข้ามาเขาก็ไม่รีรอที่ กดรับสายแทบจะทันทีทันใด

    “ว่าไง…ได้เรื่องไหม”

     

    ทั้งที่บอกตัวเองแล้วว่าจะไม่สืบเรื่องส่วนตัวของน้องมากกว่าการรู้ที่อยู่ของน้องในปัจจุบันเท่านั้นแล้วแท้ๆ แต่พอเอาเข้าจริงเขากลับทำไม่ได้

    เพราะความอยากรู้ทำให้เขาเลือกที่จะต่อสายหาคนให้สืบเรื่องส่วนตัวของน้องด่วน หลังจากที่พาน้องมาส่งโรงพยาบาลได้ไม่นาน จนตอนนี้ก็ล่วงเลยมาหลายชั่วโมงแล้วที่เขาให้คนตามสืบ

     

    “ยังไม่ถึงไหนเลยครับ…แต่ทราบเรื่องหนึ่งแล้วครับ”

    “อะไร…”

     

    แม้จะรู้ว่าการสืบประวัติส่วนตัวอย่างนี้เป็นเรื่องไม่ดี เพราะมันอาจจะทำให้น้องรู้สึกไม่ชอบใจในภายหลังได้ หากเธอรู้ว่าเขาแอบให้คนไปสืบประวัติของเธอมา…แต่เขาก็เลือกจะทำ

    “แม่ของเธอพึ่งเสียครับ เสียไปได้ไม่นาน…ตอนนี้ผมกำลังหาอยู่ว่าเสียไปเพราะอะไร อ่อ…ยังมีอีกเรื่องครับ…บ้านที่เธอเคยอยู่ถูกขายให้คนอื่นไปแล้วครับ”

     

    แม่เสีย…

    ขายบ้าน…

    นี่มันอะไรกัน…

     

    ระหว่างที่เขาไม่อยู่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่...

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    ดูอีบุ๊ก

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น
    ×