คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ความทรงจำ
บทที่ 4
ความทรงจำเก่าๆ…
คนที่สลบไปตั้งแต่ก่อนที่จะมาโรงพยาบาลจนถึงตอนนี้แล้วเธอก็ยังคงนอนหลับไม่ขยับเขยื้อนอยู่บนเตียงอย่างเดิม ไม่มีทีท่าว่าจะตื่นขึ้นมาเลยสักนิด ซึ่งตอนนี้เวลาก็ผ่านไปแล้วกว่าห้าชั่วโมงตั้งแต่ที่เธอสลบไป อาจเป็นเพราะว่าหมอพึ่งจะฉีดยาไปด้วย เลยทำให้หลับยาวไปเลย
“เฮ้อ…”
เมื่อสถานการณ์สุ่มเสี่ยงก่อนหน้านี้เริ่มปกติดีแล้ว เควินก็อดที่จะถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกไม่ได้
ยังไม่ทันข้ามวันกับการมาไทยแท้ๆ ก็ดันมีเรื่องมากมายเกิดขึ้นมาให้ต้องเจอ จนเขาแทบตั้งตัวไม่ถูกเลยทีเดียว และตัวเขาเองก็ไม่ได้พักผ่อนอย่างเพียงพอตั้งแต่ก่อนจะมาถึงไทยแล้วด้วย
เพราะพึ่งรู้ว่าตัวเขาจะต้องเตรียมตัวเข้ารับตำแหน่งผู้บริหารอย่างเร่งด่วนด้วย หลังจากนั้นก็มีเรื่องมากมายต่างวิ่งเข้ามา ให้เขาต้องจัดการอย่างไม่หยุดไม่หย่อน
หนึ่งในนั้นคือเรื่องที่เขาจะต้องรีบเข้าสู่พิธีวิวาห์...
ก่อนจะขึ้นรับตำแหน่ง…
ซึ่งในขณะนี้แม่ก็กำลังหาเจ้าสาวให้เขาด้วย…
ความอ่อนเพลียที่ถูกสะสมมาหลายวันทำให้ชายหนุ่มวางหัวลงบนเตียงนอนคนไข้ที่กำลังนอนหลับไม่ได้สติอยู่อย่างช้าๆ หวังว่าจะเพียงแค่พักหลับตาสักครู่เท่านั้น
แต่มันกลับให้เจ้าตัวเผลอหลับไปอย่าง่ายดาย เป็นการเผลอหลับที่ทำให้เข้าสู่ห้วงแห่งความฝัน…
ความฝันที่เกิดจากจิตใต้สำนึก ความเครียด และความกดดันของเจ้าตัวที่เก็บเอาไปฝันจนเป็นเรื่องเป็นราว…
“พ…พาย พี่ขอโทษ”
เขาฝันถึงช่วงวัยเด็ก…ความฝันที่ทำให้เขาได้เจอ ได้พูด ได้ทำในสิ่งที่อยากทำมากที่สุดตอนนี้…
จนร่างกายหลุดละเมอออกมาเป็นคำพูด….
คำว่า…ขอโทษ
ในความฝันมีเด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิง คอยดูแลซึ่งกันและกันอยู่เกือบตลอดเวลา และใบหน้าอ่อนเยาว์ของผู้เด็กหญิงก็มักจะมีรอยยิ้มปรากฏอยู่เสมอเมื่อได้อยู่กับคนพี่…
พี่ที่ไม่เคยมีรอยยิ้มตอบกลับน้องเลยสักครั้ง…
แต่ถึงอย่างนั้น….
ทั้งสองคน…ก็ไม่เคยทะเลาะจนถึงขั้นต้องแยกและห่างกันข้ามวันเลยสักครั้ง ยกเว้นวันที่เกิดเรื่องนั้นขึ้น
ไม่ว่าคนพี่จะไปไหน..น้องก็มักจะตามติดไปด้วยเสมอ จนทำให้ทั้งสองกลายเป็นคู่พี่น้องที่ตัวติดกันเกือบตลอดเวลา และนั้นก็ทำให้คนเป็นพี่มักจะโดนเพื่อนในวัยเดียวกันล้ออยู่เสมอ…
ล้อว่าเขามีน้องติดมาบ้างล่ะ...
ล้อว่าไม่แมนบ้างล่ะ….
แต่มันก็เท่านั้นแหละ…
เพราะเขาไม่แคร์ และไม่เคยคิดที่จะไล่น้องไปไหนเลยสักครั้ง จนกระทั่งวันหนึ่งน้องถึงขั้นต้องพูดอะไรบางอย่างออกมา…
‘หนูไม่ไปก็ได้ค่ะ พี่วินไปคนเดียวดีกว่านะ ถ้าหนูไปด้วยพี่วินก็จะโดนเพื่อนล้อ…’
‘ล้อแล้วทำไม!พี่ได้ไม่สนใจสักหน่อย…หรือว่าจริงๆ แล้วพายไม่อยากไป…เบื่อที่จะเล่นกับพี่แล้วใช่ไหมล่ะ’
‘เปล่านะ! พายไม่ได้เบื่อ…ไม่เคยเบื่อ แต่พายแค่ไม่อยากเห็นพี่วินโดนว่าอีก…ไม่อยากให้พี่ต้องอายคนอื่นเพราะมีพายไปด้วย’
‘พี่ไม่อาย!แล้วนี่ตกลงจะไปได้ไหม ถ้าไม่!พี่ไปคนเดียวก็ได้’
มันเป็นความสัมพันธ์ที่คนอื่นเห็นแล้ว จะเข้าใจว่ามีแต่น้องฝ่ายคนเดียวเท่านั้นที่ติดพี่ เพราะพี่มักจะแสดงท่าทีรำคาญน้องเสมอเมื่ออยู่ต่อหน้าคนอื่น
แต่นั้นกลับไม่ใช่เรื่องจริงเลย…
เพราะเมื่อไหร่ที่น้องเริ่มท้อใจ และทำตัวเหมือนจะตีตัวออกห่างแล้วล่ะก็ คนเป็นพี่ก็มักจะหาเหตุผลต่างๆ นานา มาอ้างให้น้องอยู่เล่นด้วยทุกครั้งไป และก็มักจะเป็นแบบนั้นมาโดยตลอด
จนกระทั่ง…
ภาพที่เจ็บปวดที่สุดของความฝันก็เกิดขึ้น…มันคือภาพน้องที่มีรอยยิ้มอยู่เสมอแปรเปลี่ยนเป็นใบหน้าเศร้าหม่น และมันก็เป็นสถานการณ์ที่ทำให้น้องร้องไห้ออกมาอย่างคนใจจะขาด
เมื่อถึงเวลาที่ต้องจากกัน…
การจากกันที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดขึ้น…
‘ไม่ต้องร้องไห้…เดี๋ยวพี่จะกลับมาหานะ...’
‘ฮึก…ล…แล้วพี่วินจะกลับเมื่อไหร่…จะไปนานไหม’
‘พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่พี่สัญญานะ…พี่จะกลับมา…กลับมาหาเรา…เราจะรอพี่ไหม’
‘ฮึก…ได้..ค่ะ..พายจะรอพี่วินนะ…พี่วินต้องกลับมาหาพายนะ’
ภาพของเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ เอาแต่ยืนร้องไห้อยู่อย่างนั้น เป็นการร้องไห้ที่ทำให้เขาทนมองแทบไม่ไหว เพราะเขาเองก็ปวดใจไม่น้อยไปกว่าน้องเลย…
และนั้นก็เป็นความเจ็บปวดในความฝัน…
ที่ทำให้คนที่ฝันอยู่น้ำตาไหลริน…
*******
ไม่นานภาพในความฝันเหล่านั้นก็หายลับไป เมื่อคนคนฝันถูกปลุกด้วยเสียงสั่นเครือของโทรศัพท์ที่ดังขึ้นมากะทันหัน เสียงที่ทำให้ชายหนุ่มสะดุ้งตื่นจากฝันและรีบเดินออกมาจากห้องคนไข้อย่างเร็ว
เพราะกลัวว่ามันจะไปกวนคนป่วย…
เควินเดินออกมาภายนอกห้องพักของโรงพยาบาล ที่มีกระจกบานใสเห็นวิวตึกสูงของหลวงข้างนอกสุดลูกหูลูกตา ให้คนมองได้ชื่นชมความสวยงามของมัน แต่นั่นกลับไม่สามารถดึงดูดความสนใจของเควินเลยสักนิด เพราะตอนนี้จิตใจของเขาไม่ได้อยู่กับเนื้อกับตัวเท่าไหร่
ตอนนี้เขากำลังดำดิ่งอยู่ในความคิดของตัวเอง อย่างหาทางออกไม่ได้เลยต่างหาก
เกิดอะไรขึ้นกันแน่…
คิ้วหนาขมวดเข้าหากันอย่างคิดไม่ตก กับสิ่งที่พึ่งเกิดขึ้นเมื่อช่วงกลางวันที่ผ่านมา เพราะไม่ว่าจะคิดหาเหตุผลยังไงก็ดูไม่สมเหตุสมผลเลยสักข้อเดียว ที่การได้มาเจอกับใครบางคนในรอบหลายปี แล้วจะทำให้จำหน้าไม่ได้
เพราะครั้งแรกที่เขาเห็นเธอในรูปถ่าย…
เขาก็จำได้ทันที…ว่านั่นคือน้องของเขา
แต่ทำไมน้องถึงกลับจำเขาไม่ได้…
หรือว่าน้องจะลืมเขาไปแล้วจริงๆ
แต่มันจะเป็นไปได้ยังไงที่เธอจะจำคนที่โตมาด้วยกันไม่ได้ ถ้าบอกว่าเป็นเพราะการเติบโตเป็นผู้ใหญ่เลยจำไม่ได้ ก็ดูไม่น่าจะเป็นไปได้อีก…
ใช่ว่าหน้าตาของคนเรา…จะเปลี่ยนไปจนทำให้ไม่เหลือเค้าโครงเดิมจนจำไม่ได้หรอกน่ะ ยิ่งเคยผูกพันกัน ก็ยิ่งทำให้จดจำได้ง่ายมากขึ้นด้วยซ้ำไป
“เฮ้อ…”
สิ่งแรกที่ทำให้เขาอยากรู้และต้องรู้ให้ได้ในตอนนี้คือ…ทำไมน้องถึงจำเขาไม่ได้ และเขาก็จะหาความจริงให้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
เพราะหากว่าตอนนี้เธอจำเขาไม่ได้จริงๆ นั่นก็แปลว่าต้องเกิดอะไรขึ้นกับน้องในตอนที่เขาไม่อยู่แน่ๆ
ครืด ครืด…
ในระหว่างที่เอาแต่คิดจนหัวหมุนอยู่นั้น จู่ๆ เสียงโทรศัพท์ที่เคยดังขึ้นมาก่อนหน้านี้ที่เขากดรับไม่ทันก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง ครั้งนี้ชายหนุ่มก็รีบยกโทรศัพท์ขึ้นมาดูทันที เมื่อเห็นว่าเป็นใครที่โทรเข้ามาเขาก็ไม่รีรอที่ กดรับสายแทบจะทันทีทันใด
“ว่าไง…ได้เรื่องไหม”
ทั้งที่บอกตัวเองแล้วว่าจะไม่สืบเรื่องส่วนตัวของน้องมากกว่าการรู้ที่อยู่ของน้องในปัจจุบันเท่านั้นแล้วแท้ๆ แต่พอเอาเข้าจริงเขากลับทำไม่ได้
เพราะความอยากรู้ทำให้เขาเลือกที่จะต่อสายหาคนให้สืบเรื่องส่วนตัวของน้องด่วน หลังจากที่พาน้องมาส่งโรงพยาบาลได้ไม่นาน จนตอนนี้ก็ล่วงเลยมาหลายชั่วโมงแล้วที่เขาให้คนตามสืบ
“ยังไม่ถึงไหนเลยครับ…แต่ทราบเรื่องหนึ่งแล้วครับ”
“อะไร…”
แม้จะรู้ว่าการสืบประวัติส่วนตัวอย่างนี้เป็นเรื่องไม่ดี เพราะมันอาจจะทำให้น้องรู้สึกไม่ชอบใจในภายหลังได้ หากเธอรู้ว่าเขาแอบให้คนไปสืบประวัติของเธอมา…แต่เขาก็เลือกจะทำ
“แม่ของเธอพึ่งเสียครับ เสียไปได้ไม่นาน…ตอนนี้ผมกำลังหาอยู่ว่าเสียไปเพราะอะไร อ่อ…ยังมีอีกเรื่องครับ…บ้านที่เธอเคยอยู่ถูกขายให้คนอื่นไปแล้วครับ”
แม่เสีย…
ขายบ้าน…
นี่มันอะไรกัน…
ระหว่างที่เขาไม่อยู่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่...
ความคิดเห็น