คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : พบเจอเธอ
บทที่ 2
พบเจอ…
“เชิญทางนี้ได้เลยครับ”
ใช้เวลาเพียงไม่นานพนักงานก็พาเขามาส่งถึงห้องพักอย่างเรียบร้อย ซึ่งถือว่าเป็นการให้บริการได้เป็นอย่างดี ไม่เสียแรงเลยที่เขายอมเสียเงินลงทุนซื้อหุ้นของที่นี่ไปเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เป็นการลงทุนที่ไม่ได้ผ่านกระบวนการคิดวิเคราะห์ถึงกำไรทางธุรกิจเลยสักข้อเดียว
เพราะเขาไม่ได้หวังผลกำไรตั้งแต่แรกแล้วไงล่ะ…
เรื่องเงินไม่ใช่จุดประสงค์หลักของเขา…
เขาซื้อเพราะเหตุผลอื่นต่างหาก…
เมื่อได้เข้ามาอยู่ในห้องพักตามลำพังแล้ว ร่างกายของชายหนุ่มก็อ่อนล้าลงทันทีอย่างเห็นได้ชัด เพราะน่าจะเกิดจากการเดินทางที่ใช้เวลาอยู่เกือบครึ่งค่อนวันเลยกว่าจะถึงจุดหมายปลายทาง เมื่อได้เอนตัวลงบนเตียงนอนได้ไม่นาน เปลือกตาที่เปิดกว้างมาตลอดทั้งวันก็เริ่มหนักอึ้งขึ้นมาทันทีเช่นเดียวกัน
แล้วมันก็ปิดลงอย่างช้าๆ ไปตามกลไกของร่างกาย
แต่ยังไม่ทันจะได้เคลิ้มหลับดี…
จู่ๆ ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาขัดเสียก่อน…
กริ๊ง…กริ๊ง…
เป็นเสียงออดที่ดังขึ้นมาจากข้างนอกห้อง เสียงนั้นทำให้คนที่กำลังจะเคลิ้มหลับสะดุ้งตื่นขึ้นมาอีกครั้ง
เควินลุกขึ้นมานั่งก่อนสักพัก ก่อนที่จะฝืนร่างกายตัวเองลุกขึ้นยืนเพื่อจะเดินไปยังต้นตอของเสียงนั้นอย่างอยากลำบาก และเมื่อมาอยู่หน้าบานประตูใหญ่ของห้องแล้ว เขาก็ไม่รอช้าที่จะเปิดประตูทันที แม้ว่าเขาจะยังคงสะลึมสะลืออยู่ก็ตาม
“สวัสดีค่ะดิฉันเป็นพนักงานของโรงแรมนะคะ พอดีคุณลืมบัตรประชาชนไว้ที่ล๊อบบี้นะคะ”
และเมื่อเปิดประตูออกไปคนที่อยู่หน้าประตูก็เอ่ยพูดขึ้นมาทันที ยังไม่ทันที่เขาจะได้ตั้งสติดีเลยด้วยซ้ำ เพราะตัวเขายังไม่ตื่นดีเลย สมองจึงยังไม่สามารถประมวลผลได้ดีนัก และเขาก็แทบจะจับใจความคำพูดเมื่อสักครู่ไม่ได้เลยด้วยซ้ำไป
นั้นจึงทำให้เควินต้องเอ่ยถามออกไปอีกครั้ง…
“ครับ? ว่าไงนะครับ”
“เอ่อ…พ…พอดีคุณลืมบัตรไว้ข้างล่างค่ะ นี่ค่ะบัตร…เรียบร้อยดิฉันขอตัวก่อนนะคะ”
พนักงานสาวสะดุดคำพูดของตัวเองทันทีที่เธอได้เห็นหน้าคนในห้อง เนื่องจากตอนแรกเธอยังไม่ทันได้มองหน้าของชายหนุ่มดีเพราะรีบพูดไปหน่อย
แต่ตอนนี้เธอเห็นหน้าเขาแล้ว…
หน้าที่ทำเอาเธอตกใจจนทำอะไรไม่ถูก…
ร่างกายเองก็พลางชะงักกึกไปด้วยอย่างไม่มีเหตุผล…
เพราะเพียงแค่ได้เห็นหน้า เห็นแววตา และได้ยินเสียงทุ้มๆ ของชายหนุ่มตรงหน้าเท่านั้นเอง แต่มันกลับทำให้หัวใจของพนักงานสาวอย่างเธอใจเต้นแรงขึ้นมาอย่างไม่มีที่มาที่ไป
เธอตกใจอยู่สักพักเดียวแล้วก็รีบยื่นบัตรที่ถืออยู่ในมือส่งไปให้คนตัวสูงทันที เมื่อคิดว่าเสร็จหน้าที่แล้วก็รีบเอ่ยขอตัวไปทันที เนื่องจากไม่อาจทนมองใบหน้าของชายหนุ่มได้นานกว่านี้แล้ว
เพราะ…
ยิ่งมองใจก็ยิ่งเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ
จนเธอควบคุมอาการของตัวเองไม่ได้อีกแล้ว…
และเธอก็ไม่อยากให้ชายหนุ่มเห็นอาการแปลกๆ ของตัวเองด้วย
เควินที่พึ่งเรียกสติของตัวเองกลับมาได้ ก็เกิดอาการชะงักไปเช่นเดียวกันกับพนักงานสาวตรงหน้า เมื่อได้เห็นใบหน้าของเธอชัดๆ
และนั้นก็ทำให้เขายังไม่อยากปล่อยให้เธอไปไหน…
“เดี๋ยวก่อนครับ !”
คนที่ทำให้เขาตกใจเมื่อได้เห็นหน้า คือคนคนเดียวกันที่อยู่ในรูปที่เขาพกติดตัวมาด้วยตั้งแต่อเมริกา
เป็นรูปเก่าๆ ใบหนึ่งที่เขาไม่เคยคิดจะเอาออกมาดูเลยสักครั้งตั้งแต่ที่ได้มันมา เพราะมันเป็นรูปที่เขาเคยปฏิเสธจะรับมันมาจากน้องในตอนที่เธอเอามาให้เขา และก็เป็นรูปใบเดียวกันที่ทำให้น้องต้องร้องไห้เพราะเขาครั้งแรก
จนเขาต้องรีบวิ่งไปเอารูปนั้นมาจากน้องอีกครั้ง ด้วยเหตุผลที่ว่าไม่อยากปล่อยให้น้องร้องไห้คนเดียว เพราะโดยปกติแล้วน้องมักจะงอนเขาเชยๆ และถึงจะงอนแค่ไหนเขาก็ไม่เคยจะตามง้อน้องเลยสักครั้ง
ถ้าหากเธองอนหรือโกรธเขาเมื่อไหร่…
เจ้าตัวก็จะหายเองทุกครั้ง…
‘พี่วิน เก็บรูปนี้ให้ดีนะคะ’
‘จะอะไรนักหนา…ก็แค่รูปถ่ายใบเดียวเอง’
ใช่มันก็แค่รูปถ่าย…และมันก็มีแค่ใบเดียวด้วย แต่น้องก็ยังยอมสละให้เขา…ทั้งที่ตัวเองก็ชอบรูปนั้นมากๆ ชอบขนาดที่ยอมแลกกับบางอย่างเพื่อจะได้รูปมาเป็นของตัวเอง
‘ถ้าพี่วินไม่อยากได้…พายเอาคืนก็ได้ค่ะ’
‘เรื่องอะไรจะคืนล่ะ…ให้แล้วให้เลย และตอนนี้มันก็เป็นของพี่แล้วด้วย คิดจะมาอยากได้ทีหลังไม่ได้นะ’
เมื่อจบคำพูดนั้นแววตาเศร้าๆ ของน้องก็ถูกแทนที่ด้วยประกายความสุข ความดีใจ อย่างที่เขาคาดหวังจะได้เห็นขึ้นมาทันที
แม้จะไม่เคยง้อ…
แต่เขาก็รู้วิธี…
ที่จะทำให้น้องรู้สึกดีได้…
จำได้ว่า…ตอนนั้นเขาโกรธมากที่รู้ว่าน้องไปได้รูปมาจากไหน เพราะมันเป็นรูปที่ติดอยู่ที่บอร์ดของโรงเรียน รูปที่ครูพึ่งเอาไปติดไว้ได้ไม่ถึงวันหลังจากจบกิจกรรมกีฬาสี ทว่าคนน้องก็ไปเอามันมาโดยไม่ได้ขออนุญาตจากใครเลยทั้งสิ้น
ซึ่งนั้นก็แปลว่าน้องได้รูปมาจากการขโมย…
และนั่นก็เหตุที่ทำให้เขาดุด่าว่าน้องไปอย่างหมดความอดทนทันทีที่รู้ว่ารูปนั้นมาจากไหน เพราะเจ้าตัวเองเป็นคนบอกเขาด้วยตัวเอง บอกด้วยรอยยิ้มปลื้มปริ่มที่ได้มอบรูปนั้นมาให้เขา
และเธอก็ไม่รู้ตัวเลยสักนิดเดียว…
ว่าตัวเองกำลังทำความผิดอยู่…
และความไม่พอก็ทำให้เขามองข้ามความไร้เดียงสานั้นไป ถูกด้วยความรู้สึกผิดหวังและความโกรธเข้าแทนที่ จนเผลอตะคอกใส่น้องไปอย่างไม่เคยทำ จำได้ว่าตอนนั้นเขาตะคอกจนน้องตัวสั่นเท่าไปด้วยความกลัว แต่เขากลับมองข้ามสิ่งนั้นไปอย่างน่าละอายใจ
พอหลังจากดุด่าว่าน้องเสร็จแล้ว ตัวเขาตอนนั้นก็ยังอาสาลากคนตัวเล็กไปส่งถึงห้องปกครองเองอีกด้วย เป็นการพาไปแจ้งความผิดของน้องต่อครู เสร็จแล้วเขาก็ปล่อยทิ้งน้องอยู่ที่นั่นคนเดียวอย่างไม่ไยดี
จนกระทั่ง…วันนั้น
น้องก็หายไปจากสายตาของเขาเลยทั้งวัน
และมารู้ที่หลังว่าที่น้องหายไปเพราะโดนครูทำโทษ ที่เจ้าตัวยังคงยืนยันที่จะเอารูปใบนั้นมาให้ได้ ถึงขั้นยอมทำทุกอย่างเพื่อแลกกับรูปใบนั้นใบเดียว
เช้าวันใหม่หลังจากวันที่โดนทำโทษ คนน้องกลับเดินมาหาเขาด้วยรอยยิ้มอย่างปกติเช่นทุกวัน แล้วเจ้าตัวก็ยื่นรูปใบเดียวกันที่เป็นต้นเหตุให้เขาตะคอกใส่เสียงดังจนตัวสั่นไปหมด
แต่น้องกลับเดินมาหาเขาด้วยรอยยิ้มราวกับลืมเรื่องที่เขาทำให้เสียใจไปจนหมดสิ้น
ซึ่งการได้เจอกันเช้าวันนั้นก็ทำให้เขาได้เห็นรอยฟกช้ำ…ที่บริเวณหน่องขาของคนน้องด้วย มันเป็นรอยทางยาวที่มาจากการโดนตี ซึ่งมันก็น่าจะระบมและทิ้งความเจ็บปวดอยู่ไม่น้อยเลยล่ะ แต่อีกคนกลับไม่มีสีหน้าที่แสดงออกถึงความเจ็บปวดใดๆ ออกมาเลยสักนิด
แต่สิ่งเดียวที่เขาสัมผัสได้ภายใต้รอยยิ้มนั้น…
คือความอิดโรยจนล้าของน้อง…
ซึ่งนั้นก็ยืนยันได้ว่าสิ่งที่เขาได้ยินมาเป็นเรื่องจริง….
เรื่องที่คนทั้งโรงเรียนเอาแต่พูดต่อๆ กันเกือบตลอดทั้งวัน ว่าน้องไปขโมยรูปมาจนโดนครูทำโทษ และสั่งให้อยู่ทำความสะอาดโรงเรียนทั้งวันตั้งแต่เช้ายันเย็น
กระทั่งเสียงนินทานั้นเริ่มหนาหูมากขึ้นเรื่อยๆ มากจนทำให้เพื่อนๆ ของน้องเลือกที่จะถอยห่างจากน้องไป เพราะแค่ไม่อยากทนคบกับคนที่ได้ชื่อว่าเป็นหัวขโมย จากหนึ่งคนกลายเป็นสองคน ยิ่งนานเข้าก็ยิ่งมีเพื่อนใหคบน้อยลงเรื่อยๆ
จนกระทั่งไม่เหลืออีกเลยสักคนเดียว…
และนั้นกลายเป็นต้นเหตุที่ทำให้น้องเปลี่ยนไป…
จากคนที่ร่าเริง สนุกสนาน กลายไปเป็นคนเก็บเนื้อเก็บตัว พูดจาน้อยลง คอยหลบผู้คน ซ่อนตัว และไม่เอาตัวเองไปอยู่ในที่ที่มีคนเยอะอีกเลยหลังจากนั้นมา
กระทั้งเป็นเขาเองที่ไม่อาจทนมองได้…
จนทำให้เขายอมใจอ่อน…
และใจดีกับน้องตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา…
เขามักจะไปหาน้องทุกครั้งที่ว่าง พาน้องไปเล่นในกลุ่มเพื่อนของตัวเอง ชวนน้องกินข้าวเที่ยงด้วยกัน ไปกลับจากโรงเรียนด้วยกันทุกวัน และนั้นก็ทำให้เขากับน้องตัวติดกันไปโดยปริยาย
การตัวติดกันที่ส่งผลอย่างร้ายแรง เมื่อวันหนึ่งเราไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้อีกต่อไป
และถึงแม้เรื่องราวเหล่านั้นจะผ่านไปนานมากๆ แล้ว แต่มันกลับยังคงทิ้งความรู้สึกมากมายไว้ให้เขาอยู่จนถึงทุกวันนี้ ไม่เคยจางหายไปจากใจเขาได้เลย
ซึ่งการได้กลับเจอกันครั้งนี้ทำให้เขาได้เห็นความเปลี่ยนแปลงบางอย่างของน้องด้วย น้องที่โตเป็นสาวแล้ว…
โตเป็นสาวสวย…
จนแทบไม่เหลือเค้าโครงเดิมของเด็กผู้หญิงในอดีตอีกแล้ว…
“คะ? มีอะไรให้บริการหรือเปล่าคะ”
“พะพาย…”
พนักงานสาวที่ก้าวเดินออกไปได้เพียงไม่กี่ก้าวหยุดฉะงักไปทันทีที่ได้ยินชื่อของตัวเองถูกเอ่ยออกมาจากปากของชายหนุ่ม
ชายหนุ่มที่เป็นแขกคนสำคัญของโรงแรม ถึงแม้จะสงสัยกับสิ่งที่พึ่งได้ยินมากแค่ไหน แต่เธอก็ไม่ลืมที่จะเอ่ยออกไปตามหน้าที่ของพนักงานก่อน แล้วค่อยมาทวนคิดอีกครั้งว่า…
เขาเรียกชื่อของเธอได้อย่างไร…
หรือว่าจะรู้จักเธอ….
ไม่…ไม่มีทางเป็นไปได้ที่เขาจะรู้จักคนอย่างเธอ…
หรืออาจจะเห็นป้ายพนักงานบนเสื้อ ที่ทำให้เขาเรียกชื่อของเธอออกมา แต่มันจะดูแปลกมากเลยล่ะ เพราะว่าตั้งแต่ทำงานที่นี่มาก็ยังไม่เคยมีแขกคนไหนเรียกชื่อเพราะอ่านจากป้ายเลยสักครั้ง
แต่เขาไม่ใช่แขกคนธรรมดาๆ ทั่วไปสักหน่อย เธอพึ่งได้ยินจากเพื่อนร่วมงานข้างล่างว่าเขาเป็นถึงหุ้นส่วนคนใหม่ของที่นี่ บางที่นี่อาจจะเป็นเหตุผลที่เขาเรียกชื่อเธอก็ได้
เขาเรียกชื่อเธอ…
ในถานะที่เป็นเจ้านายของที่นี่…
ความคิดเห็น