ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    OS/SF BTS #บังทันฟิกชัน (kookv yoonmin vga namjin monhope)

    ลำดับตอนที่ #1 : The Full Moon /KookV/ 200%

    • อัปเดตล่าสุด 14 ก.ย. 60


    ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ full moon


    KEYWORD :: The Full Moon
    Part : KookV
    Writer : ชินจูอิสมี

    ปล.ยังไม่ได้ตรวจสอบคำผิดค่ะ คำไหนผิดบอกมาได้เลยนะจ๊ะะะ 


    8/20/2015

    ในคืนพระจันทร์เต็มดวงคืนนั้น เวลาเที่ยงคืน เขาก็ได้ยินเสียงหมาป่าพากันเห่าหอนอยู่นอกหน้าต่าง ชายผู้นั้นค่อยๆลุกจากเตียง เขาเปิดผ้าม่าน มองลอดออกไปทางหน้าต่างและทันใดนั้นเขาก็เห็นมนุษย์ที่กำลังจะกลายร่างเป็น....

    โอ๊ย พอเหอะ มึงแม่งไร้สาระชิบหายเลยไอ้จีมิน

    "มึงแม่งไม่เชื่อกูอีกแล้ว"

    "เออ โครตปัญญาอ่อนว่ะ"

    "ไอ้แท มึงไม่คิดจะฟังกูเล่าเรื่องบ้างเลยรึไง"

    "ชาบู"

    "ฮะ?"

    "ถ้ามึงเลี้ยงชาบูกูจะนั่งกินไปด้วยฟังไปด้วย ไม่ขัดมึงเลย"

    "แน่นะ?"

    "เออดิ พูดแล้วไม่คืนคำหรอกคนอย่างคิมแทฮยองอะ"

    "งั้นมึงฟังกูนะ วันนี้กูจะเล่าเรื่องมนุษย์หมาป่าเนี่ยแหละเว้ย พระจันทร์เต็มดวงพอดี…"

                เสียงของจีมินเริ่มแผ่วลงตอนประโยคหลังๆ แต่ถึงอย่างนั้นแทฮยองก็ไม่ได้สนใจ เขาเบื่อที่ต้องมาฟังตำนานบ้าบองี่เง่าจากเพื่อนสนิทตัวเองทุกวันแล้ว ใบหน้าหวานก้มหน้าเล่นโทรศัพท์แล้วหัวเราะคิกคักไม่สนใจปาร์คจีมินที่กำลังจะอ้าปากเล่าเรื่องต่อไป



    ร้านชาบู๋


    ทั้งสองพานั่งเถียงกันขณะสั่งอาหารอันโอชาที่ส่งกลิ่นหอมไปทั่วร้าน

    "มึงขนาดนี้เลยเหรอวะ"

    "อ้าว ก็มึงบอกจะเลี้ยง กูต้องจัดชุดใหญ่สิ"

    "แต่…"

    "เอาชุดจัมโบ้ครับ"
                แทฮยองหันไปบอกพนักงานหญิงโดยที่ไม่สนใจจีมินที่กำลังทำหน้ามุ่ยอยู่ตอนนี้ แต่หลังจากที่อาหารมาเสริฟปาร์คจีมินกลับเป็นคนที่นั่งกินไม่พูดไม่จาสักคำ เผลอๆกินเยอะกว่าเขาอีกล่ะมั้งเนี่ย

    "อดอยากมาจากไหนครับคุณปาร์คจีมิน"

    "มึงอย่าเพิ่งพูด กูเคี้ยวหมูอยู่"

    "-__-"

    "อะ..ว่าไง"

    "ไหนบอกจะเล่าเรื่อง"

    "เออว่ะ ต่อจากที่มึงขัดกูเลยอะนะ"

    "แล้วแต่ ไม่เล่าก็ได้นะ กินเหอะ"

    "เล่าดิๆ เดี๋ยวมันไม่คุ้ม"

    "ว่า?"


    "ชายคนนั้นเห็นมนุษย์คนหนึ่งซึ่งเขากำลังกรีดร้อง มีเสียงโหยหวนและเสียงเห่าหอน ฟัน เล็บมือ เล็บเท้า ฝ่ามือ ร่างกาย กำลังจะแปรเปลี่ยนสภาพเป็นดั่งหมาป่า ใบหูเริ่มเล็กและเรียวแหลมขึ้น"

    จีมินเล่าต่อ

    "ดวงตาเปลี่ยนเป็นสีแดง และเขาก็กลายร่างเป็นหมาป่าโดยสมบูรณ์แบบ"

    "จบยัง?"

    "ไม่ๆ ยังไม่จบแค่นั้น หมาป่าตนนั้นไม่วิ่งเข้าป่าไปแต่กลับหันมาทางประตูหน้าต่างของชายคนนั้นที่กำลังแอบดูเขาอยู่ ชายหนุ่มตกใจมาก เขารีบปิดม่านตามเดิม ก้าวถอยหลังจากหน้าต่าง ตัวสั่นเทา และเสียงก็เงียบไปพักหนึ่ง เขาคิดว่าเขาคงรอดแล้วจึงค่อยๆเดินไปยังหน้าต่างและส่องดูอีกครั้ง"

    "แล้ว???" คนฟังเริ่มกรอกตามองบน

    "ทันใดนั้นเองก็มีเสียงดังเพล้ง มันเป็นเสียงของกระจกหน้าต่างนั่นเอง หมาป่าตนนั้นกระโดดใส่กระจกเข้าหาชายหนุ่ม ด้วยความกระหายเลือด มันกระชากชายหนุ่มเข้าใกล้ตัวเอง ฉีกร่างเขาเป็นชิ้นๆ กินเลือดและเนื้อมนุษย์จนหมดเกลี้ยงจบ"

    "เหอะ อย่ามาทำเป็นรู้ดี เล่าซะอย่างกับมึงเป็นหมาป่านั่น"
    "…"
    ปาร์คจีมินเงียบไปอย่างถนัดตา แววตาเดาได้ยาก ไม่มีใครรู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่หรอก

    "อิ่มรึยัง? มึงจ่ายตังค์ได้ละ" แทฮยองถามอีก
    "เออๆ"


    หลังจากที่ชำระเงินค่าอาหารเรียบร้อยแล้ว แทฮยองกับจีมินก็เดินย่อยกันสักพักก่อนจะถึงเวลากลับ

    "เออไอ้หมู วันนี้กูไปนอนกับมึงได้มะ"

    "เฮ้ย! ไม่ได้ๆๆๆๆ!"
    คนถูกถามปฏิเสธยกใหญ่

    "อ้าว ไมวะ ปกติมึงอยากให้กูไปนอนด้วยนี่นา"

    "มึงห้ามมาเด็ดขาด! ห้ามมาหากูวันนี้ โดยเฉพาะตอนดึกๆ"

    "อะไรวะ? หรือมึงซุกสาวไว้"

    "ไม่ใช่โว้ย ยังไงวันนี้มังก็ห้ามไปที่คอนโดกู!"
    ว่าจบจีมินก็พาขาสั้นๆเดินหนีแทฮยองไป ปล่อยให้อีกคนงงกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น


    "มึงก็รู้ว่ากูเป็นคนขี้เสือกอะไอ้จีมิน กูไม่พลาดแน่:)"


    คอนโดจีมิน
    เวลา 22:00 น.

    เอาล่ะ สัมภาระครบพร้อมหมดแล้ว ตอนนี้ผมมายืนอยู่หน้าคอนโดไอ้จีมินแล้วล่ะครับ ไม่รู้ว่าทำไมถึงต้องไม่อยากให้เขามาขนาดนั้น สายเสือกเตรียมพร้อม ฮี่ๆ

                ด้วยความที่ผมมาบ่อยครั้ง ยามเลยจำหน้าได้ ยื่นกุญแจสำรองห้องไอ้หมูให้ผมเฉยเลย ห้องมันอยู่ชั้น3ครับ แต่บันไดแคบ เดินขึ้นมานี่โครตเหนื่อย ไอ้หมูมันเดินทุกวันน้ำหนักมันไม่ลดเหรอ เห็นอ้วนขึ้นแทบทุกวัน..

    หลังจากที่ผมหอบร่างสังขารตัวเองมายังชั้น3แล้วผมก็มายืนอยู่หน้าห้องแล้ว จิเป็นลม! วางของไว้หน้าห้องจีมินก่อนจะ..

    ก๊อก ก๊อก
    เคาะห้องมันหน่อยละกันครับ

    ก๊อก ก๊อก ก๊อก

    ….

    เงียบ..

    ฟึ่บ!

    อะไรวะ!?
    มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมา ผมหันรีหันขวางก็ไม่เห็นใครสักคน

    พรึบ!

    "ไอ้เวร!..อุ๊บ"

    อยู่ดีๆก็มีคนมาล็อกคอผมไว้ แถมยังปิดปากซะด้วย เหี้ยแม่ง!! ผมดิ้นสุดฤทธิ์แต่มันก็ไม่ปล่อยสักที

    จึ้ก..

    ภาพสุดท้ายที่คิมแทฮยองเห็นคือบุคคลปริศนาคนนี้เอาเข็มฉีดเข้าที่แขนของเขาก่อนที่ความมืดจะเข้ามาแทนที่

    .
    .



    9/29/2015

    งึมม~~
    ผมค่อยๆลืมตาขึ้น เห็นแสงสว่างส่องแยงมาในตา อาทำไมมันไม่มีเรี่ยวแรงขนาดนี้กันนะ อย่างกับคนไม่ได้กินข้าวมาเป็นเดือนอย่างนั้น 

    หิว

    หิวข้าว..

    หิวน้ำ….

    ร่างบางยันตัวเองลุกขึ้น กระพริบตาถี่ๆให้ตนเองมองเห็นอะไรๆได้ชัดเจนขึ้นแต่เขากลับรู้สึกเหมือนหมดแรง ไม่มีแรงแม้แต่จะหายใจ….

    ใช่แล้ว..เขาจำได้ว่าโดนลักพาตัวมา….และจนถึงตอนนี้เขาก็เพิ่งตื่นขึ้นจากฤทธิ์ยา. ตอนนี้เขาอยู่ที่ไหนสักแห่ง มันเป็นห้องสีขาว มีเตียงที่เขานอนอยู่ หน้าต่างหนึ่งบานและประตู

    แอ๊ดด

    "ตื่นแล้วเหรอ?"

    "…?"

    "หลับไปเป็นเดือนเลยนะนายน่ะ"

    "อะไร.."
    เมื่อแทฮยองเปล่งเสียง เขาก็ได้ยินชัดว่าเสียงเขามันแหบแห้งแค่ไหน แค่พูดก็ยังเจ็บ

    "ดื่มน้ำก่อน"
    ชายหนุ่มคนหนึ่งที่เดินเข้ามาในห้องยื่นขวดน้ำให้

    แทฮยองลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ช่างมันเถอะ ดีกว่าเขาอดตายอยู่ตรงนี้ ร่างเล็กนับขวดน้ำมา เปิดฝาแล้วดื่มน้ำเข้าไปจนหมดขวด ค่อยยังชั่วขึ้นมาหน่อย….

    "นาย..เป็นใคร?"

    "หึ ..จอนจองกุก"

    "จองกุก? ผมมาอยู่นี่ได้ไง? นายต้องการอะไร"

    "แทฮยองฉันต้องการนาย แทฮยอง..;) "

    "นายรู้ชื่อฉันได้ไง?! แล้วหมายความว่าอะไร!"
                แทฮยองงงงวยกับสถานการณ์ตอนนี้เป็นอย่างมาก เขาไม่รู้ ไม่รู้อะไรสักอย่าง

    "เอาเป็นว่าฉันต้องการนายเป็นพอ คิมแทฮยอง;)"
    ว่าจบร่างสูงก็เดินออกจากห้องไป

         สักพักก็มีคนเข้ามาใหม่แต่ไม่ใช่จอนจองกุก ผู้ชายตัวเล็กๆผอมแห้งเดินถือกล่องข้าวมาให้เขาและออกจากห้องอย่างรวดเร็ว


    ….ทำไมชีวิตเขาต้องมาเจอกับอะไรแบบนี้ด้วยนะ

    แทฮยองคิดถึงที่บ้าน.. เขาคิดถึงพ่อ แม่ จีมินด้วยป่านนี้จีมินจะเป็นยังไงนะ


    100%

    (อัพจบที่ 200% ค่ะ) 

     

     

    10/13/2015

    แอ๊ดดด
    เจ้าของใบหน้าสวยค่อยๆเปิดประตูพลางชะโงกมองคนที่อยู่ข้างนอกห้อง

    .....ไม่มีใคร ข้างนอกไม่มีใครงั้นเขาก็หนีได้ใช่มั้ย ฮี่ๆ


    เขาเพิ่งออกมาจากห้องเหลี่ยมๆแคบๆสีขาวนั้น จริงๆก็แอบออกมาล่ะว่ะ หันซ้าย หันขวา ..ไม่มีใครก็ทางสะดวกแล้วโว้ย

     

    ร่างบางเพิ่งสังเกตภายในตัวบ้าน เป็นบ้านหลังใหญ่โตมากไม่ใช่สิคฤหาสน์เลยต่างหาก ข้าวของเครื่องเรือนดูมีราคาแพงไม่น้อย กลัวว่าจะซุ่มซ่ามไปพลัดอะไรตกแตกเข้าสักอย่างนะ เดี๋ยวๆนี่ไม่ใช่เวลาสำรวจบ้าน มันคือเวลาหนี!


    แทฮยองรีบพุ่งไปยังประตูบานใหญ่ของคฤหาสน์ ทว่า...


    จะไปไหน
    เสียงทุ้มก็เรียกให้เขาชะงักเท้า จอนจองกุก???


    เอ่อ ไปข้างนอกน่ะ


    ห้ามออกไปข้างนอก
    คนตัวเล็กถอดสีหน้าลงอย่างเห็นได้ชัด หันไปเผชิญหน้ากับอีกคนซึ่งเป็นจองกุกจริงๆ


    ทำไมฉันไปไม่ได้


    มันอันตราย


    อันตราย? อันตรายที่ว่านี่ยังไงล่ะ จะมีฝูงแร้งอยู่ข้างนอกเหรอ-__-”


    ประมาณนั้นและร้ายแรงกว่านั้น


    มีอะไรร้ายแรงกว่านายอีกงั้นเหรอ??”


    "อยากจะรู้ไหมล่ะว่าฉันร้ายยังไง แทแท;)" 
    ร่างสูงค่อยๆเดินเข้ามาใกล้คนตัวเล็กกว่ามากขึ้น แทฮยองรีบถอยหลังกรูดตามสัญชาตญาณ

     

    จองกุกเดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆจนแผ่นหลังของแทฮยองชนกับผนัง

     

    ร่างหนายังไม่วายหยุดขยับตัวเข้าใกล้พร้อมกับเลื่อนใบหน้าลงมาพอดีกับระดับใบหน้าของอีกคน แขนแกร่งกักขังแทฮยองไว้ ลมหายใจเย็นยะเยือกรินรดต้นคอของเจ้าของใบหน้าสวย หัวใจของแทฮยองเต้นไม่เป็นส่ำ สีแดงระเรื่อลามจากใบหน้าจนถึงหู

     

    จอนจองกุกแลบลิ้นเลียงับใบหูของคนใต้ร่าง ทำเอาแทฮยองตัวสั่น เขาทั้งกลัวและรู้สึกดีอย่างประหลาด        ไม่นานนัก'คนกระทำ'ก็ค่อยๆผละออกมาทว่าใบหน้าคมก็ยังไม่ได้เคลื่อนห่างจาก'คนถูกกระทำ'ไปไหน สบตากับแทฮยองแล้วพูดด้วยน้ำเสียงแหบพร่า

     

    "อย่าออกไปข้างนอก อยู่ในห้องและอย่าพูดคุยกับใครเพื่อตัวของนายเอง"
    ว่าจบร่างสูงก็ปล่อยร่างบางจากพันธนาการแล้วเดินหนีขึ้นบันไดเข้าไปในห้องของตัวเองอย่างรวดเร็ว

     

    ปัง!
    เสียงปิดประตูห้องของจองกุก

     

    ทำไมเขาต้องรีบขึ้นไปบนห้องขนาดนี้กันนะ มีเรื่องด่วนเหรอ? แทฮยองคิด แล้วทำไมถึงต้องห้ามนู่นห้ามนี่เขาด้วย น่าหงุดหงิดชะมัด

     

    ตึกตักตึกตัก

    ไอ้หัวใจบ้านี่ด้วย ทำไมยังไม่หยุดเต้นแรงกันอีกนะ!

     

     

     

     

    10/14/2015

    ผมออกมาเดินสำรวจตัวคฤหาสน์โดยที่ไม่คิดจะฟังคำของจองกุกเลย ห้องขัง(?)ของผมอยู่ใกล้กับห้องโถงใหญ่ ภายในห้องโถงประดับประดาไปด้วยแจกันสีใสใส่ดอกกุหลาบสีแดงสด น่าแปลกที่แจกันสีใสพวกนั้นไม่ได้ถูกใส่น้ำทว่ากุหลาบก็ยังสดอยู่ตลอดเวลา บางทีมันอาจจะถูกดัดแปลงพันธุ์ก็ได้ ตลอดทางเดินมีกรอบรูปสีทองติดเรียงรายกันแต่มันก็มีแค่กรอบรูป---ปราศจากรูปภาพใดๆ—


    พลันนั้นผมก็เหลือบไปเห็นพ่อบ้านใช่รึเปล่านะ? น่าจะใช่แล้วล่ะ รูปร่างของเขาดูผอมสูง แต่น่าจะออกไปทางผอมแห้งมากกว่านะ ผมหยักศก ดวงตากลมสีแดงอ่อนๆกำลังจ้องมองไม้ขนไก่ในมือของตัวเองที่กำลังปัดกวาดชัดถูแถวๆตู้กระจกหรูหลังเก่า

     

    "ทำอะไรอยู่เหรอครับ"
    คิมแทฮยองโพล่งถามไปโต้งๆจนคนได้ยินเสียงถึงกับสะดุ้ง

    "ทำความสะอาดน่ะ"
    ชายผู้นั้นตอบด้วยเสียงสั่นๆก่อนที่เขาจะยกมือขึ้นมาปิดจมูก

     

    "เป็นอะไรรึเปล่าครับ?"
    ใบหน้าหวานถามด้วยความเป็นห่วงพร้อมกับค่อยๆเดินเข้าไปใกล้พ่อบ้าน

     

    "ม..ไม่อย่าเข้ามานะครับคุณหนู!!!"

     

    คุณหนู?????

    เขาเป็นคุณหนูตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย อีกอย่างเขาเป็นผู้ชายไม่ใช่เหรอ มาเรียกเขาว่าคุณหนูทำไมกัน

     

    "โอเครึเปล่าครับ?"
    แทฮยองเดินเข้าไปใกล้เขามากขึ้น มือเรียวยกขึ้น เอาหลังมือแตะเข้าที่หน้าผากของบุคคลตรงหน้าเขา ทันใดนั้นเองพ่อบ้านคนนั้นก็ปัดมือของเขาทิ้งลงอย่างฉับพลัน

     

    "ขอร้อง กรุณาอย่ามายุ่งกับผมครับ"
    พูดจบก็ปล่อยไม้ขนไก่ในมือลงแล้วเดินหนีแทฮยองไปอย่างเร่งรีบ ปล่อยให้ร่างเล็กงุนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น

     

    เขาไม่นึกโกรธคุณพ่อบ้านหรอกนะที่ปัดมือเขาทิ้งเสียอย่างนั้น แต่เขาสงสัยมากกว่า..ตั้งแต่มาที่นี่มีคนหนีเขาสองครั้งแล้วนะทั้งจองกุกแล้วก็พ่อบ้านคนนี้

     

    "ฉันบอกนายว่ายังไง'คิมแทฮยอง' "
    เสียงทุ้มนุ่มลึกแสนคุ้นหูดังขึ้นที่ด้านหลังของแทฮยอง 


    คนตัวเล็กผงะไปชั่วครู่ก่อนจะก้าวถอยหลังจนตัวเองรู้สึกว่าชนกึกเข้าที่แผงอกหนาของใครบางคนที่โผล่พรวดพราดเข้ามาในห้องโถง


    "อ๊ะ" ร่างบางร้องขึ้นเมื่อแขนแกร่งโอบรอบลำตัวเขาไว้จากด้านหลัง


    "อยากโดน'ลงโทษ'เหรอครับ"
    จองกุกเอ่ยแล้วก้มหน้าลงไปไซ้ดมกลิ่นหอมอ่อนจากซอกคอของแทฮยอง

    "อา…"
          เสียงหวานครางเล็ดลอดออกมาจากในลำคอ ร่างสูงยังคงง่วนอยู่ที่ซอกคอของอีกฝ่ายอยู่อย่างนั้น พลางแลบลิ้นเลียจนร่างบางตัวสั่นเทิ้ม เริ่มทรงตัวไม่อยู่ ต้องเอนกายไปพึ่งพิงจองกุกไว้ให้ตัวเองทรงตัวยืนเพราะตอนนี้ทั้งตัวของเขาอ่อนระทวยไปหมด

    "อื้ออ"

    แทฮยองไม่อาจปฏิเสธสัมผัสที่ฝ่ายตรงข้ามมอบให้ เขายอมแล้วจริงๆ

    จองกุกปล่อยกอดแทฮยองแล้วจับตัวอีกคนพลิกหันหน้าเข้าหาตัวเอง คว้าไหล่ทั้งสองข้างของคนตัวเล็กเอาไว้ จัดการโน้มใบหน้าเข้าไปใกล้

          ป้อนสัมผัสนุ่มนวลจากริมฝีปากให้ร่างบาง กดย้ำๆเพื่อเป็นการขออนุญาตรุกล้ำเข้าไปในโพรงปากหวานของอีกฝ่าย แทฮยองต้องการอากาศหายใจจึงเผลอไผลเผยอปากให้เป็นโอกาสของจองกุกที่จะจัดการสอดแทรกลิ้นเข้ามา

     

    "อื้มมม"

    "แฮกๆ…"

     

          วาดตวัดอย่างช่ำช่องจนร่างเล็กสั่นสะท้านและเผลอครางอื้ออึงในลำคอ แทฮยองเริ่มตอบสนองร่างสูงโดยการแลกเล่นลิ้นกลับบ้าง

     

    ไม่ได้

     

    ห้าม

     

    อย่านะ….

     

    นี่คือสิ่งที่จอนจองกุกทวนมันไปมาอยู่ในหัว ใจหนึ่งเขาก็ทนไม่ไหวกับร่างเล็กที่อยู่ตรงนี้ อีกใจหนึ่งมันสั่งให้เขาหยุดก่อนที่ทุกอย่างมันจะสายเกินไป

     

     

    ฟึ่บ!!!

    ร่างหนาดึงตัวเองออกมาจากห้วงภวังค์ เขาทำแบบนั้นไม่ได้…. เขาไม่ควร…. ปล่อยคิมแทฮยองให้เป็นอิสระก่อนที่ตัวเองจะถอยไปชนกับราวบันไดเข้าอย่างจัง

     

    ตึง!!!

    "จ..จองกุกเป็นอะไรมั้ย!?"
    แทฮยองถลาเข้าไปหาร่างสูง

     

    "ไม่!"
    จองกุกตอบในทันทีและเบี่ยงปัดความเป็นห่วงของเจ้าของใบหน้าสวยที่ตอนนี้ดูร้อนรนกว่าเขาเสียอีก

     

    "อะ..เอ่อขอโทษ"


    "…"

     

    "ถ้านายไม่ชอบ…"


    "ไม่ได้ไม่ชอบ"


    "แล้ว?"

     

    "เดี๋ยวจะควบคุมตัวเองไม่ได้"


    "ควบคุมตัวเอง?"


    "อยากโดนลงโทษอีกไหม"


    "อะ..ไม่-///-"

     

    "งั้นก็อย่ามาใกล้อีก"


    "ทำไม"


    "ถ้านายถามอีกประโยคเดียว ฉันจะ'กิน'นายตรงนี้ คิมแทฮยอง"


    "อื้มม..ไม่ถามแล้ว"

    ใบหน้าคมกระตุกยิ้มอย่างร้ายกาจก่อนจะเดินขึ้นห้องตัวเองไปอย่างฉับไว

     

     

    แทฮยองหน้าร้อนผ่าวอยู่ตรงนั้น

     

    ยกยิ้มที่มุมปากนิดหน่อย

     

    จอนจองกุกทำอะไรเขาเนี่ยยย!!!!!

    -///-

     

    นับตั้งแต่นั้นมาแทฮยองก็เห็นจองกุกเดินไปเดินมาในคฤหาสน์อยู่ตลอด ร่างสูงคอยดูแลเขา แถมยังลงไปในครัวทำอาหารให้เขากินอีกแหน่ะ คนตัวเล็กแทบจะไม่เห็นพ่อบ้านแม่บ้านอีกเลยตั้งแต่คนนั้นที่แทฮยองเข้าไปถามไถ่เขา เขาอยากจะขอโทษนี่นา วันนั้นเขาทำอะไรผิดไปรึเปล่า?

     

    อ้อ! มีวันหนึ่งที่เขานั่งฟังวิทยุอยู่ จู่ๆเสียงหัวเราะก็ดังมาจากข้างตัวด้วยนะ เป็นจอนจองกุกล่ะ มานั่งฟังวิทยุกับเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ เวลาจองกุกยิ้มแล้วโลกมันสดใสจังเลยวะครับ

    อีกอย่าง จองกุกไม่เห็นน่ากลัวตรงไหนเลย ขี้เก๊กไปงั้นแหละ :P

     

     

     

     

    10/20/2015

     

    แทฮยองมาเดินวนรอบคฤหาสน์หลังใหญ่อีก

     

    น่าเบื่อชะมัด

     

    บางทีเขาควรออกไปข้างนอกดีไหมนะ?

     

    วันนี้จองกุกไม่อยู่พอดี เขาลอบมองผ่านหน้าต่างห้องมาแล้ว  หมอนั่นออกไปข้างนอกตั้งแต่เช้าตรู่

     

    เอาเหอะ จองกุกไม่เห็นร้ายสักหน่อยนี่ คำพูดพวกนั้นก็คงจะเป็นแค่ลมปาก ขู่ฟ่อๆเขาเอาไว้แค่นั้นแหละ

     

     

     

    ตึก ตึก ตึก

     

    แค่เดินเบาๆเสียงเดินก็ดังก้องสะท้อนไปทั่วบริเวณหน้าคฤหาสน์ คิมแทฮยองเริ่มตัวสั่น ยกมือปิดจมูกให้กับกลิ่นไม่พึงประสงค์

     

     

    ….กลิ่นคาวเลือดและกลิ่นศพ..

     

    มันส่งกลิ่นน่าสะอิดสะเอียนไปทั่ว

     

    'อันตราย? อันตรายที่ว่านี่ยังไงล่ะ จะมีฝูงแร้งอยู่ข้างนอกเหรอ-__-'


    'ประมาณนั้นและร้ายแรงกว่านั้น'

     

     

    ใช่ร้ายแรงกว่าฝูงแร้งซะอีก

     

    กลัว….เขากำลังกลัว เขาอยากกลับบ้านสักที อยากให้ที่นี่เป็นแค่ฝันร้าย

     

     

    ร่างเล็กตั้งสติตัวเองอีกครั้งก่อนจะเดินออกมาจากตัวคฤหาสน์เรื่อยๆ ข้างทางมีต้นไม้ แปลงดอกไม้สีสันหลากสีส่งกลิ่นหอมแต่มันก็ยังกลบกลิ่นคาวเลือดและกลิ่นศพไม่ได้อยู่ดี กลิ่นพวกนั้นยังคงทำงานของมันและดูเหมือนว่าจะส่งกลิ่นแรงขึ้นเรื่อยๆเมื่อแทฮยองเดินมาหยุดอยู่ที่ประตูรั้วบานใหญ่ มือเรียวเปิดมันออก พาตัวเองเดินออกมาจากคฤหาสน์หลังใหญ่

     

    เขาคิดถูกแล้วใช่ไหมที่ออกมาแบบนี้

     

    คิมแทฮยองเดินมายังหมู่บ้าน หมู่บ้านนี้เป็นบ้านที่สร้างด้วยไม้ทั้งหมด มีผู้คนเดินกันให้วุ่น เขาว่าคงไม่มีใครเห็นเขาหรอก เว้นแต่เสียว่า-----

     

    "กลิ่นมนุษย์?"


    "เขาเป็นมนุษย์อย่างนั้นหรือ"


    "ถ้านำไปขายต้องรวยมากแน่ๆดูสิ"


    "เราต้องรีบนะ จับเขาไว้ก่อนที่'พวกนั้น'จะมานะ"


    "แล้วมนุษย์นี่มาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร"

     

    ผู้คนเริ่มซุบซิบกัน สายตานับสิบมองคิมแทฮยองกันเป็นตาเดียว

     

     

    มนุษย์???
    อะไรวะ ทุกคนที่นี่ก็เป็นมนุษย์เหมือนกันนี่นา

     

     

    "หอมเลือดชิบหายเลยว่ะ"


    "อาหารมื้อใหญ่เลยนะนั่น"


    "อยากจะฆ่าซะเดียวนี้เลย"

     

     

    ร่างบางเหงื่อตก เขาอยู่ที่ไหน? ทำไมคนพวกนี้ต้องอยากจะฆ่าเขาด้วย???
    แทฮยองเริ่มเร่งฝีเท้าขึ้น เขาอยากจะออกไปจากที่นี่ เขาอยากกลับบ้าน!

     

     

     

    ฟรึ่บ!!!

    "โอ๊ย!" ขณะนั้นเองก็มีคนเข้ามากระชากตัวเขาให้ล้มลงกับพื้นดินพร้อมกับสิ่งหนึ่งที่กำลังกระโจนใส่เขา
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    ….นัยน์ตาสีแดงฉาน ใบหูเล็กเรียวแหลม คมเขี้ยวที่เผยอออกมาทุกครั้งที่ครางขู่เหยื่อ น้ำลายเปรอะเต็มหน้ามนุษย์ใต้ร่าง เล็บยาวจิกเข้าที่แขนทั้งสองข้างของแทฮยองจนมีเลือดซึมออกมาและไหลมาไม่หยุด 
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .

    .
    หมาป่า!?!?

    แทฮยองไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองเลยจริงๆ ความรู้สึกเจ็บแปล๊บที่แขนแล่นเข้ามาในหัวแต่ร่างบางก็นอนนิ่งอึ้งอยู่อย่างนั้น


    เสียงของผู้คนในละแวกนั้นเงียบลงไปถนัดตา ไม่มีใครปริปากพูดออกมาสักคำ

     

     

     

    เขาต้องตายจริงๆเหรอ..

     

    เขามีชะตาชีวิตเพียงเท่านี้จริงๆใช่มั้ย

     

    พระเจ้ากำหนดให้เขาต้องตายวันนี้แล้วงั้นเหรอ..

     

    ไม่เป็นไร

     

    ไม่เป็นไร

     

     

    ถ้าหากมันเป็นกรรมเขาก็จะรับมันไว้เอง

     

     

     

     

    ทว่าหมาป่าตนนี้ไม่ได้จะฆ่าเขามันกลับจับตัวเขาโยนพาดหลังมันไว้แล้วเริ่มออกวิ่งทันที

     

    คิมแทฮยองรับรู้แค่เพียงแต่ว่าเขากำลังอยู่บนหลังของหมาป่าตัวใหญ่กว่าหมาป่าทั่วๆไปเท่าตัว ความเจ็บที่แขนส่งผลให้ทั้งร่างกายแทบจะไม่มีแรง ทำได้เพียงแต่นอนบนหลังของหมาป่าอยู่อย่างนั้น ไม่กล้าขยับไม่กล้าแม้แต่หายใจ

     

    ทำไมมันไม่ฆ่าแล้วกินเขาซะล่ะ?

     

    จองกุก….

     

    จอนจองกุกช่วยด้วย……..

     

    ขอร้องเถอะนะ จองกุก..

     

     

     

     

    ลานรวมตัว 
    19:00 น.

     

    เสียงจ้อกแจ้กจอแจดังระงมไปทั่วลานรวมตัว ทุกคนต่างสงสัยว่าเพราะเหตุใด'เจ้าเมือง'ถึงเรียกพวกเขามารวมตัวกันที่นี่ เพราะร้อยวันสองปีแล้วที่เจ้าเมืองไม่ได้เรียกพวกเขามาเลยหากไม่มีความจำเป็นใดๆหรือจะมีการประหารเกิดขึ้น

     

    "อะแฮ่ม…..เอาล่ะๆ เงียบกันได้แล้ว"
    เสียงของบุคคลที่ออกมายืนจุดศูนย์กลางลานรวมตัวทำให้ทุกคนหันไปมองเขา เสียงต่างๆรอบตัวค่อยๆหายไปจนเงียบกริบ

     

    "รู้ไหมว่าวันนี้เราจะทำอะไรกัน"

     

    "ประกาศทำสงคราม?"


    "ประกาศอพยพ?"


    "ประหาร?"


    พวกเขาเริ่มออกความคิดเห็นกันจนเจ้าเมืองหัวเราะร่วนแล้วเปล่งเสียงแหบแห้งออกไปว่า

     

    "วันนี้จะมีการบูชายัญ"

    แค่เพียงประโยคเดียวสั้นๆ เสียงก็ฮือฮาระงมไปทั่ว พวกเขาชักจะสนุกแล้วสิ เจ้าเมืองไม่เคยทำพิธีนี้เลยนี่นา

     

    "เราจะบูชายัญเพื่อท่าน Lycaon"
    เจ้าเมืองกล่าวต่อ

     

    "เพื่อท่าน Lycaon"
    "เพื่อท่าน Lycaon"
    "เพื่อท่าน Lycaon"

     

    พวกเขาต่างพากันตะโกนสรรเสริญ

     

    สรรเสริญใครน่ะเหรอ

     

    Lycaon..

     

     

    "เราจะใช้มนุษย์เป็นเครื่องสังเวย"

    เสียงพูดคุยกันดังขึ้นไปอีก บ้างเห็นด้วย บ้างประหลาดใจ บ้างก็ไม่พอใจ ไม่เห็นด้วย

     

    มนุษย์น่ะ หาอยากจะตาย ขืนปล่อยให้เป็นแค่สิ่งที่โดนสังเวยไปก็ไม่สนุกน่ะสิ ของแบบนี้ต้องมีการประมูลไปสักหน่อยแล้วล่ะมั้ง

     

    "เอาเขามา"
    เจ้าเมืองหันไปสั่งบริวารที่ยืนเรียงกันอยู่

     

    ไม่นานนักบริวารของเจ้าเมืองก็พาตัวคนๆหนึ่งฝ่าฝูงชนเข้ามานั่งคุกเข่ากับพื้นดินของจุดศูนย์กลาง

     

     

    คิมแทฮยอง….

     

    ในสภาพที่ดูไร้เรี่ยวแรง

     

    แขนทั้งสองข้างเปื้อนเลือดที่แห้งแล้ว ทว่าแผลก็ยังไม่แห้งดี ร่างสั่นเทา แววตาหวาดหวั่นลอกแลกมองผู้คนที่พากันจ้องมองเขาราวกับจะกลืนกินเสียให้ได้

     

    อึก

     

    จองกุกช่วยด้วย..

     

     

    "มีใครจะคัดค้านไหม"
    เจ้าเมืองเอ่ยถาม

     

    "ขอเสนอให้ประมูล!!"
    เสียงหนึ่งโพล่งขึ้น

     

    "ใช่ๆ เราอยากให้ประมูล"
    หลายเสียงเริ่มพูดเป็นเสียงเดียวกัน สิ่งที่พวกเขาต้องการตอนนี้คือ'อาหารมื้อใหญ่'

     

    คิมแทฮยองหลับตาลงแน่น

     

    เมืองนี้มีแต่มนุษย์หมาป่า

     

    เขาไม่ได้ฝันไปใช่ไหม

     

    ใครก็ได้ช่วยเขาที

     

     

     

    "แทฮยองของกู!!!"
    เสียงทุ้มนุ่มลึกตะโกนขึ้น ฝีเท้าเริ่มใกล้เข้ามา

     

    ร่างบางเงยหน้า ลืมตาขึ้น

     

    จอนจองกุกกำลังตรงมาทางนี้

    จองกุก

    จองกุก

    จอนจองกุก!!!

     

    คิมแทฮยองเริ่มตั้งสติได้ ร่างบางฝืนตัวเอง ยันแขนให้ตัวเองลุกขึ้นไปหาอีกฝ่าย เพราะตอนนี้จองกุกกำลังโดนบริวารของเจ้าเมืองกันตัวไว้ไม่ให้เข้าไปหาเขา

     

    "หืม? จองกุก? มีปัญหาอะไรกับข้ารึเปล่า"
    เจ้าเมืองเปล่งเสียงแหบแห้งพร้อมกับยกยิ้มร้าย

     

    "มีสิ"

     

    "อะไรล่ะ"

     

    "ท่านลักพาตัวคนของข้ามาได้อย่างไร เขาเป็นคนของข้า ท่านไม่สิทธิ์ และไม่มีสิทธิ์จะแตะต้องเขาแม้แต่ปลายเล็บ!"

     

    "ฉันคิดว่าเราควรคุยกันดีๆนะ 'จอนจองกุก' "

     

    ผึ่ง!
    ความอดทนของจองกุกขาดสะบั้น เขาไม่ชอบให้ใครเรียกชื่อจริงของเขา...ใครเรียกคนนั้นจะต้องตายสถานเดียว มีน้อยคนที่จะรู้ชื่อจริงของเขารวมถึงเจ้าเมืองด้วย.คนที่จะเรียกชื่อเขาได้มีเพียงคนเดียวเท่านั้นคนที่เขายอมรับและรัก..…..คิมแทฮยอง

     

    "กรรซ์!"

    "กรรซ์"

    เสียงขู่มาจากร่างสูงและชายที่ขึ้นชื่อว่าเจ้าเมือง

     

    คิมแทฮยองกำลังตกใจ

     

    เขาเห็นจองกุกกลายร่างเป็นมนุษย์หมาป่าด้วยเวลาอันสั้นต่อหน้าต่อตา….

     

    คำพูดของจีมิน

     

    'เสียงเห่าหอน ฟัน เล็บมือ เล็บเท้า ฝ่ามือ ร่างกาย กำลังจะแปรเปลี่ยนสภาพเป็นดั่งหมาป่า ใบหูเริ่มเล็กและเรียวแหลมขึ้น'

    'ดวงตาเปลี่ยนเป็นสีแดง และเขาก็กลายร่างเป็นหมาป่าโดยสมบูรณ์แบบ'

     

    มันมีจริงๆสินะ

     

    เข่าของเขาทรุดฮวบลง

     

    นี่สินะเหตุผลว่าทำไมจองกุกถึงไม่ค่อยเข้าใกล้เขา

     

    เมืองนี้เป็นเมืองหมาป่ารึไงกันนะ..

     

    แล้วทำไม

     

     

    จองกุกถึงไม่จับเขาฉีกเนื้อกินเป็นชิ้นๆตั้งแต่แรกซะล่ะ?

     

    "กรรรซ์!!!"

    "กรรซ์!"

    พลั่ก!

    ตุ๊บ!

     

    ทุกคนหลีกทางให้พวกเขาทั้งสองต่อสู้กัน จองกุกในร่างมนุษย์หมาป่ากระโจนเข้าใส่เจ้าเมืองที่กลายร่างแล้วเช่นกัน เขี้ยวคมฟาดฟัดกันและกันอย่างไม่มีใครยอมใคร เสียงเชียร์ของผู้อื่นเริ่มแบ่งเป็นสองฝั่ง

     

    "เจ้าเมือง!"
    "จองกุก!"

     

    ภาพทุกฉากต่อสู้ยังคงฉายชัดในดวงตาของคิมแทฮยอง เขาเป็นห่วงจองกุก

     

    ฟรึ่บ!

    ฉึก!

    ตุ๊บ!!
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    วินาทีที่ลูกธนูปักเข้าไปตรงกลางหน้าผากของหมาป่าร่างใหญ่ยังตรึงตราอยู่ในหัวของแทฮยอง

     

    เขาคงจะดีใจ

     

     

    หากเพียงแต่ว่า

     

     

    คนที่โดนไม่ใช่เจ้าเมือง

     

     

     

     

     





    แต่กลับเป็นจอนจองกุก

     

     

     

     

    "ไม่!!!!!!!!!!!!!"

     

     

     




    เขายังอยากให้เรื่องนี้เป็นแค่ฝันร้าย….ตลอดกาล
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .

    .

    .

    .

    .

    "เฮือก!!!!"

     

    คิมแทฮยองลืมตาเบิกโพลง รูม่านตาขยาย ตัวเด้งลุกจากหมอน ร่างกายสั่นสะท้าน เหงื่อแตกพลั่กโดยเฉพาะฝ่ามือ หายใจสอบไม่เป็นจังหวะอยู่นาน ชีพจรเต้นถี่รัว ร่างบางหอบสั่นก่อนที่จะตั้งสติตัวเองแล้วมองไปรอบๆ

     

    ห้องพยาบาล?

    สายน้ำเกลือ?

     

     

    แกร๊ก

    เสียงเปิดประตูจากภายนอกห้องเรียกร่างเล็กให้ตื่นจากห้วงความคิด กลับไปนอนลงบนหมอน หลับตาลงเหมือนคนยังไม่ฟื้นอย่างรวดเร็ว

     

    "หมายความว่าผู้ป่วยเป็นเหยื่อของอาชญากรที่ลักพาตัวโดยใช้สาร LSD อย่างนั้นเหรอครับ"

     

    "ใช่ค่ะ ตัวสาร LSD เป็นสารหลอนประสาท จะทำให้ผู้ป่วยมีอาการเห็นภาพหลอน สี แสง เสียง ทุกๆอย่างคล้่ายกับความจริงแต่บางทีภาพเหล่านั้นก็คมชัดผิดปกติ หมอเดาว่าผู้ป่วยน่าจะได้รับสารตัวนี้เข้าไปเยอะทีเดียวเลยค่ะ"

     

    "…"

     

    "บวกกับยาสลบชนิดรุนแรง ทำให้ผู้ป่วยฟื้นตัวช้า อาการหลอนประสาทจึงอยู่นานด้วยค่ะ"

     

    "แล้วผู้ป่วยจะเป็นอะไรไหมครับหลังจากฟื้น.."

     

    "LSD เป็นสารหลอนประสาทที่เสพแล้วติดเช่นเดียวกับสารเสพติด หมอคิดว่าภาพหลอนส่งผลกระทบต่อจิตใจของผู้ป่วยเป็นอย่างมากค่ะ เมื่อฟื้นตัวอาจต้องพบจิตแพทย์และต้องได้รับการบำบัดโดยด่วน"

     

    "….งั้นผมฝากเพื่อนผมด้วยนะครับหมอ"

     

    "ค่ะ หวังว่าเพื่อนของคุณจะโชคดีและหายโดยเร็วนะคะ"

     

    "ครับ"

     

     

    ปัง

    แทฮยองได้ยินเสียงปิดประตูไปนอกห้องแล้ว

     

    สับสน

    ตอนนี้เขาปวดหัวมากๆ

     

    จอนจองกุกล่ะ?

     

     

    "ลืมตาขึ้นมาเถอะแทกูรู้ว่ามึงฟื้นแล้ว"

     

    ลืมตาก็ได้

     

    "จีมิน?"
    ร่างเล็กเปล่งเสียงแหบเรียกเพื่อนสนิทตัวดีที่ยืนอยู่ข้างเตียงเขา

     

    "อืม"
    ปาร์คจีมินรับคำแล้วเอื้อมมือไปหยิบแก้วน้ำที่อยู่หัวเตียงมาให้แทฮยองดื่ม

     

    "อยู่ไหน?"

     

    "โรงพยาบาล"

     

    "เกิดอะไรขึ้น"

     

    จีมินถอนหายใจก่อนจะลากเก้าอี้มานั่งข้างเตียง สีหน้าลำบากใจอย่างเห็นได้ชัด แล้วเริ่มเล่าเหตุการณ์ให้คนป่วยข้างหน้าฟัง

     

    "มึงโดนลักพาตัว คนร้ายฉีดยาสลบให้มึงแล้วตามด้วยยา LSD"

     

    "แล้วกูรอดมาโรงพยาบาลได้ยังไง"

     

    "มีคนไปเจอมึงนั่งตัวสั่นกอดเข่าอยู่ข้างถังขยะซอยตึกร้าง"

     

    "แล้วคนร้าย…"

     

    "ยังหาตัวไม่ได้"

     

    "…"

     

    "มึงได้ยินสิ่งที่กูคุยกับหมอแล้วใช่ไหม"

     

    คนตัวเล็กพยักหน้าลงอย่างช้าๆ

     

    "เรื่องภาพหลอน….เอาไว้ให้มึงคุยกับหมอเค้าแล้วกัน"


    จีมินบอก

     

    "…..อืม" แทรับคำ

     

    "…"

     

    "แล้ววันนั้นทำไมมึงทำตัวแปลกๆ หมายถึงวันที่เกิดเรื่อง
    .."

     

    "เออกูขอโทษว่ะ กูจะพาสาวมาคอนโด…. กูเลยเล่าเรื่องเบี่ยงเบนความสนใจมึงไม่ให้จับสังเกตกูได้ว่ากูคุยแชตโทรศัพท์กับใครอยู่ ที่กูไม่ให้มึงไปคอนโดก็เพราะนี้แหละ"

     

    "อือ"

     

    คิมแทฮยองไม่อยากรับรู้อะไรอีกแล้ว ภาพที่ลูกธนูปักกลางหัวมนุษย์หมาป่านามจอนจองกุกยังคงวนฉายซ้ำอยู่อย่างนั้น….
    .
    .
    .
    .
    .

    เขาต้องมาพบจิตแพทย์..

    "ไหนพูดสิ่งที่สงสัยมาสิแทฮยอง ถามหมอมาให้หมดเลยนะ"

     

    "คุณเป็นจิตแพทย์?"

     

    "อ่า..ใช่แล้วล่ะ"


    หญิงวัยกลางคนตรงหน้ายิ้มให้อย่างเป็นมิตร

     

    "จอนจองกุกยังอยู่ใช่ไหม"

     

    "อันนี้หมอยังตอบไม่ได้นะว่าเขาอยู่รึเปล่า สงสัยแทต้องเล่ารายละเอียดให้หมอฟังแล้วล่ะ"

     

    "จอนจองกุก….เขาเป็นมนุษย์หมาป่า"

     

    ทุกๆครั้งที่พูดถึงจองกุก หัวใจด้านซ้ายมันจะเจ็บเสมอ

     

    "…"

     

    "เขาดูแลผม เขาดีกับผม"

     

    "..."

     

    "จนกระทั่งวันหนึ่ง
    ผมไม่เชื่อฟังคำเตือนของเขา ออกไปข้างนอก โดนจับไปบูชายัญ"

     

    "…"

     

    "จองกุกเขาก็ยังมาช่วยผม…..จนถึงวินาทีสุดท้ายที่ผมได้เห็นเขา…"

     

    "ยังไงล่ะ"

     

    "เขาโดนลูกธนู….ปักกลางหน้าผาก…"

     

    แทฮยองเริ่มคุมเสียงสั่นๆของตัวเองไม่อยู่

     

    "เอาล่ะ แทหยุดเล่าก่อน หายใจเข้าลึกๆ"

     

    ร่างบางทำตามที่จิตแพทย์สั่ง

     

    "เขายังไม่ตายใช่ไหมครับ"

    "หมอว่ายังนะคะ เพราะจากที่หมอรู้มามนุษย์หมาป่าจะตายก็ต่อเมื่อโดนมีดแทงเข้าที่หน้าผาก 3 ครั้งเชียวนะ"

     

    "จริงเหรอครับ!?"
    แทฮยองเริ่มยิ้มอย่างมีความหวัง….จอนจองกุกยังไม่ตาย

     

    "…ไม่รู้สิ ขอโทษด้วยนะแทฮยอง ที่หมอต้องบอกว่า…..เรื่องทั้งหมดที่เธอเล่ามานั้นมันไม่ใช่เรื่องจริง"

     

    "…!?"

     

    "มันคือภาพหลอนที่เธอเห็น"

     

    "อึก.."

     

    "วันนี้พอแค่นี้ก่อนดีกว่านะ รู้สึกดีขึ้นเมื่อไหร่ก็ออกจากห้องได้เลยนะ แทฮยองอา"


    จิตแพทย์หญิงพูดยิ้มปลอบประโลมคนไข้ ลุกขึ้นจากเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามแทฮยอง เปิดประตูออกจากห้องไป

     

     

    ที่ผมเข้าใจถูกไหม...

     

    ว่าจอนจองกุกคนที่ผมห่วงใยเขาไม่ได้มีอยู่จริง

     

    คนที่ผมสนใจไม่ได้มีอยู่จริง

     

    คนที่ผมเห็นไม่ได้มีอยู่จริง

     

    คนที่ผมหวังว่าจะได้เห็นอีกไม่ได้มีอยู่จริง

     

    คนที่ผมหวังจะใช้ชีวิตร่วมกันไม่ได้มีอยู่จริง

     

     

     

     

    'คนที่ผมรักไม่ได้มีอยู่จริง'

     

     

    'เขาเป็นเพียงแค่ภาพหลอนเท่านั้น….'

     

     

     

    'ภาพหลอนที่ไม่อาจจะลบเลือนออกไปจากความทรงจำของคิมแทฮยองได้เลย…'

     

    'เขายังอยากให้เรื่องนี้เป็นแค่ฝันร้าย….ตลอดกาล'
    ตอนนี้เขาไม่ได้หวังให้มันเป็นแบบนั้นซะหน่อย

     

    เขาอยากกลับไปยังภาพหลอนนั้นอีก

     

     

     

    เขาอยากได้ LSD อีกนะ.

    บันทึกของแทฮยอง
    11/01/2015
    ช่วยจำ :: The Full Moon
    "อย่าลืมนะแทฮยอง นายต้องการยานั่น ทุกวันที่พระจันทร์เต็มดวง อยากเจอจอนจองกุกไม่ใช่เหรอ?"

     

     

    200%


    [TALK พบกับไรท์ ไขปมเรื่อง บรรลุธรรม]

    ซงซานแทแท ซงซานเรื่องนี้มาก ขอโทษนะแตยองง   ครึ่งหลังมาซะยาวเชียว รีบแต่งค่ะ อะไรๆก็ดูรวดเร็วไปหมดเลย ขอโทษนะคะ

    ไหนใครงงบ้างคะ งงมั้ยอะ5555


    เราสรุปสั้นๆให้

    -แทฮยองโชคร้าย เป็นเหยื่อของการก่ออาชญากรรมครั้งนี้(ลักพาตัว) ซึ่งคนร้ายมีจุดประสงค์เพื่อก่อความวุ่นวาย อยากแพร่สารเสพติด LSD (สารนี้มีอยู่จริงๆค่ะ แต่ในเนื้อเรื่องเรามโนผลวินิจฉัยของหมอเอง)


    -ในภาพหลอน แทฮยองฟังเรื่องเล่ามนุษย์หมาป่ามาจากจีมินเลยทำให้เห็นภาพหลอนถึงเรื่องนี้ค่ะ


    -ข้อคิดก็คือ แทรักจองกุกใช่ไหมล่ะคะ ก็เลยอยากจะเจอจองกุกอีกเลยทำให้มีความต้องการ LSD อีก หมายความว่าแทฮยองเสพติดยาตัวนี้เข้าแล้วล่ะค่ะ ไรท์ต้องการเปรียบเทียบว่า ยาเสพติดให้โทษ ทำให้ผู้เสพต้องการอีกนั่นเอง


    -ตอนท้ายๆแทบอกว่าเข้าใจว่าตัวเองโดนยา LSD ใช่ไหมล่ะคะ แต่ทำไมต้องตกใจตอนที่จิตแพทย์มาย้ำว่าเป็นภาพหลอนด้วย?  แทไม่ได้บอกค่ะว่าตัวเองจะยอมรับความจริงได้ ป่วยทางจิต ไม่ยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเองนั่นเองค่ะ


    -Lycaon คือใคร? 

    กษัตริย์ไลเคออน แห่งอาร์เคเดีย ตามตำนานของกรีก พระองค์ถูกสาปโดยเทพเจ้าให้เป็นหมาป่า 

    Lycaon จึงเป็นต้นกำเนิดของมนุษย์หมาป่า (จากตำนานกรีก)




    สุดท้ายนี้อยากบอกไว้ว่า


    -เรื่องนี้ไรท์แต่งยากมากจริงๆค่ะ ตอนแรกพล็อตไม่ซับซ้อนขนาดนี้นะ แต่พอหาข้อมูลไปเรื่อยๆก็เลยอยากจะฝากข้อคิดไว้ค่ะ

    จะพัฒนาฝีมือต่อไปนะคะ


    -ไม่มีภาคต่อของเรื่องนี้แล้วค่ะ ไรท์วางพล็อตไว้แบบนี้ค่ะ เพราะฉะนั้นภาคต่อเจอกันที่เรื่องอื่นเน้ออ


    -เรื่องนี้ไม่ได้แฟนตาซีจ๋าเลยอะ ขอโทษนะคะ


    เรื่องต่อไปขอคีย์เวิร์ดจากรีดเดอร์ค่ะ เมนท์ไว้ใต้เรื่องเลย จะรับมาพิจารณาค่ะ ถ้าไม่มีคอมเมนท์ไรท์ไม่รู้จะแต่งเรื่องอะไรต่อแล้วนะคะ555555 


    ::เส้นทางพิชิตยอดเขากุกวี::

    อย่าลืมกดเฟบกับคอมเมนท์ให้เค้าหน่อยน้าาา /กราบเบญจางคประดิษฐ์


    สกรีม!!! 

    #บังทันฟิกชัน

    @sweetSUGA297

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×