คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : 3 นายแปลกไป
"นี่เน่ คริสน่ารักเนอะ เน่ว่ามั๊ยอ่ะ?" เสียงยัยกี้พูดออกมาคล้ายกับว่ากำลังเหม่อลอยไปถึงไหนๆ
"อืม น่ารักดี หน้าตาก็ดี แถมยังเป็นสุภาพบุรุษ ไม่เหมือน.." คนพูดต้องชะงักไป เพราะคนที่เธอกำลังจะเอ่ยชื่อออกมานั้น หันมามองเธอด้วยแววตาอาฆาตแว๊บนึง ก่อนที่จะหันไปเตะบอลกับเพื่อนๆต่อ
"ไม่เหมือนใครหรอเน่" กี้ที่เหมือนจะใจลอยเมื่อครู่ ดูเธอจะสงสัยที่เห็นว่าเพื่อนรักของเธอเงียบเสียงลงกะทันหัน
"ไม่มีไรหรอก เน่ก็พูดไปเรื่อยเปื่อยอ่ะกี้ เย็นนี้เราไปกินไอติมเจ้าประจำกันมั๊ย? เราไม่ได้ไปที่นั่นตั้งนานและน้า ไปกันนะกี้ๆๆๆๆ" อ้อนสุดฤทธิ์ ถ้าเธอไม่ไปนะ ฉันโป้งจริงๆด้วย T^T
"ได้เลยเน่ แต่กี้ชวนวิวกับคริสไปด้วยดีมั๊ยอ่ะ กี้อยากแนะนำร้านไอติมอร่อยๆให้พวกนั้นรู้บ้างอ่ะ" กี้ส่งสายตาออดอ้อนมาให้ฉัน อะไรกันเนี่ย!! เดี๋ยวนี้อะไรกี้ก็คริสก็วิว เคยนึกถึงเน่บ้างไหมอ่ะ เน่ก็น้อยใจเป็นนะ เราเป็นเพื่อนกันมาตั้งกี่ปี พวกนั้นเพิ่งมาวันแรก กี้ก็สนใจพวกเขานั้นแล้วหรอ T^T
"เน่อยากกับกี้แค่สองคน ถ้ากี้อยากเอาสองคนนั้นไปด้วย เน่ก็ไม่ไปหรอก" ฉันพูดออกไปด้วยความรู้สึกน้อยใจที่อัดอั้นอยู่ในอก ซึ่งกี้ก็คงเข้าใจและรับรู้ความรู้สึกนั้นเป็นอย่างดี
"โอเคเน่ เราไปกับสองคนนะ เน่อยากทำเป็นน้อยใจไปหน่อยเลยน่า โอ๋ๆๆๆๆแต่ช้าแต่หมูน้อยใจดี ไม่งอนน้า" เสียงง้อของกี้ทำเอาฉันอดหัวเราะไม่ได้ แต่ฉันก็ยังทำเป็นฟอร์ม..งอนต่อไป อิอิ
"อืม เน่จะหายโกรธก็ได้ แต่.." ฉันแกล้งทำสีหน้าเครียด แล้วหยุดพูดไม่เฉยๆ เพื่อให้ยัยกี้ใจจะขาดที่เห็นฉันโกรธ ความจริงแล้วฉันเหมาะเป็นนางเอกม๊ากมากกก เพราะฉันตีบทแตกกระจายเลย ฮ่าๆ
"แต่อะไรหรอเน่ เน่ยังไม่หายโกรธกี้อีกหรอ กี้ขอโทษนะ ฮือๆ" สีหน้ากี้แสดงอย่างชัดเจนเลยว่า เธอรู้สึกเสียใจและรู้สึกผิดมากแค่ไหน
"แต่เธอต้องเลี้ยงไอติมฉันไง ยัยสุกี้ขี้แย ฮ่าๆ" ฉันหัวเราะออกมาที่แกล้งยัยนี้ได้สำเร็จ แล้วฉันก็รีบวิ่งหนียัยนี่ขึ้นตึกไปเลย ส่วนยัยกี้อ่ะหรอ ก็วิ่งไล่หลังมาติดๆ พร้อมกับตะโกนเสียงดังตลอดทางว่า ยัยหมูตอนหลอกฉันหรอ ตายแน่ๆๆๆๆๆๆ ฉันจะจับแกทำเป็นหมูนรกแน่ แฮ่กๆๆ.. กี้วิ่งไปตะโกนไปเลยออกอาการเหนื่อยมากหน่อย
หลังจากที่ฉันขึ้นมานั่งพักเหนื่อยบนห้องกับกี้ เราก็นั่งเล่นคุยกัน หยอกล้อกันบ้างตามประสาเพื่อนรักเพื่อนโหด สักครู่นายวิวกับนายคริสก็ตามขึ้นมา ไม่ใช่สิ จะเรียกว่าตามขึ้นมาก็ไม่ถูกนัก ต้องบอกว่าหมดเวลามากกว่า เพราะที่โรงเรียนของเราจะมีกริ่งบอกเวลาว่าใกล้จะหมดเวลาพักแล้ว ให้นักเรียนขึ้นมาเตรียมตัวบนห้อง หรือนั่งพักให้หายเหนื่อย ตากพัดลมให้ตัวไม่เหม็นสำหรับนักเรียนชายที่ไปออกกำลังกายยามเที่ยงวันแบบนี้ แล้วเมื่อกริ่งที่ 2 ดังขึ้น นั่นก็หมายความว่าหมดเวลาสนุกของนักเรียนทั้งหลายแล้ว ต้องกลับมานั่งในห้องเรียนเพื่อฟังบรรยายยามบ่ายจากคุณครูในคาบนั้นๆ เฮ้อ..แค่คิดก็ ฮ่าวว..ZzZzz
ตลอดคาบเรียนช่วงบ่ายที่ผ่านมา ดูนายวิวจะเรียบร้อยเหลือเกิน นายนั่นไม่มาวุ่นวายกับเนเน่เลย แล้วก็ไม่มีทีท่าว่าจะแกล้งอะไรเธอด้วย แต่ในความคิดของเน่แล้ว เน่คิดว่าอีกไม่นาน นายนี่จะต้องสร้างปัญหาอะไรให้เธออีกแน่ๆ คนแบบหมอนี่ ไม่มีทางยอมแพ้อะไรง่ายหรอก แบบนี้จะเรียกว่า คลื่นใต้น้ำได้หรือเปล่าน้า?
"เน่ไปกินไอติมได้แล้ว เร็วๆสิ เดี๋ยวคนเยอะนะ" กี้เร่งให้เน่เก็บของเร็วๆ เพื่อจะได้ไปกินไอติมเจ้าประจำที่แสนจะอร่อย
"อือๆ เสร็จแล้วๆ ไปเลย" ฉันรีบยัดของลงกระเป๋าไปอย่างรวกๆ เพราะอยากไปกินไอติมเร็วๆเหมือนกัน
ณ หน้าร้านไอศกรีมป้าจู๊ฟ หญิงอวบวัย 40 กว่าๆ กำลังเร่งมือตักไอศกรีมให้ลูกค้าที่มาต่อแถวรอซื้ออยู่ 4-5 ราย ระหว่างที่รอไอศกรีม ฉันจะเล่าบรรยายกาศโดยรวมของร้านนี้ให้ฟังนะ ร้านป้าจู๊ฟ เป็นร้านขายไอศกรีมที่ค่อนข้างจะเก่าแก่พอสมควร เพราะตอนที่ฉันย้ายมาอยู่ม.1ที่นี่ ฉันก็เห็นร้านป้าจู๊ฟแล้ว ป้าจู๊ฟแกเป็นคนมีอัธยาศัยดี เด็กในโรงเรียน และนอกโรงเรียนจึงรักแกทุกคน ที่สำคัญไอติมของป้าจู๊ฟอร่อยเป็นที่ 1 สมัยก่อนร้านป้าจู๊ฟไม่มีโต๊ะให้ลูกค้านั่งทาน แต่ปัจจุบันป้าแกพัฒนาให้ดีขึ้น จัดร้านให้น่ารักตามกระแสนิยมของวัยรุ่น จึงไม่น่าแปลกใจเลยถ้าจะเห็นหนุ่มสาวมานั่งทานไอติมกันกระหนุงกระหนิง นึกแล้วอยากมานั่งทานกับหนุ่มๆมั่งจัง
"อ้าว วันนี้เนเน่กับกี้จะทานรสไรดีจ๊ะ ไม่เจอกันนานเลยนะ ป้านี้คิดถึ๊งคิดถึง" ป้าจู๊ฟยิ้มอย่างดีใจที่เห็นลูกค้าประจำอย่างเน่และกี้
"ของเน่ขอเป็นรสสตรอเบอร์รี่แล้วกันค่ะ"
"ส่วนกี้ช็อกโกแลคชิพนะคะ"
"อ่ะนี่จ๊ะของเน่ ส่วนนี่ก็ของกี้ วันหลังแวะมาหาป้าอีกนะ เดี๋ยวป้าลดราคาพิเศษ สำหรับเรา2คนเลย"
"ขอบคุณค่ะ" ฉันกับกี้เอ่ยขอบคุณป้าจู๊ฟแล้วก็เดินออกมาที่ถนน ยังไม่ทันที่ไอติมจะเข้าปากฉันเลย มันก็เกิดเรื่องขึ้นซะก่อน..
"แง้ๆๆๆๆ เอาไอติมเค้าคืนมานะ" เสียงร้องไห้งอแงของเด็กอายุประมาณ 6 ขวบดังขึ้น ภาพที่เน่และกี้เห็นก็คือ กลุ่มเด็กที่ดูโตกว่ากำลังแย่งไอติมเด็กคนนั้น แล้วก็วิ่งหนีไปพร้อมกับหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน ภาพที่เห็นทำให้เน่รู้สึกโกรธมาก เธอไม่ชอบอยู่แล้วที่เห็นคนอื่นถูกรังแก เธอเป็นคนที่รักความยุติธรรมตัวยงคนนึงเลยทีเดียว แต่ ณ เวลานั้นเธอคงจะทำอะไรเด็กพวกนั้นไม่ได้แล้ว เพราะพวกเด็กๆก็วิ่งหนีกันไปหมดแล้ว เหลือไว้เพียงเด็กตัวเล็กที่ร้องไห้งอแงอยู่
"โอ๋ๆๆๆ ไม่ร้องนะคะคนเก่ง อ่ะอันนี้พี่ให้แล้วกันนะ ไม่ต้องร้องนะคะ " เน่เข้าไปปลอบเด็กคนนั้นให้หยุดร้องและให้ไอติมที่เธออยากจะทานมากๆมาตั้งแต่กลางวัน ให้กับเด็กคนนั้นไป
"ฮือๆ..อืมครับ โผมจาม่ายร้องไห้ครับ (สะอื้น)" เน่ลูบหัวน้องคนนั้นเบาๆพร้อมกับถามน้องคนนั้นว่าชื่ออะไร
"แล้วคนเก่งของพี่ชื่ออะไรครับ"
"ผมชื่อน้องนนท์ครับ" น้องนนท์ยิ้มแป้นที่ถูกชมว่าเก่ง
"พี่มีอะไรจะบอกน้องนนท์ด้วยนะครับ ทีหลังถ้าเด็กพวกนั้นมาแกล้งนนท์อีก น้องนนท์ต้องไม่ร้องไห้นะครับ น้องนนท์ต้องเข้มแข็งรู้ไหมครับ"
"ยู้คร๊าบ" น้องนนท์ตอบแบบอู้อี้ เพราะกำลังกินไอติมอย่างเอร็ดอร่อย (ฉันจะโดนข้อหาทำให้เด็กกินไอติมติดข้อตายไหมเนี่ย? -*-)
"อืม ดีแล้วจ๊ะ เราต้องเข้มแข็ง ถ้าเขาเห็นว่าเราเข้มแข็ง เขาก็จะเลิกแกล้งเราไปเองนะจ๊ะ" น้องนนท์พยักหน้ารับรู้สิ่งที่ฉันพูดไป
"คุณพ่อมารับแล้ว น้องนนท์ไปก่อนนะครับ บายๆ"
"บายๆจ้า" ฉันและกี้โบกมือบายๆน้องนนท์ที่วิ่งไปหาคุณพ่อของเขา
"แหมเน่ แกนี่เป็นคนดีจริงๆเลยนะ หยั่งกะนางเอกหนังแน่ะ คิคิ" กี้อดขำพฤติกรรมที่ชอบช่วยเหลือคนของฉันไม่ได้
"แกก็รู้นิสัยฉันดีนี่ ฉันไม่ชอบเห็นใครรังแกคนที่อ่อนแอกว่า แล้วฉันก็ไม่ชอบที่ใครจะมารังแกฉันด้วย เรากลับไปซื้อไอติมใหม่กันน้าๆๆๆๆ ฉันอยากกินมากมาเยยอ่า นะ...ไหว้ล่ะ เดินกลับไปเป็นเพื่อนทีนะ"
"ก็ได้ๆ นี่ฉันเลยว่าแกทำดีนะยัยเน่ ไม่งั้นฉันไม่ไปหรอกย่ะ"
ฉันยิ้มแบบดีใจที่ลูกอ้อนเป็นผลสัมฤทธิ์ เราสองคนเดินกลับไปที่ร้านไอศกรีมป้าจู๊ฟอีกครั้ง แต่ยังไม่ทันถึงร้านไอศกรีมเลย ผู้คนมากมาย(ส่วนใหญ่ก็เป็นนักเรียนแหละ)กำลังต่อแถวซื้อไอศกรีมยามเหยียยดจนออกมานอกร้านเลย
"เน่ว่าเน่กลับดีกว่า"
"ทำไมอ่ะเน่"
"ไม่เห็นหรอ คนเยอะขนาดนั้น"
"ฉันก็เห็นเหมือนแกนั่นแหละ แต่ทำไมแกถอดใจง่ายจัง มันไม่ใช่นิสัยแกนี่?"
"ก็..ฉันน..โคร่กกกก.." นั่นเป็นเสียงท้องฉันร้องเองแหละ หากจะแปลความหมาย ก็คงแปลได้ว่า หิวข้าวแล้วนะ หิวข้าวแล้วนะ ..
"ฮ่าๆๆ ฉันเข้าใจแกแล้วเน่ หิวข้าวก็ไม่บอก ทำเป็นไม่อยากกินไอติม โธ่ๆๆ" ยัยกี้ขำที่ท้องฉันร้องดังขนาดนั้น (แหม ไม่เห็นจะน่าขำตรงไหน น่าอายมากกว่า - -")
"เราไปกินข้าวขาหมูแทนกันนะ (สีหน้าออดอ้อน) "
"ก็ได้ๆๆ จะไปกินพวกเดียวกันก็ไป ฮ่าๆ" หน๊อยย ได้ทีว่ากระทบเชียวนะยะ
"ฉันอภัยให้วันนึง วันนี้ฉันหิวมากแล้ว ไปเร็ว" ฉันรีบจูงมือ(ลาก)ยัยกี้ไปที่ร้านข้าวขาหมูแป๊ะเฮงทันที
ตอนนี้ฉันไม่มีเวลามาสาธยายร้านของแป๊ะเฮงแล้ว เพราะฉันหิวมากๆ
"แป๊ะๆๆๆๆขอข้าวขาหมูสองจานมันเยอะๆ ด่วนเลยนะแป๊ะ" แป๊ะพยักหน้ารับรู้แล้วรีบทำข้าวขาหมุให้ฉันทันที ส่วนเพื่อนที่มากับฉันบอกหน้าฉันอย่างงงๆพร้อมกับเอ่ยว่า
"เฮ้ย ฉันไม่กินนะเว้ย ฉันมาเป็นเพื่อนแกเฉยๆ"
"อ้าว แล้วใครบอกว่าฉันจะให้แกกิน ฉันสั่งมาให้ตัวเองกินเว้ย ฉันหิวมาก ฉันจะกินสองจาน มีไรม่ะ?" ฉันเริ่มพาลเล็กๆ เพราะโมโหหิวเหลือเกิน
"อืมๆ แกใจเย็นก่อนนะเว้ย ฉันไม่อยากแบกหมูที่เป็นลมไปโรงพยาบาล -*-"
ฉันกำลังจะด่ายัยกี้กลับ แต่เป็นโชคดีของยัยนี่ เพราะแป๊ะเฮงเอาข้าวหมูสองจานมาบริการได้ทันเวลาก่อนความโมโหหิวของฉันจะระเบิดออกมา
"เอิ๊กก..(เรอ) อิ่มจังเลยจ้ากี้ที่รัก" หลังจากทานเสร็จฉันก็อารมณ์ดีขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
"ไม่อิ่มก็แย่แล้ว - -"
"แป๊ะ นี่เงินนะคะ หนูไปก่อนนะคะ ขอบคุณที่ทำข้าวขาหมูแบบเร่งด่วนให้หนู อิอิ" ฉันกล่าวขอบคุณ แล้วก็เดินออกจากร้าน มายืนรอที่ป้ายรถเมล์พร้อมกี้
"นั่นๆ รถเมล์กี้มาแล้วนี่ บายๆนะกี้" ฉันรีบบอกบายกี้ก่อนรถจะจอดด้วยซ้ำ ก็ฉันกลัวว่าเดี๋ยวรถเมล์จะรีบเร่งเครื่องออกไปเร็วๆเหมือนทุกที ฉันแทบจะบอกลากี้ไม่ทันด้วยซ้ำ รถบ้าไรก็ไม่รู้หยั่งกะรถด่วนสายนรก -*-
"บายๆจ๊ะเน่ ไว้พรุ่งนี้เจอกันน้า" กี้บอกลาแล้วก็รีบวิ่งขึ้นรถ เพราะถ้าชักช้าเธอมีสิทธิหน้าคะมำเนื่องจากหาที่เกาะไม่ทัน
ไม่นานนักรถเมล์สายที่ผ่านบ้านฉันก็มา วันนี้คนไม่ค่อยเยอะเหมือนเคย จึงมีที่ว่างเหลือให้ฉันเลือกมากมาย และฉันก็ตัดสินใจเลือกเก้าอี้ทางซ้ายมือตัวที่ 3 นับจากประตูหน้า หลังจากฉันจ่ายค่าโดยสารแล้ว ฉันก็นั่งกินลมชมวิวไปเรื่อยๆ คิดนู้นคิดนี่ ระหว่างทางจะมีหมู่บ้านมากมาย บางหมู่บ้านก็ บางหมู่บ้านก็หรูหรามาก แล้วก่อนจะถึงป้ายรถเมล์หน้าหมู่บ้านของฉัน จะต้องผ่านหมู่บ้านทิวทัศน์ก่อน หมู่บ้านนี้เป็นอะไรที่ฉันถูกใจมาก เพราะการออกแบบบ้านสวยมาก แถมสวัสดิการ และการบริการทุกอย่างดีเยี่ยม แต่ก็ไม่น่าแปลกใจหรอก เพราะหมู่บ้านนี้ต้องพวกผู้ดีมีเงินมากๆ เท่านั้น ถึงจะมีสิทธิครอบครองมันได้ ลึกๆแล้วฉันก็อยากมีบ้านสวยๆ แบบนี้นะ แต่มันก็แค่ฝัน เอ้า! ใจลอยมากไปหน่อย เกือบนั่งรถเลยป้ายซะแล้วเรา
ฉันลงจากป้ายรถเมล์ และเดินเข้าไปในหมู่บ้าน ที่มีป้ายหมู่บ้านบอกชื่อไว้ว่า "ประดับเงิน" ชื่อหมู่บ้านนี้เป็นไปตามเจ้าของโครงการที่สร้าง คือ คุณนายประดับเงินนั่นเอง แม้ว่าคุณนายแกจะสร้างหมู่บ้านนี้ แต่แกก็ย้ายไปอยู่หมู่บ้านทิวทัศน์ เพราะหรูหราและฟู่ฟ่ากว่ามาก ระหว่างที่ฉันเดินคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย พี่ยามที่เฝ้าหน้าหมู่บ้าน ก็ร้องทักขึ้นพร้อมกับตะเบ่ะเหมือนตำรวจ
"สวัสดีครับคุณเนเน่"
"สวัสดีค่ะพี่ยศ" ฉันกล่าวตอบพี่ยศไป แล้วก็เดินเข้ามาเรื่อยๆ ในที่สุดก็ถึงบ้านฉันเสียที
บ้านฉันหลังไม่ใหญ่มากนัก เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ทาสีชมพูอ่อนเกือบทั้งหลัง ภายในบ้านแบ่งออกเป็น 3 ห้องนอน, 2 ห้องน้ำ, ห้องนั่งเล่น ห้องรับแขก และห้องครัว บริเวณรอบนอกก็มีสนามหญ้าให้วิ่งเล่นได้ มีลานจอดรถ 2 คัน ภายในบ้านถูกจัดอย่างลงตัว บรรยากาศดูอบอุ่นและเป็นกันเอง
"เนเน่คนสวยกลับมาแล้วค่ะแม่"
"มากินข้าวกันลูก พ่อเค้ารอตั้งนานแล้วนะ"
"อ้าว วันนี้พ่อกลับเร็วหรอค่ะ แต่เสียใจนะคะ เนเน่คนสวยอิ่มแล้ว อิอิ เน่ไปทำการบ้านก่อนนะคะ" ยังไม่ทันฟังคำตอบฉันก็วิ่งโครมๆ ขึ้นไปข้างบนทันที
หลังจากทำการบ้านเสร็จ ฉันก็อาบน้ำนอน(เล่น) นอนคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย คิดไปคิดมาก็คิดถึงนายวิวซะนี้ อั่นแน่..กำลังคิดว่าฉันแอบคิดถึงหมอนั่นอยู่ใช่ไหม ไม่ใช่เลย ฉันกำลังสงสัยอยู่ว่า ทำไมเมื่อบ่ายนายวิวถึงได้สงบเสงี่ยมเจียมตัวขนาดนั้นต่างหาก นายนั่นมีแผนการอะไรหรือเปล่านะ? หรือนายปรับปรุงตัวได้แล้ว เป็นอย่างนั้นจริงๆก็คงดี ฉันละกลัวจริงๆ ว่านายจะเป็นสุนามิใต้น้ำ ><" *********************************************to be continued 4 แผนร้ายนายซาตาน**************************
*********************************************to be continued 4 แผนร้ายนายซาตาน**************************
*********************************************to be continued 4 แผนร้ายนายซาตาน**************************
ความคิดเห็น