คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : เพื่อนสนิท - - กับการอกหักครั้งแรก
“เราคือแนน..เพื่อนที่โรงเรียนของเบล จำเบลได้ใช่มั้ย” แหงล่ะ..ถ้าแกจำกิ๊กแกไม่ได้ก็ไม่รู้จาว่ายังไงละ
“อ่อ..ไม่เห็นจะรู้จัก” ก็ฉันเพิ่งแอดแกมาเนี่ย จารู้จักกันมาก่อนได้ไงเล่า
“ยินดีที่ได้รู้จัก ไม่แน่เราอาจได้พึ่งอามนะ” เหอๆ รู้จักครั้งแรกฉันก็ฝากฝังไว้กะเขาซะแล้ว
“ง่ะ...พึ่งเรื่องอะไร เรื่องตังค์เราไม่เอาด้วยหรอกนะ” แหม...ดูมันพูดดักฉันสิ ฉันมีกินย่ะ ว่าแต่ยืม10บาทเดะ 555+
“ไม่ใช่เรื่องนั้น คือเรากะว่าเราจะไปต่อโรงเรียนของอามน่ะ” โรงเรียนมันกะโรงเรียนฉันใกล้กันค่ะ เดินไปนิดเดียวก็ถึง เพียงแต่โรงเรียนมันเป็นสหศึกษา โรงเรียนฉันเป็นหญิงล้วน
“จะให้เราดูระเบียบการให้ว่างั้น สบายมาก” จาพึ่งมันได้มั้ยเนี่ย
“อืม..ขอบคุณล่วงหน้า อย่าลืมเอาระเบียบการมาให้ละกัน” จะว่าไปมันก็ดีแบบแปลกๆนะ อามเนี่ย
“เดี๋ยวจะฝากผ่านมายด์ห้อง 6 ไปละกัน รู้จักป่ะเนี่ย มายด์มันบังเอิญอยู่ฝั่งตรงข้ามซอยบ้านเรา”
“รู้จักๆ - - ว่าแต่ขอบใจมากนะ นี่ถามจริงเหอะ อามคิดยังไงกับเบล” ก็ฉันหวงเพื่อนนี่นา
“กับเบลเขาก็แค่เพื่อน - - เรากับเบลรู้จักกันตั้งแต่ประถมอ่ะ” อ่อ...เป็นเพื่อนตั้งแต่เด็กนี่เอง ค่อยๆบ่มรักกันสินะ อ่อ...เข้าใจละ -*-
“ถามทำไมเหรอ...มีอะไรรึเปล่า” แล้วฉันจาตอบมันยังไงดีล่ะ
“เอ่อออ...เราหิวข้าว งั้นขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะ บ๊ายบาย” - - ชิ่งซะเลย ชิ้ง - -+
เอ๊ะ...เดี๋ยวๆ ..เราหิวข้าวขอตัวไปอาบน้ำ.. - - นี่ฉันหาคำชิ่งได้สมเหตุสมผลมาก - - สมควรละที่คะแนนวิชาภาษาไทยฉันไม่ได้เรื่อง ท่านผู้อ่านคงสงสัยว่าทำไมฉันไม่ต่อโรงเรียนสตรีที่เดิม โรงเรียนสตรีก็ดีอยู่แล้วนี่ - - แล้วใครบอกว่าฉันไม่อยากต่อ แต่ฉันไม่ได้สายวิทย์ที่ฉันอยากจะเรียนต่างหาก ฉันได้สายศิลป์คำนวณ แต่ฉันอยากเรียนสายวิทย์ เลยต้องดิ้นรนหาที่เรียนสายวิทย์ให้ได้น่ะสิ อ่านแล้วเริ่มรู้สึกสงสารฉันมั้ย ยังอีกเหรอ เฮ้อ...
ก่อนสอบ 1 วัน
“ฮาหลิว..เต้เหรอ โทรมามีอะไร แนนกำลังอ่านหนังสืออยู่ พรุ่งนี้สอบแล้วนะ มาให้กำลังใจแนนล่ะสิ” ทันทีที่รับสายฉันก็กรอกเสียงใส่โทรศัพท์ เต้ยังไม่ได้พูดอะไรสักคำ
“แนน...เราว่าตอนนี้เราเลิกคุยกันสักพักเถอะ รอให้เรื่องอะไรที่กำลังวุ่นวายจบลงก่อน แล้วค่อยกลับมา" ฉันทำอะไรผิดถึงต้องหนีหลบๆซ่อนๆ ฉันต้องหาเหตุผลให้ได้
“ทำไมล่ะ...มีอะไรเหรอ แล้วเรื่องวุ่นวายอะไร เราไม่เคยทะเลาะกันนี่” นั่นสิ แล้วมันเรื่องอะไร
“คือว่า...(แล้วก็มีเสียงผู้หญิงแก่ๆแทรกขึ้นมาสงสัยเป็นเสียงแม่ของเต้)...เต้..โทรหามันอีกแล้วเหรอ ไหนเอามาให้แม่คุยซิ” มีเสียงยื้อแย่งโทรศัพท์ระหว่าง2แม่ลูกสักพักแล้วสายฉันก็ถูกตัดทิ้งไป
...นี่มันเกิดอะไรขึ้นระหว่างฉันกับเต้นี่ เต้ไม่เคยบอกสักคำว่าแม่เขาไม่ชอบฉัน ทั้งๆที่ฉันก็ถามเขาแล้วนะ...
แล้วเหตุการณ์นี้ก็ทำให้ฉันหมดอารมณ์ที่จะอ่านหนังสือสอบต่อ ในหัวที่เคยมีแต่ศัพท์ภาษาอังกฤษยากๆสูตรคณิตที่โคตรโหด ตอนนี้มีแต่คำว่า ทำไม มาแทนที่ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับฉัน ทำไมเต้ไม่โทรมาอธิบายให้ฉันเข้าใจ โทรไปก็ปิดเครื่อง เป็นวันก่อนสอบที่แย่ที่สุดเลย มันทำให้ฉันเสียสมาธินะ!
14 กุมภาพันธ์ วันที่ต้องสอบ และเป็นวันวาเลนไทน์ ก่อนเข้าสอบ 15 นาที
“แนน..แกเป็นอะไรแกอ่านหนังสือมากไปจนเบลอเลยเหรอเนี่ย นี่เราถามแกวิชาวิทย์นะไม่ใช่อังกฤษเอาศัพท์พวกนี้มาจากไหน” แน่สิ...ก็ตั้งแต่เมื่อวาน เต้ไม่โทรหาฉันเลย แล้วนั่นก็ส่งผลให้ฉันนอนไม่หลับ
“เด๋วเรามานะ...ไม่ต้องห่วงฉันกลับมาทันก่อนเข้าสอบแน่นอน จะจบม.3แล้วนี่นะต้องทำให้เต็มที่” ฉันฝืนยิ้มบอกเบลและเพื่อนๆในกลุ่มให้สบายใจก่อนปลีกตัวออกมา โทรหาเต้อีกครั้ง
“ฮัลโหล..เต้เหรอ ติดสักที เมื่อวานมันเกิดอะไร” ไม่รู้อะไรดลใจให้ฉันอยากโทรตอนนี้ แล้วเขาก็รับ
“แนนจะสอบแล้วไม่ใช่เหรอ มาคุยอะไรตอนนี้ ไว้หลังสอบค่อยคุยกันก็ได้” เขายังคงแสดงความเป็นห่วงอย่างเห็นได้ชัด แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้นเลย
“แล้วคิดว่าถ้าแนนไม่รู้เรื่องตอนนี้ มันจาทำให้แนนทำข้อสอบได้ดีเหรอไง นี่แนนกำลังไม่สบายใจนะ แล้ววันนี้หยุดอยู่บ้านเหรอ” นี่มันวันอังคารเขาต้องไปโรงเรียนสิ หรือว่าเขาไม่สบาย
“โรงเรียนเต้หยุดน่ะ พี่ๆม.ปลายเขาสอบกัน” เต้เขาอยู่ม.2 ฉันอยู่ม.3 - - แต่ทำไมฉันอายุ 14 เขาอายุ15 นะ ลืมไป...ฉันเรียนเร็วกว่าปกตินี่นา
“แล้วตกลงเรื่องเมื่อวานว่าไง เหลือเวลาอีก 10 นาทีแนนต้องเข้าสอบแล้ว” ฉันเร่งให้เขาพูด
“ยังไงๆ เต้ว่าเรื่องนี้ แนนทำใจให้สบายจะดีกว่า แล้วสอบเสร็จค่อยมาคุยกัน เต้รักแนนนะ ไปเตรียมตัวสอบได้แล้ว” ถึงฉันยังสงสัย แต่เมื่อไห้ยินคำว่ารักจากเขา ฉันก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันที...
เมื่อฉันทำการสอบเสร็จทั้งหมด เหลือแต่รอรับผลสอบอันมหาโหด ฉันก็พยายามโทรหาเต้อีกหลายรอบ แต่ก็พบว่า เขาปิดเครื่องมาตลอด ไหนล่ะ...คำตอบที่จะให้ฉัน หรือเป็นเพราะว่าแม่เขาคงมองฉันเป็นผู้หญิงไม่ดี เลยไม่อยากให้ลูกชายของเขามาแปดเปื้อนกับคนไม่ดีๆอย่างฉัน
ผ่านไป2 เดือน ช่วงปิดเทอม เข้าเดือน เมษา
ฉันเริ่มทำใจเรืองเต้ขึ้นมาได้ ผู้ชายคนนั้นไม่ได้สำคัญกับฉันอีกต่อไป ฉันไม่ได้บอกเรื่องนี้ให้ใครรู้ แม้กระทั่ง เบล..เพื่อนที่รอเฉดหัวฉัน แต่ฉันก็ไว้ใจเพื่อนคนนึงที่ฉันคิดว่าจะรับฟังเรื่องราวของฉันได้ นั่นคือ นุ่น
“ฮัลโหล..นุ่นเหรอ ปิดเทอมเป็นไงบ้าง อยู่บ้านเซ็งมั้ยแก ว่างคุยกับฉันหน่อยได้มั้ย” ดูเหมือนนุ่นจะรู้ว่ามีเรื่องที่ทำให้ฉันไม่สบายใจ มันเลยพร้อมที่จะอยู่รับฟัง...แล้วฉันก็เล่าเรื่องทุกอย่างให้มันฟัง ดูมันตกใจมาก เพราะฉันกับเต้ไม่เคยทะเลาะกัน มีอะไรไม่เคยปิดบัง แทบว่าถึงกายห่างแต่ใจติดไรประมาณนั้นเลย
“ทำใจเหอะแนน..เขาคงมีเหตุผลไรบางอย่างที่ไม่สามารถบอกให้แกรู้ได้ แกโทรมาก็ดีแล้ว มีเรื่องจะถามพอดี แกได้คุยกับอามบ้างหรือเปล่า” โอ๊ย...อิจฉาพวกมีความรัก นุ่นรักอามแหงๆ ถึงมาถามฉันแบบนี้
“ก็คุยบ้างอ่ะนะ..ไม่บ้างแล้วอ่ะ ออนเอ็มเจอเขาทุกทีก็คุยกันทุกวัน มีอะไรเหรอ ว่าไปอามก็ดีนะ ระหว่างที่อยู่ในสถานการณ์แบบนี้ อามก็มาปลอบใจเรา เหมือนเราเป็นเพื่อนสนิทเขาเลย” เมื่อแนสิ้นประโยค ดูนุ่นก็สลดทันที หรือว่ามันหวงอ่ะ ขอโทษ...เราไม่ได้ตั้งใจ
“นี่แกก็เป็นไปกะเขาอีกคนเหรอ...ไหนว่าตอนแรกคนชื่ออามนี่มะถูกชะตากะแกไง แล้วไมตอนนี้มาถูกชะตากับเขาล่ะ” นุ่นเริ่มตั้งแง่กับฉัน ทำเสียงค้านคั้น..ถ้าให้ฉันนึกถึงหน้ามันนะ โหดชิเป๋ง เรย
“ก็ของแบบนี้มันเปลี่ยนกันได้” แก้ตัวไปขุ่นๆ
“อย่าลืมนะ...เบลมันชอบอามอยู่ ถ้าแกเป็นเพื่อนเบล คงไม่ทำอะไรแบบนั้นใช้มั้ย” นี่มันคิดว่าฉันชอบอามรึไงเนี่ย...ม่ายมีทาง
“แล้วทำไมแกต้องเดือดร้อนอะไรขนาดนี้ด้วย...หรือว่าแกชอบ...” ชอบอามน่ะสิ อิอิ ฉันคิดคำตอบของนุ่นอยู่ในใจ
“อะไร...แกจะคิดว่าฉันชอบใคร” มันเริ่มทำเสียงสะบัด ถ้าให้ฉันเดามันคงบี้สายโทรศัพท์เล่นแหงๆ
“ฉันรู้นะ..ว่าแกคิดอะไรกับอาม เรื่องแค่นี้ปิดเราไม่อยู่หรอก..” ฉันเริ่มทำเสียงทะเล้นแกมหยอกล้อใส่
“ใครว่าเราชอบอาม เราชอบเบล ต่างหาก” “- เฮ่ย...ฟ้าผ่า ฉันนั่งกะพวกเปงเลสมา 3 ปีเหรอเนี่ย แล้วมันแอบคิดอะไรกับฉันรึเปล่า... แต่เอาเถอะ...แนนรับได้ T^T
ความคิดเห็น