ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Abnormal NPC (คนธรรมดา?กับNPCไม่ปกติ)

    ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่2 แสงที่เปล่งประกาย ระหว่างเขากับเธอ(100%)

    • อัปเดตล่าสุด 8 ก.พ. 58


          ภายในห้องสังเกตการณ์ ผู้คนในห้องนั้นกำลังมองหน้าจอๆหนึ่งที่กำลังฉายภาพเมืองร้างและเศษเนื้อกับมนุษย์หมาป่าหลายตัวกำลังวิ่งกลับเข้าไปในป่า เหนือขึ้นไปบนยอดไม้ในป่าที่มนุษย์หมาป่าวิ่งเข้าไป มีคนผู้หนึ่งยืนมองลงมายังเศษซากของสิ่งที่เคยมีชีวิตเมื่อหลายนาทีด้วยสายตาเรียบนิ่งก่อนที่จะสลายกลายเป็นควันและไม่เหลือสิ่งใด    

         
          "อีกแล้วนะครับ
    B"  ชายคนหนึ่งพูดขึ้นมา

          "นี่มันก็ครั้งที่สามแล้วนะครับ ที่
    npcตนนั้นควบคุมมอนสเตอร์มีคลาสบุกเมืองผู้เล่น ผู้เล่นในตอนนี้ยังไม่สามารถรับมือมอนสเตอร์มีคลาสได้หรอกนะครับ"  ชายอีกคนเอ่ยเสริม

          "มีคำร้องจากผู้เล่นที่ตายเพราะ
    npcตนนั้นมายังบริษัทนับหมื่นฉบับแล้วนะครับ B ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป อาจจะเกิดปัญหาได้นะครับ"  ชายอีกคนก็เสริมขึ้นมา เพราะเพื่อนของเขาที่อยู่แผนกรับคำร้องเรียนมาบ่นให้ฟังทุกทีหลังเลิกงาน

          "อ่า ไว้ฉันจะไปคุยกับ
    M ให้ละกัน b1นายก็แจ้งไปว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่เมืองนั่นไม่เกี่ยวข้องกับเราเป็นการกระทำของ npcและมอนสเตอร์ ทางบริษัทไม่ขอรับผิดชอบใดๆทั้งสิ้น หากแต่จะจัดกิจกรรมพิเศษให้ในอีกยี่สิบวันในเกมส์ บริเวณป่าทิศใต้ของเมืองริมแม่น้ำ"  ชายที่สวมชุดสูทสีเขียวแก่ยืนอยู่กลางห้องบอกลูกน้องของตน 

          
          ชายสวมชุดสูทสีเขียวแก่ที่ถูกเรียกว่า
    Bเดินออกจากห้องสังเกตการณ์ไปตามทางเดินกว้างประมาณสองเมตรเขาเลี้ยวซ้ายขวา ก้าวขาไปด้วยความเร่งรีบจนถึงห้องๆหนึ่ง มีป้ายเขียนไว้บนประตูว่า Master ชายหนุ่มยื่นมือไปจับไมค์เล็กๆข้างประตูแล้วกรอกเสียงไปลงว่า

          "ผม
    Bจากแผนกสังเกตการณ์ขอเข้าพบครับ" ผ่านไปห้าวินาที ก็มีเสียงชายวัยกลางคนตอบกลับมา พร้อมกับเสียง ปี๊บ แล้วประตูก็เปิด

          "เข้ามาสิ"  เมื่อได้รับอนุญาต Bก็เดินเข้าไป ภายในห้องเป็นห้องโล่งๆสีขาวมีแค่ โต๊ะกับเก้าอี้และหน้าจอขนาดใหญ่ที่มีช่องแบ่งเป็นหน้าจอเล็กๆหลายพันช่อง และชายวัยกลางคนหน้าตาใจดีคนหนึ่งกำลังนั่งจิบกาแฟอยู่หลังโต๊ะตัวนั้น
                
          "มีอะไรเหรอ
    B"  ชายวัยกลางคนหน้าตาใจดีทักขึ้นก่อนเมื่อเห็นอีกฝ่ายเอาแต่ยืนเฉย

          "
    npcตนนั้นก่อเรื่องอีกแล้วครับ M"  Bพูดขึ้นด้วยสีหน้าลำบากใจ
        
          "อ่า อีกแล้วสินะ ซนจริงๆ'เด็ก'คนนั้น"  ชายวัยกลางคนที่ถูกเรียกว่า
    M พูดขึ้นพลางยิ้ม
          
          "จะไม่ทำอะไรเลยเหรอครับ หาก
    npcตนนั้นยังควบคุมมอนสเตอร์บุกฆ่าผู้เล่นต่อไปแบบนี้ อาจจะทำให้ยอดผู้ใช้บริการลดลงแล้วเป็นปัญหากับบริษัทได้นะครับ"  Bถามอีกครั้งเนื่องจากเรื่องนี้อาจจะเป็นปัญหาใหญ่ได้ในภายหลัง

          "นั่นสินะ ในตอนนี้ผู้เล่นยังไม่พร้อมจะเจอเรื่องแบบนี้ งั้นลองปรึกษา'อลิส'ดูก็แล้วกัน"  M ยังคงพูดด้วยสีหน้าปกติ คล้ายไม่ยินดียินร้ายกับเรื่องที่อาจจะทำให้ผู้ใช้บริการลดลงแต่อย่างใด สีหน้านั้นออกจะกลั้นขำอยู่ซะด้วยซ้ำ

          "ขอบคุณครับ งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ"  
    Bชะงักไปครู่หนึ่ง เมื่อMบอกจะปรึกษา'อลิส' ก่อนจะขออนุญาตเพื่อไปทำงานของตนต่อ

          "ไม่ต้องรีบๆ นายก็อยู่ด้วยกันที่นี่แหละ"  
    MบอกB พร้อมกับป้อนคำสั่งอะไรบางอย่างที่หน้าจอเล็กๆบนโต๊ะ ไม่กี่วินาทีต่อมาก็เกิดหน้าต่างขนาดเล็กลอยอยู่กลางอากาศ ที่หน้าต่างนั้นมีตัวอักษรเขียนว่า Alice 

         
    ติ๊ดๆๆ ....

          "อลิส นี่ผม
    Mนะ  ขอคุยด้วยหน่อยได้มั้ย มีเรื่องที่อยากจะปรึกษา" 

          "..."

          ผ่านไปยี่สิบวินาทีไม่มีเสียงตอบรับ Mจึงพูดประโยคเดิมซ้ำอีกครั้ง 

          "อลิส นี่ผม
    Mนะ  ขอคุยด้วยหน่อยได้มั้ย มีเรื่องที่อยากจะปรึกษา โหล่ๆอยู่เปล่า?"
           
          "มี'ไร ?  ไม่ว่างแค่นี้นะ ปี๊บ"  ในตอนนั้นเองก็มีเสียงหวานๆตอบกลับมา เป็นเสียงที่แสดงความลำคานอย่างชัดเจนพร้อมกับระบบการเชื่อมต่อที่ดับไป จน
    Bที่ยืนนิ่งๆอยู่กลางห้องยังแสดงอาการเหวอออกมา แต่Mก็หาได้สนใจไม่ ยังคงต่อสายกลับไปอีกครั้ง ติ๊ด เมื่อต่อสายสำเร็จMก็ชิงพูดออกไปก่อนที่อีกฝ่ายจะระเบิดอารมณ์ใส่

          "ช่วยทำอะไรกับ'เด็ก'คนนั้นหน่อยได้รึเปล่า"

          "เด็ก? เด็กคนไหน"  เสียงหวานตอบกลับเริ่มมีความสนใจในคู่สนทนา ทำให้
    Mยิ้มกว้างขึ้นเมื่อสามารถทำให้อีกฝ่ายสนใจจะคุยกับตนไม่ตัดสายไปซะก่อน

          "ก็'เด็ก'คนนั้นไง ที่ไม่มีชื่อนะ"  

          "อ๋อ ทำไมล่ะ มีปัญหาอะไรรึเปล่า?"  

          "เธอก็น่าจะรู้อยู่แล้วนี่นา ผู้เล่นในตอนนี้รับมือเด็กคนนั้นไม่ไหวหรอกนะ ช่วยทำอะไรซักหน่อยได้มั้ย ?"  
    Mบอกจุดประสงค์ของตนพร้อมขอร้องอีกฝ่าย เพราะถ้าหากปล่อยไว้แล้วล่ะก็ลูกน้องของตนคงไม่มีเวลาพักแน่นอน เพื่อป้องกันการลาออกของพนักงาน จึงจำเป็นต้องทำอะไรกับ 'เด็กคนนั้น' ซักหน่อย ซึ่งก็มีแค่'อลิส'เท่านั้นที่ช่วยเขาได้

          "เห้อ ก็ผู้เล่นกระจอกเองนี่ช่วยไม่ได้ แต่ช่างเหอะเดี๋ยวจะจัดการให้ แค่นี้นะ ปี๊บ"  เสียงหวานบ่นออกมาก่อนจะตัดเชื่อมต่อไป  
    Mเมื่อได้ฟังประโยคนั้นก็หัวเราะลั่นห้อง ต่างกับBที่ฟังแล้วยากจะบอกผู้หญิงคนเมื่อกี้เหลือเกินว่า ใครมันจะไปชนะได้กันล่ะฟร๊ะ ระดับ1000 คลาสจักรพรรดิ แถมยังสามารถควบคุมมอนสเตอร์อื่นๆได้อีก นี่มันnpcปกติที่ไหนกัน ขนาดลาสบอสยังสู่แกไม่ได้เลยนะเห๊ย


          ณ ห้องโถงใหญ่ที่สามารถบรรจุคนได้นับพัน ด้านในสุดของของโถงนั้นมีบัลลังก์ที่ทำจากกระดูกสิ่งมีชีวิตหลากหลายสปีชีส์ดูน่าเกรงขามและน่ากลัวในเวลาเดียวกัน บนบัลลังก์นั้นมีคนๆนึงนั่งไขว่ห้างมือซ้ายเท้าคางอยู่ เขาเป็นบุรุษผมดำหน้าตาหน้าน่าเกรงขาม ริมฝีปากบางเรียบสนิททำให้ดูไร้อารมณ์ นัยน์ตาของเขามีสีแดงราวทับทิมหากแต่เต็มไปด้วยความเบื่อหน่าย สายตาของเขากำลังทอดมองลงมายังเบื้องล่าง มีหญิงสาวผมยาวสีขาวราวหิมะนัยน์ตาสีเงินดูเย็นชา ที่อยู่ๆก็ปรากฏตัวขึ้นมาจากความว่างเปล่า หน้าตาของหญิงสาวงดงามราวเทพธิดาจากสรวงสวรรค์ สวมชุดคล้ายเทพโรมัน หากแต่เสียงที่เปล่งออกมาจากริมฝีปากบางชมพูนั้น ถึงจะไพเราะเพราะพริ้งอย่างไร แต่ใจความมันชวนให้ผู้ที่นั่งอยู่บนบัลลังก์คิ้วกระตุก


          "ไอเด็กเหลือขอ วันๆไม่ทำอะไรเอาแต่ยกพวกไปรังแกผู้อื่น ถึงอีกฝ่ายจะอ่อนราวกับหนอนเศษสวะ แต่เจ้าที่ไปรังแกมันยิ่งกว่าเศษสวะซะอีก"  หญิงสาวที่งดงามราวเทพธิดาหากแต่ฝีปากนั้นราวกับนางมารซาตานร้าย ทำให้ผู้ที่รับฟังอยู่เพียงคนเดียวในสถานที่นี้ เกิดอาการเส้นเลือดบนหนังศีรษะตึง หากแต่ยังคงเอ่ยออกไปด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง

          "เจ้าเป็นใคร? แล้วมีธุระอะไรกันข้า

          “ก็แค่คนที่ผ่านเพราะอยากจะถามว่าบุกไปตีเมืองมนุษย์เพราะอะไร

          ข้าก็แค่สงสัย ทำไมมนุษย์พวกนั้นถึงพัฒนาตนเองได้เร็วนัก แล้วก็ถึงจะฆ่าไปซักกี่ครั้งก็โผล่หน้ามาให้ข้าเห็นอยู่ร่ำไป ข้าคิดว่ามันเป็นคงสิ่งมีชีวิตทดลองของพวกศาสนจักรรึเปล่า? แล้วต้องฆ่าอีกซักที่ครั้งถึงจะหายไปซักที

         “เห้อ ฉันละอยากจะบ้าตายหญิงสาวถอนหายใจพลางยกมือขึ้นกุมขมับ

          เจ้าพูดว่าอะไรนะ?

         “เปล่าๆ แค่จะบอกว่านั้นไม่ใช่สิ่งมีชีวิตทดลองอะไรทั้งนั้นแหละ

         “เจ้ารู้ได้อย่างไร?

          ช่างเรื่องนั้นเหอะน่า เอาเป็นว่าไม่ต้องนำพวกมอนสเตอร์บุกเมืองมนุษย์อีกซักร้อยปีก็แล้วนะกันเข้าใจนะ"

          “หากข้าไม่หยุด?

          “ก็คงต้องส่งเจ้าไปดัดนิสัยที่อื่นซักพักนึงละนะ

          “เจ้าจะทำอะไรข้าได้?

          เฮ้อ กู่ไม่กลับแล้วสินะ งั้นก็คงต้องส่งไปอยู่ที่นู่นซักพักนึงแล้วล่ะ หญิงสาวคิดพลางยกมือขวาแล้วชี้นิ้วเรียวยาวไปยังชายหนุ่มตรงหน้าเธอ วินาทีต่อมาบังเกิดแสงสีขาวแสบตาจากปลายนิ้วเรียวพุ่งไปยังหัวของชายหนุ่ม

          เขาเป็นถึงผู้ที่มีพลังอำนาจเหลือล้นยิ่งกว่าใครในโลกนี้กลับโดนหญิงสาวนางหนึ่งที่อยู่ๆก็ปรากฏตัวขึ้นมาต่อว่าแล้วออกคำสั่ง เฮอะ ใครมันจะไปสนใจกันในเมื่อพลังที่เขามีอยู่ในตอนนี้หากเขาอยากทำอะไรก็สามารถทำได้ ทำไมจะต้องไปฟังคำสั่งของผู้หญิงที่ตนเองไม่รู้จักด้วยล่ะ ระหว่างที่ชายหนุ่มกำลังคิด ก็ต้องขมวดคิ้วเมื่ออยู่ๆหญิงสาวคนนั้นก็ยิงแสงประหลาดมาที่ศีรษะของเขา ฮึ เวทมนต์ที่แทบจะไม่มีพลังเวทแบบนั้นจะทำอะไรเขาได้ แต่เมื่อจะขยับมือเพื่อปัดแสงนั้นทิ้งไป กลับไม่สามารถขยับได้แม้แต่หนึ่งมิลลิเมตร ชายหนุ่มเบิกตากว้างคิดในใจนี่มันอะไรกันเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของเขา

     ฟุบ

    เมื่อแสงประหลาดลอยเข้ามาในหัวของชายหนุ่ม เขารู้สึกปวดราวกับหัวจะระเบิดเขารู้สึกเหมือนสติของตนกำลังจะค่อยๆหายไป ก่อนที่ดวงตาจะปิดผู้หญิงคนนั้นยิ้มมุมปากก่อนจะพูดอะไรบางอย่างแต่เขาไม่ได้ยินสติของเขาจะกำลังหมดลง เขาพยายามฝืนตนเองอย่างเต็มที่ แต่สุดท้ายทุกอย่างก็ดับวูบไป

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×