ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เรื่องของหนู หม่าม้าและปะป๊า YAOI

    ลำดับตอนที่ #12 : ง้อ

    • อัปเดตล่าสุด 17 ก.พ. 58


    ง้อ

     

     

     

    “แม่...น้ำหวานแปรพักตร์แล้วนะ  แม่จะไม่ให้โอกาสพี่เค้าสักนิดเลยเหรอ”

    จุ๊ๆ อย่าเสียงดังนะ  หม่าม้ากำลังคุยโทรศัพท์กับยายเสียงเครียดเชียว

    คุยไปด้วย  ผัดมาม่าไปด้วย  ก็ปะป๊าน่ะสิอยากกินผัดมาม่าแบบเผ็ดๆ  สูตรของม้าคนเดียว

     

    “พี่เค้าก็ดูเหมือนสำนึกแล้วนะ...คุยดีกับวิวกับหวานตลอดเลย....วิวไม่ได้ใจง่ายนะแม่...ก็มันจริงนี่....พี่เค้าน่าจะรู้ได้แล้วน่าว่าไม่มีใครดีเท่าเราเหมือนที่แม่เคยบอกไง....วิวไม่ได้อยากยื้อเวลา....แค่ต้องการพิสูจน์ว่าเค้าจะทนได้หรือเปล่า”

    หม่าม้าเหมือนเด็กงอแงเลย

    ดีนะเนี่ยที่หนูไม่เคยงอแงอ่ะ

     

    ฮะ..ฮัดเช่ย!!

    ฉุนพริกง่ะ

     

    “อ้าวน้ำหวาน มายืนตรงนี้ทำไมลูก...ไปนั่งข้างนอกกับปะป๊าไป”

    โถ่..แผนแตกเลย

    หม่าม้าปิดเตา  ดันๆหนูให้ไปนั่งกินลมชมวิวเป็นเพื่อนปะป๊า

    แต่มันน่าเบื่อนี่  ก็ป๊านั่งหลับอ่า

     

    “อ้าวพี่แทนมาหลับอะไรตอนนี้เนี่ย”

    หม่าม้าบ่นคนเดียว

    เดินหายไปในบ้านแต่ก็กลับมาพร้อมกับผ้าห่มแพร เอามาห่มให้ป๊า  แล้วเลื่อนรถเข็นให้อยู่ในร่ม

     

    “น้ำหวานเฝ้าป๊าไว้นะลูก  ถ้าแดดไล่ก็เลื่อนเอา  ไม่หนักหรอก”

    หม่าม้าไม่รู้อะไร  หนูลองเลื่อนเล่นๆตั้งหลายที  มันก็ไม่เคยขยับเลยนะ

    ตัวปะป๊าหนักจะตาย

    ตัวใหญ่ยังกะยักษ์  หนูสูงแค่หัวเข่าป๊าเอง

     

    “ฮ่าๆ หน้างอเป็นปลาทูแล้ว  เดี๋ยวม้าไปตักผัดมาม่ามาให้นะ  รอนี่นะครับ”

     

    “ต้องปลุกป๊าป่าวคะ”

     

    “ไม่ต้องหรอก  หม่าม้ามีแผน”

     

    .

    .

    .

    แผนที่ว่าคือเอาจานมาม่ามาจ่อที่จมูกป๊า

    ท่าทางหม่าม้าคงจะสนุกมาก  แกล้งไปขำไป

    เพราะปะป๊านะไม่ยอมตื่นสักที

    แต่หันซ้ายหันขวาตามจานหอมๆ

     

    หนูอ่ะไม่อยากแกล้งป๊าหรอก

    ขอนั่งกินดีกว่า  หอมจนน้ำลายไหลแล้วเนี่ย

     

    “ทำอะไรกันอยู่จ้ะวิว”

    ป้านวลทักตรงรั้วหน้าบ้าน

    สงสัยเพิ่งกลับจากตลาด

    ป้านวลชอบไปนั่งคุยกะแม่ค้าจนสายๆถึงกลับบ้าน

     

    “ป้ามาพอดีเลย  วิวทำผัดมาม่าเอาไว้  รอแป้บนะครับ”

    ม้าเอาผัดมาม่าให้ป้านวลไป  ป้ายิ้มดีใจใหญ่เลย

    แล้วก็ยิ้มให้ปะป๊าที่หลับอยู่ด้วย

     

    “อาการเป็นไงบ้างล่ะ”

     

    “ก็ดีขึ้นมากครับ  แผลแห้งแล้ว  แต่เขากลัวเจ็บ เลยขยับไม่ถึงไหน”

     

    “อืม...ขอให้หายไวๆนะวิว”

     

    “ขอบคุณครับป้า”

    ป้านวลเข้าบ้านไปแล้ว

    พอดีกับที่ป๊าตื่น  ปะป๊ายิ้มใหญ่เลยพอเห็นผัดมาม่า

    ส่วนม้านะหุบยิ้มฉับ

    ไหนใครหว่าที่หัวเราะตอนแกล้งเขา

     

    “ทำเสร็จแล้วเหรอ  ป้อนเร็วสิ  หิวจะตายแล้วครับที่รัก”

     

    “อย่าบ่นสิครับ เดี๋ยวก็ไม่ป้อนซะหรอก”

     

    “คนน่ารักทำไมใจร้ายจัง..”

     

    “ถ้านี่เรียกว่าใจร้าย  ....เทียบกับที่พี่เคยทำ....วิวก็ไม่รู้จะพูดว่าอะไรแล้ว”

    อ่าวหม่าม้า  จู่ๆก็เศร้าเฉ้ย

    ม้ายังเครียดเรื่องป๊าไม่รักอยู่เหรอ  อย่าเครียดน้า

    ปะป๊าบอกหนูทุกวันว่ายังรักอยู่  เชื่อหนูสิ

     

    “ยังไม่หายโกรธพี่เหรอ?....”

     

    “ไม่รู้สิครับ...ไม่รู้จะโกรธอะไร”

     

    “...พูดดีๆไม่ได้เลยใช่มั้ยครับ...”

    เฮ้อ...ทะเลาะกันซะงั้น

     

    หม่าม้าเข็นปะป๊าเข้าห้องนอนชั่วคราวข้างล่าง

    หนูนึกว่าจะไม่ป้อนมาม่าให้ซะแล้ว

    ยังดีที่หม่าม้าไม่งอนจนลืม  เพราะหนูได้ยินเสียงท้องป๊าร้องด้วย

     

    “ถ้าวิวยังรักพี่...ก็อย่าทำปั้นปึ่งได้มั้ย  พี่รู้นะ...พี่ดูออก  อย่าฝืนตัวเองเลย”

    ปะป๊าพูดหลังจากอิ่ม

    มีหนูนั่งเล่นใกล้ๆ

     

    “ลูกอยู่ด้วยนะพี่...น้ำหวานออกไปดูทีวีก่อนได้มั้ยลูก”

     

    หนูส่ายหัว 

    ไม่ไปหรอก  อยากฟังผู้ใหญ่คุยกัน

    ดีกันสักทีสิ  หนูรอนานแล้วนะ

    ไม่งั้นพรุ่งนี้หนูไม่ไปโรงเรียนหน่า

     

    “ว่ายังไงครับ...บอกพี่หน่อยสิ”

     

    “แล้วพี่ถามใจตัวเองหรือยังว่ารักวิวจริงๆหรือเปล่า  ไม่ใช่พอหายแล้วก็ไปรั--...ไปที่อื่นอีก”

     

    “แล้ววิวต้องการอะไร...ถ้าอยากให้ทุกอย่างมันดีขึ้นก็ทำตัวดีๆกับพี่สักนิดไม่ได้เลยเหรอ.....”

     

    “วิวก็ดูแลพี่อยู่นี่ไง  วิวสงสารลูกเหมือนกันนะ....”

     

    “ที่วิวทำนี่คือรักลูกมากล่ะสิ  ไม่เคยยอมคุยกับพี่ดีๆ  ไม่รู้หรือไงว่าลูกรู้ตลอด”

     

    “.......พอเถอะ...วิวยังไม่อยากคุยอะไรตอนนี้”

    หม่าม้าเดินหนีออกไปเลย

    ทิ้งให้หนูกับปะป๊ามองหน้ากัน

     

    หนูไม่ค่อยเข้าใจหรอก  เลยปลอบป๊าไม่ได้

    แต่ป๊าก็น่าจะรู้นะว่าหม่าม้าเคยร้องไห้หนักๆหลายที ก่อนไปอยู่บ้านยาย

    คงไม่อยากร้องไห้อีกล่ะมั้ง

     

    “ทำไมคราวนี้ม้าหนูใจแข็งจัง...”

    ปะป๊าพึมพำ

    ใจแข็งเป็นอย่างงี้นี่เอง

    คือไม่ยอมยิ้มใช่ป่าว?

     

    ...........................

     

     

    ผ่านไปหลายวันแล้ว

    แต่หม่าม้าก็ไม่ยอมคุยกับปะป๊าเวลาอยู่กันสองคน

    ปะป๊าให้หนูพูดกล่อมให้เท่าไหร่ๆ  ก็ไม่ได้สักที

    หม่าม้าน่ะใจแข็งม้ากมาก

    ยังดีแหละที่ยอมคุยเรื่องของหนูบ้าง

    หนูดีใจจังเวลาที่ป๊าม้าคุยกันเพราะหนู

     

    แหะๆ  แต่ที่เล่ามาเมื่อกี๊ต้องเก็บเงียบไว้ก่อนนะ

    เพราะตอนนี้ตาลุงกริชมาเยี่ยมหม่าม้า  ทำให้หน้าป๊ากลายร่างอีกแล้ว

    หนูอุตส่าห์บอกไปแล้วว่าเป็นเพื่อนๆ ก็ไม่ยอมเชื่อ

    พอกันเลยทั้งม้าทั้งป๊า

    มีใครคิดจะเชื่อหนูบ้างเนี่ย!

     

    “อร่อยมากเลยครับ  ต้องขออีกสักชาม”

    ตาลุงนี่มาทีไรก็มากินขนมบ้านเราตลอด

    หนูเห็นนะว่าพุงยื่นแล้ว  ไม่ลดหุ่นเหมือนปะป๊าเลย

     

    “เก็บไว้ให้ป้านวลสิวิว”

    ปะป๊าขัด  แต่ตัวเองยื่นจานตัวเองให้ม้าตักเพิ่มเนี่ยนะ!?

    อ้อ!  มือป๊าค่อยยังชั่วแล้วน้า

    จับอะไรที่ไม่หนักได้แล้ว  ไม่บ่นว่าเจ็บแล้วด้วย

    แต่ก็ยังพันผ้าไว้อยู่  ปะป๊าบอกว่ากลัวหนูจะร้องไห้ถ้าเห็นมัน

    ไม่รู้อะไรเล้ยว่าจะยิ่งทำให้หนูอยากเห็นอ่ะ

     

    “วิวตักเผื่อไว้แล้ว  ...เหลือเฟือครับคุณกริช  ทานตามสบายเลย”

    หม่าม้าบริการดี๊ดี  ลุงกริชยิ้มแฉ่ง ไม่ยอมหุบ

    เหงือกแห้งหมดแล่ว

    คิกๆ ทำให้คิดถึงคุณหมอหล่อคนนั้นเลย

     

    “ถ้าได้กินฝีมือวิวทุกวัน  ผมคงอ้วนตายแน่เลย”

     

    “งั้นก็ไม่ต้องกิน”

    ป๊าเสียงเข้มเชียว

    แต่ป๊าไม่อ้วนนะ ทั้งที่กินทุกวัน

     

    “คงห้ามยากนะครับ  ผมติดใจซะแล้ว”

    ลุงกริชยักคิ้วให้หนึ่งที  ยักข้างเดียวด้วย  ทำไงอ่ะๆ อยากทำมั่ง

     

    “คนเราสมัยนี้นะไม่กลัวบาปกลัวกรรม...”

    ป๊าพูดเหมือนตัวเองกำลังเล่าเรื่องผีอยู่  เสียงหลอนๆ

    หนูล่ะกลัวมากเลยเวลาป๊าแกล้งหลอกผี

     

    “ว่าตัวเองอยู่เหรอครับคุณแทน”

    งงกะตาลุง

    ใครที่ไหนจะว่าตัวเองอ่า  มีด้วยเหรอ?

    ต้องชมสิๆ

    ติ๊งต๊องแล้วแหละคนที่ว่าตัวเองน่ะ  ตัวเราเองก็ต้องน่ารักที่สุดซี่

     

    “วิว...พาพี่ไปหน้าทีวีทีสิ  อยู่ตรงนี้แล้วหายใจไม่สะดวก”

    หม่าม้าหัวเราะแหะๆ

    ก้มหัวให้ตาลุงหน่อยนึง  แล้วเข็นป๊ามากับหนู

     

    หนูน่ะต้องดูป๊าตลอดทุกฝีก้าว  เป็นองครักษ์พิทักษ์เจ้าชาย!

    ส่วนหม่าม้านะน่ารักที่สู้ดด  ยอมเป็นเจ้าหญิงที่อยู่บนหอคอยให้

     

     

    หนูเล่นกะปะป๊าจนลืมไปเลยว่าตาลุงอยู่ด้วย

    เจ้าหญิงบนหอคอยเหมือนจะมีเพื่อนเป็นพ่อมดนะ

    ตาลุงน่ะหน้าตาไม่น่าไว้ใจเอาซะเลย เหมือนแม่มดชั่วร้ายสุดๆ

    หนูคงต้องปกป้องเจ้าหญิงอีกคนแล้วล่ะ!

     

    “ลุงๆ คะ  เล่นกับหนูหน่อย”

     

    “เล่นอะไรครับ?”

     

    “ลุงเป็นพ่อมดใจร้ายนะ  จะมาเอาเจ้าหญิงไป  เจ้าชายเลยต้องไปด้วย แต่เจ้าชายบาดเจ็บเลยส่งหนูมาแทน ลุงต้องสู้กะหนูนะ”

     

    “...เอ่อ...ลุงต้องชนะมั้ย”

     

    “ตามใจลุงเลย”

    แต่ถ้าหนูไม่ชนะนะ...โกรธจริงด้วย

     

    แล้วเราก็เริ่มเล่นกัน  หนูให้หม่าม้านั่งบนโซฟาให้เหมือนนั่งรอเจ้าชายบนหอคอย

    ปะป๊านั่งบนรถเข็นหน้าทีวี

    ส่วนตาลุงกำลังเดินไปหาหม่าม้าแบบหน้าตาโหดเหี้ยม

    ทันใดนั้นเอง!!  พ่อมดก็กระโดดตะครุบเจ้าหญิงตัวน้อยน่าสงสาร  เจ้าหญิงดิ้นๆ

    เจ้าชายเจ็บขาขยับไม่ได้  มือก็ไม่มีแรงเลื่อนล้อ  เจ้าชายกระแทกตัวแรงๆกะเบาะ

    หนูที่เป็นองครักษ์พิทักษ์เจ้าหญิงเลยต้องถือดาบ(ปลอม)ไปฟันโช้งเช้ง

     

    เสียงเจ้าหญิงร้องน่าสงสารมาก  เพราะไอ้พ่อมดมันรัดแน่นจนเจ้าหญิงหายใจไม่ออก

    เจ้าหญิงกำลังจะเป็นลมแล้ว!

     

    “ปล่อยนะเว่ย!! มีสิทธิ์อะไรมากอดเมียกูวะ!

    เอ่อ.....เงียบกันเลย

    ปะป๊ากลับมาน่ากลัวอีกแล้ว

    หนูแค่เล่นๆกันเองนะ...ปะป๊าโมโหมากไปป่าว?

     

    “พี่พูดดีๆหน่อยสิ  นี่แขกนะ....ขอโทษแทนเค้าด้วยนะคุณกริช  เลิกเล่นเถอะน้ำหวาน  ป๊าเราคงเล่นไม่ได้แล้วหละ”

     

    “วิวจะทำให้เรื่องมันบานปลายไปทำไม  แค่กลับมารักพี่ มาคุยกับพี่...มันจะไปยากอะไรวะ”

     

    “แล้วพี่โมโหอะไร  วิวแค่เล่นกัน  ลูกยังไม่ว่าอะไรเลย”

    ใช่ๆ  หนูเป็นคนบอกให้ตาลุงเล่นเหมือนพ่อมดเอง 

    แล้วตาลุงก็ไม่ได้ทำไรน่ากลัวขนาดนั้นสักกะหน่อย  หนูกำลังแทงอยู่แล้วเชียว

     

    “วิวคิดผิดมากนะที่ใช้วิธีนี้มายั่วโมโหพี่”

     

    “ก็แล้วแต่พี่จะคิดละกัน...แต่สิ่งที่วิวคิดคือ...วิวไม่อยากเจ็บอีก!

     

    .

    .

    .

    .

    ...ทำไมอ่ะ  กลับมาอยู่ด้วยกันแล้วยังจะทะเลาะกันอีกทำไมก็ไม่รู้

    หนูอยู่ตรงนี้ทั้งคนนะ

    ไม่สงสารหนูกันเลยเหรอ?

    หม่าม้าแค่คุยกับป๊าก็ได้  ไม่ต้องรักกันแล้วก็ได้....

    หนูยอมแล้วก็ได้....

     

     

    “เอาออกมาทำไมครับ  ฝุ่นมันเยอะ”

    ปะป๊าทุกตอนเห็นหนูหยิบอัลบั้มรูปออกมาจากชั้นเตี้ยๆ

    ก็หนูไม่มีอะไรทำนี่นา  เล่นกับป๊าที่นั่งซึมกะทือจะไปสนุกอะไรเล่า

     

    “อยากดูค่ะ  ไม่ได้ดูนานแล้ว”

     

    “ปีนึงแล้วมั้งเนี่ย  ฝุ่นเลยเกาะขนาดนี้  ขอป๊าดูหน่อยสิ”

     

    บ้านทั้งบ้านเงียบกริบ

    มีแต่เสียงปะป๊าเปิดอัลบั้มรูป

    เป็นรูปเก่าๆตั้งแต่หนูยังไม่เกิด

    ป๊าจะกอดหม่าม้าทุกรูปเลยแหละ  น่ารักมากๆเลย

    ส่วนมากมีแต่ชุดไปโรงเรียนคนโตทั้งคู่

    คนนึงก็หล่อ  คนนึงก็น่ารัก  แต่หนูว่าหม่าม้าตอนผมยาวสวยกว่า

    บางรูปก็เป็นบ้านหลังนี้  แต่ว่าบ้านไม่ค่อยมีอะไรเท่าไหร่  หม่าม้านะขยันยังไงก็ขยันยังงั้น

    มีแต่รูปโดนป๊าแอบถ่ายตอนกวาดบ้าน  ถูบ้าน  ทำกับข้าว  อาบน้ำก็ยังถ่าย!

    ป๊าปิดอัลบั้มซะแรงจนฝุ่นฟุ้ง  ถอนหายใจเฮือกๆ

    แล้วเงยหน้ามองบนผนังที่มีรูปปะป๊าใส่ชุดคลุมสียาวๆเหมือนพ่อมด

    ยืนคู่กับหม่าม้าที่อุ้มหนูตอนตัวเล็กเท่าลูกหมา

    .

    .

    “น้ำหวานครับ...ไปง้อหม่าม้าให้ป๊าทีสิ”

    ปะป๊าพูดเสียงอ่อยๆ  หงอยเลยคนหล่อของหนู

     

    “ถ้าง้อไม่ได้ล่ะคะ?”

    หนูก้มหน้าถามเสียงเบา

    ง้อกันไปง้อกันมา ก็ไม่เห็นจะเลิกทะเลาะกันสักที

    หนูไม่กล้าช่วยแล้ว

     

    “ก็ต้องลองดูครับ....”

     

    “บอกว่าอะไรบ้างคะ  เอาซึ้งๆนะ”

     

    “.....ไปบอกม้านะว่าพี่ขอโทษ  พี่สำนึกแล้ว  พี่ไม่อยากให้ครอบครัวเราแตกแยก อยากรักกันเหมือนเมื่อก่อน  พี่สัญญาว่าจะไม่มีใครอีก  ถึงวิวอาจจะไม่เชื่อพี่อีกแล้ว  แต่พี่ก็จะสัญญาจนกว่าวิวจะเชื่อ  จะพิสูจน์จนกว่าวิวจะเห็นว่าพี่ทำได้จริงๆ  พี่เข้าใจวิวทั้งหมดในเรื่องที่ผ่านมา  พี่สงสารเรา สงสารลูกที่ต้องฝันร้ายทุกวันเพราะพี่  พี่ขอโทษจริงๆ ...พี่ผิดเอง”

    .

    .

    .

     

    .....  “เอ่อ.....ปะป๊าเขียนได้ไหมคะ ยาวไปหนูจำไม่ได้” ......

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×