ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Akatsuki no Yona || มังกรหรือกุ้ง《エビ》yaoi。

    ลำดับตอนที่ #1 : บทที่ ๑ | องค์ชายโยรุ

    • อัปเดตล่าสุด 6 เม.ย. 66


    ราชอาณาจักรโคกะที่ซึ่งครั้งหนึ่งได้เป็นวังของข้า…

     

     ขณะนั้นพระราชาได้อาศัยอยู่ในพระราชวังฮีริวที่ไร้ซึ่งองค์หญิงและองค์ราชินีเคียงข้าง แม้จะกล่าวมาอย่างนั้น…

     

    แต่ก็ยังมีองค์ชายวัย 15 ที่มากด้วยทักษะและความรู้ ถึงแม้บุคลิกภายนอกจะเป็นคนมนุษย์สัมพันธ์ดี ไม่เอางานเอาการ ชอบหยอกล้อหยอกเล่น แต่เขาก็ยังกล้าหาญและแข็งแกร่ง…

     

    “นับเป็นปีที่ 10 ที่อดีตองค์ราชาจูนัมสวรรคต ราชอาณาจักรโคกะของเราเป็นประเทศเล็กๆที่ล้อมรอบไปด้วยประเทศที่ทรงอำนาจ!”เสียงของพระราชาแห่งอาณาจักรนี้กล่าวประกาศเสียงดัง

     

    “องค์ชายหล่ะ?”ระหว่างที่พระราชากำลังพูดอยู่นั้นชายหนุ่มร่างสูงก็เอ่ยถามหาองค์ชายที่ยังไม่เห็นหน้าเห็นตากันในวันนี้

     

    “เอาแต่อุดอู้อยู่ในห้องตั้งแต่เช้าแล้วขอรับ”

     

    “งั้นหรอ เพราะเขาจะมาวันนี้สินะ”ชายหนุ่มนามว่าฮาคุก็พยักหน้าเข้าใจทันทีก่อนจะบ่นออกมาเล็กน้อย

     

    “อย่างกับเด็กแหนะ”

     

    “บัดนี้ ลูกชายของข้า โยรุ กำลังจะอายุครบ 16 ปี ข้าขอให้ภายใต้การคุ้มครองพระเจ้าแห่งฮีริวนำความสุขมาสู่ทุกคนตราบชั่วกาลนาน!!”สิ้นเสียงของพระราชาทุกคนก็แฮ่ร้องด้วยความสรรเสริญ

     

    “ทรงพระเจริญ!!”









     

    “องค์ชาย ท่านควรจะเสด็จไปที่ลานกว้างได้แล้วนะพะย่ะค่ะ”

     

    “ไม่ได้!”

     

    ร่างโปร่งที่นอนคว้ำอยู่บนเตียงตะโกนออกมาอย่างเด็ดขาดจนคนรับใช้หนุ่มต้องยกมือขึ้นมากุมขมับ

     

    แต่เมื่อพระราชาหรือเสด็จพ่อของร่างโปร่งเดินเข้ามา โยรุก็ลุกขึ้นยืนแล้วเอ่ยถามพ่อของตน

     

    “ท่านพ่อ..พิธีหล่ะขอรับ”

     

    “ก็อย่างที่เห็น มันจบแล้ว”ท่านพ่อพูดออกมาด้วยใบหน้าที่อ่อนโยน ข้าที่รู้สึกผิดจึงขอโทษขอโพยท่านพ่อไป

     

    “ข้า..ข้าขออภัยท่านพ่อ”ส่วนทางท่านพ่อก็หัวเราะด้วยความเอ็นดูแล้วบอกไม่เป็นไร

     

    “ท่านพ่อคิดว่าสีผมของข้ามันแปลกหรือไม่”โยรุเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเศร้าๆพลางยกมือขึ้นลูบเส้นผมสีแดงสดแถมยังยาวถึงกลางหลัง

     

    ดีนะที่ผมตรงไม่งั้นข้าคงหัวฟูเป็นแน่แท้

     

    “ไม่แปลกแน่นอน มันงดงามราวกับอัญมー”ไม่ทันที่พระราชาจะพูดจบโยรุก็เอ่ยขัดขึ้นมาทันทีทันใด

     

    “ข้าไม่ดีใจหรอกนะ”
     

    (//สีหน้าของพระราชาตอนนี้)

     

    “แต่ถึงอย่างนั้นพ่อก็พูดจริง เนอะฮาคุ”ท่านพ่อพูดพร้อมหันไปหาผู้มาใหม่

     

    “ขอรับ ไม่มีใครว่าพระเกศา(เส้นผม)ขององค์ชายแปลกแน่นอนพะย่ะค่ะ”ฮาคุเอ่ยออกมาอย่างเนิบๆ

     

    โอโห ข้านี่ซึ้งเลยขอรับ

     

    “แต่ที่เห็นว่าผิดปกติ ก็เห็นจะเป็น พระมัตถลุงค์(สมอง)ซะมากกว่า”

     

    “เงียบไปเลย ไอคนเลว”

     

    หลังจากพูดจบข้ากับฮาคุก็เริ่มปะทะคารมณ์กันขนาดย่อมๆ

     

    “หน่าๆ อย่าทะเลาะกันเลย ยังไงพวกเจ้าก็เป็นเพื่อนกันตอนเด็กนะ”พระราชารีบเอ่ยปลอบทั้งสองเพื่อยุติสงครามปาข้าวปาของก่อนที่ห้องจะเละเทะไปมากกว่านี้

     

    “แถมฮาคุยังเป็นหนึ่งใน 5 ขุนพลที่คอยปกป้องวังนี้อีกด้วย”

     

    “อย่างน้อยก็ขอให้เป็นองครักษ์ที่น่ารักกว่านี้หน่อยก็ดี”โยรุที่เริ่มเหนื่อยก็ทิ้งตวลงบนเตียงก่อนจะเริ่มตัดพ้อ

     

    “พูดถึงเรื่องน่ารัก ท่านจะไม่ทำตัวให้น่ารักหน่อยหรือ”ฮาคุวางข้าวของที่อยู่ในมือลงแล้วจึงเอ่ยหยอกล้อองค์ชายที่นั่งพักเหนื่อยอยู่บนเตียง

     

    “ข้าไม่จำเป็นต้องใช้คำนั้น”โยรุ

     

    “แต่ดูเหมือนท่านซูวอนจะมาแล้วนะ”

     

    หะ?

     

    “ทーทำไมไม่บอกให้เร็วกว่านี้หล่ะ!!”พูดเสร็จร่างโปร่งก็วิ่งเตลิดเปิดเปิงออกไปจากห้อง

     

    ซูวอน!

     

    ผมรีบวิ่งออกไปจากห้องด้วยความเร็วที่มาจากการฝึกฝนตอนกลางคืน ทุกคนคงสงสัยว่าทำไมผมถึงต้องรีบ

     

    เพราะผมไม่อยากเจอหน้าเขายังไงหล่ะ!!

     

    ได้ข่าวมาว่ายิ่งโตซูวอนก็ยิ่งรูปงาม ข้าไม่อยากหายไปกับกลีบเมฆหรอกนะ! ถึงแม้ตัวข้าเองจะมีดีตรงเส้นผมสีแดงสดที่ตรงยาวพริ้วไสว

     

     แต่ถ้าให้เทียบหน้าตาอันรูปงามของข้ากับซูวอนหล่ะก็ขอผ่านเลย! 

     

    ไม่ใช่ว่าข้าไม่หล่อเหลา แต่เพียงน้อยกว่าซูวอนเท่านั้น

     

    ในขณะที่โยรุกำลังจะเตรียบกระโดดขึ้นไปหลบบนต้นไม้ข้อมือขาวก็โดนดึงลงมาสู่อ้อมอกของใครบางคน

     

    “ยังซุกซนเหมือนเคยเลยนะ องค์ชายโยรุ”เสียงนุ่มทุ้มดังเข้าสู่โซนประสาท ด้วยระดับความสูง170 ซม. จึงทำให้ใบหน้าของผมจุ่มลงบนไหปราร้าของเจ้าของเสียง

     

    “ซูวอน!”โยรุรีบเขยิบตัวออกมาจากอ้อมกอดของอีกคน

     

    “เหตุใดจึงรีบเร่งนักหล่ะ”ซูวอนเองก็ยังคงกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงอบอุ่น

     

    “อา พอดี..พอดีข้า..ข้ารู้ว่าเจ้ามาก็เลยรีบหน่ะ!!”สุดท้ายแม้ว่าจะหาทางหนียังไงก็ต้องเจออยู่ดี

     

    แต่ที่พูดไปหน่ะ เรื่องจริง

     

    “เป็นเด็กดีซะจริง~”ว่าจบก็ยกมือขึ้นมาลูบกลุ่มผมสีแดงสดที่ปล่อยยาวอย่างเพลินมือ

     

    “ว่าแต่ครั้งนี้เจ้าจะอยู่นานเลยรึ”ผมจับมือของซูวอนลงจกหัวแล้วเอ่ยถาม

     

    “แน่นอน ข้ามาเพื่อร่วมงานฉลองวันเกิดเจ้า อ้า โยรุของเราอายุ 16 แล้วสินะ”

     

    “โตไวจริงเชียว~”ว่าจบก็ยกมือขึ้นมาลูบกลุ่มผมสีแดงสดเช่นเคย 

     

    “เอ๊ะ แล้วองค์ราชากับฮาคุอยู่ไหนหล่ะ ต้องไปทักทายซะหน่อยแล้ว~”

     

    “ข้าไม่ใช่เด็กเสียหน่อย”

     

    เมื่อซูวอนได้เดินจากไปผมก็กระโดดขึ้นไปนอนเล่นบนต้นไม้อย่างหน่ายใจ

     

    เจ้าบ้าซูวอน..

     

    || ย้อนความ

     

    “โยรุเดี๋ยวก่อนสิ!”ซูวอนในวัยเด็กได้วิ่งตามข้ามาที่ศาลาหลังวัง

     

    “เจ้าตามข้ามาทำไม”ข้าในตอนนั้นยังคงเด็กและไม่รู้จักโลกภายนอกซะเท่าไหร่

     

    “ข้าเห็นเจ้าแปลกไปจึงตามมาดู..หากอยากร้องไห้ก็ร้องออกมาเถิด”ซูวอนยกมือขึ้นมาลูบใบหน้าของข้าอย่างแผ่วเบาก่อนจะนำผ้าคลุมของตนมาคลุมหัวให้กับผม

     

    “เพียงเท่านี้ก็ไม่มีใครเห็นแล้ว”เมื่อสิ้นเสียงน้ำตาที่อัดอั้นมาหลายวันก็ไหลพรากผ่านพวงแก้มอย่างนิ่มนวล

     

    “หลังจากท่านแม่เสีย ข้าก็นอนไม่เคยหลับ”ไม่มีเสียงสะอื้นหรือร่ำไห้ จะมีก็แต่เสียงตัดพ้อของเด็กน้อยผู้น่าสงสาร

     

    “อื้ม ข้าเองก็ทราบข่าวมาแล้วเหมือนกันว่าองค์ราชินีนั้นสวรรคต”ซูวอนเองก็คงสงสารข้าจับใจถึงได้เอ่ยปลอบโยนข้ามาแบบนั้น

     

    “แต่หลังจากนี้ข้าจะเป็นแม่ให้เจ้าเอง! ก่อนอื่นเจ้าต้องกินอาหารเสียก่อน”ซูวอนจับเข้าที่ไหล่ทั้งสองข้างของผมด้วยท่าทีมุ่งมั่นก่อนจะล้วงเข้าไปในเสื้อเพื่อหยิบผลสาลี่ที่นำมาจากอาจารย์

     

    โครก~

     

    แม้จะทำตัวเป็นพระเอกเพียงใดแต่เด็กก็ยังคงเป็นเด็ก 

     

    “เจ้ากินไปเสียเถอะข้าไม่หิว แล้วอีกอย่างเจ้าก็เป็นบุรุษจะมาเป็นแม่ให้ข้าได้อย่างไร”เมื่อกล่าวจบซูวอนก็ก้มหน้าด้วยท่าทางเคอะเขิน ผมที่เห็นอย่างนั้นก็ยกมือขึ้นลูบกลุ่มผมที่นุ่มลื่นดั่งผ้าแพรของเจ้าตัว

     

    “ข้าจะจับมือของเจ้าไว้จนกว่าเจ้าจะหลับเหมือนที่องค์ราชินีเคยทำ”

     

    “และหากเจ้าหลั่งน้ำตา ข้าก็จะเช็ดออกไม่ให้ใครเห็น”

     

    “เพราะฉะนั้น..พรุ่งนี้ก็จงยิ้มซะนะ”

     

    ซูวอน..เหตุใดเจ้าถึงดีกับข้าเช่นนี้ ข้าคิดไม่ออกเลยหากคนอ่อนโยนอย่างเจ้าจะทำเรื่องโหดร้าย และข้าคิดว่าเจ้าคงจะไม่ทำเช่นนั้น…



     

     

    โยรุที่เผลอหลับไปก็ลืมตาขึ้นมาก่อนจะยกมือขึ้นมากุมขมับเล็กน้อย

     

    “นี่ข้าฝัน?”เมื่อยืดเส้นยืดสายเสร็จก็สังเกตเห็นว่าด้านล่างของต้นไม้มีซูวอนกับฮาคุที่กำลังประลองธนูกันอยู่ ขผมจึงกระโดดลงจากต้นไม้แล้วเดินไปหาท่านพ่อที่อยู่ข้างลานประลอง

     

    “อ่าว โยรุเจ้าหายไปไหนมารึพ่อไม่เห็นเจ้าเลยหลังจากออกจากห้อง”ท่านพ่อที่เห็นผมเดินมาอยู่ข้างๆก็เอ่ยทักทายด้วยใบหน้าอ่อนโยนเฉกเช่นเคย

     

    “ข้าไปพักผ่อนมาขอรับ”เมื่อโยรุพูดจบก็อ้าปากหาวออกมาอย่างไม่เกรงใจฟ้าดิน

     

    “ยอดเยี่ยมไปเลยนะฮาคุ”


    “ท่านซูวอนเองก็ร้ายกาจไม่แพ้กัน”

     

    “ข้าก็จะไปยิงธนูกับสองคนนั้นด้วย”ผมยกมือขึ้นมาแล้วพูดด้วยใบหน้ามุ่งมั่นแต่ไม่ทันที่จะได้ปีนลงสนามประลองท่านพ่อก็เอ่ยขัดขึ้นมาซะก่อน

     

    “ไม่ได้นะ! เจ้าจะจับอาวุธไม่ได้ แล้วพ่อก็ไม่อยากให้สองคนนั้นจับอาวุธด้วยเช่นกัน”ท่านพ่อพูดออกมาด้วยใบหน้าตื่นตระหนกจนผมต้องหันมาโวยด้วยใบหน้างอแง

     

    “งั้นท่านพ่อก็ไปห้ามสิขอรับ!”

     

    “พ่อจะบาดเจ็บเอาหน่ะสิ”

     

    “เนี่ย! ท่านพ่อก็เป็นเสียอย่างนี้!”

     

    ทางทั้งสองคนที่อยู่ในลานประลองก็มองมาทางสองพ่อลูกด้วยใบหน้ายิ้มๆ(แค่ซูวอน)ก่อนที่ซูวอนจะตะโกนเรียกร่างโปร่งที่อยู่ด้านบน

     

    “โยรุ! เจ้าเองก็ลงมาขี่ม้าด้วยกันสิ”ข้าที่ได้ยินอย่างนั้นก็บอกลาท่านพ่อแล้วกระโดดลงไปทันที

     

    “ไปล่ะท่านพ่อ”

     

    ท่านพ่อที่เห็นข้ากระโดดลงไปก็ตกใจปนเป็นห่วงกลัวว่าจะเป็นอะไรไป แต่ทางซูวอนกับฮาคุก็ส่ายหน้าด้วยความหน่ายใจให้กับนิสัยแก่นๆที่รักษาไม่หายของเจ้าตัว





     

    ห้าวันผ่านมา งานเลี้ยงฉลองวันเกิดครบรอบ 16 ปีของผมก็ถูกจัดขึ้นในพระราชวังฮีริว

     

    “องค์ชายพะย่ะค่ะ ขอให้ท่านมีความสุขมากๆนะพะย่ะค่ะ”

     

    “ขอบใจ”ร่างโปร่งในอาภรณ์สีแดงเข้มดัดดำนั้นช่างเข้ากันได้ดีเสียจริงในวันนี้ ผมเอ่ยขอบคุณไปมากกว่า 10 ครั้งแล้วนะในวันนี้ โยรุถอนหายใจออกมาเบาๆก่อนจะแอบเดินออกจากงานไปนั่งสูดอากาศด้านนอก

     

    “โยรุ”

     

    หืม

     

    ผมหันไปตามเสียงเรียกก่อนจะพบกับซูวอนที่เดินเข้ามาหา

     

    “มีอะไรรึ?”

     

    “ข้าคิดว่ามันน่าจะเหมาะกับเจ้าดีเลยเอามาให้ด้วยตัวเองหน่ะ”เมื่อซูวอนกล่าวจบก็หยิบปิ่นปักผมสีแดงมาวางไว้บนมือของผม

     

    “ข้าเกรงว่าบุรุษคงจะไม่ใช้กันหรอกนะ”ถึงแม้จะตอบกลับไปแบบนั้นแต่ก็ยอมเก็บของชิ้นนั้นเข้าไปในสาบเสื้อของตน

     

    “บุรุษอื่นหากใช้อาจจะไม่เหมาะ แต่สำหรับเจ้าต้องงดงามมากแน่ๆ”ซูวอนเจ้าพูดออกมาเช่นนี้มีพิรุธยิ่งนัก 

     

    ไม่ทันที่จะได้พูดต่อฮาคุที่โผล่มาจากไหนไม่รู้ก็เอ่ยขัดขึ้นมาแทน

     

    “ฝ่าบาทกำลังตามหาท่านอยู่”ฮาคุหันมาพูดกับผมโดยสายตาก็ได้มองลงตรงปิ่นที่สาบเสื้อของผม

     

    “งั้นก็บอกท่านพ่อด้วยละกัน ว่าข้าจะไปพักอยู่ที่ห้อง”ว่าจบผมก็เดินจากไปโดยทันที

     

    ทำไมวันนี้ถึงรู้สึกแปลกๆ 

    คงไม่มีอะไรหรอกมั้ง

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×