MAGiC SOUL (เมจิก โซล) - นิยาย MAGiC SOUL (เมจิก โซล) : Dek-D.com - Writer
×

    MAGiC SOUL (เมจิก โซล)

    ผู้ที่มีพลัง Soul และแข็งแกร่งที่สุดเท่านั้น ถึงจะอยู๋รอด

    ผู้เข้าชมรวม

    229

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    6

    ผู้เข้าชมรวม


    229

    ความคิดเห็น


    3

    คนติดตาม


    3
    หมวด :  แฟนตาซี
    จำนวนตอน :  6 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  24 ก.ย. 59 / 13:19 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    “ บลื้ม...!!! ” “ ตู้ม...!!! ” 
               เสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว ทั่วพื้นปฐพี ผู้คนล้มตายเกลื่อนกลาดไปหมด แสงวูบวาบกลางเวหาล่วงลงมาสู่พื้นพสุธา เสียงผู้คนร้องโหยหวนขอชีวิต เปลวเพลิงลุกไหม้อย่างอนาถ ก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่หล่นจากฟากฟ้า กลายเป็นหอกขนาดเล็กหลายร้อยเล่มล่วงลงสู่พื้นอย่างรวดเร็ว แผ่นดินไหวสั่นสะเทือนและแยกตัวออกจากกัน พายุทอร์นาโดพัดกระหน่ำกลืนกินสรรพสิ่งทุกอย่างที่ขวางหน้า ความมืดเริ่มปกคลุมดินแดนอย่างช้าๆ สายฟ้าเกรี้ยวกราดผ่าลงพื้นจนเป็นรอยแยกขนาดใหญ่ แสงสว่างเริ่มจางหายและเคลือบคลานออกไปอย่างช้าๆ

    สงครามของผู้มีพลังเวทย์มนต์เหนือมนุษย์ระหว่าง 3 เผ่าพันธุ์ ได้แก่ เผ่า Gravel (กราเวล) เผ่า Kerozon(เคโรซอน) และเผ่า Dark Evil(ดาร์ค อีวิล) เมื่อ LordFlosser(ลอร์ด ฟลอสเซอร์)ราชาของเหล่าจอมมารทั้งหลายต้องการจะครอบครองอาณาจักรทั้งสามเผ่าพันธุ์ และยึดดาวดวงนี้เป็นของตนเอง จึงยกทัพมาทำสงคราม 

    มีเพียงเหล่าผู้กล้าเท่านั้นที่จะหยุดสงครามนี้ได้ เหล่าผู้กล้าทั้ง ซึ่งแต่ละคนต่างมีพลังทั้งแปดหรือเรียกอีกอย่างได้ว่า Soul(โซล) แยกออกเป็นธาตุ 4 ธาตุ คือ ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุลม และธาตุไฟ แต่ยังมีอีก 4 พลัง ซึ่งไม่ได้จัดเป็นธาตุ มีพลังเหนือกว่าธาตุทั้ง 4 นั่นก็คือ แสง ความมืด สายฟ้า และเมนทอล(พลังจิต) ผู้ครอบครองพลังเมนทอลนั้นจัดว่าเป็นที่สุดหรือผู้อยู่เหนือของผู้มีพลังทั้งหลายเลยก็ว่าได้ เพราะเมนทอลนั้นเป็นการโจมตีที่มองไม่เห็นและศัตรูก็ไม่อาจจะรู้ตัวได้ทัน จึงถือได้ว่าเป็นพลังที่อยู่เหนือพลังธาตุและอันตรายที่สุดนั่นเอง

    เมื่อผู้กล้าเหาะขึ้นรวมตัวกันต่อหน้าเหล่าจอมมารทั้งหลาย ผู้คนก็รู้สึกดีใจและมีกำลังใจต่อสู้ขึ้นเป็นอย่างมาก เพราะนานๆ ปี จะมีผู้กล้ามาปรากฏตัวต่อหน้าพวกเขาครั้งหนึ่ง หลังจากนั้นก็ต้องซึมเศร้า อึ้งไปสักครู่หนึ่ง เพราะผู้กล้าอีกคนถูกพลังที่มองไม่เห็นล่วงลงสู่พื้นอย่างไม่น่าเชื่อ และเขาก็เป็นผู้ใช้พลังเมลทอลได้ดีที่สุดอีกด้วย

    “ แหะ แหะ แหะ ผู้กล้าอย่างนั้นเหรอช่างเปราะบางเสียจริงๆ “
               เสียงเยาะเย้ยของ 
    Lord Flosser(ลอร์ด ฟลอสเซอร์) ผู้นำทับของเหล่าพวกมารร้ายทั้งหลายได้เอ่ยขึ้น เสียงดังสนั่นราวกับเสียงฟ้าร้องโครมๆ

    เมื่อเหล่าผู้กล้าได้ฟังเช่นนี้แล้ว ทำให้โมโหอย่างมาก จึงระดมปล่อยพลังที่ตนควบคุมอยู่นั้นใส่ศัตรูอย่างไม่ยั้งมือ
    ทั้งพลังธาตุ สายฟ้า แสง ความมืด และเมนทอล การปะทะกันระหว่างเหล่าผู้กล้าและเหล่าจอมมารร้ายทำให้ดาวที่อาศัยแห่งนี้ได้รับความเสียหายมาก แผ่นดินเริ่มทรุดตัว น้ำแข็งกลายเป็นน้ำ สัตว์ป่าตายหมด เมืองที่อุดมสมบูรณ์ก็เหลือแต่ซากปลักหักพัง

    “ อื้ม! ถ้าเป็นแบบนี้ก็คงอยู่ที่นี่ไม่ได้ละ “
               เทพแห่งเวทย์มนต์ได้เอ่ยขึ้น พร้อมยกมือร่ายเวทย์ประตูมิติเพื่อที่จะข้ามไปอีกดาวดวงใหม่ หลังจากนั้นก็ให้ผู้พิทักษ์และชาวเมืองอพยพบกันออกไปก่อน เพื่อจะได้ไม่ต้องมาเสี่ยงชีวิตอยู่ที่นี่และจะได้จัดการกับจอมมารได้เสียที
               “ พวกเจ้าจงข้ามไปเถิด และจงจำไว้ว่าอย่าทำร้ายพวกมนุษย์โดยเด็ดขาด ที่นั่นเป็นดาวที่มีชื่อว่าดาวโลก พวกเขายังต้องเรียนรู้อีกหลายอย่าง พวกเจ้าจงนำวิทยาการของเราไปเผยแพร่ให้พวกพวกเขาเรียนรู้เสียเกิด “ เสียงสุดท้าย
    !

    “ ไม่นะ! ท่านเทพแห่งเวทย์มนต์ !!! “
               ประตูมิติกำลังปิดลงอย่างช้าๆ เหล่าพวกจอมมารต่างก็พากันเร่งรีบเข้าไปยังประตูมิติ เพราะดาวดวงนี้ใกล้จะระเบิดและไม่เหลืออะไรแล้ว ส่วนเหล่าผู้กล้ายังคงสู้ไม่ถอย ท่านเทพแห่งเวทย์มนต์จึงใช้พลังผลักพวกเขาเข้าไปยังประมิติ
    และได้เสียสละตนเองปล่อยพลังที่มีทั้งหมดเพื่อหยุดยัง ลอร์ด ฟลอสเซอร์

    “ โอ้...!!! ไม่นะ ไม่....!!! เมื่อถึงเวลานั้น ข้าจะกลับมายิ่งใหญ่ และครอบครองดาวทุกจักรวาลเลย เอื้อ...!!! 

               เสียงกรีดร้องและคำทิ้งท้ายของ ลอร์ด ฟลอสเซอร์ ก่อนที่แสงสีขาวจะสว่างจ้าไปทั่วทั้งดาวดวงนี้

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น